กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

มันไล่งับเจนตั้งแต่ต้นทาง ยันถึงทางแยกสะพาน
คือแบบว่า ข้ามสะพานไป คือทางเนินเขา มีหมอกหนา
หมามันไม่ตามมาคะเฮีย
แต่เจนต้องขับไปต่อ ถอยหลังกลับ ก็เจอหมา
ไปต่อข้างหน้า ก็ผาสูงหมอกหนา โอ้ย
เป็นฝันที่ละทึกสุดๆคะเฮีย

 

กินเยอะก่อนนอนหรือเปล่า

 

ประเด็นนี้มีส่วนนะพี่ 5555
แต่เจนกินเยอะก่อนนอนแทบทุกวันเลย
แต่หลอน แมลงสาบบนหัว ขนลุกทุกทีที่คิดถึง
แต่ว่างวดต่อไปนี้ หลัก9มีโอกาสมามั้ยพี่
ทะเบียนรถพ่อที่ฝันว่าขับ 990

 

ยังไม่ได้คิดเลยยังเงียบๆ

 

สะกิดๆบอกด้วยเน้อ 5555

 

หากเป็นแบบนี้ แสดงว่า เจ้ากรรมนายเวร คอยตามเล่นงานเราน่ะแหละ แต่ตามไม่ทัน น้องเจนเวลาทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้เขาสิครับ แล้วขออโหสิกรรมต่อกัน

 

พูดถึงหวยนะ แม่บ้านมาเล่าให้ฟังว่า ที่ทำงานของเขาฮือฮากันแต่เช้าวันจันทร์เลย เพราะมีคนถูกรางวัลที่ 1 พร้อมกัน 3 คน (คงซื้อเจ้าเดียวกันแหละ) ถูก 6 ล้าน คนนึง ถูก 12 ล้าน สองคน
คนที่ถูก 6 ล้าน กะ 12 ล้าน คนนึง มาเก็บข้าว เก็บของลาออกกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดเรียบร้อย
ยังเหลือคนที่ถูก 12 ล้าน ยังรับราชการต่อไป แต่ตอนนี้บ่นปวดหัวมาก คนรู้จักในที่ทำงาน โทรมาขอเงินกันทั้งวัน บางคนขอแสนนึง บางคนขอสองหมื่นสามหมื่น บอกจะเอาไปใช้หนี้นอกระบบมั่ง หนี้บัตรเครดิตมั่ง พอไม่ให้ก็โกรธ หากจะให้ ก็ต้องให้ทุกคน เพราะรู้จักกันทั้งนั้น ตอนนี้กำลังปวดหัว ผวาไม่กล้ารับโทรศัพท์แล้ว ทุกขลาภแท้ๆ เฮ้อ....

 

จะอิจฉาก็บุญเขาเนาะเฮีย
แต่ว่าถูกมาก็นี้แหละ พี่น้องเพียบ~~~
เจนจะหนีไปพักร้อน เลย
ถูกแบบเงียบๆ ไปหลบอยู่วัดอยู่ป่า 2อาทิตย์ไปเลย
555555
(บุญเจนเร่งสร้างก่อนดีกว่า ให้ได้โชคใหญ่ๆเก็บเงินไว้เป็นมรดกลูก)

 

จริงครับน้องเจน เขาทำของเขาไว้ พอถึงเวลาเขาก็ได้เอง ก็ขนาดคนที่ถูก 12 ล้าน แล้วลาออกไปน่ะ ตอนซื้อก็ไม่ค่อยมีเงินนะ แม่ค้ามายัดเยียดให้ พอซื้อแล้วมาแบ่งให้เพื่อนที่ทำงานใบนึง
บอกช่วยๆกันหน่อย เพื่อนที่ทำงานยังไม่เอาเลย ตอนนี้คงเสียดายแย่แล้วมั๊ง ตั้ง 6 ล้าน 55555

หากน้องเจนถูกนะ ไปอยู่วัดไหนบอกด้วย เฮียจะแวะไปเยี่ยม 55555

 

สาธุๆๆๆ ขอให้ถูกอย่างเฮียให้พรมานะคะ
น้อมรับพรนี้ อิอิ
ก่อนอื่น อาจไปเยี่ยมเจนที่โรงพยาบาล
เพราะช็อค เป็นลมไป

 

วันนี้อ่านข่าว ที่เจมส์เรืองแสง เอ่ย เรืองศักดิ์
เครื่องบินตก
เขาบอกว่า ช่วงหนึ่ง เขารู้สึกเหมือนลอย
ลอยกลางอากาศที่มีแสงสว่างไปหมด
จนได้ยินเสียงเรียกให้ตื่น

เจนเลยมาสะกิดใจ
เจนก็เคย เคยเป็นแบบพี่เจมส์
ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ อุ้มหมาแล้วหมามันกระโดนลง
รถมอไซ ล้ม เจนจำได้แค่ ตัวลอยหงายลัง
กับเสียงดังโป๊ก เพราะหัวกระแทกใส่ถนนเต็มๆ

ภาพที่มันโผล่มาคือ เจนง่วงนอนมาก
แล้วทิ้งตัวหงายหลังลงที่ฟูกขาวๆ
รอบข้างมีแต่แสงสว่างขาวไปหมด
หาต้นทางปลายทางทิศทางไม่มี กว้างหรือแคบก็ไม่รู้
รู้แค่มันสว่าง มีฟูกขาวๆ ให้เราทิ้งตัวลง

กำลังรู้สึกว่า จะถึงฟูกแล้ว ก็ถูกเรียกด้วยคนแถวนั้น
จำได้ว่าน่าจะเล่าไปแล้วคะ แต่รีรันใหม่นะ อิอิ
มานึกถึงก็มักคิดเสมอว่า นี้มั้ยที่คนกำลังจะตาย
เขาเจอกัน เพราะมันคือความสบายมากๆเลยคะ
เหมือนเราเหนื่อยมานานแล้ว
ได้ทิ้งตัวลงนอนสะที
แต่มาสะดุ้งเพราะคนเรียก

หัวไม่แตก ไม่มีเลือดคั้งในหัว แต่หัวเจนบุบลงนิสนึง
ไม่มีแผล แม้แต่รอยช้ำ ถ้าจำไม่ผิด
เหมือนปกติ ทั้งที่ลงแรงพอสมควร
แต่ถูกพระมารดา ด่าและฝ่ามือลงหลังนิสๆ
(นี้เจนพึ่งรถล้มมานะแม่ )
และถูกจับ ย่าง ใบหนาดใบเป้า

แค่รู้สึกถึงความหลัง
แต่ไม่ขอเจอแบบนี้อีกนะคะ มีห่วงอยู่
5555

 

[QUOTE="กาแฟโบราณ2สอ, post: 10886971, member: 703270"
]สุดท้ายตื่นมา
สามีที่ตื่นมาก่อน เหงื่อตก มาเล่าฝันให้ฟัง
ว่า แบบนี้ๆๆๆ
แปลกที่ เขาฝัน เหมือนกันกับเหตุการณ์ที่เจนฝันเลยคะ
แบบนี้ เรียก บังเอิญ หรือไรน้อ~~~


".....แปลกที่ เขาฝัน เหมือนกันกับเหตุการณ์
ที่เจนฝันเลยคะ
แบบนี้ เรียก บังเอิญ หรือไรน้อ....."


ฝันเรื่องที่คล้ายๆกันในคืนเดียวกัน
เป็นอะไรที่แปลกและลี้ลับ
คงไม่น่าใช่ความบังเอิญ

อย่างสามีภรรยาที่อยู่กันมานานๆ
บางครั้งจะคิดอะไรที่เหมือนกันในห้วงเวลาเดียวกัน
พอคนหนึ่งกำลังพูดหรือเล่าให้ฟัง
อีกคนก็รีบบอกว่า..เออกำลังจะเล่าให้ฟังเหมือนกัน
ทั้งๆเรื่องที่เล่าต่างไม่เคยคุยกันมาก่อน

ถ้าเป็นความฝันที่เกิดจากคน2คน
หรือหลายๆคนกลางวันทำกิจกรรมเดียวกัน
ตกกลางคืนฝันถึงเรื่องนั่นคล้ายกัน
อย่างนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้

บางครั้งฝันคล้ายกันคนละคืนหรือคนละอาทิตย์
โดยที่ต่างฝ่ายไม่ได้เล่าให้ฟัง
ทั้งเหตุการณ์ และสถานที่ฝันเหมือนกัน
ทั้งที่สถานที่ฝันถึงต่างก็ไม่เคยไปมาก่อน
และเป็นสถานที่ๆมีอยู่จริง

เออ...มันแปลกดีไหมละเนียะ
คิดว่าคงจะเป็นการเชื่อมจิตหรือสื่อจิตกัน
ส่วนจะเชื่อมหรือสื่ออย่างไง
ลึกๆคงต้องรอให้ท่านอจ.นพมาอธิบาย
คือผมแค่เล่าแบบชาวบ้านๆให้ฟังเท่านั่น

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 63 ลำดับที่ #1250
(9 ถามว่ามารในพุทธศาสนามีกี่ชนิด)


[QUOTE="nopphakan, post: ]

กี่ชนิดในทางพุทธศาสนาพิมพ์อากู๋
จะทราบคำตอบได้เอง มีรายละเอียดแสดง

... แต่ที่ต้องระวังหลักๆ มี ๒ อย่าง
ซึ่งรู้แค่นี้ก็ครอบคลุมตามตำราได้

อย่างแรก(ปฎิบัติ ปน ตำรา)
ที่ตำราเรียกว่า. ๑.เทวปบุตรมาร
เป็นระดับเทวดาชั้นที่ ๕
ที่มาขวางการสร้างความดี
เพราะเค้าติดเรื่องบารมีตรงที่ได้ขวางคนที่ทำดี
(คือถ้าคนนั้นผ่าน จะทำดีเค้าจะได้อานิสงส์ด้วย)
ส่วนนี้เป็นเหตุ
ที่ทำให้เป็นเทวปบุตรมารนั้นเอง

และ ๒. กระแสแหย่หรือกระแสจร
หรือ เรียกว่าวิบากก็ได้
ซึ่งเป็นกระแสที่จิต เคยมีการวกวน
ร่วมกันมาตั้งแต่อดีต หรือปัจจุบัน
ที่จะมาดี มาขวาง มายุ มาแหย่ มาส่งเสริม
มาหนุน มาหลอก มาไม่ดี.
ซึ่งก็รวมข้อที่ ๑ ไว้ด้วย.

ถ้าทางปฎิบัติ. เราจะเรียกว่า
กระแสจร หรือวิบาก เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ส่วนเหตุมาจากอดีต ปัจจุบันก็แล้วแต่
ส่วนมากจะเฉยๆ ไม่สน
ทิ้งไป อโหสิไป ทำบุญให้ไป
หรือยอมรับไป แล้วแต่กรณี

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 65 ลำดับที่ #1285
(เป็นช่วงที่ทุกคนกำลังจดจ่อ
เรื่องพระธาตุ/พระสรีระธาตุ
ผมขอคัดเอาสาระบางส่วนมานำลงไว้ที่นี่)

[QUOTE="nopphakan, post:]

ส่วนของพระสรีระ
จะมีพลังงานในตัวเอง
ในลักษณะคลื่นประจุไฟฟ้า
ซึ่งสามารถดึงดูดกันได้ปกติ
แต่เป็นคลื่นในลักษณะที่ทางวิทย์
เรียกว่า แรงนิวเคลียร์แบบเข้ม
นึกถึงเวลาเราดึงยางให้ยืดออก
พอปล่อยก็จะกลับมาได้นั้นหละ
จำไม่ผิด สื่อนำแรงประเภทนี้
ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า ฮิกต์ นี่หละ
สามารถเห็นได้ชัด เพราะส่วนตัว
เคยแยกสีโดยใช้ปลายหลอดดูดน้ำ
และปลายไม้จิ้มฟันแยก

ส่วนกรณีพระบรมสารีริกธาตุ
ข้อที่ ๑. ที่คุณ เก้า นำมาลง
ส่วนตัวเคยเล่าไปแล้ว
ที่ประมานมีเทวดางอขาแบบในกำแพง(สีเขียวเข้ม)
ลอยอยู่รอบๆนั่นหละครับ
ส่วนข้างในจะเจอกลุ่มที่เป็นพรหมมีสี
แต่ว่าสีใสอยู่ข้างใน
ที่บอกลอยคือลอยที่ปลายยอดนะครับ


แต่ถ้าเราสั่งเกตุดีๆ. จิตนี่หละ
ที่สามารถเป็นต้นกำเนิด ของแรงต่างๆ
ทั้ง ดึงดูด แม่เหล็ก นิวเคลียร์แบบเข้มและแบบอ่อน
ซึ่งแรงเหล่านี้ที่เราได้อยู่ร่วมในธรรมชาติเป็นปกติ
กับที่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์พึ่งค้นพบ
เราจะเห็นว่า พวกนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
ทางพุทธศาสนา มีมาตั้งแต่ยุคพุทธกาลแล้ว
แต่เราเห็นกันในเรื่องของความพิเศษ
ความสามารถพิเศษต่างๆ ที่ท่านทั้งหลาย
ได้เคยกระทำให้เราเล่าสืบต่อกันมานั่นหละครับ

พลังงานพระอรหันต์
เป็นแบบโน้นแบบนี้ มันไม่ใช่ครับ
เพราะว่ามันไม่มีขอบเขต
มันเลยเป็นไปไม่ได้เลย
สำหรับการจะไปชี้วัด ว่าเป็นกี่เท่าหรือกี่เท่า
หรือจะไปเปรียบให้เห็นได้
เช่น เก้าอี้ตัวนี้ มีขนาดเป็น สามเท่า
ของอีกตัว. แสดงว่าเก้าอี้ทั้งสองตัว
ต้องสามารถวัดได้ เลยเอามาเปรียบได้

ดังนั้น ไม่ว่าใคร ก็ไม่สามารถ
ที่จะไปรู้ ไปวัด ไปเทียบ กับ
พลังงานของพระอรหันต์

เพราะพลังงานเป็นลักษณะไร้ขอบเขต
ไร้กาล ไร้เวลา ไม่มีขอบอะไรให้เทียบ
ขนาดอะไรได้ครับ. นึกออกไหมถ้ามีขอบ
แสดงว่ามันต้องนังมีองค์ประกอบของสะสาร
ที่รวมไปกันจะต้องได้วัดได้เหมือนเก้าอี้

เราจึงพูดได้แค่ว่า ไร้ขอบเขต เท่านั้น
สำหรับภาษาที่สื่อให้มนุษย์ด้วยกันเข้าใจ

นี่หละครับเรื่องอจิณไตร
จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด
หากไม่เข้าถึงด้วยตนเอง
เพราะมันจะไป คิด วิเคราะห์ แยกแยะ
ตีความเอาไม่ได้ เพราะมันเป็นนามธรรม
เป็นสภาวะธรรมอย่างหนึ่ง
ซึ่งก็เป็นนามธรรมอีกเช่นกันครับ

เรื่องอื่นๆที่เหลือเช่นกันก็จะเห็น
ในภาพรวมกว้างๆครับ

ปล เล่าให้ฟังเป็นนิทาน พอขำๆ

 

ขอให้ถูกครับน้องเจน เฮียว่าไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ฝึกสติมาตั้งเยอะแล้ว
คงดีใจแหละว่า จะมีหลักประกันให้ลูกชายแล้ว

 

เชื่ออภินิหาร "พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช" โจรงัดตู้บริจาควิ่งหนีไม่ได้-เหมือนถูกรัดจนล้ม

26 พ.ย. 61 (10:01 น.)





สนับสนุนเนื้อหา

(26 พ.ย.61) พ.ต.ท.พงษ์สักก์ หงษ์เวียง สว.(สอบสวน)ฯ สภ.หว้านใหญ่ ได้รับแจ้งจาก นายไชบัญชา ว่องไว กำนันตำบลหว้านใหญ่ ว่ามีเหตุลักทรัพย์เงินบริจาคกองทุนพญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช ที่บริเวณลานแก่งกะเบา หมู่ที่ 10 ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร จึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หว้านใหญ่ ตชด. ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหาร ลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุที่ได้รับแจ้งดังกล่าว และได้จับกุม นายสรวิชญ์ อายุ 55 ปี พร้อมด้วยเงินจำนวน 29,639.50 บาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 61 นายสรวิชญ์ อายุ 55 ปี มีอาการเมาสุรานอนอยู่หน้าบันไดทางลงแม่น้ำโขง และพบธนบัตรจำนวนหนึ่งตกหล่นอยู่ที่พื้นข้างตัว ตรวจค้นนายสรวิชญ์ พบธนบัตรจำนวนหนึ่งอยู่ในกระเป๋ากางเกง ถัดออกไปประมาณ 20 เมตร พบตู้บริจาคสภาพถูกงัดแงะมีเหรียญกษาปณ์จำนวนหนึ่งอยู่ภายในตู้



จากการสอบถามนายสรวิชญ์ ยอมรับว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินซึ่งอยู่ในตู้บริจาค ซึ่งตนได้ลักมาจริงและวิ่งหนีไปไม่ได้ เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างมารัดตัวตนเองไว้ หายใจไม่ออก ล้มลง ตนเองจึงได้นอนแน่นิ่งบนพื้นหน้าองค์ปู่พญานาคฯ จนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจนับเงินดังกล่าวได้จำนวน 29,639.50 บาท และจับกุมตัวนายสรวิชญ์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หว้านใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป..

 

ว่าจะสวดมนต์ไหว้พระวันนี้เริ่มเหนื่อยล่ะพึ่งทำได้ 2 วัน

 

พึ่งรู้นะว่าปัจจุบันนี้พญานาคมีพิพิธภัณฑ์แล้ว

เช้านี้จะพาไปรู้จักพิพิธภัณฑ์พญานาค(บ้านบุญบวงสรวง)
ตั้งอยู่อาคารคอมม่า 22/22 ถนนลาดพร้าว ซอย 31 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
พิพิธภัณฑ์บ้านบุญบวงสรวง ก่อตั้งขึ้นปีพุทธศักราช ๒๕๔๔ โดยใช้ชื่อในการจัดกิจกรรมต่างๆ ว่า “ชมรมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาในรูปแบบการจัดงานนิทรรศการ ในเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา, วันวิสาขบูชา, วันอาสาฬหบูชา จัดงานกิจกรรมต่างๆเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนหน่วยงานและองค์กรการกุศลต่างๆ

ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์บ้านบุญบวงสรวง ได้จัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้น เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จำลอง จาก ๙ ประเทศ, พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จำลองคู่บ้านคู่เมืองจาก ๗๗ จังหวัด, พิพิธภัณฑ์พระคณาจารย์, พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศวรเป็นพิพิธภัณฑ์รวมงานศิลปะที่หลากหลาย เช่น งานศิลปะการถ่ายภาพ, งานจิตรกรรมโดยศิลปินชื่อดัง, และงานประติมากรรมต่างๆ

 

ขอให้ถูกส่งท้ายปี ด้วยคะเฮีย 555
หวังอยู่น๊า

 

จว.ยโสธรแดนดินบั้งไฟ...ก็ไม่น้อยหน้า
มีพิพิธภัณฑ์พญาคันคากและพิพิธภัณฑ์พญานาคอยู่บริเวณใกล้เคียง
ดูจากข่าวและรูปภาพแล้ว...น่าไปเที่ยวเด๋อ
เทศกาลปีใหม่นี้ถ้าไม่กลัวรถติด
ใครบ้านอยู่ใกล้ๆแค่ข้ามจังหวัดก็น่าสนใจนะครับ

********************************

พิพิธฑ์พญาคันคาก หรือ พิพิธภัณฑ์คางคก แลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่โดดเด่นแปลกตาของจังหวัดยโสธร ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำลำทวน อำเภอเมือง บริเวณสวนสาธารณะพญาแถน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สอดแทรกตำนานเรื่องเล่าพื้นเมืองของชาวอีสาน เกี่ยวกับตำนาน พญาคางคกและประเพณีบุญบั้งไฟอันโด่งดัง ตัวอาคารถูกออกแบบให้เป็นรูปคางคกขนาดยักษ์เป็นอาคารสูง 5 ชั้น หรือประมาณ 19 เมตร พื้นที่ประมาณ 835 ตารางเมตร และนิทรรศการภายในจะบอกเรื่องเกี่ยวกับที่มาของบั้งไฟ โดยจัดฉายเป็นภาพยนตร์ 4 มิติ และนิทรรศการเกี่ยวกับคางคกชนิดต่าง ๆ ที่พบได้ในเมืองไทยที่มีอยู่กว่า 20 ชนิด และมีการรวบรวมของดีทางด้านเกษตรกรรม ของเมืองยโสธรไว้ภายในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของจังหวัดยโสธร







ตำนานพญาคันคาก พญานาค พญาแถน

พญาคันคาก พญานาค พญาแถน คือ ตำนานความเชื่อของชาวอีสาน และอีกตำนานหนึ่งก็จะมีตำนาน “ผาแดงนางไอ่” ชาวอีสานจะทำบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน ถึงปลายเดือนห้าย่างเดือนหก ชาวบ้านก็จะแสดงออกถึงความสามัคคี ร่วมกันทำบั้งไฟจุดขึ้นไป แจ้งพญาแถนเพื่อให้บันดาลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล เพื่อชาวโลกมนุษย์จะใช้น้ำฝนทำนาเป็นไปตามตำนานเล่าสืบทอดกันมา พญาคางคก พญานาค รวมไพร่พลยกทัพขึ้นไปรบชนะพญาแถน และได้ทำสัญญาสงบศึก หากถึงฤดูกาลทำนา โลกมนุษย์จะส่ง สัญญาน แจ้งพญาแถนด้วยการจุดบั้งไฟขึ้นท้องฟ้า และเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโลกมนุษย์ก็จะใช้เสียงสนูจากว่าวแจ้งให้พญาแถนทราบ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวบ้าน




นอกจากนี้ข้างพิพิธภัณฑ์มีประติมากรรมขบวนแห่บั้งไฟอันอ่อนช้อยและงดงาม สวนสาธารณะพญาแถนที่บรรยากาศร่มรื่นลมพัด เย็นสบายเหมาะสำหรับมาเดินเล่นพักผ่อนในยามเย็น รวมถึงพิพิธภัณฑ์พญานาคขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกับ สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้แก่ผู้มาชม ภายในมีภาพถ่ายสามมิติสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศเพื่อนบ้านให้โพสต์ท่าถ่ายภาพอีกด้วย









การเข้าเยี่ยมชมภายในอาคารพิพิธภัณฑ์พญาคันคากและอาคารพิพิธภัณฑ์พญานาค
เปิดให้เข้าชมวันพุธ-วันจันทร์ (ปิดวันอังคาร ยกเว้นตรงกับวันหยุดราชการ) วันธรรมดา ช่วงเช้า เวลา 09.00 -12.00 น. ช่วงบ่าย เวลา 15.00 – 18.00 น วันหยุดราชการ ช่วงเช้า เวลา 09.00 -12.00 น. ช่วงบ่าย เวลา 13.00 - 19.00 น.ห้ามนำอาหารและ เครื่องดื่มทุกชนิดเข้าไปภายในอาคารพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก และอาคารพิพิธภัณฑ์พญานาค

การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก

จากตัวเมืองยโสธรหน้าสวนธารณะเมืองแถน บนถนนแจ้งสนิท ให้ขับรถตรงไปประมาณ 400 เมตร เลี้ยวขวาตรงสี่แยกถนนห้า ธันวาคม จากนั้นให้ตรงไปผ่านเรือนจำยโสธร ประมาณ 700 เมตร จะถึงสามแยกจะถึงสามแยก จากนั้นเลี้ยวขวาตรงสามแยก และขับรถตรงไปอีก 200 เมตร ให้เลี้ยวขวาอีกครั้ง ตรงไปอีก 150 เมตร จะถึงพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก หากใครไม่คุ้นเคยเส้นทาง อาจใช้ google maps นำทาง


บริเวณพิพิธภัณฑ์คันคากมีให้บริการรถรางชมเมืองฟรี ทุกวันศุกร์-วันอาทิตย์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที โดยจะแวะจอด 5 สถานีด้วยกัน คือ สถานีวิมานพญาแถน สถานีวัดมหาธาตุ สถานีบ้านสิงห์ท่า สถานีบุ่งน้อยบุ่งใหญ่ และสถานีวัดศรีธรรมาราม เลือกขึ้นกันได้ 3 เที่ยว คือ
- เที่ยวที่ 1 เวลา 09.30 น. - 10.50 น.
- เที่ยวที่ 2 เวลา 14.00 น. - 15.20 น.
- เที่ยวที่ 3 เวลา 16.00 น. - 17.20 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เทศบาลเมืองยโสธร โทรศัพท์สายด่วน 1132






Credit source: เวป paiduaykan.com

Posted in: Travel

ที่มา...เวป e-toyotaclub