เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

เปิดกระทู้กับการบุญเป็นปกติ
รับบุญอิ่มใจริมถนนเสร็จ ค่อย
ไปต่อกับโพสท์อื่นๆให้รื่นรมย์

 

รับทักปจว.น้องปรายฯ
ทักยามสาย-ตอบบ่าย
ยามไหนก็ดีต่อใจทุกเวลา

 

สมเด็จ"หลวงปู่ลำภู" ปี 2502
ลงกรุ-เนื้อ'บางขุนพรหม'ล้วน
===============

--ผ่านไป 2 หน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์...!

--พระสมเด็จ 9 ชั้นผสมเนื้อ "วัดเกษไชโย" โดย หลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกษ อ่างทอง ที่มีเนื้อเก่าดั้งเดิมตอนเปิดกรุเป็นบาตร ไม่ต้องไปขอเศษแบบหน่อมแน้มจากที่ใดมาใส่ อย่างที่ชอบโม้กันมีผงช้อนเดียว ออกลูกออกหลานเป็นแสน แล้วไม่รู้ผงที่ใส่เก๊หรือแท้...?

--สมเด็จ หลวงปู่นาค วัดระฆัง นี่ก็มี "พระวัดระฆัง-สมเด็จโต" ของแท้เป็นกาละมังในฐานะศิษย์ที่สืบทอดดูแลวัดระฆังตัวจริงเสียงจริง ทั้งบนเพดานโบสถ์ ผงเก่า พระเก่าที่อยู่เป็นสมบัติวัด ใครโม้ว่าพระรูปใดมีเนื้อวัดระฆังแท้มากกว่า หลวงปู่นาค พึงทราบไว้เถิดว่า ไอ้หมอนั่นเล่านิทานโกหกหน้าด้านๆที่สุดในปฐพี!

ลำดับต่อไป ก็มาถึงหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์-วัดสุดท้าย นั่นคือ...

พระสมเด็จที่มีเนื้อแท้ "บางขุนพรหม" ผสมมากที่สุดในแผ่นดิน โดย "หลวงปู่ลำภู" แห่งวัดบางขุนพรหม สร้างในปี 2502 หลังจากเปิดกรุล้ำค่านี้ได้เพียงปีเศษๆ...

ปี 2500 วัดบางขุนพรหมดำเนินการเปิดกรุพระสมเด็จ เพราะทนต่อการลักลอบขโมยตกเบ็ด ขโมยล้วงสารพัดกรรมวิธีไม่ไหว มี จอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นประธาน

หลวงปู่ลำภู อยู่วัดบางขุนพรหม เติบโตในปีนั้นเป็นถึง 'รองเจ้าอาวาส' เป็นหนึ่งในกรรมการเปิดกรุกับมือ รู้เห็นกับตาตัวเองทุกกระบวนการ!

พระสมเด็จบางขุนพรหม เปิดกรุขึ้นมาตามบันทึกประวัติเป็นทางการ เหลือ "พระดี" เพียงสองพันกว่าองค์ แต่ขอบันทึกประวัตินอกรอบไว้ตรงนี้ว่า พระดีต้องมีเกินนั้นอีกหลายเท่าตัว!!!

เพราะอย่าลืมเวลา"เปิดกรุ" ทั้งกรรมการ+เจ้าหน้าที่+ผู้เกี่ยวข้อง+พระเถรเณรชี +ไทยมุง ฯลฯ ต่างคว้ากันหนุบหนับคนละองค์สององค์โดยไม่มีใครว่ากล่าวอยู่แล้ว เพราะถือว่าพระยังไม่ได้คัดแยก ไม่ตั้งราคาทำบุญ ที่สำคัญถือว่าพระในกรุมีเยอะช่วยกันโกยขึ้นมาเป็นถังๆปนกันมั่ว ฯลฯ

สรุปใครจะหยิบก็ได้ อย่าหอบเป็นถุงเป็นถังให้น่าเกลียดเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็หยิบเพื่อให้ผู้ใหญ่บ้าง ให้ตัวเองบ้าง รวมความแล้วพระดีน่าจะมีอีกหลายเท่าตัวที่บันทึกเป็นทางการ

ผมตีซะว่า พระบางขุนพรหมไม่แตกหักน่าจะมีเกือบ"หนึ่งหมื่นองค์" นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งให้วัด "ทำตราประทับ"ด้านหลัง เพื่อจะได้ไม่มีพระที่โดนชาวบ้านหรือบางคนที่เป็นเสือหิวหยิบออกไปก่อนรวบรวมบันทึกเป็นทางการ มา"สวมตอ" เอามาให้ทำบุญราคาแพงแข่งกับวัด

พระปั้มตราวัดมี สองพันกว่าองค์ พระไม่ได้ปั้มตราคงมากกว่าสัก 3-4 เท่า!!!

อันนี้ยังไม่สำคัญหรือน่าทึ่งเท่ากับพระแตก พระหัก เนื้อพระที่จับตัวเป็นก้อนมหาศาล ลองหลับตาจินตนาการถึงภาพพระสร้างบรรจุกรุ 84,000 องค์เท่าพระธรรมขันธ์ แต่เปิดขึ้นมาเหลือพระดีไม่ถึงหมื่น เศษส่วนแตกหักผสมดินกรุจะมากมโหฬารปานจอมปลวกลูกยักษ์ขนาดไหน?

พระแตกหักมากที่สุดในประวัติศาสตร์นี่แหละ หลวงปู่ลำภู ท่านเก็บรักษาไว้ไม่รู้กี่ปิ้บกี่ไห แบ่งกันไประหว่างเจ้าอาวาส และพระท่านอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งท่านเจ้าอาวาสก็มอบให้วัดต่างๆอาทิ พระครูสมุห์อำพล วัดประสาทฯไปมากเพื่อสร้าง หลวงปู่ทวด+สมเด็จโต ฯลฯ ปี 06 หลวงตาพันท่านก็เอาไว้สร้างของท่านส่วนหนึ่ง อีกหลายหลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตา ก็แบ่งกันไปไม่เสียดมเสียดาย

ต่อมาเมื่อพระวัดบางขุนพรหมให้เช่ามีราคาแพง พระแตกหักที่อยู่กับ หลวงปู่ลำภู ก็ถูกขอไม่เว้นวัน ท่านจึงตัดสินใจสร้างพระสมเด็จเลียนแบบพระกรุขึ้นบ้าง ใช้เนื้อแท้ของพระกรุผสมกับว่านและผงที่ท่านสร้าง-เสกเองผสม มีทั้งผงใบลาน กับเนื้อพระกรุอื่นที่ท่านรักษาเช่น พระปิลันทน์ เป็นต้น

หลวงปู่ลำภู เป็นหนึ่งในยอดวิทยายุทธยุคนั้น พระที่ท่านสร้างจึงผ่านการปลุกเสกเยี่ยมยุทธไม่เป็นสองรองใคร พระสมเด็จ ปี 02 ท่านสร้างไว้ถึง 11 พิมพ์มาตรฐาน และสร้างไว้ 3 สีคือ

--เนื้อสีขาวมีมากที่สุด
--เนื้อสีดำผสมผงใบลานมีค่อนข้างน้อย
--เนื้อสีเขียวแบบสมเด็จปิลันทน์มีน้อยที่สุด

ท่านแจกพระไปเสกไป และส่วนหนึ่งนำบรรจุที่วัดบางขุนพรหม อีก 2 ส่วนนำไปบรรจุกรุวัดบ้านเกิดคือ "วัดไก่จ้น" ทั้งบนเพดานโบสถ์กับในตุ๊กตา พระที่ถูกบรรจุกรุเมื่อโดนความร้อนบีบอัดกดดันก็บังเกิดคราบกรุปะทุออกมาแบบดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยน เพราะมี "พระกรุเดิม"ผสมมากที่สุด

พระสมเด็จหลวงปู่ลำภูในยุคหนึ่งที่มีคราบกรุงามๆ ซึ้งตา ถูกหลอกขายเป็น "สมเด็จบางขุนพรหมแท้" มาเสียนักต่อนัก!

คราวนี้ได้เวลามาชม พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ หลวงปู่ลำภู ลงกรุ ปี 02 เนื้อที่หายากสุดของท่านคือ...เนื้อสีเขียว!!!

พระองค์นี้ลงกรุที่วัดบางขุนพรหมเข้มข้น ท่านหยิบจากโอ่งมาแจกตั้งแต่ปี 14 เพียงสิบปีเศษ คราบกรุปะทุออกมาคลุมผิวเหมือนพระสมเด็จปิลันทน์ และบางส่วนก็แบบเดียวกับกรุบางขุนพรหม แต่เบาบางกว่าไม่หนา สามารถใช้เป็นครู ดูคราบกรุยอดพระสมเด็จได้ถึง 2 วัดยิ่งใหญ่คือ ศึกษาคราบกรุวัดบางขุนพรหม และคราบไขกรุสมเด็จปิลันทน์ โดยไม่หลงทาง ไม่ตากลับ ไม่ต้องกลัวโดนใครหลอก!!!

พระสมเด็จเนื้อสีเขียวพิมพ์ใหญ่องค์นี้ ยังมีก้อนเนื้อ"บางขุนพรหม"ผสมเป็นองค์ธาตุลอยเด่นในเนื้อมากมายมหาศาลทั้งหน้า-หลัง-ด้านข้าง รวมแล้วหลายสิบเม็ดหลายสิบจุด เอาเป็นคู่มือศึกษาเนื้อเม็ดผง"พระบางขุนพรหม"ได้อีกไม่ต้องไปถามขี้ปากเสี้ยนให้เวียนหัว

เชิญชมภาพพระสมเด็จหลวงปู่ลำภู ปี02 เนื้อบางขุนพรหม+ปิลันทน์ กับคราบกรุอันงดงามซึ้งตาสุดพรรณนา ถ้าจะร่วมบุญบูชาก็เชิญนำไปด้วยราคาต่ำกว่าที่เคยขายกันหลายเท่าตัว

=======6,500=======

พระสมเด็จหลวงปู่ลำภู เนื้อสีเขียว แต่ถ่ายภาพให้แสงมาก สีจึงดร็อปลงเหมือนสีอ่อนที่จริงเขียวเข้มสวยงามซึ้งตาเกินบรรยาย ชมคราบกรุที่คลุมหนา-บาง หนัก เบาเป็นธรรมชาติที่สุดตามตำแหน่งต่างๆ ไม่ใช่คลุมเป็นปื้นไปทั้งองค์อย่างจงใจกระทำ!

ด้านหลังเรียบเพราะเป็นพระยุคแรกที่ท่านแจก ไม่ใช่ยุคต่อๆมาคราวหลังที่ทำทั้งตราประทับทั้งตราหมึกสารพัน เห็นเม็ดผงบางขุนพรหม ฝังอยู่เนื้อเม็ดเบ้ง เม็ดเล็ก ทั่วทั้งแผ่นหลัง ศึกษาเม็ดพระธาตุเหล่านี้แตกฉาน จะไม่มีวันพลาดถ้า พระ"บางขุนพรหมแท้ๆ" หลงมาวางอยู่ตรงหน้า

ข้างบนที่วงกับด้านข้างคือ เม็ดผงบางขุนพรหม อร้าอร่ามดูด้วยตาเปล่าก็ชัด ลงกล้องก็แจ่ม ด้านล่างที่ฐานกับซ้ายมือเราคือคราบกรุไขวัวแบบปิลันทน์กับคราบกรุน้ำตาลแบบบางขุนพรหม พระองค์เดียวให้กรณีศึกษามหาศาลสำหรับพระแท้!!!

วงกลมให้ดูเม็ดบางขุนพรหมที่ฝังในเนื้อ วิธีดูเม็ดพระธาตุเหล่านี้ ต้องส่องให้เห็นขอบข้างการฝังจมในเนื้อสีเป็นอย่างไร การลอยขึ้นจากเนื้อต่างกับจมเช่นไร? นี่เป็นกรณีศึกษาอย่างเซียนสมเด็จเทียวหนา แต่สิบปากว่าย่อมไม่เท่าตาเห็น แค่ที่วงไว้ให้ดู...ส่องศึกษากี่วันกี่เดือนก็ไม่รู้จบ นี่คือเสน่ห์เอกอุของเนื้อพระสมเด็จแท้!

ที่วงรอบไว้เป็นเพียงตัวอย่าง ส่วนที่ไม่ทำเครื่องหมายยังมีทั่วองค์ โครงสร้างทางกายภาพแต่ละเม็ด น่าทึ่ง น่าศึกษาเป็นที่สุด

ชมหน้า-หลังแล้วมาดูความคลาสสิคด้านข้างบ้าง กับเม็ดพระธาตุเนื้อบางขุนพรหมแท้ที่อยู่ทั่วทุกหนแห่ง เพราะเป็นการสร้างครั้งแรก ท่านจึงบดเนื้อแท้ผสมไม่อั้น!

ภาพด้านข้างที่เหลือกับบน-ล่าง ไม่ต้องวงเนื้อแล้ว เพราะตรงส่วนไหน ด้านใด ก็เห็นชัดด้วยตาเปล่า กดขยายใหญ่ชมเพลินๆเป็นความรู้ที่ภาพได้เลย ไม่จำเป็นต้องทำบุญ เพียงร่วมอนุโมทนาก็ได้บุญเหลือเฟือ กับสุดยอดพระสมเด็จเนื้อหาเหลือล้นองค์นี้!!!

 

นิมนต์ครับ

 

สาธุค่ะ คิดเอาไว้แล้ว ว่าแป๊บเดียว รีเฟรชอีกที ต้องมีผู้รับไป

 

หน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์วัดสุดท้าย ขอมอบให้ท่านเดินทางขึ้นสู่แผ่นดินที่ราบสูง ปกป้องคุ้มครองดูแลรักษาคุณเทพกับครอบครัว พระหลวงปู่ลำภูองค์นี้อยู่กับผมครบ 40 ปีพอดี ยังจำได้ ผู้ใหญ่ที่มอบให้มาบอกว่าเป็นพระกรุบางขุนพรหมไปรับมากับมือ กว่าผมจะรู้ว่าเป็น "กรุบางขุนพรหมของหลวงปู่ลำภู" ก็ใช้เวลาหลายปี

ท่านมอบมา 2 องค์เป็นเนื้อเขียวทั้งคู่ อีกองค์จารเลข ๙ (เลขไทย)ด้านหลังตามที่บันทึกไว้ในตำราเปี้ยบ แต่องค์นั้นแลกกับพรรคพวกไป 30 กว่าปีแล้ว เก็บรักษาองค์นี้มาได้ยาวนานที่สุด แต่ก็ส่องศึกษาโดยให้ท่านอยู่ในกล่องอยู่ตลอด ไม่จับมากให้เปื้อนมือเสียผิว ท่านจึงยังคงงามซึ้งเหมือนรับแจกมาใหม่ๆ

บารมี หลวงปู่ลำภู ท่านมิใช่ธรรมดา วิสัยพระทองคำของท่านก็เต็มเปี่ยม ขนาดถูกนิมนต์เป็นเจ้าอาวาสวัดบางขุนพรหมท่านยังปฏิเสธขอเป็นแค่พระลูกวัด ให้พระหนุ่มแข็งแรงเป็นแทน แสดงถึงการไม่ติดยึดในลาภยศสรรเสริญทางโลก พระอย่างนี้สร้าง-เสกสิ่งใดก็ศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งได้มวลสารอันเป็นสุดยอดของแผ่นดิน ใช้คำว่า"ดีนอก-เด็ดใน" ก็ยังไม่พอ

ท่านเป็นหนึ่งในสหธรรมิก หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ร่วมเสกพระรายการใหญ่พิธีดีอยู่เสมอ ปี 21 งานบุญใหญ่"วัดไก่จ้น" วัดบ้านเกิด ในหลวง ร.9 กับสมเด็จพระราชินีเสด็จฯ ก็ได้ "หลวงปู่โต๊ะ" ร่วมด้วยช่วยกันเต็มที่ พระที่ท่านสร้างจึงสุดยอดทุกรุ่นทุกพิมพ์ ถ้าหากรู้ที่มาแจ่มชัด ประวัติไม่มั่ว ขึ้นบูชาเป็นศิริมงคล ไม่หนักคอ ไม่ต้องอาศัยนิทานอภินิหารมาประกอบ!

หลวงปู่ลำภู มรณภาพ ปี 2533

โมทนาคุณเทพฯครับ ส่งหนึ่งในดวงใจอีกองค์เดินทางขึ้นอีสานพรุ่งนี้

 

ครับ-หลวงปู่ลำภู ของแท้ปี 02 ไม่มีราคานี้ ถ้าเป็นพ่อค้าพระตัวจริงก็หลักหมื่นขึ้น ตามแต่จะหมื่นเท่าไหร่ เคยเห็นตั้งราคาเป็นแสนก็มีสำหรับองค์ชนะประกวดติดรางวัล แต่ไม่รู้ขายได้หรือเปล่า?

แต่อย่างว่าน้องจิ้ง เรื่องราคาพระเป็นสิ่งสมมุติ จะตั้งเท่าไหร่ก็ได้ หลักล้านก็ได้ถ้ามีคนซื้อ...แจกฟรีหรือไม่กี่บาทก็ได้ถ้าเราพอใจ แต่บางทีการตั้งราคาพระแท้หายาก ในราคาถูกเกินไป ก็จะถูกระแวงสงสัย มองว่า เอาพระเก๊แบกะดินมาขาย!?

ผมจึงเลือกตั้งราคาเป็นกลางๆ ในยามเศรษฐกิจเช่นนี้ -อย่าให้ผู้ซื้อเดือดร้อน หรือไม่มีใครบูชาก็ไม่เป็นไร ถือว่าแบ่งปันความรู้ แบ่งของดีให้สมาชิกดู!

 

ประมาณ 8 ปีที่แล้ว ผมไปสร้างกระท่อมริมน้ำชลประทาน..อ่างห้วยเสนตอนล่าง บ้านทับทิมสยาม 04 จังหวัดสุรินทร์


พาลูกชายเล่นน้ำหน้าบ้าน...ลูกชายคนโตเจอองค์นี้ครับ ท่านน่าจะอยู่ในน้ำมานาน..เจ้าของคงเสียดายมาก....เอาขึ้นมาก็ทิ้งไว้ในหิ้งพระในกระท่อม...พึ่งเอามาดูตอนที่เริ่มตามในกระทู้นี้....อ่างนี้สร้างตอนปี 36 - 37







คิดว่าโตขึ้นจะให้เขาแหละองค์นี้(ลูกชายคนคนโต).....ตอนนี้ให้เขาแขวนองค์เล็ก ๆ ของหลวงปู่โต๊ะ...วัยรุ่นไม่ชอบองค์ใหญ่ อ่านในกระทู้สองสามวันมานี้....เริ่มกระจ่างครับ....ขอบพระคุณคุณอา และสมาชิกทุกท่านครับ..โอนร่วมบุญ และแจ้งคุณน้ำฝนแล้วครับ

 

อ่านเรื่องเล่าจากคุณเทพ ต้องบอกว่า นี่แหละ...อัศจรรย์ของแท้ พระท่านอยู่ในน้ำ ในสถานที่ซึ่งเกือบเป็นที่รกร้างยากจะหาคนผ่าน ถึงผ่านไปก็ไม่มีทางพบเจอเป็นอันขาด แทบจะ "หนึ่งในล้าน" ทีเดียว แต่ลูกชายคนโตยังเจอท่านได้

พระเลือกคน ไม่มีอันใดกังขา และเป็นพระที่มีหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์จักรพรรดิพระเครื่องผสมไม่น้อยหน้า เป็นพระสมเด็จแขนกว้าง หลังตราแผ่นดิน ปี 2495 หลวงปู่นาค วัดระฆังแน่นอน

พระพิมพ์นี้สร้างพร้อม "พระสมเด็จเผ่า" วัดอินทร์ นำเข้าพิธีด้วยกัน แต่หลังจากเสร็จแล้ว บารมี พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ยุคสมัยนั้นทำให้ "พระสมเด็จเผ่า" โด่งดังเป็นที่ปรารถนาของนักเล่นพระสมเด็จ พระในพิธีของหลวงปู่นาคจึงโดนตีเก๊เมื่อมีคนเอาไปขาย เพราะคนซื้อ คนเล่นหาว่า มาทำเลียนแบบสมเด็จเผ่า แถมกลัวคนไม่เชื่อว่าตำรวจสร้างดันเอา"ตราแผ่นดิน-ตราตำรวจ" มาปั้มไว้ซะด้วย

พระหลังตราแผ่นดิน ถูกรังเกียจอยู่หลายสิบปี เพราะความ "ใจแคบ " ของเซียนนักเล่นที่ต้องการเล่นพระหน้าเดียวให้มีราคา ไม่อยากให้มีพระหน้าอื่น ปีเดียวกัน เนื้อหาดีมาทำให้ราคาของที่ตัวเองเล่น ราคาตก นิยายพระแท้กลายเป็นพระเก๊ จึงถูกถ่ายทอดต่อๆกันมา

ต่อมามีพระของนายตำรวจน่าจะชื่อ ร.ต.อ.ชาญ กระตุกฤกษ์ (หากจำชื่อ-นามสกุลผิดตัองขออภัย) ออกมาแจกโดยยืนยันว่าตัวเองสร้างในปี 95 เพื่อแจกเช่นกัน ทำให้ความจริงค่อยๆกระจ่าง แต่ยุคที่ข้อมูลข่าวสารต้องผ่านจากคนเล่นพระและส่วนใหญ่เป็นเซียนทั้งนั้น ทำให้พระหลังตราแผ่นดิน ถูกกลบฝังข่าวสารไว้อีก หนังสือพระเครื่องก็ไม่เขียนถึง กลัวจะโดนเสี้ยนหาว่า ไม่มีความรู้เอาพระเก๊มาเขียนประวัติ

จนเมื่อคนรู้ความจริงว่า เป็นของ หลวงปู่นาค จึงหันมาเล่นกัน แถมมี"ของเก๊"โผล่มาด้วย ถ้าพระเก๊แต่ดั้งเดิม คนทำเลียนแบบจะทำให้บ้าทำหอยหรือปัญญาอ่อน "เก๊ซ้อนเก๊"ทำไม?

แต่โทษทีเมื่อรู้ว่า พระหลังตราแผ่นดินเป็นพระไม่เก๊...พวกเสี้ยน....เอ้ย เซียนที่เคยตีเก๊ ก็ล้วนไปส่องพระในนรก...เอ้ย สวรรค์กันหมดแล้ว ส่วนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็แก่เหลาแหย่ ไม่ก็หงำเหงือกไม่โผล่หน้าออกมาช่วยแก้ต่างหรือขอโทษสักแอะ แสร้งทำเฉยเมยกันไป

นี่แหละครับเรื่องราวที่แท้จริงของวงการพระ ซึ่งยังมีเรื่องทำนองนี้อีกมาก ทำให้พระแท้ พระดีๆถูกตีด้อยค่าหลายอย่าง หลายรุ่น หลายสำนัก นอกจากไม่เล่น คนขายพระยังตีเก๊ เพื่อที่จะทำให้พระที่ตัวเองเล่นเหลือปริมาณน้อย จะได้หลอกขายพระในมือตัวเองราคาแพงๆ ว่าเป็นของหายาก ฯลฯ

พระสมเด็จหลังตราแผ่นดิน เป็นกรณีศึกษาสำหรับคนที่เล่นพระด้วยหู เล่นตามคำบอกเล่า โดยไม่ได้ดูเนื้อหา ไม่ศึกษาที่มาที่ไปให้ถ่องแท้

ยินดีกับคุณเทพ ที่พระผสมเนื้อหาจักรพรรดิพระเครื่องท่านเลือกมาอยู่กับลูกชายคนโต ถือเป็นวาสนาจริงๆ น่าแกะท่านออกจากกรอบ จับสรงน้ำทำความสะอาด ไล้ด้วยพู่กันเบาๆเสียหน่อย ผึ่งลมให้แห้ง แล้วเก็บใส่กล่องรักษาไว้ อีกไม่นานพระท่านจะขึ้นคราบแป้งนวลขาวสวยเชียวละ

 

มารอหน้าเวทีมวยเลยครับคืนนี้

 

คืนนี้เข้าเวทีไม่ไหวครับ อาการเจ็บตารบกวนอีกแล้ว แต่เห็นโพสท์คุณเทพน่าสนใจ ก็เข้ามาตอบไว้หน่อย ค่อยตีตั๋วเข้าเวทีพรุ่งนี้ละกัน

 

พี่วันอธิบายละเอียดเลย น่าจะใช้เวลาเยอะอยู่นะครับ ทั้งตรวจทานและแก้คำผิด
ผมว่าคืนนี้พี่วันพักผ่อนสายตาก่อนดีกว่านะครับ หัวค่ำวันพรุ่งนี้ค่อยมาต่อกัน





อ้าว... นั่น พี่วันตอบมาพอดีเลย พักผ่อนเถอะครับ ผมเองช่วงหลัง ๆ มานี้ก็ปวดตาเหมือนกันครับ

 

วันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันพุธ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

#Day12 ทำบุญ(โอนออนไล์)
>> วัดสุภัททะบรรพต(วัดมาบจันทร์) อ.แกลง จ.ระยอง



>> หลวงปู่บัวเกตุ ปทุมสิโร (พระครูวิบูลย์ธรรมกิจ) วัดป่าปางกึ๊ด ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


#เก็บบุญ
#หยอดกระปุกบุญ
#ลงรูปไว้ด้วยกลับมาดูจะได้นึกออก

-----------
ต่อด้วยพระบนคอวันนี้.. ปิดตาหลวงปู่โต๊ะ อาราธนาไว้หลังคอ


อาราธนาใส่อยู่ทุกวัน ตอนนอนก็ถอดสร้อยเส้นนี้มาอยู่ในมือตอนนั่งสมาธิ
กระแสท่านแรงจริงค่ะ ยืนยันกันสองคนกับน้องอีกคนที่แบ่งกันไปคนละองค์
ทำให้นั่งสมาธิได้นานขึ้น deepขึ้น และน้องบอกทำให้กลัวผีน้อยลง

 

ตามนั้นเลยครับ ไว้เจอกันตอนเย็น แต่ละตอนที่งวดเข้า ทั้งสนุกและอุดมเล่ห์เหลี่ยม ไหวพริบ เชิงมวย เชิงชาย ครบครัน

 

บุญบนฟุตบาธ หนุ่ม-สาว ตั้งอกตั้งใจทำและอาราธนา ทั้งการกรวดน้ำ ครบหนทางบุญถี่ถ้วนดีแท้ เราได้แต่ยกมืออนุโมทนา สาธุ ร่วมไปก็เหลือแหล่

 

ทานเที่ยงเสร็จ น้องปรายฯ
ก็มิวายคิดถึง แวะทักนิดนึง

 

บุญออนไลน์ หายหลายมื้อ
หื้อเรียบร้อย ก็ร้อยกวีตาม...

'วัดมาบจันทร์...บุญวันโกน
บรรพตโผน...อ่อนโยนผา
'ป่าปางกึ๊ด'...ยืดบุญญา
ปู่'บุปผา'....นามว่า"บัวเกตุ"
--แบ่ง"ปู่โต๊ะ"..เติบโตจิต
--ธรรมพินิจ.....พิษพ้นเขต
--เหตุขัดข้อง.....หมองหม่นเปรต
--ญาณฤทธิ์เดช...พิเชฐผล!

หมายเหตุ...พิเชฐ = เจริญที่สุด