ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

กั๊กๆๆๆๆๆ

มาเลย อันนี้ผมตอบได้ ฮับ

ถ้า คุณใส่ใจคำสอนหลวงพ่อปราโมทย์ ก็ต้อง
พินา ตามที่ ป๋ม เคยเอา สิ่งนี้ ไปส่งการบ้าน
ให้หลวงพ่อช่วยตรวจ

การส่งการบ้านหลวงพ่อ ก็ไม่มีอะไร พอได้ไมค์
มา เราคล่องอะไร ก็มนสิการสิ่งนั้นให้ปรากฏ
โดยไม่ต้องพูดอะไร

หลวงพ่อก็จะอธิบายออกมาว่า อย่าทำสิ่งนั้น
ให้ทำสิ่งนี้ พอทำสิ่งนี้ ให้มนสิการสิ่งนั้น .....

เรียกว่า บนๆ ล่างๆ ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา
บี เอ ตี๋เล็ก สตาร์ท

แล้วนี่ก็จะเป็นคำตอบ

จิตรวม กับ รวมจิต

อาการหน่วงทุกชนิดในโลก แม้นจะเกิด
เอง เรียกว่า รวมจิต ทั้งหมด เพราะเป็น
"สมถะที่จิตยังไม่เคยเอากิเลสออก"

ดังนั้น สัมมากะลาทิ จะต้องเป็นบุคคล
ที่มีรองต๊ะสี่คู่ แปดข้าง แล้วเท่านั้น จึง
จะอนุญาติให้ใช้ จิตรวม

รวมเล็ก ไม่งอก ก็จะแค่ พาดกระแสแต่
ยังไม่สรุป

รวมใหญ่ ใส่ชิ้นสดๆ ร้อนๆ ก็จะมีการสรุป
แต่อาจจะ กำเริบกลับได้ ไม่ใช่ไม่ได้ ยิ่ง
เป็นคนในยุคนี้ ไม่ใช่ สหชาติ จะไม่กำเริบ
กลับหายาก

แล้วทำอย่างไร

จะเจตนาหน่วง หรือไม่เจตนาหน่วง ก็รู้
ไปตามที่มันเป็น ไม่มีสิ่งใดเกิดลอยๆ
เจตนามีแน่ สมุทัยทีแน่ เนื้อติดฟันมีแน่

ทีนี้ หากเป็นคนวาสนาดี เวลา รวมจิตได้
จะไม่ไปสาระวนเรื่อง ตาที่สาม ออร่ง ออร่า
โดนแสมขาว แจร๋นแปร๋นหลอกรับประทาน

ให้สังเกต อินทรียสังวรณ์ การใส่ใจไปที่เหตุ

คนมีอินทรียภาวนา จะถามหาเหตุของการเกิด
และ ไม่ถามหาเหตของการดับ เพราะ รู้ทุกครั้ง
เดี๋ยวมันก็ดับไป เพียงแต่ว่า มิจฉาทิฏฐิ เรื่อง
จิตเป็นตน จิตผู้รู้ จิตผู้ดู ยังโดนหลอกกัน(ซึ่ง
คนสมัยนี้ โดนหลอกสิ่งนี้ทั้งหมด)

เมื่อใส่ใจ ไปตามที่มันเป็น หากไม่สนใจคำเรียก
อีกเดี๋ยวก็จะ ข้ามจิต ได้

แต่ถ้าข้ามไม่ได้ เพราะ มิจฉาทิฏฐิเรื่อง จิตเที่ยง
ยังเป็นเขม่าสัญญา(กรรมเป็นเผ่าพันธ์ คนไทย
ทั้งหมด มีกรรมนี้ จึงมาเกิดที่เมืองไทย)

แต่ถ้าข้ามไม่ได้ เพราะ มิจฉาทิฏฐิเรื่อง จิตเที่ยง
ยังเป็นเขม่าสัญญา ก็ต้อง หมั่นสดับว่า "จิตผู้รู้ไม่เที่ยง"

ซึ่ง มันจะไปสบกับ ปฏิภาณปัญญา ที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ในการ สละออก ไม่ไปใส่ใจ การดับของการเพ่ง
( กรณีเป็น บุคคลาภาวนามาแล้วหลายชาติ )

พอดูได้บ่อยๆ เห็นการดับของการเพ่งได้บ่อย
จนจำจำสภาวะได้ จะเกิด สติ เห็นได้ว่า จิตไม่เที่ยง
( กรณีเป็น บุคคลเกิดในชาตินี้ด้วย ปัญญา3 ชาตินี้เป็นชาตสุดท้าย)

ทีนี้.....

จากคำเล่าใน พังทิป กับอาการ ร้องอ๋อ บอกสาวเจ้า
ว่าตกลง เห็นจิตตอนฟัง หรือ ตอนไม่รู้อิโหน่อิเหน่
เด้งไปนั่งบนเก้าอี้กินข้าว

อาศัย การปรารภเรื่อง จิต(วิญญาณ) ตาม อยาตนะ

ก็อนุโลมการเห็น จิตไม่เที่ยง ไปตามอยาตนะ6
เดี๋ยว จิตเกิดทางหู ดับทางหู ไปเกิดทางตา ดับ
ทางตา ไปเกิดทางลิ้น ดับทางลิ้น ไปเกิดในการ
รวมกันเป็นหัวไหล่ตูด ก็รู้การนั่งบนเก้าอี้

ก็ให้ มนสิการ อยาตนะ6 อินทรีย์6 เป็น วิหารธรรม
แล้ว สับปิติ ไปดูการเพ่งหว่างคิ้ว อาศัยเหย้าเรือน

เหมือนการเล่นแบตมินตั้น ที่ ต้อง ฟุตเวิร์กกลับ
เหย้าเรือนตรงกลางคอร์ด

แล้ว ปล่อยให้ร่างกายโยก ตบ หยอด ไปตาม
เหตุปัจจัย ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะกินข้า อาบน้ำ
แปรงฟัง เข้าห้องน้ำ อ่านหนังสือ สอบ
หรือแม้นแต่ นอนก็ต้องภาวนาได้ด้วย ไม่ใช่
นอนแล้วไม่มีสติ ไม่ได้ภาวนา โหลยโถ้ย!! ฯลฯ

จนกว่าจะเกิด ปิติซาบซ่านทั้งวัน มีรสชาติ เหมือน
ว่าได้นัดพบเจอกับคน ณ ก่อนบ่ายพฤหัส <-- คลิ๊ก
ดูคำอธิบายได้ หากไม่เข้าใจ ก่อนบ่ายพฤหัส

เอาเท่านี้ก่อน เพราะถ้า มาถึงจุดนัดพบนักภาวนาได้
ปริยัติจะหมด ความจำเป็นในการสดับ ตรงนี้ ไม่มี
ฟังแล้วตื่นตาตื่นใจอีก การสดับจากการแสดงมาก่อน
จะต้องหมด แล้ว พาดราว บึ๊ดจั๊มบึ๊ดได้

เว้นแต่ ภาวนาธรรม มุ่ง ธรรมจ๊ะจ๋า <--- ก็จะ เน่าใน

อนึ่ง สำหรับคนยกวิปัสสนาได้ ปริยัติสิ้นสุด การสดับ
ตามกันไปไม่เกิดอีก แต่ยังไงก็ต้อง ฟังธรรมอยู่
แต่ สิ่งที่เกิดจะต่างจากเดิม คือ ไม่เกิดกระบวนท่าใหม่
จะมีแต่ ฟังเพื่อความ อาจหาญ ร่าเริง ในธรรม(ปฏิบัติ) <---

 

ทำไมลุงพยาธิใช้ภาษาพูดรู้เรื่องขึ้นมาได้แล้วอ่ะ ปกติต้องใช้วุ้นแปลภาษาไม่ใช่หรอ

หน่วงคิ้ว หน้าผาก เหมือนเครียดสะสมก้อได้นะ แบบตั้งใจมาก อาการหน่วงๆ จะตามมาทีหลัง หลังจากฝึก เดี๊ยนเคยเป็นตอนไปฝึกของ ลพ.เทียน ปวดหัวแบบไมเกรน พอผ่านไปสักพักก้อหาย ตอนนี้แบบป๋าเบริ์ดมาก ๆ . สบาย สบาย

 

ถ้า จขกม ไม่เคย ไปส่งการบ้าน หลุดโค้งดารา

ก็พึงทราบว่า

" อะไรที่เขาส่งการบ้านกัน ป๋มเหมือนรู้
ทั้งหมดแล้ว หาก ป๋มไม่ได้เป็น พุกกะพุง
แล้วไซร้ ขอให้ประหานเสีย ณ บัดนี้

มิเช่นนั้น ความเดือดร้อนเกินคณานับ
จะเกิดแก่ เหล่านักภาวนา "


นีเป็น การบ้านที่ป๋มไปส่ง อะฮับ แล้ว
หลวงพ่อก็เซโน ตอบมาไพเราะแต่ทว่า
ด้วย ฉันทะ แล่นไป ป๋มเลยได้ยินว่า

" ร ข ม !! " ( จีๆ พระท่านกล่าวอะไร
อยู่สองสามนาทีได้ แต่ ตอนนั้นไม่ได้
ยินเลย มีแต่ดับ กรรมอาจจะมาบัง
หรือไม่ก็เป็นเรื่อง ปรกติของมัน อะฮับ)

ดังนั้น หากจะภาวนาเน้น ฮี้ จบ จบ
หากไม่ขยันภาวนาเอง ก็ ลองหา
นาน่วมไปส่งการบ้านบ้าง

แต่จะไป ดอนเขียวเล็ก ของ ขาจรก็ได้
เพราะ หากเน้นหน่วงๆ ไม่เลิก ก็ต้อง
ใช้ยาแรง ไม่เช่นนั้น จิตมันจะไปอยู่
นอกๆกาย เหมือนว่า ว่างจากอาสวะ
แต่ที่จริง เป็น ภพ มีเข้า มีออก

 

กิ้วส์ๆ

โดน ตาที่สามลากไป อันนี้ มันแบเบอร์ ฮับ

ว่า ยังไม่เคยเกิดเป็น มนุษย์ พบ พระพุทธเจ้า มาก่อนเลย

โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


แต่..

มีแต่

ก็ ชาตินี้พบแล้ว และ ธรรมเป็น อกาลิโก หากใส่
ใจสดับธรรมให้มากๆ จิตไม่เที่ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

จะบรรลุชาตินี้ ณ จิตสุดท้าย ก็พึงหวังได้

" ไม่มี ที่พระสมณโคดม ไม่ได้อนุเคราะห์ไว้ " ( เถระกถา โกลิตะมานพ )

 

ลุงพยาธิ อันนั้นเห็นมาแต่เด็ก ตอนยังไม่ได้ฝึกอะไร เป็นวาสนาเก่า
แต่เป็นฤทธิ์ของกรรมฐาน5 ลุงว่าจะห้ามไม่ให้เกิดได้มั้ย

ถ้าหวีเป็นคนที่ชอบฤทธิ์ ลุงไม่เห็นหวีในห้องภัยที่ไม่เชื่อเรื่องฤทธิ์ตอนคุยกับคุณสงบหรอก ย้ายค่ายไปฝึกสมถะนำตั้งนานแล้ว

บ่องตง ตัวปัญญาดีกว่าเยอะ

 

กรรม มัน ตราหน้า อะฮับ

ที่ พวกคุณโดนหลอกว่า "เข้ากันโดยธาตุ"

อะไรเหล่านี้ หากหลุดจากปาก โดยไม่ได้
มีการ กำหนดรู้ อุบายในการกล่าว

เป็นการกล่าวแบบ อินเลิฟ ซะเหร่อปลี้

กรรม มันตราหน้าว่า ไป นาหญ้าขึ้นรกแน่
แม้นจะเหาะได้จริง มีของเก่า( เขาหยอด เพื่อหลอกแ... )


ยิ่งพูดว่า " ปัญญา ดีกว่าเยอะ " ยิ่ง อุปทานแ... ฮับ

 

เห็นแต่ขาจรพูดว่า เข้ากันโดยธาตุ
หวีบอกว่าเรื่องบังเอิญไม่มี
หวีกับเพื่อนคนละธาตุ คนละสายการฝึกเลย
เขาชอบฝึกสมาธิ แต่เราเด็กเที่ยว ยังจูนเราไปทางเดียวกับเขาได้

พอคุยกับเพื่อนเรื่องสมาธิ ขอใช้คำนี้ มันอารมณ์นี้เลย
โลกกรูหมุนเลยอ่ะ อารมณ์แบบเฮ้ย เพื่อนจะออกจากคุกแล้ว กรูยังหลงโลกอยู่เลย ตั้งแต่นั้นมาขยันฝึกเรือหายมาก ขนาด ลพ. ยังพาวเว่อร์ไม่เท่าเพื่อนคนนี้เลยนะ โครตจะเจาะระบบเราได้

เรื่องปัญญา พูดกะลุงไม่รุ้เรื่องหรอก ต้องพูดกะคนเคยสัมผัส จะคุยกันรู้เรื่อง

 

ฮี้ ฮี้ ฮี้

เข้ากันโดยธาตุ มันเป็น อุบาย เอาไว้หลอกเด็ก

คนมี ปัญญาแท้ทรู จะไม่โดนหลอกจังหนับแบบนั้น

จะทราบทันทีว่า กัมมัสสกตา ( ซึ่งอย่าไป เปิดหา
คำแปลนะฮับ คำแปลคำนี้ ในประเทศไทย ผิดทั้งหมด
เพราะกล่าวด้วย อุปทานแ..นำบริบท ) เว้นแต่ แปล
แล้วเกิดการ บ่ายหน้าออกทันที จะใกล้เคียง

 

ไม่เชื่อ ลอง พินา

เวลา อธิบายเข้ากันโดยธาตุ

ส่วนใหญ่จะยกเรื่อง หยดน้ำมันสองหยด ลงในขัน
พอตื่นเช้ามา จะพบว่า มันไปรวมตัวกันเป็นหยดเดียว

ซึ่ง จะต้องเห็นทันทีว่า "กัมมัสสกตา"

แต่ถ้าแปลผิด แปลตามพี่ไทย ก็จะเอา สันติ
ยันเปรี้ยงเลย น้ำมัน บ้านใครเป็น สัตว์

แต่ถ้าแปลถูก จะ ขนหัวลุกฮับ ขนาดน้ำมัน
ยังไม่รอด "กัมมัสสกตา"

ยิ่ง จขกท จะโน้น Quantum Higposon

ขนาด Quantum Higposon ก็ยังไม่รอด "กัมมัสสกตา"

 

ฮ่อยยะสมกะวัย18+
ใครกะได้ใครจะได้555

 

ถ้าการปฎิบัติของน้องจขกท.
เป็นตามคุณเอกวีร์.. สรุป

ก็ให้ตั้งข้อสังเกตุ...
ว่าน้องจขกท. ต้องอาศัย "ราวเกาะ"
จึงทำให้เกิดมรรคผล....ได้

ไม่ใช่การเจริญสติลอยๆ...
แล้วคิดว่า "สติ" คือมรรคองค์เดียว
มีสติแล้ว.. สมาธิจะตามมา

ไม่งั้นพระพุทธองค์...
จะไม่ทรงบัญญัติสัมมาสมาธิ
แยกจากสัมมาสติเลย

ที่น้องจขกท.ปฎิบัติแล้วเห็นผล
คือการภาวนาแล้ว ... สัมมาสติ,สัมมาสมาธิ
มันครบบริบูรณ์.... เลยทำให้เห็นแจ้งได้
ใช้กรณีน้องจขกท. เป็นกรณีศึกษาเลย
แล้วจะเห็นว่า... เป็นแบบเดียวกับผม
คือใช้ "ราวเกาะ" คือลมหายใจ
แล้วตามระลึกรู้นามธรรมที่เกิดขึ้น
เรื่องมีแค่นี้....

และนี่คือแกนหลัก ที่ต้องเข้าทางนี้
จิตต้องเดินครบองค์มรรค

"ตีนเขา" ไม่ใช่การเจริญสติอย่างเดียวหรือไม่
แต่ที่คุยกับคุณแนนวันนั้น
มันเป็นเรื่อง....เลยตีนเขาขึ้นมาแล้ว
แต่คุณแนนยังมองว่าเป็นเรื่องของ"ตีนเขา"
ที่ต้องเลือกอยู่เลย

"ตีนเขา" มันคือ....
การเลือกเอาอะไรเป็น"ราวเกาะ"
คือวิธีการ เกาะลม หรือ เกาะกาย หรือคำภาวนา
อันนี้ต่างกันแน่นอน.. ตามจริตแต่ละคน

แต่การมีราวเกาะ+ สติ มันเท่ากับ
สัมมาสมาธิ+ สัมมาสติ
ซึ่งเป็นของที่ต้องมี....
ไม่ใช่ของที่เลือกเอาอย่างใดอย่างนึง
จะเลือกเอาแต่สติไม่ได้....
ถ้าทำไป... รับรองยาก ... หรือเป็นไปไม่ได้เลย
ที่จะเห็นแจ้งมาได้
เพราะขาดความตั้งมั่น

ถ้ามองมรรคยังไม่ขาด... ยังมองไม่ออก...
ก็จะเห็นมันรวบกันไปหมด
จึงต้องเน้นให้กลับไปหา... คำพระพุทธองค์
ด้วยความหวังดีจริงๆ
ทั้งเรื่องสติ มรรคเดียว
กับเรื่อง องค์ในสัมมาสมาธิ
ลองดูพระศาสดาว่าไว้อย่างไร....
ทำความเข้าใจในมรรคของพระองค์
การปฏิบัติจะได้... ไม่ติดขัด เห็นผลไว

ตามไปดูของน้องจขกท.
สัปดาห์เดียวถ้าจำไม่ผิด ก็เห็นผล
ส่วนของผม... ไม่กี่วัน..
ลองสังเกตุกันดู
...ถ้าปฏิบัติถูกตามมรรค..ของพระพุทธเจ้า
เกิดผลไว.... ที่ไม่เกิดสักที
ต้องหาข้อผิดพลาดแล้ว...
สาเหตุมาจาก "สติ คือ มรรคองค์เดียว" หรือเปล่า

 

โอเครครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
เเต่ว่าคืองี้นะครับ ผมไม่ได้เข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องของตาทิพย์ครับ
เเต่ที่อยากทราบคือ อาการหน่วงที่ดั้งจมูก หรือ หว่างคิ้ว มันจะเกิดทีใดที่หนึ่ง เเม้ในเวลาปกติที่ไม่ได้ทำสมาธิก็เกิดได้ครับ เช่น เวลาจะนอนหลับ บางครั้งเเค่หลับตาไม่ถึง 20-30 วิ ก็เกิดอาการหน่วงๆตึงๆขึ้นเเล้วครับ เเล้วเป็นมานานเเล้วครับ

เลยอยากรู้สาเหตุว่าคือผลข้างเคียงของอะไรรึป่าว หรืออย่างบางครั้งทำสมาธิกำหนดรุ้ลมหายใจเข้า-ออก มันก็เกิดอาการหน่วงๆ ตึงๆ

ถ้าไม่เกิดที่ดั้งจมูก ก็เกิดที่หว่างคิ้วครับ

 

จริงๆ หมูไหม้ ต้องใข้คำว่า "ราวเกาะ"

นั่นแหละ มาเป็น ตัวเจริญ สติ ให้เกิด

หากไม่สามารถยก "ราวเกาะ" เป็นตัวช่วย
ให้เกิด สติ ได้

อย่ามาโม้ว ว่าเคยเกิดเป็น มนุษย์ พบพระพุทธศาสนา

 

กั๊กๆๆๆๆ

สุดท้ายก็สาระวน คิ้ว กับ ตะหมูก อันไหนเลิศกว่ากัง

ฮิวววววววววววววววววววววววส์

แบบนี้ อีกนานเลย สู้ให้ลอกธรรม จับกระเดียด
แบบหมูไหม้ เป็น ราวเกาะ ยังดีเสียกว่า

นี่ถ้า คนที่ชวนไป โรงเรียนสายน้ำผึ้งเข้ามานะ

ไปเลย ไม่กลับมา โซดา20-1

ยิ่งเป็น ลาดพร้าว101 ละก้อ โอยยยยยย ใช่ ใช่ ใช่

 

สรุปแล้วต้องทำคิวเหรอทำจมูกถึงจะสวยอะงง

 

ดูไป ดูมา ขาจร แอบไปจับ กมลชนก แน่เลย

ลพ 101

ได้เลขไปซื้อหวยแระ

นี่ถ้าโพสต่อไป พยายามหาศัพท์ประหลาดๆ โชวพาว
ไม่ได้ลอก แล้วสุดท้ายก็ ndef ละก้อ

ฮิววววววววววววววววววววววส์

 

เดี๋ยวนะครับ ไปกันใหญ่เเล้ว

คือ คุณลุงพยาธิลากไปมั่วเลย

ผมเเค่ถามเรื่องอาการหน่วงๆตึงๆที่เกิดบริเวณดั้งจมูก หรือหว่างคิ้ว ซึ่งเป็นมานานเเล้ว ย้ำว่า "เป็นมานานเเล้วครับ"

โดยมันสามารถเกิดได้โดยที่ไม่ทำสมาธิครับ บางครั้งเพียงเเค่หลับตาจะนอนไม่ถึง 20-30 วินาที ก็เกิดอาการเเล้ว

หรือเเม้เเต่ตอนทำสมาธิกำหนดรู้ลมหายใจเข้า-ออก ก็เกิดอาการหน่วงๆตึงๆขึ้นที่ดั้งจมูก ไม่ก็หว่างคิ้วอยู่ดีครับ

ผมถึงถาม "หาเหตุ" อยู่นี่ไงครับ

เลยเห็นมีคนชำนาญพวกนี่อยู่ เลยๆลองถามดู ไม่ได้ไปสาระสำคัญเลยครับ

ส่วนคำว่า จิตรวม กับ รวมจิต ผมก็ย้ำไปเเล้ว ว่า
"ผมอาจจำคำมาใช้ผิด" เพราะฉะนั้นจะผิดถูก ก็ได้ทั้งนั้นครับ มันเป็นเรื่องของการใช้คำเท่านั้นเอง

 

ผมเเค่คุยเรื่อง อาการตึง อาการหน่วงเฉพาะจุดที่ไม่จงใจให้เกิด หรือไม่ได้ไปเพ่ง

ลุงก็ยังโยงไปเรื่องอื่นได้อีก.

อะไรครับเนี่ย.

 

ทางเข้าทั้ง 4 ทาง คือ กาย เวทนา จิต ธรรม มันก็คือ สติปัฏฐาน4

หรือการเอาสติอยู่ที่ฐานทั้ง4 ซึ่งต้องใช่สติเป็นหลักในการเข้าไปพิจารณา ทั้ง 4 อย่างนี้ในการเข้า

ถนัดแบบไหน ตามใจ แต่ยังไง สติก็คือตัวเอกในการเข้าไปอยู่ที่ฐานทั้ง 4 นี้อยู่ดี

คุณจะเอาลมเป็นราวเกาะ นั่นก็คือเลือกกายเป็นฐานไงคะ ไม่ว่าไปเลือกฐานที่ไหน มันก็จะไปเจอที่จิตอยู่ดี

เหมือนมันล้อมกรอบประชิดข้าศึกเข้าไปเจอศูนย์บัญชาการใหญ่ที่เป็นฐานที่มั่นของมัน

 

กะมีสติดูอาการมันเฉยยยๆ
พอมันหายกะเจริญมรรค8ให้มากกะสะบายขึ้น
มันยุบยิบอีกกะดูกันแก้กันไป