บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ ขออนุโมทนาและเจริญในธรรมนะคะ

 

เดี๋ยวต่อไปจะสนุก อาจจะกำลังนั่งปั้นอยู่ดีๆ ทำไมมีใครมาคุยกันอยู่ในตัวเรา

สังเกตไปมา อ้าว ทำไมมีตั้ง 3

 

เห็นแสงสว่างวาบออกมาจากมือที่ปั้นแล้ว เห็นกายนั่งปั้น เหมือนเราไม่ใช่กายแต่เป็นผู้ดู คนดูคนหนึ่ง คนกระทำคนหนึ่ง ทำนองนี้นะ

 

ไม่ใช่ๆ
ต่อไปจะเป็นภาค วิปัสสนา
เวลาจิตเป็นสมาธิ จะมีการ ถกธรรมกันภายใน
มี 1 เป็นผู้แสดง อีก 2 ถกกันไปมา หาข้อสรุป

แปลกไหม เรามาทาง สมถ แต่ดันพูด วิปัสสนา 555
เพราะจริงๆแล้ว สมถ วิปัสสนา จะคู่กันไปตลอด

 

ถูกค่ะคุณhastin สมถะคู่กับวิปัสสนาตลอด เราเห็นอย่างนั้นมานานแล้ว ถกธรรมนี่ก็ถกกันเองภายในตลอด เราพูดอธิบายไม่เป็นนะ บอกตรงๆ นะ ตอนนี้เราไม่มีอะไรเลย แต่ต่อไปยังไม่รู้

วางงานปั้นมาสองสัปดาห์ได้แล้ว ความกระตือรือร้นหาย กลายเป็นเรื่อยๆ อะไรก็ได้ ผัสสะแล้วเพิก อยู่กับความเป็นจริงของชีวิตปัจจุบัน

ขันธ์ห้าทำงานปกติ แต่จิตไม่เกาะ เห็นเค้าสนทนาธรรมกันก็เฉยๆ ความถูก ความผิดไม่มี ความทะยานอยากหรือไม่อยากมันเบาบางลง เห็นเรื่องการทวนธรรมภายใน วงจรต่างๆ ชัดเจน เป็นเรื่องภายในทั้งหมด ก็บอกเล่ารายละเอียดไม่ได้เหมือนเดิมค่ะ

 

นิทานสักเรื่อง

หลังปีใหม่ ได้เรียนรู้ระดับสมาธิที่สูงขึ้นจากเดิม ได้รู้ถึงจุดที่ควรตัดลง เพื่อพบสภาวะว่าง

รู้สึกเหนื่อยมาก อ่อนล้าเต็มที่ ป่วยไปสองวัน

พอดีขึ้น กลับมาทวน พบว่ายังสามารถไปต่อได้ จากจุดที่ตัดลง

พอเดินจิตไปต่อ สามารถเชื่อมจิตกับจักรวาลได้ เพื่อรับรู้เหตุ และ ผล ของการเกิด

ถ้าจิตไม่ปล่อยวาง พอมาถึงจุดนี้ จะเชื่อมจิตไม่ได้ ได้แต่เห็นภาพของจักรวาลแต่ไม่รู้


พอมีเวลาว่าง ได้กลับไปอ่านกระทู้หนึ่ง ที่มีท่านผู้ปฎิบัติดีท่านหนึ่งชักชวนท่านอื่นเที่ยวโลกทิพย์

พออ่านถึงจุดที่ท่านบรรยายว่าไปที่ไหน จิตก็จะเกิดภาพที่นั้น เริ่มแปลกๆ เพราะไม่เคยเกิดสภาวะนี้มาก่อน แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร

เริ่มสังเกตได้ชัด ตอนที่ท่านเล่าถึง พระพุทธรูปที่ประดิษฐานที่เมืองบาดาล

เห็นภาพตัวเอง พนมมือแหวกน้ำลงไป รู้สึกแปลกจึงทบทวนตัวเอง

จิตก็ยังอยู่ในฐานตามปกติ แต่ภาพตัวเองที่เห็นอยู่ในน้ำก็มีการรับรู้ ไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใด

ใช้วิธีเหมือนเดิมคือ รีบแผ่เมตตาแล้วถอนจิตที่อยู่ใต้น้ำกลับก่อน

กลับมาทบทวน กลายเป็นมีอีกจิตที่อยู่ในจักรวาล ยังไม่เข้าใจใดๆ

 

เมื่อคืนว่าง ก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สงสัยในใจว่า ในแต่ละสภาวะที่เกิด เราจะทำอะไรได้บ้าง

เบื่อ เฉย ธรรมดา

ช่วงเบื่อ น่าจะ วิปัสสนา เสร็จแล้ว ปัจจเวก เพราะมีกำลังเสริมจากการเบื่อเพิ่มขึ้นมา

ช่วงเฉย น่าจะปัจจเวก ในหัวข้อใหญ่ๆไปเลย เพราะส่วนมาก เฉยจากทรงฌาน จิตมีกำลัง

ถ้าทบทวน สรุปได้ในช่วงนี้ ค่อนข้างได้ประโยชน์

ช่วงธรรมดา ก็คือไม่มีอะไร ปล่อยวาง ต้องเริ่มเล่าเรียนเรื่องใหม่

คำถามคือ แล้วจะเรียนอะไร คำตอบคือ ก็เรียนความเป็นตัวเรานี่เหละ

ทั้งหมดล้วนเริ่มเรียนจากตัวเรา ดู คิด ทบทวน สรุป ปล่อย

 

อยู่กับปัจจุบันจริงๆ เลยเรา ผัสสะ วาง ผัสสะ เล่น มีแต่หน้าที่ เห็นแต่หน้าที่ของธรรมแต่ละธรรม ตอนนี้ไม่มี..."เบื่อ" มีแต่เฉยกับธรรมชาติ

เฉยนี้มีสภาวะแบบรู้แล้ววาง จิตไม่เกาะ ไม่ติดใจ

อืม...ยังเสขะอยู่นะ ลืมไป

ขอให้เจริญในธรรมนะคะ คุณ hastin

 

ก็พอๆกันครับ คุณ nouk เคยบอกไปนานแล้วว่าการปฎิบัติของเราพอๆกัน แต่เน้นคนละด้าน

เราเน้น สมถะนำ คุณ nouk คล้ายจะวิปัสสนานำ

และชอบอยู่กับธรรมกันทั้งสองคน ไม่ยอมลด ไม่ค่อยยอมเพิ่ม 555+

พอใจกับทุกสิ่งที่มี ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น

แต่ช่วงนี้เราเหมือนจะเริ่มโดนบังคับเรียน

 

คงเป็นไปตามแรงอธิษฐานของคุณมังคะ

ส่วนเราเองเป็นไปตามครรลองค่ะ

เมื่อวานเดินบริกรรมไปซื้อของหน้าปากซอย ได้รับสัมผัสน้ำทิพย์ที่แขนขวา น้ำทิพย์นี้มีละอองเล็ก ละเอียดกว่าละอองน้ำปกติ แต่ว่ามีความเย็นซาบซ่านเหลือเกิน ก็เป็นนิมิตด้านความเพียรที่เหมือนไม่ได้เพียร คริคริ

 

นิทานสักเรื่อง

ช่วงนี้ฝึกหนักมาก ร่างกายโรยเต็มที่ หมดสภาพทุก 2 วัน

แต่เริ่มสังเกตสิ่งหนึ่งได้ คล้ายๆว่าทุกครั้งก่อนฝึกอะไรใหม่ ครูบาอาจารย์จะให้ทรง พรหมวิหาร 4

แต่ก่อนจะรู้สึกแค่ว่าจิตเบาสบาย ไม่เครียด กำลังจิตสูงขึ้น ทรงสมาธิระหว่างวันง่ายขึ้น ไม่ต้องประคองมาก

แต่ช่วงนี้รู้สึกได้ชัดเจนว่า ช่วงแผ่เมตตา มีความเย็นแผ่ซ่านอยู่ในตัว ขนาดร่างกายอ่อนล้าเต็มที่

แผ่เมตตาในตนไปสักพัก กลับรู้สึกมีความสดชื่นเพิ่มขึ้น

ฉุกใจคิดว่า พรหมวิหาร 4 อาจมีผลกับ ธาตุ ในร่างกายด้วย วันหน้าต้องหาความลับนี้ให้เจอให้ได้
แต่วันนี้ขอร่วงโรยก่อน 555

 

ยินดีด้วยค่ะ

 

ยินดีที่ร่วงโรยหรอ 555

หลายปีที่แล้ว ครูบาอาจารย์เคยถามแล้วว่าจะเรียนใหม เราตอบไปว่า ไม่อยากเรียน พอใจแค่นี้

แต่ตอนนี้ ระดับสมาธิที่มีอยู่ ยังไม่พอที่จะเอาตัวรอด เลยต้องเรียนเพิ่ม แต่ก็สนุกดี

 

ทำให้ถึงซิคะ จะได้ไม่ร่วงโรยเนาะๆ คริคริ

เอามาอวดค่ะเพิ่งได้รับมาวันนี้ ฝนตกตั้งแต่เช้ามืดเป็นสัญญานว่าท่านมาถึงแล้ว ร่วมถวายปัจจัยงานปริวาสกรรมและบวชเนกขัมมะ วัดซับตะเคียน เพชรบูรณ์ค่ะ (วันที่ 1-10 กุมภาพันธ์ 2561)

เพราะเราคู่กัน ขนาด 11 เซน

 

แปลกใจ ตอนที่ท่านคุรุวาโร เล่า ไม่ได้บอกว่า เทวี ที่ 3 ของท่านปู่คำชะโนด บำเพ็ญเพียรด้วย

แสดงว่าตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

 

คือใครรึ เราจำเรื่องราวในกระทู้นิทานไม่ได้อ่ะ เล่าให้อ่านหน่อยซิคะ

 

เจ้าของบุญฤทธิของแก้วสีน้ำเงิน สีเหลืองจะบรรจุความเย็นของน้ำลึก

คุณ nouk อย่าเอาไปกำนั่งสมาธินะ สีเหลืองอ่ะ เดี๋ยวธาตุไฟแตก

 

ขอบคุณค่ะ สีม่วงเข้มกับเหลืองเข้มนะ เคยได้สีเหลืองแบบนี้มาลูกนึงเมื่อปีที่แล้วก็ถวายพระไปแล้ว

เราจะนำมานั่งมองเพ่งกสิณค่ะ ขอบารมีช่วยสร้างบันไดพญานาคหน้าพระอุโบสถ วัดภูเพียง จังหวัดน่าน เราไม่ถนัดนั่งกำลูกแก้วนะ

ระยะหลังๆ มานี้ฝันเห็นแต่คนนำของศักดิ์สิทธิ์มาให้ค่ะ

อยากรู้หนออีกแล้ว ทำไมสีเหลืองจะทำให้ธาตุไฟแตกหนอ

 

นิทานสักเรื่อง

เมื่อเข้าสมาธิได้ถึงจุดหนึ่ง จิตจะไม่ได้ควบคุมกาย หรือเรียกกันว่า จิตแยกจากกาย

จุดนี้ ปราณจะมีผลกับร่างกายมาก ทั้ง ลม เลือด น้ำเหลือง ระบบประสาท

พูดให้ง่ายๆ ก็คือปรับความสมดุลของกาย ถ้ามีของทิพย์ที่มีความเย็นจัดมาอยู่ในมือ

จะทำให้มือเย็นจัด ธาตุไฟจะไหลขึ้นมาตามกระดูกสันหลังไปที่จุดที่เย็นนั้นอย่างรวดเร็ว

ยิ่งมีความเย็นจัด ธาตุไฟก็จะขึ้นมามาก เพื่อให้สมดุล

แต่ร่างกายของผู่ที่ปฎิบัติเป็นประจำ จะค่อนข้างสมดุลอยู่แล้ว ก็จะทำให้ธาตุไฟที่ขึ้นมาเหล่านั้นมาตกค้างอยู่ในส่วนที่ไหลขึ้นมาทั้งหมด

คิดว่าตัวคงร้อนไป 1 ข้าง ปกติไป 1 ข้าง อาจฝึกวิชาสำเร็จเป็น ตงฟางปุป้าย 5555

 

555 ขอบคุณค่ะ เราเป็น FC ตงฟางปุป้ายนะ