ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

ไม่ได้ครับ บังคับให้เกิดไม่ได้ ตอนที่เกิดก็เกิดเพียงชั่วคราวในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งผมจำไม่ได้ว่าสภาวะนี้หายไปตอนไหน เเละตั้งเเต่ที่เคยเกิดสภาวะนั้น จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยเกิดสภาวะเเบบนั้นขึ้นอีกครับ ซึ่งเวลาผ่านมานานเเล้ว ผมยังคงจดจำสภาวะนี้ได้ครับ

ผมโพสอธิบายตรงส่วนของตรงนี้เพิ่มเติมเเล้ว ลองเลื่อนไปอ่านดูได้นะครับ

 

กั๊กๆๆ ยิ่งกว่า ละครช่อง 7 อีกฮับ

ม่ายไหว ม่ายไหว

" เขามีแต่ กิเลสดั่งเขาพระสุเมร
ประมาณไม่ได้ .............

จึง รอรีอ้อน "


แต่นี่ ลอกเขามา เลยมั่วนิ่ม

" กิเลสอยู่ครบ อุ้ยสะดิ้ง ไม่ลืมเลือน "

 

แบบนี้ ต้องฝาก ปลาท้วม ผ่านท่าน ทานปลา
ไปยัง คนขายไข่ปิ้งจิ้มลิ้มปลาวาฬน

ทำไมลงที่ คนขายไข่ปิ้ง

เพราะ คัดท้าย หมูไหม้ไปชวนตัว "ที่นี่ !!!" มา

 

... มาอีกเเล้ว ประเภทที่กล่าวหาผมว่าไปลอก ไปจำมาเขียน

ผมบอกไปเเล้วว่ากล่าวถึง เพราะมันเกิดขึ้นกับตัวจริงๆจึงเขียน ผมได้สัมผัสสภาวะนั้นจริงๆจึงเขียน

ซึ่งตรงนี้จะไปขัดกับตำราอย่างเเบบไหนอย่างไร ก็คงต้องไปวิเคราะห์ ตัดสิน พิจารณากัน เเต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นเเล้ว ผมก็ต้องอธิบายถึง กล่าวถึง ถ้ามันมีเเล้วบอกไม่มี ก็คงไม่ได้

 

ปล ลิง : ดูจากรูปแกนแล้ว

คนมานิว น่าจะไปเผลออ่าน บทความพังทิป
เดี๋ยวแจ้งนิพพานขณะนอนปฏิบัติ เดี๋ยวแจ้ง
นิพพานขณะขับรถ ชิวๆ เมื่อหลายปีก่องมา

เพราะว่า

เออหวะ มะแอ่ม เหมือนกันทุกคำ ทุกจังหวะ
ทุกตรรกะในการแย้ง แม้นแต่ลำดับการสำลอก
ออกมาแต่ละคำ ยังกะโคกออกมา จนน่าขนลุก

แต่ดีกว่าเยอะ ตรงไม่มั่ว เดี๋ยว นอน เดี๋ยว ขับรถ

 

อ่านดีๆ ฮับ

ป๋ม ไม่ได้ว่า ใคร

ป๋ม ว่า ต้นฉบับ ซึ่ง ม่ายฉ่าย จขกท

อะฮับ

แต่เอาเข้าจริงๆ อ่านดีกว่านั้น ต้นฉบับ ก็ยังไม่ใช่
ประเด็น ประเด็นจริงๆ จะเป็น ปลาตัวใหญ่

จขกท งง เต็ก สรุปไม่มี คน แต่เป็นเรื่องของ ปลา

 

อุปมา จขกท แค่ เศษผง ใต้ ครีป ปลา

อย่าไปเข้าใจว่า ป๋มจะไปนั่งใส่ใจ คลี่ผง

 

กิเลส จขกท อยู่ แคร๊บ

ในเมื่อ อ่านคำพูดแต่ละคน แล้วไม่เข้าใจ


อนุญาติให้แสดง ความพ่ายแพ้ยับเยิน

" อะไรที่ควรพูดก็ สำรอกไปแล้ว
มัดผลนิดนาน เป็นเรื่อง ปัดจัดกัน
รู้เอง ชิมเอง "

มะโรงศรี !! ( click ดูคำแปลได้ ไม่ว่ากัน )

 

ปกติคุณเป็นคนชอบเสียดสี ดูถูกคนอื่นหรอครับ
กดคนอื่น เเล้วยกว่ากูเเน่ กูเก่ง ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนครับ คุณเป็นโสดาบันหรอ? ตอบผมได้มั้ย
เเล้วถ้าคิดว่าเป็นทำถึงได้มั่นใจว่าเป็นครับ? เเล้วถ้าไม่เป็นทำไมถึงได้มั่นใจว่าตนเองรู้ถูกครับ?

เเต่เอาจริงๆนะครับ วิธีการพูด วิธีกานปฏิบัติของคุณต่อผู้อื่น ไม่ได้เเสดงให้เห็นคุณสมบัติของผู้มีปัญญาเลยครับ เเค่สัมมาวาจาก็ดูเหมือนคุณจะไม่มีเเล้วครับ จากวิธีการเเสดงคำตอบ คำพูดเสียดสี เหยียดหยามกับผู้อื่นอย่างนี้

เเล้วการพิมเช่น "กั๊กๆๆ" หรืออะไรพวกนี้เลิกได้มั้ยครับ มันมีประโยชน์อะไรตรงไหนครับ มันเเสดงให้เห็นความกระสับกระส่าย สติไม่ค่อยจะอยู่กับตัวของผู้เขียนออกมา รู้ตัวมั้ยครับ

ประเภทที่ถกเถียงกับผม ผมไม่ปัญหา เเต่ประเภทที่กล้าตัดสินคนอื่น ว่าเค้าผิดกูถูก มั่นใจเเน่ว่าตนรู้ ตนเห็น ทั้งที่ตนเองก็อาจยังไม่ใช่โสดาบัน เเล้วทำไมถึงได้มั่นใจว่าเข้าใจถูก เพียงเพราะอ่านจากตำรามาวิเคราะห์ หรือคิดเอาเองตามหลักการ หลักเหตุผล ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนครับ

ธรรมะหาคำตอบได้จากการปฏิบัติ ไม่ใช่การอ่านจำมาวิเคราะห์ เเล้วมาอวดอ้าง ดูถูกผู้อื่น
ผมไม่รู้ว่าคุณปฏิบัติถึงไหนเเล้ว เเต่การกระทำของคุณ วิธีเขียน วิธีตอบ ไม่ได้เเสดงให้เห็นถึงผลของการปฏิบัติที่ถูกต้องครับ ไม่ได้เเสดงให้เห็นว่าเป็นคำตอบของผู้มีปัญญา หรือคำตอบของอริยบุคคลเลยครับ

ตราบใดที่ตนก็ยังไม่ใช่ ก็อย่าได้มั่นใจครับว่ากูถูกเเน่

เเล้วไม่ต้องมาจับผิดผมว่า ผมโกรธ ผมอย่างนั้น อย่างนี้ ใช่ครับ ผมไม่พอใจคุณ บอกไว้ตรงนี้เลย
ไม่ต้องมาทำเป็นรับน้อง ลองภูมิ ลองเชิง คุณต้องมีมารยาทในการสนทนาครับ ไม่ใช่คิดว่าตัวเกงเก่ง ตัวเองถูก เเล้วจะกดคนอื่น ดูถูกคนอื่นยังไงก็ได้

 

หมูไหม้ เอ้ย

บอกอะไร รับฟังได้

นี่ไปหา "พวกหิว" วิวาทับ มาจากไหน

อย่าหาทำ จิฮับ

เสียดาย น้ำลาย ที่เขาเอาไป พอกตัว ยกความเป็น อริยะ

 

หมูไหม้ มาสังเกตกัน

คนที่โดน สัญญาหลอก ครอบงำเอา จังหนับ
จะมีอาการอย่างไร

จะมีอาการเหมือน หมูไหม้ แหละ

คือ

" อะไรควรกล่าว ก็กล่าวไปแล้ว
หากมันจะมี ประโยชน์อย่างงั้น
อย่างงี้ ฝากไว้ในโลกา "

แล้ว ของจริงเป็นยังไง

ก็ดู ศาสดาของเรา ไม่ใช่ของหมูไหม้
ทำเป็นตัวอย่าง

" หากยังไม่ใช่ ลมหายใจสุดท้าย ยังไม่
ปรินิพพาน ก็จะ ทรงรอ ให้คนถาม "

มองออกเป่า ว่า ต่างกัน

 

ยุคนี้มันได้55
อริยะคิดวางแผนการ
ปุถุชนคิดแค่หาข้าวกินไปวันๆ
555

 

ถ้าจะบอก สอนธรรมให้คนรู้ถูก เข้าใจถูก ก็ทำไปเถอะครับ
เเต่ถ้าจะบอกธรรม เพื่อที่จะยกตนว่ากูถูก เเล้วมาเสียดสี เหยียดหยามผู้อื่น
"ผู้มีปัญญา ไม่ทำครับ" เพราะย่อมรู้ว่ามีโทษ มากกว่ามีคุณ ย่อมรู้ว่ามันจะสร้างความขัดเเย้ง ไม่พอใจให้ผู้อื่นได้ เเละย่อมรู้ว่าไม่ใช่วิธีทางที่ถูกต้อง

เเล้วก็อย่างที่บอกไป ว่าตราบใดที่ตนก็ยังไม่ใช่โสดาบัน ก็อย่าได้มั่นใจว่าตนรู้ถูก เข้าใจถูก เพียงเพราะอ่านมาดี วิเคราะห์มาดี จำมาดี หรือมีคนเห็นด้วยเยอะครับ เพราะสุดท้ายคำตอบมันหาได้จากตนเองเท่านั้น

 

หมูไหม้ ปรารภ บ่อย

" เอ้ย เหมือน "

หมูไหม้ ย้ำเองว่า "เหมือน จน ขนลุก"

ทีนี้ ขนลุก เนี่ยะ คืออะไร

คนลอกหมูไหม้ มีกี่คน เป็นแบบนี้
เหมือนจน ขนลุก แทนเลย

เพราะ หากเป็นความหลงผิด
ไม่ได้รู้เรื่อง สัจจ

อีกทั้งไม่สามารถกล่าว ชักนำให้เห็น
ทุกข์ ได้แต่เอามาพูดขู่

โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ลอก1คน เอา500คูณ

ที่ต้องไปตามแก้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้

นานเลยฮับ มัจฉา กระติก กอดไป

 

ไหน การ้อง ลองพูดสิ

" อะไรที่ควรกล่าว ก็ขอ พื้นที่เล็กๆ ฝากไว้ แทนศาสดาของเธว์อ "

 

คือสภาวะตอนบรรลุใช่ไหมครับ

 

หมูไหม้ สนใจ เทคนิค "สดๆร้อนๆเป่า"

สดๆร้อนๆ จะเป็น มุขนัย พระป่า หาได้แถว ดอนเขียวเล็ก

สภาวะนั้น คนรู้จริง เขาจะ ทำซ้ำได้ !!!

กี่ครั้งก็ได้ !!! ( แท้ทรู จะต้อง หัวเราะในลำคอ ด้วย ฮะเอ่อ )

ไม่ใช่

" ลืมไปแระว่า หายไปตอนไหน แต่ ปัจจุบันไม่เคย ลืม "

ไง น่าสนใจมะ

ของแท้ทรู เขามีแต่ ทำซ้ำได้ บริหาร จัดการได้
เพราะ ทราบชัดในเหตุ ไม่ใช่ มะรู้อะตัวเอง
ตอนนั้นมันเป็นเอง อะตัว

เห็นเป่าๆ โดนสัญญาหลอกจังหนับ กับ ภาวนาเป็น ต่างกัน

 

เอ่อ นึกขึ้นได้

หมูไหม้ เป็นคนมีหลาย ไอเสีย

แต่ละ ไอเสีย ก็เข้ามา .....อุ้ย กระดากปาก
ไม่พูดเนาะ หมูไหม้ เข้าใจ ลึกซึ้ง

แต่ ถามหน่อย อะไรแบบนี้ หมูไหม้ ไปเขียน
วิธีการเอาไว้ ตรงไหน อะเป่า

 

อารามานปัจจโย
ไม่รู้ความหมายคือกัน
แต่ให้ดูเท่ววว์ำว้ก่อน

 

เวลาธรรมหมวดใดหมวดหนึ่งมันสัมปยุทธ
มันจะปิ้งๆแว๊บๆ
วิบวับไปเรื่อยไปเรื่อยๆ
จากการเดาล้วนๆๆ555