ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. ไทร

    ไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +771
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2008
  3. LuckyFriday

    LuckyFriday เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,153
    ฤาษีกลับชาติมาเกิดใส่แว่นตาด้วย..จุ๊ๆอย่าเอ็ดไป..ยิ้มละไม
     
  4. The_Toilet

    The_Toilet สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    ถ้าเกิดจริง ขอยกมือตายก่อนคนแรก ..อยู่ไม่ไหวแล้วสยามประเทศ ขอชิงตายเอาตัวรอดก่อนดีกว่า
     
  5. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">พายุกระหน่ำแพร่ 2 อำเภอ 200 หลังคาเรือนเสียหาย [17 มี.ค. 51 - 02:00]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 มี.ค.) เกิดพายุพร้อมลูกเห็บตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ อ.ร้องกวาง และ อ.สอง จ.แพร่ สร้างความเสียหายให้ทั้งบ้านเรือนประชาชน และทรัพย์สินของราชการ โดยบนถนนสายร้องกวาง-งาว ระหว่างบ้านแม่ยางร้องกับบ้านแม่ยางฮ้อ มีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนน ส่งผลให้เกิดปัญหารถติดเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เลื่อยโซ่ตัดต้นไม้ใหญ่ที่ล้มขวางทาง เพื่อให้รถสัญจรไปมาได้ตามปกติ ขณะที่บริเวณบ้านหมู่ 1-6 ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง มีบ้านเรือนเสียหายเกือบ 200 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่หลังคาถูกลมพัดปลิวเสียหาย ต้นไม้ใหญ่เช่นมะม่วง ต้นสักโค่นล้มจำนวนมาก ที่วัดแม่ยางเปรี้ยว พบลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมาใส่หลังคากุฏิเสียหาย ไร่ข้าวโพดหลายสิบไร่ถูกพายุพัดล้มเกือบทั้งหมด <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้จังหวัดแพร่สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และพัฒนาสังคมเร่งให้การช่วยเหลือทันที เนื่องจากคาดว่ายังมีผู้ได้รับผลกระทบจากพายุลูกเห็บในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งขอกำลังทหาร อาสาสมัครและตำรวจเฝ้าระวังตามหมู่บ้านต่างๆ ในคืนนี้ เนื่องจากหลายแห่งไฟดับ อาจมีแก๊งมิจฉาชีพออกลักทรัพย์ประชาชนที่ได้รับความเสียหายซ้ำเติมอีก<o:p></o:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.เตือนภัยไข้เลือดออก เผย 2 เดือนมีคนป่วย 5 พันราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 มีนาคม 2551 11:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> กระทรวงสาธารณสุข เผย จำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกปีนี้ พุ่งขึ้นสูงกว่าปีที่แล้วร้อยละ 77 ในรอบ 2 เดือนเศษปี 2551 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยแล้วกว่า 5,000 ราย เสียชีวิต 7 ราย กว่าร้อยละ 80 เป็นเด็กโต แนะหากเป็นไข้ห้ามซื้อยาแก้ปวดลดไข้อย่างแรงกินเด็ดขาด เนื่องจากทำให้เลือดออกง่ายเสียชีวิตง่ายขึ้น ชี้ ขณะนี้ “ยุงลาย” พัฒนาตัวเอง สามารถซ่อนตัวในรถยนต์นำเชื้อไปแพร่ถิ่นอื่นได้ กำหนดรณรงค์เอ็กซเรย์กวาดล้างลูกน้ำยุงลายพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 20-27 มีนาคมนี้

    นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และประสบปัญหาโลกร้อนขึ้น ทำให้ยุงลายซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้ประชาชนทุกวัยมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกยุงลายกัด และป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก

    จากการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2551 ในรอบ 10 สัปดาห์ ตั้งแต่เดือนมกราคม-วันที่ 8 มีนาคม ทั่วประเทศมีรายงานผู้ป่วยแล้ว 5,837 ราย เสียชีวิต 7 ราย จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงกว่าช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 77 พบในภาคกลางมากที่สุด 3,669 ราย เสียชีวิต 6 ราย รองลงมา คือ ภาคใต้ ป่วย 1,015 ราย เสียชีวิต 1 ราย ภาคเหนือป่วย 655 ราย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือป่วย 498 ราย ส่วนในกทม.พบป่วย 1,037 ราย ยังไม่มีรายงานเสียชีวิต เมื่อแยกเป็นรายจังหวัด จังหวัดที่มีอัตราป่วยมากที่สุด 10 จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง ป่วยแสนละ 53 คน กระบี่แสนละ 36 คน ภูเก็ตแสนละ 27 คน ราชบุรี แสนละ 25 คน สมุทรปราการ แสนละ 25 คน สมุทรสาคร แสนละ 24 คน นครปฐม แสนละ 21 คน พระนครศรีอยุธยา แสนละ 21 คน ระยอง แสนละ 21 คน และประจวบคีรีขันธ์ แสนละ 21 คน

    นายไชยา กล่าวต่อว่า ในการควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออก ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ รณรงค์ทำลายลูกน้ำยุงลาย ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามจานรองกระถางต้นไม้ ภาชนะน้ำใช้ ภาชนะที่ไม่ได้ใช้และมีน้ำขัง จานรองขาตู้กับข้าว แจกัน ให้เทน้ำทิ้งหรือทำลายลูกน้ำทุก 7 วัน เพื่อตัดวงจรลูกน้ำไม่ให้กลายเป็นตัวยุงให้ได้มากที่สุด โดยเร่งให้กำจัดทุกอาทิตย์เน้นหนักในเดือนมีนาคมและเมษายน โดยเฉพาะ 10 จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงที่สุด จะต้องเร่งควบคุมการระบาดโดยเร็วที่สุด โดยกำหนดวันรณรงค์เอ็กซเรย์ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 20-27 มีนาคม 2551 โดยระดมพลังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.กว่า 8 แสนคน ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนทุกหลังคาเรือน ถือเป็นการระดมพลกวาดล้างยุงลายครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ

    ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการวิเคราะห์จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกในปีนี้ พบว่าพบในกลุ่มเด็กโตอายุมากกว่า 10 ปีมากขึ้นจนถึงวัยผู้ใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนคาดไม่ถึง ว่า ติดเชื้อไข้เลือดออก อาการของโรคไข้เลือดออกจะเริ่มต้นด้วยไข้สูงติดต่อกัน อ่อนเพลีย ไม่มีน้ำมูก เมื่อมีอาการป่วย มีไข้ มักจะไปซื้อยากินเอง โดยเฉพาะยาแก้ปวดลดไข้ชนิดฤทธิ์แรง เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ซึ่งหลังกินแล้วจะทำให้อาการดีขึ้น จะต้องระวังห้ามกินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร เลือดออกไม่หยุดเสียชีวิตง่ายขึ้น ยาที่แนะนำให้กินเพื่อลดไข้คือ พาราเซตามอล แต่ควรกินไม่เกิน 2 วัน หากไม่ดีขึ้นขอให้ไปพบแพทย์ โดยเร็ว

    “ได้เน้นย้ำให้แพทย์ที่รักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลทุกแห่ง ทั้งแพทย์เด็กและแพทย์ผู้ใหญ่หรืออายุรแพทย์ เมื่อพบผู้ที่มีไข้สูงทุกราย ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออกไว้ด้วย เพื่อให้การรักษาได้อย่างถูกต้อง ทันท่วงที” นายแพทย์ปราชญ์ กล่าว

    ทางด้านนายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อไข้เลือดออกที่พบในปีนี้มีสัดส่วนเป็นสายพันธุ์ที่ 3 มากขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่พบการระบาดในประเทศกัมพูชาในปีที่ผ่านมา สายพันธุ์นี้ทำให้เกร็ดเลือดต่ำ เลือดจะออกง่าย พื้นที่เกิดโรคเปลี่ยนจากภาคใต้มาเป็นภาคกลาง จะต้องเร่งกำจัดลูกน้ำยุงลายให้หมดโดยเร็ว ก่อนที่จะถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากยุงลายมีการพัฒนาตัวเอง สามารถบินเข้าไปหลบซ่อนอยู่ตามรถยนต์ เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนจะเดินทางกลับบ้านไปยังภาคต่างๆ ก็อาจจะนำเชื้อไปแพร่สู่คนอื่นๆ

    ขณะเดียวกัน ยุงอาจติดรถยนต์และเดินทางเอาเชื้อออกไปแพร่ถิ่นอื่นได้ เมื่อยุงที่มีเชื้อไข้เลือดออกไปกัดคนอื่นก็จะเอาเชื้อไปแพร่ด้วย ฉะนั้นจึงขอแนะนำประชาชน ขอให้ปิดประตูรถให้สนิท อย่าเปิดประตูรถทิ้งไว้ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    ลาซาตึงเครียด! ใกล้เส้นตายเที่ยงคืน
    จีนเตรียมจัดการเหตุไม่สงบทิเบตวันนี้
    17 มี.ค.- รัฐบาลจีนเตรียมจัดการกับการก่อเหตุไม่สงบของชาวทิเบตในวันนี้หลังจากใช้กำลังปราบปรามการประท้วงในเมืองลาซา มีผู้เสียชีวิตมากถึง 80 คนตามที่กลุ่มพลัดถิ่นทิเบตกล่าวอ้าง กลุ่มชาวทิเบตในหลายประเทศ ร่วมกันประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีน และเรียกร้องให้คว่ำบาตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จีนจะเป็นเจ้าภาพ

    ตำรวจจีนรักษาความปลอดภัยในเมืองลาซา เมืองเอกของทิเบตของเข้มงวด สถานการณ์ตกอยู่ในความตึงเครียดเพราะใกล้เส้นตายที่ทางการจีนขีดไว้ให้กลุ่มผู้ประท้วงมอบตัวภายในเที่ยงคืนวันนี้ รัฐบาลจีนขอให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางออกจากทิเบตและยืนยันว่าได้ระงับการอนุญาตให้เข้าไปเที่ยวทิเบตเป็นการชั่วคราว ด้านนายโดเจ เซจัก นายกเทศมนตรีเมืองลาซาซึ่งขณะนี้อยู่ที่กรุงปักกิ่งกล่าวในเว็บไซต์ของทางการทิเบตว่า สถานการณ์ในทิเบตโดยรวมขณะนี้ถือว่าดีมาก
    ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เมื่อวานนี้ที่มณฑลเสฉวนของจีน ชาวทิเบตกลุ่มนี้ได้ขว้างระเบิดเพลิงเผาสถานีตำรวจและตลาด ส่วนที่มณฑลกานซู ผู้ประท้วง 300-400 คน ถือภาพดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณขณะเดินขบวนไปทำลายอาคารที่ทำการรัฐบาล จุดไฟเผาร้านค้าของจีน ขณะที่นักศึกษาทิเบต 100 คน ปักหลักประท้วงในมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสต์ ไมนอริตี้ในเมืองหลานโจว เมืองเอกของมณฑลกานซู
    ในขณะที่กลุ่มชาวทิเบตราว 250 คน ในเบลเยียม ร่วมกันประท้วงที่หน้าสถานทูตจีนในกรุงบรัสเซลส์ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม หลังจีนใช้ความรุนแรงสลายกลุ่มผู้ประท้วงในทิเบต จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่การประท้วงก็เป็นไปอย่างสันติ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    นอกจากนี้ ยังมีการประท้วงตามเมืองใหญ่อีกหลายแห่งของยุโรป เช่น ที่กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ มีรายงานว่า ผู้ประท้วงราว 400 คน พยายามจะบุกเข้าไปในสถานทูตจีน และนำธงชาติของจีนลงจากยอดเสา แล้วนำธงของทิเบตไปแขวนแทน ก่อนที่จะถูกตำรวจสกัดกั้นออกมา
    ส่วนที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส ชาวทิเบตราว 500 คน ออกมาประท้วงอย่างสันติเช่นกัน นอกจากการร้องขอความเป็นธรรมเป็นแล้ว ผู้ประท้วงในหลายประเทศยังต้องการให้นานาชาติร่วมกันคว่ำบาตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จีนจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้ด้วย. -สำนักข่าวไทย
     
  8. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    จีนยืนยันพบการระบาดของเชื้อไข้หวัดนก
    <OBJECT type=application/x-shockwave-flash height=260 hspace=10 width=320 data=../flvplayer.swf?file=http://news.mcot.net/flvvdo/8037.flv&autostart=true&showfsbutton=true align=left vspace=5 wmode="transparent"><embed src="../flvplayer.swf?file=http://news.mcot.net/flvvdo/8037.flv&autostart=true&showfsbutton=true" loop="false" width="320" height="260" allowScriptAccess="sameDomain" type="application/x-shockwave-flash" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" /></OBJECT>จีน 17 มี.ค. กระทรวงเกษตรของจีนยืนยันว่า พบการระบาดของเชื้อไข้หวัดนก จนทำให้ต้องฆ่าสัตว์ปีกในตลาดค้าสัตว์ปีกหลายแห่ง ในนครกว่างโจว

    ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ของปีนี้ ที่พบการระบาดของไวรัสเอช 5 เอ็น1 ในจีน โดยในเว็บไซต์ของกระทรวงเกษตรจีน ระบุว่า การระบาดของไวรัสไข้หวัดนกเมื่อสัปดาห์ก่อนในนครกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีน ได้ทำให้สัตว์ปีกตาย 114 ตัว และต้องฆ่าสัตว์ปีกอีก 518 ตัว
    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว เฉพาะปีนี้ มีผู้เสียชีวิตด้วยไข้หวัดนกในจีนแล้ว 3 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดนกในจีนอยู่ที่ 20 คน นับตั้งแต่พบการระบาดของไข้หวัดนกในเอเชียเมื่อปลายปี 2546.- สำนักข่าวไทย
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ในปีนี้ ข้าวกำลังหายากและมีราคาแพงมาก !!!

    เวียดนามหยุดส่งออกข้าวตลาดโลกป่วนอีก
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 มีนาคม 2551 23:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 6 มี.ค. ร้านชำแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์ มีข้าวสารหลากหลายคุณภาพจำหน่าย ปีนี้ไทยกับเวียดนามซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 และ 2 ของโลกต่างทำเงินทำทอง ข้าวขาว 5% ในกรุงเทพฯ ราคาพุ่งกว่า 500 ดอลลาร์ต่อตัน ที่โฮจิมินห์ก็ไม่ต่างกัน (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผู้จัดการรายวัน-- สมาคมอาหารเวียดนามได้ให้ผู้ส่งออกหยุดเซ็นสัญญาจำหน่ายข้าวกับลูกค้าในต่างแดนเป็นการชั่วคราว ขณะที่ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งไม่หยุด ข้าวเกรดดี 5% ราคาทะลุถึง 550 ดอลลาร์ต่อตัน และ สมาคมฯ กำลังจะประกาศกฎระเบียบใหม่ควบคุมการส่งออกให้รัดกุมยิ่งขึ้น

    ปัญหาสำคัญคือ เงินดอลลาร์ที่ยังอ่อนค่าลงเรื่อยๆ เทียบกับเงินด่ง ทำให้ผู้ส่งออกจำนวนหนึ่งที่รีบเซ็นสัญญาขายข้าวเดือนที่แล้วต้องขาดทุน สื่อของทางการรายงานเรื่องนี้โดยอ้างการเปิดเผยของคนในวงการ

    นายฝ่ามวันไบ (Pham Van Bay) ผู้อำนวยการบริษัทอาฟิเอ็กซ์ (Afiex) ใน จ.อานยาง (An Giang) กล่าวว่า เป็นความผิดพลาดอีกครั้งที่ผู้ส่งออกจำนวนหนึ่งรีบขายข้าวในช่วงที่เงินด่งยังไม่แข็งค่ามากเช่นในขณะนี้​

    ค่าดอลลาร์ที่ผันผวนทำให้ผู้ส่งออกรายหนึ่งขาดทุนไปราว 11,000 ล้านด่ง (ราว 689,000 ดอลลาร์) จากการรีบเซ็นขายข้าวไปก่อนหน้านี้​

    นายวันไบกล่าวกับสำนักข่าวเวียดนามเน็ตว่า ปัจจุบันผู้ส่งออกกำลังออกกว้านซื้อข้าวเปลือกจากชาวนานำไปสี บรรจุถุงเตรียมหาจังหวะจำหน่าย ภายใต้การควบคุมของสมาคมอาหารเวียดนาม หรือ VietFood (Vietnam Food Association)​

    นางเหวียนถิเงวียต (Nguyen Thi Nguyet) เลขาธิการ VietFood กล่าวว่าไม่เพียงแต่ค่าดอลลาร์อ่อนลงเรื่อยๆ เท่านั้น ธนาคารพาณิชย์ยังกำจัดการปล่อยสินเชื่ออันเป็นผลจากการที่รัฐบาลออกหลายมาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้อที่มีอัตรา 15% ในเดือน ก.พ.​



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 6 มี.ค. 2551 คุณยายกำลังคัดเมล็ดข้าวที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์ ปีนี้ประเทศต่างๆ ที่นำเข้าข้าวทั่วโลกต้องจ่ายแพงขึ้น ขณะที่มีความต้องการมากขึ้น สำหรับเวียดนามระบบการจำหน่ายข้าวทำให้ชาวนาได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สมาคมฯ จะประกาศใช้กฎระเบียบเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ รวมทั้งข้อหนึ่งที่จะบังคับให้ผู้ส่งออกทุกรายต้องมีสต๊อคข้าวอย่างน้อย 70% ของปริมาณที่จะส่งออกได้ จึงจะสามารถเซ็นสัญญาได้

    ตามรายงานของสมาคมฯ ข้าวเปลือกที่ซื้อจากชาวนาในจังหวัดเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงสัปดาห์ที่แล้วราคา 4,500-4,600 ด่ง (ราว 11-12 บาท) ต่อกิโลกรัม ซึ่งชาวนามีกำไรครึ่งต่อครึ่งเมื่อหักต้นทุนการผลิตออก แม้ว่าราคาปุ๋ยกับราคาน้ำมันจะสูงขึ้นก็ตาม​

    ราคาข้าวส่งออกในเวียดนามสูงขึ้น 50-53% ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.พ.เป็นต้นมา เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2550​

    ข้าวปนเมล็ดหัก 5% ที่ท่าเรือนครโฮจิมินห์กับในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง พุ่งขึ้นเป็น 550 ดอลลาร์ต่อตัน จาก 480 ดอลลาร์ต่อตันในสัปดาห์ต้นเดือน มี.ค. กระทั่งข้าว 25% ที่เป็นข้าวคุณภาพต่ำสุดราคาก็ยังพุ่งขึ้นเป็น 520 ต่อตัน จากตันละ 450 ดอลลาร์ต้นเดือนนี้​

    สื่อของทางการเวียดนามกล่าวว่าในสิ้นเดือน ก.พ.ราคาข้าว 5% ของไทยสูงถึง 500 ดอลลาร์ต่อตัน ไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก ขณะที่เวียดนามตามห่างๆ เป็นอันดับ 2​

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 6 มี.ค.2551 เช่นเดียวกัน คนงานที่โกดังแห่งหนึ่งในกรุงมะนิลากำลังขนข้าวเข้าเก็บ2 เดือนแรกฟิลิปปินส์ได้รับข้าวจากเวียดนามแล้วราว 381,000 ตันฟิลิปปินส์อาจจะต้องนำเข้าถึง 2.4 ล้านตันในปีนี้ ข้าวกำลังหายากและมีราคาแพงมาก </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม กล่าวว่าราคาข้าวยังจะพุ่งต่อไปตลอดเดือน มี.ค. เนื่องจากประเทศผู้นำเข้ายังมีความต้องการสูง ขณะที่เชื่อว่าทั้งไทยและเวียดนามจะผลิตข้าวได้น้อยลงในฤดูเก็บเกี่ยวที่ผ่านมา

    นายวันไบกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกได้หยุดการติดต่อกับลูกค้าในต่างแดนเป็นการชั่วคราวตามคำแนะนำของสมาคมฯ เนื่องจากยังไม่สามารถคำนวณราคาเสนอขายที่เหมาะสมได้ และเชื่อว่าราคาในตลาดโลกจะยังพุ่งขึ้นสูงต่อเนื่อง​

    ในปัจจุบันผู้ส่งออกเวียดนามกำลังพยายามส่งข้าวให้แก่ฟิลิปปินส์ให้ครบตามยอดที่เซ็นสัญญาจำหน่ายไปก่อนหน้านี้​

    ตามตัวเลขของ VietFood ถึงบัดนี้เวียดนามส่งมอบข้าวให้แก่ฟิลิปปินส์แล้วรวม 381,000 ตันมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 47% ในเชิงปริมาณและ 78% ในเชิงราคา เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว​

    สื่อในเวียดนามรายงานก่อนหน้านี้ว่าในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. มีการเซ็นสัญญาจำหน่ายข้าวไปแล้วราว 700,000 ตัน แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขจาก VietFood.​

    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000032121
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2008
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ความฝันจากเพื่อนๆ ชาวเว็บพลังจิต

    [​IMG]

    ipec<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1040999", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เช้านี้(15 มี.ค.51) ตื่นมาตอน 4.20 ฝันไปว่า เห็นกระแสน้ำท่วม ไหลมาเร็วและแรงมาก ตัวเองยืนอยู่บนสะพานที่สูงมากมองเห็นว่ากระแสน้ำ มันไหลมาจากไกล ข้างล่างน้ำเริ่มท่วมแต่ยังไม่ถึงข้างบน ... ก็เห็นคนขับรถหนีกระแสน้ำกันจำนวนมาก ในฝันได้ยินเหมือนมีเสียงพูดว่า ที่พิษณุโลกเหลือที่ ม.นเรศวร และสักครู่ก็ฝันเห็นกลุ่มเพื่อนๆ เรากับเพื่อนก็ยังไม่ได้เดินทางหนี ได้เพียงมองดู ในที่สุดเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริง แล้วสักครู่ ผู้คนที่ขับรถเพื่อหนีน้ำก็หนีไป

    รถที่เหลือบางคันก็รับผู้คน ในฝันรู้สึกว่ามีรถคันหนึ่งว่าง และเรากับเพื่อนก็ได้ขึ้นรถ ในใจก็นึกถึงพ่อแม่ขึ้นมา เมื่อโทรถาม แม่ก็บอกว่าก่อนหน้าที่เราจะโทรมาแม่ได้ตักบาตร และพอดีมีรถผ่านมาเขารับแม่ขึ้นรถมาไม่รู้ว่าจะไปไหน ในฝันเราก็มีความจำดีอยู่ ก็เลยบอกว่า จำได้ว่า เขาบอกว่า อย่างน้อยให้ไปถึงแถวปากช่อง โคราช .... รวมความฝันที่จำได้ก็ประมาณนี้ค่ะ แต่ที่ฝันนั้นก็เห็นภาพชัดมากในเรื่องที่กระแสน้ำไหลมา ดูน่าตกใจจริงๆ พอตื่นมาก็รู้สึกเหนื่อย ตอนพิมพ์นี้ยังรู้สึกหัวใจเต้นแรงเหนื่อยๆ อยู่เลย แต่ก็รู้สึกเบาขึ้นนิดแล้ว


    [​IMG]


    Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1041092", true); </SCRIPT> สมาชิก

    16 มี.ค.51- ฝันเห็นน้ำท่วมเหมือนกันครับ ฝันว่าดูข่าวในทีวีบอกว่า"ที่กาญจนบุรี" น้ำมาจากไหนไม่รู้ (สงสัยเขื่อนแตก) ไหลบ่าลงมาท่วมไปหมดความรู้สึกผมบอกว่าที่กาญจนบุรีนั้นคือบ้านผม ผมกลับไปเก็บของไม่ทันเลย

    คุณแม่ผมก็อยู่ที่โน่นด้วย (ในฝันนะ) ก็พอแค่ละสายตาออกมาจากทีวีเท่านั้นแหละมองไปหลังร้านที่เปิดทีวีเมื่อกี้ ซึ่งเป็นแม่น้ำ ก็เห็นน้ำบ่ามาท่วมไปหมด ผมก็เลยถูกน้ำพาไปเลย

    จากนั้นฉากก็กลับมาเป็นเหมือนผมเป็นผู้ดูแทน ก็เห็นภาพและเสียงอธิบายว่า
    เมื่อวันที่ 26 เมษายน (ปีไม่ชัดหรือเขาไม่บอกหรือจำไม่ได้ก็ไม่รู้) ที่ผ่านมา
    ที่มีคำทำนายว่าน้ำจะท่วมที่กาญจนบุรีนั้น จริงๆมันก็จะท่วมแหละ แต่เพราะมีผู้ไปทำพิธีสกัดกั้นเอาไว้

    เขามีภาพถ่ายเป็นหลักฐานมาโชว์ด้วย เป็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง มีผู้หญิงเป็นหัวหน้าได้ไปทำพิธีกลางสายฝน ที่สนามกีฬาอะไรสักอย่าง เพื่อให้เหตุร้ายบรรเทาลงไป


    [​IMG]

    Famnakub<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1041590", true); </SCRIPT> สมาชิก

    16 มี.ค.51 - กังวลกับความรู้สึกมาหลายวัน โพสหรือไม่โพสดี? เอาเป็นว่าเป็นละครละกันนะ

    ฉากที่ 1 ผู้คนมากมายยังอยู่นอกบ้านจับจ่ายซื้อของ...."อ้าว! ฝนตกหรือ ไม่เป็นไรฝนหยุดค่อยกลับบ้าน"

    ฉากที่ 2 ฟ้าเริ่มมืด ฝูงชนบางส่วนเริ่มฝ่าสายฝนกลับบ้าน

    ฉากที่ 3 ร้านค้าเริ่มปิด ฝูงชนมาออกันอยู่บริเวณชายคา และป้ายรถเมล์ ฝน
    ยังไม่หยุด น้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พ่อ แม่บางส่วนฝ่าสายฝนมารอลูกหน้าปากซอย ป้ายรถ กังวล....

    ฉากที่ 4 น้ำไหลทะลัก ฝูงชนปีนขึ้นที่สูงเท่าที่ทำได้ หลังคารถที่จอดตายมีแต่คน บางส่วนตกจมลงไป บางส่วนเคาะเรียกร้านค้าขอขึ้นไปหลบภัยชั้นบน...แต่...ไร้คำตอบ ...เสียงหวีดร้องดังขึ้นเรื่อยๆ ฝนตก ฟ้ามืด น้ำทะลักแรง...

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=79471&page=63

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2008
  11. pvg

    pvg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>6องศาเซลเซียสเปลี่ยนโลกทั้งโลก

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER>[​IMG]</CENTER>


    หากโลกร้อนขึ้น0.8 องศาเซลเซียส จะเป็นอย่างไร คำตอบปรากฏอยู่บนจอวีดิทัศน์ขนาดยักษ์ฉายให้เห็นภาพหมีขาวโดดเดี่ยวอยู่บนก้อนน้ำแข็งไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรง ภูเขาน้ำแข็งทั่วโลกทลาย เกิดพายุเฮอริเคนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ฯลฯ


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    แล้วถ้าโลกร้อนขึ้นอีก1 องศาเซลเซียส ก่อนจะเพิ่มเป็น 2 องศาเซลเซียส และ 3 องศาเซลเซียส ภัยพิบัติทางธรรมชาติเหล่านี้จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

    เมื่อเพิ่มขึ้น4-5 องศาเซลเซียส มหานครใหญ่ๆ ของโลก เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน เซี่ยงไฮ้ หรือแม้แต่ กรุงเทพฯ และอีกหลายๆ เมืองทั่วโลกจะกลายเป็นเมืองบาดาลในชั่วพริบตา คลื่นมหาชนผู้ประสบภัยทั่วโลกจะเคลื่อนย้ายถิ่นฐานครั้งมโหฬาร <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    พอเพิ่มถึง6 องศาเซลเซียส นักวิทยาศาสตร์ไม่อาจคาดเดาได้อีกต่อไปว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์และโลกใบนี้ !?!
    เหล่านี้คือปฐมบทจากสารคดี"Six Degrees Could Change the World" หรืออุณหภูมิ6 องศาเซลเซียส เปลี่ยนแปลงโลก นำเสนอแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิทั้ง 5 ทวีป จัดทำโดยเนชั่นแนล จีโอ กราฟฟิก โดยมีแรงบันดาลใจจากหนังสือ "Six Degrees" ซึ่ง "มาร์ค ไลนัส" นักข่าวและนักอนุรักษนิยมชาวอังกฤษค้นคว้าบทความทางวิชาการหลายหมื่นชิ้น เพื่อเผยให้เห็นความน่าสะพรึงกลัวของอุณหภูมิโลกที่จะเพิ่มขึ้น 6 องศาเซลเซียส ในอีก 100 ปีข้างหน้า

    "สภาวะโลกร้อนไม่ได้หมายถึงแค่การเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ของอุณหภูมิโลก แต่จริงๆ แล้วมันคือการเปลี่ยนแปลงของระบบต่างๆ ในโลก นั่นเป็นเหตุผลให้เราได้เห็นทั้งความแห้งแล้งและน้ำท่วมในสถานที่ต่างๆ หรือแม้แต่การเกิดน้ำท่วมและสภาวะแห้งแล้งในพื้นที่เดียวกันอย่างต่อเนื่อง" ไลนัส วิทยากรสารคดีชุดนี้ เปรยขึ้น <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    ถ้าให้ทุกคนลองจินตนาการถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไลนัส อาจช่วยไขภาพความเป็นจริงของภาวะโลกให้เข้าใจง่ายขึ้น เพราะใครเลยจะคิดว่าสารพิษที่ปล่อยออกมาจากท่อไอเสียรถคุณวันนี้ จะทำให้ธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัยละลายในอีก 50 ปีข้างหน้าได้ !
    หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นอีก1 องศาเซลเซียส พื้นดินชั้นบางๆ เพียงไม่กี่เซนติเมตรที่ปกคลุมผืนทรายทางตะวันตกของอเมริกา จะแปรเปลี่ยนเป็นพายุฝุ่นที่มีความรุนแรง ซัดพาตะกอนดินปลิวหายไปในอากาศ หลงเหลือเพียงทะเลทรายอันแห้งแล้งในชั่วพริบตา

    ส่วนธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ในกรีนแลนด์อายุ1.5 แสนปี ก็กำลังละลายลงสู่ทะเล โดยเฉพาะแผ่นน้ำแข็ง "จาคอบชวาน" ในกรีนแลนด์เป็นแผ่นน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวเร็วที่สุดในโลก 40 เมตรต่อวัน หากอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส จะทำให้แผ่นน้ำแข็งละลาย เพียงแค่ 2 วันก็เท่ากับปริมาณน้ำที่ใช้ในเมืองนิวยอร์ก 1 ปี <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    ณ"สวิส แคมป์" ศูนย์วิจัยที่สร้างขึ้นกลางแผ่นน้ำแข็งขั้วโลก เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของ ดร.คอนราด สเตฟเฟนส์ ติดตั้งสถานีอากาศเต็มรูปแบบ 23 สถานี เพื่อวัดค่าสภาพอากาศทุก 15 นาที เพื่อป้อนข้อมูลแก่โมเดลภาวะโลกร้อนทั่วโลก นักวิจัยน้ำแข็งยังขุดสำรวจแผ่นน้ำแข็งในพื้นที่ต่างๆ และค้นพบลักษณะแปลกประหลาดและอันตรายที่สุดของแผ่นน้ำแข็ง
    แอ่งน้ำขนาดใหญ่ดั่งโอเอซีสกลางทะเลทรายแต่ที่นี่เป็นน้ำแข็งที่ละลายอยู่บนก้อนน้ำแข็งมหึมา และมีช่องทางให้น้ำไหลไปตามเส้นทางของมันทะลุทะลวงก้อนน้ำแข็งลึกไปยังแผ่นหินเบื้องล่าง จนเกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "มูแลง" โดยน้ำแข็งที่ละลายแล้วจะทำหน้าที่หล่อเลี้ยงแผ่นน้ำแข็งขนาดมหึมานั้น เป็นสาเหตุทำให้แผ่นน้ำแข็งเคลื่อนตัวสู่มหาสมุทรเร็วขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเคลื่อนตัวเร็วเท่าไร โอกาสที่แผ่นน้ำแข็งจะละลายเร็วก็มีมากขึ้นเท่านั้น

    เมื่อเวลานั้นมาถึง"หายนะ" ก็จะมาเยือนโลก !!! <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    หากแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายจะเพิ่มระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นประมาณ 7 เมตร ซึ่งมากพอจะท่วม ลอนดอน นิวยอร์ก เซี่ยงไฮ้ กทม. และอีกหลายๆ เมือง หากอุณหภูมิเพิ่มเป็น 2 องศาเซลเซียส นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเห็นพ้องต้องกันว่า มันเกินจะเยียวยาโลกแล้ว เพราะสมดุลธรรมชาติอันอ่อนไหว ตั้งแต่ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก จนจรดส่วนที่ลึกที่สูงของโลกมหาสมุทร จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
    "โอฟ เฮิก กัลต์เบิร์ก" นักชีววิทยาทางทะเลประจำมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เฝ้าติดตามความเปลี่ยนแปลงของปะการัง ซึ่งเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ถึง 2 ครั้ง ที่เกรทแบริเออร์รีฟ แหลมเคปยอร์ก รัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งปะการังใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการเรียกขานว่า "สิ่งก่อสร้างที่มีชีวิต" กำลังตกอยู่ในอันตรายจากน้ำทะเลที่อุ่นเกิน30 องศาเซลเซียส ปะการังเริ่มพ่นสาหร่ายที่จำเป็นต่อการยังชีพออกมา แล้วมันก็ล้มตายลง ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตกว่าล้านสายพันธุ์ที่หากินตามแนวปะการังล้มตายดั่งโดมิโน
    สัญญาณแห่งความตายจากชายฝั่งทะเลยังแพร่ปกคลุมไปถึงก้นทะเลลึกในมหาสมุทร ซึ่งเปรียบเสมือนอ่างเก็บกักคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตเล็กจิ๋วเพียงไม่กี่มิลลิเมตร อย่าง โฟแรม และคอดโคลิโธฟอร์ ต้องใช้ประโยชน์จากคาร์บอนไดออกไซด์ในทะเล เพื่อสร้างเปลือกและโครงกระดูกของมัน แต่เมื่อคาร์บอนไดออกไซด์มีมากเกินไป ก็ย้อนกลับมาทำลายชีวิตของมันเอง จากภาวะน้ำทะเลเป็นกรด ทำลายเปลือกและโครงกระดูก และไม่ว่าสัตว์ทะเลหน้าตาเป็นอย่างไร ตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ล้วนตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันหมด
    เมื่ออุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นเป็น3 องศาเซลเซียส "อะเมซอน" ผืนป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของโลก อาจจะกลายเป็นทุ่งหญ้าสะวันนา เมื่อช่วงฤดูร้อนปี 2548 อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1 องศาเซลเซียส อะเมซอนต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งผลให้แม่น้ำอะเมซอนสายที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห้งขอดจนมองเห็นผืนดิน ต่อจากนั้นก็เกิดไฟป่าเผาผลาญผืนป่า ทำลายแหล่งกำเนิดน้ำเป็นวงกว้างถึง 2,500 ตารางกิโลเมตร
    "ภาวะโลกร้อนกำลังนำหายนะมาสู่ป่าไม้ในภูมิภาคนี้" แดเนียล เนปสแตด ผู้ศึกษาผืนป่าอะเมซอนมา 25 ปี ระบุ
    และเมื่ออุณหภูมิโลกขยับขึ้นมาอีก4 องศาเซลเซียส ยอดเขา "หิมาลัย" ที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปีจะเหลือเพียงตำนาน แม่น้ำสายสำคัญที่เกิดจากเทือกเขาหิมาลัย โดยเฉพาะแม่น้ำคงคาจะถึงกาลอวสาน
    "ชวามี ซันดารานันต์" นักพรตวัย 80 ปี เคยบันทึกภาพธารน้ำแข็งต้นแม่น้ำเมื่อปี 2499 อีก 15 ปีต่อมาเขากลับไปเยือนธารน้ำแข็งอีกครั้งและพบกับความหวั่นวิตก
    "เมื่อ 50 ปีก่อนผมเดินเท้าขึ้นไปยังธารน้ำแข็งถึงฐานเมรูพีด พอกลับไปอีกครั้งธารน้ำแข็งก็หายไปหมดแล้ว เวลาที่ผมเห็นธารน้ำแข็งละลายไป ผมรู้สึกกังวลใจมาก แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา" ชวามี บอกความในใจ ขณะที่ภาพภ่ายดาวเทียมขององค์การนาซาก็ยืนยันถึงความสูญเสียลักษณะเดียวกัน
    หากยังเป็นเช่นนี้เรื่อยๆอีก 100 ปีข้างหน้า การเกษตร การผลิตไฟฟ้าจากน้ำ การคมนาคม การทำเหมืองแร่ และสัตว์ป่าริมสองฝั่งแม่น้ำคงคาจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยลำดับแรกจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ก่อน แต่หลังจากนั้นจะเกิดการขาดแคลนน้ำอย่างหนักตลอดทั้งปี
    เมื่อโลกเดินทางถึงจุดเดือดที่อุณหภูมิสูงขึ้นอีก5-6 องศาเซลเซียส ไลนัส เชื่อว่า มนุษย์ไม่สามารถทนความเปลี่ยนแปลงอันโหดร้ายเช่นนี้ได้ เขา บอกว่า ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อภาพแห่งฝันร้ายของทุกชีวิตบนโลกใบนี้ หากโลกร้อนขึ้นอีก 6 องศาเซลเซียส จริง มหาสมุทรจะกลายเป็นสีฟ้าสดใส ภัยธรรมชาติจะเป็นเรื่องธรรมดา และทะเลทรายจะแผ่ปกคลุมทวีปต่างๆ ดั่งกองทัพที่มีชัยไปทั่วทุกแคว้น ชีวิตของเราก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
    ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกพยายามหาหนทางหยุดโลกร้อนไว้ที่2 องศาเซลเซียส พวกเราทุกคนก็สามารถช่วยลดโลกร้อนได้ ก่อนที่มันจะสายเกินเยียวยา ร่วมหาคำตอบได้ใน "Six Degrees Could Change the World" ทางเนชั่นแนล จีโอ กราฟฟิก แชนแนล ทรูวิชั่นส์ ตลอดเดือนมีนาคมนี้




    ลำดับหายนะ

    -- 1 ํ --
    - มหาสมุทรอาร์กติกจะปราศจากน้ำแข็งเป็นเวลา 6 เดือน ปิดเส้นทางเดินเรือ "นอร์ทเวสต์ พาสสาจ" เส้นทางเชื่อมระหว่างยุโรปและเอเชีย ซึ่งเคยสร้างตำนานแห่งการผจญภัยให้นักบุกเบิกเผชิญหน้ากับความตาย ขณะพยายามแล่นเรือฝ่าแผ่นน้ำแข็ง และสภาพอากาศเลวร้ายอันแสนหนาวเหน็บมานักต่อนัก
    - กระแสน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้หลายพันครัวเรือนบริเวณอ่าวเบงกอลจมหายอยู่ใต้น้ำ
    - พายุเฮอริเคนอาจเข้าโจมตีมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้
    - เกิดความแห้งแล้งอย่างรุนแรงทางภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ตลาดขาดแคลนข้าวและเนื้อสัตว์
    - พื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา จะแปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย
    - วิถีเกษตรกรรมในประเทศอังกฤษจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ไร่องุ่นกว่า 400 แห่ง แหล่งผลิตไวน์รสเลิศจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น

    -- 2 ํ --
    - ธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์ค่อยๆ ละลายหายไป "จาคอบชวาน" ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดของกรีนแลนด์ กลายเป็นธารน้ำแข็งที่เคลื่อนที่เร็วที่สุดในโลก
    - เมื่อน้ำแข็งในทะเลลดน้อยลง หมีขั้วโลกเหนือจะตกอยู่ในสภาวะอันตรายและถึงขั้นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
    - แมลงอาจอพยพไปพื้นที่ใหม่ๆ เช่น ด้วงสนอาจทำลายป่าไม้ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา
    - ขั้วโลกเหนือของประเทศแคนาดา บริเวณพื้นราบจะมีป่าไม้จากเดิมที่ไม่เคยมีมาก่อน
    - ประเทศตูวาลูในหมู่เกาะแปซิฟิก อาจจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
    - ระบบนิเวศทางทะเลจะเกิดผลกระทบรุนแรง ทำให้ปะการังเขตร้อนตายหมดสิ้น

    -- 3 ํ--
    - ป่าอะเมซอนจะแห้งเหือดและเกิดไฟป่าซ้ำซาก ทำให้ผืนป่าอะเมซอนเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ตัวการโลกร้อนหลายร้อยตันสู่ชั้นบรรยากาศโลก
    - ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาแอลป์ละลายจนหมดสิ้น
    - ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในฝั่งทวีปยุโรปจะแห้งเหือดในฤดูร้อน
    - ปรากฏการณ์เอลนีโญ่จะทวีความรุนแรง เกิดสภาวะอากาศวิปริตแปรปรวน
    - พายุเฮอริเคนจะทวีความรุนแรงเป็นระดับ 6 ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้
    - เมื่อโลกร้อนขึ้นอีก 3 องศาเซลเซียส นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่า จะเกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์

    -- 4 ํ --
    - แผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรแอนตาร์กติกตะวันตก อาจละลายและจมหายไปในทะเล ส่งผลให้ระดับน้ำในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้น เกิดปัญหาน้ำท่วมรุนแรงบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้ประเทศต่างๆ ได้รับความเสียหาย เช่น บังกลาเทศ และอียิปต์ ส่วนเมืองเวนิสทั้งเมืองอาจจมอยู่ใต้บาดาล
    - แม่น้ำคงคาสายน้ำแห่งชีวิตของคนกว่าพันล้านคนในประเทศจีน เนปาล และอินเดีย จะเอ่อล้นท่วมครั้งยิ่งใหญ่ และจากผลพวงการละลายของธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัย ที่คาดว่าจะละลายหมดในปี 2578 จะเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ อาหาร และที่อยู่อาศัยตามมา
    - ประเทศแคนาดาทางตอนเหนือจะกลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

    -- 5 ํ --
    - แผ่นดินที่ไม่เคยมีมนุษย์อาศัยอยู่ทางตอนเหนือและใต้ของโลก จะกลายเป็นเขตอบอุ่น และกลายเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในอนาคต
    - มหานครของโลก เช่น ลอสแองเจลิส กรุงไคโร ลิมา และบอมเบย์ ที่เคยปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งบางช่วงเวลาจะไม่มีหิมะตกอีกต่อไป
    - ผู้คนหลายสิบล้านคนจะกลายเป็นผู้อพยพลี้ภัย อันเนื่องมาจากสภาพอากาศและความขัดแย้ง อันเกิดจากการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ

    -- 6 ํ --
    - โลกของเราจะมีสภาพคล้ายคลึงกับยุคครีเตเซียส ซึ่งโลกมีอุณหภูมิสูงมาก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 65-144 ล้านปีก่อน
    - น้ำทะเลมีสีฟ้าใส เพราะไม่หลงเหลือวงจรห่วงโซ่อาหาร และสารอาหารในทะเลอีกแล้ว
    - ทะเลทรายจะเข้ายึดครองพื้นที่ในทวีปต่างๆ ทั่วโลก
    - ภัยพิบัติทางธรรมชาติกลายเป็นเรื่องปกติ เมืองใหญ่ๆ เกิดภาวะอุทกภัยจนผู้คนต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน

    เมื่อเวลานั้นมาถึง...มนุษย์โลกจะเผชิญชะตากรรมอย่างไร!!


    ทีมข่าวรายงานพิเศษ: เรื่อง
    เนชั่นแนลจีโอ กราฟฟิก : ภาพ ​



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ประชาชนชี้หลายเหตุการณ์สะท้อนวิกฤติสังคมไทยต้องแก้ไขด่วน

    [​IMG]
    แก๊งมือบอน โฉมหน้า 5 ผู้ต้องหาแก๊งบ้านหนองประดู่งาม อ.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ชอบหาความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ปาหินใส่รถจนกระจกแตก แล้วขึ้นไปดูผลงานบนสะพาน

    กรุงเทพฯ 16 มี.ค.-สวนดุสิตโพล สำรวจความเห็นประชาชนกว่า 5,000 คน จากทุกภูมิภาคต่อปัญหาสังคมไทย พบกว่าครึ่งเห็นว่าอยู่ในภาวะวิกฤติ ต้องแก้ไขเร่งด่วน ระบุเหตุการณ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • thairath108.jpg
      thairath108.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.3 KB
      เปิดดู:
      963
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post1042245 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ANUWART<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1042245", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:04 PM
    วันที่สมัคร: Jan 2008
    ข้อความ: 26 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 1 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 208 ครั้ง ใน 25 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1042245 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เมื่อวานคลื่นใหญ่โถมเข้าใส่สงขลาแล้วบริเวณถนนชลาทัศน์ (หาดชลาทัศน์) กระสอบทราย โดนลากลงทะเล ต้นสนรากลอย แต่คนไม่เป็นไร เป็นแค่ทะเลเข้ามาเยี่ยชายหาด แต่รู้สึกว่าน้ำทะเลจะเริ่มหนุนสูงขึ้นเล็กน้อย รายงานข่าวให้ทราบครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ดิฉันอดไม่ไหว ขนลุกไปหมดตะกี้ดูข่าวข้นคนข่าว(ใช่ป่าว)ช่อง 9 นะคะ มีอีกาสีขาวที่คุณหนุมานเคยบอก ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าภัยมันใกล้เข้ามาทุกขณะจิตแล้ว สาธุขอให้ทุกคนรอดปลอดภัยนะคะ
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    กาขาว?

    [​IMG]<!//-- แสดงรายละเอียดกระทู้ --//>

    ชมภาพน่ารักๆ ของอีกาสีขาวคู่หนึ่ง ที่ชาวบ้านในจังหวัดชลบุรีเลี้ยงไว้มานานกว่า 30 ปี กาขาวเป็นสัตว์ที่หาดูยาก และเกือบสูญพันธุ์ในปัจจุบัน (จากรายการเรื่องจริงผ่านจอ ทางช่อง 7 สี )


    ที่มา http://www.siamensis.org/board/7897.html

    หมายเหตุ

    กาขาวคู่นี้ เป็นคนละตัวกับที่ออกรายการ "ข่าวข้นคนข่าว" ทางช่อง 9 อสมท. นะครับ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • m_06.jpg
      m_06.jpg
      ขนาดไฟล์:
      14.4 KB
      เปิดดู:
      7,192
  16. The whisperer

    The whisperer สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +22
    Update time = Mon Mar 17 16:09:59 UTC 2008
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0><TBODY><TR><TH></TH><TH align=middle>MAG </TH><TH align=middle>UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s


    </TH><TH align=middle>LAT
    deg


    </TH><TH align=middle>LON
    deg


    </TH><TH align=middle>DEPTH
    km


    </TH><TH>Region</TH></TR><TR><TD noWrap align=middle>MAP</TD><TD noWrap align=middle>3.2 </TD><TD noWrap align=middle>2008/03/17 14:16:41 </TD><TD noWrap align=right>33.027 </TD><TD noWrap align=right>-115.605 </TD><TD noWrap align=right>10.4 </TD><TD>SOUTHERN CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD noWrap align=middle>MAP</TD><TD noWrap align=middle>4.3 </TD><TD noWrap align=middle>2008/03/17 13:43:51 </TD><TD noWrap align=right>-7.630 </TD><TD noWrap align=right>128.519 </TD><TD noWrap align=right>183.1 </TD><TD>KEPULAUAN BARAT DAYA, INDONESIA</TD></TR><TR><TD noWrap align=middle>MAP</TD><TD noWrap align=middle>2.5 </TD><TD noWrap align=middle>2008/03/17 11:17:59 </TD><TD noWrap align=right>52.006 </TD><TD noWrap align=right>-173.925 </TD><TD noWrap align=right>11.7 </TD><TD>ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</TD></TR><TR><TD noWrap align=middle>MAP</TD><TD noWrap align=middle>3.2 </TD><TD noWrap align=middle>2008/03/17 01:02:05 </TD><TD noWrap align=right>19.379 </TD><TD noWrap align=right>-67.453 </TD><TD noWrap align=right>36.0 </TD><TD>PUERTO RICO REGION</TD></TR><TR><TD noWrap align=middle>MAP</TD><TD noWrap align=middle>2.7 </TD><TD noWrap align=middle>2008/03/17 00:08:22 </TD><TD noWrap align=right>59.743 </TD><TD noWrap align=right>-153.044 </TD><TD noWrap align=right>99.9 </TD><TD>SOUTHERN ALASKA</TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันนี้มันไหว น้อยผิดปกติ ปกติ record จะยาวกว่านี้ 3-5 เท่า ไม่รู้ว่า รออะไร ใหญ่ๆ หรือเปล่า หมั่นสังเกตกันนะครับ
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    *** ถิ่นกาขาว ****

    กาขาว...คือ นกตัวใหญ่เท่ากาสีขาว
    จะบินอพยพหนีภัย
    จากแผ่นดินใหญ่เหนือประเทศไทย
    คือ ยุคสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล

    โดยปกติ...นกเหล่านี้จะบินหลบหนาวมาไทยทุกปี
    ถิ่นกาขาว....จะปรากฏ
    เมื่อ ...โลกระส่ำระสาย ฟ้าจะต่ำลงมา
    เพราะ ....มีผู้ฝ่าฝืน "โองการศักดิ์สิทธิ์จากโลกุตตระ"

    "หนุมาน ผู้นำสาร"
    วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐

    *** กำเหนิด มหันตภัยจากน้ำโขง ****

    สัมพันธ์ กับ ปริมาณน้ำแข็ง และหิมะ บนเทือกเขาหิมาลัยในจีน...แผ่นดินไหว เปลือกโลกขยับ และ ผลจากนิวเคลียร์ จะเป็นตัวเร่ง.......สังเกต ติดตามข่าวสาร อย่างต่อเนื่อง...การเตือนภัยจะทันการณ์ ช่วยคนได้มาก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    19-01-2007, 03:21 AM

    <!-- / message -->
    *** อุณหภูมิ ****

    หลังจากร้อนจัด คนทายว่า จะแล้งน้ำ.... พายุฝนขนาดใหญ่ จะก่อตัวขึ้นเสมอ...น้ำในเขื่อน จึงระบายไม่ทัน.... หากระบายไม่ทัน เขื่อนจะพังถล่มได้ง่าย ....โอกาสเขื่อนพังมีสูงมาก เพราะ คนเชื่อว่าจะแล้ง กลัวขาดน้ำใช้ มันเป็นกรรมที่จะเกิด ... เมื่อใกล้เกิดสงครามใหญ่ คงจะเกิด พายุฝนจะเข้ากระหน่ำลูกแล้ว ลูกเล่า จากทิศตะวันออก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร
    19-01-2007, 09:33 AM

    *** พาหนะทางน้ำ ****

    ถึง คุณ Kananun สถานการณ์น้ำท่วมหนัก เป็นภัยที่จะต้องพบในอนาคต...หาก...เมื่อมีโอกาส...มี ผู้มีความรู้ความสามารถทางด้านการสร้าง "เรือ" เรือที่วิ่งในสถานการณ์น้ำเชี่ยวกราก น้ำท่วมขังตามชุมชน เรือที่บรรทุกคนและของได้มาก เรือค้นหากู้ภัย สร้างง่าย ซ่อมง่าย ฯลฯ...เราจึงควร "เริ่มคิดค้น" ได้เพื่อให้ทันเวลา.... เมื่อ "โลกุตตระ จัดสรร" ให้ผู้มีทุนเงินจำนวนมากเข้ามาช่วยเหลือ... เราก็จะเริ่มดำเนินการสร้างได้ทันที เพื่อให้มีปริมาณมากๆ...และแจกจ่ายไปตามหน่วยต่างๆ อย่างทั่วถึง......หากทำสำเร็จ แผ่นดินชมภูทวีป จะมี "กาขาว" ช่วยพัฒนาชาติไทย ในอนาคตได้มาก...."พลังแห่ง ตัวกระทำ" ไม่มีวันหมด ไม่สูญสลาย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    17-01-2007, 01:31 PM


    kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_456230", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัย

    สำหรับเรือถ้าได้ ตัวเรือที่เผินน้ำ Hydrofoil ได้ก็จะดีมาก ส่วนเครื่องยนต์ ไม่ควรเปลือยใบพัด เนื่องจากจะมีขยะหลุดเข้าไปพันได้ง่าย ถ้าเป็นระบบแบบใบพัดอยู่ด้านหน้าแบบของวอลโว่ รุ่นใหม่จะทำให้การเร่ง การเลี้ยว การทรงตัวดีมากๆ กว่าเรือแบบเก่า

    ส่วนวัสดุทำเรือ ปัจจุบันคนไทยทำไฟเบอร์และสารสังเคราะห์คอมโพสิต ต่างๆได้ดีแล้ว ถ้าใช้เปลือกของตัวเรือเป็นไฟเบอร์ ไส้ในเป็นโฟม จะทำให้เรือเบา แข็งแกร่ง แทบจะไม่จมเลย แถมยังใช้พลังงานน้อยความเร็วสูงอีกด้วย ส่วนถ้าไม่มีน้ำมันเราคงต้องใช้เรือ ไฟเบอร์ แบบทั่วไปที่มีขายในปัจจุบัน ที่ใช้ระบบพาย

    แต่ถ้าพอมีทุน มีเวลาพอ เราสามารถดีไซน์เรือรุ่นใหม่ที่มีนำหนักเบากว่า พายได้เบาแรงกว่า และทรงตัวดี จมยาก กันได้ครับ จากนั้นค่อยผลิตออกเป็นจำนวนมากๆได้ อาจเป็นระบบ การพายแบบกันเชียง หรือ นำเกียร์จักรยานมาร่วมเป็นระบบนั่งถีบก็ได้ แต่อย่าไปนึกภาพ เรือถีบในสวนสาธารณะนะครับ เพราะนั่นทั้งหนัก ทั้งไม่ดีไซน์ตามระบบ ฟลูโรไดนามิคเลย ต้านน้ำสุดๆ เพราะถ้าดีไซน์ดีๆ การออกแรงครั้งหนึ่งเรือไปได้ไกลหลายเมตร จนถึงสิบเมตรครับ เทียบกับเรือรุ่นเก่า หนึ่งจ้วงไปได้ 20 -30 เซนติเมตรครับ


    17-01-2007, 01:49 PM

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=51726&page=18
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    834
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ผมได้ข้อมูลมาวันนี้ว่า น้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะละลายหมดในฤดูร้อนปีนี้แล้ว
     
  19. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    (tm-love) เมื่อวาน ลูกชาย อายุ 6 ขวบ บอกแม่ว่า
    " เดือนธันวา พวกคนกรุงเทพ จะมาอยู่ที่บ้านเราหมดเลยนะแม่ "
    ทำไมเหรอลูก
    "เพราะน้ำ มันจะเยอะน่ะ"
    อ้าว ก็เดือนธันวา ไม่ใช่ฤดูฝนนะ จะมีน้ำเยอะได้ไงล่ะลูก
    "ก็น้ำเยอะมาจากหิมะ น้ำแข็ง ไงแม่ "
    ลูกรู้ได้ไงล่ะคะ
    "ก็กรุงเทพเป็นเมืองต่ำ"

    เป็นคำพูดของเด็กๆน่ะ ไม่อยากคิดอะไรมาก
    (evil)
     
  20. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968
    เมื่อคืนก้อฝัน ปรกติจะชอบไปเที่ยวมากกว่า แต่เมื่อคืนแปลกมาก
    ตอนค่ำโดนทำคุณไสยใส่ ก้อเลยเปลี่ยนจากภาวนา พุทโธ เป็นสัมปะจิตฉามิ (ไม่รู้สะกดถูกป่าว) แล้วก้อหลับ

    ฝันว่าไปเที่ยวในกรุงเทพแถวๆคลอง เห็นน้ำในคลองสูงกว่าถนน 1ศอก แต่มีเขื่อนกั้นไว้ไม่ให้เข้ามา แต่น้ำปริมเขื่อนแล้ว ก้อเลยชี้ให้ทุกคนดูว่าน้ำสูงกว่าแผ่นดินแล้วนะ *แต่ไม่มีใครฟัง* *ไม่มีใครมอง* *ไม่มีใครสนใจ*
     

แชร์หน้านี้

Loading...