หมดแล้ว ((พระเครื่องทั่วไทย ลป.ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง มงคลดีๆที่ส่งผ่านมาถึงลูกหลานทั่วไทย ))

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย namayti, 19 เมษายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. sereenon

    sereenon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,724
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,931
    จอง
     
  2. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ...ยินดีด้วยนะครับ..พระทุกองค์มีเจ้าของจริงๆ...สาธุ
     
  3. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    จัดส่งแล้วนะครับ
    ท่าน ชัจจ์ชนันต์ ED251188464TH (บางบัวทอง)
    ท่าน นันดา ED251188478TH (บางกรวย)

    ขอบพระคุณมากครับ

     
  4. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด G50) ชุดสมณาคุณ เหรียญ ลป.เคน เขมาสโย"รุ่นสุดท้าย 86 ปี"วัดป่าหนองหว้า จ.สกลนคร เนื้อทองทิพย์ขัดมันปู ตอกโค็ต รันนัมเบอร์ทุกองค์ สวยปิ๊ง ไม่ผ่านใช้ มาพร้อมพระผงพุทธคุณ"รุ่นเนยให้พร" ลป.เนย สมจิตฺตโต วัดป่าโนนแสนคำ จ.สกลนคร มากด้วยมวลสาร ฝังตะกรุด-จีวร เปิดแบ่งปันหนมๆชุดละ 250.-
    i7qCMJzhGXN6.jpg
    มีแค่ 4 ชุดนะครับ
    9INwcxphynn4.jpg
    ทายาทธรรมสายวิปัสนากรรมฐาน
    M4cVYrtJKM4m.jpg
    สวยไม่ผ่านใช้ อยู่ในซีนในกล่องทุกองค์
    7cvVVHUPqfT2.jpg
    สุดคุ้มคร้าบพี่น้อง
    xSji3ncz5gKZ.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  5. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด G51) พระสมเด็จชัยมุนี วัดบูรพาวัน อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ลป.บัวทอง อัตตทันโต ปลุกเสก ทายาทธรรมสายวิปัสสนากรรมฐาน อีกรูปที่ทรงอภิญญา และเป็นรุ่นที่มากประสบการณ์อีกรุ่นครับ เสียงบอกกล่าวจากคนพื้นที่ว่าใช้แทนรุ่นแรกได้สบายๆ เปิดแบ่งปันหนมๆชุดละ 250.-
    pY8NVhcbEO3w.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  6. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด G52) เหรียญลายเซ็นต์"บารมี โภคทรัพย์"ครูบากฤษณะ อินทวังโส ออกวัดป่ามิ่งมงคล อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด น่าเก็บน่าบูชาครับ เปิดแบ่งปันหนมๆชุดละ 200.-
    20uCgfjdhAgV.jpg
    IMG_2178-1385x1200.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  7. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดG53) พระผงรูปเหมือน"รุ่น 2"ลป.ขาว พทธิรักขิโต วัดป่าคูณคำวิปัสสนา จ.สกลนคร เปิดแบ่งปันหนมๆชุดละ 150.-
    wRv62GPgefHA.jpg
    U17002526359444249080820611.jpg
    imagesCAJCBKX1.jpg
    หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต
    พระผู้ทรงจิตตานุภาพอัศจรรย์
    ผู้ได้รับการอบรมธรรมจากหลวงปู่เทพโลกอุดร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  8. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด G54) พระผงยา "สาลิกาคู่"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา จ.สกลนคร รุ่นแรกยุคแรก ท่านสร้างเอง กดมือไปบริกรรมไป ทีละองค์ เพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา ที่มาบริจาคปัจจัยในการช่วยสร้างศาสนสถานภายในวัด ในโอกาสงานผ้าป่า งานกฐิน ซึ่งเกือบทั้งหมด หลวงปู่จะมีดำริให้สร้างเอง รวมทั้งตะกรุด พระทรงอื่นๆ ที่ทำจากเนื้อตะกั่ว-ปรอทเพชร เป็นส่วนมาก แม้จะไม่สวย แต่ก็มากด้วยคุณค่า ทรงพลังและพุทธคุณที่ไม่ธรรมดา พระชุดนี้หลวงปู่นำมวลสารผงวิเศษ+ผงยาจินดามณี+ว่าน+ชานหมาก มาใช้ในการสร้าง บางองค์มีเกศา มีแร่ศักดิ์สิทธิจากแม่น้ำโขง สีสรรก็แตกต่างกันออกไป โภคทรัพย์สุดๆ ลูกศิษย์หลายคนบอก ใชักันคุณไสย์ ไล่ผีไล่ปลอบก็ได้ ทางฝั่ง สปป.ลาว เห็นไม่ได้ครับพระผงชุดนี้ ถามขอบูชาหมด เพราะฝั่งโน้น เขาเคารพศรัทธาให้เป็นพระสังฆราชของทางฝั่งลาวเลยทีเดียว แนะนำให้เก็บๆนะครับ สร้างน้อยจริงๆ และพุทธคุณแรงมั๊กมาก เปิดแบ่งปันหนมๆ 150.-(peesut)
    TLNR6aMUyyV8.jpg
    อจินไตย!!!
    สัมผัสหัวใจและจิตวิญญาณของครู...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต
    พระผู้ทรงจิตตานุภาพเจโตปริญญาณ วัดป่าคูณคำวิปัสสนา บ้านกลาง ต.กุดไห อ.กุดบาก จ.สกลนคร
    [​IMG]
    หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต ผู้สำเร็จอภิญญาสายโลกอุดร

    ...พริกน่ะมันไม่ได้เผ็ดที่คนทำ หรือคนกินแต่มันเผ็ดในตัวของมันเอง พระราชากินก็เผ็ด ขอทานกินก็เผ็ด ใครกินก็เผ็ด เพราะ ฉะนั้นคุณงามความดีของแต่ละบุคคลก็เหมือนกันไม่จำเป็นต้องให้ใครมา ประกาศว่าเราดี เราก็ดี(ถ้ามันดีจริง) ไม่จำเป็นต้องโฆษณาสรรพคุณตัวเองว่าดี มันก็ดี(ถ้าตัวเราดีจริง) เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าทำดีแล้วก็ให้มันดีเหมือนพริกขี้หนู ไม่ใช่อวดอ้างว่าเป็นพริกแต่พอมีคนมาลองกินถึงได้รู้ว่าพริกหยวกไม่ใช่พริก ขี้หนู….

    ..สาเหตุอะไรทำไมหลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต ผู้สืบธรรมแห่งอีสานของสยามประเทศเป็นถึงระดับครูบาอาจารย์แท้ๆ กลับชอบทำวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังมาแจกมากกว่าสอนคนเลยนึกสบประมาทพลาด พลั้งท่าน ท่านจึงหันมากล่าวกับเรา(ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เอ่ยออกมา) ว่าน้อยเรานะทำอยู่ 2 อย่าง คือ 1.วัตถุธาตุ 2.คือวัตถุธรรม คนเราทุกวันนี้เข้าวัดมาทำบุญไม่ได้มุ่งหวังความหลุดพ้นแต่มุ่งที่จะได้รับ วัตถุ มาขอแต่เครื่องรางของขลัง ขอโชคขอลาภเราก็เลยทำวัตถุธาตุมาให้เพราะจะได้ไม่ต้องพูดมากเพราะคนพวกนี้ ไม่ค่อยจะเอาธรรมะ พอ มีใครเข้ามาขอของดีเราก็โยนให้เขาจะได้ไม่เสียเวลาได้แล้วเขาก็จะได้กลับ กันไปไม่เหนื่อย แต่ส่วนที่ 2 คือวัตถุธรรมมันไม่ค่อยมีคนมาขอ 100 คน มาขอสัก 2 คนเห็นจะได้ เราก็เลยเน้นทำวัตถุมงคลให้คนแต่อย่าเหมาว่าเราไม่ให้ธรรม เพราะเราบอกทุกคนเสมอว่าอยากดีก็ทำเอา อยากชั่วก็ทำเอา

    ..คำสอนที่ หลวงปู่ขาว ได้สอน พระอาจารย์โต้ง เจ้าอาวาสวัดศิลามงคล อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

    1.เป็นพระต้องขยันสวดมนต์-เจริญภาวนาคืองานหลัก
    2.ให้ ถือ"สัจจะ" เป็นที่ตั้ง ให้พูดจริง(ท่านไม่ชอบคนโกหก) เพราะถ้าเรามีสัจจะ พูดจริง เวลาสร้างวัตถุมงคลหรือเสกวัตถุมงคลจะเกิดแต่สิ่งที่ดีๆ ผู้ที่ได้นำไปใช้ก็จะได้แต่สิ่งที่ดีๆ
    3.ให้มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมถ่อมตน เคารพครูบาอาจารย์
    4.อย่าสร้างความลำบากให้กับคนอื่น

    ธรรมะเหล่านี้เป็นธรรมบริสุทธิ์ของที่แสดงจากจิตด้วยความเคารพในคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของ...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต วัดคูณคำวิปัสสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ผู้มีสัมผัสในธรรมของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประมาณ 50 ปีที่ผ่านมาเรื่องราวของหลวงปู่เทพโลกอุดร นั้นได้รับการกล่าวถึงมากมายจากผู้ที่มีประสบการณ์โดยตรงและทั้งการบอกเล่าปากต่อปาก สู่การบันทึกเก็บข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับท่านหลวงปู่เทพโลกอุดรไว้อย่างมากมาย และมีการจดบันทึกไว้ของผู้รู้และมีประสบการณ์จริงที่ได้มีบุญบารมีสัมพันธ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดร และเรื่องราวที่หลวงปู่ขาวได้เล่าสู่คณะลูกศิษย์ได้รับทราบข้อเท็จจริงใน เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือที่ชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงของ ท่านคือพระอุตตระเถระ ผู้เป็นศิษย์โดยตรงของท่านพระมหากัสสปะเถระ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเลิศทางธุดงควัตร เรื่องราวที่ถูกเปิดเผยจากปากหลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต ถึงความสัมพันธ์และการได้รับความเมตตาอบรมจากท่านหลวงปู่เทพโลกอุดร ในเรื่องราวต่างๆนั้นมีมากมายแต่สิ่งเหล่านี้บางอย่างบางเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นกับชีวิตจริงของหลวงปู่ขาว ก็ไม่มีหลักฐานมายืนยันให้เป็นประจักษ์ ทั้งการเข้าไปพบถ้ำลับแล การเหาะหายตัวไปจากแผ่นดินราบจนไปปรากฏตัวที่ภูเขาควายประเทศลาวสิ่งที่ไม่ เคยรู้ไม่เคยเห็นก็มีเพียงหลักฐานสถานที่ที่มีอยู่จริงสามารถตรวจสอบได้ แต่เรื่องราวต่างๆรวมทั้งการหาพยานหลักฐานทางรูปธรรมเกี่ยวกับตัวตนรูปร่าง ของหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่จะนำมาให้ผู้คนสัมผัสจับต้องได้นั้นเป็นสิ่งที่สุดวิสัยที่หลวงปู่ขาว จะหาหลักฐานมายืนยันได้ ...สำหรับหลวงปู่ขาว นั้นท่านยืนยันนอนยันด้วยจิตในธรรม.. สำหรับหลวงปู่ขาว นั้นท่านจะมีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการมีอยู่จริงของหลวงปู่เทพโลกอุดร คือเส้นเกสาของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่ ท่านได้รับมาจากหลวงปู่เทพโลกอุดรโดยตรงและสิ่งที่จะแสดงยืนยันถึงคุณธรรม ส่วนตัวของหลวงปู่ขาวได้ดีคือเส้นเกสาของท่าน นั้นจับกันเป็นก้อนอย่างเด่นชัดและบางส่วนแปรสภาพเป็นพระธาตุให้เป็นที่ ประจักษ์ยืนยันตลอดจนเมตตาบารมีที่เป็นที่ประจักษ์ปรากฏแก่ผู้คนทั่วทั้ง แผ่นดินประเทศลาวและแถบอำเภอพระธาตุพนมที่มีผู้ได้พบเห็นเมตตาบารมีจากท่าน แสดงปาฏิหาริย์ให้เป็นที่ประจักษ์นับครั้งไม่ถ้วน....

    หลวง ปู่ขาว ท่านให้โอวาทเสมอว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมันตกอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ ( ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน ) คือเมื่อมีขึ้นแล้วก็เสื่อมได้ สลายไปไม่มีตัวตนในที่สุด ไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้าได้หรอก สิ่งต่างๆมีอายุการใช้งานเหมือนกับอายุของสัตว์นี่แหละ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลือค้างโลก สร้างอีกก็เสื่อมสลายอีก จะว่าอะไรแม้แต่ผู้ประดิษฐ์คิดค้นเอง สุดท้ายมันก็ต้องตายเป็นเถ้าเหมือนกัน ส่วนแนวปฏิบัติกรรมฐานนั้น หลวงปู่ขาวจะชอบพูดว่า พุทโธตัวเดียวอย่างเดียว อย่าทิ้งองค์กรรมฐาน เพราจิตจะตกลงสู่ภวังค์ ( อารมณ์ต่างๆ ) เมื่อเราบริกรรมพุทโธจะเปรียบเหมือนกับเราทำให้อารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นช้าลง หรือห่างออกจากเดิม ที่เกิดขึ้นเร็วจนบางครั้งตามแทบไม่ทัน ถึงแม้เราจะไม่สามารถทำจิตให้อยู่ในอารมณ์เดียวได้ ( เป็นหนึ่งอยู่คำบริกรรม ) และแม้ผู้นั้นจะเรียนรู้ธรรมะจากรู้อุบายภาวนามาก ศึกษาจากครูบาฯมามาก แต่ถ้าผู้นั้นไม่สามารถหาอุบายวิธีที่จะทำให้จิตของตนเองสงบจากอารมณ์ต่างๆ ได้แล้ว ธรรมะที่รู้มาก็ไม่มีประโยชน์ ปัญญาที่แท้ จริงไม่มีวันรู้ได้ เพราะอารมณ์ต่างๆมันจะปรุงแต่งให้จิตฟุ้งซ่าน เลื่อนลอย ไม่มีวันหยุดสงบลงได้ เรียกว่า สติยังปัญญายังอ่อน อันมีสาเหตุเนื่องมาจาก….

    1.วาสนา บารมี กระทำบำเพ็ญในอดีตยังน้อย ( พละหรืออินทรีย์ ๕ ยังอ่อน )
    2.ความเพียรพยายามในปัจจุบันไม่มีกำลัง คือไม่ค่อยทำหรือทำไม่ต่อเนื่อง
    3.ลังเลสงสัยในองค์กรรมฐาน ( คำภาวนา ) ที่ตนเองใช้
    4.ไม่เชื่อมั่นศรัทธา ไม่มั่นคงในตัวครูบาอาจารย์ที่ตนเองศึกษาอยู่
    5.ปฏิบัติผิดทางหรือปฏิบัติอยู่กับอาจารย์กรรมฐานที่ไม่รู้จริง ( ไม่มีภูมิรู้ )
    6.รู้เกินครูบาอาจารย์ อันเนื่องจากเรียนมามาก ศึกษาหลายอาจารย์จนสับสนแนวปฏิบัติและชอบอวดรู้ มีทิฐิมานะ การถือตนสูงไม่ยอมรับคำสอนของผู้อื่น

    ..นี่ คือ...อุปสรรคเกี่ยวกับการปฏิบัติที่หลวงปู่ขาวสอนเสมอ ท่านว่า.. คนที่ว่าตนเองรู้ ตนเองฉลาดแล้ว คนนั้นคือ คนโง่ที่สุด คนที่มีนิสัยถ่อมตน ไม่ถือตัว ไม่อวดความรู้ที่ตนเองมี คนนั้นคือ นักปราชญ์ผู้รู้จริง และผู้นั้นจะมีความรู้จากบุคคลต่างๆ สิ่งต่างๆอีกมาก การภาวนานั้นให้เอาปัจจุบัน พากเพียรเอาปัจจุบันเป็นหลัก อีกทั้งต้องเชื่อในกรรมว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่สำคัญต้องหาครูบาฯที่รู้จริงในแนวทางปฏิบัติ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียด เป็นเรื่องภายใน และยิ่งปฏิบัติชั้นสูงขึ้นแล้ว ยิ่งต้องได้ครูบาฯที่รู้จริงอย่างถ่องแท้ เพราะไม่อย่างนั้นอาจนำไปสู่การปฏิบัติที่ผิดและหลงยึดในสิ่งที่ไม่ควรยึด ครุบาฯที่ท่านมีภูมิจจิตที่แท้นั้น ท่านจะผ่านการปฏิบัติอุบายต่างๆมามาก และรู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรปล่อย สิ่งใดควรปฏิบัติและถูกไม่ถูก…

    ..พระพุทธองค์ทรงสอนให้รู้จักว่าอันไหนบุญอันไหนบาป สิ่งใดควรทำสิ่งใดควรละเว้น ไม่ให้ทำ บุญกุศลนั้น เมื่อผู้ใดได้กระทำแล้วผู้นั้นย่อมได้รับความสุขร่มเย็น ไม่ตกต่ำ มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง แม้ขณะที่ทำหรือหลังจากที่ได้ทำไปแล้วผู้ทำยังไม่ได้รับผลก็ตาม แต่ขอให้เชื่อมั่นเอาไว้เลยว่า วันข้างหน้าตัวของเราจะต้องได้รับผลแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ตกหล่นสูญหายไปไหน
    เช่นเดียวกันกับ บาปกรรม ความชั่วที่ทำเอาไว้ วันหนึ่งข้างหน้าก็ต้องได้รับผลกรรมแน่นอนยากที่จะหลีกหนีพ้น เพราะอำนาจของกรรมนั้นมีมากที่สุดในบรรดาอำนาจทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้ ควบคุมบัญชาการทั้งคนแลสัตว์บนโลก รวมทั้ง สาม โลก คือ มนุษย์ เทวดา นรก ไม่มีใครอยู่เหนืออำนาจกรรมไปได้

    สำหรับอำนาจการปกครองของกรรมนั้นไม่มีศาสนา ภาษา ไม่มีการแบ่งแยกเหมือนอย่างที่มนุษย์ในโลกทำกัน เวลาให้ผลก็ตรงไปตรงมาและยุติธรรมที่สุด ไม่เอนเอียงเข้าข้างผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มคณะใดก็ไม่มีการยกเว้น กรรมเมื่อถึงเวลาที่จะรับผล ไม่มีคำว่าผ่อนผันหรือผลัดวันประกันพรุ่ง เวลานั้นต้องได้รับผลทันที….

    ..ดัง นั้นเราผู้ที่มีความศรัทธาและมีความเชื่อมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ควรพึงระวังตั้งจิตของตนเองให้ดี เป็นอัปปมาทธรรม คือ มีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท

    สำหรับตัวหลวงปู่ขาวเอง นั้น ไม่ว่าผู้ใดคนใดที่ได้มากระทำกรรม หรือทำอะไรต่างๆให้ ท่านไม่ถือ และไม่มีหน้าที่ต้องถือ เพราะการถือมันทำให้หนัก ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้ารู้จักวาง มันก็เบา ท่านไม่มีหน้าที่ให้คุณให้โทษแก่ผู้ใด หน้าที่ของท่านมีเพียงอย่างเดียวก็คือ ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สร้างคุณงามความดีให้มากที่สุด จนกว่าชีวิตจะแตกดับไปตามกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ เพราะชีวิตเป็นของน้อย ความตายเลือกให้เป็นดั่งใจไม่ได้ว่า เราจะตายอายุเท่านั้นอายุเท่านี้ เวลานั้นเวลานี้ ตายในสถานที่แห่งนั้นแห่งนี้ จึงอย่าไปด้านประมาทนิ่งนอนใจ พยายามสร้างคุณงามความดีและบุญกุศลเอาไว้ให้มากที่สุด ในขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อมีโอกาสอย่าประมาท แม้ว่าจะเป็นกุศลเล็กน้อยๆ เพราะน้อย ถ้าเราทำบ่อยๆ วันข้างหน้าก็มากขึ้นเอง ขอเพียงแต่อย่าท้อถอยและอ่อนแอ ให้มั่นคงหนักแน่น อย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรคต่างๆ ทำจิตให้เหมือนสัตบุรุษทั้งหลาย

    กล่าวกันว่า...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต เจ้า อาวาส วัดป่าคูณคำวิปัสสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ซึ่งเป็นสายวิปัสสนา นอกจากนี้ครั้งหนึ่งในอดีตหลายภพหลายชาติ ท่านก็คือ พระยาเกรียงไกรซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ที่สร้างพระธาตุพนม หลักฐานข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเป็นกษัตริย์นั้นยังมีปรากฏให้เห็นอยู่…ท่าน มีความเกี่ยวข้องอันใดกับหลวงปู่เทพโลกอุดรพระอรหันต์ผู้ซึ่งได้ปวารณาตัว ดูแลพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่เพื่อส่งมอบให้กับพระพุทธศาสดาองค์ต่อไป คือพระศรีอาริยเมตไตรก็ขอให้ท่านได้สัมผัสได้ด้วยใจตนเอง..

    แม้นว่า..ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ..ศรัทธาชาวพุทธต่างสั่นคลอนเป็นอย่างมากเรื่องราวมากหลาย ถูกจัดฉาก แสดงโดยผู้จิตขุ่นมัวเป็น ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังถ้าท่านใดไม่รู้ตัว ไม่ระวัง ก็ยังไม่เป็นไรมากเพราะยังมีกลุ่มผู้มีบุญบารมีต่างๆ คอยอุ้มชู ช่วยเหลือกันไว้มากบ้าง น้อยบ้าง ตามสติปัญญา ตามกำลัง ตามบุญวาสนาบารมีของตนแต่เรายังโชคดีที่มี พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้ดำรงสมาธิจิตด้วยขันติ วิริยะ จิตตะ ในเอกัตคตารมณ์ มีสติรอบรู้ เป็นหนึ่งเมื่อแผ่พละธรรมความศรัทธาให้แก่หมู่ชนโดยทั่วไป หรือเจาะจงย่อมเกิดพลานุภาพ สังฆานุภาพ ปรากฎเป็นรูปธรรม แก่ผู้ปรารถนาโดยอัศจรรย์... โดยมีหลักการที่จะสร้างจิตให้เกิดฤทธิ์ได้คือ การสร้างพลังงานของจิตให้มีอานุภาพ สามารถทำให้เกิดสิ่งที่เหนือธรรมชาติได้ สภาวะทั้งหลายทั้งปวงของธาตุ 4 ขันธ์5 เป็นรูปธรรม ซึ่ง เป็นแหล่งทำให้เกิดพลังงานทางจิต พลังงานของธาตุต่างๆที่หนุนเสริม เป็นการสร้างพลังงานของจิตให้สู่สภาวะของความมีอิทธิฤทธิ์ปรากฏผลสำเร็จ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2017
  9. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดG55) พระผงยา"นางพญา"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา จ.สกลนคร ยุคแรก วัดสร้างเอง สวยสมบูรณ์จ้า เปิดแบ่งปันหนมๆ 150.-
    DzM6bXRu9iyV.jpg
    Picture+031.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  10. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด G56) ล็อกเก็ต"อุดมทรัพย์"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา จ.สกลนคร ฉากลายธงชาติไทย สภาพสวยงาม เปิดแบ่งปันหนมๆ 150.-(danaitorn)
    zF0CpdW0exWK.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2017
  11. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดG57) พระผงยา"อุปคุต"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา จ.สกลนคร ยุคแรก วัดสร้างเอง สวยสมบูรณ์จ้า เปิดแบ่งปันหนมๆ 150.-
    fWHK53NEOOUX.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  12. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด G58) ชุดสมณาคุณ"พระประจำวันเกิด"พระครูพุทธบทบริรักษ์ (ครูบาคำห่วง สมฺปนฺโน) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทบัวบก ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ท่านเป็นศิษย์สายสำเร็จลุน ศิษย์เอก ลป.ศรีทัตต์ สุวรรณมาโจ พระผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน ,พระธาตุโพนสัน และพระพุทธบาทบัวบก เปิดแบ่งปันหนมๆ 350.-สุดคุ้ม
    image.jpg

    ด้านหลังเป็นยันต์พระเจ้า 5 พระองค์
    image.jpg image.jpg
    วัดพระพุทธบาทบัวบกตั้งอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทบริเวณเทือกเขาภูพาน ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ภายในวัดประดิษฐานรอยพระพุทธบาทซึ่งอยู่ภายในพระธาตุเจดีย์ รอยพระพุทธบาทนี้เรียกกันว่า พระพุทธบาทบัวบก ซึ่งมีข้อสันนิษฐานถึงที่มาของชื่อว่า บัวบกเป็นชื่อของพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นตามป่าและพบมากในบริเวณที่พบรอยพระพุทธบาท ในขณะที่บางท่านสันนิษฐานว่าบัวบกอาจมีที่มาจากคำว่า บ่บก ซึ่งหมายถึงไม่แห้งแล้ง รอยพระพุทธบาทแห่งนี้เชื่อกันว่าเกิดขึ้นตามตำนานในท้องถิ่นเรื่องพระเจ้าเหยียบโลกหรือพระเจ้าเลียบโลกซึ่งเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาโปรดพญานาคซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณนี้และได้กดประทับรอยพระพุทธบาทไว้เพื่อให้สักการบูชา
    รอยพระพุทธบาทนี้แต่เดิมมีการสร้างมณฑปครอบไว้ ครั้น พ.ศ. ๒๔๖๕ พระอาจารย์ศรีทัตย์ สุวรรณมาโจ และภิกษุจำนวนหนึ่งจาก อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้บูรณะโดยรื้อมณฑปเก่าออกแล้วสร้างพระธาตุเจดีย์ใหม่ครอบรอยพระพุทธบาท และได้สร้างรอยพระพุทธบาทจำลองทับรอยพระพุทธบาทเดิมไว้ ส่วนองค์พระธาตุเจดีย์มีรูปแบบเป็นทรงบัวเหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนมซึ่งเป็นที่นิยมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  13. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +1,759
    จอง G54 สาลิกา ลปขาว
     
  14. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด G59) เหรียญ"รุ่นแรก"หลวงปู่พระอาจารย์มหาบุญมี สิริรโร วัดป่าภูทอง อ.บ้านผือ อุดรธานี ปี 2536 ศิษย์ ลป.มั่น ภริทัตโต,ลป.ขาว อนาลโย สหธรรมมิกกับ ลป.ลี กสฺฺลธโร วัดภูผาแดง อาจารย์ของ ลป.คูณ สุเมโธ เจ้าอาวาสองค์ต่อมา พุทธคณไม่ต้องบรรยายดอกครับ เปิดแบ่งปันหนมๆ 450.-สุดคุ้ม
    image.jpg

    มาพร้อมกัน 3 เหรียญ ยังสวยจ้า...ของถูกดียังมีอยู่จ้า..เก็บๆๆๆ
    image.jpg
    paragraph__433.jpg
    หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร
    ประวัติวัดป่าภูทอง(คลิก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  15. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,012
    ค่าพลัง:
    +6,634
    ได้รับแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
     
  16. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดG60) ชุดสมณาคุณเหรียญ"รุ่นเงินไหลมา"หลวงปู่บุญมา สุชีโว วัดป่าสามัคคีศิริมงคล จ.หนองบัวลำภุ กำลังมาแรงครับ เนื้อกะหลั่ยเงิน สวยแชมป์ เปิดแบ่งปันหนมๆ 250.-สุดคุ้ม!
    image.jpg

    เหรียญ"รุ่นแรก"ลป.พวง วัดป่าปูลูสันติวัฒนา จ.อุดรฯ ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    image.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  17. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด) พระผงท้าวเวสสุวรรณโณ (กุเวร)"รุ่นแรก-รุ่นเดียว"ของนครอุดรธานี ในโอกาสสร้างศาลหลักเมืองใหม่ ปี 2542 พิธีใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโน) เสด็จเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย คณะพราหมณ์หลวง นำโดยพระราชครูวามเทพมุนี (ชวิน รังสิพราหมณกุล)ผู้ประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญดวงพระวิญญาณและบารมี องค์ท้าวเวสสุวรรณ เมตตาอธิฐานจิตโดย พระครูโสภิตวิริยาภรณ์(พระอาจารย์อิฏฐ์ ภทฺทจาโร) เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี จ.สมุทรสาคร ผู้ที่ชื่อว่า มีญาณพลังจิตแก่กล้าที่สามารถสื่อถึงท้าวเวสสุวรรณที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ของเมืองไทย พร้อมด้วยพระเกจิชื่อดัง พระเถราจารย์-พ่อแม่ครูอาจารย์สายวิปัสนากรรมฐาน ทั่วนครอุดรธานีและทั่วทุกสารทิศอีกด้วย พุทธา-เทวาภิเษก เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2541 ขึ้น 6 ค่ำเดือนอ้าย"ลดแหลก"ใครยังไม่มีแนะนำเลยครับไม่ผิดหวัง ประสบการณ์สูงครับ แบ่งปันหนมๆ 200.-
    image.jpg
    รับไปด้วย พระผงรูปเหมือนยุคแรก ลป.เอีย วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบรี...สุดคุ้ม
    image.jpg
    เหรียญประวัติศาสตร์ 2 แผ่นดิน

    นับเป็นมิ่งมหามงคลอย่างยิ่งของพสกนิกรชาวจังหวัดอุดรธานี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (ร.9) อนุญาตให้สร้างศาลหลักเมืองอุดรธานี และทรงพระกรุณาทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมเสาหลักเมืองให้ ณ พระตำหนักสวนจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต....และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฏราชกุมาร (ร.10) เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดอุดรธานี ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2542 จึงเป็นเรื่องราวที่เล่าถึงทั้ง 2 พระองค์เอาไว้ในความทรงจำของชาวอุดรธานีและชาวไทยสืบมาจนถึงปัจจุบัน

    [​IMG]
    ประวัติ หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี

    ชื่อ พระครูโสภิตวิริยาภรณ์ สมโภชน์ ฉายา ภทฺทจาโร
    สถานะเดิม ชื่อสมโภชน์ นามสกุล อมรรัตนบดี เกิดวันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๐๐ ปีวอก บิดาชื่อนายพจน์ น้อยมา มารดาชื่อนางประนอม น้อยมา เกิดที่บ้านเลขที่ ๗๘ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
    บรรพชา วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๑๔ ณ วัดบางกะพ้อม ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
    นามพระอุปัชฌาย์ พระครูโกวิทสมุทรคุณ วัดจุฬามณี ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
    อุปสมบท วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๐ ณ วัดจุฬามณี ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
    นามพระอุปัชฌาย์ พระครูโกวิทสมุทรคุณ วัดจุฬามณี ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
    วิทยฐานะ - พ.ศ.๒๕๑๒ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนเทศบาล ๑ วัดนางวัง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
    - พ.ศ.๒๕๒๑ สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษา วัดจุฬามณี ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
    - การศึกษาพิเศษ มีความชำนาญ อ่าน - เขียน อักษรขอมโบราณได้
    - ความชำนาญพิเศษ ทางด้านนวกรรมการก่อสร้าง
    พระครูโสภิตวิริยาภรณ์ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดจุฬามณี
    ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
    ในปี พ.ศ.๒๕๓๒ จนถึงปัจจุบัน
    การศึกษาวิชาจากคณาจารย์
    1. หลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง สมุทรสาคร ยันต์นกคุ้มกันไฟ
    2. หลวงปู่ดโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร ยันต์ตรีนิสิงเห
    3. หลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง สมุทรสงคราม เจิมเรือ
    4. หลวงปู่ขวัญ วัดโพธิดก ราชบุรี ตะกรุดพระเจ้า 16 พระองค์
    5. หลวงพ่อคลี่ วัดประชาโฆสิตาราม สมุทรสงคราม เจิมบ้าน
    6. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม ให้เจิมรถแทน
    7. หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม ไหม 5 สี,ตะกรุดโลกธาต
    8. หลวงพ่อพิน วัดอุบลวรรณาราม ราชบุรี เหรียญมหาปราบ,หนุมานเชิญธง
    9. หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ พระนครศรีอยุธยา นารายณ์แปลงรูป
    10. หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา พระนครศรีอยุธยา นะ ฉัพพัณนะรังษี
    11. หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ สมุทรสงคราม ตะกรุดจันทร์เพ็ญ
    12. หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม เบี้ยแก้
    13. หลวงพ่อสุธรรม วัดเขาพระ เพชรบุรี นั่งสมาธิสายวัดปากน้ำภาษีเจริญ
    14. หลวงพ่อแผว วัดตะโหนดหลวง เพชรบุรี ลูกศร
    15. หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร เพชรบุรี ต่อกระดูก
    16. หลวงพ่อไห วัดบางทะลุ เพชรบุรี แหวนพิรอด
    17. โยมเหมือน อนันตรพีระ สมุทรสงคราม ใบมะนาวรักษาโรค
    18. โยมหมอเย็น คำแหง สมุทรสงคราม วิชาหลวงปู่บ่ายวัดช่องลม
    19. โยมวิทย์ จันหอม สมุทรสงคราม วิชาสายหลวงปู่อ่วมวัดไทรและหลวงปู่อยู่วัดน้อย
    ประวัติ ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณ
    ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท่านท้าวกุเวร นั้น ส่วนมากเราจะพบเห็นในรูปลักษณ์ของยักษ์ ยืนถือกระบองยาว หรือ คทา (ไม้เท้าเป็นรูปกระบอง) กันซะส่วนใหญ่ แต่แท้ที่จริงแล้ว ยังมีรูปเคารพของท่านในรูปของชายนั่งในท่า มหาราชลีลา มีลักษณะอันโดดเด่นคือ พระอุระพลุ้ย อีกด้วย กล่าวกันว่า ผู้มีอาชีพสัปเหร่อ หรือ มีอาชีพประหารชีวิตนักโทษ มักพกพารูปท้าวเวสสุวรรณ สำหรับคล้องคอเพื่อเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันภัย จากวิญญาณร้าย ที่จะเข้ามา เบียดเบียน ในภายหลัง ภาพลักษณ์ของท้าวกุเวร ที่ปรากฎในรูปของชายพุงพลุ้ย เป็นที่เคารพนับถือ ในความเชื่อว่า เป็นเทพแห่งความร่ำรวย แต่ท้าวกุเวรในรูปของท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งมาในรูปของยักษ์ เป็นที่เคารพ นับถือว่า เป็นเครื่องราง ของขลัง ป้องกัน ภูติผีปีศาจ
    “สารานุกรมไทย” ฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน เล่มที่ 3 หน้า 1439
    กล่าวถึง ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ ไว้ว่า กุเวร-ท้าว พระยายักษ์ผู้เป็นเจ้าแห่งขุมทรัพย์ มียักษ์ และคุยหกะ (ยักษ์ผู้เฝ้าขุมทรัพย์) เป็นบริวาร ท้าวกุเวรนั้น บางทีก็เรียกว่า ท้าวไวศรวัน (เวสสุวรรณ) ภาษาทมิฬ เรียก กุเวร ว่า กุเปรัน ซึ่งมีเรื่องอยู่ในรามเกียรติ์ว่า เป็นพี่ต่างมารดาของ ทศกัณฐ์ และทศกัณฐ์ไปแย่งบุษบก ของท้าวกุเวรไป ท้าวกุเวรมีรูปร่างพิการ ผิวขาว มีฟัน 8 ซี่ และมีขาสามขา (ภาพท้าวเวสสุวรรณจึงมักเขียนท่ายืนแยงแย ถือไม้กระบองยาว อยู่หว่างขา) เมืองท้าวกุเวร ชื่อ อลกาอยู่ บนเขาหิมาลัย มีสวนอุทยานอยู่ไหล่เขาแห่งหนึ่ง ของเขาพระสุเมรุ ชื่อว่า สวนไจตรต หรือ มนทร มีพวกกินนร และคนธรรพ์เป็นผู้รับใช้ ท้าวกุเวรเป็นโลกบาล ประจำทิศเหนือ จีน เรียกว่า โต้เหวน หรือ โต้บุ๋น ญี่ปุ่น เรียก พสมอน

    ท้าวกุเวรนี้ สถิตอยู่ยอดเขายุคนธรอีสานราชธานี มีสระโกธาณีใหญ่ 1 สระ ชื่อ ธรณี กว้าง 50 โยชน์ ในน้ำ ดารดาษไปด้วยประทุมชาติ และคลาคล่ำไปด้วย หมู่สัตว์น้ำต่างพรรณ ขอบสระมีมณฑป ชื่อ ภคลวดี กว้างใหญ่ 12 โยชน์ สำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ปกคลุมด้วยเครือเถาภควดีลดาวัลย์ ซึ่งมีดอกออกสะพรั่งห้อยย้อยเป็นพวงพู ณ สถานที่นี้ เป็นสโมสรสถาน ของเหล่ายักษ์บริวาร และยังมีนครสำหรับเป็นที่แปรเทพยสถานอีก 10 แห่ง ท้าวกุเวรมียักษ์ เป็นเสนาบดี 32 ตน ยักษ์รักษาพระนคร 12 ตน ยักษ์เฝ้าประตูนิเวศ 12 ตน ยักษ์ที่เป็นทาส 9 ตน

    นอกจากนี้ยังมีกล่าวว่า ท้าวเวสสุวรรณยังมีกายสีเขียว สัณฐานสูง 2 คาวุต ประมาณ 200 เส้น มีอาวุธเป็นกระบอง มีพาหนะ ช้าง ม้า รถ บางทีปราสาท อาภรณ์มงกุฎประดับรูปนาค ดำรงอิสริยศเป็นเจ้าแห่งยักษ์ มีบริวารแสนโกฏิ ถือโล่แก้ว ประพาฬ หอกทอง
    ลัทธิความเชื่อของพราหมณ์
    กล่าวถึงประวัติของท้าวเวสสุวรรณไว้ว่า ทรง เป็นโอรสของ พระวิศรวิสุมนี กับ นางอิทาวิทา แต่ในมหาภารตะว่า เป็นโอรสของพระปุลัสต์ ซึ่งเป็นบิดาของ พระวิศรวัส กล่าวว่า ด้วยเหตุที่ท้าวกุเวร ใฝ่ใจกับท้าวมหาพรหม เป็นเหตุทำให้บิดาโกรธ จึงแบ่งภาคเป็น พระวิศวรัส หรือ มีนามหนึ่งว่า เปาลัสตยัม ซึ่งรามเกียรติ์ไทยเรียกว่า ลัสเตียน

    ท้าวลัสเตียน หรือ พระวิศวรัสซึ่งเป็นภาคหนึ่งของ พระวิศรวิสุมนี นั้น ได้นางนิกษา บุตรีท้าวสุมาลีรักษา เป็นชายา มีโอรสด้วยกันคือ ทศกัณฐ์ กุมภกรรณ พิเภก และ นางสำมะนักขา ดังนั้น ท้าวกุเวร จึงเป็นพี่ชายต่างมารดา และร่วมบิดาเดียวกับทศกัณฐ์ เหตุที่ท้าวกุเวรผิดใจกับผู้เป็นพ่อ เพราะไปฝักใฝ่กับท่านท้าวมหาพรหม ซึ่งเป็นเทวดา ทำให้ผู้เป็นพ่อ คือ พระวิศรวิสุมนีโกรธ เพราะถือทิฐิว่า ตนเป็นยักษ์ ที่เป็นเทวดาต่ำศักดิ์กว่า ไม่ควรไปยุ่งกับเทวดา ที่บนสวรรค์ชั้นสูงกว่า เห็นคนอื่นดีกว่าพ่อของตน ก็เลยแบ่งภาคออกไปมีเมียใหม่ ลูกใหม่ ซะเลย ที่ท้าวกุเวร มีใจฝักใฝ่กับท่านท้าวมหาพรหมนั้น เป็นเพราะท้าวกุเวรนั้น ต้องการบำเพ็ญตบะบารมี หรือ สร้างสมความดี ด้วยการเข้าฌาน และบำเพ็ญทุกรกิริยา นานนับพันปี จนท่านท้าวมหาพรหมโปรดปราน ประทานบุษบกให้ อันบุษบกนี้ หากใครได้ขึ้นไปแล้ว สามารถล่องลอยไปไหนมาไหนได้ตามต้องการ

    เดิมทีนั้น ท้าวกุเวรครองกรุงลงกา ซึ่งมีพระวิศกรรม เป็นผู้สร้างให้ แต่นางนิกษา ได้ยุยงให้ทศกัณฐ์ ชิงกรุงลงกา มาจากท้าวกุเวร ทั้งยังชิงเอาบุษบกอันพระพรหมได้ประทานแก่ท้าวกุเวรมาด้วย ดังที่ได้บอกเอาไว้แล้วว่า บุษบกนี้ สามารถลอยไปไหนมาไหนได้ดังใจนึก แต่มีข้อห้ามมิให้หญิงที่ถูกสมพาส (แปลว่า การอยู่ร่วม การร่วมประเวณี) จากชาย 3 คน นั่ง ซึ่งต่อมานางมณโฑ ได้นั่งบุษบก จึงไม่สามารถ ที่จะลอยไปไหนมาไหน ได้อีกเลย สำหรับ นางมณโฑ ที่แต่เดิมเป็นนางฟ้า ที่พระอิศวรประทานให้กับทศกัณฐ์ ต้องกลายมาเป็นหญิงสามผัว ด้วยเหตุที่ว่า เมื่อทศกัณฐ์ได้รับตัวนางมณโฑจากพระอิศวรมาแล้ว ก็อุ้มพานางเหาะกลับมายังกรุงลงกา ขณะที่เหาะข้าม มาระหว่างทาง ได้เหาะข้ามเมืองขีดขิน ซึ่งมี “พาลี” เป็นเจ้าเมือง พาลีโกรธ ที่ทศกัณฐ์บังอาจ อุ้มหญิงสาว เหาะข้ามหัว โดยไม่เกรงใจ จึงเหาะขึ้นไปรบกับทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์สู้ไม่ได้ เพราะพาลีได้รับพร จากพระอิศวรว่า หากรบด้วยผู้ใด ศัตรูผู้นั้นจะมีกำลังลดลงครึ่งหนึ่ง หรือมีความสามารถลดน้อยกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง เมื่อทศกัณฐ์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ จึงถูกพาลีแย่งชิงเอานางมณโฑไปเป็นมเหสี ต่อมา เมื่อพาลีคืนนางมณโฑ ให้กับทศกัณฐ์แล้ว เมื่อตอนที่หุงน้ำทิพย์ “หนุมาน” ได้เข้าไปทำลายพิธี โดยปลอมตัวเป็นทศกัณฐ์ แล้วร่วมสังวาส กับนางมณโฑ นางมณโฑ จึงเป็นหญิงที่ผ่านการสมพาสชายมาถึง 3 คน คือ พาลี ทศกัณฐ์ และ หนุมาน เมื่อทศกัณฐ์ ให้นางมณโฑ ขึ้นนั่งบุษบกนี้ทีหลัง บุษบกก็เกิดการขัดข้องทางเทคนิค ไม่ลอยไปไหนมาไหน ตามต้องการ เหมือนเก่า
    ครั้นเมื่อท้าวกุเวรต้องเสียกรุงลงกาไปแล้ว ท้าวมหาพรหมท่านก็สร้างนครให้ใหม่ ชื่อ “อลกา” หรือ “ประภา” อันตั้งอยู่ที่เขาหิมาลัย มีสวนชื่อ “เจตรรถ” อยู่บนเขามันทรคีรี อันเป็นกิ่งแห่งเขาพระสุเมรุ บ้างก็ว่า ท้าวกุเวร อยู่ที่เขาไกรลาส ซึ่งพระวิษณุกรรมเป็นผู้สร้างให้
    ความเชื่อตามพระพุทธศาสนา
    ในพระสูตรที่ชื่อว่า “อาฏานาฏิยะ” กล่าวว่า ท้าวกุเวร ตั้งเมืองอยู่ในอากาศ ข้างทิศที่อุตรกุรุทวีป (เหนือ) และ เขาพระสุเมรุ ยอดสุทัศน์ (ที่เป็นผาทอง) ตั้งอยู่ มีราชธานี 2 ชื่อ คือ อาลกมันทา และ วิสาณา มีนครอีก 8 นคร

    ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณนั้น ยังมีชื่ออีกหลายชื่อ เช่น ธนบดี หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ ธเนศวร หมายถึง ผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ อิจฉาวสุ หมายถึง มั่งมีได้ตามใจ ยักษ์ราชหมายถึง เจ้าแห่งยักษ์ มยุราช หมายถึง เป็นเจ้าแห่ง กินนร รากษเสนทร์ หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในพวกรากษส ส่วนในเรื่องรามเกียรติ์ เรียกท้าวเวสสุวรรณว่า ท้าวกุเรปัน

    ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงอดีตชาติของท้าวกุเวร เอาไว้ใน พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม 3 ภาค 2 - หน้าที่ 151 ว่า ในสมัยที่โลกยังว่าง จากพระพุทธศาสนา ไม่มี พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัตินั้น มีพราหมณ์ ผู้หนึ่ง นามว่า กุเวร เป็นคนใจดีมีเมตตากรุณา ประกอบสัมมาชีพ ด้วยการทำไร่อ้อย นำต้นอ้อย ตัดใส่ลงไปในหีบยนต์ แล้วบีบน้ำอ้อยขายเลี้ยงชีวิตตน และบุตรภรรยา ต่อมากิจการ เจริญขึ้น จนเป็นเจ้าของ หีบยนต์สำหรับบีบน้ำอ้อยถึง 7 เครื่อง จึงสร้างที่พักสำหรับ คนเดินทาง และบริจาคน้ำอ้อย จากหีบยนต์เครื่องหนึ่ง ซึ่งมีปริมาณน้ำอ้อยมากกว่าหีบยนต์เครื่องอื่น ๆ ให้เป็นทาน แก่คนเดินผ่านไปมา จนตลอดอายุขัย ด้วยอำนาจ แห่งบุญกุศลที่บริจาคน้ำอ้อยให้เป็นทานนั้น ทำให้กุเวรได้ไปอุบัติเป็นเทพบุตร บนสวรรค์ชั้น จาตุมหาราชิกา มีนามว่า"กุเวรเทพบุตร" ต่อมากุเวรเทพบุตร ได้เทวาภิเษกเป็นผู้ปกครองดูแล พระนครด้านทิศเหนือ จึงได้มีพระนามว่า "ท้าวเวสสุวรรณ"

    ตามหลักฐานในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา ยืนยันว่า "ท้าวกุเวร" หรือ "ท้าวเวสสุวรรณ" เทวราชพระองค์นี้ ได้สำเร็จเป็น พระอริยบุคคลชั้นโสดาบันเมื่อครั้ง "จุลสุภัททะ ปริพาชก" เกิดความสงสัยในความเป็นมาแห่ง องค์สมเด็จ พระพุทธเจ้า ท่าน "ท้าวเวสสุวรรณ" องค์นี้แหละ ที่ได้เสด็จไปร่วมต้อนรับด้วย และ ยังเป็นประจักษ์พยาน เรื่องพระมหาโมคคัลลานะ ใช้เท้าจิกพื้นไพชยนตวิมาน ของพระอินทร์จนเกิดการ สั่นสะเทือนไป ทั้งดาวดึงส์ เทวโลก อันเป็นการเตือนสติสักกะเทวราชอีกด้วย และก็เชื่อกันตาม ฎีกามาลัยเทวสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม 1 ภาค 2 - หน้าที่ 435 ว่า "คทาวุธ" ของ "ท้าวเวสสุวรรณ" นั้น เป็นยอดศัสตราวุธ มีอานุภาพสามารถทำลายโลกใบนี้ให้เป็น จุณวิจุณภายในพริบตา

    จะเห็นได้ว่า ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณนั้น ท่านเป็นเทพที่สำคัญยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง ที่พิทักษ์รักษา พระพุทธศาสนา ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ท่านท้าวสักกะเทวราช หรือ พระอินทร์เลยทีเดียว ตามวัดวาอารามต่าง ๆ จะมีรูปปั้นยักษ์ 1 ตน บ้าง 2 ตนบ้าง ยืนถือกระบองค้ำพื้น ส่วนมากจะมี 2 ตน เฝ้าอยู่หน้า ประตูโบสถ์ หรือ วิหารที่เก็บของมีค่า มีพระพุทธรูป และโบราณสมบัติล้ำค่าของทางวัดบรรจุอยู่ ด้านละ 1 ตน หรือไม่ก็บริเวณลานวัด หรือที่ที่มีคนผ่านไปมาแล้วเห็นโดยง่าย บ้างก็สร้างเอาไว้ในวิหาร หรือ ศาลาโดยเฉพาะก็มี ซึ่งยักษ์เหล่านั้น ถ้าเป็น ตนเดียว ก็จะหมายถึง รูปเคารพของท้าวเวสสุวรรณ แต่ถ้าเป็น 2 ตนก็จะเป็นบริวารของท่านท้าวเวสสุวรรณ คอยทำหน้าที่ ปกปักรักษา ดูแลบริเวณวัด

    ท้าวเวสสุวรรณ เป็นอธิบดีแห่งอสูรย์หรือยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผี เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุ ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมากประทับ ณ โลกบาลทิศเหนือมียักษ์เป็นบริวาร คนไทยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็ก เพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควาญแก่เด็กว ท้าวกุเวรองค์นี้มีกล่าวถึงในอาฏานาฏิยปริตว่านำเทวดาในสวรรค์ชั้นจตุมหา ราชิกา มาเฝ้าพระพุทธเจ้าและได้ถวายสัตย์ที่จะดูแลพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวก ไม่ให้ยักษ์หรือบริวารอื่นๆ ของท้าวจตุโลกบาลไปรังควาญ

    ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งมีท้าวมหาราชทั้งสี่ปกครอง คือ ท้าวธตรัฏฐะ ท้าววิรุฬหกะ ท้าววิรูปักชะ และท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) ประจำทิศต่างๆ ทั้งสี่ทิศโดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) เป็นใหญ่ปกครองบริวารทางทิศเหนือ ว่ากันว่าอาณาเขตที่ท้าวเธอดูแลปกครองรับผิดชอบมีอาณาเขตใหญ่โตมหาศาล กว้างขวาง และเป็นใหญ่ (หัวหน้าท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ) กว่าท้าวมหาราชองค์อื่น

    ท้าวเวสสุวรรณ เป็น เทพแห่งขุมทรัพย์ เป็น มหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง รักษาสมบัติของเทวโลก ทั้งเป็นเจ้านายปกครองดูแลพวกยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งปวง (ในคัมภีร์เทวภูมิ กล่าวไว้ว่า ท้าวเวสสุวรรณได้บำเพ็ญบารมี มาหลายพันปี รับพรจาก พระอิศวร พระพรหม ให้เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ) นอกจากนี้หน้าที่ของท้าวเวสสุวรรณมีมากมาย เช่น การดูแลปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา, ปกป้องคุ้มครองแก่ผู้นั่งสมาธิปฏิบัติพระกรรมฐาน เป็นต้น

    ในคัมภีร์โบราณ ได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดหวัง ความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูป ท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร
    ท้าวเวสสุวรรณ มีทั้งหมด 4 ภาค
    - ท้าวเวสสุวรรณพรหมาสูติเทพ ชั้นพรหม มีรูปกายสีทอง ภูษาสีทอง
    - ท้าวเวสสุวรรณเทพบุตรสูติเทพ ชั้นดาวดึงค์ มีรูปกายสีทอง ภูษาสีแดง
    - ท้าวเวสสุวรรณ จาตุมมหาราช มีรูปกายสีเขียวหรือดำ ภูษาสีเขียว
    - ท้าวเวสสุวรรณ ชั้นมนุษย์ มาในรูปแบบมนุษย์
    คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ
    จุดธูป 9 ดอก ดอกกุหลาบแดง 9 ดอก
    ตั้ง นะโม 3 จบ ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา ครูบาอาจาร
    ย์
    กล่าวคำว่า..ปุตตะ กาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง
    อัตถิกาเย กายะ ยายะ เทานัง ปิยังตังสุตตะวา
    อิติปิโส ภะคะวา ยมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
    มระณังสุขัง อะหังสุขะโต นะโมพุทธายะ
    ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต
    เวสสะพูสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  18. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    G62) เหรียญ ลป.ทวด ปี 06 หกเหลี่ยมพิมพ์ใหญ่ เนื้อทองแดงรมดำ วัดกลางสวนสร้าง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ สร้างเมื่อปี 2506 โดยใช้รูปแบบเดียวกับเหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้แจกปีนัง ปี 2506 เหรียญหลวงปู่ทวด วัดกลางสวน นี้มี 2 พิมพ์ 1.พิมพ์ใหญ่ 2.พิมพ์เล็ก การจัดสร้างและปลุกเสกพิธีใหญ่มากครับ อาจารย์ทิม วัดช้างให้ ร่วมปลุกเสกด้วย และยังมีเกจิอาจารย์ร่วมสมัยร่วมปลุกเสก เช่นหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อเผย วัดบางหญ้าแพรก หลวงพ่อแสวง วัดกลางสวน หลวงพ่อแจ่ม วัดด่านสำโรง"ลดแหลก"มาพร้อมบัตรรับรอง แบ่งปันหนมๆ 1,000.-
    image.jpg

    สวยแชมป์...สุดคุ้ม
    image.jpg image.jpg
    แถมๆๆ..รับไปด้วยจ้า ลป.ทวด วัดประสาทบุญญาวาส ปี 38

    image.jpg
     
  19. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด G63) เศียรพ่อแก่"รุ่นแรก"ครบรอบ 72 ปี สร้างอนุสรณ์ วัดเพชรบุรี ปี 2537 ผงผสม ผงฤาษีแปลงรูป ว่าน 108 ดิน 7 ป่า ช้า ชานหมากเกศา และอีกมากมาย ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ของหลวงปู่ ท่านให้ไว้ นี้คือสุดยอด บรมครู ของท่าน สภาพสวยกล่องเดิมครับ"ลดแหลก" มีแบ่งแค่ 10 องค์ แบ่งปันราคาหนมๆ องค์ละ 200.-
    [​IMG]
    หลวงปู่อนุญาตในการจัดสร้างครั้งแรก จัดเป็น"รุ่นแรกของจริง"เมื่อครั้ง ท่านอยู่วัดเพชรบุรี ปลุกเสกนาน 1 ไตรมาส สุดยอดมวลสาร สุดคำบรรยาย ประสบการณ์สูง ทำพิธีพุทธาภิเษก วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2537 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ณ.บริเวณอุโบสถ วัดเพชรบุรี ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ราคานี้ไม่มีแล้ว ตรวจสอบได้เลยจ้า ที่สำคัญไม่มีแล้ว หายากสุดๆ
    image.jpg
    19022556110730_1022.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  20. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิด G64) พระผงขุนแผน เนื้อน้ำตาล สภาพสวย มาพร้อมเหรียญนาคปรก"แก้วสารพัดนึก"เนื้อทองแดงกล่องเดิมๆ ลป.ชม โอภาโส วัดสามัคคี จ.หนองคาย ศิษย์เอกคู่บารมี หลวงปู่พิบูลย์ แห่งวัดพระแท่น(บ้านแดง)"ลดแหลก"ราคา 250.(danaitorn)
    [​IMG][​IMG]
    ด้านเมตตาสุดๆ จนคุณชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์ ลป.ทิม ต้องนิมนต์ไปร่วมปลุกเสก พระขุนแผนอยู่หลายครั้ง สวยๆกล่องเดิมๆ
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2017
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...