ชนบท168 ศูนย์รวมวัตถุมงคล พระป่ากรรมฐานและพระบ้านเกจิขลัง

พระผง เศรษฐีนวโกฏิ หลวงปู่มา ญาณวโร วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด ปี 2536 ปิดรายการครับ

ก่อนที่กระแสบูชาพระนวโกฏิจะพุ่งสูงในปีนี้ ไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น พระมงคลญาณเถร หรือ หลวงปู่มา ญาณวโร ประธานสงฆ์แห่งวัดสันติวิเวก บ้านโนนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พระมหาเถระผู้สร้างพระเศรษฐีนวโกฏิมานานกระทั่งเป็นเสมือนเจ้าตำรับกลับมรณภาพไปเสียก่อนในวันที่ 2 พ.ย. 2552

น่าเสียดายว่า คนที่บูชาพระนวโกฏิจำนวนมากก็ไม่ได้รู้จักหลวงปู่มา

เมื่อหลวงปู่มามรณภาพ มีหนังสือพิมพ์บางฉบับรายงานว่า เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชีสิ้นแล้ว แม้การรายงานดังกล่าวจะเป็นการเปรียบเทียบแบบโลกๆ เพราะพระกับเทพย่อมเทียบกันไม่ได้ แต่ความมุ่งหมายก็คงต้องการสื่อให้เห็นถึงความสำคัญและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อท่าน ของอย่างนี้แท้จริงอย่างไรต้องดูวัตรปฏิบัติ ปฏิปทาของท่านและฟังครูบาอาจารย์

หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ และหลวงปู่อ่อน จักกธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าประชานิยม จ.กาฬสินธุ์ (2505-2529) ได้ระบุถึงหลวงปู่มาตรงกันว่า “เป็นพระดี ขยัน มีความคุ้นเคยกับหมู่คณะง่าย เคร่งครัดในระเบียบวินัย หากพูดถึงภาระที่ถูกมอบหมายให้ ท่านจะทำกิจอันนั้นให้ลุล่วงทุกครั้ง ไม่มีจะตำหนิกันเลยทีเดียว เป็นคนสม่ำเสมอ ครูอาจารย์รักชอบกันทุกคน”

หลวงปู่มามีครูบาอาจารย์หลายรูป ที่ท่านเอ่ยถึงก็มี หลวงปู่สอน พระครูอุตตรานุรักษ์ (อินทร์ อินฺทสาโร) หรือหลวงปู่เสือ วัดมิ่งเมือง ต.กลาง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พระราชสิทธาจารย์ (บุญเรือง ปภสฺสโร) วัดมิ่งเมือง หลวงปู่มหาดไทย วัดบ้านบัว ต.เหล่า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด และหลวงปู่พรหม พระธุดงค์ ซึ่งปรากฏแหล่งที่อยู่และเป็นหลวงปู่สอนผู้เป็นพระอุปัชฌาย์นี่เองที่เป็นผู้จาริกนำท่านไปสู่สำนักพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ช่วงที่ท่านไปสู่สำนักหลวงปู่มั่นห้วงเวลานั้นเป็นจังหวะที่หลวงปู่มั่นยังไม่ได้ผินหลังจากภาคอีสานมุ่งไปวิเวกทางเหนือ ท่านอยู่กับหลวงปู่มั่นหลายพรรษา กระทั่งพระอาจารย์มั่นขึ้นเหนือ ท่านจึงอยู่ปฏิบัติกับหลวงปู่สอน

อะไรคือสุดยอดวิชาที่ท่านได้จากหลวงปู่มั่น?

คำตอบนั้นมีอยู่ว่า

“สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น

เห็นนั้นเห็นอะไร?

เห็นในกายเรานี้ กายของเรามองเห็นแต่ภายนอกก็เนื้อหนังติกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง มองไม่ค่อยเห็น ไม่รู้จักกัน ฉะนั้นวิชานี้จึงเป็นวิชาสุดยอด

สำหรับท่านเองนั้นได้ตำราพระมหาเศรษฐีนวโกฏมาจากเจ้าคุณปราจีนบุรี ส่วนเจ้าคุณปราจีนบุรียุคนั้นก็ได้มาจากท่านเจ้าคุณอุบาลี (จันทร์ สิริจันโท) ซึ่งอัญเชิญตำรานี้มาจากลาว
พระรูปประหลาดที่มีพระพักตร์เป็นหน้าถึง 9 หน้านั้นเป็นอุบายซึ่งมีคติธรรมแทรกอยู่ว่า ในครั้งพุทธกาลมีเศรษฐี 9 คนที่ร่วมประกอบบุญกัน และต่างก็เป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันขึ้นไปทั้งสิ้น ท่านนั่งสมาธิเพชรหมายถึงความมุ่งมั่น มั่นคงในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ โดยไม่แปรเปลี่ยน การประณมมือหมายคงความอ่อนน้อมพร้อมอุทิศขันธ์ 5 เพื่อปฏิบัติบูชาโลกุตตรธรรมทั้ง 9 เกศบัวตูมหมายถึงปัญญาที่พร้อมจะโผล่พ้นน้ำ ฯลฯ แต่กี่คนจะน้อมหรือนึกถึงอุบายธรรมเหล่านี้หรือปฏิบัติตามที่เศรษฐีทั้ง 9 ซึ่งเคยค้ำจุนศาสนาครั้งพุทธกาล

พระสวยเดิมครับน่าบูชามาก(รูปหล่อพระนวโกฏิรุ่นแรกของท่านราคาเคยขึ้นถึงหลักแสนมาแล้วนะครับ)

 

พระสู้ชนะภัย หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์(ภูกระแต)จ.หนองคาย ปิดรายการครับ

พระสู้ชนะภัย หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์ (วัดภูกระแต) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ปี 2543 หลวงปู่ทองพูล ท่านเป็นพระมหาเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นศิษย์ของหลวงปู่สีโห เขมโก, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร และ หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ

นับตั้งแต่การอุปสมบท หลวงปู่ทองพูล ท่านได้ตั้งจิตแน่วแน่ในการปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ถึงขั้นที่เรียกได้ว่ามอบกายถวายชีวิต โดยการออกธุดงค์หาสถานที่วิเวกเพื่อเร่งความเพียร บำเพ็ญภาวนา เพียงพรรษาแรกท่านอาจารย์ได้ถือเนสัชชิธุดงค์ คือการไม่นอน ไม่ยอมให้หลังแตะกับพื้นตลอดพรรษา และอดอาหารควบคู่กันไป หลวงปู่ทองพูลยังป่วยอาพาธเป็นไข้มาลาเรียอย่างหนัก แต่ท่านอาศัยธรรมโอสถขันติธรรมเพ่งเวทนาที่เกิดขึ้นจนไข้มาลาเรียหายไปเอง

วัตถุมงคลของหลวงพ่อทองพูลเคยมีประสบการณ์คนถูกฟ้าผ่าแต่ไม่ตายหลายครั้ง หลายหนจนเป็นเอกลักษณ์ของเหรียญไปเลยทีเดียว ถูกยิง ถูกฟันไม่เข้าไม่เจ็บไม่ตายนี่ก็ได้ยิน หลายครั้ง ทำให้หลายคนสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรเพราะบุคลิกของท่านมีแต่เยือกเย็น อ่อนโยนเมตตาสูง ขัดกับประสบการณ์เชิงบู๊ของท่าน

พระรุ่นนี้จัดอยู่ในทำเนียบพระของหลวงปู่ โดยท่านได้อธิษฐานจิตไว้ นับเป็นวัตถุมงคลที่น่าสะสมบูชาเป็นอย่างมาก

 

ขอจองครับ

 

รูปหล่ออุดกริ่ง หลวงปู่ธูป จัดสร้างโดยหลวงพ่อโฉม วัดเขาปฐวี จ.อุทัยธานี ปิดรายการครับ

หลวงพ่อโฉม ฐิติญาโณ หรือ พระครูอุทิศธรรมรส ถือเป็นนามพระเกจิชื่อดังที่คุ้นเคยต่อการเรียกขานของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ ผู้ใกล้ชิดที่เลื่อมใสศรัทธา รวมไปถึงวงการนักนิยมสะสมวัตถุมงคล รู้จักในนามพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมแก่กล้าและพลัง จิตตานุภาพยิ่ง เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดและเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชนโดยทั่วไป มีจิตที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมสูง

ด้วยเหตุที่มีความศรัทธาเลื่อมใสหลวงปู่ธูป เจ้าอาวาสวัดเขาปฐวี มาตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อออกบวชแล้ว ได้อยู่ใกล้ชิดฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษา วิทยาคมและการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานจากหลวงปู่ธูป อาทิ วิชาการหนุนธาตุทั้ง 4 วิชาบรรจุพลังเวทมนตร์ให้คงอยู่ในวัตถุธาตุ การทำตะกรุดโทน ตะกรุดมหารูด การทำผงเมตตา วิชาอยู่ยงคงกระพัน มหาอุด การขับคุณไสย การทำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาตำราไสยเวทของหลวงพ่อมา วัดมะพร้าวสูง, หลวงปู่เภา วัดถ้ำตะโก, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และท่านได้ออกธุดงค์ไปศึกษาวิทยาคมกับหลวงพ่อแกร วัดส้มเสี้ยว, พระวิบูลวชิรธรรม (หลวงพ่อสว่าง อุตตโร) วัดคฤหบดีสงฆ์ ก่อนเดินทางกลับมาอยู่วัดเขาปฐวีดังเดิม การศึกษาไม่มีที่สิ้นสุด

หลวงพ่อโฉมได้ไปศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์, หลวงพ่อปุย กตปุญโญ วัดหนองสระ และหลวงพ่อพลอย วัดห้วยขานาง ได้รับการถ่ายทอดวิชาเสกมีดหมอ, คาถาคงกระพันชาตรี, คาถาการทำนางกวัก และเสกเขี้ยวงา ท่านยังได้เรียนวิชากับ พ.อ.ชม สุคนธรักษ์ เกี่ยวกับวิชาหุงน้ำมันมนต์ รักษากระดูกแตก กระดูกหัก ได้เรียนวิชาเสกปลัดขิกกระโดดได้ จากครูถึง แห่งจังหวัดสุพรรณบุรี และเรียนวิชากับพระอาจารย์ขาว จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อด้วย

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2511 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาปฐวี ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี พ.ศ.2514 เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2534 เป็นพระอุปัชฌาย์ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2523 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่พระครูอุทิศธรรมรส พ.ศ.2532 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม ตลอดระยะเวลาที่หลวงพ่อโฉม เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาปฐวี ท่านได้จัดระเบียบการปกครองวัด พระภิกษุ-สามเณรทุกรูป ต้องปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัยและกฎมหาเถรสมาคม ต้องตั้งตนอยู่ในอปริหานิยธรรม 7

หลวงพ่อโฉม มุ่งมั่นศึกษาทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ มีปฎิปทาที่มั่นคง สงเคราะห์ญาติโยมที่เดือดร้อนมาโดยตลอด เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีสัจบารมีแน่วแน่มั่นคง ปฏิบัติเกื้อกูลต่อพุทธศาสนิก ชนที่มากราบนมัสการอย่างสม่ำเสมอกัน ทำให้เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าจากสาธุชนทั้งใกล้ ไกล หลั่งไหลมากราบนมัสการ เพื่อความเป็นสิริมงคลมิขาดสาย ท่านได้รับกิจนิมนต์นั่งปรก ปลุกเสกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ เป็นประจำ วัตถุมงคลของท่านแต่ละรุ่น ปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส 3 เดือน มีโค้ดกำกับและจารด้วยมือของท่านเอง ทุกชิ้นเป็นเอกลักษณ์ อาทิ เหรียญรูปไข่รุ่นแรก, เหรียญเสมาหล่อโบราณ, พระปิดตาเศียรเงาะ, รูปเหมือนปั๊ม, กริ่งตั๊กแตน, เหรียญหล่อสัมฤทธิ์โบราณ และพระกริ่งคันธารราษฎร์ ท่านมักพูดสั่งสอนญาติโยมอยู่เสมอว่า พระผู้ใหญ่ ท่านจะดีหรือไม่ อย่าเอาเขามานินทา จะทำให้เราไม่เจริญ วัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังที่เรานับถือก็เช่นกัน เปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธเจ้า เรานำไปทดลองก็เป็นการดูถูก แสดงถึงการไม่เคารพนับถือด้วย เกียรติคุณ บารมี รวมทั้งพุทธาคมอันศักดิ์สิทธิ์พลังจิตของท่าน ทำให้ท่านได้รับการยกย่องว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าอีกรูปหนึ่ง

 

รูปเหมือนเนื้อชานหมากผสมเกศา หลวงปู่หลอด วัดสิริกมลาวาส(วัดใหม่เสนานิคม) กทม. ปิดรายการครับ

อัศจรรย์ไฟไหม้บ้านทั้งหลังรูปภาพหลวงปู่หลอดเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.หนองบัวลำภู ไม่มีรอยไหม้


เมื่อวันที่ 28 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่องได้เกิดเหตเพลิงไหม้บ้านนางลำไพร พลเยี่ยม อายุ 55 ปี อยู่ที่ 212 หมู่ 14 บ้านขาม ตำบลบ้านขาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้นโดนไฟไหม้เสียหายเกือบหมดทั้งหลัง ซึ่งต้นเพลิงเกิดจากรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดไว้ภายในบ้านเกิดประกายไฟระเบิดขึ้นเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ววอดทั้งหลัง แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนักรูปภาพของหลวงปู่หลอดเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดหนองบัวลำภู ไม่มีรอยไฟไหม้แม้แต่นิดเดียว

หลวงปู่หลอด ปโมทิโต (พระครูปราโมทย์ธรรมธาดา) ซึ่งท่านได้มาสร้างพิพิธภัณฑ์เจดีย์หลวงปู่หลอดปโมทิโต ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุเพียง 100 เมตร ตั้งอยู่ที่วัดป่าศรีสว่าง ต.บ้านขาม อ.เมือง หนองบัวลำภู เป็นเจดีย์ 3 ชั้นประกอบด้วย ชั้นที่ 1 ศาลาปฏิบัติธรรม ชั้นที่ 2 อาคารพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ชั้นที่ 3 ประดิษฐาน พระบรมสาริกธาตุ ปัจจุบันมีการสอนวิปัสสนาปีละ 1 ครั้ง และเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. สำหรับพระบรมสาริกธาตุ เปิดให้สาธุชนเข้าสักการะเฉพาะวันสำคัญทางพุทธศาสนา

หลวงปู่เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังซึ่งขณะนี้มรณภาพไปแล้ว เมื่อวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม 2552 ที่วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) ลาดพร้าว บางกะปิ กรุงเทพฯ ระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านได้มาจำวัด และสร้างพิพิพิธภัณฑ์เจดีย์ แห่งนี้ไว้ และขึ้นๆลงๆ ระหว่างหนองบัวลำภู กรุงเทพฯ แต่ก็ยังคงเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั้งจังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดใกล้เคียง

 

จอง รูปหล่ออุดกริ่ง หลวงปู่ธูป จัดสร้างโดยหลวงพ่อโฉม วัดเขาปฐวี จ.อุทัยธานี

 

ผงรูปเหมือน หลวงปู่วรพรตวิธาน วัดจุมพล จ.ขอนแก่น ปิดรายการครับ

หลวงปู่วรพรตวิธาน นามเดิมของท่านชื่อ พันธ์ ทับงาม เกิดที่บ้านน้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2444 บิดาของท่านชื่อศิลา มารดาชื่อทอง

ชีวิตในวัยเยาว์ ท่านเป็นคนที่เรียนหนังสือเก่งมาก จนขุนเกษตรวิสัยเจ้าเมืองร้อยเอ็ดฝากเข้าให้รับราชการเป็นเสมียนประจำตัว ท่านรับราชการจนอายุได้ 16 ปี จึงลาบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดน้ำอ้อม และเมื่ออายุได้ 21 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระครูธรรมสังฆบาลเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ติสโส” ท่านตั้งใจร่ำเรียนทางด้านพระปริยัติ สามารถท่องพระปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาแรก และสอบนักธรรมชั้นเอกได้ในปี พ.ศ.2472 นับได้ว่าท่านเป็นพระรูปเดียวทั่วมณฑลร้อยเอ็ดที่สอบผ่าน ซึ่งสมัยนั้นมณฑลร้อยเอ็ดรวมกาฬสินธุ์และมหาสารคามด้วย

ต่อมาบ้านเมืองได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้าคุณกัณหาได้ส่งหลวงปู่วรพรตมาเป็นเจ้าอาวาส วัดจุมพล บ้านก้านเหลือง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น

ในปี พ.ศ.2512 หลวงปู่วรพรตวิธาน ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอแวงน้อย

ในเรื่องประวัติพิสดาร กล่าวกันว่า หลวงปู่ได้ร่ำเรียนวิชาพุทธเวทย์ คาถาอาคมจากครูอาจารย์ ถึง 5 อาจารย์ เช่น หลวงศรีธรรมศาสตร์, พระอาจารย์ขัน วัดท่าสะแบง, อาจารย์บ้านฟ้าเหลี่ยม, หลวงปู่ชม ฐานธัมโม เป็นต้น หลังจากได้ร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมแล้ว ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต ติดตามหลวงปู่ผางออกเดินธุดงค์แสวงหาธรรมผ่านประเทศลาว กัมพูชา และพม่า ในระหว่างการเดินธุดงค์ ท่านได้พบเรื่องราวเร้นลับมากมาย แต่ท่านก็ผ่านมาได้ด้วยบารมีธรรม

หลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในสมัยรัชกาลที่ 8 มีนามว่า พระครูวรพรตวิธาน เราจึงเรียกชื่อหลวงปู่ว่า หลวงปูวรพรต ตั้งแต่นั้นมา

สำหรับเรื่องราวประวัติอิทธิปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2503 หลวงปู่ได้ออกเดินทางจาก อ.พล ด้วยรถโดยสารไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งโดยปกติพระเณรจะนั่งด้านหน้ารถคู่กับคนขับ เพื่อไม่ให้ปะปนกับผู้โดยสารซึ่งจะเกิดความลำบากได้ เพราะมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงเด็กเล็ก เด็กแดง

แต่รถคันนี้มีโยมผู้หญิงนั่งเต็มด้านหน้า คนขับจึงได้บอกนิมนต์ให้หลวงปู่นั่งทางท้ายรถ แต่ก่อนที่หลวงปู่จะขึ้นรถ หลวงปู่ได้บอกกับคนขับว่า “รถจะไม่เดี่ยงหรือ” คำว่าเดี่ยง เป็นภาษาอีสานแปลว่ากระดก

พอหลวงปู่พูดจบ ได้ก้าวเท้าขึ้นรถ ก็เกิดปาฏิหาริย์ ด้านหน้ารถลอยขึ้นสูง คนขับถึงกับตกตะลึง จึงได้กราบขอขมาหลวงปู่แล้วนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้า

ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ก็ได้รับสมญานามว่า หลวงปู่วรพรตเหยียบรถกระเดี่ยง และทำให้ท่านเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนับแต่นั้นมา

หลวงปู่วรพรตละสังขารวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2544 สิริรวมอายุได้ 101 ปี

 

พระผงพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่สรวง วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ จ.ลพบุรี รุ่นอายุ ๘๑ปี ปิดรายการครับ

“พระครูสุทธิวราภรณ์” หรือ “หลวงปู่สรวง วรสุทโธ” ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลช่องสาริกา นับเป็นเกจิอาจารย์ร่วมสมัยแห่งในยุคนี้ที่ได้รับการยอมรับนับถือในฐานะ “พระดีศรีเมืองละโว้”

หลวงปู่สรวง เป็นผู้ให้กำเนิดวัดถ้ำพรหมสวัสดิ์เป็นเวลานานกว่า ๓๐ ปีแล้ว มีข้อวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด จริยวัตรงดงาม และปฏิปทาน่าเลื่อมใส มีเมตตาธรรมสูง อยู่อย่างเรียบง่าย เป็นผู้มีจิตมุ่งมั่นในพระพุทธศาสนามาแต่สมัยเป็นสามเณร จนกระทั่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ และมีความกล้าแกร่งทางจิตอันเกิดจากการฝึกฝน โดยออกธุดงค์แต่ครั้งยังเป็นพระหนุ่ม ได้พบเจอและได้รับการอบรมสั่งสอน พร้อมกับถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆจากพระอาจารย์สายกรรมฐานมากมายหลายองค์
นอกจากนี้แล้วหลวงปู่สรวงยังเป็นพระอาจารย์ด้านวิปัสสนากรรมฐาน สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หนึ่งเดียวในลพบุรี รวมทั้งยังเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วภาคกลาง ได้รับการยกย่องให้เป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้า ที่ตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น

หลวงปู่สรวง เป็นพระที่สมถะ เรียบง่าย สงบ นิ่งบริสุทธิ์ สุขุม แม้จะไม่ใช่พระสายพุทธาอาคมขลัง เพราะโด่งดังมาตามเส้นทางสายป่าวิปัสสนากรรมฐานศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แต่ความเชื่อความศรัทธาในบุญบารมี และ “ของดี” ที่ท่านสร้างสรรค์ขึ้น ล้วนมีกระแสตอบรับที่ดีเหนือคำบรรยาย ท่านได้รับสมญานามว่า เจ้าตำรับ “ไก่ฟ้าพญาเลี้ยง” และ “เทพเจ้าแห่งขุนเขาสาลิกา” ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร วัตถุมงคลเครื่องรางของขลังทุกรุ่น เป็นที่นิยมแพร่หลาย มากด้วยประสบการณ์เข้มขลังในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม โชคลาภ

พลังศรัทธาในตัวหลวงปู่สรวงนั้นมีมากมาย ส่งผลให้มีลูกศิษย์ลูกหาหลากหลายสาขาอาชีพ และมีการจัดสร้างพระเครื่อง-วัตถุมงคลเป็นที่ระลึกในโอกาสต่างๆ เพื่อนำปัจจัยรายได้ใช้ในพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองให้วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ดั่งที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน

 

รูปหล่อเนื้อผงใบลาน หลวงพ่อลี่
ดำเนินการชำระเงินให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
รายละเอียดปรากฏ inbox นะคะ
ได้รับหรือไม่อย่างไร แจ้งกลับด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ

 

จองครับ

 

พระสมเด็จพิมพ์คะแนน หลวงปู่ผาดวัดไร่ จ.อ่างทอง ปิดรายการครับ

ฮือฮา 'หลวงพ่อผาด' เกจิดังเมืองอ่างทอง ร่างไม่เน่าเปื่อย แม้ละสังขารนานกว่า 6 ปี แถมยังมีเส้นผมงอกเหมือนกับคนปกติ สร้างความแปลกใจแก่ผู้พบเห็น ...

หลวงปู่ผาด วัดไร่ พระเถราจารย์ ผู้ปฎิบัติวิปัสนากรรมฐานตามแนวทางของหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ มาตลอดชีวิต สมาธิจิตสูง เสกพระเครื่องแบบเปิดโลก งานพุทธาภิเษกที่วัดช้าง จ.อ่างทอง หลวงพ่อผาด นั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกพระนานเกือบ 3 ชั่วโมง โดยลืมตาบริกรรมพระคาถาไปเรื่อย ๆ มีผู้ถ่ายรูปท่านไว้ พอล้างออกมา เห็นเป็นดวงไฟหลากสี ล้อมตัวท่านเต็ม พระอาจารย์ละออฯ แจ้งข่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นักสมาธิจิตระดับดอกเตอร์ฯ พร้อมคณะบุกพิสูจน์กระแสพลังงานทางจิตของหลวงปู่ผาด โดยขอให้ท่านเสกปฐวีธาตุ (หินแม่น้ำ) ให้ ท่านหยิบหินมาลูบมาคลำเป่าไป 3 พ่วงส่งให้ เมื่อนำหินมาถ่ายรูปด้วยแสงออร่า ปรากฏว่าหินมีแสงสีรุ้งปกคลุมอยู่สว่างไปทั้งภาพ

หลวงปู่ผาด อภินันโท วัดไร่ จ. อ่างทอง ศิษย์เจ้าคุณพระราชปัญญามุนี วัดชีโพน จ.อยุธยา ผู้ห่างพ้นกิเลศทั้งปวง ไม่ยึดติด ไม่สะสม จำวัดกลางศาลาใหญ่ใกล้เมรุเผาศพ เมื่อคราวน้ำท่วมอ่างทองครั้งใหญ่ น้ำเอ่อล้นท่วมทุกที่ แต่ที่ศาลาใหญ่ที่ท่านจำวัดซึ่งสูงกว่าพื้นถนนไม่ถึงฟุต สายน้ำกลับวกไปไม่ท่วมถึง แม้ในช่วงที่ท่านมีชีวิตอยู่ในวัย 91 ปี ยังมีความแจ่มใส มีอารมณ์เยือกเย็น แข็งแรง เดินเหินได้คล่องแคล่ว การนั่งอธิษฐานจิตวัตถุมงคลของท่านสุดแปลก เพราะท่านนั่งลืมตาเสก ว่าคาถาเป่าไปเรื่อยๆ ผู้รู้บอกว่าการลืมตาเสกเป็นการเสกแบบเปิดโลก แบบเดียวกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก

หลวงปู่ผาด ได้มรณภาพลงด้วยโรคชรา หลังถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอ่างทอง เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2557 จนกระทั่งเวลา 20.59 น. วันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้มรณภาพอย่างสงบ โดยมีอายุ 99 ปี พรรษา 77 พรรษา นับเป็นพระสงฆ์ที่มีอายุมากที่สุดในจังหวัดอ่างทอง

 

ขอจองครับ

 

เหรียญครูเฒ่ากบิลพัสดุ์ หลังยันต์ ๙เฮ หลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร วัดคลองมอญ จ.ชัยนาท ปิดรายการครับ

เหรียญครูเฒ่ากบิลพัสดุ์ บรมครู ๙ เฮ หรือ วิชาคงกระพันชาตรี
ท่านเป็นบรมครูทางวิชาชาตรี หรือวิชาชักยันต์ ๙ เฮ หรือ ที่รู้จักกันดีในหมู่ คนที่ชอบวิชาอาคม สายหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เรียนทางนี้ มีอยู่ 2 ท่าน คือ ครูเฒ่ากบิลพัสดุ์ และ ครูเฒ่าสิงหล ว่ากันว่าท่านเป็นพี่น้องกันเป็นคนแขกสิงหล บ้างท่านก็ว่าเป็นครูแขกอิสลาม แต่ที่แน่ๆ วิชานี้ศักดิ์สิทธิ์คงกระพันเป็นเลิศ เหรียญนี้สร้างโดยครูธรรม ฆราวาส จอมขมังเวท แห่งวัดคลองมอญ และยังทำพิธีเชิญครูเฒ่าทั้ง ๒ ท่าน เข้ามาปลุกเสกวิชาชาตรีให้ในเหรียญนี้ และยังให้หลวงพ่อโพธิ์ เจ้าอาวาส แห่งวัด คลองมอญ ปลุกเสกอีกครั้ง เหรียญนี้พิเศษ คือ ด้านหลังบรรจุ พระคาถา ๙ เฮ ไว้ด้านหลังเหรียญ ท่านผู้ใดชอบทางด้านคาถาอาคม และ ได้ไปครอบครูทั้งศิษย์สายวัดพระญาติ และ ศิษย์สายวัดคลองมอญ ไม่ควรพลาดเหรียญนี้

หลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เป็นศิษย์สายตรงในสายวัดปากคลองมะขามเฒ่ารุ่นสุดท้ายกล่าวคือ ท่านเป็นหลานของพระใบฏิกาบุญยัง วัดหนองน้อย ซึ่งถือเป็นศิษย์สำคัญมือซ้ายของหลวงปู่ศุข(ส่วนศิษย์มือขวาของหลวงปู่ศุขคือพระสมุห์กลับ แสงเขียว หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่านก็ได้ขอต่อวิชาไว้ด้วย) หลวงพ่อมหาโพธิ์ได้รับประสิทธิ์ประสาทวิชาในสายวัดปากคลองมะขามเฒ่าผ่านทางหลวงน้าพระใบฏีกาบุญยังอย่างหมดเปลือกสืบทอดสรรพวิชา ตำราเวทย์ ตำรายา ของวิเศษสำคัญที่หลวงปู่ศุขท่านมอบตกทอดมาถึงหลวงพ่อมหาโพธิ์ก็หลายชิ้น ถือว่าท่านเป็นหลานศิษย์ของหลวงปู่ศุขก็ว่าได้

เหรียญสวยครับหายากน่าบูชา น่าสะสม

 

จองครับ

 

พระสิวลีเนื้อผงฝังพระธาตุ วัดถ้ำรัตนคีรี (เขากวางทอง) จ.อุทัยธานี ปิดรายการครับ

พระธาตุสิวลีควรมีบูชาไว้ที่บ้าน ที่ร้าน ที่บริษัทองค์กรต่างๆ พระธาตุสีวลี เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดีมาก ให้ความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง มีกินมีใช้ไม่หมด มีความอุดมสมบูรณ์ในสถานที่แห่งนั้นๆ จึงแนะนำว่าทุกคนควรมีบูชาไว้ดียิ่ง หลายคนที่นำไปบูชาพบดีทางเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานประสบความสำเร็จในชีวิต อันเป็นมงคลลักษณะ ...

 

หลวงพ่อทันใจ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก จ.ตาก

วัดพระบรมธาตุบ้านตาก เป็นหนึ่งในวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองตาก ภายในวัดโดดเด่นไปด้วยพระบรมธาตุเจดีย์สีทองอร่ามที่ได้รับอิทธิพลมาจากพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุประจำปีมะเมีย (ม้า) ตามคติความเชื่อของล้านนา

นอกจากองค์พระธาตุเจดีย์แล้ว วัดพระบรมธาตุบ้านตากยังมีอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคือ “หลวงพ่อทันใจ” ซึ่งเป็นที่ร่ำลือในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ มีคนเดินทางมาขอพรท่านกันไม่ขาดสาย ด้วยเชื่อว่าเมื่ออธิษฐานขออะไรก็จะได้ทันอกทันใจสมชื่อท่าน

หลวงพ่อทันใจ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระบรมธาตุบ้านตาก หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะตะเภอ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ห่างจากตัวจังหวัดตากประมาณ 28 กิโลเมตร เดินทางไปตามถนนสายพหลโยธิน เส้นทางจากเมืองตากไปทางจังหวัดลำปาง ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เมื่อถึงปากทางเข้าวัดพระบรมธาตุบ้านตาก เลี้ยวซ้าย เดินทางต่อไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตร ผ่านตลาดบ้านตาก ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำปิง ถนนหนทางสะดวกสบายตลอดเส้นทางจนถึงวัดพระบรมธาตุบ้านตาก

หลวงพ่อทันใจ เป็นพระพุทธรูปชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างขึ้นมา ใช้เวลาสร้าง 1 วัน 1 คืน จึงได้ชื่อว่า "พระเจ้าทันใจ" เพราะสร้างสำเร็จรวดเร็วทันใจ และใครก็ตามที่ได้มาไหว้พระขอพรตั้งจิตอธิษฐานขอความปรารถสิ่งใด ก็มักจะได้สมปรารถนาทุกประการ จะสังเกตได้ว่า มีประชาชนจำนวนมากในแต่ละวันมาตั้งจิตอธิษฐาน และเมื่อสำเร็จตามปรารถนาแล้ว ก็จะนำสิ่งของมาบูชา หรือที่ชาวบ้านอาจจะเรียกว่า แก้บน

รูปหล่อเนื้อทองผสม ปิดรายการครับ


เหรียญรุ่นมหาเศรษฐี ปิดรายการครับ

 

จอวพระสีวลีและรูปหล่อพระเจ้าทันใจ

 

จองทั้ง2องค์ครับ

 

จองครับ

 

จองครับ

 

จองครับ