คุณกลัวผีไหม?

เพื่อนๆกลัวผีกันบ้างไหมค่ะ
ส่วนตัวเคยเห็นแต่ในหนัง ไม่รู้เหมือนกันถ้าเจอกันจริงจะทำยังไงดี วิ่งหนี หรือ จะนิ่งสนิทดี..

 

แล้วแต่ผี

 

ผีที่รู้จักไม่กลัว

กลัวแต่ผีที่ไม่รู้จัก

เอางี้ดีกว่า เราทุกคนกลัวเพราะไม่รู้ ถ้าเรารู้แล้วเราจะไม่กลัว

ดังนั้น

ตอบตามความทฤษฎีก็แล้วกันคครับ

ว่าผมก็กลัวผี เพราะผมไม่รู้ว่าผีคืออะไร จะมายังไง ดีหรือร้าย มันจะอยู่แถวนี้มั้ย มันจะเล่นเราเมื่อไร

 

ในกระจกก็มีอยู่ตัวนึง:'(

 

( ความเก่ง + ความประสงค์ร้าย + ความลึกลับ ) ÷ 3 = ความกลัว

 

ก่อนจะตอบว่ากลัวหรือไม่กลัว ลองอ่านดูก่อนนะครับ
ลองไปป่าช้าคนเดียวดูเปรียบเทียบระหว่างกลางวันและกลางคืน
เอาที่เค้าว่าผีดุๆเลยครับ
เราจะพบเห็นกิริยาทางกายและใจได้ชัดเจน
แล้วลองพิจารณาดูว่า
ถ้ากลางวันเป็นไง กลางคืนเป็นไง
เราจะพบว่า อารมย์ต่างๆและกิริยาต่างๆ
ที่เกิดกับกายและใจ
เป็นเพราะหู ตา จมูก กาย ใจ เรามันไปรับรู้สัมผัส
และดึงสิ่งที่รับรู้สัมผัสจากภายนอกเข้ามาปรุงแต่ง
กับความคิด เราเลยรู้สึกโน้นนี่นั่นไปเอง
ทั้งๆที่มันก็มีอยู่เป็นธรรมชาติปกติของมันอยู่แล้ว
มีมืด มีสว่าง มีเงียบ มีสงบ มีลม มีเสียงกะทบโน้นนั่นนี่
ทำไมกลางวันเรารู้สึกอย่างนี้ ทำไมกลางคืนเรารู้สึกอย่างนั้น
ฝากให้พิจารณา เช่นเดียวกัน
ภพภูมิก็มีอยู่แล้วเช่นกันเป็นปกติครับ
ที่เรารู้สึกเพราะอะไร
ที่ไม่รู้สึกเพราะอะไร
ในเวลาที่ต่างกัน
แม้สถานที่เดียวกัน
ถ้าเข้าใจได้
เราจะอยู่ร่วมกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว
โดยธรรมชาติได้อย่างเข้าใจครับ (^_^)

 

ความกลัวผี = ความไม่รู้ของตัวเราเอง + สิ่งที่เราถูกปลูกฝังมาจากคนรุ่นก่อน ๆ ทีกลัวผีมาก่อนเรา หรืออาจจะไม่กลัวหรอก แต่เอาสิ่งที่เขารู้ว่าเด็กจะต้องกลัวจริง ๆ มาหลอก มาขู่ ให้เด็กไม่ดื้อไม่ซน แต่ผลที่ตามมา คือ เด็กบางคน (อย่างผม) อาจจะโง่ไปเลย เพราะโดนเอาผีมาหลอกให้ไม่ดื้อไม่ซน จะทำอะไรก็กลัวไปหมด คือถ้าโตขึ้นมาแล้วรู้ว่าถูกหลอกนี่ นิสัยอาจเปลี่ยนจากเรียบร้อยเป็นก้าวร้าวได้เลยนะ บ่องตง + การโดนตอกย้ำซ้ำ ว่าผีมันน่ากลัวนะ จากการเสพ สื่อต่าง ๆ ของตัวเราเอง หรือฟังมาจากคนอื่น + การไม่เคยได้รับความรู้ที่ถูกต้องหรือแท้จริงเกี่ยวกับผี

ซึ่งผมเองก็อยากรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผีมากครับ จะได้เลิกกลัวมันสักที

 

เห็นด้วยที่ zalievan พูด
ปัจจุบันท่านที่ชอบใช้มุขผี
เพื่อหลอกตอนเด็กๆท่านสิ้นอายุไขไปแล้ว
เป็นแพทย์ด้วยนะ
โตมาคิดได้ว่าแม้จะเด็กก็ควรพูดด้วยเหตุด้วยผล
วิธีคิดระบบความคิดควรปลูกฝั่งตั้งแต่เด็ก
ปล.ความเข้าใจทางด้านนามธรรมขึ้นอยู่กับ
กำลังสติทางธรรม ไม่รู้ ณ เวลานั้น
ให้ลืมไปเลย แล้วมาฝึกเจริญสติต่อ
เด่วมันจะมีเครื่องย้อนรู้ได้อัตโนมัติของมันเอง
ที่มักพลาดกันคือ ชอบเก็บมาคิด วิเคราะห์
หาคำตอบ ชอบสงสัย พวกนี้คือตัวขวาง
การรู้นามธรรมที่หลายๆคน
อาจคาดไม่ถึงครับ

 

จริงอย่างที่ท่านอ นพ พูดเลยค่ะตอนเด็กๆก็กลัวเหมือนกันตอนนั้นมีหนัง"แม่นาคพระโขนง" ยิ่งเวลานั่งเนี่ยต้องระวังไม้กระดานสมัยก่อนห่างกันก็กลัวโดนแหย่ขึ้นมา แต่ความจริงไม่เคยเห็นเลย ทั้งๆที่บ้านอยู่ไกล้ที่ฝังศพแขก มองจากหน้าต่างเห็นเขาเอาศพมาฝังประจําเลย

 

แต่ก่อนค่อนข้างกลัวมาก เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แล้วล่ะครับ ^-^

 

ขนาดอยู่บ้านตัวเองผมยังกลัวเลย ด้านบนของบ้านหน่ะ

 

ตั่งคำถามมา เล่นเอานึกถึงผีในฝันตัวนึง ที่กลัวฝุดๆ
ผีแขนขาด แบบว่าคลานมากับพื้น พุ่งปาดเดียวถึงตัวเลย

 

ถ้าแบบทั่วไป โดยมากแล้วความกลัวจะมาจากใจเราเองนี่หละครับ
แต่ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดานะครับไม่แปลกอะไร
แต่การใช้มุขผีมาเพื่อขู่หรือหลอกเด็ก
ควรหยุดได้แล้ว ควรพูดให้เด็กเข้าใจ
(ยิ่งเด็กสมัยนี้ถ้าพอหรือแม่มีสัมผัสมา สายตาจะดี
กว่าปกติ อย่าไปบอกว่าไม่มีอะไร อย่าไปว่าเค้าว่าตาฟาดคิดมากไป
ควรหาเหตุผลที่อธิบายตามหลักพุทธศาสนา)
แต่ถ้าเริ่มพอมีความเข้าใจ เริ่มชิน(หมายถึงเจอบ่อยๆ)หรือว่าเริ่ม
เข้าใจว่าเค้าก็เหมือนเราแค่ไม่มีกาย ซักวันเราก็อาจเหมือนเค้าได้
และคุ้นเคยกับเรื่องการดูการปรุงแต่งของใจ ก็มักจะเคยชินและไม่ค่อยกลัวแระ...

แต่ถ้าเจอประเภทท่านๆ ที่มีฤิทธิ์ มี บารมีมาก แม้ว่าท่านเหล่านั้นจะมีเมตตา
แต่ว่าจะมีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนจากความกลัวเป็นความเกรงที่มันจะออกมาจากจิต
เราเอง ส่วนตัวเรียกว่า บารมีจากดวงจิตนั้นๆ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้คือสร้างเอง
ของดวงจิตใครดวงมัน. ยกตัวอย่างเช่น ๑ ใน ๔ ท่านที่ทำหน้าที่ดูแลทิศต่างๆ
แม้ท่านจะมีเมตตาแต่สมมุติว่าท่านปรากฏให้เห็น จิตเราจะมีความยำเกรงบารมีทันที
หรือแม้กระทั่งภูมิอย่างพยานาคถ้าปรากฏให้เราเห็นจริงๆเราก็จะเกรงในฤิทธิ์ที่ท่านมี
ที่พูดหมายถึงการเห็นในระดับตาเปล่านะครับ...

แต่ถ้าเราอยากเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมทางด้านภพภูมิ..
เวลาไปไหน พักที่ไหน ก็ให้อุทิศส่วนกุศลให้เทพเทวดาเจ้าที่
เจ้าทางระหว่างเดินทาง เทพเทวดาอากาศบริเวณนั้น
หรือผู้เป็นใหญ่ผู้ดูแลบริเวณนั้น นอกจากจะเป็นการฝึกเมตตา
ในตัวเราให้มีมากขึ้น เรายังได้ในเรื่องการลดละความตระหนึ่ถี่เหนียว
เพิ่มความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่ว่าต่อคนด้วยกันหรือสัตว์ต่างๆ
ไปไหนก็ปลอดภัย ตกน้ำไม่ไหล(ถ้าน้ำตื่น)
ตกไฟไม่ไหม้หมด(แต่ตายแต่ถ้าไหม้นาน ๕๕๕) อะล้อเล่น..
หมายถึง ไปไหน นอนหลับสบาย ปลอดภัย เหมือนมีคนคอย
ดูแลทรัพย์สินเราให้ปลอดภัย เสมือนมีอีกภูมิคอยเป็นผู้ดูแลให้...
ใครที่เริ่มมีผู้ดูแล ถ้าเห็นได้ตอนครึ่งหลับครึ่งตื่น
ไม่ว่าจะเป็นท่านใดก็ตามที่มีหน้าตรงนี้
เราจะเห็นในระดับต่ำกว่าหัวไหล่เราหน่อย
แต่ว่าสูงกว่าเอวเรานั้นหละครับ
คือ แม้หน้าไม่ยิ้มแต่เราจะเห็นรอยยิ้ม
ที่มาจากข้างใน หรือไม่ก็เหมือนกำลังมอง
ดูโน้นนั้นนี่รอบๆตัวอยู่ครับ
เล่าให้ฟัง เพื่อใครจะพอสังเกตุได้บ้าง
หรือสำหรับใครที่จะเจอในอนาคตอันไกลนี้ (^_^)
ปล แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง

 

ใช่เลยคับคุณนพ...ขอเล่าประสบการณ์ที่เจอมานะคับเมื่อสามปีที่แล้วได้ไปเที่ยวบ้านน้องที่จังหวัดนึงแถวติดแม่น้ำโขง เลยชวนกันข้ามไปเที่ยวฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยข้ามเรือไปพอขึ้นเรือก็เลยอุทิศบุญกุศลให้กับเทพพรหมเทวดา พญานาคที่อยู่ที่แม่น้ำโขง พอขากลับก็รู้สึกเหมือนมีอะไรตามติดมาด้วย พอกลับมาถึงบ้านน้องช่วงบ่ายๆรู้สึกเหนื่อยเลยไปนอนจนรู้สึก เคลิ้มๆ...รู้สึกตัวเหมือนมีคนยืนอยู่ข้างๆเลยลืมตามองเห็นผู้ชายใส่โจงกระเบนสีเขียว ไม่ใส่เสื้อใส่แต่สร้อยอะไรไม่รู้เต็มตัวไปหมด ยืนมองผมอยู่
แต่ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร ส่วนตัวผมรู้สึกกลัวแต่ตัวขยับอะไรไม่ได้ จึงได้แต่นอนมองอยู่อย่างนั้น ก็เลยหลับตาแล้วลืมตาขึ้มใหม่ก็ยังเห็นอยู่ เลยอุทิศบุญกุศลไปให้ท่าน และขอบคุณท่านที่เมตตาดูแลผม เพราะตอนจะขึ้นเรือ
คนขับเรือก็ไม่มีเสื้อชูชีพให้ใส่และผมก็ว่ายน้ำไม่เป็นก็เลยขอให้ผู้ที่ดูแลแม่น้ำโขงช่วยคุ้มครองตัวผมและคนบนเรือด้วย ก็เลยคิดว่าท่านคงตามมาส่งคับ แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านคือใคร ก็เลยคิดว่าเหมือนที่คุณนพบอกเลยว่าถ้าเห็นจะอยู่บริเวณช่วงข้างลำตัว

 

เล่าให้ฟังแบบขำๆเนาะ เฉพาะกรณีนี้นะครับ
คุณ platongtae
สร้อยน่าจะเป็นสร้อยที่แขวนลูกแก้วบารมี
ที่เกิดจากการนั่งสมาธิจนเกิดเป็นลูกแก้ว
แต่ถ้ามาสไตล์จงกระเบนเขียวด้วย เอกลักษณ์คือ
จะมีสร้อยอยู่เส้นหนึ่งที่เป็นแบบพาดข้างลำตัวด้วยครับ
นอกจากสร้อยที่มีหลายๆเส้นแล้วดูกว้างจากคอลงมา
และหน้าตาคือจะดูเรียวโดยเฉพาะที่แก้มลงมาที่คาง
และอาจมองดูว่าออกขึมๆหน่อย (จริงๆเพราะฤิทธิ์ที่ท่านมีจะ
แสดงความชัดเจนที่สุด
ตรงบริเวนใบหน้าถึงลำคอ) ตรงนี้
อาจเป็นเหตุให้สังเกตุเห็นความต่าง
ของสีผิวระหว่างลำคอใบหน้าอาจจะเข้มกว่าช่วงตัวท่านลงมาได้ครับ
ส่วนเรื่องเมตตาชอบช่วยเหลือมีเป็นปกติ
เพราะมีฐานจากการปฎิบัติธรรมมาก่อนเป็นทุนเดิมครับ
เทียบคล้ายมนุษย์แบบธรรมะทำโม อะไรอย่างงี้ครับ
ปล.แค่เล่าให้ฟังเล่นๆนะครับ ฟังหูไว้หูก็พอครับ

 

ขอถามหน่อยนะคับคุณนพ ว่าท่านเป็นใครครับ

 

คาดว่านะครับ คุณ palongtae
ฟังหูไว้หูนะครับ...
เป็นภูมิพยานาคเพราะเหมือนว่ามีอีกร่างที่คล้ายงูครับ
สมมุติๆว่าเรื่องเรื่องเล่านะครับ..
เวลาที่เห็นคนจะกลายเป็นพยานาคเนี่ย..
ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆแล้วจะกลายเป็นร่างคล้ายงูแล้ว
เราเห็นอยู่ที่พื้นนะครับ แต่ว่าจะเปลี่ยนเป็นร่างคล้ายงู
เริ่มจากที่บริเวณศรีษะก่อนครับ จึงเสมือนว่าเลื้อย
กลางอากาศได้ประมาณนี้พอเข้าใจนะครับ..

และที่มีฐานจากการเคยเป็นคนชอบปฏิบัติธรรมมาก่อน
มีเมตตาช่วยเหลือคนเป็นทุนในลักษณะรักษาคนได้
และเคารพในพระพุทธศาสนา
แต่ในการปฏิบัติธรรมนั้น ผลของการปฏิบัติแนวที่ช่วยเหลือรักษาคนได้
ทำให้มีฤิทธิ์ติดมาร่วมด้วยแต่ไม่ได้แบบฟูลออฟชั่น
เหมือนบางกลุ่มที่เด่นมากทางฤิทธิ์เลยนะครับ..
คือมีทั้งฤิทธิ์และความสามารถในการรักษา
ส่วนถ้าสีผิวที่ดูคล้ำจะบ่งบอกว่า มีความสามารถ
ในการป้องกันตนเองร่วมด้วยพอตัวครับ...

สมมุติอีกนะครับ ย้ำว่าสมมุตินะครับ
เอาวะไม่ได้เจอนานแระ วันนี้นึกครึ้มอยากขอ
เจออีกซักรอบหน่อยนะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
เพื่อจะได้ทำบุญขอบพระคุณอีกซักครั้ง
ให้ลองนึกในใจ เรียกชื่อว่า
ท่านสถิตย์นาคาดูนะครับ ย้ำว่าสมมุติ(^_^)
พอขำๆเน้อ...
ปล ฟังหูไว้หูนะครับ

 

เคยฝันเห็นหญิงผมยาววๆแต่ท่อนล่างเป็นเกร็ดคล้ายงูสีเขียวๆ 2 ครั้งค่ะไม่รู้เป็นใครกันแน่ค่ะ

 

ไม่แน่ใจว่า คุณ ubon2555
ถามแบบเจาะจงใครหรือเปล่า
ถ้าไม่หรือใครตอบก็ได้
ส่วนตัวขออนุญาตเล่าให้ฟังแบบเล่นๆนะครับ
ก็ไม่ควรยึดถืออะไรมาก
แค่พอขำๆ จริงหรือเป่าก็ไม่รู้..
คือ เป็นลักษณะที่มาคอยช่วยปกป้องภัยอันตราย
ในระดับการป้องกันที่ดีเลยหละครับ..
ระดับนี้ หมอผงหมอผี ร่างทรง พวกเลี้ยงผี
พวกถูกผีแทรกภูมิอสูรกาย กลุ่มที่เล่ามา
ที่มีนิสัยออกเชิงไม่ดีเหล่านี้ รับรองว่า
ไม่ได้กินหรือทำอะไรไม่ได้แน่นอน.
ที่ช่วยเพราะว่าถูกคอแบบส่วนตัวทางด้านนิสัย เพราะเค้ามี
นิสัยแบบคนใจนิ่งๆ อธิบายลำบากหน่อยคับ
คือเหมือนเฉยๆได้กับทุกเรื่อง(คล้ายๆคนไม่เรื่องมาก)
ประมาณนี้หละครับ ถ้าอยากเจอลองนึกชื่อ
สะหัส สะวาดี (ออกเสียงประมาณนี้ครับ)
ปล เป็นแค่เพียเรื่องเล่านะครับ พอขำๆ

 

เหมือนเป็นยูนิฟอร์มมาตรฐาน เลยครับ