ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

คุณบอกว่าผมว่า "ไม่รู้ธรรมอันใดในพระศาสนา" ... ก็เป็นสิทธิ์ของคุณครับ ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร
ผมจะรู้จริง หรือไม่รู้จริง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดใครอยู่เเล้วครับ

 

ไม่หิวข้าวกันมั่งเหรอจะเที่ยงละ

 

อย่ามาเข้ากามราตะแถวนี้้้้55

 

ถ้าเวลาในสังคม เป็นคนนิสัยนิ่งๆ เงียบๆอยู่ครับ ไม่ค่อยตื่นเรื่องชาวบ้าน หรือที่คนเค้าใช้คำว่า เย็นชา ก็พอถูกอยู่ครับ

วิธีเขียน วิธีพูดเหมือนดูซีเรียส เเต่เขียนพูดกับคนไม่สนิท ไม่รู้จักจริงๆก็เป็นการเขียนตามปกติของผมหละครับ นอกจากคุยเล่นกับเพื่อนก็มีเหมือนกัน ก็จะคุยอีกเเบบ

 

ส่วนการพูดลงท้ายด้วย "ครับ"

เป็นตามปกติของผมครับ เพราะเวลาพูดกับผู้ใหญ่ หรือคนไม่รู้จัก ก็พูดมีหางเสียงว่า "ครับ" เป็นปกติครับ

 

น้องระวังไว้นะ พุชายด์พวกนี้รุ่นปู่เราทั้งนั้น พอเขาเปลี่ยนโหมดพูด โคตะระหื่นก้อมีไม่น้อย ระวังจะเสียเด็ก

พี่เคยเงิบมาก่อน แต่ตอนนี้ชินแระ

 

ขอถามนิดนึงนะคะ จขกท ช่วงที่เห็นธรรมนั้น กำลังนั่งสมาธิ หรือทำอะไรอยู่หรอคะ

 

เลือนลางเเล้วครับ จำไม่ได้ชัดเจนว่าทำอะไรอยู่ เเต่พอตอบได้ว่า อยู่ในช่วงขณะที่ดูจิตไปตามปกติครับ *ของผมจะเห็นตัวอนิจจังชัด กับอนัตตา*

เห็นมันเกิดดับไปเรื่อยๆเหมือนเดิมนะครับ เเต่ในจุดๆนึง ของผมมันจะรู้สึกอึดอัด เหมือนถูกบีบครั้นขึ้นมาครับ

เเละปฏิบัติต่อไป มันจะเกิดความเบื่อหน่าย เเละอยากจะพ้นไปจากกาย จากใจนี้ครับ ซึ่งสภาวะเหล่านี้มันเกิดจริงๆครับ ผมไม่ได้ลอกตำรามาเขียน

เเละที่สุด ในจุดหนึ่งมันจะวางลงครับ เเละมองเห็นเป็นธรรมชาติทั่วๆไป ไม่ใช่เขา ไม่ใช่เรา

จนเมื่อเหตุปัจจัยต่างๆมันถึงพร้อม ครบสมบูรณ์เเล้ว จิตมันเกิดปัญญาขึ้นเองครับ โดยไม่ได้ตั้งตัวมันเเจ้งขึ้นมาเห็นตามความเป็นจริง

โดยตรงนี้ไม่ได้พยายามคิดเอาเอง เเต่มันจะเห็นเเละเข้าใจตามความเป็นจริงไปอย่างนั้นด้วยตัวมันเอง ผู้ปฏิบัติถ้าถึงตรงนั้นก็เข้าใจได้เองครับ

*คือจิตมันเห็นความจริง จน "ยอมรับ" นั่นหละครับ*

หลังจากนั้นโลกก็เปลี่ยนไปทั้งใบ เเล้วก็เป็นตามที่ผมเล่าอธิบายสิ่งที่เกิดต่อหลังจากนั้นไปเเล้วครับ.

 

ตอนปฏิบัติ ผมทำจริงจัง เข้มข้นนะครับ ไม่ใช่ทำไปเล่นไป หรือทำบ้าง ไม่ทำบ้าง

เพราะอยู่ช่วงวันหยุดยาว จึงมีเวลาให้ทำได้เต็มที่ครับ คือหักดิบ งดละจากสิ่งที่ไม่ควรเสพ เเล้วปฏิบัติเเทบทั้งวัน ทั้งคืน ตื่นก็ทำ นอนก็ทำครับ

เเทบไม่ต่างจากไปจากการไปนุ่งขาว ห่มขาว ปฏิบัติตามวัดเลย

 

ถามผิดไปหรือเปล่า
เพ่ม้าย ขีด ต้องถาม ว่า เริ่ม ยาน ตรงไหนก่อน

 

ต่างคนต่างพูดไม่ออกได้แต่มองตาเท่านั้น
"ครับ"ที่ให้กันเหมือนโปรยกันการขวางทางไป
อย่าเลยอย่ารู้ว่าลืม"ขณะ"จะ เป็นอย่างไร
แค่รู้ไว้ว่าโลกทั้งใบจะให้ แฟน ต้าว์'s คนเดียว

 

ขอเสริมอีกอย่าง คือก่อนหน้านั้นผมถือศีล 5 มานานพอสมควรเเล้วครับ ไม่ได้พึ่งมามีศีลเอาตอนปฏิบัติ

 

หมูไหม้ มาดูๆ

ไม่ได้เหมือน หมูไหม้ จีๆ

เพราะ หากเหมือน หมูไหม้ที่เขียนไว้ที่ พันทิฟ ก็จะ
บรรลุขณะ อริยาบทนอนภาวนา เกิดการ บีบคลั้นท์
แล้วหลุดออกไป

แต่ถ้าเหมือน หมูไหม้ที่เขียนจ๊ะจ๋าปลาหวาฬ์น ก็จะ
แอบลอก โคอะล่า เอาเป็นตอน "ขับรถ" เดี๋ยวแพ้
แฟน ต้าว์'sวาฬ

 

นั่นแหล่ะ พวก ยังไม่รู้ มรรค ก็จะมีแต่
มรรคข้ออ้าง ต้องเวลานั้นเวลานี้ มักสีลัพตปรามาส

แต่ก้ไม่ห้ามกัน แค่เขกกระบาลมั่งในบางที

 

ทีนี้ ดูรูปการณ์ แล้ว ก็น่าหวาดเสียวยิ่ง

x x x

เคาะ เคาะ เคาะ

ขอโอนลอยให้กับคนชวนไปบิดคอยโลด

เพราะงานนี้ มีแววหลงทำกาละสูงมาก
เพราะมีนายเป็น สุ"วัจ"จนี

เคาะ เคาะ เคาะ

ขอโอนลอยให้กับคนชวนไปบิดคอยโลด

 

โหวว ผ่านมานานหลายปีขนาดนั้นเลยหรอคะเนี่ย แสดงว่าเห็นตอนเด็กมากๆ อืมม..แต่ปกติตอนเจอสภาวะนั้น มันจะจำสภาพแวดล้อมตอนที่เกิดได้แม่นไม่รู้ลืมเลยนะ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเฉพาะบางคนมั้ย

สภาวะที่บอกมานี้ คือรวดเดียวใช่มั้ยคะ

 

เพลงชิวๆๆ555

 

กาว้อง ไม่สนใจ จี จี หรอ

บิดไป บิดมา วันนี้ ได้ ลำไย มาซื้อ ถ่าน กาว้องได้ สอง กระสอบ แล้ว

โอ้ว มา กอด !!!

Spoiler: ระโบบควบคุมการซื้อขาย Langong เขียนเอง งงเอง

 

ทำเป็นพูดดี มรรคมีข้ออ้างเวลานั้นเวลานี้

ตัวเองยังสวดมนต์ส่งพลังหื่นไปรักษาหมีอยู่ทุกวันเลย
ผลงานของวิปัสสนาไม่เคยจะได้สัมผัส

 

จะอิฉา บุคคลที่ 3ทะมาย
เขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย เอามาพุดประแจตัวเองซะหลายโพส

ไม่ต้องไปภาวนาแข่งกะเพื่อนหรอกแบบนี้
แพ้ตั้งแต่คิดแล้ว ขี้โมว์สะเท่ห์