พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตั้งจิต [​IMG]
    ดีมากๆเลยนะครับ ขอบอก ผมเคยฝึกแล้ว
    ไม่ต้องไปจ๊อคกิ้งให้เหน็ดเหนื่อย ท่านจะแข็งแรง ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
    เหมือนการฝึกกำลังภายในครับ โดยเฉพาะท่านที่ไม่ค่อยแข็งแรง เป็นภูมิแพ้
    จะได้เลิกแพ้ซะที ท่านที่เริ่มสูงอายุควรฝึกครับ แล้วจะเดินเหินท่องเที่ยวสบายแล
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ได้เลยน้องเอ

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?p=1179800#post1179800

    <TABLE class=tborder id=post1179542 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 02:58 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #95 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>pucca2101<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1179542", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:54 PM
    วันที่สมัคร: Mar 2008
    ข้อความ: 147 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 317 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 973 ครั้ง ใน 143 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 16 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1179542 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->สวัสดีค่ะคุณ Sithiphong
    ได้รับพระสมเด็จไกเซอร์ที่ส่งตามมาทีหลังเรียบร้อยแล้วนะคะเมื่อวานนี้ ถ้าจะขอรูปหลวงปู่ใหญ่ กับ ผ้ายันต์ ต้องเช่าบูชาเท่าไรคะ หรือแจกให้เลยกับผู้ที่ได้เคยร่วมทำบุญแล้ว ต้องแจ้งที่อยู่ให้ทราบอีกหรือเปล่าคะ ยังเก็บไว้อยุ่หรือเปล่า
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ pucca2101 [​IMG]
    สวัสดีค่ะคุณ Sithiphong
    ได้รับพระสมเด็จไกเซอร์ที่ส่งตามมาทีหลังเรียบร้อยแล้วนะคะเมื่อวานนี้ ถ้าจะขอรูปหลวงปู่ใหญ่ กับ ผ้ายันต์ ต้องเช่าบูชาเท่าไรคะ หรือแจกให้เลยกับผู้ที่ได้เคยร่วมทำบุญแล้ว ต้องแจ้งที่อยู่ให้ทราบอีกหรือเปล่าคะ ยังเก็บไว้อยุ่หรือเปล่า
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมแจกฟรีครับ

    ไว้ผมจะส่งไปให้นะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  3. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    ได้รับพระเครื่อง(พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า) แล้วนะครับ คุณ sithiphong
    ... อนุโมทนาสาธุ..ครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของการหล่อพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่ผมเคยแจ้งไว้ว่า พระพุทธรูปองค์ที่ 1 - 3 ที่แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสามพระองค์แรก ที่ประมาณจำนวนเงินไว้ 250,000.00 บาท พระพุทธรูปองค์ที่ 4 ที่แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ประมาณจำนวนเงินไว้ที่ 450,000.00 บาท และพระพุทธรูปองค์ที่ 5 แทนองค์พระศรีอาริยเมตตรัย ประมาณจำนวนเงินไว้ที่ 350,000.00 บาท แต่ในปัจจุบันราคาน่าจะสูงไปกว่านี้แน่นอน

    คงมีคนถามว่า ทำไมหล่อพระพุทธรูป ประมาณ 30 นิ้ว ทำไมราคาค่าหล่อถึงสูงมากขนาดนี้

    ผมขอแจ้งว่า พระพุทธรุปทั้ง 5 พระองค์ จะหล่อด้วยทองเหลืองทุกๆพระองค์ และช่างที่หล่อพระพุทธรูปเป็นช่างมือหนึ่งที่รับงานจากกรมศิลปากรมาหล่อให้เอง ราคาจึงสูงขนาดนี้

    ที่สำคัญ การทำสัญญาการหล่อพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ผู้ที่ตกลงรับเป็นเจ้าภาพ จะเป็นผู้ที่ทำสัญญากับทางช่างและโรงหล่อเอง จะได้ทราบว่า จำนวนเงินที่หล่อเท่าไร และพระอาจารย์นิลท่านจะได้เบาแรงไปเรื่องนึง

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    .
     
  8. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    (good) (good) (good)
    รอลุ้น...จอบด้วยคร๊าบ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    คุณnongnooo ที่คุยกันเรื่องเพชรพญานาค ตกลงเป็นเพชรพญานาคจริงๆ และองค์ประกอบอื่นๆ เป็นของเก่าจริงๆ มีหลายสี ผมว่าจะเก็บไว้แล้วเผื่อทำล็อคเก็ตอีกครั้ง ผมจะนำไปติดที่ล็อคเก็ต เหมือนเดิม

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    รอหน่อยนะครับ

    แล้วอย่าลืมที่นัดกันไว้นะครับ บอกได้ว่า ห้ามพลาดเด็ดขาด

    คุณแด๋นครับ ห้ามพลาดเช่นกัน ผมจะแจ้งรายละเอียดทาง pm ให้ทราบ

    งานนี้ ผมจะอัญเชิญพระบูชา "พระบัวเข็ม" และ "หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" ไปด้วยแน่นอน
    (tm-love)
    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, 16, louis_bun, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    คุณnongnooo เกือบลืม ผมจะนำปะคำไปด้วย แล้วก็จะนำน้ำประสานไปด้วยเช่นกัน

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, 16, kaicp+, louis_bun, nongnooo+, tepamorn </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เรียน พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ

    เรื่องที่ผมคุยกับคุณnongnooo ถ้าอยากทราบว่าคืออะไร และมีความประสงค์ที่จะไปด้วย โปรดโทร.หาผมภายในวันพรุ่งนี้ด้วยนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=127206

    <TABLE class=tborder id=post1175346 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">06-05-2008, 05:39 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>teporrarit<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1175346", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:21 PM
    วันที่สมัคร: Feb 2008
    สถานที่: สมุทปราการ
    อายุ: 21 ปี
    ข้อความ: 230 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 57 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 3,034 ครั้ง ใน 217 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 42 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1175346 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->หลวงพ่อเล่าเรื่อง...นางมาคันทิยา(เราไม่สามารถห้ามใครไม่ให้ตกนรกได้)กฏของกรรม
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->[​IMG]
    ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย และบรรดาเพื่อนภิกษุสามเณร ตอนนี้ก็มาฟังเรื่องราวท้องเรื่องของพระนางสามาวดีแต่ตอนนี้พระนางสามาวดีพักเข้าฉากไปชั่วคราว ก็มาถึงประวัติของพระนางคันทิยา ( ตัวร้ายในเรื่อง )<O:p</O:p
    พระนางมาคันทิยา อยู่ในแคว้นกุรุ มีพ่อชื่อ มาคันทิยาพราหมณ์ มีแม่ชื่อ มาคันทิยพราหมณี ตัวเธอเองก็ชื่อ มาคันทิยา เหมือนกัน และก็มีอาชื่อ มาคันทิยพราหมณ์ เหมือนกัน<O:p</O:p
    ปรากฏว่า มาคันทิยานี้เป็นคนสวยมาก ( ตามบาลีท่านบอกว่า สวยมาก ) จะสวยขนาดไหนก็ไม่ทราบ มีคนเขามาขอเรื่อยๆ แต่ว่าพ่อไม่ตกลง ว่า ลูกสาวของเราสวย ศักดิ์ศรีของคนที่มาขอไม่ดีพอ จะรอคนที่มีศักดิ์ศรีดี สมกับความสวยของลูกสาว<O:p</O:p
    ต่อมาวันหนึ่ง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรวจดูอุปนิสัยของสัตว์ ก็เห็นพราหมณี สองคนนี้จะมีวาสนาบารมี บำเพ็ญบารมีเดิมดีแล้ว เมื่อฟังเทศน์จบย่อๆ จบเดียว เธอจะได้เป็นไพระอนาคามี หลังจากนั้น บวชในสำนักขององค์สมเด็จพระชินสีห์พ่อกับแม่ คือคันทิยพราหมณ์ กับมาคันทิยาหมณี ก็จะได้เป็นพระอรหันต์<O:p</O:p
    ฉะนั้น ในตอนเช้า องค์สมเด็จพระภควันต์ จึงเสด็จไปยืนอยู่แถวหลังบ้าน ใกล้ทางที่พราหมณ์จะออกไป วันนั้นพอดีพราหมณ์ มีธุระออกนอกบ้าน ไปเจอะองค์สมเด็จพระพิชิตมารมีรูปร่างน่าตาสวย จึงคิดว่า ชายคนนี้ควรที่จะเป็นลูกเขยของเรา สวยพอดิบพอดีกับลูกสาวของเราถ้าเป็นสามีของลูกสาวเรา สวยพอดิบพอดีกับลูกสาวของเรา ถ้าเป็นสามีของลูกสาวเรา จะมีศักดิ์ศรีมาก<O:p</O:pจึงเข้าไปหาองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาค (เขาไม่รู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้า ) ว่าโภปุริสะ บุรุษผู้เจริญ เธอสวยงามสง่าจริงๆ ฉันมีลูกหญิงอยู่คนหนึ่ง สวยมาก ไม่คู่ควรกับคนอื่น แต่ถ้ากับเธอคู่ควรกันจริงๆ รออยู่ตรงนี้นะ ฉันจะนำลูกหญิงมาเป็นภรรยาของเธอ<O:p</O:p
    เมื่อฟังตรงนี้แล้ว บรรดาภิกษุหนุ่มทั้งหลาย และสามเณรและญาติโยมที่เป็นหนุ่ม คิดแล้วเสียวใจนิดหนึ่งว่า ถ้าเราโดนกันแบบนั้นจะทำอย่างไร สำหรับเณรทั้งหลาย น่ากลัวจีวรหายหมด ผลที่สุด ผลที่สุดก็จะถูกควายเขาอ่อนขวิดพังไป ทีนี้บังเอิญเป็นองค์สมเด็จพระสมพระจอมไตร ซึ่งหมดกิเลสแล้ว<O:p</O:p
    องค์สมเด็จพระประทีปแก้วฟังแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ก็นิ่งเฉยไว้ หลังจากนั้นพราหมณ์ก็เข้าบ้าน บอกว่านางพราหมณีว่า นี่ยาย แต่งตัวลูกสาวเร็วๆ นะ ฉันไปเจอะลูกเขยรูปหล่อแล้วมันสวยจริงๆ สมกับลูกสาวของเรา เมื่อพราหมณณ์เดินกลับเข้ามา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ทรงแสดง รอยพระบาท ที่เขาเรียกว่ากันว่า เจดีย์ ซึ่งมีกงจัก รูปสิงห์ รูปอะไรเป็นต้น ให้ปรากฏรอยอยู่แล้ว สมเด็จพระบรมครูก็หลีกไปอยู่ใกล้ๆ และบันดาลให้พราหมณ์ไม่เห็นตัว<O:p</O:p
    เมื่อพราหมณีแต่งตัวลูกสาวแล้ว จะไปมอบให้หนุ่ม ออกมาแล้วท่านตาไม่เห็นหนุ่ม หาท่าไรๆ ก็มองไม่เห็น พระพุทธเจ้าทรงอธิฐานไม่ให้เห็นองค์ท่าน ในตอนนั้น นางพราหมณีมองดูรอยเท้า ดูแล้วพิจารณาเห็นว่า เป็นรอยเท้าของคนที่ไม่มีกิเลส ไม่คู่ควรกับการครองเรือน จึงบอกกับท่านตาว่า ตา รอยเท้าคนนี้ไม่มีการครองเรืองแล้ว คือว่า คนที่มีราคะจริต หนักในราคะ หนักในความรัก เขาจะมีอุ้งรอยเท้าด้านเส้นลึกลง หรือรอยเท้าของคนนี้ท้าโบ๋ขึ้น ถ้าหนักในโทสะ จะมีรอยเท้าด้านส้นลึกลง หรือหนักในทางส้นเท้า คนที่มีโมหะจะหนักในด้านปลายเท้า แต่รอยเท้าของคนนี้ เรียบเสมอกันหมด แสดงว่า เป็นคนไม่มีกิเลส<O:p</O:p
    เมื่อองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์เห็นว่า นางพราหมณีรู้เท่าทันอย่างนั้น ก็แสดงพระองค์ให้ปรากฏ ตาพราหมณ์ก็บอกว่านี่อย่างไรล่ะ ๆ คนนี้อย่างไร ทีฉันบอกว่าจะเป็นลูกเขย เขาจึงได้จูงมือของนางมาคันทิยา ลูกสาว จะมามอบให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเข้าบอกว่า บุรุษผู้เจริญ ลูกสาวของฉันคนนี้ มันสวยแสนสวย พระราชา อำมาตย์ข้าราชบริพารเศรษฐี มหาเศรษฐี ต่างคนต่างมาขอกันทุกคน แต่ว่าฉันไม่ให้ใคร เพราะมันมีศักดิ์ศรีสู้ลูกสาวฉันไม่ได้ แต่ในตอนนี้ เธอเป็นคนสวยจริงๆ ดูแล้วตั้งแต่เท้าถึงหัว ตั้งแต่หัวถึงเท้า ส่วนสัดดีมาก ผิวพรรณก็สวยงามผุดผ่อง สมที่จะเป็นสามีของลูกสาวเรา ท่านจงรับลูกสาวของเรา ไปเป็นภรรยาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป <O:p</O:p
    สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา มีความปรารถนาจะสงเคราะห์พราหมณ์สองคนผัวเมีย จึงได้ตรัสกับพราหมณ์ว่า<O:p</O:p
    พราหมณ์ ตถาคตเมื่ออกสู่ภิเนษกรมณ์ วันที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาโพธิณาญ ลูกสาวของพระยามาราธิราช ที่มีนามว่านางตัณหา นางราคา นางอรดี ซึ่งเป็นนางฟ้าสวรรค์ชั้นที่ ๖ มีความงามกว่าลูกสาวท่านมาก เรายังไม่มีความต้องการ ก็ลูกสาวของท่านนี้ แม้จะงามในฐานะมนุษย์ ก็จริงแลแต่ทว่าความงามไม่ทนนาน อายุมากไปเท่าไร ความแก่เฒ่าก็จะเข้าครอบงำเข้าไปมากเท่านั้น ความเศร้ามากก็จะปรากฏภายนอก ในที่สุดผิวพรรณที่ผ่องใสก็จะกลายเป็นผิวพรรณหม่นหมอง ร่างกายที่มีความสวยสดงดงาม ก็จะโทรมไปทีละน้อย ๆ ถึงวัยกลางคนความงามก็จะสลายไป เหลือมาเล็กน้อยถึงวัยแก่หนังก็จะย่น ความงามก็ไม่ปรากฏ ความที่เป็นคนสวยงดงามก็จะสลายตัวไป และยิ่งกว่านั้น ร่างกายลูกสาวของท่านเธอเต็มไปด้วย มูตร และ กรีส ( มูตร คือ ปัสสาวะ กรีส คืออุจาระ )<O:p</O:pฉะนั้น ในเมื่อร่างกายลูกสาวของเธอแตกต่างกับนางตัณหา นางราคา นางอรดี เพราะนางตัณหา นางราคา นางอรดี นั้น ร่างกายเต็มไปความสวยสดงดงาม เพราะเป็นนามธรรม ไม่มีเหงื่อ ไม่มีไคล ไม่มีน้ำเหลือ น้ำเหลือง น้ำหนอง ไม่มีอุจจาระ ไม่มีปัสสาวะในกาย ตถาคตยังไม่ต้องการ แล้วจะต้องการอะไรกับลูกสาวท่าน ที่ร่างกายเต็มไปด้วยอุจจาระ ปัสสาวะ<O:p</O:p
    ความจริงอย่าว่าแต่ให้ตถาคตเอามาประดับประคองเป็นภรรยาเลย เวลานี้ แม้แต่เท้าของตถาคตก็ยังไม่อยากจะแตะร่างกายลูกสาวของท่านเลย<O:p</O:p
    พอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเพียงเท่านี้ มาคันทิยามีความมีศักดิ์ศรีใหญ่ ถ้ามีสามีศักดิ์ศรี มีอำนาจวาสนาจะได้รู้จักว่าวาจาที่ท่านกล่าวมันจะเป็นภัยกับท่านเพียงใด นางสร้างความเจ็บใจไว้ภายใน<O:p</O:p
    แต่ทว่า เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสอย่างนั้น ท่านพราหมณ์ คือ พราหมณ์ผัวก็ดี พราหมณ์เมียก็ดี ฟังวาทะขององค์สมเด็จพระชินสีห์ตรัสแต่เพียงโดยย่อ จิตก็นึก วิปฏิสาร หรือว่ามีความสลดใจว่า โอหนอ เรามีความหลงผิดอยู่มาก ที่ติดในสรีระกาย คิดว่าร่างกายของเราก็ดีคิดว่าร่างกายของบุคคลอื่นก็ดี การที่จะแต่งงานกันนี้ ก็เพราะอาศัยรูปกายภายในสมัยก่อนมีความสง่าผ่าเผย มีความสวยสดงดงาม แต่ทว่าเวลานี้ เราทั้งสองกลายเป็นคนแก่ หูก็ฝ้า ตาก็ฟางหนังก็ย่น ฟันก็ทนจะไม่ไหว มันจะหักหมด ผมก็หงอก ร่างกายหรุดโทรม มองดูตรงไหนก็หาความดีไม่ได้ หาความสวยงดงามแม้แต่น้อยหนึ่งก็ไม่ได้ <O:p</O:p
    ตาคิดว่า ยายพราหมณีคนนี้ เมื่อเป็นสาว เรานั่ง ฝัน เรานอนฝันคิดถึงเธอเสมอ จึงได้แต่งงานกัน เพราะมีความคิดว่าเธอสวยสดงดงาม เป็นที่น่ารัก แต่เวลานี้ความสวยสดงดงามของยายไม่มีแล้ว ตรงตามที่องค์สมเด็จพระประทีปแก้วตรัสทุกประการ สำหรับยายก็เช่นเดี่ยวกัน คิดว่า ตาของเรานี้ สมัยหนุ่มๆ ร่างกายร่างกายสมาร์ท สวยงดงาม สง่าผ่าเผย เป็นคนมีความฉลาดเฉลียว เป็นที่ต้องตาของเรานี้เหมือนกับผีดิบเดินได้<O:p</O:p
    แล้วทั้งสองก็คิดว่า ภายในร่างกาย ในเมื่อภายนอกมันเหี่ยวห่ออย่างนี้ หมดความดี ไม่น่าชม ความนิยมภายนอกไม่เหลือ มองเข้าไปดูภายใน นึกถึงตามถ้อยคำที่องค์พระจอมไตรตรัส ก็เห็นผลว่า ร่างกายของเราก็ดี ของเขาก็ดีภายในเต็มไปด้วยน้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง เต็มไปด้วยอุจจาระ และปัสสาวะ ความจริงสิ่งทั้งหลายเหล่านี้หลั่งไหลออกมาให้เราเห็นเป็นปกติ แต่เราไม่เคยคิดมัน อาหารที่เราจะกินเข้าไปนั้น เราเลือกแล้วเลือกอีกว่าเป็นของดีแต่ว่า เวลาอาหารถูกถ่ายออกมานี้ ที่เราเรียกว่า อุจจาระ และน้ำที่ถ่ายออกมานี้ เรียกว่า ปัสสาวะ เป็นน้ำที่เราเลือกแล้ว ว่าจะกิน เป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ พอถ่ายออกมา เราเองก็มีความรังเกียจ อุจจาระออกมา เราก็มีความรังเกียจ<O:p</O:p
    ความจริงเราเข้าใจผิดมานาน เวลานี้องค์สมเด็จพระพิชิตมาบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแนะนำให้เราเข้าใจ เหมือนกับองค์หงายของที่คว่ำขึ้นมารับน้ำค้างง ให้มีความชุ่มชื่นฉันใด เมื่อคิดอย่างนี้ กำลังของพราหมณ์ทั้งสอง คือ มาคันทิยพราหมณ์ กับมาคันทิยาพราหมณ์ ก็ได้บรรลุพระอนาคามีในขณะนั้น<O:p</O:p
    แล้วภายหลัง เมื่อองค์สมเด็จพระภควันต์เสด็จกลับไปแล้ว เขาทั้งสองมีความปรารถนาจะติดตามองค์สมเด็จพระประทีปแก้วเพื่อไปบวช แต่ว่าก่อนจะไป ก็ยังห่วงลุกสาวอยู่นิดหน่อย เพราะเธอต้องอยู่คนเดียว จึงไปมอบไว้ให้กับ น้องชายของมาคันทิยพราหมณ์ ก็ชื่อ มาคันทิยพราหมณ์ เหมือนกัน หรือตาม บาลีเรียกให้จำง่ายๆ ว่า จูฬมาคันทิยพราหมณ์ ผู้เป็นอา ก็บอกว่า ฉันทั้งสองจะไปบวชในสำนักขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ขอเธอมาคันมายาพราหมณ์ผู้เป็นน้องชาย จงปกครองหลานสาวไว้ให้ดี สมบัติทั้งหลายที่มี ก็ขอมอบให้ทั้งหมดเนื้อแท้จริงๆ มาคันทิยพราหมณ์ผู้เป็นน้อง หรืออาของพระนางมาคันทิยา เธอไม่มีภรรยา และเธอก็ไม่มีบุตร ก็รับภาระในการเลี้ยงดูหลานสาว ทั้งสองท่านตายาย คือ มาคันทิยพราหมณ์ กับมาคันทิยาพราหมณี ก็ไปเฝ้าองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาที่เมืองโกสัมพี <O:p</O:p
    หลังจากนั้น เมื่อองค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงเทศน์จบ ทั้งสองท่านก็บรรลุอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคลสูงสุดในพุทธศาสนา และขออุปสมบทบรรพชา สมเด็จพระบรมศาสดาก็ตรัสว่า เอหิ ภิกขุ ซึ่งแปลว่า เจ้าจงมาเป็นภิกษุมาเถิด เพียงเท่านั้นในพระพุทธศาสนา จีวรสำเร็จด้วยฤทธิ์ก็ลอยมาสวมร่างกายสำหรับพราหมณ์จบเกมส์กันแค่นี้ แต่ลูกสาวไม่จบ<O:p</O:p
    เป็นอันว่า พ่อกับแม่ สองคน อย่างไร ๆ ก็ไปนิพพานแน่แต่ว่าลูกสาว อาศัยที่มีจิตใจโกรธองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผูกอาฆาตไว้ใจ วันนั้นเธอไม่พูด แต่ใจคิด ติดใจไว้เสมอว่าบุรุษนี้มีนามว่าพระสมณโคดม เป็นศัตรูร้ายสำหรับเรา เมื่อไรถ้าเรามีโอกาส เมื่อนั้นจะสั่งพิฆาตเข่นฆ่าให้อาสัญ เพราะวาจาที่กล่าวปรามาสเรา<O:p</O:p
    บรรดาเพื่อนภิกษุสามเฌรทั้งหลาย และญาติโยมพุทธบริษัทตอนนี้ท่านอรรถกถาจารย์ ท่านกล่าวถามขึ้นมาภายในท้องเรื่อง ( ท่านถามกันขึ้นมาเอง ) ว่า ก่อนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทำให้พราหมณ์สองคนตายายเป็นพระอนาคามี แล้งที่องค์สมเด็จพระชินสีห์ตรัสว่าอย่างนั้นว่า ลูกสาวแสนสวยของพราหมณ์ที่เขายกมาให้เป็นภรรยา ท่านบอกว่า ร่างกายสกปรกมากเต็มไปด้วยอุจจาระ เต็มไปด้วยปัสสาวะ แม้เท้าของเรายังไม่ยอมจะแตะ เพราะเกรงว่าว่าเท้าจะสกปรกไปด้วย ท่านถามกันเองว่า อย่างนี้ ก่อนที่องค์สมเด็จพระชินสีห์จะตรัส ทรงทราบไหมว่าพระนางมาคันทิยานี้จะโกรธ จะผูกอาฆาต <O:p</O:p
    ท่านก็ตอบกันเองในท้องเรื่องว่า องค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ ทรงทราบว่าพูดอย่างนี้นางมาคันทิยาจะต้องโกรธ จะต้องผูกอาฆาต องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้หมดกิเลส องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ไม่คำนึงถึงอันตราย ก่อนที่จะสงเคราะห์บุคคลผู้ใด ต้องการอย่างเดียวว่า วาจาที่กล่าวไปแล้วด้วยความจริง ถ้าบรรดามนุษย์ชาย หญิง หรือภิกษุสามเฌร จะบรรลุธรรมพิเศษตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ท่านทรงปรารถอย่างนั้น วาจาประเภทนั้นทำให้เขาบรรลุมรรคผล องค์สมเด็จพระทศพลจะตรัสวาจานั้น (ใครจะโกรธ หรือใครจะไม่โกรธ ก็ช่าง ไม่คำนึงถึง ) องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบแล้วว่า พระนางคันทิยานี้ จะต้องจองล้างจองผลาญ และองค์สมเด็จพระพิชิตมารก็ต้องทราบต่อไปว่า จะต้องจองล้างผลาญคนที่เป็นสาวกใกล้เคียง คนทั้งหลายเหล่านั้นจะมีอันตารายใหญ่ (ที่จะฟังกันในเบื้องหน้า ) แล้วนางก็พระนางคันทิยาเองก็จะต้องถูกฆ่าตายทั้งเป็น เชือดเนื้อ แล้วก็ทอดน้ำมัน บังคับให้กิน ต้องทรมานอย่างหนัก เมื่อพุทธเจ้าตายแล้วจะต้องลงอเวจีมหานรก อย่างนี้องค์สมเด็จพระสัมมสัมมาพุทธเจ้าทราบไหม ในฐานะที่องค์สมเด็จพระจอมไตรเป็นสัพพัญญู ก็ต้องตอบว่า พระองค์ทรงทราบ <O:p</O:p
    ถ้าจะถามว่า ถ้าทราบแล้ว ทำไมจึงพูดให้เขาเป็นอันตรายอย่างนี้ ข้อนี้เป็นอันเข้าใจว่า องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงทราบเหมือนกันว่า กฎของกรรมของพระนางคันทิยานี้อย่างไรๆ ก็ต้องเป็นอย่างนั้น คือ อย่างไร ๆ เธอก็ต้องอิจฉาริษยา เพราะอกุศลบังคับ แล้วในที่สุด นางก็ต้องถูกฆ่าตาย ตายแล้วก็ต้องลงอเวจีมหานรก แต่ว่าเธอต้องไปอเวจีมหานรก ต้องถูกฆ่าตาย แต่ตายเปล่า พ่อและแม่ทั้งสองคนจะไม่ได้พระอริยเจ้าก็เห็นจะขาดความดีไป<O:p</O:p
    ฉะนั้น องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาดาจึงได้ทรงดำริว่า เราจะพูดอย่างนี้หรือไม่พูดอย่างนี้ มาคันทิยาเธอก็ต้องแต่งงานกับพระราชา มีพระนามว่า พระเจ้าอุเทน แล้วในที่สุดเธอก็ทำความผิด ถูกฆ่า แล้วลงอเวจีมหานรก <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ฉะนั้น องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาจึงได้ทรงตัดสินใจว่า<O:p</O:p
    กรรมของเธอต้องเป็นอย่างนั้นแล้วไซร้ ทางที่ดีก็ให้พ่อและแม่เป็นพระอริยเจ้าเสียก่อน เพราะเขามีบุญบารมีพอ ฉะนั้นจึงได้ตรัสอย่างนั้น<O:p</O:p
    เมื่อพราหมณ์ทั้งสอง คือ มาคันทิยพราหมณ์ กับ มาคันทิยาพราหมณี เป็นพระอรหันต์ไปแล้ว ท่านมาคันทิยาพราหมณ์ ผู้เป็นน้องชาย ( อาของมาคันทิยา ) จึงได้นำนางมาคันทิยาไปถวายพระเจ้าอุเทนบรมกษัตริย์ พระบาทท้าวจึงได้มอบหญิง ๕๐๐ เป็นบริวาร ( ตอนเรื่อง วาสุลทัตตา ก็เหมือนกันนะ ท่านมอบหญิง ๕๐๐ เป็นบริวาร ) และก็ตั้งพระนางมาคันทิยาเป็นอัครมเหสีเหมือนกัน มีหญิง ๕๐๐ เป็นบริวาร เรื่องราวในตอนต้นของนางมาคันทิยาก็จบเพียงเท่านี้ (เวลาก็ไม่ยอมจบทั้งนี้เพราะรีบพูด ถ้าจบเสียเลยมันก็เรื่อง )<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    รวมความว่า ขึ้นชื่อว่า กฎของกรรมที่เป็นอกุศล บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนโปรดทราบ ก็มีหลายคนมานั่งบ่นว่าชาตินี้ทำบุญ กฐินก็ทอด โบสถ์ก็สร้าง วิหารก็สร้าง ศาลก็สร้าง ผ้าป่าก็ทอด สังฆทานก็ถวาย ทำไมป่วยไข้ไม่สบายเป็นปกติ พระทำไมจึงไม่ช่วย ท่านอาจจะลืมไปว่า พระก็ป่วยเหมือนกัน อย่างอาตมาผู้พูด เวลานี้ที่พูดก็ป่วย ป่วยตลอดปี ไม่เคยเลิก ป่วยสักที การป่วยประเภทนี้ มันเป็นกรรมของเราเอง คือเนื่องจากปาณาติบาต ในชาติก่อน เราเป็นคนไร้เมตตาปรานี ฆ่าเขา ทำร้ายเขา กรรมนั้นก็มาสนองถึงเรา<O:p</O:p
    ทางที่ดีมีอย่างเดียว คือ สร้างความดีหนีความชั่ว สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงแนะนำไว้แล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงแนะนำว่า ทุกคนจงเข้าใจตามความเป็นจริง ไม่ว่าชายหรือหญิง ที่เกิดมาในโลกนี้ จะพบกับความทุกข์ ที่เราเรียกว่า อริยสัจ เรามีความทุกข์ ถ้าเราเกิดอีกกี่ชาติมันก็พบความทุกข์อย่างนี้ ความทุกข์ที่มันมีมา เพราะอาศัยความไม่เที่ยง ร่างกายมันทรุดโทรมทุกวัน เราคิดว่ามันไม่ทรุดโทรม ทรัพย์สมบัติหามาได้ มันต้องสลายตัวเพราะการใช้สอย เราคิดว่ามันจะไม่ไป พอมันโทรมเข้า มันไปเข้า เราก็เป็นทุกข์ เพราะยึดถือสิ่งที่ไม่ถูกไม่ต้อง
    <O:p</O:p
    ฉะนั้น ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ผู้เป็นพี่ และน้อง คือในฐานะที่เป็นลูกของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน จงตัดสินใจว่า การเกิดชาตินี้เราเกิดเป็นชาติสุดท้าย กรรมอะไรที่ทำไว้มันจะสนอง ก็ยอมรับมัน คือว่า <O:p</O:p
    ยอมรับโทษแห่งปาณาติบาตทำให้เราป่วยไข้ไม่สบาย เราก็ยอมรับว่า ฉันใช้หนี้แกเท่านี้นะ <O:p</O:p
    โทษแห่งอทินนาทาน ทำให้ของเสียหาย เราก็ยอมรับว่า ฉันใช้หนี้แกเป็นเท่านี้นะ<O:p</O:p
    โทษกาเมสุมิจฉาจาร ทำให้คนในบังคับบัญชาดื้อด้าน เราก็ยอมรับว่า ฉันชำระหนี้แกชาติสุดท้ายเพียงเท่านี้นะ<O:p</O:pโทษมุสาวาท ทำให้เราเป็นคนพูดดี พูดจริงใครก็ไม่เชื่อ ก็ยอมรับว่า เพราะความชั่วของเราให้ชาติก่อน ก็ชื่อว่าใช้หนี้เป็นชาติสุดท้าย โรคปวดหัว โรคเส้นประสาท โรคบ้า ที่มันเกิดขึ้นในกาล โรคบ้า ที่มันเกิดขึ้นมาในกาลใด ก็ทราบว่า เป็นกรรม ร้ายที่เราเคยดื่นสุรา และเมรัย ก็ยอมใช้มันเป็นชาติสุดท้าย<O:p</O:p
    หลังจากนี้ เราจะไม่เกิดมาเป็นการชดใช้กรรมมันอีก เราจะหลีกกรรมประเภทนี้ คือ หลีกอบายภูมิทั้ง ๔ คือ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน โดยยึดองค์สมเด็จพระพิชิตมาร พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ยอมรับนับถือด้วยความจริงใจหลังจากนั้น ทรงศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ และก็ตั้งใจคิดว่า การเกิดเป็นมนุษย์มีชาตินี้ชาติสุดท้าย ชาติต่อไปไม่มีสำหรับเราอย่างนี้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเรียกบุคคลนั้นว่าเป็นพระโสดาบัน ถ้าทรงอารมณ์พระโสดาบันได้ แล้วก็คิดไปตามที่องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงสอนว่า มนุษย์โลกเป็นทุกข์ เราไม่ต้องการ เทวโลก กับพรหมโลก เป็นสุข ชั่วคราว เราไม่ต้องการ จุดที่ต้องการ คือ นิพพาน แล้วพยายามกำจัด โลภะ ความโลภ โทสะ ความโกรธ โมหะ ความหลง ให้พินาศลงด้วยกำลังความดีของเรา<O:p</O:p
    เอา ละ บรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ผู้เป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สัญญาณบอกหมดเวลา ปรากฏแล้ว ขอลาก่อน ขอความสุขสุขสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลจงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนานิกชนทุกท่าน สวัสดี<O:p</O:p
    ที่มา กฎของกรรมเล่มที ๑ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    <!-- / message --><!-- attachments --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=127353&page=2
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD></TD><TD></TD><TD width="100%"></TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post1180738 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 09:13 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#30 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ยายผีป่า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1180738", true); </SCRIPT>
    สมาชิก กิตติมศักดิ์
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:24 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: ที่แผงหนังสือทั่วประเทศที่จำหน่ายนิตยสารพลังจิต.คอม ไปหาซื้ออ่านสิแล้วจะรู้ว่าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด
    อายุ: 40 ปี
    ข้อความ: 3,828 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 219 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 31,694 ครั้ง ใน 3,611 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3337 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1180738 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ยายผีป่าเมื่อก่อนนั้นไม่สนใจในการรับพระเครื่อง ไม่สนใจสะสมด้วย เพราะไม่ยึดติดกับส่วนนี้นะคะ

    แต่เมื่อตอนอายุประมาณเป็นวัยสาวส่ำน้อยนะคะ มีโอกาสไปพบพระเป็นปี๊บๆ เลย แต่ไม่สนใจ เป้นพระที่คุณมันตรัยบอกว่าเก๊นั่นแหละค่ะ

    อาจารย์ท่านี้ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ เพราะว่าท่านเป้นข้าราชการที่ไปทำงานหลวง หากเปิดเผยตัวท่านก็จะเสื่อม ท่านไม่ใช่คนขายพระ ท่านไม่ใช่นักท่องเน็ต ตอนนี้เกษียณแล้ว

    ยายผีป่าเชื่อว่าของจริงนั้นมี แต่เงื่อนไขในตลาดกลไกตลาดทำให้มันมีการสร้างเรื่อง กลบเรื่อง ทำเสริมขึ้นมา

    คนเห็นว่าท่าพระจันทร์คือแหล่งค้าของทำเหมือน ทำใหม่ เขาก็มองว่าที่นี่มีแต่ของไม่ใช่ทั้งนั้น

    เพราะมันฝังไปแล้ว

    มีเณรท่านหนึ่งนะคะ ท่านได้พระมาจากท่าพระจันทร์ เพราะว่าเป้นเด็กแถวๆ นั้น พอมาอยู่วัดก็เอาสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่มาถวายหลวงพี่รูปหนึ่ง หลวงพี่เอาไปให้เซียนดู มีสองเซียนบอกว่าเก๊ แต่อีกเซียนหนึ่งบอกว่าเท้

    ซึ่งทั้งสามเซียนล้วนมีชื่อเสียง

    แต่วันหนึ่ง พระองค์นี้มีผู้บูชาไปในราคาหนึ่งล้านบาท

    คุณปทุมธานี้รู้ใช่ไหมว่าใครเป็นผู้บูชาพระองค์นั้นไป

    แล้วทีนี้นะคะ

    ยายผีป่าเพิ่งไปบ้านอาจารย์ท่านนี้มา ท่านบอกว่า ไม่ขอเปิดเผยตัวเพราะว่าท่านแก่แล้ว ให้เหลือศักดิ์ศรีไว้ให้ลูกหลานท่านบ้าง อย่าให้คนมาด่าว่า "ไอ้คนโขมยของชาติของแผ่นดิน" เพราะท่านไปทำหน้าที่ฐานะผู้บูรณะ"

    ยายผีป่าขอให้เพื่อนไปขอพระมายืนยัน ท่านบอกว่า ตอนนั้นบอกให้เลือกเอาๆ ไม่มีใครอยากได้ ตอนนี้ขอเก็บไว้ เอาไว้ให้ลูกให้หลานดีกว่า

    และยายผีป่าเคยนำพระที่ได้จากเพื่อนที่บอกว่าเป็นพระวังหน้าไปให้คนดู

    มีหลายองค์ที่ไม่ใช่ และมีที่ใช่

    และยายจะไม่บอกว่า เซียนที่ดูให้ชื่ออะไรบ้าง

    พระที่เราซื้อกันทุกวันนี้ อยู่ในคอเซียนคอเศรษฐีที่ผีหามาให้นั้นมีหลายองค์เช่นกันที่มาจากแผงแบกับดินท่าพระจันทร์

    ท่านตรียัมพะวาย ท่านเดินท่าพระจันทร์มาก่อนค่ะ
    แต่ไปเดินทำอะไรไม่ทราบเพราะไม่มีวาสนาได้ถามท่านค่ะ

    ไม่มีใครรู้แจ้งไปหมด มีแต่วิเคราะห์กันไป ยกตัวอย่างมาอ้างจากบทความของคนที่ตั้งตนเป้นนักวิจารณ์ก็ไม่ผิดเพราะว่าเขารู้แค่นั้น

    ขอยืนยันว่า พระเพดานโบสถ์วัดพระแก้วมีจริง

    ดิฉันเห็นพระเหล่านี้ก่อนที่คนวิจารณ์พระ(คอลัมนิสต์และคุณๆที่เชื่อว่าไม่มีจริง) หลายสิบปีแล้วนะคะ

    เชิญด่ายายผีป่าค่ะ ข้อหามายืนยันในสิ่งที่พวกคุณไม่เชื่อว่ามีจริง

    ที่ยืนยันเพราะว่า ไม่ต้องการให้ความคิดที่ปิดกั้นไม่ยอมรับมาทำลายมรดกของครูบาอาจารย์ ของแผ่นดิน

    ไม่ว่าพระนั้นที่คุณได้รับจะลังเลเพราะอ่านกระทู้นี้ ก็ขอให้เก็บไว้นะคะ เพราะตราบใดที่ขึ้นชื่อว่ามีพระพุทธเจ้า มีรูปหลวงปู่โต มีสัญญลักษณ์ทางพุทธอยู่ สิ่งนั้นย่อมศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ใครทำลาย เสมือนปรามาสพระ ตกอเวจีค่ะ

    ยายเคยหลงผิดคิดว่าพระที่แจกๆ กันตามงานผ้าป่า ตามวัดต่างๆ นั้นทำใหม่ ไม่ขลัง เชื่อตามคำสอนของพระดังรูปหนึ่งว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ยายผีป่าเอาทิ้ง จนกระทั่งเห็นผลของบาปนั้น อเวจีทั้งๆ ที่ยังไม่ตาย น้ำสักหยดยังดื่มลงคอไม่ได้ มันร้อนในกายเหมือนไฟเผา ทรมานจริงๆ อย่าทิ้งพระเครื่องที่ท่านไม่มั่นใจนะคะ หากท่านใดไม่อยากเก็บสะสมพระเครื่อง วัตถุมงคลที่คิดว่าปลอม ส่งให้ยายผีป่านะคะ จะเอาไปเข้าพิธี แล้วมอบให้ผู้ที่ต้องการ หรือนำเข้าบรรจุกรุค่ะ
    <!-- / message --><!-- sig -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post1180756 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 09:19 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #31 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ยายผีป่า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1180756", true); </SCRIPT>
    สมาชิก กิตติมศักดิ์
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:24 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: ที่แผงหนังสือทั่วประเทศที่จำหน่ายนิตยสารพลังจิต.คอม ไปหาซื้ออ่านสิแล้วจะรู้ว่าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด
    อายุ: 40 ปี
    ข้อความ: 3,828 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 219 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 31,694 ครั้ง ใน 3,611 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3337 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1180756 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขอรับบริจาคพระที่ท่านลังเลสงสัย หรือเชื่อว่าปลอม หรือทำใหม่

    ส่งไปยัง

    เอื้อมเดือน ยิ่งยง

    ๒๙/๙ หมู่ ๖

    ตำบล หินดาด

    อำเภอ ทองผาภูมิ

    จังหวัด กาญจนบุรี ๗๑๑๘๐

    ยินดีรับทุกสภาพที่เป็นมงคลวัตถุค่ะ

    โดยเฉพาะพระพิมพ์สมเด็จ(อย่างที่คุณเชนขึ้นไว้นะคะ)

    แต่ขอยืนยันว่าพระจตุคามเพิ่งมีสร้างยุคนี้เท่านั้นค่ะ
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>


    ปล่อยไปตาม "กรรม ที่ผู้สร้างกรรมกระทำขึ้นมาจาก กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม" ดีกว่ากันเยอะ ให้รู้ด้วยตัวของตัวเอง ให้พิสูจน์เอง ตามหลักที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ กาลามสูตร ต้องพิสูจน์เองเท่านั้น แต่เมื่อพิสูจน์เองแล้ว ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง "กรรม" ได้ และไม่สามารถกลับมาบอกใครได้ หุหุหุ



    .
     
  16. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    แจ๋วเลยครับจาได้สืบต่อความรู้เพิ่มขึ้นมากๆครับ(*)
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หลงดีใจอยู่ตั้งนาน คุณยายผีป่า มาดักไว้ซะนี่ หุหุหุ

    ผมอุตสาห์และพยายามและอดทนและอดกลั้น ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เพราะว่า จะได้ให้ไปกันเยอะๆ มากๆ ถึงมากที่สุด ไปพิสูจน์เองให้มากที่สุด

    เพราะว่า ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ใครทำมากทำน้อย ก็อยู่ที่ผู้กระทำ กรรม
     
  18. เกสรช์

    เกสรช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +1,401
    [​IMG]
    พระสมเด็จวังหน้า
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    เรียนคุณ Sithiphong
    ขออนุโมทนา สาธุกับเจ้าของกระทู้และสมาชิกทุกๆท่านคะ
    เกสรช์ขอร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งด้วยคนนะคะ เกือบไม่มีบุญได้เข้ามากระทู้นี้ซะแล้ว รู้สึกศรัทธาคุณและทุกๆท่านในกระทู้นะคะ ดูเป็นผู้รู้ผู้เจริญทางธรรมทั้งนั้นเลย ขอจองพระสมเด็จวังหน้า 1 องค์นะคะ 700 บาทนะคะ พรุ่งนี้ที่9พ.ค51จะโอนเงินให้คะ แต่จะเป็นช่วงไหนเกสรช์จะแจ้งให้ทราบอีกทีนะคะ เพราะต้องให้น้องสาวโอนให้ เกสรช์อยู่ตปท.คะตอนนี้

    ขอบคุณมากคะ:d
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รับทราบครับ

    แล้วจะรับรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและผ้ายันต์ครอบจักรวาลไปบูชาด้วยหรือเปล่าครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  20. เกสรช์

    เกสรช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +1,401
    เกสรช์กำลังจะแจ้งขอรับรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและผ้ายันต์ครอบจักรวาลไปบูชาด้วยพอดีเลย ลืมระบุไป

    (ปกติเกสรช์ก็จะสวดมนต์ไหว้พระ เจิรญสมาธิพระกรรมฐานประจำและได้สวดคาถาหลวงปู่พระครูเทพโลกอุดรหลังจากได้ซื้อหนังสือท่านมาอ่าน แล้วศรัทธาท่านคะแล้วได้ไปกราบนมัสการท่านในตำหนักของคุณแม่มณีจันทร์เมื่อสองปีที่แล้ว เพราะได้ซื้อหนังสือของหลวงปู่ฯท่านมาอ่านแล้วเกิดศรัทธาก็เลยไปหาท่านในตำหนักคุณแม่มณีจันทร์ที่ขอนแก่นคะ ได้รูปท่านและเทียนคู่มาบูชาในกระเป๋าสตางค์ด้วย) หลังจากนั้นก็เริ่มสวดมนต์บูชาท่านจนถึงวันนี้คะ และ สมเด็จโตก็บูชาสวดประจำ หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ศรัทธาเลื่อมใสมากๆคะ

    โชคดีจังที่ได้บูชาท่านเพิ่มอีกในกระทู้นี้ ดีใจมากคะ

    โมทนาสาธุกับทุกๆท่านในกระทู้ด้วยคะ
    ขอบพระคุณคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...