พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ขอเป็นกำลังใจครับ
ใครทำอย่างไรย่อมได้ผลเช่นนั้น
ขอถามนอกเรื่องนิดครับ หลวงปู่อิเกสาโร องค์ไหนครับ (ชื่อท่านติดอยู่ในใจมาก) โมทนากับคุณสิทธิพงศ์ด้วยครับ

 

คงมีคนเป็นจำนวนมาก สงสัยว่า ผมบ้าหรือเปล่า ทำไปทำไม ไม่ได้เงินซักบาท แถมต้องเสียทั้งพระเครื่อง เสียทั้งเงินค่าจัดส่ง

ผมบอกได้ว่า ผมต้องการ "บุญ" , ต้องการที่จะเผยแพร่ประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ให้ผู้คนทั้งหลายได้รู้ ได้เห็นว่า หลวงปู่เป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไร เพื่ออะไร และเชิดชูเกียรติ บรรพบุรุธ (เช่น ช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวงและวังหลัง)


สิ่งที่ผมได้บอกไปนี้ แล้วแต่ท่านผู้อ่าน จะเชื่อหรือไม่เชื่อ เป็นสิทธิของท่านเอง แต่ที่ผมได้บอกไป เป็นความจริงที่เกิดขึ้นมาแล้ว และยังคงอยู่ต่อไป ผมไม่สนใจว่า จะมีคนไหนที่จะเห็นหรือไม่เห็น ผมสนใจเพียงว่า บัญชีของนายนิริยบาล และบัญชีบุญของเบื้องบน มีชื่อผมหรือไม่เท่านั้น

ขอแสดงความนับถือ
sithiphong

 

จากรูป(แทนตัวผม) ท่านยืนองค์ที่ 4 รังสีของท่านเป็นสีแดงครับ

.

 

สิ่งทั้งหลายที่คุณหนุ่มเพียรทำและเสียสละ ผมเห็นครับผมจึงมาที่นี่ และนึกชมเชยอยู่ตลอด กำลังใจสูงจริงๆครับ
มหาโมทนาสาธุครับ

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=127353&page=8

<table id="post1185665" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 01:51 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #152 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> ลูกพระพาย <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1185665", true); </script>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:06 PM
วันที่สมัคร: May 2008
ข้อความ: 2 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 1 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 3 ครั้ง ใน 2 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</td> <td class="alt1" id="td_post_1185665" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> หลงประเด็นป่าวครับ....เอาล่ะพระอาจจะมีจริง หรือ ไม่มีจริง ผมไม่รู้..

ขอถามซัก ข้อสองข้อ

1. พระที่คุณเอามาให้ ทำบุญกัน เนี่ย เอามาจากไหน มากมาย ก่ายกอง ทำไมมันไม่หมดไม่สิ้นไปซักที (แถมมี รูปทรงแปลกๆ สงสัยสมเด็จโตท่าน จะ Design เก่ง ?)

2. พระที่สร้างโดยสมเด็จโต ถ้ามีจริง คิดว่าท่าน สร้างกี่องค์ จะเหลือ มาถึงปัจจุบันเลย รึ ? ขนาดสมเด็จวัดระฆังแท้ๆ ยังเห็นวนเวียนไม่กี่องค์

3. เวลาดูว่า พระแท้ หรือไม่แท้ เอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ ในการดู หรือ เปรียบเทียบ. (ห้ามจับพลัง ห้ามวัดแสงออร่านะ )

4. ทำไมระยะเวลาที่ยาวนาน มาเป็น 100 ปี . ไม่เห็นมีใคร ทำหนังสือ หรือ รวบรวมประวัติความเป็นมาให้ ชัดแจ้งไปเลย ถ้าเป็นของแท้จริงๆ ทำไมไม่มีใครยอมรับ.

ขอให้ตอบแบบ วิชาการนะครับ. ไม่เอานิยาย ไม่เอาเรื่องเหนือธรรมชาติ เรื่องเล่าจากใครก้อไม่รู้ที่พูดๆ กันมา.

</td></tr></tbody></table>

ผมจะอธิบายในส่วนที่สามารถบอกออกอากาศได้เท่านั้น

พระเครื่องที่บอกว่าเป็นพระเครื่องของวังหน้า หรือวังหลวง ในส่วนที่ผมทราบมา เริ่มสร้างพระเครื่องขึ้นมาประมาณ ปี พ.ศ.2367 ในรัชกาลที่ 3 แต่เท่าที่ศึกษามามีเป็นจำนวนน้อย

ต่อมาเมื่อรัชกาลที่ 4 ขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ.2394 และได้แต่งตั้ง พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ขึ้นเป็นพระมหากษัตริิย์อีกพระองค์

ปกติตั้งแต่โบราณจวบจนสมัยรัชกาลที่ 5 การปกป้องประเทศเป็นหน้าที่หลักของวังหน้า แต่เมื่อไม่มีสงคราม ก็จะหันมาช่วยทางวังหลวง ทำนุบำรุงพระศาสนา การสร้างวัตถุมงคลต่างๆ จึงออกมาจากวังหน้าเป็นส่วนใหญ่

เมื่อรัชกาลที่ 4 พระองค์ท่านขึ้นครองราชย์ พระองค์ท่านใฝ่ใจในพระศาสนาในทุกๆเรื่อง ทางวังหน้าจึงได้สร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และได้นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ที่วัดบวรสถานสุทธาวาส

หลังจากที่รัชกาลที่ 4 สวรรคต รัชกาลที่ 5 ขึ้นครองราชย์ พระองค์ท่านจึงดำเนินรอยตามพระบิดาโดยสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก ในช่วงนี้มีการสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลทั้งวังหน้าและวังหลวง

ในปี พ.ศ.2451 เป็นปีที่พิเศษสำหรับประชาชนชาวไทย รัชกาลที่ 6 (ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งสยามมงกุฎราชกุมาร) จึงได้จัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ โดยรวบรวมทั้งช่างหลวงและช่างราษฎร์มาเป็นจำนวนมาก ได้สร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลเป็นจำนวนที่ผมคิดว่า มากที่สุดเท่าที่เคยสร้างขึ้นมาในประเทศไทย

การที่จะบันทึกประวัติได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัชกาลที่ 4 ,รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ว่าจะประสงค์ให้บันทึกไว้หรือไม่ หลักฐานไม่เหมือนกับปัจจุบันเพราะว่า ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อชาติ เพื่อพระศาสนา ไม่ใช่พุทธพาณิช์ จึงไม่จำเป็นต้องบันทึกว่า สร้างรุ่นไหน จำนวนเท่าไร

การที่จะรู้ว่า พระเครื่ององค์นี้แท้หรือไม่ ผมบอกในกระทู้พระวังหน้าฯ ไม่รู้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่า ต้องตรวจสอบทั้งรูป(เนื้อหาทรงพิมพ์)และนาม(พลังอิทธิคุณหรือพลังพุทธคุณ) ประกอบกัน

ผมมาบอกได้เท่านี้ ส่วนอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องบอก จะเชื่อหรือไม่เชื่อแล้วแต่ผู้อ่าน คิดเอง

.

 

เชื่อ..ไม่เชื่อ..เป็นเรื่องส่วนบุคคล ครับ..แต่ผมเชื่ออย่างสนิทใจ...

 

เกือบลืม จะบอกจำนวนพระพิมพ์และวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ไม่น้อยกว่าเลข 8 หลัก (หลักสิบล้านองค์(หรืออันหรือชิ้น) ครับ

.

 

<table id="post1186446" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">วันนี้, 06:50 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #189 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> เชน <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1186446", true); </script>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:10 PM
วันที่สมัคร: Dec 2006
ข้อความ: 160 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 1,013 ครั้ง ใน 287 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 124


</td> <td class="alt1" id="td_post_1186446" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- icon and title --> ขอก้อบมาลงหน่อยนะ เผื่อจะตื่นขึ้นมาบ้าง
<hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> พระสมเด็จเบญจรงค์หรือปัญจสิริที่เป็นแบบมาตรฐานของจริงเขามีอยู่ ลองอ่านบทความที่เคยลงในหนังสือพุทธามหาเวท ตามคำให้การของท่านพระยาทิพยโกษาก่อนครับ ส่วนอย่างอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากัน

20 ประวัติพระสมเด็จ ฯ วังหน้า จากบันทึกของ มหาอำมาตย์ตรี พระยาทิพโกษา (สอน โลหะนันท์)
บทความจาก ปีที่ 2 ฉบับที่ 13 เดือนเมษายน 2549

ผมได้รับบันทึกฉบับนี้จากความ กรุณาของ ด.ต.ประดิษฐ์ โพธิ์แดง (ตำรวจน้ำ) ท่านส่งแฟกซ์ให้ทั้งฉบับ แต่ไม่ทราบว่าท่านอยู่ที่ไหน ขอขอบพระคุณท่านนายดาบตำรวจ
เป็นอย่างสูง ....เมื่ออ่านดูก็เห็นว่า สนุกสนานและน่าสนใจดี จึงนำมา ลงให้ผู้อ่านได้อ่านต่อ ท่อนแรกเป็นบันทึกของ มหา อำมาตย์ตรี ต่อจากนั้น เขียนโดย
เซียนพระชื่อ คุณสมศักดิ์ ฉัตรจรัส แสง ความจริงผมอยากนำมาลงทั้ง หมดแต่บทความที่เขาส่งมาเลอะ เลือนบางทีเนื้อหาสำคัญไม่สามารถ
คาดเดาได้จึงคัดเอาเฉพาะที่เกี่ยวข้อง กับพระสมเด็จฉัพพรรณรังสีเพื่อ เสริมบทความฉบับที่ผ่านมาเรื่อง สมเด็จพระฉัพพรรณรังสี สันยาสี ขอนำมาถ่ายทอดให้
ผู้อ่านอีกต่อหนึ่ง ขอเรียนว่า ลอกมา ทั้งดุ้น สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) ขึ้น ไปนมัสการพระพุทธบาทคราวใด เป็นต้องมีไตรไปพาดที่หัวนาค ตีนกระได
แล้วนิมนต์พระชักบังสุกุล ให้โยมผู้หญิงของท่านที่เมืองพิจิตทุก คราวว่า �นิมนต์บังสุกุลโยมฉันด้วย จ๊ะ พระจ๋า� แล้วเลยไปนมัสการพระ ฉาย เขามัณฑกบรรพตด้วยจนกระ
เหรี่ยงดงนับถือมากเข้าปฏิบัติทานไป กับอาจารย์วัดครุฑ อาจารย์อื่น ๆ บ้าง กลับมาแล้วก็มาจำวัดสบาย อยู่วัดบาง ขุนพรหมในเป็นนิตยกาล แลพระพิมพ์ที่วัดบางขุนพรหม
ในนั้น เสมียนตราด้วง ขอเอาพิมพ์ ของท่านไป พิมพ์ปูนแลผงของ เสมียนตราด้วงทำตามวุฒิของเสมียน ตราด้วงเอง ชาวบ้านบางขุนพรหม ปฏิบัติอุปถากบางทีขึ้นพระบาท หาย
เข้าไปในเมืองลับแลไม่กลับคนลือว่า สมเด็จถึงมรภาพแล้วก็มี ทางราชการ เอาโกศขึ้นไป ท่านก็ออกมาจากเมือง ลับแล พนักงานคุมโกศต้องเอา โกศเปล่ากลับหลายคราว
ครั้นท่านกลับลงมาแล้วก็รีบ พิมพ์พระใหม่ ท่านพระยานิกรร บดินทร (โต) ได้ถวายทองคำเปลวมา ท่านก็ปิดพระได้สัก 40,000 กว่า ทอง นั้นก็หมด พระพิมพ์ 84,000 คราวนี้
เดิมตั้งใจจะถวายสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงปิดทองแต่ จะได้ถวายหรือไม่ได้ถวายไม่ได้ ความปรากฏ พระธรรมถาวร ยังเป็น พระครูปลัดก็ไม่รู้
ผู้เรียงจะซักถาม ให้ได้ความจริงก็เกรงใจ เพราะเกณฑ์ ให้ท่านเล่าเรื่องอื่น ๆ มามากแล้ว ครั้นถึง ณ วันเดือน 5 ปีวอก จัตวาศก จุลศักราช 1234 ปี เป็นปีที่ 5
ในรัชกาลที่ 5 กรุงเทพมหานคร สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ไปดูการ ก่อพระโต วัดบางขุนพรหมใน ก็ไป อาพาธด้วยโรคชราภาพ 15 วัน ก็ถึง มรณภาพบนศาลาใหญ่วัดบาง ขุนพรหมใน
ในเวลาปัจจุบันสมัยวัน นั้น สิริรวมชนมายุ 84 บริบูรณ์ เป็น เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามมา ได้ 21 ปี บริบูรณ์ รับตำแหน่งที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์มาได้ 7 ปี บริ
บูรณ ถ้าจะนับตามจันทรคติก็ได้ 8 ปี นับอายุตามจันทรคติได้ 85 ปี เพราะ ท่านเกิดปีวอก เดือน 6 วอกรอบที่ 7 ถึงวอกรอบที่ 8 เพียงย่างขึ้นเดือน 5 ท่านก็มรณภาพ
คิดทดหักเดือนตาม อายุโหราจารย์ตามสุริยคตินิยมจึง เป็นอายุ 84 ปีบริบูรณ์ ด้วยประการ ฉะนี้แล. พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์กรุกรมท่า เมื่อกล่าวถึง พระพิมพ์ของเจ้า
พระคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหม รังสี แห่งสำนักวัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี ทุกคนจะหูผึ่ง ยิ่งบุคคลในวง การพระเครื่องย่อมจะสนใจเป็น พิเศษ แต่จินตนาการอาจจะคิดเป็น
ตัวเลขแห่งค่าน้ำเงินเสียส่วนใหญ่ ต่อ ไปก็คิดถึงความสวยงามสมบูรณ์แห่ง องค์ปฏิมา ข้าพเจ้าขออภัยท่านผู้อ่านสักนิด ขอแทรกข้อความที่น่าสนใจมาให้
ท่านผู้อ่านอีกตอนหนึ่งก็คือ พระ สมเด็จสายรุ้งหรือสมเด็จพระ เบญจรงค์ สมัยนั้นเขาเรียกว่ากรมท่า สมัยนี้เขาเรียกว่ากระทรวงการคลัง
ได้สร้างพระสมเด็จเบญจรงค์ขึ้นมา ชุดหนึ่งให้สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ปลุกเสกแล้วได้แจกให้แก่ ข้าราชการและประชาชนทุกชั้น ไม่ ว่าคนรวยหรือคนจน
ไม่มีชั้นวรรณะ ใด ๆ ทั้งสิ้น พระสมเด็จเบญจรงค์ชุดนี้รู้สึก สวยสดงดงามมาก จะหาพระเครื่อง สมัยไหนมาเทียบความงามอีกมิได้ ถ้าผู้ใดได้ไปแล้วจะมีแต่คนเขาเมตตา
รักใคร่และแคล้วคลาด หาที่ไหนมา เทียบอีกมิได้ มีคนอีกหลายๆ คนที่ยังสงสัย จึง ได้ถามข้าพเจ้าว่าพระสมเด็จ เบญจรงค์นี้ดีจริงและสวยงามนั้น
ทำไมวงการพระเขาจึงไม่สนใจเล่น กัน ผมจึงตอบเขาไปว่าวงการเขาไม่ ยอมรับพระชุดเบญจรงค์นี้ ก็เพราะว่า ถ้ายอมรับพระชุดนี้ พระสมเด็จทั้ง
หลายที่เป็นพระเนื้อผงขาวที่เขาเช่า กันไปองค์ละแสนสองแสนสามแสน ก็คงจะไม่มีใครเช่าเล่นกัน ก็เพราะ พระสมเด็จเบญจรงค์สวยสด งดงามมาก
พระสมเด็จชุดนี้แตกกรุเมื่อปี 2524 เมื่อครั้งบูรณะวัดพระแก้ว มรกตจะฉลองกรุง 200 ปี เจดีย์ทอง ในวัดพระแก้วมรกตได้แตกออกมา จึงได้มีพระสมเด็จชุดนี้ไหลออกมา
ประมาณ 4,000 องค์ พระเหล่านั้นได้ แตกหักและบิ่นไปประมาณ 1,000 องค์เศษ จึงเหลือที่สมบูรณ์อยู่ ประมาณ 3,000 กว่าองค์ พระชุดดัง กล่าวนี้จึงมีน้อยมาก ๆ
คนทั้งประเทศ ไทยจะไปหาที่ไหนได้ พระสมเด็จเบญจรงค์นี้ได้แบ่ง สรรค์กันไปคนละเล็กละน้อย เพราะ ฉะนั้นวงการพระเครื่องเขาจึงไม่ ยอมรับพระเครื่องชุดนี้เข้าประกวด
น่าเสียดายจริง ๆ มีบางคนยังค้านกัน อยู่เพราะถ้ารับเข้าประกวดก็ไม่รู้ว่า จะไปรับเอาพระมาจากที่ไหนที่ จะเอามาจำหน่ายแก่ประชาชน เวลานี้ในกรุเจดีย์ทองยังคงมี
เหลือพระชุดเบญจรงค์อีกประมาณ แปดหมื่นองค์ บัดนี้เขาได้ปิดและ โบกปูนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สมเด็จ พระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่าน สร้างพระแต่ละครั้งต้องมีถึงแปด
หมื่นสี่พันองค์ เท่าพระธรรมขันธ์ ทุกครั้ง ต่อไปภายภาคหน้าผมเข้าใจว่า ถ้ามีการบูรณะวัดพระแก้วมรกต เขา คงจะเปิดกรุเจดีย์ทองที่มีพระสมเด็จ
เบญจรงค์ชุดที่เหลืออีกแปดหมื่นองค์ ออกมาจำหน่ายจ่ายแจกแก่ประชาชน เพื่อเอาเงินมาบูรณะซ่อมแซมวัดพระ แก้วมรกต พวกเราทั้งหลายก็คงต้อง
รอกันไปอีกราวร้อยปีข้างหน้าจึง จะได้เช่าพระชุดสมเด็จเบญจรงค์ชุด นี้ห้อยคอ ผมคิดว่าอายุของพวกเรา ก็คงตกเข้าไปราวร้อยกว่าปี จึงจะได้ พระพิมพ์นี้มาห้อยคอกัน
พระสมเด็จเบญจรงค์นั้นเป็น พิมพ์ที่สร้างเป็นครั้งแรก เป็นบล็อก แรกด้วยเราถือว่าเป็นพิมพ์เอ ท่าน สร้างแจกจ่ายให้คนสนิทและ ประชาชนแต่ครั้งกระโน้มเวลานี้ที่มี
ของแตกกรุออกมานั้น มีผู้คนที่เขาให้ เช่าพระสมเด็จเบญจรงค์ไปนั้นหลาย สิบคน คนเหล่านั้นที่เขานับถือจริงๆ แล้วเขาก็มาบอกข้าพเจ้าว่า ตั้งแต่เขา
ได้พระสมเด็จเบญจรงค์ไปแล้วรู้สึก ว่ามีโชคลาภ ทำสิ่งใดมันคล่องไป หมด การเงินก็ดีขึ้น คิดทำสิ่งใดก็สม ดังใจทุกประการ ความจริงแล้วข้าพเจ้าอยาก
จะบรรยายให้ท่านฟัง ทุกท่านที่ได้ อ่านหนังสือนี้ทุกคน ผู้ที่ได้พระ สมเด็จเบญจรงค์ไปนั้นเขาเล่าถึงเรื่อง ปาฏิหาริย์มากมาย ข้าพเจ้าอยากเอา มาเล่าให้ท่านฟัง
ถ้าจะเล่ากันจริง ๆ 2-3 วัน ก็ยังไม่หมด ถ้าท่านมีจิตใจ ที่นับถือได้เช่าพระชุดสมเด็จ เบญจรงค์ไปห้อยคอแล้วอธิษฐานจิต ให้มั่นคงและนับถือต้องการอะไร
หรือไปพบใครแล้วท่านจะได้สม ใจหวังตามที่คิดเอาไว้ทุกประการ เมื่อปี พ.ศ.2528 ข้าพเจ้า นาย สมศักดิ์ ฉัตรจรัสแสง ได้ไปจำหน่าย
พระที่ศูนย์พระเครื่องจังหวัดเชียงราย บังเอิญได้มีนักทัศนาจรมาเที่ยวที่ จังหวัดเชียงใหม่ แล้วเลยมาเที่ยว จังหวัดเชียงรายมีผู้ชาย 2 คนได้แวะ
เข้าไปที่ศูนย์พระเครื่องจังหวัด เชียงราย ซึ่งมีแผงพระอยู่ 6-7 แผง ดูไปดูมาก็ถูกใจพระของข้าพเจ้าองค์ หนึ่งคือ พระสมเด็จเบญจรงค์ เป็น เนื้อสีเขียวไข่กา
เขาก็ถามราคา ข้าพเจ้าบอกว่าองค์นี้ 8,000 บาทครับ เขาก็ต่อรองว่าจะเอา 2 องค์ ขอเป็น หมื่นห้าข้าพเจ้าก็ถามว่าท่านอยู่ที่ ไหน เขาบอกว่าอยู่ประเทศบรูไน ชื่อ
นายกิมย่ง แซ่อึ้ง ข้าพเจ้าถามว่า ทำไม เช่าพระแบบเดียวกันถึง 2 องค์ เขาว่า จะเอาไปฝากเพื่อนองค์หนึ่ง ซึ่งอยู่ที่ มาเลเซียข้าพเจ้าก็นึกแปลกใจว่าชาย
สองคนนี้ทำไมจึงสนใจพระเครื่อง เป็นอย่างมากทั้ง ๆ ที่พูดภาษาไทย ก็ไม่เป็นเราใช้ภาษาจีนพูดกันตลอด อยู่มาถึงวันที่ 25 เมษายน 2529
เขาได้เขียนจดหมายมาถึงข้าพเจ้า กล่าวขอบคุณข้าพเจ้ามากมายที่ได้ จำหน่ายพระเบญจรงค์เขียวไข่กาไป นั้นเขาบอกว่าตั้งแต่ได้พระองค์นั้น
ไปห้อยคอชีวิตของเขาก็รุ่งโรจน์ขึ้น มากก่อนหน้านี้เขาเป็นคนงาน ธรรมดาตั้งแต่ได้พระเบญจรงค์ขึ้น คอแล้วก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็น
หัวหน้าส่วนเพื่อนที่เขาเอาอีกองค์ไป ฝากนั้นหลังจากห้อยพระได้ไม่นาน ก็ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ของมาเลเซีย ตอนนี้มีเพื่อนอีกหลายคนที่อยากได้
พระเบญจรงค์รุ่นนั้นอีก ข้าพเจ้า ทราบดังนั้นก็ได้แสวงหาพระ เบญจรงค์จากพรรคพวกเพื่อนฝูงส่ง ให้เขาอีก ท่านที่ได้พระสมเด็จเบญจรงค์ ไปนั้นถือว่าโชคดีจริง ๆ
แต่ท่านต้อง นับถือจริง ๆ แล้วจะได้ทุกอย่างตาม ที่ท่านคิดหวังถ้าท่านได้ไปมีคนมา วิจารณ์อย่างนั้นอย่างนี้ใจท่านก็เป็น สองฝักสองฝ่ายไม่แน่ใจในองค์พระ
ท่านก็จะไม่ประสบผลอะไร.... จบข้อเขียน พระสมเด็จเบญ จรงค์มีที่สำนักพุทธามหาเวท แต่ เหลือไม่กี่องค์ รอคนมีบุญวาสนา นำไปครอบครองห้อยคออยากได้ เอา
กล้องไปส่องเอาเถิดครับ แต่ก็สวย ๆ ทั้งนั้น

http://www.buddhamahawet.com/detail....rrent=1&all=10


ในความคิดของผมเอง ในบทความนี้มี 1 เซียนพระ และ 1 นายตำรวจ โดยนายตำรวจท่านนี้ปัจจุบันท่านรับราชการอยู่ที่ จังหวัดปัตตานี้ตามนี้ครับ
http://www.csd.go.th/command1/news2.htm

เมื่อ 1 หรือ 2 สัปดาห์ก่อน ได้อ่านเจอในบทความพระประจำวันอาทิตย์ไม่แน่ใจว่าเป็น สีกาอ่างของ ไทยรัฐ หรืออีกท่านนึงเป็นของเดลินิวส์ ท่านให้ข้อคิดในเรื่องพระสมเด็จเบญจรงค์ว่า เป็นพระแท้ แต่วงการไม่ยังยอมรับหรือยังไม่เป็นมาตรฐานสากล "ยังงี้พอฟังไหว" แต่ประเภทตีตราว่าปลอมนี่เหลวไหลสิ้นดี นับว่าเป็นเซียนพระระดับปลายแถว บัดซบจริงๆ

ส่วนท่าน อ.ประถมฯ ตอนนี้ว่างๆ ผมก็ยังไปเยี่ยมท่านอยู่ ท่านอยุ่ที่ จ.ชลบุรี ไปทีไร ก็ไปขอความรู้ด้านกรรมฐาน ท่านก็สอนมาให้เพื่อเราปฏิบัติอยู่ คุณมันตรัย คุณราตรีกาล เคยทำไหมล่ะ กรรมฐานน่ะ ไม่เชื่อชาตินี้และชาติหน้าใช่มั๊ยล่ะ งั้นคุณก็ไม่ต้องใส่บาตรเลยซิ จะทำไปทำไม เปลืองตังค์ ไม่ต้องไหว้พระหรือเข้าวัดเลยก็ได้เสียเวลาเปล่า เพราะคนที่เขาทำอย่างนี้เขามีความเชื่อเรื่องชาตินี้และชาติหน้า ศีลคุณก็ไม่ต้องมีหรอกขอโทษ กิน(แดก)เหล้าไปเลย เจอหมาที่ไหนเตะมันเลยไม่ต้องเมตตามัน พวกนี้มันเกี่ยวกับชาตินี้ชาติหน้า นรกสวรรค์ทั้งนั้น ดีด้วยชีวิตอินดี้ดีออก ชีวิตกูลิขิตเอง
</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post1186799" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">วันนี้, 09:19 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #195 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> joni_buddhist <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1186799", true); </script>
ทีม ผู้ดูแลเว็ปบอร์ด
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:43 PM
วันที่สมัคร: Sep 2005
สถานที่: 35 ถนนเจริญกรุง55 ยานนาวา สาทร กทม.10120
อายุ: 27 ปี
ข้อความ: 6,151 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 81 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 51,595 ครั้ง ใน 6,067 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 5208


</td> <td class="alt1" id="td_post_1186799" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
http://palungjit.org/showthrea...=127353&page=8

<table class="tborder" id="post1185665" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color -moz-use-text-color; border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">วันนี้, 01:51 PM <!-- / status icon and date --></td><td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right">#152 </td></tr><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px;" width="175">ลูกพระพาย<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1185665", true); </script>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:06 PM
วันที่สมัคร: May 2008
ข้อความ: 2 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 1 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 3 ครั้ง ใน 2 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0



</td><td class="alt1" id="td_post_1185665" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"><!-- message -->หลงประเด็นป่าวครับ....เอาล่ะพระอาจจะมีจริง หรือ ไม่มีจริง ผมไม่รู้..

ขอถามซัก ข้อสองข้อ

1. พระที่คุณเอามาให้ ทำบุญกัน เนี่ย เอามาจากไหน มากมาย ก่ายกอง ทำไมมันไม่หมดไม่สิ้นไปซักที (แถมมี รูปทรงแปลกๆ สงสัยสมเด็จโตท่าน จะ Design เก่ง ?)

2. พระที่สร้างโดยสมเด็จโต ถ้ามีจริง คิดว่าท่าน สร้างกี่องค์ จะเหลือ มาถึงปัจจุบันเลย รึ ? ขนาดสมเด็จวัดระฆังแท้ๆ ยังเห็นวนเวียนไม่กี่องค์

3. เวลาดูว่า พระแท้ หรือไม่แท้ เอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ ในการดู หรือ เปรียบเทียบ. (ห้ามจับพลัง ห้ามวัดแสงออร่านะ )

4. ทำไมระยะเวลาที่ยาวนาน มาเป็น 100 ปี . ไม่เห็นมีใคร ทำหนังสือ หรือ รวบรวมประวัติความเป็นมาให้ ชัดแจ้งไปเลย ถ้าเป็นของแท้จริงๆ ทำไมไม่มีใครยอมรับ.

ขอให้ตอบแบบ วิชาการนะครับ. ไม่เอานิยาย ไม่เอาเรื่องเหนือธรรมชาติ เรื่องเล่าจากใครก้อไม่รู้ที่พูดๆ กันมา.


</td></tr></tbody></table>

ผมจะอธิบายในส่วนที่สามารถบอกออกอากาศได้เท่านั้น

พระเครื่องที่บอกว่าเป็นพระเครื่องของวังหน้า หรือวังหลวง ในส่วนที่ผมทราบมา เริ่มสร้างพระเครื่องขึ้นมาประมาณ ปี พ.ศ.2367 ในรัชกาลที่ 3 แต่เท่าที่ศึกษามามีเป็นจำนวนน้อย

ต่อมาเมื่อรัชกาลที่ 4 ขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ.2394 และได้แต่งตั้ง พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ขึ้นเป็นพระมหากษัตริิย์อีกพระองค์

ปกติตั้งแต่โบราณจวบจนสมัยรัชกาลที่ 5 การปกป้องประเทศเป็นหน้าที่หลักของวังหน้า แต่เมื่อไม่มีสงคราม ก็จะหันมาช่วยทางวังหลวง ทำนุบำรุงพระศาสนา การสร้างวัตถุมงคลต่างๆ จึงออกมาจากวังหน้าเป็นส่วนใหญ่

เมื่อรัชกาลที่ 4 พระองค์ท่านขึ้นครองราชย์ พระองค์ท่านใฝ่ใจในพระศาสนาในทุกๆเรื่อง ทางวังหน้าจึงได้สร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และได้นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ที่วัดบวรสถานสุทธาวาส

หลังจากที่รัชกาลที่ 4 สวรรคต รัชกาลที่ 5 ขึ้นครองราชย์ พระองค์ท่านจึงดำเนินรอยตามพระบิดาโดยสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก ในช่วงนี้มีการสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลทั้งวังหน้าและวังหลวง

ในปี พ.ศ.2451 เป็นปีที่พิเศษสำหรับประชาชนชาวไทย รัชกาลที่ 6 (ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งสยามมงกุฎราชกุมาร) จึงได้จัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ โดยรวบรวมทั้งช่างหลวงและช่างราษฎร์มาเป็นจำนวนมาก ได้สร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลเป็นจำนวนที่ผมคิดว่า มากที่สุดเท่าที่เคยสร้างขึ้นมาในประเทศไทย

การที่จะบันทึกประวัติได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัชกาลที่ 4 ,รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ว่าจะประสงค์ให้บันทึกไว้หรือไม่ หลักฐานไม่เหมือนกับปัจจุบันเพราะว่า ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อชาติ เพื่อพระศาสนา ไม่ใช่พุทธพาณิช์ จึงไม่จำเป็นต้องบันทึกว่า สร้างรุ่นไหน จำนวนเท่าไร

การที่จะรู้ว่า พระเครื่ององค์นี้แท้หรือไม่ ผมบอกในกระทู้พระวังหน้าฯ ไม่รู้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่า ต้องตรวจสอบทั้งรูป(เนื้อหาทรงพิมพ์)และนาม(พลังอิทธิคุณหรือพลังพุทธคุณ) ประกอบกัน

ผมมาบอกได้เท่านี้ ส่วนอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องบอก จะเชื่อหรือไม่เชื่อแล้วแต่ผู้อ่าน คิดเอง

.
<!-- / message --> <!-- sig -->
</td> </tr> </tbody></table>
วัดพระแก้วเป็นวัดสำคัญหากมีการฉลองวัดพระแก้วและมีการปลุกเสกใหญ่น่าจะมีบันทึกเรื่องการสร้างพระปลุกเสกบ้างครับนี่เป็นข้อสันนิษฐาน
<!-- / message --> <!-- sig -->
_______________________________________________________
</td></tr></tbody></table>
<table id="post1186823" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">วันนี้, 09:28 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #196 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> พรหมฤทธิ์ <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1186823", true); </script>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:29 PM
วันที่สมัคร: Aug 2007
อายุ: 41 ปี
ข้อความ: 12 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 54 ครั้ง ใน 9 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</td> <td class="alt1" id="td_post_1186823" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joni_buddhist
วัดพระแก้วเป็นวัดสำคัญหากมีการฉลองวัดพระแก้วและมีการปลุกเสกใหญ่น่าจะมีบันทึกเรื่องการสร้างพระปลุกเสกบ้างครับนี่เป็นข้อสันนิษฐาน
</td> </tr> </tbody></table>

นั่งดูอยู่ วัดพระแก้วที่คุณเข้าใจน่าจะเป็นวัดพระศรีฯ ในปัจจุบัน แต่วัดที่มีการอธิษฐานขอบารมีจากท่านบรมครูพระเทพโลกอุดร และองค์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ที่ยังไม่สิ้นชีพตักษัยมาเป็นองค์ประธานในการเสกหรือนั่งปรกเองนั้น คือวัดพระแก้ว วังหน้า หรือพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในปัจจุบันครับ ต้องปรับฐานความรู้ใหม่ เอาล่ะเสร็จแล้ว ขอนั่งดูคุณต่อครับ
</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post1186829" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 09:31 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #197 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> joni_buddhist <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1186829", true); </script>
ทีม ผู้ดูแลเว็ปบอร์ด
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:43 PM
วันที่สมัคร: Sep 2005
สถานที่: 35 ถนนเจริญกรุง55 ยานนาวา สาทร กทม.10120
อายุ: 27 ปี
ข้อความ: 6,151 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 81 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 51,595 ครั้ง ใน 6,067 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 5208


</td> <td class="alt1" id="td_post_1186829" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> <table id="AutoNumber1" style="border-collapse: collapse;" border="0" bordercolor="#111111" cellpadding="0" cellspacing="0" width="98%"><tbody><tr><td style="border: 2px solid rgb(255, 255, 153);" bgcolor="#ff9900" width="100%">

พระบัณฑูร พิมพ์เศียรแหลม กรุวังหน้า กทม. ​

</td></tr><tr><td width="100%">

พระกรุวังหน้าหรือที่สมัยก่อนมักนิยมเรียกกันว่า "สมเด็จพระบัณฑูร" เป็นพระที่พบบนเพดานในพระราชวังบวรสถานหรือวังหน้าพร้อมๆ กับพระโคนสมอจำนวนหนึ่ง เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ ในช่วงปี 2485 และภายหลังได้มีการค้นพบอีกเมื่อปี 2507 ในครั้งที่กรมศิลปากร ทำการบูรณะช่วยซ่อมแซมพระอุโบสถ พระบัณฑูรที่ค้นพบมีทั้งหมด 2 พิมพ์คือ พิมพ์เศียรโล้นและพิมพ์เศียรแหลมเป็นพระเนื้อดินเผา ลงรักปิดทองที่ด้านหน้า บางองค์มีครั่งหรือชันติดที่ด้านหลัง เพื่อใช้เป็นตัวประสาน ในการติดกับเพดานโบสถ์ มีพุทธคุณและประสบการณ์โดดเด่น ในเรื่องแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี เป็นหนึ่งในพระเครื่องหลายพิมพ์ที่ทหารไทยนำติดตัวไป ทำศึกสงครามและเกิดประสบการณ์ ยิงไม่ออกบ้าง ไม่เข้าบ้างจนเป็นที่มาของสมญาว่า "ทหารผี"

ปัจจุบันพระแท้ ๆ รักทองเดิม ๆ ที่สวยงามหาดูได้ยาก ราคาเช่าหาในองค์ที่สวยงามอยู่ที่หลักพันแก่ขึ้นไป ถ้าท่านมีโอกาสพบเจอและมีกำลังพอแล้วก็ไม่ควรปล่อยให้ผ่านเลยไปเพราะในอนาคตพระชุดนี้มีแต่ราคาสูงขึ้นทุกวันๆ ​

</td></tr></tbody></table>
เท่าที่ทราบพระวังหน้าที่อยู่ในกรุพระแก้ววังหน้าก็เห็นจะเป็นพระพิมพ์นี้แหล่ะครับเพราะสอดคล้องกับการเป็นนักรบและปีที่เจอ ทั้งกรมศิลปากรท่านรับรอง
ที่มา http://www.banphra.com/reviews/reviews04_015.htm <!-- / message --> <!-- sig -->
___________________________________________________________
</td></tr></tbody></table>
อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joni_buddhist
<table id="AutoNumber1" style="border-collapse: collapse;" border="0" bordercolor="#111111" cellpadding="0" cellspacing="0" width="98%"><tbody><tr><td style="border: 2px solid rgb(255, 255, 153);" bgcolor="#ff9900" width="100%">

พระบัณฑูร พิมพ์เศียรแหลม กรุวังหน้า กทม. ​

</td></tr><tr><td width="100%">

พระกรุวังหน้าหรือที่สมัยก่อนมักนิยมเรียกกันว่า "สมเด็จพระบัณฑูร" เป็นพระที่พบบนเพดานในพระราชวังบวรสถานหรือวังหน้าพร้อมๆ กับพระโคนสมอจำนวนหนึ่ง เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ ในช่วงปี 2485 และภายหลังได้มีการค้นพบอีกเมื่อปี 2507 ในครั้งที่กรมศิลปากร ทำการบูรณะช่วยซ่อมแซมพระอุโบสถ พระบัณฑูรที่ค้นพบมีทั้งหมด 2 พิมพ์คือ พิมพ์เศียรโล้นและพิมพ์เศียรแหลมเป็นพระเนื้อดินเผา ลงรักปิดทองที่ด้านหน้า บางองค์มีครั่งหรือชันติดที่ด้านหลัง เพื่อใช้เป็นตัวประสาน ในการติดกับเพดานโบสถ์ มีพุทธคุณและประสบการณ์โดดเด่น ในเรื่องแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี เป็นหนึ่งในพระเครื่องหลายพิมพ์ที่ทหารไทยนำติดตัวไป ทำศึกสงครามและเกิดประสบการณ์ ยิงไม่ออกบ้าง ไม่เข้าบ้างจนเป็นที่มาของสมญาว่า "ทหารผี"

ปัจจุบันพระแท้ ๆ รักทองเดิม ๆ ที่สวยงามหาดูได้ยาก ราคาเช่าหาในองค์ที่สวยงามอยู่ที่หลักพันแก่ขึ้นไป ถ้าท่านมีโอกาสพบเจอและมีกำลังพอแล้วก็ไม่ควรปล่อยให้ผ่านเลยไปเพราะในอนาคตพระชุดนี้มีแต่ราคาสูงขึ้นทุกวันๆ ​

</td></tr></tbody></table>เท่าที่ทราบพระวังหน้าที่อยู่ในกรุพระแก้ววังหน้าก็เห็นจะเป็นพระพิมพ์นี้แหล่ะครับเพราะสอดคล้องกับการเป็นนักรบและปีที่เจอ ทั้งกรมศิลปากรท่านรับรอง
ที่มา http://www.banphra.com/reviews/reviews04_015.htm
</td> </tr> </tbody></table>

น้องจอห์น อย่าดูแต่ตำราเลย ตำราที่คนเขียนก็เกิดไม่ทัน ไม่รู้ว่าตอนนั้นทำอะไรอยู่
กรมศิลปากร ทำงานไม่ทัน พระกองทิ้งไว้... คนมาเก็บไปเหลืออยู่นิดเดียว

สำหรับพิมพ์นี้ ผมเรียก พระพิมพ์ฐานผ้าทิพย์ ไม่เรียกพระบัณฑูร แต่เพราะอะไร ลองไปศึกษา "พระบัณฑูร" คืออะไร น่าจะเข้าใจได้มากขึ้น

บอกเท่านี้ก็พอ ยังมีเรื่องมีมากมาย ขี้เกียจพิมพ์แล้วสำหรับเรื่องนี้

.

 

<table id="post1186857" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">ันนี้, 09:40 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #198 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> sithiphong <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1186857", true); </script>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:47 PM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 21,879 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 5,299 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 132,072 ครั้ง ใน 17,966 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 13770


</td> <td class="alt1" id="td_post_1186857" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joni_buddhist

วัดพระแก้วเป็นวัดสำคัญหากมีการฉลองวัดพระแก้วและมีการปลุกเสกใหญ่น่าจะมีบันทึกเรื่องการสร้างพระปลุกเสกบ้างครับนี่เป็นข้อสันนิษฐาน

</td> </tr> </tbody></table>
แล้วทำไม รัชกาลที่ 6 ต้องบันทึกไว้ว่า สร้างเพื่ออะไร อย่าไปใช้ความคิดของคนยุคปัจจุบันเป็นฐานความคิดของคนในอดีตซิครับ

แม้แต่ศีลของคนในยุคปัจจุบัน สู้ศีลของคนในยุคก่อนไม่ได้

วัดพระแก้ว จะมีสองที่ คือ
1.วัดบวรสถานสุทธาวาส (วังหน้า) หรือเรียกว่า วัดพระแก้ว วังหน้า
2.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วังหลวง) หรือวัดพระแก้ววังหลวง

การฉลองใหญ่ เมื่อปี พ.ศ.2451 เป็นการเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 40 ปี และเฉลิมฉลองพระบรมรูปทรงม้า

.
<!-- / message --> <!-- sig --> </td></tr></tbody></table>

 

อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joni_buddhist
[/b]
เท่าที่ทราบสมัยก่อนสมเด็จวังหน้าท่านจะเรียกพระบัณฑูรดังนั้นพระที่พระแก้ววังหน้าท่านสร้างก็น่าจะเรียกพระของสมเด็จพระบัณฑูรอาจกร่อนเป็นพระบัณฑูรก็ได้แต่นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของผมครับ
พระบัณฑูรคือ

<table border="0" height="100%" width="100%"><tbody><tr><td valign="top">พระบัณฑูร
โดย จุลลดา ภักดีภูมินทร์
</td></tr><tr><td valign="bottom">ฉบับที่ 2435 ปีที่ 47 ประจำวัน อังคาร ที่ 19 มิถุนายน 2544</td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="5" cellspacing="0" width="95%"><tbody><tr><td height="20" valign="top" width="10%"></td><td valign="top" width="90%"></td></tr><tr><td height="135" valign="top"><table border="0" width="50%"><tbody><tr><td>.</td></tr><tr><td height="21">

.​

</td></tr></tbody></table></td><td valign="top">-พระบัณฑูรหมายถึงวังหน้าหรือพระมหาอุปราชหรือกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ใช่หรือไม่-<o>> </o>>
ผู้โทรศัพท์ถามเป็นหนุ่มน้อยอายุ ๑๘ กำลังเรียนมหาวิทยาลัย<o>> </o>>
ไม่ได้ตอบทันที ให้รออ่านจากบทความ เพราะต้องหาคำตอบให้ชัดเจน ได้ค้นจากหนังสือที่มีอยู่หลายเล่ม จึงได้คำตอบจากเรื่อง ‘พงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๕’ พระนิพนธ์สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งทรงอธิบายเรื่อง ‘พระบัณฑูร’ ไว้อย่างกระจ่างแจ้ง ดังนี้<o>> </o>>
“คำว่า ‘พระบัณฑูร’ นั้น สำหรับเรียกคำสั่งของพระมหาอุปราช เค้ามูลมาแต่คำสั่งของพระเจ้าแผ่นดินกำหนดไว้ในกฎมณเฑียรบาลเป็น ๒ อย่าง เรียกว่า ‘พระราชโองการ’ อย่างหนึ่ง เรียกว่า ‘พระบัณฑูร’ อย่างหนึ่ง ข้อนี้พึงเห็นได้ในคำเริ่มต้นเมื่อตั้งกฎหมาย แต่โบราณใช้ว่า “มีพระราชโองการมานพระบัณฑูร’ ต่อกัน<o>> </o>>
ดังนี้ ถ้าว่าตามพิเคราะห์คำต้นศัพท์ ‘โองการ’ หมายความว่า ประกาศิตของพระอิศวร ‘ราชโองการ’ ก็หมายความว่า ‘ประกาศิต’ ของพระวิศวรเมื่อแบ่งภาคลงมาเป็นพระราชาอยู่ในมนุษยโลก ซึ่งเรียกกันว่า ‘สมมติเทวราช’<o>> </o>>
(ส่วน) คำ ‘บัณฑูร’ นั้น เป็นภาษาเขมร หมายความว่า ‘สั่ง’ เดิมคงจะใช้แต่ว่า “มีพระราชโองการบัณฑูร” คำว่า ‘มาน’ (เป็นคำภาษาเขมรแปลว่า ‘มี’ นั่นเอง) เห็นจะเพิ่มเป็นสัมผัสให้เพราะขึ้นในภายหลัง<o>> </o>>
แต่อธิบายในกฎมณเฑียรบาลแยก ‘พระราชโองการ’ กับ ‘พระบัณฑูร’ ออกต่างหากจากกัน กฎมณเฑียรบาลกล่าวว่า “ถ้าขัดขืนพระราชโองการต้องโทษถึงประหารชีวิต ถ้าขัดพระบัณฑูรโทษปรับไหมจตุรคุณ” ดังนี้<o>> </o>>
อย่างไรก็ดีที่ให้เรียกคำสั่งของพระมหาอุปราชว่า ‘พระบัณฑูร’ นั้น พึงเข้าใจได้ว่า ให้มีอำนาจในสถานหนึ่งเสมอพระราชอำนาจของพระเจ้าแผ่นดิน<o>> </o>>
แต่ อำนาจพระบัณฑูรนี้ พระราชทานเจ้านายพระองค์อื่นนอกจากพระมหาอุปราชก็มี เรียกว่า ‘พระบัณฑูรน้อย’<o>> </o>>
เคยมีตัวอย่างทั้งในกรุงศรีอยุธยา และกรุงรัตนโกสินทร์นี้ (เมื่อรัชกาลที่ ๑) พระบัณฑูรน้อยจะมีตำแหน่งหน้าที่อย่างไรไม่ปรากฏ แต่เมื่อพระมหาอุปราช (พระบัณฑูรใหญ่) ได้รับรัชทายาท ก็ทรงตั้งพระบัณฑูรน้อย เป็นพระมหาอุปราชทุกคราว”<o>> </o>>
เรื่องพระบัณฑูรใหญ่และพระบัณฑูรน้อย กรุงศรีอยุธยาและกรุงรัตนโกสินทร์ ค่อยเล่าต่อภายหลัง เพราะมีเรื่องราวยืดยาวนัก โดยเฉพาะในปลายกรุงศรีอยุธยา ผู้ที่เคยเรียนประวัติศาสตร์ คงจะพอทราบเรื่องเจ้าฟ้าเพชร-เจ้าฟ้าพรกันอยู่บ้างแล้ว<o>> </o>>
ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๕ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ ทรงอธิบายถึง ‘หน้าที่’ ของพระมหาอุปราช หรือกรมพระราชวังบวรสถานมงคล หรือบางทีก็เรียกกันว่า ‘พระบัณฑูร’ ตามศัพท์ภาษาเขมร ดังพระนิพนธ์ที่อ้างมาแล้ว หรือ ‘วังหน้า’ ซึ่งน่าจะยกมาเล่าให้ทราบกัน<o>> </o>>
ว่าทรงมีหน้าที่ดังนี้<o>> </o>>
“พระมหาอุปราชทรงมีหน้าที่ในการศึกษา ตรงกับคำที่เรียกว่า ‘ฝ่ายหน้า’ เป็นสำคัญกว่าอย่างอื่น<o>> </o>>
พึงเห็นอธิบายได้แม้ในกรุงรัตนโกสินทร์นี้ ในรัชกาลที่ ๑ พระมหาอุปราชก็ต้องทำศึก ทั้งที่โดยเสด็จฯ และเสด็จไปโดยลำพังพระองค์มาจนตลอดพระชนมายุ<o>> </o>>
ถึงรัชกาลที่ ๒ พม่ามาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตก<o>> </o>>
ถึงรัชกาลที่ ๓ เกิดกบฎเวียงจันทน์<o>> </o>>
พระมหาอุปราชก็เสด็จไปบัญชาการศึกทั้ง ๒ คราว<o>> </o>>
แต่ถึงรัชกาลที่ ๔ เมื่อจะยกกองทัพไปตีเมืองเชียงตุง พระมหาอุปราชทรงศักดิ์อย่างเป็นพระเจ้าแผ่นดิน (พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ) จึงโปรดให้กรมหลวงวงศาธิราชสนิท (พระองค์เจ้านวม พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๒ ต้นราชสกุล ‘สนิทวงศ์ ณ อยุธยา’) เสด็จไปบัญชาการศึกต่างพระมหาอุปราช เป็นตัวอย่างมาดังนี้ นอกจากทำศึกพระมหาอุปราชยังมีหน้าที่ตลอดไปถึงการป้องกันพระราชอาณาเขต ข้อนี้ก็มีมาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์นี้ เช่น ในการสร้างป้อมปราการที่เมืองพระประแดง และเมืองสมุทรปราการ พระมหาอุปราชก็ทรงบัญชาการทั้งในรัชกาลที่ ๒ รัชกาลที่ ๓ ถึงรัชกาลที่ ๔ ที่โปรดให้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ทรงจัดทหารบกทหารเรือขึ้นทางฝ่ายวังหน้า ก็เนื่องมาแต่หน้าที่ของพระมหาอุปราชในการป้องกันพระราชอาณาเขตนั่นเอง<o>> </o>>
เมื่อว่าโดยย่อ หน้าที่ของพระมหาอุปราชเป็นฝ่ายทหาร เนื่องด้วยการทำศึกสงครามมาแต่โบราณ แต่ในเวลาว่างศึกสงคราม พระมหาอุปราชหามีหน้าที่ในการปกครองพระราชอาณาเขตอย่างใดไม่ คำซึ่งกล่าวกันมาแต่ก่อนว่า “พระมหาอุปราชเสวยราชย์กึ่งพระนคร” นั้น มีมูลมาแต่การแบ่งเขตรักษาท้องที่ในบริเวณพระนคร อันเป็นแบบมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ที่ในกรุงเทพฯ นี้ปันเขต (ว่าตามแผนที่ในปัจจุบันนี้) ตามแนวถนนท่าพระจันทร์ ตั้งแต่ท่าน้ำไปจนถึงประตูสำราญราษฎร์ (ถนนบำรุงเมือง)<o>> </o>>
ท้องที่ข้างใต้เป็นอำเภอวังหลวง กรมนครบาลวังหลวงรักษา<o>> </o>>
ท้องที่ข้างเหนือเป็นอำเภอวังหน้า กรมนครบาลวังหน้ารักษา<o>> </o>>
แต่ปันเขตเพียงถึงคูพระนคร (คือคลองรอบกรุง หรือคลองบางลำพู-โอ่งอ่าง) เท่านั้น ท้องที่ภายนอกออกไปเป็นอำเภอวังหลวงทั้งนั้น”<o>> </o>>
สมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯ ท่านทรงเล่าถึงพระอัธยาศัย และพระประพฤติของ ‘วังหน้า’ ๕ พระองค์ ในกรุงรัตนโกสินทร์ เอาไว้ว่า<o>> </o>>
“ในรัชกาลที่ ๑ เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เป็นพระมหาอุปราช พระอัธยาศัยอยู่ข้างมีทิฐิมานะ เกิดบาดหมางกับพระบาทสมเด็จฯ พระพุทธยอดฟ้าฯ หลายครั้ง แทบถึงจะรบกันก็มี จนที่สุดเมื่อสวรรคต พวกวังหน้าที่เป็นคนใกล้ชิดก็กำเริบ ถึงต้องปราบปรามกัน ซึ่งบางทีเหตุที่มีมาแต่ในรัชกาลที่ ๑ นั้น จะเป็นตัวอย่างให้พระมหาอุปราชพระองค์อื่นๆ ระวังพระองค์ต่อมา เมื่อพระบาทสมเด็จฯพระพุทธเลิศหล้าฯ ได้เป็นพระมหาอุปราชในตอนปลายรัชกาลที่ ๑ ก็ไม่ปรากฏว่าประพฤติพระองค์ให้ผิดกับเมื่อยังเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอแต่อย่างใด<o>> </o>>
ถึงรัชกาลที่ ๒ พระมหาอุปราช สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ ทรงชอบชิดสนิทเสน่หากับสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชมาแต่เดิม ปรากฏว่าพระบาทสมเด็จฯพระพุทธเลิศหล้าฯ มีรับสั่งให้ทรงช่วยว่าราชการ ก็เสด็จลงมาประทับที่โรงละครหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตรวจตราข้อราชการต่างๆ ก่อนเสด็จเข้าเฝ้าในท้องพระโรงเป็นนิจ จนตลอดพระชนมายุ<o>> </o>>
ถึงรัชกาลที่ ๓ เมื่อทรงสถาปนากรมหมื่นศักดิพลเสพขึ้นเป็นพระมหาอุปราช ปรากฏว่าถ่อมพระองค์มาก เป็นต้นว่าประทับอยู่เพียงที่มุข ไม่เสด็จประทับบนพระพิมายวังหน้า พระราชยานก็ไม่ทรง ทรงเสลี่ยงอย่างอย่างเป็นต่างกรม เรือพระที่นั่งก็ทรงเรือกราบกันยาหลังคากระแรงอย่างพระองค์เจ้า ไม่คาดสีเหมือนเรือเจ้าฟ้า และไม่เข้าเกี่ยวข้องในราชการบ้านเมืองเหมือนอย่างพระมหาอุปราชในรัชกาลที่ ๒<o>> </o>>
ถึงรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จฯพระจอมเกล้าฯ ทรงสถาปนาพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ซึ่งอยู่ในที่พระมหาอุปราช ให้มีพระยศเหมือนอย่างพระเจ้าแผ่นดิน...ฯลฯ...ถึงกระนั้นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ก็ถ่อมพระองค์ไม่โปรดให้ในการแสดงยศศักดิ์ เป็นต้นว่า ไม่เสด็จออกให้ขุนนางเฝ้าในท้องพระโรง นอกจากเวลามีงานพิธี โดยปกติเสด็จออกให้เฝ้าที่โรงรถ การที่เสด็จไปไหนด้วยมีกระบวนแห่ ก็เสด็จเฉพาะแต่ในงานพิธี หรือเสด็จลงมาเฝ้าตามตำแหน่ง ถ้าโดยปกติเสด็จไปตามวังเจ้านายที่ชอบชิดก็ทรงม้ามีคนตามเสด็จคนหนึ่งหรือสองคน และยังโปรดทรงดำเนินเที่ยวเตร่ตามละแวกบ้านเหมือนเมื่อยังเป็นกรมอยู่ในรัชกาลที่ ๓ โดยปกติโปรดทรงฝึกซ้อมหัดทหาร หรือมิฉะนั้นก็นัดคนไปขี่ม้า ถึงกลางวันเล่นคลี กลางคืนเล่นซ่อนหา แต่ส่วนการบ้านการเมืองนั้น ไม่ทรงเอาเป็นพระราชธุระทีเดียว แม้เมื่อฝรั่งต่างชาติเข้ามาขอทำหนังสือสัญญาพระราชไมตรี ก็ไม่ทรงเกี่ยวข้องในการปรึกษาหารือ<o>> </o>>
ถึงรัชกาลที่ ๕ เมื่อทรงสถาปนากรมหมื่นบวรวิชัญชาญเป็นมหาอุปราช เป็นเวลาว่างการทัพศึก แต่ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน (คือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์-จุลลดาฯ) ประสงค์จะรักษาหน้าที่ของพระมหาอุปราชตามประเพณีเดิมไว้ จึงจัดให้เสด็จไปตรวจตราป้อมที่เมืองสมุทรปราการและเมืองจันทบุรี และต่อมาให้ทรงบัญชาการซ่อมแซมป้อมเสือซ่อนเล็บที่เมืองสมุทรปราการด้วย<o>> </o>>
แต่ส่วนพระองค์กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญนั้น โดยปกติก็ถ่อมพระองค์ ทรงพยายามที่จะประพฤติตามเยี่ยงอย่างพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เป็นต้นว่าเสด็จลงมาเฝ้าในเวลาออกขุนนาง และในงานพระราชพิธีเสมอเป็นนิจ แต่ไม่เข้าเกี่ยวข้องกับราชการบ้านเมือง เวลาเสด็จประทับอยู่ในพระราชวังบวรก็ไม่โปรดเสด็จออกขุนนางในท้องพระโรง คงออกขุนนางที่โรงรถเหมือนพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ แต่เลิกการเล่นกีฬา และไม่เสด็จไปเที่ยวเยี่ยมเยือนเจ้านาย แม้การฝึกหัดทหารก็เพียงจะรักษาแบบแผนให้คงอยู่”<o>> </o>>
ในรัชกาลที่ ๑ พระเจ้าแผ่นดินและพระมหาอุปราชวังหน้า ทรงร่วมพระครรโภทรเดียวกัน ในรัชกาลที่ ๒ ก็เช่นกัน พระมหาอุปราชทรงเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าร่วมพระครรโภทรเดียวกันกับพระเจ้าแผ่นดิน<o>> </o>>
รัชกาลที่ ๓ พระมหาอุปราช ทรงศักดิ์เป็นพระปิตุลา (อา) ของพระเจ้าแผ่นดิน พระอิสริยยศ เดิมเป็นพระองค์เจ้า<o>> </o>>
รัชกาลที่ ๔ พระมหาอุปราช ทรงพระอิสริยยศพิเศษ เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ ๒ ทรงเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าร่วมพระครรโภทร เดียวกันกับพระเจ้าแผ่นดินเช่นเดียวกับรัชกาลที่ ๑ และ ๒<o>> </o>>
รัชกาลที่ ๕ พระมหาอุปราช พระยศเดิมเป็นพระองค์เจ้าพระราชโอรส พระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ จึงเสมือนทรงรับรัชทายาทของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ผิดกับพระมหาอุปราชแต่ก่อนๆ<o>> </o>>

</td></tr></tbody></table>
ที่มา http://www.sakulthai.com/DSakulcolum...&stauthorid=13
</td> </tr> </tbody></table>

ถ้าอย่างนั้น ทุกสิ่งที่ท่านวังหน้ามีพระบัณฑูรให้สร้าง ก็เรียกบัณฑูรทั้งหมดหนะสิ

เช่น หอกบัณฑูร ดาบบัณฑูร พระราชวังบัณฑูร

จะเข้าใจอย่างนั้นก็เข้าใจไป ไม่ว่ากัน แล้วแต่


.

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=127353&page=11

ว่าไง คุณมันตรัย ,คุณปทุมธานี ,คุณเด็กวัดป่า<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1179325", true); </script> ,คุณอดุลย์ เมธีกุล





คุณมันตรัย ,คุณปทุมธานี ,คุณเด็กวัดป่า<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1179325", true); </script> ,คุณอดุลย์ เมธีกุล และท่านอื่นๆ

ช่วยดูให้หน่อยว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง) ในรูปนี้ เป็นพระแท้หรือพระเก๊
เมื่อตอบแล้ว ขอให้ผู้ที่ตอบและผม ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันตลอดไป และไม่รู้จักกันตลอดไป


ว่าไงครับ ทั้ง 4 คนยังไม่บอกผมเลยว่า แ้ท้หรือเก๊

กล้าๆหน่อย ให้สมเป็นลูกผู้ชาย
.

<!-- / message --><!-- sig --> *********************************************

<table id="post1187537" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">วันนี้, 07:34 AM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #211 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> sithiphong <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1187537", true); </script>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:35 AM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 21,893 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 5,314 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 132,097 ครั้ง ใน 17,971 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 13772


</td> <td class="alt1" id="td_post_1187537" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, กัณท์ภิรมย์, ปทุมธานี</td></tr></tbody></table>
อย่าลืมตอบน๊ะคุณปทุมธานี
</td></tr></tbody></table>

 

http://palungjit.org/showthread.php?p=1187547#post1187547


<table id="post1187541" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">วันนี้, 07:40 AM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #212 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> ปทุมธานี <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1187541", true); </script>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:45 AM
วันที่สมัคร: Feb 2007
สถานที่: คลองหลวง
ข้อความ: 396 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2,634 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 2,652 ครั้ง ใน 392 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 80


</td> <td class="alt1" id="td_post_1187541" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> ผมไม่ยุ่งแล้วยังมายุ่งกับผมอีกหรือ ต้องการให้ตอบก็ตอบ

เก๊ทั้งหมดครับ

คราวนี้พอได้หรือยัง
</td></tr></tbody></table>

อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปทุมธานี
ผมไม่ยุ่งแล้วยังมายุ่งกับผมอีกหรือ ต้องการให้ตอบก็ตอบ

เก๊ทั้งหมดครับ

คราวนี้พอได้หรือยัง
</td> </tr> </tbody></table>
รับทราบครับ

.

ขอบคุณที่ตอบ และตามที่ตกลงก่อนตอบ
" เมื่อตอบแล้ว ขอให้ผู้ที่ตอบและผม ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันตลอดไป และไม่รู้จักกันตลอดไป "

(||)(||)(||)(||)(||)

 

ว่าไง คุณมันตรัย ,คุณเด็กวัดป่า<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1179325", true); </script> ,คุณอดุลย์ เมธีกุล





คุณมันตรัย ,คุณเด็กวัดป่า<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1179325", true); </script> ,คุณอดุลย์ เมธีกุล และท่านอื่นๆ

ช่วยดูให้หน่อยว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง) ในรูปนี้ เป็นพระแท้หรือพระเก๊
เมื่อตอบแล้ว ขอให้ผู้ที่ตอบและผม ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันตลอดไป และไม่รู้จักกันตลอดไป


ว่าไงครับ ทั้ง 3 คนยังไม่บอกผมเลยว่า แ้ท้หรือเก๊

กล้าๆหน่อย ให้สมเป็นลูกผู้ชาย ให้เหมือนกับคุณปทุมธานี
.

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=98668


<table id="post793162" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">04-11-2007, 05:13 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> ยายผีป่า <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_793162", true); </script>
สมาชิก กิตติมศักดิ์
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 05:49 PM
วันที่สมัคร: Nov 2005
สถานที่: ที่แผงหนังสือทั่วประเทศที่จำหน่ายนิตยสารพลังจิต.คอม ไปหาซื้ออ่านสิแล้วจะรู้ว่าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด
อายุ: 40 ปี
ข้อความ: 3,856 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 225 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 31,958 ครั้ง ใน 3,640 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 3340


</td> <td class="alt1" id="td_post_793162" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- icon and title --> อย่ากด "อนุโมทนา" มั่วหากไม่รู้จริงว่าถูก
<hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> กล่อง " อนุโมทนา" หรือ "ไม่เห็นด้วย" นั้นดีมากค่ะ

แต่ยายผีป่าขอเตือนเรื่องการคลิก "อนุโมทนา" กับกระทู้ที่มีการบิดเบือน จาบจ้วง หรือหมิ่นประมาท ต่อพระรัตนตรัย และหลักธรรมคำสอนของพระศาสดา

อย่าคลิก เพราะคนนี้น่าเชื่อถือ อย่าคลิกเพราะคนนี้เป็ฯพวก อย่าคลิกถ้าคนนี้ดังในเวบ (แม้กระทั่งยายผีป่าเอง หากท่านคิดว่าโพสไร้สาระ หรือไม่ถูกต้อง ท่านสามารถคลิกไม่เห็นด้วยได้ค่ะ หรอไม่ต้องอนุโมทนาก็จะดีค่ะ)

การยินดีกับผู้ที่ทำกรรมเช่นนี้

อเวจีรอท่านอยู่ค่ะ

เขาไปไหน เราไปด้วย

เพื่อนกัน ยินดีด้วยกัน รู้เห็นเป็นใจด้วยกัน

ย่อมมีที่ไปที่เดียวกัน

อนุโมทนากับสิ่งที่ถูกต้อง ย่อมมีทางไปดี

ยายขอเตือนเพราะว่า ทุกคนล้วนรู้ไม่หมดไปทุกอย่าง ยิ่งเวบนี้เด็กเยอะมาก สิ่งต่างๆ ที่สื่อนะคะ ขอให้เราเน้นสิ่งที่ใช่จริงค่ะ อย่าเอาจินตนาการที่มันไม่ถูกต้องหรือความคิดที่เป็นมิจฉาทิฐฐิมานำเสนอมากเลยนะคะ

พระอริยะท่านอนุโมทนาและแผ่เมตตาให้เรา ท่านคลิกได้ค่ะ เพราะกรรมอะไรก็ตามท่านไม่ทันแล้ว แต่ถ้าเราไม่มั่นใจว่าเราบารมีถึงขั้นโลกุตระแล้ว

อย่าได้เสี่ยงเลยนะคะ
</td></tr></tbody></table>

<table id="post793760" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> 05-11-2007, 12:39 AM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #16 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> WebSnow <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_793760", true); </script>
เว็บมาสเตอร์ (วีระชัย)
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:34 AM
วันที่สมัคร: Sep 2004
สถานที่: London, England
ข้อความ: 6,342 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 1,226 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 38,768 ครั้ง ใน 4,030 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 50000


</td> <td class="alt1" id="td_post_793760" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> -ปุ่มอนุโมทนา คือ เห็นด้วย ยินดี สนับสนุน (ไม่ใช่ปุ่มกดเพื่อบอกคนว่าฉันได้อ่านแล้ว )
-ปุ่มไม่เห็นด้วย ก็คือ ไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุน

การกดปุ่มอนุโมทนา ใช้สำหรับ แทนคำพูด แทนการโพส

ถ้ากดอนุโมทนาอะไรที่เป็นบุญ ก็ได้บุญ
ถ้าไปกดอนุโมทนากับบาป ก็ได้บาป

ผู้กดปุ่มควรจะระวังและคิดให้ดีก่อนกด

-------------

อ่านเรื่อง อานิสงค์ของการอนุโมทนา
</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post794640" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">05-11-2007, 01:28 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #25 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> โทรศัพท์ <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_794640", true); </script>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: 24-04-2008 08:30 AM
วันที่สมัคร: Mar 2006
ข้อความ: 17 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 3 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 84 ครั้ง ใน 18 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</td> <td class="alt1" id="td_post_794640" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> อยู่ในหนังสือ กระโถนข้างธรรมมาสน์ ของหลวงพี่เล็ก เล่มที่ 3
เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์บ้างครับ


ถาม : ผมผิดไปนิดนึงที่จิตคิดพลาดไปนิดพังเลย คือใจเราอยากให้เขาได้ดีมากที่สุดเพียงแต่ว่าลืมของเดิมเขาไป

ตอบ : ตัวนี้ต้องระวังให้มากที่สุดเลยสำหรับนักปฏิบัติทุกคน เราทำไปถึงตรงไหน ด้วยจิตที่เมตตานะ แต่บังเอิญมันใช้ผิด ด้วยจิตที่เมตตาหวังจะให้เขาได้เหมือนอย่างเราก็แนะนำเขาไป แต่มันกลายเป็นว่าถือเอาทิฏฐิคือความรู้ ความเห็นของตนไปปนกับธรรมะของพระพุทธเจ้าเข้า ไม่ใช่ธรรมะบริสุทธิ์ กลายเป็นกิเลสของเราครึ่งหนึ่ง ระวังให้จงหนักเลย
หลวงพ่อท่านบอกว่า ท่านต้องไปตามแก้เทศน์อยู่เป็นปี ๆ ไอ้เรื่องนิพพานสูญ ท่านเป็นมหาท่านเรียนมานิพพานัง ปรมังสุญญัง นิพพานสูญ เทศน์ไปหลายจังหวัดเลยต้องมานั่งไล่ว่าไปเทศน์ไว้ที่ไหนบ้าง แล้วย้อนกลับไปแก้เทศน์ให้ ถ้าแก้ไม่หมดเขาเป็นมิจฉาทิฏฐิ ซวยหนักเลยนะ ทำคนเป็นมิจฉาทิฏฐิโทษหนักถึงขนาดลงนรกโลกันต์ได้ ไม่ใช่อเวจีเฉย ๆ ก็แปลกใจทำไมโทษหนักถึงลงนรกโลกันต์ได้
ท่านบอกว่าทำให้คนเป็นมิจฉาทิฏฐิ คนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิโอกาสที่จะลงนรกมีมากเกินร้อยเปอร์เซนต์ เมื่อลงนรกไปกว่าจะกลับขึ้นมาเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นถึงมนุษย์แล้วได้เข้าถึงธรรมนะ มันนานแค่ไหน ถ้าหากว่าเป็นมนุษย์ บังเอิญว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิต่อ ทำความชั่วอีกลงนรกอีก เราทำให้เขาห่างความดีขนาดนั้น โทษมันก็เลยหนักมหาศาล ไม่น่าเชื่อเลย สอนคนผิดหน่อยเดียวตัวคนสอนลงโลกันต์ไปเลย<o></o>
</td></tr></tbody></table>

 

บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ และทั้ง 16 ชั้นฟ้าว่า พระพิมพ์กรุวัดพระแก้วมีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อมันตรัย ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้าพระพิมพ์กรุวัดพระแก้วไม่มีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้้ บุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล
การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=127353&page=11


<table id="post1187663" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 09:25 AM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #218 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> มันตรัย <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1187663", true); </script>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:35 AM
วันที่สมัคร: Oct 2006
ข้อความ: 1,220 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 3,670 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 6,752 ครั้ง ใน 1,181 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 435


</td> <td class="alt1" id="td_post_1187663" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> ผมขอตอบเสี่ยสิธิพงเลยนะครับ ว่าพระที่เสี่ยเอาลงถามทั้งหมดนั้นเป็นพระที่เรียกกันในภาพระสากลว่า "เก๊เน่าๆ"ครับ ดูว่าจะเหมือนหยาบคาย แต่ในวงการพระเขาเรียกกันแบบนั้น แต่เสี่ยจะให้ผมสาบาน ผมไม่สาบานนะครับ เพราะใครทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วอยู่แล้ว ตามหลักศาสนาพุทธ ไม่ต้องอ้างนรกสวรรค์ให้เมื่อยปากครับ ถ้าผมทำชั่ว ก็ย่อมได้รับผลกรรมตามที่ผมก่อ แต่ถ้าใครที่แอบอ้างสร้างเรื่องเพื่อรายได้และชักจูงให้คนหลงผิด อย่างนั้นกรรมมันจะต้องตามไป และดูๆแล้วกรรมก็จะทำให้คนเพี้ยนไปจึงหลงอยู่ในแต่สิ่งครอบ
</td></tr></tbody></table>
อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มันตรัย
ผมขอตอบเสี่ยสิธิพงเลยนะครับ ว่าพระที่เสี่ยเอาลงถามทั้งหมดนั้นเป็นพระที่เรียกกันในภาพระสากลว่า "เก๊เน่าๆ"ครับ ดูว่าจะเหมือนหยาบคาย แต่ในวงการพระเขาเรียกกันแบบนั้น แต่เสี่ยจะให้ผมสาบาน ผมไม่สาบานนะครับ เพราะใครทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วอยู่แล้ว ตามหลักศาสนาพุทธ ไม่ต้องอ้างนรกสวรรค์ให้เมื่อยปากครับ ถ้าผมทำชั่ว ก็ย่อมได้รับผลกรรมตามที่ผมก่อ แต่ถ้าใครที่แอบอ้างสร้างเรื่องเพื่อรายได้และชักจูงให้คนหลงผิด อย่างนั้นกรรมมันจะต้องตามไป และดูๆแล้วกรรมก็จะทำให้คนเพี้ยนไปจึงหลงอยู่ในแต่สิ่งครอบ
</td> </tr> </tbody></table>
รับทราบ เรื่องดูพระพิมพ์(พระเครื่อง)

กล้าๆหน่อยมันตรัย กล้าๆหน่อย ไหนบอกว่า ไม่ชอบพวกผิดเพศ ไม่ใช่หรือ อย่าไปดูถูกกัน ดังนั้นทำตัวให้เป็นลูกผู้ชายหน่อยน๊ะ กล้าๆหน่อย ให้ไวด้วยมันตรัย ดูพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2517 ยังดูไม่เป็นเลย แล้วจะไปดูพระ ปี 2400 กว่าๆ

ไม่เห็นยากอะไรเลย โธ่ มันตรัย

ตามนี้เลย

บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ และทั้ง 16 ชั้นฟ้าว่า พระพิมพ์กรุวัดพระแก้วมีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อมันตรัย ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้าพระพิมพ์กรุวัดพระแก้วไม่มีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้้ บุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล
การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป


<table id="post1187679" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 09:35 AM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #220 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> มันตรัย <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1187679", true); </script>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:35 AM
วันที่สมัคร: Oct 2006
ข้อความ: 1,220 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 3,670 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 6,752 ครั้ง ใน 1,181 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 435


</td> <td class="alt1" id="td_post_1187679" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> ตอนนี้กระทู้ที่เขียนและหาข้อมูลเพื่อให้คนที่สนใจพระแท้และหลีกเลี่ยงพระเก๊มือผี กำลังถูกใช้เบี่ยงเบนประเด็น เป็นกระทู้แก้ต่างให้กับคนกลุ่มนึง ถึงกระทู้นี้จะถูกระงับ แต่การเสาะหาข้อมูลเกี่ยวกับพระเก๊เหล่านี้ก็จะยังไม่หมดไป และตราบที่ทางเวปเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนทัศนะคติของผู้คน ให้กลับมาศึกษาพระเครื่องในแนวทางที่ถูกต้องและเป็นสากล ไม่ใช้ความรู้สึกจินตนาการและจิตใต้สำนึกที่ผิดๆมาตัดสิน
<!-- / message --> <!-- sig --> </td></tr></tbody></table>

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=127353&page=12


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มันตรัย
ผมขอตอบเสี่ยสิธิพงเลยนะครับ ว่าพระที่เสี่ยเอาลงถามทั้งหมดนั้นเป็นพระที่เรียกกันในภาพระสากลว่า "เก๊เน่าๆ"ครับ ดูว่าจะเหมือนหยาบคาย แต่ในวงการพระเขาเรียกกันแบบนั้น แต่เสี่ยจะให้ผมสาบาน ผมไม่สาบานนะครับ เพราะใครทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วอยู่แล้ว ตามหลักศาสนาพุทธ ไม่ต้องอ้างนรกสวรรค์ให้เมื่อยปากครับ ถ้าผมทำชั่ว ก็ย่อมได้รับผลกรรมตามที่ผมก่อ แต่ถ้าใครที่แอบอ้างสร้างเรื่องเพื่อรายได้และชักจูงให้คนหลงผิด อย่างนั้นกรรมมันจะต้องตามไป และดูๆแล้วกรรมก็จะทำให้คนเพี้ยนไปจึงหลงอยู่ในแต่สิ่งครอบ



อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
รับทราบ เรื่องดูพระพิมพ์(พระเครื่อง)

กล้าๆหน่อยมันตรัย กล้าๆหน่อย ไหนบอกว่า ไม่ชอบพวกผิดเพศ ไม่ใช่หรือ อย่าไปดูถูกกัน ดังนั้นทำตัวให้เป็นลูกผู้ชายหน่อยน๊ะ กล้าๆหน่อย ให้ไวด้วยมันตรัย ดูพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2517 ยังดูไม่เป็นเลย แล้วจะไปดูพระ ปี 2400 กว่าๆ

ไม่เห็นยากอะไรเลย โธ่ มันตรัย

ตามนี้เลย

บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ และทั้ง 16 ชั้นฟ้าว่า พระพิมพ์กรุวัดพระแก้วมีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อมันตรัย ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้าพระพิมพ์กรุวัดพระแก้วไม่มีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้้ บุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล
การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป
<!-- / message --><!-- sig -->
</td> </tr> </tbody></table>
มันตรัย

ทำอะไร ไม่ใช่ว่าไม่มีใครรู้ ถึงคนไม่รู้ บัญชีของนายนิริยบาล ก็มีปรากฎอยู่แล้ว

แต่รู้เหมือนกันว่า คนอย่างมันตรัย ไม่สนเรื่องบุญ เรื่องบาปอยู่แล้ว ทำอะไร ย่อมรู้อยู่แก่ใจดี กลับไปเป็นเด็กเดินของอย่างเดิมน่าจะดีกว่า

.
อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มันตรัย
ตอนนี้กระทู้ที่เขียนและหาข้อมูลเพื่อให้คนที่สนใจพระแท้และหลีกเลี่ยงพระเก๊มือผี กำลังถูกใช้เบี่ยงเบนประเด็น เป็นกระทู้แก้ต่างให้กับคนกลุ่มนึง ถึงกระทู้นี้จะถูกระงับ แต่การเสาะหาข้อมูลเกี่ยวกับพระเก๊เหล่านี้ก็จะยังไม่หมดไป และตราบที่ทางเวปเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนทัศนะคติของผู้คน ให้กลับมาศึกษาพระเครื่องในแนวทางที่ถูกต้องและเป็นสากล ไม่ใช้ความรู้สึกจินตนาการและจิตใต้สำนึกที่ผิดๆมาตัดสิน
</td> </tr> </tbody></table>
อย่าพึ่งพูดมากเลยมันตรัย

ให้ไวหน่อย ถ้าเก่งจริง

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
รับทราบ เรื่องดูพระพิมพ์(พระเครื่อง)

กล้าๆหน่อยมันตรัย กล้าๆหน่อย ไหนบอกว่า ไม่ชอบพวกผิดเพศ ไม่ใช่หรือ อย่าไปดูถูกกัน ดังนั้นทำตัวให้เป็นลูกผู้ชายหน่อยน๊ะ กล้าๆหน่อย ให้ไวด้วยมันตรัย ดูพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2517 ยังดูไม่เป็นเลย แล้วจะไปดูพระ ปี 2400 กว่าๆ

ไม่เห็นยากอะไรเลย โธ่ มันตรัย

ตามนี้เลย

บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ และทั้ง 16 ชั้นฟ้าว่า พระพิมพ์กรุวัดพระแก้วมีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อมันตรัย ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้าพระพิมพ์กรุวัดพระแก้วไม่มีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้้ บุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล
การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป




<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </td> <td class="thead" width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, มันตรัย, eakbordin, jirautes, noolegza</td></tr></tbody></table>
อย่าเบี่ยงเบนประเด็นซิมันตรัย เคยพูด(โพส)อะไร ต้องกล้ารับหน่อย

ก็ไหนบอกว่า พระกรุวังหน้า หรือพระกรุวัดพระแก้ว เก๊ไง
.