ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

ลืมเขียน how to บอร์ดพลังจิต ให้ จขทก. ครับ
บางที... บางท่าน... อ่านผ่านๆ ก็พอครับ
อย่าไปใส่ใจทุกข้อความฮับ

 

เเล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่รู้เหตุครับ?
เหตุก็คือ มรรคผล เพราะเกิดมรรคผล เกิดปัญญาเห็นความจริงของสรรพสิ่ง จึงเกิดสภาวะนี้ขึ้นมา

เเล้วถามว่าถ้าจะทำให้เกิดอีก คือทำเหตุให้เกิด
เเล้วมันมีใครบังคับ มรรคผลให้เกิดได้หรอครับ? นอกจากทำต้องสร้างเหตุ

ซึ่งถ้าผมอ้างอย่างนี้ ว่าเหตุคืออย่างนี้ ก็กลายเป็นว่าผมอ้างตนว่า เกิดมรรคผล อ้างตนว่าบรรลุธรรมอีก ผมจึงเลี่ยงไม่พูดเรื่องบรรลุธรรม เพราะรู้ว่ามันมีคนคอยจับผิด เสียดสีไงครับ

ถ้าอ่านตรงกระทู้ผมก็เขียนอธิบายไปเเล้ว ว่าสภาวะเกิดตอนไหน หลังจากอะไร เเต่เพียงเเค่คนอ่านจะพิจารณา เข้าใจสิ่งที่เขียน สิ่งที่จะสื่อได้เเค่ไหน

 

รูปโปรไฟล์คุณการ้อง....มันได้จิงๆ555

 

กั๊กๆ

ถาม ญ คนนั้น ก่อนดีไหม

เห็น เหตุ เห็น เหตุ เขาเห็น กันยังไง

ไม่ใช่ อ้อ ผงมาม่า แกะซอง ซอสศรีราชา ก็ มัดแปลกๆ

 

ลุงพยาธิพูดถูกแล้ว ไตรลักษณญาณเกิดอีกได้ แต่ต้องในชีวิตจริง อยู่ในชีวิตจริง ไม่ใช่แค่สะกดเข้าไป

 

คุณ พญาตีนลายจุด ใครรู้จักเค้าดีบ้างครับ
เค้าเป็นผู้รู้ ผู้ตื่นหรอครับ? หรือเป็นผู้รู้ภูมิจิต ภูมิธรรม ผู้อื่นครับ?

เห็นเค้ามาเขียน เค้าพูดรู้กิเลส รู้จิต คนอื่นจังเลย

เเต่ไม่รู้ว่าเค้า" รู้ตนเอง " เเค่ไหนเเล้ว

 

กั๊กๆๆๆ

ป่านนี้ ยังเห็น แต่ สัตว์เต็มไปหมด

ที่บอกว่า เห็นความอิสระ มี จริง มันไม่จริง

หากมันจริง

ไม่มีหลอกฮับ จะมา สาระวนเรื่อง รู้วาระจิต

" ธรรมเป็นของกลาง
ขันธ์5 พร่องเป็นนิจ "

ไหน ขัน สัจจ อันเป็น สุญญตาทุกอัขระ นี้ให้ฟัง จิ๊

 

แนนเคยเป็นเด็กใหม่ ทีแรกตกใจเหมือนกัน ดราม่าเรื่องหนักกว่านี้อีก แต่พออยู่นานๆเริ่มรู้แนวทางการพูดแต่ละคน คาแรกเตอร์ต่างกันไป นุ่มบ้างหนักบ้าง ถ้าปรับตัวปรับใจได้ คำพูดเสียดแทงมันจะไม่ทะลวงเราแระ(เพราะชิน555) ถือว่าเป็นสีสันค่ะ มันจะนอยด์ๆช่วงแรก พอจูนได้แล้ว แกร่งเลยค่ะ

 

คนที่ว่าคนอื่นที่ไม่รู้จัก เพียงเพราะเค้าเห็นต่างว่า "สวะ" นี่ ต้องถูกสอนมายังไงครับ

ไปปฏิบัติอย่างไรมา ถึงได้กลายเป็นคนเเบบนี้ซะหละครับ

ผมถึงได้บอกไงครับ ว่าคุณเเสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีคุณสมบัติของผู้ปัญญา หรืออริยบุคคลเลย

เเค่พูดชอบ คิดชอบ ก็ยังไม่ใช่ เเล้วจะเอาอะไรมายืนยันว่าคุณรู้ถูก เข้าใจถูกหละครับ

มัวเเต่มาดูคนอื่น "ดูตนเองบ้างนะครับ"

 

รู้ลึก รู้ชัด รู้สรรพสิ่ง รู้คนอื่นไปหมด เเต่ถ้าไม่รู้ตนเอง
.. ระวังจะกลายเป็นพวก ใบลานเปล่า เอานะครับ

 

กั๊กๆๆ

" อย่าดูคนอื่น ให้ดูตนเอง "

ลอกเขามา มันก็ได้เท่านี้

กล่าวอีกกี่หน คนภาวนาไม่เป็น มันก็ งง วันยันค่ำ

จิตส่งออก

ย้อนดูตน ก็ จิตส่งออก อยู่ดี อะฮับ

ย้อนดูตน ก็เท่าเดิม หากภาวนาไม่เป็น

ได้แต่ ลอกเขามาพูดไปเรื่อยเปื่อย

สัจจใดแท้ ไม่เคยสัมผัส

 

ไม่ได้ครับคุณเเนน ผมเข้าใจว่าทุกคนมันมีคาเเรกเตอร์ในการพูด เเต่ไม่ใช่อย่างนี้ครับ มันมากไป
เบียดเบียนคนอื่นด้วยวาจา ยกตนว่ากูเเน่ กูเก่ง กูรู้ถูก มันไม่ใช่คุณสมบัติของผู้ที่ควรเคารพ ครับ

พระพุทธเจ้าสอนถึงความไม่เบียดเบียน เเต่ผู้รู้เหล่านี้ ดันเบียดเบียนคนอื่นซะได้ เเล้วด่าทอคนอื่นออกมา จะรู้ตัวรึป่าวว่าเบียดเบียนตนเองอยู่

ทุกการกระทำมีผลเสมอครับ.

"มารยาท" เป็นสิ่งต้องมีในทุกสังคม

 

อ้อ เขาเรียกสภาวะนี้ว่า ไตรลักษณญาน ใช่มั้ยคะ

 

ฮี้ ฮี้ ฮี้

อันนี้ ลอก แสมขาว มา

ก็จะกล่าว แบบนี้

ต้นตำหรับ เขาต้อง เสกนั่น เสกนี้ ด้วย

ไปเสวนา องค์มัธยมด้วย

ไหน ไป จิ ห มา จิ๊
วันนี้ องค์มัธยม จะกล่าวอะไร

 

กั๊กๆ

ธรรมเจ๊าะแจ๊ะ อย่าไป ตะครุบ จิฮับ

แต่

คลี่เกียจ ทักแระ น่าจะดีกว่า

นี่ถ้าไม่ได้ โซดาปั่น มาช่วย ยกว่า การภาวนายังพอใช้
ก็จะไม่อยากเสวนาด้วยเลย

ต้องขอบคุณ โซดา ปลอมนะนี้ ที่ทำให้ ยังพอดูว่าหาธรรม หิวธรรม

 

ไปปฏิบัตอย่างไรมา ไปรู้อย่างไรมา ถึงได้กลายเป็นคนเเบบนี้ไปซะได้ครับ

--------
เเล้วก็ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้จัก "เเสมขาว" ครับ

 

กั๊กๆ

เชยระเบิดระเบ้อ

เห็นไหมหละ ว่า ไม่ได้รู้อะไรเลย รูป นาม ก็ไม่เคยแยก

พอเจอ แสมขาว ใบ้รับประทาน

คนภาวนาเป็น เขา อ๋อ ทันที ง่าย ไม่มีซับซ้อน ไม่ต้องขยับปาก

 

คุณเป็นคน "รู้มาก" นะครับ
รู้มาก อ่านมาก จำมาก

ผมคงอาจจะรู้ไม่เท่า อ่านไม่เท่า จำไม่เท่า หรอกครับ

ถกเถียงให้ชนะไม่ได้หรอก

 

ควรจะเรียกว่า ละเมอยาน มากกว่า

 

มาๆฝึกเดาซะยานกรานๆๆบรรเทิงแน่นวล555