ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อัศวินสีชมพู, 19 เมษายน 2021.

  1. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    เจ้น่าจะเข้าใจเรื่องสายธามธรรมได้ดีนะ
    ทำไหมผมไม่โดนสายธารธรรมที่ไหนบีบเลย555
     
  2. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    มีใครชำนาญการทำสมาธิมั้ยครับ ผมอยากถามไรหน่อย
     
  3. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    เชิญ อาจารย์ร่อนเลยค่ะ
     
  4. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    ใครคือ อ.ร่อนครับ
     
  5. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    กำลังใจเป็นสิ่งที่สร้างได้
     
  6. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    คุณคนที่ชอบเปิดเพลงค่ะ
     
  7. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    กะร่องกะเเร่ง นี่ฉายาหรอครับ
    ชื่อได้มาจากอะไรอ่าคับ
     
  8. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    ได้มาจากการคุยเล่นขำๆไม่เคยได้ใช้กำลังใจเลย55
     
  9. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ก็ การ้อง สายด้านไง อะไรก็ขัดม่ายด้าย
     
  10. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    เคยสัมผัสการนั่งสมาธิหรือยังฮับ?...
    จิตที่อยู่ฌานเป็นยังไง...
    มันตั้งมั่นเป็นผู้ดู....ไม่ต่างจากการเจริญสติปัฏฐาน
    แต่คนที่นั่งสมาธิใจมันไม่น้อมไปดูอย่างอื่นเท่านั้น
    แต่ตัว "สภาวะที่จิตอยู่ฌาน" ตั้งมั่นเหมือนกัน

    คนที่เจริญสติปัฏฐาน สติมันเกิดดับกับความตั้งมั่น
    มันเลยทำให้เราเข้าใจความจริงได้

    แต่ต้องย้ำอีกว่า "สภาวะตอนจิตสงบ"เหมือนกัน
    ไม่มีแยก.... แค่สร้างบัญญัติคำมาเพื่อให้สิ่งที่ตนปฏิบัติเลิศกว่า

    ต้องย้อนไปที่คำพระพุทธองค์
    ตรัสฌานไว้ว่าอะไร
    เวลาคนนั่งสมาธิไม่สนสติปัฏฐานก็ตาม
    อารมณ์ฌานเป็นแบบเดียวกับที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เลย

    #ข้อนี้ต้องให้คุณแนนไปลองนั่งสมาธิเพียวๆ
    เพื่อพิสูจน์แล้วฮับ ว่าอารมณ์ภายฌานเป็นยังไง
     
  11. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    โอเคร เข้าเรื่องครับ ไม่ใช่เรื่องวิปัสสนานะครับ
    จะพูดเรื่องของสมาธิ

    คือ ผมมักที่จะเกิดอาการหน่วงๆตึง ที่บริเวณดั้งจมูก กับหว่างคิ้วครับ

    พอเข้าใจว่าถ้าเป็นการทำสมาธิอาจเกิดจากการเพ่งในจุดๆนั้น(อาจจะใช้คำไม่ถูกนะครับ)
    เเต่ว่าอาการเเบบนี้ในบางครั้ง ไม่ได้จะทำสมาธิอะไร เพียงเเค่หลับตาจะนอนปกติมันก็หน่วงขึ้นมาเองครับ

    มันคือ ที่เค้าเรียกจิตรวมใช่มั้ยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2021
  12. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    อาจจะไม่ได้เรียก จิตรวมนะครับ ผมอาจจำคำมาใช้ผิด ผู้รู้ตอบทีครับ

    ****
    ผมไม่ใช่พวกชำนาญเรื่องการทำสมาธิ
     
  13. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ไว้ อ่าน ว่างๆ ละกาน
    ปฏิจจสมุปบาท แห่งอาหารของวิชชาและวิมุตติ

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า แม้วิชชาและวิมุตติ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของวิชชาและวิมุตติ ? คำตอบพึงมีว่า “โพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการ” ดังนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า ถึงแม้โพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของโพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “สติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการ” ดังนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า ถึงแม้สติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของสติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “สุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ” ดังนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า ถึงแม้สุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของสุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “การสำรวมอินทรีย์” ดังนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า ถึงแม้การสำรวมอินทรีย์ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของการสำรวมอินทรีย์ ? คำตอบพึงมีว่า “ความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ” ดังนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ? คำตอบพึงมีว่า “โยนิโสมนสิการ” ดังนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า ถึงแม้โยนิโสมนสิการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของ โยนิโสมนสิการ ? คำตอบพึงมีว่า “สัทธา” ดังนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวว่า ถึงแม้สัทธา ก็เป็นธรรมชาติมีอาหารหาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของสัทธา ? คำตอบพึงมีว่า “การได้ฟังพระสัทธรรม” ดังนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ถึงแม้การได้ฟังพระสัทธรรม ก็เป็นธรรมชาติมีอาหารหาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของการได้ฟัง พระสัทธรรม ? คำตอบพึงมีว่า “การคบสัปบุรุษ” ดังนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ด้วยอาการอย่างนี้แล ที่เมื่อการคบสัปบุรุษเป็นไปบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำการได้ฟังพระสัทธรรมให้บริบูรณ์; การได้ฟังพระสัทธรรมบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำสัทธาให้บริบูรณ์; สัทธาบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำโยนิโสมนสิการให้บริบูรณ์; โยนิโสมนสิการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์; ความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำการสำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์; การสำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว ย่อมทำสุจริตทั้งหลาย ๓ ประการให้บริบูรณ์ ; สุจริตทั้งหลาย ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำสติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการให้บริบูรณ์; สติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำโพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการให้บริบูรณ์; โพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! อาหารแห่งวิชชาและวิมุตตินี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ และบริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนเมื่อฝนหนัก ๆ ตกลงบนภูเขา, น้ำฝนนั้นไหลไปตามที่ลุ่ม ย่อมทำซอกเขา ซอกผา และลำห้วยทั้งหลาย ให้เต็ม; ครั้นซอกเขาซอกผา และลำห้วยทั้งหลายเต็มแล้ว ย่อมทำบึงน้อยทั้งหลายให้เต็ม; บึงน้อยทั้งหลายเต็มแล้ว ย่อมทำบึงใหญ่ทั้งหลายให้เต็ม; บึงใหญ่ทั้งหลายเต็มแล้ว ย่อมทำแม่น้ำน้อยทั้งหลายให้เต็ม; แม่น้ำน้อยทั้งหลายเต็มแล้ว ย่อมทำแม่น้ำใหญ่ทั้งหลายให้เต็ม; แม่น้ำใหญ่ทั้งหลายเต็มแล้ว ย่อมทำมหาสมุทรสาครให้เต็ม. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! อาหารแห่งมหาสมุทรสาครนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ และเต็มแล้วด้วยอาการอย่างนี้, นี้ฉันใด;
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น กล่าวคือ การคบสัปบุรุษบริบูรณ์แล้วย่อมทำการได้ฟังพระสัทธรรมให้บริบูรณ์; การได้ฟังพระสัทธรรมบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำสัทธาให้บริบูรณ์; สัทธาบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำโยนิโสมนสิการให้บริบูรณ์; โยนิโสมนสิการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์; ความเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำการสำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์; การสำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้วย่อมทำสุจริตทั้งหลาย ๓ ประการให้บริบูรณ์; สุจริตทั้งหลาย ๓ ประการบริบูรณ์แล้วย่อมทำสติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการให้บริบูรณ์; สติปัฏฐานทั้งหลาย ๔ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำโพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการให้บริบูรณ์; โพชฌงค์ทั้งหลาย ๗ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! อาหารแห่งวิชชาและวิมุตตินี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ และบริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้, ดังนี้ แล.
    ________________________________
    - สูตรที่ ๑-๒ ยมกวรรค ทสก.อํ. ๒๔/๑๒๒,๑๒๖/๖๑,๖๒.
     
  14. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    ขอบคุณครับ
     
  15. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    บัญญัติคำมาแยกว่า "ฌานฤษี" "ฌานพุทธ" กันเองฮับ
    ถ้าใครเคยนั่งสมาธิถึงฌาน จะรู้ว่าอารมณฌานภายในเหมือนกัน
    เรียกว่าเป็นตัวเดียวกับ "สัมมาสมาธิ" ที่มีความสงบตั้งมั่น

    แต่การปล่อยจิตดำดิ่งให้เฉยๆแบบนั้นไม่เกิดประโยชน์.. ในแง่ปัญญา
    แต่ถึงอย่างนั้น.... สมาธิที่เป็นฌานก็พ้นตัณหา พ้นอกุศล..ลงได้ชั่วคราว.... มันของดีทั้งนั้นฮับ
     
  16. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ฌานนิ่งๆ วิธีเข้ามันคือการโฟกัสที่สิ่งเดียว เวลามันตั้งมั่นมันก็โฟกัสแค่จุดเดียวสิ่งเดียวไม่ไปไหน มันนิ่งแบบไม่สนโลกเสพแค่ความสงบอยู่แค่นั้นไม่ไปไหน มันเหมือนคนหลบโลกมานั่งเงียบคนเดียวในห้อง

    ฌานพุทธ วิธีเข้าไม่โฟกัสที่จุดเดียว รับรูปทุกสภาวะ(เหมือนคนที่พร้อมเปิดประตูออกไปเผชิญโลกทุกความเป็นไป)ไม่ว่าเกิดขึ้นที่กายหรือใจ ตามรู้หมด จิตจะเกิดสมาธิตั้งมั่น “สงบ” แต่ไม่ใช่สงบแบบเสพสุข เพราะแม้จะเกิดปิติ มันก้อสลัดทิ้ง เพราะจิตมันตามรู้ทุกภาวะแล้วตัดทิ้งแหลก ไม่มีคำว่าเสพอะไรทั้งนั้น มีแต่การตั้งรับนิ่งกับสิ่งที่เคลื่อนผ่าน แม้แต่อะไรมาติดขนตาก็รู้ สัมผัสรอบตัวมันจะไวมาก บางทีรู้สึกได้ถึงชีพจรเต้น เส้นเลือดที่สูบฉีด

    ปล. แนนติดอยู่ที่ฌานนิ่งๆ อยู่นานค่ะ กว่าจะมาเข้าใจวิปัสสนา แต่แนนไม่ได้ชำนานเรื่องลำดับฌานนะคะ เลยไม่รุ้ว่าตัวเองอยู่ฌานไหนอะไรบ้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2021
  17. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    สั่นๆก็
    อันนึงสงบเพราะตัดโลกทิ้ง
    อีกอันมันสงบเพราะรู้ทันโลก
     
  18. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ถ้าอย่างนั้นต้องย้อนไปเมื่อวันก่อนที่คุยกัน

    การอยู่กับลมหายใจ แล้วตามระลึกถึงสภาวะที่เกิด
    ที่ผมบอกวันก่อน...
    นี่คือสัมมาสมาธิ เกิดดับสลับกับสัมมาสติ
    แบบนี้ฮับ...จิตตั้งมั่นพร้อมเห็นความจริง
    เรียกว่าสร้างเหตุใกล้เห็นแจ้ง

    เพราะงั้น
    การที่อยู่กับลมที่ว่า เป็นสัมมาสมาธิ
    ก็คือ สภาวะภายในแบบเดียวสมาธิด่ำดิ่ง
    ที่ไปให้บัญญัติกันว่าฌานฤษี
    แท้ที่จริงไม่มีฮับ....ฌานฤษีอะไร

    คุณแนนต้องสังเกตุแล้วฮับ
    ที่คุณแนนคิดว่าสัมมาสมาธิ
    มีสุขเจือไหม... มีปิติเจือไหม ... มีความตั่งมั่นไหม
    ถ้ามี...
    เหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับ"ตัวสภาวะ"ที่บัญญัติกันว่าฌานฤษีเลยฮับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2021
  19. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    พี่เเนนพอตอบที่ผมถามได้มั้ยครับ พอดีอยากทราบ เผื่อมีคนอธิบายให้ได้
     
  20. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    คิดว่าอันนั้นผมไม่รู้หรือฮับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...