ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๖

รายการฝาก (ไม่ค่อยได้พบเจอ)
ให้บูชาชุดเหรียญเงินบาทขวัญถุง วัดโขงขาว (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก) (ประมาณช่วงปี 2530-2531หรือช่วงปี 2532-2535)ทางวัดโขงขาวจัดสร้าง “เงินขวัญถุง” ขึ้นเพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานทอดกฐิน ของทางวัดโขงขาว โดยมีองค์พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เป็นประธานในพิธี จัดทำเป็นเหรียญบาทล้อมด้วยข้าวเปลือกผูกติดกับเชือกไหมพรม พุทธคุณเด่นด้านโชคลาภเงินทอง ทำมาค้าขึ้น คนทางเหนือมักจะทำเหรียญขวัญถุงล้อมด้วยข้าวเปลือกรอด คือข้าวเปลือกที่รอดจากการสี เป็นเคล็ดรอดพ้นจากอันตรายต่าง ๆ แล้วเป็นโชคลาภ มีเงินทองเข้ามา ออกให้บูชากันน้อยครับ ส่วนใหญ่จะเก็บกัน
เหรียญนี้เพื่อนผมบูชามาจากสายตรงเลยครับ(เชื่อถือได้ครับ) ราคายังติดอยู่ที่ถุงครับ น่าจะเกือบสิบปีแล้ว
ปัจจุบันเล่นหากันหลักพันขึ้นครับ
ตอนบูชามาไม่มีกล่องเดิมให้นะครับ
เขาฝากมาที่ 950 ปิดรายการ (ราคาเบากว่าท้องตลาด) จัดส่ง 40 จองได้สามวัน
ปล.การบูชาเหรียญบาทขวัญถุงนี้ถ้าไม่ได้บูชามาจากวัดเอง ต้องหาบูชาจากที่เชื่อถือได้นะครับ เพราะไม่มีตำนหนิอะไรเลยดูยาก (บางคนเขาดูจากปมไหมที่ผูกครับ ว่ากันว่าฝีมือแต่ละท่านจะเป็นเอกลักษณ์)

 

ขอจองครับ

 

รับ1กระปุกครับ ขอบคุณครับ

 

ขอจอง1แผ่นครับ

 

ขอจองรายการนี้ครับ

 

รับทราบการจองครับเหรียญขวัญถุงครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รับทราบการจองฮู้พระแม่เต๋าบ้อ 1 แผ่นครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รับทราบการจองเหรียญพระสิวลีมหากัจจายนะครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รับทราบการจองยาจินดามณี 1 กระปุกครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

ให้บูชาตะกรุดอิติปิโสหูช้าง (ตะกรุดเชือกแดง) ของพระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิลังการ์ อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
สำหรับตะกรุดรุ่นนี้เป็น เนื้อดีบุก ขนาด ๒x๒ นิ้ว พร้อมปลอก พันเชือกชุบสี ปิดแผ่นทองคำแท้ ตะกรุดนี้เป็นยันต์อิติปิโสหูช้าง หรือยันต์สะท้อนแสงตามสายวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา ซึ่งจะม้วนด้านใน และ ยันต์เพชรหลีกตามตำรา หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ใช้ในทางหลบหลีก แคล้วคลาด ป้องกัน ภัยอันตรายต่างๆ * แถมยังเป็นยันต์ที่จะสะท้อนเฉพาะสิ่งที่ไม่ดี คุณไสย์ จากคนที่ทำไม่ดีใส่เราย้อนกลับไปอีกด้วย ทั้งยังสามารถแปะไว้หน้าบ้านเพื่อป้องกันได้อีกด้วย *
ผมมีแค่ 1 ดอก ให้บูชา 400 ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

ให้บูชาเหรียญพรหมศาสตร์(พระพรหมบรมครู)พิมพ์พระพรหม 8 กร ของพระครูณรงค์ วัดดอน กรุงเทพฯ
สำหรับข้อมูลของเหรียญรุ่นนี้ ผมขอนำข้อความมาจากเกษมธรรมบำเพ็ญบุญมาให้อ่านกันครับ

หลวงพ่อเอท่านเล่าถึงหลวงพ่อณรงค์ แห่งวัดดอนให้ฟังอยู่หลายครั้ง อย่างเมื่อคราวก่อนที่ท่านเล่าถึงการพบเจอกับหลวงพ่อพระครูณรงค์ และการสนทนากันตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งสามารถย้อนกลับไปอ่านได้ครับ
แต่วันนี้แอดจะขอนำเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเหรียญพรหมศาสตร์ที่ว่านี้ จากเรื่องเล่าของหลวงพ่อเอ ซึ่งรับฟังมาจากหลวงพ่อณรงค์โดยตรงแล้วกันครับ
หลวงพ่อเอเล่าว่า เมื่อสนทนากับหลวงพ่อณรงค์ได้สักพักใหญ่ จึงได้ถามถึงวัตถุมงคลของหลวงพ่อณรงค์ว่ามีให้ลูกหลานได้เก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงบ้างไหม(ทั้งๆที่ใจท่านก็ทราบดีว่า หลวงพ่อณรงค์มีวัตถุมงคลที่ยอดเยี่ยมอยู่หลายรุ่น ท่านมองหน้าหลวงพ่อเอนิ่งๆแล้วพูดว่า สนใจด้วยหรือ แน่ใจนะ เลยกราบเรียนท่านไปตรงๆว่า นอกจากตั้งใจมากราบหลวงพ่อให้เป็นบุญเป็นอนุสติแล้ว สิ่งที่สนใจอย่างยิ่ง ก็คือวัตถุมงคลของหลวงพ่อนี่แหละครับ..!
ท่านจึงบอกว่างั้นรอก่อน เดี๋ยวจะเข้าไปหยิบมาให้ โดยที่ไม่มีการดุด่าว่ากล่าวแต่อย่างใด ท่านหายไปนานเกินครึ่งชั่วโมง ในที่สุดท่านก็เดินออกมาหน้านิ่งๆ ในมือถือถุงผ้าห่อเล็กๆ ภายในมีเหรียญพรหมศาสตร์นี้เพียงไม่กี่เหรียญเท่านั้น จึงเรียนถามท่านว่า มีแค่นี้เองหรือครับ..? ท่านมองหน้าบอกว่า จะเอาอะไรเยอะแยะ เราจึงต้องนิ่ง ท่านว่า มากี่คนก็ให้แบ่งๆกัน ตกลงได้แค่คนละ ๒-๓ เหรียญเท่านั้น ดูท่านหวงเสียเหลือเกิน
ต้องขอกระซิบสักนิดว่า ปกติหลวงพ่อณรงค์ท่านจะเป็นคนที่พูดน้อยต่อยหนัก ทั้งวัดจะบอกว่าท่านเป็นพระที่ดุเอามากๆ ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง หรือพูดคุยอะไรกับท่านถ้าไม่จำเป็น แต่อาตมากลับมองว่า พระดีมักจะดุ ครูบาอาจารย์สายเราก็ดุทุกรูปไม่เห็นแปลก ถ้าเราเข้าไปด้วยเจตนาที่ดี ใครเขาอยากจะมานั่งดุกัน เลยอาศัยด้านเข้าสู้...
จึงรวบรวมความกล้าแล้วถามท่านใหม่ว่า ไม่มีรุ่นอื่นๆบ้างหรือครับ ท่านว่ามี แต่ไม่ต้องเอาหรอก เอาแค่รุ่นนี้ไปก็พอแล้ว...ดูสิ ท่านตอบแบบนี้ ทำให้คณะที่ไปได้แต่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก แล้วในที่สุดหวยก็ต้องมาออกที่อาตมาจนได้ เพราะดูถ้าจะไม่มีใครกล้าถามไถ่อะไรทั้งนั้น
อาตมาจึงทำใจนิ่งๆ แล้วถามท่านว่า หลวงพ่อไม่เอารุ่นอื่นๆออกมาให้ทำบุญบ้างหรือครับ พวกเราจะได้ร่วมบุญกัน ครั้นถามไปแบบนี้ ใจได้แต่นึกว่า ท่านอาจไม่คุยด้วยแล้ว หรือไม่ก็อาจถูกด่าจนกลับวัดไม่ถูก แต่ท่านมองหน้านิ่งๆแล้วก็ยิ้ม...คราวนี้ท่านคงเห็นว่าใจสงบดีกว่าตอนแรก
ท่านจึงเริ่มพูดว่า อย่างอื่นก็มี แต่เหรียญนี้เสกล่าสุด ซึ่งได้ใส่ทุกอย่างไปหมดแล้ว วิชาการทั้งหลายที่รู้ก็ใส่ไปหมด เหรียญก่อนๆก็ดีก็เด่นกันไปคนละอย่าง แต่จะพกไปทำไมเยอะแยะ เอาแค่เหรียญนี้ก็พอ เพราะสุดยอดวิชาการทั้งหมดฉันได้ใส่ไว้ให้แล้ว การจะเสกพระพรหมได้ นอกจากต้องสืบสายวิชาลงมาโดยตรง ยังต้องทรงความดีระดับพรหมให้ได้เป็นปกติจึงจะเสกขึ้น ที่สำคัญรุ่นนี้ เป็นการเสกที่ถึงองค์พรหมบรมครู ซึ่งถือว่าเป็นครูใหญ่ที่สุดแล้ว รวมถึงองค์พรหมที่เป็นตัวแทนแห่งสรรพศาสตร์ทั้งปวง ทั้งเทวดาและมนุษย์ต้องกราบไหว้
ที่ผ่านมายังไม่เคยทำถึงที่สุดขนาดนี้ ฉันเห็นไม่กี่องค์ที่เสกได้นะ ฉันจึงชอบใจในเหรียญนี้ของฉันมากๆ ไม่น้อยหน้าใคร และไม่เป็นสองรองใคร มันครบทุกด้าน ยิ่งคนมีความกตัญญูรู้คุณ ยิ่งพกก็ยิ่งส่งไม่ลงต่ำ เพราะองค์พรหมบรมครู ท่านจะแผ่รัศมีแสงสีแห่งพรหมปกป้องคุ้มครองเหรียญ และผู้พกไปด้วยกัน ศัตรูหมู่มาร แม้วิญญาณชั่วร้าย จำต้องล่าถอยย่อยยับจนแตกดับสูญสลาย ด้วยอำนาจรัศมีแห่งองค์พรหมบรมครูนั่นเอง
อาตมาจึงเรียนถามท่านว่า เหรียญนี้เอาจริงๆแล้วเด่นด้านไหนกันแน่ครับ ท่านว่าที่สุดทุกด้านนั่นแหละ อย่าถามมาก ถ้าพกแล้วจิตสงบก็จะทำให้มีสมาธิง่าย เมื่อมีสมาธิ ปัญญาก็จะดีทั้งทางโลกและทางธรรม ดังนั้น ถ้าคนที่กำลังเรียน กำลังศึกษาก็ยิ่งได้ผลดี ถ้าเรียนธรรมะจิตใจก็จะเข้าถึงธรรมได้ดี เพราะฉันเน้นเรื่องนี้มาโดยตลอด
ส่วนเรื่องบู๊ไม่ต้องพูดถึง ฉันก็ไม่ชอบให้ใครมารังแกได้ง่ายๆหรอก ได้ป้องกันและให้แคล้วคลาดไว้เต็มที่เลย ส่วนเรื่องเมตตานั้น องค์พรหมบรมครูท่านมีล้นเหลือ เมตตามากเท่าไหร่ ลาภก็มากเท่านั้นแหละนะ...
ปกติฉันก็ไม่เคยต้องมานั่งอธิบายเรื่องพวกนี้ให้ยุ่งนักหรอก...เอาเป็นว่า ใครไม่เอาก็ไม่ต้องเอา ไม่เสนอให้ ไม่ง้อใคร ไม่มีใครสนใจก็เก็บไว้ เพราะของไม่เสีย และไม่ให้เอาเยอะด้วย ต้องแบ่งกันใช้ ต้องเห็นคุณค่า ของดียังไงมันก็ดีอยู่วันยังค่ำ ต่อให้ฉันตายไปแล้วก็เถอะ...
อาตมาได้แต่นึกในใจว่า น้อยไปสิที่จะไม่เอา มากกว่านี้ก็ยังเอา แต่ที่ท่านยอมพูดให้ฟังอาจเพราะวันหนึ่ง อาตมาคงได้มีโอกาสมาอธิบายขยายผลให้ลูกหลานทุกคนได้รับรู้ ถึงเกียรติยศและคุณงามความดีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูณรงค์ รวมถึงความเป็นสุดยอดแห่งวัตถุมงคลร่วมสมัยรุ่นนี้ เพราะท่านภูมิใจนำเสนอที่สุด คล้ายเป็นการทิ้งทวนให้โลกได้จำว่า วัตถุมงคลของท่าน ก็ไม่เป็นสองรองใครในสยามประเทศนี้เช่นกัน
รวมความว่า ท่านบอกดีทุกอย่าง ครบทุกอย่าง อาตมาจึงไม่กล้าถามอะไรต่อไป เพราะเท่าที่ทราบท่านก็เปิดให้เต็มที่แล้วจริงๆ เมื่อทำบุญกับท่านเสร็จ จึงลาท่านแบบไม่รีรอ
แต่แปลกตรงที่เมื่อกราบลาท่านแล้ว คราวนี้ท่านกลับคุยต่อ ซึ่งเป็นเรื่องของกรรมฐานล้วนๆ พูดตั้งแต่การฝึกขั้นเริ่มต้น จนชนฌาน ๔ รวมถึง การสูญสลายของทุกสรรพสิ่ง ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร เสื่อมสลายตายพัง ไม่จีรังยั่งยืน คงเหลือแต่บุญกุศลเท่านั้น ที่จะพาเราไปยังเป้าหมายได้...เพียงเท่านี้อาตมาก็ชื่นใจอย่างที่สุด จึงรีบรุดกราบลาท่านเป็นวาระที่สอง
เมื่อกราบเสร็จกำลังจะลุก ท่านพูดต่ออีกว่า เดี๋ยวนะ ขอแนะอะไรไว้ให้อีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเหรียญนี้...เอาล่ะสิ งานนี้ ยาวไปเลยครับหลวงพ่อ
ท่านเมตตาบอกว่า ถ้าจะใช้เหรียญนี้ให้ได้ผลดี เมื่อนำกลับไปบ้าน ให้หาพานปูผ้าขาว แล้วนำเหรียญพรหมบรมครูนี้วางไว้บนผ้าขาว จากนั้นให้หาพวงมาลัย ๓ ชาย ขอย้ำว่า ๓ ชาย พร้อมกับ ธูป ๓ ดอก เทียนเหลืองหนัก ๑ บาท สองเล่ม มาวางไว้บนพานนั้น เป็นการแสดงความเคารพ และเป็นการอัญเชิญองค์พรหมบรมครู ลงสถิตย์ประสิทธิ์เหรียญเชื่อมกับตัวเรา โดยให้เราอธิษฐานกับพานดังกล่าวหน้าหิ้งพระ ว่าขอเคารพนบไหว้องค์พรหมบรมครูให้ช่วยสงเคราะห์อนุเคราะห์ ข้าพเจ้าชื่อ......นามสกุล....จากนี้เป็นต้นไป เมื่ออธิษฐานแล้วท่านว่า ให้ทิ้งไว้สัก ๓ วัน แล้วค่อยนำมาพกใช้ ถ้าพวงมาลัยเหี่ยวเฉาไปก่อนก็ให้ลาทิ้งไป แต่เหรียญพรหมที่อยู่บนผ้าขาว ต้องอยู่ให้ครบอย่างน้อย ๓ วัน แล้วจึงนำมาใช้ได้ ถ้าทำแบบนี้ อะไรที่ไม่ดีไม่งาม จะไม่สามารถมาแฝงหรือทำอันตรายเราได้เลย
ท่านพูดต่ออีกว่า องค์พรหมบรมครูนั้น ชอบคนมีศีลมีธรรม ชอบคนไหว้พระสวดมนต์ ถ้าพกเหรียญนี้ด้วยแล้ว จะขออะไร มักสำเร็จผลอย่างรวดเร็วแบบปาฏิหาริย์เลยนะ ลองทำดูก็ได้ ท่านพูดเสร็จแล้วก็หัวเราะ
อาตมานึกในใจทันทีว่า ท่านยอมเปิดให้หมดเลยหรือนี่ เห็นชัดเลยว่า ท่านมีความละเอียดอ่อน และให้ความสำคัญกับเหรียญพรหมบรมครูนี้อย่างมาก ยิ่งเราให้ความเคารพต่อเหรียญนี้มากเท่าไหร่ ท่านก็ยิ่งสงเคราะห์เรามากมายเท่านั้น สาธุ..สาธุ..สาธุ...เป็นบุญของลูกหลานจริงๆหนอ
อาตมาปลาบปลื้มใจอย่างยิ่ง รีบกราบลาท่านอีกครั้ง เพราะการรบกวนพระระดับนี้ ย่อมไม่ดีต่ออาตมาในอนาคตเป็นแน่ ลาที่ ๓ จึงเกิดขึ้น ตามที่เขาว่า กราบ ๓ ลานั้นมีอยู่จริง...เอวํ
นี่เป็นเพียงเกร็ดเล็กๆน้อยๆตามที่หลวงพ่อเอได้เล่าเกี่ยวกับเหรียญพรหมศาสตร์นี้ให้ฟัง ซึ่งถ้าไม่ได้ความจำระดับหลวงพ่อเอท่าน ป่านนี้แอดก็คงไม่รู้จะไปงมข้อมูลจากที่ไหนมาให้ลูกเพจที่สนใจ ได้รับรู้รับฟังกัน ต้องกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเอเป็นที่สุด ที่ได้จุดประทีปคือปัญญาให้พวกเราเหล่าศิษย์ได้เปิดหู เปิดตา เปิดใจ ว่าของดีที่ยังจับต้องได้นั้นมีอยู่จริง
ของดีระดับตำนานขนาดนี้ เป็นเหรียญที่หลวงพ่อณรงค์เอง ก็ยังท้าให้ลูกศิษย์ไปลองทำและนำไปใช้ ถ้าไม่ได้ผลจริงให้เอามาคืนกู พวกเราลองคิดดูก็แล้วกัน แต่ถ้าคิดนานอาจไม่ทันก็เป็นได้ เพราะของดีมักมีน้อย...แอดมินห่วงใย
_________________
สำหรับเหรียญพรหมศาสตร์มีทั้งหมด ๓ พิมพ์
๑.พิมพ์พรหม ๘ กร ด้านหลังยันต์
๒.พิมพ์พรหม ๔ กร ด้านหลังยันต์
๓.พิมพ์พรหมทั้ง ๒ ด้าน ด้านหนึ่ง ๘ กร ด้านหนึ่ง ๔ กร
นอกจากนั้นเหรียญพรหมศาสตร์รุ่นนี้ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ของวัดดอน เมื่อเดือนกันยายน ปี ๒๕๖๕ มีคณาจารย์ระดับประเทศในยุคปัจจุบันหลายรูป ร่วมกันอธิษฐานจิตปลุกเสกอย่างเนืองเเน่น อาทิ
หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังการ์
หลวงพ่อสุรศักดิ์ วัดประดู่
หลวงพ่อสมชาย วัดปริวาส
หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์ เเละ อีกหลายต่อหลายรูปด้วยกัน

พระอาจารย์บ๊ะ เเห่งวัดโพธิลังการ์ อินทร์บุรี ท่านเคยบอกว่า
“ หลวงพ่อณรงค์เก่งที่สุดในพระนคร อำนาจใจท่านเหมือนกับไฟ ๓,๐๐๐วัตต์ เเละวัตถุมงคลรุ่นไหนเน้นลาภท่านจะเสกด้านลาภอย่างเดียว เวลาใช้ได้ผลก็รับเเบบจุก ๆ ไปเลย ”
อีกองค์หนึ่งคือพระอาจารย์เอ ท่านเคยเล่าว่า “ วัตถุมงคลที่เปล่งรัศมีสีสันเเห่งพรหมออกมา ในชีวิตท่านเคยเห็นแค่ ๒ องค์ คือ ของหลวงพ่อพรหม วัดช่องเเค เเละ หลวงพ่อณรงค์ วัดดอน ยานนาวา เท่านั้น ”

ได้นำเข้าพิธีประวัติศาสตร์ของวัดบรมสถล (วัดดอน) ยานนาวา กับพิธีพุทธาเทวาภิเษก เหรียญเวสสุวรรณเทพบุตร " ลาภผล พูนทวี จำปี จักรเพชร ๖๕ " วันที่ ๑๘-๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ณ อุโบสถวัดบรมสถล เพราะครั้งนี้ได้รับเมตตาจากพระเกจิอาจารย์ผู้มากด้วยศาสตร์วิชาทั่วฟ้าเมืองไทย โดยเฉพาะได้เมตตาจากพระราชมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่พัฒน์ วัดห้วยด้วน) เมตตาอธิษฐานจิตมวลสารให้
อีกสิ่งหนึ่งซึ่งถือว่าได้รับความเมตตาอย่างหาที่สุดไม่ได้จากเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานจุดเทียนชัย และมีพระอาจารย์ร่วมเสก ดังรายชื่อข้างต้น
คำบอกเล่าพระเกจิอาจารย์หลังพิธี
พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิลังการ์ " เป็นพิธีดี พระครูณรงค์ท่านลงมาเอง องค์ท้าวเวสสุวรรณก็ลงมาประทับเอง บอกเลยว่าดี "
พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน " เมื่อกระผมได้เข้าสมาธิได้ก็ไม่ได้ดูฟ้าดูดินแล้วเพราะว่าเคยชินกับการทิ้งไปเลย แต่ว่าครั้งนี้กลายเป็นทิ้งไม่ขาด เห็นพระสุทธิเทพเครื่องทรงระยิบระยับสว่างไสวมาก ตอนแรกก็เป็นองค์เล็ก ๆ อยู่ที่จุดศูนย์เหนือสะดือ หลังจากนั้นก็ค่อยๆขยายองค์ใหญ่ขึ้นมาจนกลายมาซ้อนทับกับร่างกายนี้เมื่ออยู่ในลักษณะอย่างนั้นได้ระยะหนึ่งพระองค์ท่านก็ขยายพระวรกายจนใหญ่โตคลอบคลุมไปทั้งพิธี เมื่อพระองค์ท่านบอกเต็มแล้วกระผมอาตมภาพก็คลายสมาธิออกมา "
.
หลวงพ่อแป๊ะ วัดสว่างอารมณ์ " แรงมาก ดีมาก กูถึงกับสั่นเลย "
.
หลวงพ่ออนันต์ " แรงจริง ๆ ดีจริง ๆ "
.
หลวงตาสมพร " ศักดิ์สิทธิ์มาก ขณะตั้งจิตสมาธิถึงกับสะบัดไป ๓ รอบ บอกเลยว่าดีมาก ๆ "
มีอยู่ 3 เหรียญ ให้บูชาเหรียญละ ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวัน

 

ให้บูชาเต่าสำลี บรรจุ เกศา จีวร พระธาตุข้าวบิณฑ์ ของหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) ของ วัดบ้ายห้วยน้ำขาว ปี 63
สำหรับรุ่นนี้มีข้อมูลดังนี้
เต่าสำลีรุ่นนี้เข้าพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๓ ณ วัดบ้านห้วยน้ำขาวมีครูบาอาจารย์อธิษฐานจิต ดังนี้
๑. หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ
๒. พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
๓. พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิลังการ์
๔. พระอาจารย์เอกลักษณ์ วัดพุทธพรหมยาน
พระอาจารย์เล็กเมตตา ท่านได้พูดไว้ในเก็บตกบ้านเติมบุญเดือนตุลาคม 63 ว่า
พระอาจารย์เล่าว่า “งานพุทธาภิเษกที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากครูบาอาจารย์ที่มาสงเคราะห์ตามปกติแล้ว ก็มีระดับท่านอาจารย์ปู่ ก็คือหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอมาด้วย อาตมาเองดีใจมาก เพราะว่าโดยปกติแล้วลืมหลวงปู่สุ่น..! เป็นเหลนศิษย์ที่น่าเตะมาก..ปู่ทวดทั้งองค์ยังลืมได้..!
เพราะว่าตอนกราบอาราธนาบารมีพระ ก็จะไล่จากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง หลวงปู่เนียม วัดน้อย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็คือมาตามลำดับสายครูบาอาจารย์ แต่ลืมหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ ที่เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ปานไป ท่านมาสงเคราะห์เตือนว่างานของท่านอย่าลืมไปด้วย
ความจริงท่านไม่ต้องเตือนอาตมาก็เต็มใจที่จะไปอยู่แล้ว คราวนี้ด้วยความที่ท่านเมตตามา ก็เลยขอท่านสงเคราะห์เรื่องของวัตถุมงคลที่ ดร.พระครูโรจน์ท่านทำเอาไว้เป็นคันรถ”
“งานนั้นอาตมาเครียดเลย เพราะว่าข้าวของเยอะมาก สารพัดสารเพปนเปกัน ประมาณว่าตีอวนได้ปลามาทั้งทะเล มีปลามาสารพัดชนิด ก็เลยต้องค่อย ๆ ว่าไปทีละอย่าง เสกนานหน่อย เพราะว่าเรื่องของวัตถุมงคลนั้น ถ้ากระแสขัดกัน บางทีก็เอาไปใช้แล้วไม่ได้ผลตามสายนั้น ๆ
คำว่า กระแสขัดกันก็คือ สมมติว่าของมาทางสายอยู่ยงคงกระพัน แต่ว่าเราถนัดในสายเมตตามหาลาภ ถ้าขอบารมีพระสงเคราะห์ไปสายเดียว ส่วนอื่นก็จะโดนล้างทิ้งหมด เพราะฉะนั้น..ก็เลยต้องค่อย ๆ ว่าไปทีละอย่าง ซึ่งทำให้ค่อนข้างจะช้ามาก

สมัยที่หลวงปู่ครูบาวงศ์จัดสร้าง ท่านจะปั้นเต่าด้วยมือองค์ท่านเอง ท่านบอกว่าใครบูชาเต่าสำลี น้ำตาซักหยดก็บ่อฮื้อเซี่ยง(น้ำตาสักหยดก็ไม่ให้เสีย)ครับ ราคาเต่าสำลีของหลวงปูครูบาวงศ์หายากและแพงครับ น่าจะอาราธนารุ่นนี้ใช้แทนได้ครับ
ผมมี่อยู่แค่ 1 องค์ ให้บูชาองค์ละ 200 ปิดรายการ บาท จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

ให้บูชาเหรียญหนุนดวง เนื้อโลหะชุบทอง ของพระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกาเสก อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
ซึ่งเหรียญนึงประกอบด้วยยันต์ 3 ดวง คือ ดวงประสูติ ดวงตรัสรู้ ดวงปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า
ท่านกล่าวว่า ค้ำหนุนดวงชะตาตลอด24ชั่วโมงที่ใส่
เล่าให้ฟัง...
ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อ
ท่านให้จัดสร้างเหรียญ ค้ำดวงหนุนดวง ขึ้น ท่านเคยบอกว่า กะลาพระราหู เอาไว้แก้ดวงตกในช่วงเวลาที่ได้รับอิทธิพลจากราหูเท่านั้น ...
แต่เหรียญจะหนุนดวงค้ำดวงตลอดเวลา24ชม. ที่ใส่ จึงต่างกันมาก
หลวงพ่อบอกว่า เหรียญรุ่นนี้สร้างยากมากๆ ต้องตามฤกษ์ที่พิเศษ คือ เพชรฆาตฤกษ เท่านั้น
ฉะนั้น นี่คือวาระเดียวที่ท่านอาจจะได้รับความโชคดีนั้น เพราะผมมั่นใจว่า
หลวงพ่อไม่ทำให้แค่หนุนดวงหรอก เอาแค่จะสร้างเหรียญนี้ก็เจอเรื่องแปลกๆ แล้วนะครับ เหรียญนี้ต่อไปผมเชื่อว่าคงจะเป็นเหรียญหนึ่งในดวงใจหลายๆท่าน ที่หลวงพ่อท่านเมตตามอบให้นะครับ
ถามว่า ทำไมต้องหล่อพระในวันวิสาขบูชาและเลือกที่จะหล่อแทนการปั้ม
ผมเรียนแบบนี้นะครับ ในส่วนตัวคิดว่า ไม่มีวันไหนที่จะดีกว่า และสำคัญไปกว่า วันที่พระพุทธเจ้าได้ ประสูติ ตรัสรู้ และ ปรินิพพาน อีกแล้ว จึงเลือกที่จะทำการหล่อพระเพื่อสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย อีกทั้งวันดังกล่าว
ตามตำราโบราณจารย์ใช้เพื่อหนุนดวงพระชะตาไม่ให้ตกต่ำอีกด้วย
เพราะอะไรถึงเป็นหนุนดวงด้วย ก็เพราะเป็น ดวงพระพุทธเจ้า นะครับ ...
คุณพระพุทธเจ้า ไม่มีประมาณ พุทธอัปมาโณ...
เชื่อได้ว่า งานนี้ ไม่ธรรมดาแน่นอน...
ขอบคุณเนื้อจากที่มาดีๆ จากพี่ท่านหนึ่ง ผมเรียบเรียงมาอีกที
หลวงพ่อพิณ วัดอุบล
นั้นแลสุดยอดต้นตำหรับ เหรียญสามยันต์ดวงพระพุทธเจ้า หนุนดวง
ของเก่าต้นตำหรับกี่หมื่นไม่รู้ดูไม่เป็น เลยเอาของใหม่ที่ท่านมาช่วยสงเคราะห์เสก
แอบบอก...
อ้อ ลืมเล่า หลวงพ่อพิณ วัดอุบลวรรณาราม เจ้าตำราหนุนดวง เรียกมงคล 8 ประการมาล้อมให้ ... หลวงปู่ซวง หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเกรียง หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อพรหม หลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อฤาษี หลวงพ่อแพ ฯลฯ...
ให้บูชาเหรียญละ ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

ขอจอง1เหรียญครับ

 

รับทราบการจองเหรียญพระพรหม 8 กร ครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

ให้บูชารูปหล่อช้างพญางาเขียวศัตรูพินาศ(พญาช้างปู้ก่ำงาเขียว) ช้างเผือกคู่บารมีพระนางเจ้าจามเทวี เนื้อโลหะทองเหลืองนอกปัดเงาจำนวนการสร้าง ๘๐๐ องค์ สำหรับเนื้อนี้ สร้างปี 59

ข้อมูลเกี่ยวกับพญาช้างปู้ก่ำงาเขียว จากเว็บวัดท่าขนุน (ซึ่งไม่ใช่การเสกรุ่นนี้นะครับ)
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวันที่ ๒๗ ไปพุทธาภิเษกที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ญาติโยมทำบุญกับอาตมาไว้มาก อาตมาก็ยกเข้ากองกฐินของวัดไป ตุ๊พ่อสิงห์ท่านไม่ยอม ท่านคว้าซองไปเรี่ยไรโยมมาถวายใหม่ ท่านบอกว่าอย่าไปใส่ขัน ใส่ขันแล้วครูบาเล็กท่านคืนมาหมด ท่านเลยไปเรี่ยไรโยมมาใหม่ ตั้งใจจะถวายกลับวัด อาตมากลับวัดก็เอาเข้าบัญชีสร้างพระทองคำ เห็นศรัทธาโยมอยากทำก็ต้องการให้เขาได้บุญมาก นับไปนับมาตั้ง ๓ หมื่นกว่าบาทก็ตกใจ ทำไมถวายกันมาเยอะนัก
ที่ขำที่สุดก็คือ ไม่รู้หรอกว่าที่นั่นมีช้างของท่านแม่จามเทวีอยู่ ท่านแม่จามเทวีมีช้างคู่บารมี ซึ่งพอพระองค์ท่านขึ้นครองราชย์ก็ตั้งให้เป็นพญางาเขียวศัตรูพินาศ คำว่า "เขียว" ก็คือดำนั่นแหละ เป็นช้างเผือกงาสีดำ คำว่า "นิล" บางคนเขาบอกว่าเป็นสีเขียว บางคนบอกว่าเป็นสีดำ ต้องเข้าใจว่าดำจนเขียวเป็นอย่างไร ดำจริง ๆ แบบที่เขาบอกว่าพระรามผิวเขียว จริง ๆ แล้วก็คือดำมาก
คราวนี้อาตมาไปทำบวงสรวงให้ ปรากฏว่าพญาช้างท่านก็มา พญาช้างนี้เขาเรียกทั่ว ๆ ไปว่าปู้ก่ำงาเขียว ก็คือช้างพลายงาดำ คราวนี้พอท่านมา ท่านบอกว่าขอพวงมาลัยสักพวงหนึ่ง เพื่อแสดงออกว่ายินดีให้ท่านมาช่วยงาน จึงเรียนให้ตุ๊พ่อสิงห์ทราบ อาตมาก็ยังคิดว่าต้องไปถึงโน่น อนุสาวรีย์พระแม่เจ้าจามเทวีที่ในตัวเมืองลำพูน เพราะว่าเขาทำอนุสาวรีย์รูปช้างปู้ก่ำงาเขียวที่นั่น ปรากฏกว่าตุ๊พ่อสิงห์สร้างช้างไว้หน้าศาลา อาตมาไม่เคยมองเห็นเลย เพราะว่าทุกครั้งที่ไปงานจะติดเต็นท์โรงทาน แล้วคนเต็มไปหมด มองไม่เคยเห็นช้างสักที พญาช้างปู้ก่ำงาเขียว ที่ออกรบที่ไหนไม่เคยแพ้ ช่วยให้พระแม่เจ้าจามเทวีสามารถสถาปนาอาณาจักรหริภุญชัยได้ยิ่งใหญ่ ครอบคลุมทั่วทั้งภาคเหนือ
เก็บตกบ้านวิริยบารมี พฤศจิกายน ๕๖
พระแม่เจ้าจามเทวีมีสัตว์คู่พระทัยอยู่ ๓ ชนิด อย่างแรกเป็นช้างทรง ชื่อ พญางาเขียวศัตรูพินาศ ชาวบ้านเรียกว่า ปู้ก่ำงาเขียว คำว่าปู้คือช้างตัวผู้ ช้างพลายนี่เอง คำว่าเขียวของโบราณก็คือดำ ดังนั้น..เราจะเห็นว่าพระรามมีร่างกายสีเขียว ก็คือสีดำ คงจะดำสนิทที่เรียกว่าดำจนเขียว ดังนั้น ช้างพลายคู่พระทัยของพระนางเจ้าจามเทวีเป็นช้างเผือกงาดำ
เก็บตกเก็บตกงานสงกรานต์ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๔

ดังนี้นรุ่นนี้พญาช้างปู้ก่ำงาเขียว ท่านก็มาช่วยเสกครับ ที่จังหวัดลำพูนจะมีกู่ช้าง กู่ม้า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งของจังหวัดลำพูน
ประวัติ : กู่ช้าง กู่ม้า เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่คู่กัน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกแห่งหนึ่งที่ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือ เมื่อต้องการ สมหวังในสิ่งใด ก็มักจะมา ขอพรกันที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นทั้งโบราณสถานที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ตลอดจนเป็น ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของคนในชุมชน ด้วยความเชื่อว่าเป็นสุสานช้างศึก - ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี
กู่ช้าง ตามตำนานเล่าว่าสร้างขึ้นเพื่อบรรจุซากพระยาช้าง ชื่อ ปู่ก่ำงาเขียว หมายถึงช้างสีคล้ำ งาสีเขียว เป็นช้างคู่บารมีของ พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย ปู่ก่ำงาเขียวเป็นช้างที่มีฤทธิ์มาก เมื่อออกศึกสงคราม เพียงแค่ช้างหันหน้าไปทาง ศัตรู ก็ทำให้ศัตรูอ่อนแรงลงได้ หลังจากช้างปู่ก่ำงาเขียวล้มเมื่อวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 พระนางจามเทวีโปรดให้นำซากช้างมาฝังไว้ที่นี่ และเนื่องจากเมื่อยังมีชีวิตอยู่เป็นช้างที่มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ หากงาช้างชี้ไปทางใด ก็จะทำให้เกิดภัยพิบัติและผู้คนล้มตาย พระนางจึงโปรด ให้สร้างเจดีย์ทรงสูงครอบไว้โดยให้ปลายงาชี้ขึ้นฟ้า กู่ช้าง เป็นเจดีย์ฐานเขียงกลม ซ้อนเหลื่อมกันขึ้นไปห้าชั้น รองรับฐานบัวคว่ำ องค์ระฆังเป็นทรงกลม แต่จะยืดสูงขึ้นไปกว่าปกติ ลักษณะคล้ายทรงกรวยก่อด้วยอิฐสูง ประมาณ 30 เมตร ยอดเจดีย์ไม่แหลมอย่างเจดีย์ทั่วไป แต่เป็นยอดตัดมีปล่องคล้ายบ่อน้ำด้านบน ลักษณะคล้าย เจดีย์บอบอคยีใน อาณาจักรพยู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของพม่า และ เจดีย์ง๊ะจเวนะตาว ในเมืองพุกาม และเจดีย์บริวารรอบๆ เจดีย์มหาโพธิ์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย สันนิษฐานได้ว่ากู่ช้างได้รับอิทธิพลมาจากเจดีย์แบบพม่า
ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือกู่ช้างมาก มีการสร้างศาลเจ้าพ่อกู่ช้างไว้ในทางทิศตะวันออกใกล้กับองค์เจดีย์ด้านหน้า ศาลเจ้าพ่อกู่ช้าง มีรูปปั้นจำลองของปู่ก่ำงาเขียว เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มาสักการะ เชื่อกันว่าหากได้ลอดท้องพระยาช้างเชือกนี้ จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา ในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี จะมีงานรดน้ำดำหัว และบวงสรวงเจ้าพ่อ เพื่อขอขมาลาโทษ และขอพรให้ปกปักษ์รักษาประชาชนจากความทุกข์ทั้งปวง

ฝากมา 1 องค์ให้บูชาองค์ละ 500 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

ให้บูชาเหรียญหลวงพ่อนั่งรับแขก เหรียญศิษย์บูชาพระคุณหลวงพ่อ ลาภ ผล พูน ทวี เนื้อทองทิพย์ ของ วัดบ้านห้วยน้ำขาว จ.กาญจนบุรี
สำหรับรุ่นนี้มีดังนี้
บวงสรวงพุทธาภิเษก
โดยหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ พระอาจารย์เอกลักษณ์ วัดพระพุทธพรหมยาน
ณ.วัดบ้านห้วยน้ำขาว วันที่๑๘เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔ ในพิธีนี้ได้สวดพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ
ท่านเมตตาบอกว่า ท่านจะออกจะออกก็ออกไม่ได้ ต้องเสกไปเรื่อยๆ รุ่นกันโรคระบาดได้ให้อยู่ห่างจากคนให้เกิน ๒ เมตร....
ถ้าเป็นสายเรา ตอนเสกวัตถุมงคลก็แปปเดียวละพระท่านสงเคราะห์ แต่นี้ทำมาหลายประเภท เช่น เมตตา มหาลาภ ป้องกัน คงกระพันชาตรี รักษาโรค เราก็ต้องนั่งทำทีละอย่าง จนกว่าจะเต็ม ทำมาแล้วนิ เสียดายของเลยต้องนั่งเสกนาน
สนทนากับหลวงพ่อหลังเสกวัตถุมงคล
ที่พระอาจารย์ เลือกทำเหรียญแบบนี้เพราะ สมัยเป็นสามเณรเคยทำรูปหลวงพ่อรับแขกแล้วเป็นเนื้อผง เป็นรูปที่คุ้นชินเคยเห็นบ่อยมากๆ เป็นภาพหลวงพ่อรับแขก ที่ตึกรับแขก ในสมัยตอนองค์หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่จนถึงวาระสุดท้ายของท่าน เพื่อเป็นสังฆานุสติ ระลึกถึงคุณความดี และความเมตตาของหลวงพ่อ และในครั้งพุทธาภิเษกในรอบกฐินสามัคคี พระอาจารย์จัดโซฟา และตั้งรูปนี้หลวงพ่อไว้ที่โต๊ะ หลังหลวงพ่อเล็กพุทธาภิเษกเสร็จ ก่อนหลวงพ่อท่านลงไปกราบตรงโซฟา และพูดกับพระอาจารย์ว่า ถ้าหลวงพ่อมาให้ผมมาทำไมนิ ผมไม่ต้องมาก็ได้ ยิ่งพอฟังแล้วพระอาจารย์น้ำตาไหล เพราะ ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อวัดท่าซุง อันหาประมาณมิได้ ได้มาทำวัตถุมงคลให้เรา และสงเคราะห์คณะลูกหลาน
ครั้งนี้พระอาจารย์ได้ทำเหรียญพระเดชพระคุณหลวงพ่อรับแขก รอบข้างเหรียญเป็นปล้องอ้อย ชาวจีนถือเป็นสัญญาลักษณ์ แห่งความกตัญญู หลังเหรียญ ลาภ ผล พูน ทวีมียันต์มหาเศรษฐี ซึ่งหลวงปู่ปานได้ถ่ายทอดวิชาจนมาถึงหลวงพ่อเล็ก และพระอาจารย์ก็รู้จักยันต์นี้มาตั้งแต่สมัยเป็นสามเณร จึงสร้างเหรียญนี้เพื่อบูชาพระคุณครูบาอาจารย์
ได้สนทนากับพระอาจารย์ท่านหนึ่งว่า " หลวงพ่อเอาเหรียญวัดคุณไปลงในเว็บวัดท่าขนุน ว่า เหรียญทำน้ำมนต์ วัดบ้านห้วยน้ำขาว ผมถามว่าเจ้าหน้าที่พิมพ์เองมั้ง ท่านบอกถามเจ้าหน้าที่แล้ว ว่า หลวงพ่อเป็นคนบอกให้เจ้าหน้าที่ในเว็บวัดท่าขนุน ลงว่าเหรียญทำน้ำมนต์ วัดบ้านห้วยน้ำขาว ครับ " พระที่ท่านสนทนา บอกว่า โห้ ของดีราคา ไม่แพงนะคุณพระ และหลวงพ่อท่านเมตตา สงเคราะห์ขนาดนี้เลย

มีอยู่ 1 เหรียญ ให้บูชาเหรียญละ 300 ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

ให้บูชาเหรียญเศรษฐี เนื้อทองเหลือง ของ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ จ.ลำพูน ปี 60 ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ครึ่งองค์ ด้านหลังยันต์พระคาถาเงินล้าน และยันต์เงินไม่ขาดบ้าน จัดสร้างที่ระลึกในงานสืบชะตาหลวงพ่อพระมหาสิงห์ วิสุทโธ อายุครบ 80 ปี ทำพิธีพุทธาภิเศกในพระอุโบสถมหาอุด โดยพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวงค์ หลวงพ่อพระมหาสิงห์ วิสุทโธ ครูบาเหนือชัย ร่วมแผ่เมตตาจิต เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2560 ครับ เด่นด้านลาภมาก รุ่นนี้พุทธาภิเษกพร้อมกับรูปหล่อลอยองค์ช้างพลายประกายแก้ว
ให้บูชา 200 ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

ให้บูชาเหรียญเศรษฐี เนื้อตะกั่ว ของ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ จ.ลำพูน ปี 60 ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ครึ่งองค์ ด้านหลังยันต์พระคาถาเงินล้าน และยันต์เงินไม่ขาดบ้าน จัดสร้างที่ระลึกในงานสืบชะตาหลวงพ่อพระมหาสิงห์ วิสุทโธ อายุครบ 80 ปี ทำพิธีพุทธาภิเศกในพระอุโบสถมหาอุด โดยพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวงค์ หลวงพ่อพระมหาสิงห์ วิสุทโธ ครูบาเหนือชัย ร่วมแผ่เมตตาจิต เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2560 ครับ เด่นด้านลาภมาก ปลุกเสกพร้อมรูปหล่อลอยองค์ช้างพลายประกายแก้ว
ให้บูชา 300 ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
ปล.ให้บูชาเท่ากับราคาที่วัดให้บูชาครับ เมื่อปี 60

 

ขอจองครับ