สัญญาณการอพยพสู่ที่ปลอดภัย

กลับหน้าแรก


สัญญานในการอพยพสู่ที่ปลอดภัย

จากการประชุมเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา (2550) พวกเราได้รับข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องระยะเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติ ที่ชัดเจนขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆที่ปรากฏชัดตามไปด้วย

ดังนั้นจึงขออนุญาตใช้กระทู้นี้ เพื่อใช้เฝ้าระวังสัญญานในการอพยพไปยังที่ปลอดภัย

จากข้อมูลที่พระท่านได้เมตตาบอกมา ช่วงเวลาในการอพยพแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ยิ่งตัดสินใจออกช้าเท่าไร อัตราเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายก็ยิ่งสูงตามไปด้วย การออกเดินทางเร็วช้า ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ด้วยเช่นกัน


ขั้นแรกในการวางแผนการเตรียมการอพยพ

- คุณต้องวางแผนก่อน และตัดสินใจว่า จะไป หรือไม่ไป ถ้าคิดว่าไม่ไป แต่พอถึงเวลาจวนตัว และจำเป็นต้องไปขึ้นมา จะทำอย่างไร ดังนั้นการวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้าย่อม ดีกว่าประมาท ไม่เตรียมอะไรเลย

- คุณต้องวางเป้าหมาย จุดหมายปลายทางในการอพยพว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน ที่ปลอดภัยของแต่ละคนแต่ละท่าน ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ที่เดียวกัน หากคุณไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน คำแนะนำคือ

...หาข้อมูลในกระทู้สถานี่ปลอดภัยที่ คณะทำงานได้รวบรวมไว้ให้ ...อธิฐานขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านให้ดลใจให้เรา ได้ไป ได้ทราบ ได้พบสถานที่แห่งนั้น ไปถึงและปลอดภัย

- วางแผนการเตรียมตัวในการเก็บ จัดเตรียม สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ทั้งของส่วนตัวของตนเอง ของครอบครัว และของที่ทีมพวกเราจะใช้ช่วยคนอื่นโดยส่วนรวม รายละเอียดดูกระทู้ที่เกี่ยวข้อง เช่นกระทู้อุปกรณ์ยังชีพ

- วางแผนการเดินทางและยานพาหนะ ว่า

...จะเดินทางไปยังจุดหมายอย่างไร ...ใช้พาหนะอะไร พิสัยการเดินทางของพาหนะนั้น เป็นเท่าไร หากน้ำมันหมดจะทำอย่างไร ...จะใช้เส้นทางไหนในการออกจากเมืองใหญ่ และใช้เส้นทางหลัก หรือเส้นทางรองในการเดินทาง ...มีจุดพัก หรือที่พักสำรองหรือไม่ ในกรณีที่มีเหตุทำให้ไปที่จุดหมายไม่ได้ ...จะขน คนไปกี่คน ขนสัมภาระไปด้วย จำนวนเท่าไร น้ำหนักเท่าไร (มีผลในการกินน้ำมันของยานพาหนะ) ...เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการเดินทาง ไปยังจุดหมาย (บวกกรณีที่เกิดอุปสรรคไว้ด้วย)

- จุดสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เวลาที่ตัดสินใจออกเดินทางอพยพ


การเริ่มเดินทางไปยังจุดปลอดภัย ในเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งครับ

1. ไปก่อนการเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ มีข้อดีคือ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง การจราจล ไปถึงแล้วคุณสามารถเติมน้ำมันรถให้เต็มถังได้ ถึงที่พักแล้วขาด อะไร เหลืออะไร คุณสามารถจัดซื้อจัดหาเพิ่มเติมได้ แต่ข้อเสียก็คือ คุณมีภาระด้านการงานหรือไม่ เป็นห่วงทัพย์สินทางบ้านหรือเปล่า หากมีเวลา มีเงินทุน เพียงพอ ขอแนะนำให้เลือกทางนี้ครับ อย่างน้อยก็ช่วยเตรียมความพร้อมด้านสถานที่สำหรับผู้มาทีหลังได้ครับ

2. ไปตอนเริ่มสัญญานบอกแต่เป็นเวลาที่ผู้คนทั่วไปยังไม่ทันรู้ตัวและตื่นตระหนก ช่วงเวลานี้ เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง เพราะไม่เร็วไปและไม่ช้าจนเกินไป แต่สิ่งสำคัญคือต้องรีบตัดสินใจออกเดินทางให้เร็วที่สุด เท่าที่จะเร็วได้อย่างน้อยก็ออกให้พ้นเมืองใหญ่โดยเร็วก่อนการเกิดจราจล พอใกล้จุดปลอดภัย ยังพอมีเวลาหาซื้อของใช้ที่จำเป็น เติมน้ำมันรถให้เต็มถังไว้ได้ ผู้ใช้ทางเลือกนี้ต้องมีความพร้อมมากๆ ตื่นตัว คอยฟังข่าวสารทางธรรม และข่าวสารทางโลกอยู่เสมอ มีแผนการเดินทางที่สมบูรณ์อยู่แล้วรวมทั้งเก็บข้าวของล่วงหน้า พร้อมเดินทางได้ตลอดเวลา

ผมเองขอใช้คำว่า เป็นช่วงเวลาในอุดมคติเลย

3. ตัดสินใจออกเดินทาง โดย โอ้เอ้บ้าง รอคนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง รอดูเหตุการณ์ก่อนบ้าง ห่วงนั่นห่วงนี่บ้าง จนกระทั่งคนเริ่มแตกตื่นแย่งกันออกจากเมืองใหญ่ หากรอถึงขั้นนี้โอกาสในการไปถึงจุดหมายจะยิ่งยากขึ้น ให้ลองนึกภาพเหตุการณ์วันสงกรานต์บวกกับวันหยุดตรุษจีนรวมกันแล้วคูณสาม ที่รถติดเป็นสิบชั่วโมงที่รังสิต และพอรถเริ่มตายซัก สิบคันยี่สิบคัน ขวางถนนอยู่ รถที่เหลือทั้งหมดก็ถูกบล็อกจนขับไปไม่ได้ เริ่มมีการจราจล คนไม่มีกฏหมายและศีลธรรม ยิ่งทำทุกอย่าง อย่างไร้เหตุผลพูดจากันไม่ได้

การเดินทางช่วงนี้จะอันตรายมากๆ เสี่ยงสูง โอกาสรอดต่ำ พวกที่รู้เรื่องภัยพิบัติแต่ไปปรามาสไว้ก็มาตายกัน ในช่วงนี้มาก คนที่รอดไปได้ถือว่าคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองจริงๆ

มีคนเคยฝันเห็นภาพคนฆ่ากันเพื่อแย่งที่นั่งรถโดยสารเพื่อออกมาจากเมืองใหญ่ คนบุกเข้าไปหยิบไปเอาข้าวของในซูเปอร์สโตร์กันแบบจราจล น่าเอน็จอนาถใจ

4. พวกที่ไม่ยอมอพยพบ้าง คิดว่าหลบอยู่ในบ้านให้เหตุการณ์ปลอดภัยค่อยออกมาบ้าง แต่ลืมคิดไปว่า ถ้าน้ำไฟถูกตัดจะอยู่ได้หรือไม่ อาหารเอาที่ไหน แก๊ซหุงต้มไม่มีจะทำอย่างไร

ถึงเวลานั้นเมืองใหญ่ จะกลายสภาพคล้ายดั่งบ้านป่าเมืองเถื่อน โจรขโมย ที่บุกปล้น บุกฆ่า เพราะมารสิงจิต เต็มไปหมด หากคิดเปลี่ยนใจจะหนีออกมา ก็หาน้ำมันมาเติมรถไม่ได้ แถมโจรตั้งด่านอยู่เต็มไปหมด ฆ่ากันเพียงแค่ของหรืออาหารเพียงเล็กน้อย น้ำดื่มสะอาดก็ไม่มี ในคุก คนกินเนื้อคนด้วยกัน

คนที่อยู่ถึงจุดนี้นับว่า เป็นกรรมเฉพาะตน ทางที่จะพอรอดได้บ้างคือหลบเข้าไปรวมกลุ่มกันในเขตพระพุทธศาสนา นั่นก็คือวัดนั่นเอง


สัญญาณคือ

1. ตามเวลา ให้เผ่นก่อนเดือน พ.ค.ปีหน้า แบบนี้จะปลอดภัยมาก แต่เสี่ยงอดตาย

2. ตามข่าว ดูข่าวทีวีเอา แบบนี้เจอรถติดแน่นอน แต่ถ้าร่นระยะทางเป็นก็ไม่มีปัญหา

3. ตามกลุ่ม ชัวร์สุด ใช้ท่าไม้ตายเกาะกิน ซื้อวิทยุแล้วจูนคลื่นให้ตรงกับเขาซะ

4. ตามสถานการณ์ รอกลุ่มโจรถือดาบวิ่งเข้าบ้านแล้วค่อยหนี แบบนี้ก็ต้องอาศับความเป็นนักกีฬา สามารถวิ่งได้หลายสิบกิโล บวกกับต้องหนังเหนียว ไปสักยันต์ซะ หนังเหนียวนี่ต้องถือศีลข้อสามไว้เท่าชีวิต จะเหนียวสุดๆ


"ประวัติศาสตร์เกิดจากพฤติกรรมมนุษย์ "

มนุษย์เป็นผลิตผลจากธรรมชาติ เมื่อธรรมชาติปรับเปลี่ยนตามวาระ สรรพสิ่งก็ได้รับผลกระทบ เมื่อฟ้าปรับสัญญาณ ความเจริญความเสื่อมสลายสะท้อนกลับเป็นพลังสูญเสียในรูปของภันธรรมชาติ แผ่นดินไหว อุทกภัย โรคระบาด เพราะพลังงานจากฟ้าสู่ดินถูกเบี่ยงเบน หรือสะดุด หมุนเวียนไม่สะดวก คัมภีร์ไบเบิ้ล บทสุดท้าย Revelation พูดถึงการกลับสู่ยุครุ่งเรืองความสว่างอีกครั้ง มีรายละเอียดกล่าวถึงความเปลื่ยนแปลงวงโคจรของดวงดาวต่างๆ ไว้อย่างละเอียด พลังธรรมชาติก็ปรับตามพฤติกรรมมนุษย์ ประวัติศาสตร์จึงเกิดขึ้นซ้ำรอย สะท้อนเป็นราศีตามสัญญลักษณ์สัตว์ 12 ชนิด จาก

ชวด แสดงถึงการเริ่มต้นของยุคใหม่ต่างๆ ฉลู คือการปฎิรูป ปรับปรุงให้เหมาะสมกับกาลเวลา ขาล คือยุคพัฒนา เป็นช่วงเวลาการแผ่ขยายใช้ความรุนแรง เถาะ เป็นยุคแห่งการรวมอำนาจ การเข้าควบคุม การผูกขาดการปกครองต่างๆ มะโรง ยุคเปิดการค้า และเรื่องเศรษกิจ มะเส็ง ยุคกลับมาพัฒนาจิตใจ จริยธรรมรุ่งเรือง มะเมีย เป็นยุคของความอุดมสมบูรณ์ มะแม เป็นยุตของการร่วมมือทางสังคมส่วนรวม วอก เป็นยุคการติดต่อภายนอก ระหว่างพรมแดนประเทศ การทูต ร่วมมือระหว่างชาติ ระกา กลับเป็นยุคความขัดแย้ง การพิพาท สงคราม จอ เป็นยุคบุกเบิกค้นพบดินแดนใหม่ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ กุน กลับคีนสู่ยุคเสื่อมถดถอย ---- คือปีในปัจจุบัน 2550

จะเห็นได้ว่ายุคตามประวัติศาสตร์สลับไปมาเหมือนราศีปีต่างๆ ตามอิทธิพลที่ได้รับของพลังปฐมภูมิ ในพฤติกรรมระดับต่างๆ ของโลกมนุษย์จนถึงสังคมระดับครอบครัว บุคคลล้วนเกี่ยวโยงและคล้ายคลึงกัน มีเจริญและก็มีเสื่อมสลายตามฤดูกาลของโลกของฟ้าดิน


ดูแล้วช่วงเวลาที่ได้กล่าวไว้ตรงกับปลายปี พ.ศ.2551 - 2552 (ค.ศ.2008-2009) เป็นปี ชวดและฉลู พอดีครับ อเมริกา จะเปลื่ยนตัวผู้นำ อันนี้ก็น่าคิดทีเดียวครับ!

สัญญาณเตือนก่อน 7:7:49 เท่าที่รวมรวมมาก็มีดังนี้ครับ

-เรื่องนิวเคลียร์บอมส์ลูกแรก...ที่ไหนสักแห่ง? -ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเซียในประเทศที่เป็นอริต่อกัน -- -ท้องฟ้าเริ่มเปลื่ยนสี..พายุหมุนแปลกๆ -อาจมีสัญญาลักญลักษณ์แปลกๆ บนท้องฟ้าให้สังเกตก่อน 1เดือน -มีพระท่านบอกมา -จากเซนส์ของตัวเองอีกส่วนหนึ่งครับ.. อันนี้อฐิษฐานเปิดตาที่สามเอาไว้ก่อนนอนครับ (ระบบ auto scan)


เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้า : วันที่ฟ้าดินมืดมิด

1.ก่อนหน้า "เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้า" วันฟ้าดินมืดมิดสองสามวัน บรรยากาศของโลกดูสงบเงียบไปทั่ว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ความเงียบสงัดก่อนพายุฝนจะกระหน่ำมักเป็นความเงียบที่น่ากลัวเสมอ แล้วทันใดนั้นท้องฟ้าก็เปลี่ยนจากสีฟ้าสว่างเป็นแดงฉานและกลายเป็นสีเทาขาว จนกระทั่งมืดมิดลง ลมมหาประลัยทำลายสิ่งปลูกสร้าง คน และ สัตว์ทั้งหมดให้กลายเป็นจุณมหาจุณในพริบตา 2. โลกทั้งโลกตกอยู่ในความมืดมิด จนมองไม่เห็นสิ่งใดเลย ไม่มีแสงสว่างจากดวงไฟใด ๆ ทั้งสิ้น พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องมือวิทยาศาสตร์ทุกอย่างใช้การไม่ได้ผล ต่อจากนั้นก็เกิดพายุและลมฝน เสียงฟ้าร้องและสายฟ้าฟาดไม่ขาดสาย ห่าฝนเมฆสีแดงจะเทลงมาจากฟากฟ้า โลกจะตกอยู่ในความมืดมิดของรัตติกาล นานถึงสี่สิบเก้าวัน

เก็บเอาไว้เป็นข้อมูลครับ *-*


กลับหน้าแรก