Wicha for surviving part1

กลับหน้า วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ


kananun 17-07-2006, 10:34 PM

วิชชาที่จะทำให้อยู่จากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ผมขอแบ่งออกเป็น 2ภาคครับ คือภาคของวิทยาศาสตร์และภาคของจิตครับ ต้องมองและพิจารณาสถานการณ์ทั้ง สองถึงสาม มิติครับ

ก่อนอื่นภัยพิบัติที่มวลมนุษยชาติจะต้องประสบในเวลานับจากนี้ก็คือ ภัยจากอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธทำลายล้างสูงประเภทเลเซอร์ติดตั้งอยู่บนดาวเทียมวงโคจรตำอีเรเดียม อาวุธบังคับสภาพภูมิอากาศโลกด้วยคลื่นเสียงภายใต้โครงการ H.A.R.P. ที่อาลาสก้า อาวุธบังคับคลื่นสมอง Mind Control ผ่านเครือข่าย โทรศัพท์มือถือ 3 g(เป็นสาเหตุ ของการควบรวมและซื้อคืนธุรกิจสื่อสารท้องถิ่นทั่วโลกกลับมาเป็นของ...) รวมไปถึงอาวุธเคมี และชีวภาพที่กลายพันธ์จน ผู้สร้างก็ไม่อาจควบคุมได้ครับ

สำหรับอาวุธนิวเคลียร์นั้นประเทศไทยอาจจะไม่ถูกโจมตีโดยตรงแต่จะถูกผลกระทบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จากละอองกัมมันตภาพรังสีฟุ้งกระจายจนปกคลุมชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งเป็นที่มาของคำนายที่ว่าโลกจะมืดมิดไป 3 - 7 วันและผลของมันทำให้คนตื่นตะหนกจากความกลัว และล้มตายลงจากผลของรังสีและความหนาวเหน็บจากการบดบังแสงแดดจากละอองกัมมันตภาพรังสี ไม่นับรวมพายุความเร็วสูงจากจุดศูนย์กลางของการระเบิดทำให้เกิดพายุรุนแรง การเปลี่ยนแปลงทางธรณีพิบัติเช่นแผ่นดินไหว คลื่นซึนามิ อันเป็นสาเหตุของคำทำนายที่ว่า ภาคใต้จะหายไปและนำจะท่วมสูงจนถึงสระบุรี และElctromacneticpluse ที่จะทำให้อุปกรณ์อีเล็คทรอนิคที่เปิดใช้งานอยู่ในขณะนั้นชำรุด ความรู้ทางวิทยาสตร์ที่จะช่วยตรงนี้ได้ก็คือ

1. EM.ซึ่งจะใช้ชำระร่างกายและบาดแผล ทำความสะอาดที่พักอาศัย

2. สาหร่ายเกลียวทอง ใช้แทนอาหาร และช่วยดูดซึมและขับ กัมมันตภาพรังสีจากร่างกาย มีการใช้กันเมื่อสมัยเชอโนบิลระเบิดโดยนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นซึ่งได้ผลดี

3.Biospectrum เป็นงานวิจัยด้านลมปราณของจีนถึงการแผ่รังสีของคนที่ฝึกลมปราณ ออกมาเป็นคลื่นความถี่แสง
และพบว่าคลื่นนี้เป็น เนกาทีพกันคลื่นกัมมันตภาพรังสี คือหักล้างกันพอดี นั่นคือคลื่นไบโอสเปคตรัมจะเสริมพลังชีวิตและลมปราณ แต่สลายรังสีนิวเคลียร์ แต่ยังมีการฝึกลมปราณทดแทนได้ ซึ่งจะนำเสนอในภาคต่อไป
สามเทคโนโลยี่นี้เป็นเรื่องแปลกที่เป็นโครงการที่ผู้ทำงานรับใช้ในหลวงท่านได้ดำเนินการอยู่

4. KI 6 เป็นสารสลายกัมมันตภาพรังสีที่เป็นเหมือนยาที่ USFDA. รับรอง โดยเด็กอายุตำกว่า 19 ปีที่ถูกรังสีจะมีผลกระทบให้มีอาการดาวน์ซินโดรม นั่นคือเอ๋อนั่นเอง จำเป็นต้องรับสารนี้เพื่อสลายพิษจากรังสี หาข้อมูลเพิ่มเติมได้โดย ค้นจากกูเกิลได้ครับ ส่วนสารที่เราจะใช้ทดแทนก็คือ ด่างทับทิม นี่ละครับอย่างที่ อ. ปริญญา ตันสกุลท่านได้แนะนำไว้ และเป็นอีกสาเหตุที่คำทำนายบอกว่าจะมีคนเสียสติมากมาย

5. นำดื่มควรใช้แหล่งนำใต้ดินนำมากรองและเจือด่างทับทิมเล็กน้อย ห้ามดื่มนำจากผิวดินเด็ดขาด นั่นคือที่คำทำนายบอกว่านำจะกลายเป็นสีดำนั่นเอง

6.ระบบกรองอากาศและหน้ากากกันฝุ่นกัมมันตภาพอย่างง่ายก็คือแผ่นกรองตู้ปลาสีขาว สลับกับแผ่นถ่านคาร์บอนกัมมันต์ ปิดช่องลมช่องอากาศ

7.การทำสมาธิ และถือศีลกินเจจากผักที่แช่ด่างทับทิม สมาธิจะช่วยลดระดับเมตาโบลิซึ่มให้ลดตำลงเพื่อสงวนพลังงานไว้ใช้ในยามคับขัน ศีลจะช่วยในจิตสงบและมีสติ เจริญพรหมวิหารสี่จะเป็นเครื่องคุ้มภัยได้ทุกๆอย่าง

8.แหล่งพลังงานชั่วคราวใช้ จักรยาน ถอดยางล้อหลังออก เอายางในที่เสียแล้วตัดมาต่อกัน 3เส้นมาต่อปั่นกับ ไดชาร์จ ของรถยนต์ที่ถอดออกมาจากรถ ผู้มีความรู้ด้านช่างน่าจะพอเข้าใจ

9.ระบบสื่อสารใช้ วิทยุสื่อสารชัวร์สุด มือถือล่มชัวร์ จุดที่หลบภัยควรมีสถานีวิทยุชุมชนเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร ข้อแนะนำ

10.อาหารแห้งกินได้เลยไม่ต้องหุงหาดีที่สุด เช่น อาหารแท่ง Powerbar

11...
ดึกแล้วพรุ่งนี้มาพิมพ์ต่อแล้วกันครับ(verygood)


sindea 18-07-2006, 03:43 AM

ระบบ 3 G ก็เป็นระบบใหญ่อีกระบบนึงใน sweden ซึ่งดิฉันก็ใช้อยู่
เคยเล่าให้แฟนฟังเรื่องภัยพิบัติ เค้าก็เชื่อนะ เพราะเราชอบเล่าความฝันให้ฟังบ่อยๆ และเห็นอะไรเปลี่ยนแปลงเองตามลำดับ


Nirvana 18-07-2006, 09:12 AM

คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณศีล คุณทาน คุณครูบาอาจารย์ คุณบิดรมารดา คุณพระไตรสิกขา เท่านั้นแหละครับที่จะปกป้องภัยพิบัติได้
อย่าไปหวังพึ่งสิ่งอื่นใดเลยครับ


mead 18-07-2006, 09:23 AM

ในเรื่อง"อาหารแห้ง"นี่นอกจากบะหมี่จำพวกม่าม่า อาหารเจ ซึ่งต้องต้มน้ำแล้ว ควรมี"ผลไม้แห้ง"หรืออะไรก็ได้ที่ทานได้ทันที เช่นลูกเกดอบแห้ง เก็บได้นานและสามารถทานได้ทันที หรือพวกมันสำปะหลัง หรือมันแกวจิ้มนำตาล ที่คนเวียดนามใช้ทานตอนอยู่ในสงครามเป็นเวลานานๆ จนชนะสงครามมาแล้ว...ที่สำคัญไม่ควรทานเนื้อสัตว์เลยยิ่งดีครับ เพราะสารกำมันตรังสีจะมีผลรุนแรงกับร่างกาย มากกว่าการทานผักหลายเท่า...

และเรื่องระบบการขับถ่ายก็สำคัญ (ระบบน้ำประปาไม่ไหล) ควรมีภาชนะหรือถุงพลาสติกรองรับ มัดให้แน่นให้เป็นที่เป็นทางครับ ให้มีสุขอนามัยไม่งั้นเกิดโรคระบาดภายในบ้านได้ครับ...


สายชน 18-07-2006, 09:44 AM

การป้องกันรังสีความร้อนหรือกัมมันภาพรังสีแม่ธรณีนี้แหละช่วยได้ขุดลงไปทำหลุมลึกประมาณ 1.50 เมตร ใช้แผ่นกระดานหรือเหล็กโค้งสามารถป้องกันรังสีความร้อนได้เหมือนหลุมบังเกอร์ทหาร


mead 18-07-2006, 09:51 AM

วันที่ทรมานที่สุด จะมีสองช่วงคือ

ช่วงที่หนึ่ง ระหว่างวันที่ 24,25,26 ของช่วง "เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้า" เพราะช่วงนั้นอาหารที่สะสมไว้จะเริ่มหมด คนที่กินเจจะอดทนต่อความหนาวเหน็บ ส่วนคนที่กินเนื้อสัตว์จะทรมานมาก

ช่วงที่สอง ระหว่างวันที่ 50-70 เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายจะถูกเคลือบด้วยพิษของกัมมันตภาพรังสี สภาพแวดล้อมพังทลาย ต้นไม้ล้มโค่นเกือบหมด ซากมนุษย์เกลื่อนกลาด หลังจากมหัตภัยกวาดล้างโลกนี้กลายสภาพเป็นตมไปแล้ว
จะเหลือแต่"พระอรหันต์เดินดินไม่กินเนื้อสัตว์"


bridge 18-07-2006, 11:30 AM

อย่างนี้ก็ยังแย่อยู่ถึงแม้ว่าจะได้รับการเตือนแล้ว
เพราะเราไม่สามารถไปตระเตรียมและกักตุนอะไรได้
มีหวังคนรอบข้างหาว่าบ้าแน่ๆ
และอีกอย่าง ไม่รู้ว่าเหตุการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่หนะสิ!


kananun 18-07-2006, 04:04 PM

11. บ้านดินครับในกรณีที่ไม่สามารถเตรียมที่พักอาศัยล่วงหน้าได้ รวมทั้งหลุมดินบังเกอร์แต่ต้องระวังเรื่องนำท่วมครับ www.baandin.com (http://www.baandin.com) ส่วนเทคนิคอื่นเพิ่มเติมคือการใช้กระปํองอลูมิเนียมเปล่าๆก่อร่วมกับผนังบ้านดิน โดยตัวเนื้ออลูมิเนียมจะช่วยกันรังสีได้บ้างเล็กน้อย ส่วนอากาศในกระป๋องจะช่วยเป็นฉนวนได้ เคล็ดลับอยู่ที่อุดปากกระป๋องด้วยเทปกาวและหันเข้ามาในบ้านครับ ส่วนหลังคาใช้ฉนวนอลูมินัมฟรอยย์ครับ


12.ถ้ามีทุนเพิ่มก่อสร้างที่พักเป็น ดินจากอิฐประสานวท.ครับ ผมมี vcd วิธีก่อสร้าง ติดต่อมาได้ครับ ข้อดีคือแข็งแรงค่อนข้างมากครับทนความเร็วลมระดับพายุได้สบาย


13.ผ้าห่มกันนิวเคลียร์วินเทอร์ใช้เอง โดยใช้ผ้าผืนใหญ่ ยัดไส้สลับแซนวิช กับแผ่นอลูมินัมฟรอยย์อย่างบางที่เป็นถุงขนม แล้วเวลามีม็อบแม่ค้าเค้าจะมาขายไว้ใช้รองนั่งครับ มาแผ่และประกบด้วยใยไฟเบอร์กรองตู้ปลาสลับไปมาประมาณ 3 ชั้นครับถ้าจะให้เยี่ยมเสริมแผ่นฟอยย์ทำอาหารอีก ซัก 3ชั้นจะช่วยกัน รังสีได้อีกหน่อยครับ และแนวคิดนี้ใช้นำมาโมดิฟายถุงนอนได้เช่นกันครับ


14.เลือกใช้นาฬิการะบบออโต้เมติคจะใช้งานได้แน่นอนและรับผลกระทบจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าน้อยกว่าครับ รวมถึงเข็มทิศธรรมดาอาจใช้การดีกว่า GPS ;รวมทั้งควรใช้การสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารแน่นอนที่สุดครับ


15. หาความรู้ด้านยาสมุนไพรไว้บ้างครับโดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัว เพราะยาแผนปัจจุบันหายากแน่นอน


16. หาวิตามิน รวม และ Vit C ไว้ด้วยครับอันนี้เห็นในเวปเมืองนอก แนะนำไว้เพื่อรักษาระดับภูมิคุ้มกันร่างกาย ถ้าไม่มีหามะขามป้อมแทนครับ


17.การเตรียมข้าวของมีเคล็ดลับง่ายๆครับ คือเก็บอย่างมด ค่อยๆรวบรวมทีละน้อยสะสมไปเรื่อยๆไม่โหลดกระเป๋าตังค์ครับ และไม่ต้องคิดมากอะไร ถ้าไม่เกิดเราก็มีอุปกรณ์แคมปิง ส่วนมาม่าก็เก็บไว้กินตอนปลายๆเดือนไงครับ


18.ฝึกฝนให้ร่างกายแข็งแรง แข็งแกร่ง โดยผมแนะนำให้ฝึกทั้ง แอโรบิค และอนาโรบิคครับ คือจำเป็นมากที่ต้องยกเวทเพื่อเพิ่มกล้ามเนื่อด้วย ผมแนะนำให้เข้าเวปนี้ครับ www.bodyforlife.com (http://www.bodyforlife.com) เพราะบิลเป็น Personaltrainer ชั้นเยี่ยมให้ดาราชั้นนำของโลกครับ เป็นทางลัดในการปรับปรุงร่างกายของเราให้แข็งแกร่งใน เวลาอันสั้น ร่างกายแข็งแรงมีผลกับการฝึกสมาธิครับ


19. ฝึกขี่จักรยานและใช้จักรยานในชีวิตประจำวันบ้างครับ นอกจากจะเพิ่มความอึดและแข็งแกร่งแล้วยังประหยัดค่ารถด้วยครับ อีกอย่างหนึ่งการขี่จักรยานยังเป็นกีฬาที่ ยูริ เกลเลอร์ผู้มีพลังจิตเลือกใช้ออกกำลังกายครับ เหตุผลง่ายๆก็คือการขี่จักรยานมีการเคลื่อนไหวเป็นวงกลม ซึ่งสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของจักรวาลครับ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะช่วยเพิ่มความเข้มแข็งกับควมเชื่อมั่นครับ


20.เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอครับ ทุกเวลานาที และสนุกกับมัน อย่าให้มีความกลัวในจิตใจของเรา จงจำไว้ว่าความกลัวเกิดจากความไม่รู้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ถ้าคุณรู้ว่าภัยพิบัติเกิดอย่างไร และจะรับมือกับมันอย่างไร ควรเตรียมตัวอย่างไร ข้อมูลที่ผมและเพื่อนๆอีกหลายคนช่วยกันบอกคุณเมื่อถึงเวลานั้นคุณอาจจะได้ใชและอยู่รอดจากภัยพิบัติไปได้ครับ


kananun 18-07-2006, 04:58 PM

ต่อไปผมจะเริ่มให้ข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์ทางจิตที่อีกหลายๆคนจะนำไปใช้และฝึกฝนเพื่อที่จะใช้ช่วยตัวเองและผู้อื่น ก่อนอื่นผมขอบอกไว้ก่อนว่าวิชาและอภิญญาสมาบัติที่ผมจะแนะนำนั้น ผมเรียนรู้จากวิชามโนมยิทธิครับ

รวมกับวิชาที่ผมได้ศึกษามาอีกหลายสายครับรวมทั้งสายอาจารย์ในดง และธรรมกายสายวัดปากนำ วัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกท่านที่สนใจและต้องการเรียนรู้ได้นำไปใช้ปกป้องตนเองและครอบครัวและใช้รักษาช่วยเหลือผู้อื่นให้ปลอดภัยทั้งกายและจิต ครับ วิชาและข้อมูลต่างๆเหล่านี้ ผมเป็นเพียงผู้ส่งมอบ เป็นหน้าที่ๆผมต้องทำเพื่อบำเพ็ญบารมีครับแต่ ความวิเศษ และศักดิ์สิทธิ์เป็นเพราะพุทธานุภาพของพระเบื้องบนครับ เป็นหน้าที่ที่ผมจะช่วยติดอาวุธให้หมู่เพื่อนพุทธภูมิครับไว้บำเพ็ญบารมีครับ
ก่อนอื่นขอระดับหน้าที่ของผู้รับไว้ดังนี้ครับ

รับได้ในระดับที่จะช่วยให้ตนเองไปสู่ภพภูมิที่ดี
รับได้ในระดับที่จะใช้ปกป้องคุ้มครองตนเองให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติและเป็นพุทธบริษัทช่วยสืบต่อพระพุทธศาสนาต่อไป

รับได้ในระดับที่จะใช้ปกป้องคุ้มครองตนเองและครอบครัวบริวารให้ปลอดภัย และเป็นการสืบสกุลสัมมาทิฐฐิ รักษาพระพุทธศาสนาต่อไป

รับได้ในระดับพุทธภูมิผู้ตั้งความปรารถนาบำเพ็ญบารมีสืบต่ออายุพระศาสานาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยการอธิฐานลงมาเกิดในมิกสันญียุคนี้เพื่อช่วยมวลหมู่สรรพสัตว์ เพื่อสร้างบารมีครับ

ใครจะรับได้มากแค่ไหนขึ้นกับฟ้าและบุพเพกตบุญญตาครับ
ต่อไปเป็นระดับสมาธิในปัจจุบันครับซึ่งไม่แน่ บางคนเริ่มที่ระดับตำแต่ อาจจะทะลุระดับพรวดพราดขึ้นไปอย่างง่ายๆก็ได้ครับ บางคนอาจอยู่ระดับสูงแต่ยำอยู่กับที่ครับ

1.มีจิตใจใฝ่ความดี ชอบทำบุญแต่ทำสมาธิไม่เป็น ศีลรักษาได้บางข้อ

2.ตั้งใจรักษาศีล ทำสมาธิได้บ้าง แต่ไม่ค่อยนิ่ง

3.ทำบุญ รักษาศีลได้ ทำสมาธิได้ดี นั่งได้นานๆ แต่เสวยแต่สุขจากสมาธิ ไม่สามารถนำพลังจากสมาธิไปใช้ประโยชน์ได้

4.นำพลังสมาธิไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง เช่นอธิฐานง่ายๆ รักษาโรคให้ผู้อื่น แต่ยังไม่มีญานทัศนะ

5. มีสมาธิ ญานทัศนะและสามารถใช้พลังสมาธิทำประโยชน์ได้

6. มีสมาธิ ญานทัศนะ วิปัสนาเต็มที่ ได้อภิญญาสมาบัติ

7. มีสมาธิ ญานทัศนะ วิปัสนาเต็มที่ ได้อภิญญาสมาบัติ มีกำลังใจเป็นพระอริยโพธิสัตว์สมบูรณ์ ครับ

ในขณะที่ถ่ายทอดนี้ผมก็เรียนรู้ไปพร้อมกับทุกๆคนด้วยครับ


ศิษกวนอู 18-07-2006, 06:21 PM

อืมครับ เรียงลำดับได้ดีครับ่
แต่เรื่องภัยพิบัติต่างๆ นี่จะเกิดเมื่อไหร่นี่รู้เปล่าครับ


kananun 18-07-2006, 06:58 PM

คุณศิษย์กวนอูครับ ระยะเวลาน่าจะเป็นภายในไม่เกิน 2 ปีนี้ครับ และถ้ามีการใช้อาวุธนิวเคลียร์เมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ก็จะเหลือเวลาในการอพยพ ไม่เกิน 3เดือนครับ ส่วนสถานะการณ์ปัจุบัน ณ วันนี้ ถ้าอิสราเอลโจมตีซีเรีย และอิหร่าน ก็เตรียมตัวกลายเป็นสงครามศาสนาได้เลยครับ ส่วนคนไทยที่อยู่ ต่างประเทศ ถ้าประเทศฝรั่งเศสถูกโจมดี หลวงพ่อท่านได้บอกว่าให้รีบกลับเมืองไทยได้เลยครับ


kananun 18-07-2006, 07:51 PM

ผมเองถึงรู้ว่ามีหน้าที่ที่ต้องช่วยคนและฟื้นฟูบ้านเมืองในภายหลังสงคราม ยังไม่กล้าประมาท ต้องเตรียมตัวตายไว้ก่อน โดยขอถ่ายทอดความรู้ที่พระท่านได้เมตตามาบอกมาสอนทั้งที่มีกายเนื้อและไม่มีกายเนื้อ ให้กับท่านทั้งหลายที่รอดชีวิตและจะช่วยคำจุน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์สืบไปครับ

ต่อไปขอให้ท่านทั้งหลายลองถามใจตัวเองดูดังต่อไปนี้ครับ
เชื่อในสวรรค์ นรกหรือไม่
เชื่อใน กรรม ผลของกรรม บาปบุญ คุณโทษหรือไม่
เชื่อในคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ว่ามีจริงหรือไม่
เชื่อในพระคุณ พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ ประสาทวิชาหรือไม่
เชื่อในผลของการปฏิบัติและมรรคผลนิพพานหรือไม่
หากแม้นมีความลังเลสงสัยไม่เชื่อข้อใดข้อหนึ่ง ไม่อยู่ในวิสัยที่จะปฏิบัติได้เนื่องจากเป็นข้อกำหนดมีแรงครูกำกับอยู่ ส่วนผู้ที่ไม่มีความสงสัยในทุกข้อ ผมขอแสดงความยินดีด้วย ที่ท่านนั้นเป็นผู้มีสัมมาทิษฐิ และขอโมทนาให้ท่านได้อธิฐานรักษาไว้ให้ได้ทุกชาติตราบเข้าสู่พระนิพพานครับ

ส่วนท่านที่ยังสงสัยอยู่ ไม่ต้องตกใจครับ ศึกษาธรรมะให้มากๆขึ้นก็ จะเข้าใจและหมดสงสัยในสัมมาทิษฐิเองครับ เหตุผลที่ให้เช็คตรงนี้เพื่อให้ทุกท่านตั้งเข็มทิศให้ตรงตั้งแต่ต้นครับ เพราะพระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้า รวมทั้งพระโพธิสัตว์ท่าน สอนให้คนไปนิพพาน พรหม สวรรค์ เข้าถึงไตรสรณคมถ์และเป็นสัมมาทิษฐิครับ และเมื่อหมดสงสัยแล้วก็กลับมาศึกษาต่อได้ครับ
สำหรับท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ นั้น ผมขอถามคำถามพิเศษอีกข้อครับ ว่า

ท่านปรารถนาพุทธภูมิเพราะอะไรครับ เพราะจะได้เป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุดทั้งไตรภพ หรือปรารถนาเรียบง่ายแค่ต้องการช่วยสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากวัฏสงสาร ถ้าท่านปรารถนาในข้อแรก ผมขออนุญาตเตือนท่านว่า มีจิตใจที่ดีแต่ท่านวางกำลังใจไว้ผิด ที่ทราบเพราะผมเคยผิดมาแล้ว และเพื่อนพุทธภูมิของผมหลายคนก็พลาดตรงนี้และถูกมารครอบงำจิตใจจนกลายเป็นมิจฉาทิษฐิ โดยเอาความอิจฉาริษยามาเป็นเครื่องล่อให้อิจฉาพุทธภูมิผู้บารมีสูงกว่าตนเอง เป็นความเข้าใจผิดเช่นเดียวกับพญามาราธิราชที่มีต่อพระพุทธองค์ นี้เป็นประการที่ หนึ่ง ส่วนประการที่สองเมื่อท่านปรารถนาพุทธภูมิเพื่อตนเองท่านจะเหนื่อยในการสร้างบารมี และขอลาพุทธภูมิไปในที่สุด

สำหรับท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิเพื่อช่วยโปรดสรรพสัตว์ให้พ้นห้วงแห่งความทุกข์แล้ว ทุกครั้งที่ท่านได้โปรดสรรพสัตว์ทุกๆครั้งความปิติอิ่มเอมใจจากพรหมวิหารสี่จะเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงใจของท่านให้มีกำลังใจในการสร้างบารมีในครั้งต่อๆไปให้ยิ่งขึ้นไปอีก มิติเวลาในชาติของการเป็นมนุษย์นั้นอาจยากลำบากและ ยาวนาน แต่ในมิติเวลาของความเป็นทิพย์นั้นแค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น ดังนั้นพรหมวิหารสี่นี้เป็นอาวุธและเครื่องมือในการสร้างบารมี ไม่ใช่อภิญญา แต่อภิญญาเป็นผลแห่งการเจริญพรหมวิหารสี่จนถึงที่สุดและอธิฐานนั้นเอง ผมขอโมทนาในพระโพธิสัตว์ผู้ตั้งจิตไว้ดีแล้วโดยประการฉะนี้ครับ


kananun 18-07-2006, 09:26 PM

เอาละครับเมื่อเรา ได้ผู้มีสัมมาทิษฐิ และผู้ปรารถนาพุทธภูมิผู้วางกำลังใจไว้ดีแล้วต่อไปเรามาไหว้ครูกันก่อนครับ เตรียมอุปกรณ์ดังนี้ครับ ดอกไม้ 3สี ธูปเทียน เงิน 9 บาท ว่า นะโม 3จบครับ วางอารมณ์ใจว่า ขณะนี้ ข้าพเจ้า มีศีลบริสุทธ์ ไม่ได้ฆ่าสัตว์ ไม่ได้ลักทรัพย์ ไม่ได้ประพฤติผิดในกาม ไม่ได้พูดปด ไม่ได้ดื่มสุรา ศีลห้าของข้าพเจ้าบริสุทธ์ ข้าพเจ้าขอตั้งจิตเรียนวิชานี้ด้วยจิตเมตตาเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลก พรหมวิหารสี่ข้าพเจ้าพร้อมบริบูรณ์ ข้าพเจ้าขอน้อมจิตยึดถือไตรสรณคมถ์เป็นที่พึ่งที่อาศัยตลอดชีวิต ตราบเท่าเข้าสู่นิพพาน จากนั้น เปิดซีดีคำสมาทานพระกรรมฐานของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ซึ่งหาได้จากเวปนี้ครับ จากนั้นตั้งจิตอธิฐานต่อไปว่า
" ข้าพเจ้าขอตั้งจิตเรียนวิชานี้เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ และบำเพ็ญบารมี ด้วยความจริงใจ หากแม้นข้าพเจ้ามีจิตคิดร้ายนำวิชาไปใช้ในทางที่ผิดต่อ ชาติ ศาสนา พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ผู้ประสิทธิประสาทวิชาแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าอย่าได้เรียนวิชานี้สำเร็จ ถึงสำเร็จก็ขอให้วิชาที่ได้มาถูกส่งกลับคืนไปจนหมดสิ้นเมื่อข้าพเจ้าผิดสัจจะ แต่หากข้าพเจ้าใช้วิชาในทางที่ถูกที่ควรขอให้ข้าพเจ้าจงเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ "
ส่วนดอกไม้ ธูปเทียน ให้นำไปบูชาพระ และนำเงินบูชาครูไปทำบุญใส่บาตร หากไม่มีดอกไม้ธูปเทียน เงินบูชาครู และการขึ้นครูตอนนี้ให้ รีบทำภายใน สามวัน หากพ้นจาก สามวัน ไม่บูชาครูแล้วมีอาการเจ็บป่วยให้รีบ ขอขมาพระรัตนไตร บูชาครู และใส่บาตร แล้วจะหายจากอาการป่วย
เหตุผลที่ให้มีการไหว้ครูเพราะ หนึ่งคือ พระท่านสั่งลงมาให้ทำ สองเป็นเครื่องแสดงความยอมรับนับถือ ให้แรงครูผู้ประสิทธิประสาทวิชาสืบต่อกันมาทั้งที่มีกายเนื้อ และไม่มีกายเนื้อส่งลงมาคุ้มครองศิษย์ได้ สามเพื่อความเจริญรุ่งเรืองในวิชาและชีวิตของศิษย์นั่นเอง ถึงตัวผมเองก็ต้องทำเช่นกัน พร้อมๆกันกับทุกท่าน เพราะมีวิชาที่เบื้องบนประสิทธิประสาทมาให้พร้อมกันไปด้วยครับ


countdown 18-07-2006, 10:01 PM

ใช่ครับเราก็ซื้อมาตุนไว้ก่อน ครัยจะว่าบ้าก็ช่าง


sindea 18-07-2006, 10:26 PM

ถ้าไม่มีพระให้ทำบุญตักบาตร จะต้องทำยังไงคะ
วันนี้ไปช้อปปิ้งมาก็ซื้อของเตรียมไว้สะสมไว้เรื่อยๆ บางอย่างก็ไม่มีที่นี่ ก็ต้องรอซื้อที่เมืองไทยแต่ไม่รู้จะทันรึเปล่า..
แล้วคุณยุทธนากลับถึงเมืองไทยรึยังน้อ ไปเที่ยวอิตาลี่ กับ สวีเดนมา สนุกมั้ยคะ...


0samabinrau| 18-07-2006, 11:05 PM

ฟังหูไว้หูคับ แต่ว่า สถานการณ์โลกตอนนี้ก้อชักยังไงๆอยู่ -*-


เกษม 18-07-2006, 11:39 PM

คำทำนายจากพระอาจารย์.......

มหาสงครามจะเกิดขึ้นที่ตะวันออกกลาง ประเทศมหาอำนาจจะตายด้วยอาวุธเชื้อโรค อิสราเอลจะถูกระเบิดนิวเคลียร์ทำลาย มหาอำนาจจะใช้อาวุธด้วยเทคโนโลยีที่สูงกว่านิวเคลียร์ในการหยุดสงคราม

ท่านพระอาจารย์ไม่เคยเอ่ยถึงวันเวลาที่จะเกิดขึ้น รู้แต่ว่าสิ่งที่ท่านกล่าวให้ฟังที่จำได้ชัดเจนนั้นก็คือ ประเทศอิสราเอลจะถูกระเบิดด้วยนิวเคลียร์ และหลังจากนั้นภายใน 7 วัน แต่ไม่ทราบว่าวันไหน จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นทั่วโลก

ที่มา http://www.geocities.com/buddhatatum/index.htm (http://www.geocities.com/buddhatatum/index.htm)

หมายเหตุ จากคำทำนายนี้พอจะทราบได้ว่า เวลาแห่งภัยพิบัติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นหลังจากประเทศอิสราเอลถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ และภายใน 7 วัน ซึ่งเมื่อเราได้ทราบข่าวเรื่องระเบิดนิวเคลียร์นี้แล้ว ก็เตรียมหาที่หลบภัยให้ได้ภายใน 7 วัน เพราะแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นั้นจะนานถึง 8-9 ชั่วโมงทำให้แผ่นทวีปแยกออกจากกัน และบางส่วนทรุดจมลงไปในทะเลเกิดเป็นหายนะครั้งใหญ่


สายชน 19-07-2006, 08:46 AM

แอบเก็บก็ได้ครับกลยุทธนี้ผมก็ใช้อยู่คือเก็บอาหารกระป๋อง อาหารแห้ง พวกที่อยู่ได้นาน เก็บสะสมหนังสือ เอาไว้ในห้องตัวเองก่อนปลูกต้นไม้เราไม่ต้องบอกใครก็ทำของเราไปเรื่อยๆ


หนุมาน ผู้นำสาร 19-07-2006, 09:07 AM

ชะตาฟ้าลิขิต
"ครึ่งทาง"
ยามสิบหกครึ่งสามสิบสอง ถึงครรลองกึ่งพุทธกาล ธรรมเที่ยงหมอกบดบัง จำมีผู้สืบทอดต่อไป
โลกนี้แสนน่าอนาทร คำสอนท่านกลับสูญหาย ต่างหลงต่างงมงาย ทำจนตายบ่ได้ธรรม
โลกุตตระมาปรากฏ พระไตรปิฎกมาสอนธรรม หาผู้อ้างอิงธรรม เป็นหลักฐานสู่จักรวาล
"การมา"
ปรากฏเป็นหญิงจน แสนรันทดหมดไทยมา ต้อนรับสิ่งล้ำค่า เมี้ยนดั่งว่าขี้ริ้วห่อทอง
ผู้รู้ละถิ่นฐาน ละสังขารสู่เมืองทอง เกิดเป็นหลาน ชายเนื้อน้อง สอนธรรมเที่ยงแต่นั้นมา
ภาระพระไตรปิฎก อุ้มชูรกหลานน้อยมา เจริญจันทร์สุดเลิศหล้า หมั่นพิจารณาสัจจะธรรม
"การไป"
โอ้ชะตาฟ้าลิขิต จุดวิกฤติที่ผู้นำ หากเชื่อสัจจะธรรม นำชนก้าวเหนือโลกา
เวรหนอกรรมคนไทย ไร้น้ำใจไร้ปัญญา ของดีมิรู้ค่า ไสส่งไพรไกลธุดงค์
การกระทำผองชาวไทย ค้าขายพระหน้าตาเฉย ศาสดาท่านกล่าวเคย เลยทำลายศาสนาตน
เวลาผ่านเลยล่วง ชนทั้งปวงติดบ่วงมาร หามีชั้นผู้นำชน สนใจสิ่งเที่ยงแท้เอย
แม่พระธรณีชวนหญิง หาคนใดสนใจท่าน ถึงกาลที่ควรกลับ ละสังขารจากหลายชาย
"บ้านเมือง"
รวยล้ำค้ำเหลิงอำนาจ ดูดทรัพย์ราษฎร์ท้องแผ่นดิน กอบโกยขูดหมดสิ้น ผลักหนี้สินท่วมประชา
หลากหลายในสังคม บ่ชื่นชมเหนือหัวข้า ขัดแย้งรุนแรงกล้า ก้าวร้าวทั่วมั่วลายงา
เหล่าทหารเสียหน้าก่อการ ทรยศสัตย์ปฏิญาณให้ไว้ บ้านเมืองลุกโหมเป็นไฟ จากคิดใหญ่พวกอยากนำ
สุดสับสนสุดอลม่าน วิ่งหนีพาลหลบเลี่ยงภัย วงศาไม่อาจไป จำกล้ำกลืนแต่น้ำตา
ปากดีประสงค์ร้าย ทำลายขาดราชพลัง ทุกข์ตรมสุดสิ้นหวัง เหมือนเปรียบดังเทพนิยาย
เกิดสู้อย่างไร้สมอง ทหารแลมองอ่อนกำลัง ข้างบ้านวาจาดัง ทลายรั้วทวงที่ดิน
ขวานทองดั่งมะพร้าว ชนกลุ่มพาลแบ่งแยกกิน ด้ามขวานสูญเสียสิ้น จากนั้นกินรอบทิศทาง
คนนำคือคนร้าย แอบทำลายเมืองโสภา มหันต์ภัยไสสู่ฟ้า ข้ามแพงมาลงกลางใจ
เมืองอมรหลอมละลาย สมดั่งใจท่านประธาน ลวงคนทั่วแดนหล้า ให้หลงตามความคิดตน
"คำเตือน"
เคยนิมิตนั่งเรือน้อย ใบผุคล้อยลอยกลางทะเล จิตใจแสนว้าเหว่ แลเห็นฝั่งคงรอดตาย
ผู้เจริญทำได้นัก บอกเตือนทักอย่าเข้าฝั่ง กล่าวขึ้นถึงสามครั้ง ยังดื้อมั่นในใจตน
พาเรือน้อยเทียบขึ้นฝั่ง ไม่นานนักพักบ่คลาย บ่หายเหนื่อยทันไร อินทรีย์ไกลโฉบจับลับตา
ชะตาฟ้ากำหนด เดินทางคดรอดเลี้ยวยาก ประชาหลงมนต์ยักษ์ น้อยคนนักรู้แจ้งธรรม
"โลก"
ดินฟ้าเป็นพยาน ศาสดากล่าวขานไว้ ครบห้าพันปีไซร้ จึงสิ้นสุดพุทธกาล
แม่พระปฐพีผืนดิน ทำลายสิ้นแหล่งเคยพาล เปลือกโลกขยับพล่าน จมบาดาลเกินคำทำนาย
แม่พระดูแลน้ำ ร่วมสมเข้าพระแม่ลม ก่อคลื่นกวาดถลาโถม พัดใส่เจ้ามิรู้กรรม
มนุษย์คิดครองโลก โศกมหันต์วิ่งหนีกรรม กว่ารู้สัจจะธรรม กรรมเกลื่อนกลบภพทรพี


"แก้หนึ่งเดียว"
อาทิตย์เริ่มปรากฏ สุดรันทดคนไร้ธรรม ความดีผู้เคยทำ มีผลนำสิ่งตอบแทน
เหล่าประธานบ่ดีสิ้นท่า ไร้ใบหน้าไร้ดินถม ประชาด่าระงม เยี่ยงซากถมข้างหนทาง
ทางแก้คือธรรมะ พึ่งโลกุตตระและสัจจะธรรม เมืองชาติจักพ้นกรรม จากไททำเมื่อวันวาน
"ฟ้าใหม่"
เหมือนกบในถ้ำมืด เห็นแสงนวลคิดจันทรา หลงไหว้หลายเพลา กว่าจะรู้รูกระบอกแสงลอดกะลา
หลุดสู่โลกความจริง สลัดทิ้งสิ่งสั่งสม มองเห็นกลดธุดงค์ ทำได้จริงดั่งวาจา
ผู้นำคือความเที่ยง พาก้าวเลี่ยงสิ่งเคยพาล ก้าวทั่วถิ่นแดนราช ก้าวพ้นผ่านพันธะกรรม
สัจจะ ตัวกระทำปรากฏ แสงจันทร์จรดปวงดวงประชา คิดดั่งเดิมเจริญแจ่มหล้า น้อมรับพาสู่บัลลังก์
"พยายาม"
หนุมานก่อกำเนิด เกิดจากลมลูกพระพาย ปฏิญาณว่าจงรัก จะพิทักษ์กษัตรา
พระพายเคยสอนข้า เจ้าจงรักชายนามใน หลวงมีพระคุณยิ่ง มอบทุกสิ่งจริงเป็นตน
หนึ่งสลึงมีคุณค่า ที่บนลานใบหน้าคน เจ้าจงเดินตามตน คอยขจัดหนามแผ่นดิน
รู้เห็นความย่อยยับ จักคืบคลานสู่มหินทรา เห็นกาลไม่คอยท่า คิดแก้กรรมในบัดดล
อนาคตเหนือความเชื่อ ดุลดั่งเกลือลิ้มรสหวาน บอกคนเมื่อวันวาน กลับหัวเราะเยาะความจริง
ร่างเล็กแสนลำบาก ยากฝ่าถึงพระยายาม สักวันคงได้ตาม ถามหาถึงหนุมาน

______________________________


mead 19-07-2006, 09:28 AM

"เวลาแห่งภัยพิบัติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นหลังจากประเทศหนึ่งถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ "(ที่คุณเกษมนำมากล่าวไว้..)

ดังนั้นเหตุเริ่มต้นก็คือ"มนุษย์"แล้วจากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ"ภัยธรรมชาติ"จะตามมาเก็บกวาดในลำดับต่อไป..

คงจะพอมองเห็นแล้วว่า ระหว่างที่มนุษย์กำลังสาละวนกันการสู้รบกันนั้น ภัยธรรมชาติจะเข้ามาแทรกเพื่อให้มนุษย์หันมามองและต่างก็จะพะวงกับภัยธรรมชาติมากขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นหากเกิดระเบิดนิวเคลียร์ขึ้นทั่วโลก โลกนี้ก็คงยากเกินเยียวยาและอาศัยอยู่ไม่ได้ จึงต้องมีภัยธรรมชาติมาระงับยั้บยั้ง เอาไว้ให้มนุษย์หยุดสู้รบกัน เรื่องนี้มันเป็นเหตุเป็นผลจริงๆครับ...

ส่วนเรื่องวันเวลาเริ่มต้นของภัยใหญ่ กำหนดตามรหัส เก้าเก้า (เท่าที่ผมทราบจะเป็นเวลา 9 โมงเช้าของวันใดวันหนึ่ง)

และช่วงเวลาที่เกิดตามรหัส เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้า (หมายถึง 49 วัน)

เป็นไปตามโองการสวรรค์จากถ้อยคำสิ่งศักด์สิทธิ์ ที่ท่านได้เมตตาบอกเป็นปริศนาเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อ60ปีก่อน...(จิกซอร์ที่ช่วยกันต่อใกล้จะสมบูรณ์แล้วครับ..)


vena 19-07-2006, 09:58 AM

ประเทศเวียดนามจะโดนไหมค่ะ ? ระหว่างเวียดนาม กับประเทศไทยใครโดนหนักมากกว่ากันค่ะ ? รบกวนถามท่านผู้รู้ค่ะ


mead 19-07-2006, 10:18 AM

เท่าที่ผมเช็คดูจากแผนที่โลกใหม่ ประเทศที่เคยก่อสงครามในอดีตจะโดนหนักกว่าเพื่อน ญี่ปุ่น เวียดนาม (แทบสิ้นแผ่นดินเลยครับ)..ไทยเราก็โดนครับแต่บอบช้ำหนักที่สุดก็ทางใต้ครับ..


vena 19-07-2006, 10:35 AM

16_1_25.gif (http://www.smileycentral.com/?partner=ZSzeb001_ZNxdm414YYTH) ขอบคุณมากค่ะวีนาจะได้อีเมล์ไปเตือนน้องชายเพราะเค้าทำงานอยู่ที่นั้น





http://www.smileycentral.com/sig.jsp?pc=ZSzeb068&pp=ZNxdm414YYTH (http://www.smileycentral.com/?partner=ZSzeb068_ZNxdm414YYTH)


mead 19-07-2006, 11:27 AM

ท่านทั้งหลายจะได้ยินการสู้รบ และข่าวลือของสงคราม แต่อย่าได้วิตกเลย เพราะสิ่งเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้น แต่กำหนดสุดท้ายยังมิได้มาถึง
ประชาชนสู้รบกับประชาชน (ความวุ่นวายภายในประเทศ)
ประเทศจะทำสงครามกับประเทศ
หลายแห่งจะอดอยากขาดอาหาร และจะเกิดแผ่นดินไหว
เหล่านี้เป็นเพียงการเริ่มต้นของภัยภิบัติ
จะมีคนอวดเป็นผู้รู้ทำการหลอกลวงคนทั้งหลาย เรื่องทำผิดคิดมิชอบจะมากขึ้น
ความรัก ความเมตตาของคนทั้งหลายจะคอยๆเย็นชาลง
คนที่ทนได้ถึงที่สุดเท่านั้นจะเป็นผู้รอด

ในตอนนั้น ข่าวดีอันประเสริฐแห่งสวรรค์จะแพร่ไปทั่ว***
ให้ประจักษ์แก่ชาวโลก แล้วหลังจากนั้นวันสิ้นโลกก็จะมาถึง จะมาถึง....ในวันเหล่านั้น
เมื่อนั้นจะเกิดมหัตภัย เป็นมหันตภัยที่ยังไม่เคยมีมาก่อนเลยตั้งแต่เริ่มต้นมีโลกมาจนบัดนี้
ผู้ที่มีเลือดเนี้อทั้งหมดไม่มีใครรอดได้
แต่เพราะเห็นแก่ผู้ได้รับการเลือกสรรไว้ วันเหล่านั้นจึงลดน้อยลง
เมิ่อทุกข์ภัยของวันเหล่านั้นล่วงไป ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นสีดำ ดวงจันทร์จะไม่ส่องสว่าง ดวงดาวทั้งหลายจะตกจากท้องฟ้า ท้องฟ้าจะสั่นสะเทือนเคลื่อนไหว
เราจะบอกท่านทั้งหลายตามจริงว่า เรื่องราวเหล่านี้จะเกิดเป็นจริงก่อนที่คนยุคนี้จะล่วงไป (คนที่เกิดตั้งแต่ปีค.ศ.1010) ฟ้าดินจะย่อยยับ แต่คำพูดของเราจะถูกทำลายไปมิได้
แต่วันเวลาเหล่านั้น ไม่มีใครรู้ได้ แม้แต่ทูตสวรรค์ก็มิรู้ได้ พระบุตรก็ไม่รู้ มีแต่พระบิดาเท่านั้นที่ทรงทราบ

วันของโนฮาเป็นเช่นไร วันที่พระบุตรจะเสด็จมาก็เป็นเช่นนั้น ก่อนหน้าวันน้ำท่วม คนทั้งหลายยังคงดื่มกิน เสพสุขสมรสกัน จนถึงวันที่โนฮาลงไปในนาวา น้ำได้หลากท่วมมาและพัดพาพวกเขาทั้งหมดไป โดนมิทันรู้ตัว
เมื่อ บุตรมนุษย์ เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้น
ฉะนั้นพวกท่านทั้งหลายจงตื่นตัวและเตรียมการ ด้วยเหตุที่ไม่รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านจะเสด็จมาในวันใด ในวันที่พวกท่านคิดไม่ถึงนั้น บุตรมนุษย์ ได้เสด็จมาแล้ว..

ข่าวดีอันประเสริฐแห่งสวรรค์จะแพร่ไปทั่ว***ข่าวสารหรือคำทำนายจากหลายๆแห่ง ตรงกันโดยมิได้นัดหมายมาก่อน


"ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นสีดำ ดวงจันทร์จะไม่ส่องสว่าง" ตรงกับคำเตือนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานเตือนไว้ว่า"เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้า ไร้เดือนดาวฟ้าดินมืดมิด"


"บุตรมนุษย์" หมายถึง"พระเมสิอาห์"ซึ่งเกี่ยวข้องกับ "พระศรีอารยเมตไตรย"ซึ่งมาในพระภาคใดเราไม่อาจรู้ได้.. มายกยอพระพุทธศาสนา และรวบรวมศาสนาใหญ่ทั้งสามให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน


Specialized 19-07-2006, 12:44 PM

อ่านตามแล้วก็ขนลุกครับ นำไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่เชื่อ


kananun 19-07-2006, 09:50 PM

ไหว้ครูเสร็จแล้วครับ สำหรับคนที่ไม่มีพระให้ใส่บาตร ก็เอาเงินหยอดกระปุกเก็บไว้ไปทำบุญที่วัดทีหลังได้ครับ
บทเรียนที่ 1 . ลมปราณสัมพันธ์จิตใจ กายสัมพันธ์จิต
อย่างที่ผมเรียนไว้เบื้องต้นแล้วว่า ถ้าร่างกายแข็งแรงจิตใจก็จะเข้มแข็งด้วย สิ่งที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ผมจะเริ่มปูพื้นฐานให้ตั้งแต่เบสิค ด้วยภาษาและคำอธิบายที่คนในยุคนี้เข้าใจได้ง่ายและมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบ พิสูจน์ยืนยัน ตามที่ พอ. ชม สุคันธรัตน์ ท่านได้บัญญัติศัพท์ว่าวิทยาศาสตร์ทางจิตไว้ครับ
จิต และพลังจิต เป็นพลังงานชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะ และคุณสมบัติของคลื่น จึงสามารถ หักล้าง เสริมคลื่นและเหนี่ยวนำได้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่า เมื่อนั่งสมาธิกับอาจารย์ที่มีสมาธิสูงจึงสามารถทำให้ศิษย์และผู้ได้รับการถ่ายทอดนั่งได้ดีหรือ มีสมาธิสูงขึ้นตามไป เช่นเดียวกับขณะที่ ยูริ เกลเลอร์ นักพลังจิต ใช้พลังจิตงอช้อน ผู้ชมในห้องส่งและที่บ้านก็สามารถงอช้อนได้ด้วย คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างของพลังจิตคือมีความเร็วสูงสุด เร็วกว่าแสง เดินทางไปได้ในทุกมิติ รวมทั้งมิติของกาลเวลา นั่นคือเหตุผลในการใช้จิตในอดิตังสญาน และอนาคตังสญาน คือไปดูอดีตและ อนาคต ครับ รวมทั้งการเดินทางไปยังภพภูมิอื่นด้วยจิตครับ
แต่เดิมมนุษย์มีพลังจิตครับ แต่กิเลส มาบดบังจิตให้เสื่อมลง รวมทั้งศีลธรรมประจำใจด้วย
วิธีที่จะฝึกจิตให้มีพลังและเป็นพื้นฐาน ที่ง่ายที่สุด และเหมาะกับทุกจริตก็คือการ ฝึกจิตด้วยการหายใจ อาณาปาณสตินั้นเอง สำหรับขั้นตอนนี้ ผมจะอธิบายความสัมพันธ์ของสมาธิกับการหายใจอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ไว้ดังนี้ คนทั่วไปจะหายใจ นาทีละ ประมาณ25 - 30 ครั้งต่อนาที คนที่อยู่ในสภาวะเครียดและสับสน จะหายใจติดขัอสั้นๆ ฮักๆ นาทีละ 40-50 ครั้ง ส่วนผู้ที่อยู่ในสมาธิขั้นต้น จะหายใจ ลดลง เหลือ 12-25 ครั้ง สามารถใช้สมาธิรักษาโรคง่ายๆได้ ใช้อธิฐานง่ายๆได้ครับ และมีการเต้นของหัวใจและเมตาโบลิซึ่มลดลง ผู้ที่อยู่ในสมาธิขั้นกลางลมหายใจละเอียดช้าลงเหลือ 6-12 ครั้ง ใช้สมาธิรักษาผู้อื่นได้ มีความเป็นทิพย์ตามสมควร ผู้ที่เข้าสมาธิขั้นสูงจะหายใจช้าลงสั้นลงเหลือแค่เมล็ดถั่วต่อครั้งและมีการหายใจผ่านผิวหนัง สามารถใช้รักษาโรคได้มากขึ้น จิตมั่นคงตั้งมั่น ในการอธิฐาน ใช้อภิญญาได้บ้าง ที่บอกว่าหายใจผ่านผิวหนังนั้น เพราะผมได้พิสูจน์มาแล้วโดยเข้าสมาธิใต้นำ จะรู้สึกได้ถึงการติดขัดเล็กน้อยของอากาศที่ผิวหนัง ส่วนการเข้าฌาณลึกๆ ร่างกายจะไม่หายใจ เลย 3 วัน 7 วัน ผมยังทำไม่ได้ จึงขอละไว้ก่อนครับ
เมื่อทราบความสัมพันธ์ของลมหายใจกับสมาธิแล้วเราจะใช้ลมหายใจเป็น indicator ชี้วัดระดับของสมาธิที่เราต้องการครับ ระดับที่เราต้องการ คือ "ลมสบาย" อารมณ์ใจที่เบาสบาย เพื่อให้เข้าถึงความเป็นทิพย์ของจิตครับ
ต่อไปเป็นการฝึกอาณาปาณสติ เบื้องต้นครับ ลองทำดูครับ ส่วนท่านที่ทำได้แล้ว คิดว่ารู้แล้วก็ลองทวนดูครับ เพราะพุทธภูมิท่านต้องสอนให้ได้ทุกระดับ ทุกลีลา ทุกอาการ ครับ
นั่งสบายๆ มือใหม่หลับตา ปล่อยลมหายใจตามสบาย เราเป็นผู้ติดตามลมหายใจ เมื่อหายใจเข้าภาวนา "พุทธ" หายใจออกภาวนา"โธ" วางอารมณ์ใจเบาๆสบายๆจับความรู้สึกที่ลมหายใจกระทบปลายจมูก นั่งจับลมหายใจจนรู้สึกโล่งเบาสบาย ตามดูลมและคำภาวนาอย่างเดียวยังไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ถ้าใจอยากหยุดภาวนาก็ปล่อยหยุดจับลมอย่างเดียวครับ
เมื่อทำได้สำเร็จแล้วอธิฐานกำกับครับว่า "ขอให้ข้าพเจ้าได้และเข้าถึงอาณาปาณสติลมหนึ่งฐานทุกครั้งที่ต้องการทุกชาติไปจนถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ"
ขั้นต่อไปคือลม สามฐาน ลักษณะการฝึกเหมือนกันแต่มีเพิ่มเติมในการจับลมหายใจ สามจุด คือจมูก อก ท้อง ทั้งการหายใจเข้า หายใจออก ครับ สมาธิจะมีสติตามลมได้ละเอียดขึ้นครับ ทำจนใจสบายแล้วจึงอธิฐานกำกับว่า "ขอให้ข้าพเจ้าได้และเข้าถึงอาณาปาณสติ ลมสามฐานนี้ได้ทุกครั้งที่ต้องการ ทุกชาติไปจนถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ"
ต่อไปให้ลองจับลมหายใจตลอดสายให้เหมือนกับเส้นไหมพริ้วผ่านจมูกผ่านอกผ่านท้องพริ้วออกไปผ่านอกผ่านจมูก ออกไป แล้วย้อนกลับไปต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ทำจนรู้สึกใจสบายเบาโล่ง แล้วจึงอธิฐานกำกับว่า "ขอให้ข้าพเจ้าได้และเข้าถึง อาณาปาณสติลมปราณตลอดสายนี้ได้ทุกครั้งที่ต้องการในทุกๆชาติตราบเข้าถึงซึ่งนิพพานด้วยเทอญ " เมื่อได้ขั้นนี้แล้วท่านสามารถไปประยุกต์วิชาใช้ได้ ดังนี้ ใช้ดึงลมปราณจากธรรมชาติมาเสริมพลังลมปราณของตนเองได้โดย การอธิฐานขอกับพระธรณีและธรรมชาติ และใช้จิตใจชักนำลมปราณจากธรรมชาติเข้ามาฟอกธาตุเสริมปราณของเราในช่วงหายใจเข้า และชะล้างธาตุที่เป็นโทษและโรคภัยไข้เจ็บออกไปในจังหวะหายใจออก ลองไปฝึกดูครับ
ส่วนท่านที่ได้มโนมยิทธิลองฝึกขั้นก้าวหน้าดูครับ อาราธนาบารมีพระท่านให้เมตตาดึงปราณจากพระนิพพานลงมาผสานเป็นหนึ่งเดียวกับลมหายใจของเรา โดยมีลักษณะเป็นละอองเพชรใสระยิบระยับแพรวพราว เข้าไปในร่างกายของเราฟอกธาตุขันธ์ของเราให้ใสบริสุทธ์ปราศจากกิเลศ จิตคุณจะสัมผัสได้เลยว่าอาทิสมานกายของคุณใสขึ้น สว่างขึ้น ครับ และเป็นคำตอบที่ว่าเหตุใด อัฐฐิของพระอรหันต์ท่านจึงใสเป็นแก้วครับ เพราะอารมณ์และสภาวะแห่งพระนิพพานที่ท่านได้สัมผัสล้างธาตุขันธ์กายหยาบให้มีความบริสุทธ์ครับ
ลองไปฝึกฝนให้ชำนาญในแต่ละระดับของแต่ละคนนะครับ หลักอยู่ที่การวางอารมณ์ใจให้สบายๆครับ
เรียนกันไปวันละบทนะครับวันพรุ่งนี้จะแนะนำเรื่องวิธีลัดในการเข้าถึงสมาธิขั้นสูงอย่างเร็วครับ ผมจะเข้ามาพิมพ์ช่วง 3-4ทุ่มหลังสวดมนต์เสร็จมารออ่านตอนเช้าก็ได้ครับ ต้องขอโทษเพราะผมพิมพ์ช้า ถ้ามีคนสนใจเพิ่มเติม ก็เชิญสอบถามมาในกระทู้นี้ได้ครับ


ปกรณ์ 19-07-2006, 10:43 PM

อนุโมทนากับคุณ Kananun ด้วยครับ สิ่งที่คุณแนะนำมานั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง อย่างน้อยที่สุดผมก็ได้ทบทวนในสิ่งที่คุณบอก หวังใจว่า ด้วยบุญที่เคยบำเพ็ญมาแล้วจะเกื้อหนุนให้สำเร็จในขั้นที่สามารถช่วยผู้อื่นได้อย่างเต็มที่ เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่เป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า และพวกเราในที่นี้จะได้ทันเห็นและสัมผัส


jasminine 19-07-2006, 11:27 PM

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านที่ร่วมช่วยกันเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ค่ะ

น่าจะเป็น www.baandin.com (http://www.baandin.com) ค่ะ
และก็มี www.baandin.org (http://www.baandin.org) ด้วยค่ะ



<TBODY></TBODY>
<FORM action=private.php method=post><TBODY></TBODY>
<TBODY></TBODY>
post_old.gif 19-07-2006, 11:44 PM
kananun (http://www.palungjit.com/board/member.php?u=38741)<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>

สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 01:01 PM
วันที่สมัคร: May 2006
ข้อความ: 34
Thanks: 30
Thanked 260 Times in 33 Posts
พลังการให้คะแนน: 0http://www.palungjit.com/board/images/reputation/reputation_pos.gifhttp://www.palungjit.com/board/images/reputation/reputation_pos.gifhttp://www.palungjit.com/board/images/reputation/reputation_pos.gifhttp://www.palungjit.com/board/images/reputation/reputation_pos.gifhttp://www.palungjit.com/board/images/reputation/reputation_pos.gifhttp://www.palungjit.com/board/images/reputation/reputation_highpos.gif


สวัสดีครับ

การบูชาครูทำที่บ้านก็ได้ครับ ง่ายๆคือนำพระที่เราใส่คอนี่ล่ะมาอธิฐาน หาดอกไม้แถวละแวกบ้านมาบูชา เงินเป็นเงินไทยเงินฝรั่งก็ได้ครับ ไว้มีโอกาศค่อยนำไว้ทำบุญที่วัดหรือใส่บาตร จุดสำคัญคือ ความกตัญญูและยอมรับนับถือพระรัตนไตร คุณครูอาจารย์ประการหนึ่งและเพื่อการเริ่มต้นที่ดีด้วยกุศลจากการทำบุญให้ทาน รักษาศีลครับ(verygood) ประการที่สองคือขึ้นกับจิตเจตนาของผู้เรียนที่ตั้งใจจะนำวิชานี้ไปใช้ทางทางที่ถูกที่ดีงาม

เมื่อก่อนผมก็ไม่รู้ครับอยากให้เพื่อนๆคนรู้จักได้วิชาความรู้ง่ายๆเร็วๆ ก็แนะนำกันเลย ไม่ไหว้คงไหว้ครูกันล่ะ ผลที่ได้คือ ฝึกได้ครับทำได้ดีด้วย แต่สุดท้ายถูกมานะทิษฐิเข้าครอบงำ เพราะไม่มีแรงครูคุ้มครองและเครื่องกำกับในการใช้วิชา สุดท้ายคืนครูหมดครับ
จึงต้องมีการไหว้ครู ทุกอย่างมีเหตุมีผลครับ และผมเจอมากับตัวเองหมดแล้ว ทุกสิ่งคือการเรียนรู้ครับ

ช่วยโพสต่อลงกระทู้ด้วยครับ

</FORM>

Specialized 20-07-2006, 02:12 AM

อนุโมทนา ด้วยคนครับท่าน


kananun 20-07-2006, 03:45 PM

การฝึกที่ผมแนะนำให้ไปในบทที่ หนึ่ง นั้น ผมขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมครับว่าเป็นวิชาของพระพุทธเจ้าครับ นั่นคือณาน 1 2 3 4 หยาบและฌาน 1 2 3 4 ละเอียดครับ เพียงแต่ผมอธิบายในรูปอาการของกายและการหายใจครับ เพราะต้องการชี้ อารมย์ที่ต้องการเพื่อความเป็นทิพย์ ที่หลวงพ่อท่านเรียกว่า ฌานสี่ใช้งานครับ แต่ในหนังสือธรรมมะจะใช้การอธิบายจำแนกโดย องค์ของฌานครับ เป็นเรื่องเดียวกันครับ แต่ทำให้ง่ายขึ้นเพราะ ผมไม่คัดค้านคำสอนของพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อ เพราะพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยเจ้าและพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ท่านสอนคนโดยยึดหลักว่า
-ถ้ายังไม่มีที่ยึดเหนี่ยวก็สอนให้ไดไตรสรณคมถ์
-ถ้ายังไม่มีศีลก็ให้มีศีล แม้ข้อเดียวหรือขณะใดขณะหนึ่งก็ยังดี
-ถ้ายังไม่ได้ฌานก็ให้ได้ฌาน
-ถ้ายังไม่ได้สมาบัติก็ให้ได้สมาบัติ
-ถ้ายังไม่ได้คุณธรรมวิเศษก็ให้ได้คุณธรรมวิเศษ
-ถ้ายังไม่ได้มรรคผลนิพพานก็ให้ได้มรรคผลนิพพาน
-เพื่อให้เข้าถึงมนุษยสมบัติในชาติปัจจุบัน
-เมื่อตายจากโลกนี้ก็ให้ถึงซึ่งพระนิพพาน
-ถ้าเข้าถึงพระนิพพานไม่ได้ก็ให้ถึงรูปพรหมโลกและฟังธรรมจากจุดนั้น
-ถ้าเข้าถึงพรหมโลกไม่ได้ก็ให้ได้สวรรค์สมบัติ
ท่านไม่สอนให้คนไปนรกครับ
ส่วนบทเรียนเมื่อวานนี้ผมขอเสริมเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยครับ คือให้ลองจับลมอาณาปาณสติ ในอิริยาบทคือ ยืน เดิน นั่ง นอนหรือถ้าจะพิศดารกว่านี้คือผมทดลองฝึกจับลมตอน ออกกำลังกาย ขี่จักรยาน ขึ้นเทรดมิล แล้วก็ตอนว่ายนำครับ ที่ให้ฝึกอย่างนี้มีเหตุผลครับคือคุณต้องฝึกให้ได้ทุกเวลา ทุกอิริยาบทครับ ทั้งหลับตา ลืมตา ไม่ต้องตั้งท่าหลับตานั่งสมาธิ เพราะในยามคับขับคุณจะเข้าไม่ทัน อานิสงค์อีกอย่างคือสมาธิจะมั่นคงไม่คลายตัวหรือขณะออกกำลังกายจะมีพลังไม่เหนื่อยง่ายครับ ได้แล้วอย่าลืมอธิฐานกำกับนะครับ เหตุผลคือเป็นการปักหมุดจารึกไว้ในจิตติดตัวไปทุกชาติครับ พุทธภูมิบางท่านบำเพ็ญบารมีมาก็เยอะแต่วิชาที่ได้มาในอดีตชาติไม่กลับมารวมตัวในชาตินี้เพราะทำตกหล่นไว้ไม่ได้อธิฐานกำกับเพื่อนำกลับมาใช้ครับ ส่วนท่านที่ยังทำไม่ได้ทั้งหมดก็ไม่เป็นไรครับ จำหลักสำคัญที่ว่าให้จำลมหายใจละเอียดเบาสบาย ครับ
ส่วนการใช้จิต ดึงลมปราณและธาตุทิพย์จากพระนิพพานนั้น สามารถอธิฐานจิตดึงมาใช้ได้พร้อมๆกันครับ โดยขอให้ชำระธาตุธรรม รักษาโรค และเพิ่มพลังลมปราณในกายเนื้อได้พร้อมๆกันครับลองไปฝึกดูครับ
อีกอย่างหนึ่งคือผมขอใช้ระบบการเรียนรู้แบบปริญญาโทครับ คือจะไม่ป้อนให้ตรงๆถึงปาก ผมจะแนะนำให้คุณไปฝึกฝนด้วยตนเอง ในส่วนของการอธิบายธรรมมะในหัวข้อที่มีในพระไตรปิฎกและหลวงพ่อสอนไว้แล้วผมขอให้ไปค้นคว้าเองเพิ่มเติมเป็นการบ้าน และถ้าใครอาสาหาข้อมูลมาพิมพ์อธิบาย เพิ่มเติมให้เพื่อนคนอื่นได้อ่านได้รู้ ผมถือว่าเป็นการเอื้อเฟื้อในธรรมและเป็นการพรีเซนต์หน้าชั้นครับ เช่นช่วยเพิ่มเติมข้อมูลเรื่องการปฏิบัติฌาน 1 2 3 4 รวมทั้งอาการ และอารมณ์ ของหลวงพ่อจากหนังสือ กรรมฐานสี่สิบกองด้วยครับ ส่วนในแต่ละบทผมขออนุญาตแนะนำตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจน คลุมถึงพุทธภูมิในครั้งเดียวเลยนะครับ

กลับหน้า วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

กลับหน้าแรก