สอยธรรม มาเผื่อแผ่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 16 มิถุนายน 2008.

  1. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ลุยต่อไปเลย ไม่ต้องดัดแปลงอะไร อยากลุยกับ อ.ขันธ์ ก็ลุยไปเลย

    ไม่ว่าผลออกอย่างไร ก็คือ ผล ทั้งนั้นแหละ ไม่มีเสียหายหรอก

    จะสกิด อ.ขันธ์ เหรอ ก็สกิดได้นะ แต่คิดว่า สกิดแล้วจะทำให้ท่าน
    เห็นหรือเปล่าละ หรือ ว่านั้นเป็นเรื่องที่ท่านเองก็เห็น แต่แก้ไม่ได้
    หรือ คิดว่า ท่านจงใจมีอัตตาละ คิดว่าท่านไม่เห็นภัยในมันเหรอ

    นี่ก็แปลว่า ที่ อ.ขันธ์ พยายามชี้ให้ดู ก็ยังไม่เห็นนิ ว่าเรามาภาวนา
    ไม่ใช่มาเพื่อดัดแปลงอะไร แต่ก็ไม่ใช่มาเพื่อเอาอะไร ไม่ใช่มาทำให้
    กลายเป็นผ้าพับไว้ ไม่ได้มาทำให้เป็นคนดี คอยรักษาภาพ แบบนั้น
    เรียกว่ามาภาวนาด้วยความละโมภ

    คนเรามีจริตอย่างไร มันก็แสดงออกไปอย่างนั้นไปตามเรื่อง เมื่อภาวนา
    ไปแล้วก็ใช่ว่าไม่เห็น ใช่ว่าเขาไม่เห็นสังโยชน์ แต่ไปเห็นแล้วจงใจไปดัด
    จริตทำเป็นละสังโยชน์ได้ นั้นมันหลงผิด

    ดังนั้น ก็ต้องดูลงไปว่า ผิดศีลมากไหม ผิดหลักธรรมหรือเปล่า ถ้าเหมือน
    ผิดศีล แต่ไม่ผิดหลักธรรม ก็ต้องดูอย่างเมามันส์ในธรรม เวลาคนเราภาวนา
    แล้วเห็นกิเลสตัวเอง มันสนุกออก ที่ได้เห็น แต่ใช่ว่าเขาจะเอากิเลสมาเป็นเรา
    เพราะความสนุกนั้น มาจาก ความเข้าใจหน้าที่ของกิเลสในแต่ละอันมากยิ่งขึ้น
    นั่นเอง นั้นแหละเป้าหมาย คือ มาเพื่อศึกษา ไม่ได้มาเพื่อเอาอะไร
     
  2. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อ้าว น้าจร คำมันสั้นๆ นิ ปล่อย ก็คือ ปล่อย

    ปล่อยเมื่อไหร่ ก็เห็นความเป็นจริง ของจิตทันที

    ถ้าไม่ปล่อย จิตมันก็ตั้งมั้น มั่นคงอยู่อย่างนั้น ก็อด
    เห็นของดี ไตรลักษณ์ในจิตนะสิ
     
  3. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อย่าไปรู้สึกแย่อะไรนะท่านวิมุตติ ยอมรับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ดูเป็นธรรมไปให้หมด

    ผมดูอยู่ข้างนอก นี่เอาแต่อิจฉานะ ที่ อ. กะ ลูกศิษย์ ยิงธรรมกันไปมา

    แต่ถามว่า อยากเข้าไปเป็นอย่างนั้นไหม

    ฮึฮึ กลัวพลาดพลั้งวาจานะสิ ผมเองมานะใช่ย่อยที่ไหน นี้ ยังหัวเราะตัวเอง
    เลย เทคตัวเองเป็นท่านวิมุตติ คงมันส์พิลึก ( คือเห็นกิเลสได้เยอะน่าดูชม )
     
  4. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    คม ชัด ลึก
     
  5. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    เรื่องรู้สึกแย่ ไม่ต้องห่วงครับ
    ผ่านไปหมดแล้ว
    เห็นความเจ้าเล่ห์ของกิเลสเยอะเลย มันช่างหาข้ออ้างได้ต่างๆ นานา
    ยอมรับว่าสนุกดีนะ

    ยิงกันแบบนี้ ท่านระวังลูกหลงนะ
    เอาสักนัดไหม หุๆๆๆ
     
  6. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ปรกติเราจะคุ้น การแสดงธรรมแบบพรรณาโวหาร หรือ ร้อยแก้ว ร้อยกรอง

    จริงๆในพุทธกาลเขาไม่ได้ เรียนธรรมแบบนั้น เขาเรียนธรรมแบบตัวต่อตัว

    แต่ที่เห็นมาเป็นร้อยแก้ว ร้อยกรอง เพราะพระอานนท์ กับ พระกัสสปท่านได้
    ดำริรวบรวมลงมาเป็นรูปแบบนั้น

    พี่วิมุตติลองไปโหลด CD หลวงพ่อที่ผมเคยเอ่ยถึงให้ฟัง มาฟังดูสิ แล้วจะร่า
    เริงในธรรม ร่าเริงในการศึกษาธรรมในบรรยากาศของสมัยพุทธกาล เห็นการ
    โต้กันนี่เป็นเรื่องน่าอิจฉาที่เขาต่อธรรมกัน ไม่ใช่ทำเป็นคนกลางเข้าไปแทรก

    แต่ที่โต้ๆ หนักๆ ก็มีนะ แต่ท่านตัดออก เพราะคนฟังจะส่งจิตไปด่าคนมาเรียน
    ธรรมตลอดเวลาตลอดชั่วอายุของ CD อันนี้ก็จำเป็น ให้ดีต้องไปฟังด้วยตัวเอง
    ก็อาจจะได้เห็นธรรมแบบทราบซึ้งในความกรุณา
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ตลกจริงๆ ยากที่จะแก้ไข สำหรับวิมุตติ
    โง่แล้วอวดฉลาดมาก ยังจะมีการมาบอกว่า ท่านขันธ์ต้องเกรงใจผม
    ทุเรส นี่กิเลสมันปิดบังตามาก

    ความเกรงใจที่คุณพูดมานั้น มันสูญเปล่า ไม่ได้มีความเกรงใจ ในใจเลย
    มันมาแค่คำพูด

    ผมจะบอกให้ว่า คุณ เป็นศิษย์ประสาอะไร อวดภูมิ รุ้ดี ผมก็ไปเตือนบอกว่า ธรรมอันนี้ไม่ถูกต้อง
    ก็มาคิดว่า จับผิด นี่มันบ้าไปแล้ว

    ผมออกมาเตือน ชี้ให้คุณเห็นก็แล้วอะไรก็แล้ว คุณก็ยังเอาทัสนะเิดิมๆ นี่มันเคือง
    ถ้าคน ไม่เคือง มันก็ลืมไปแล้ว

    คนที่มีธรรม แม้เป็นธรรมเล็กๆ น้อยๆ ผมก็อนุโมทนาหมด
    นี่มาคิดว่า ผมเพ่งเล็ง

    ขอโทษนะครับทุกท่าน ผมไม่ได้เพ่งเล็ง ตัวตนใครหรอก ผมดูที่ธรรม
    ผมเคยบอกทั้งทางตรงทั้งทางอ้อม
    แต่ วิมุตตินี้เพ่งเล็งผมตลอด เป็นเหมือนเด็กไม่โต ไม่มีผิด

    คนเราเป็นไปได้ เรื่องที่ผมจะพูดอะไรกับใคร คนที่เป็นศิษย์นั้น ควรออกมาท้วงหรือ เข้าใจเจตนาผมดีแล้วหรือ
    มิหนำซ้ำ ยังมาสอนผมอีกว่า อย่าส่งจิตออกนอกบ้าง อะไรบ้าง นี่มันจะมาเป็นอาจารย์ผมแล้ว
    กินบนเรือนขี้บนหลังคา
    คนแบบนี้ นิสัยดีนักหรือ

    นี่มันแย่แล้วนะ ผมก็อุตส่าห์บอก

    คนเรา ผมก็ไม่เคยไปสนใจว่าคุณจะทำอะไร แต่ในเว็บนี้ คุณไม่ถูกต้องผมก็ว่าไปไม่ถูกต้อง

    นี่แหละสันดานเทวทัต คือ อยู่กับพระพุทธองค์แท้ๆ แต่จิตมันอยากเก่งกว่า เหนือกว่า ตัวเองไม่เห็นตัวเอง
    ผมก็อุตส่าห์ไม่สนใจอะไร สอนธรรมไป ตามที่ปัญญาผมจะเห็น

    นี่แหละเขาเรียกว่า มีแต่ตำรา ความไม่ดีตัวเอง ไม่เคยเห็นเลย

    เอาหละครับ ใครจะว่าอะไรว่า มาผมจะพูดโต้ตอบเอง
     
  8. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เชยนะ น้าจร ที่ยังไม่เห็นธรรม

    น้าจร ก็น่าลองฟัง CD ดูนะ จะได้เข้าใจบรรยากาศการต่อธรรม

    บางคนเขามาจากสำนักอื่น ศรัทธา ยังไม่เต็มที่ เตรียมปัญญามา ไม่ได้เตรียม
    ศรัทธามา พอต่อธรรม ก็ลุยกัน ก็มีทั้งหลอกล่อ มีทั้งแสดงธรรม มีทั้งจี้
    กิเลสให้เห็น ถ้าคนเจตนามาต่อธรรมกันจะเห็นทันที ว่านั้นคือ ทางธรรม แต่
    สำหรับคนที่ไม่ได้คิดมาต่อธรรมจริงๆ จะคิดว่าถูกเพ่ง โดนว่า แล้วไปอดคติ
    คิดว่าการต่อธรรมแบบนี้ มีแต่เสียหาย มีแต่สิ่งที่ไม่น่าดู ก็กลับไปมือเปล่า

    แต่ถ้ามาต่อธรรมจริง ก็จะยอมเห็นกิเลสที่ท่านอุตสาห์ชี้ให้ดู เพราะตัวตนมอง
    ไม่เห็น ท่านก็อุตาสาห์หาทางทำให้มันปรากฏ พอปรากฏแล้วไม่ดู กลับไปยึด
    ว่าคือฉัน มาว่าฉันทำไม เออ ก็แปลกคน จะมาถอนกิเลส หรือ จะมาเอากิเลส
    หนาๆไว้เป็นตนกันแน่ละ

    ถ้าต้องการมาให้พระ หรือ ครู หรือ อ. หรือ กัลยาณมิตร คอยชี้กิเลสในตน พอชี้ให้
    ก็ต้องน้อมดูสักหน่อยว่าใช่หรือไม่ใช่ แล้วอย่าทะลึ่งไปจับเอามาเป็นตน ไปเอากิเลส
    มาเป็นตน แล้วเที่ยวต่อว่าคนต่อธรรมว่า บ้า มีอัตตา เที่ยวมาเพ่งคนอื่น นั้นมันวิปลาส
    ไปแล้ว ที่ลืมไปว่า มาต่อธรรมกัน

    ถ้าต้องการมายึดกิเลสไว้เป็นตน ก็ไม่ต้องมาเข้าเว๊บธรรมะ เพราะในเว็บธรรมะเขามี
    แต่คนที่ช่วยถอดถอนกิเลส ไม่ใช่เข้ามาเพื่อให้โอ๋ กิเลสเธอน่ารักจัง

    เข้าใจไหมน้าจร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2008
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ถ้าจะ พูดกันจริงๆ อย่างมีสติ ลองไปทบทวนดูว่า มีไม่กี่ครั้งที่ผมพูดเชิงตำหนิ ท่าน เอกวีร์ เพราะท่านมีธรรมอันดีเสมอมา และ ไม่เคยมีอคติ มาปน

    สำหรับ ท่านฐานัฎฐ์ ผมก็ชม ตอนที่ ฐานัฎฐ์ มีจิตที่ดี ที่ผ่องใส
    พอเริ่มหลง ผมก็พูด
    สันโดษ ตอนที่ดีๆ ผมก็ชม
    ตอนที่ไม่ดีผมก็พูด

    ส่วนตอนที่ด่า ผมไม่เคยด่าใครแรง เว้นแต่คนนั้นจะอนุญาตให้ผมด่า เช่น ขจร ขจรท้าผม บอกว่าด่ามาเลยผมชอบ มีแค่นี้เองหรือ ผมก็ด่าไปแรงๆ นะสิ ก็ตัวเองท้าเองและเป็ฯเช่นนี้เสมอมา

    สันโดษก็เหมือนกัน เมื่อตอนที่ผมด่าสันโดษแรงๆ เพราะเจ้าตัวเขาก็ท้าบอกว่า ด่ามาแรงๆ

    ผมคนซื่อ ใครพูดมาอย่างไร ผมก็เอาอย่างนั้น

    นี่ แต่ตัวกิเลส ของแต่ละคน มันไม่ถูกใจ มันไม่ได้มองย้อนกลับไปด้วยใจที่พิจารณา มันก็เห็นทั้งหมดกับตาลปัตร

    อย่าง วิมุตตินี่ ออกมาค้านผม เมื่อครั้งผม กำลังสอนคนนั้นคนนี้ ผมเตือนไปแล้วหนหนึ่งว่า

    นี่เป็นศิษย์ แม้ไม่ต้องเป็นศิษย์ เป็นกัลยานมิตรกัน ก็ไม่ควร แย้งกันเองแล้ว แต่วิมุตติผูกใจเจ็บ มาตั้งแต่นั้น

    ครั้นมาลองดี จะโต้ธรรม ผมก็ขุดกิเลสขึ้นมาให้เห็น กลับแค้นเคือง

    แล้วบอกว่า เห็นแล้ว รู้แล้ว นี่หรือคนเห็นแล้วรู้แล้ว

    ลองดูกันว่า ตัวที่มันล้ำลึกนี้มันล้ำลึกแค่ไหน
     
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    แล้วนี่ น้าจร ถ้ายังไม่เคยศึกษา สติปัฏฐาน 4 ก็จะไม่เข้าใจนะ ว่า เวลาต่อธรรม
    แบบสติปัฏฐาน 4 นี่ ไม่ต้องตรวจกันด้วย ฌาณสมาบัติ เพราะมันเป็นเรื่องของ
    การตรวจดูความรู้สึกที่มีต่อกาย ตรวจความรู้สึกที่มีต่อจิต ตรวจความรู้สึกที่มีต่อ
    เวทนา แล้วธรรมที่เป็นนิวรณ์หรือไตรลักษณ์ก็ไม่ต้องไปดูอะไรมาก ล้วนแต่เป็น
    สภาวะเรียบง่าย สื่อสารกันได้ ถ้าไม่เข้าใจศัพท์ ก็แสดงความรู้สึกของผู้ปฏิบัติ
    ออกมา มันหนืดๆ มันหน่วงๆ ก็บรรยายไป ล้วนแต่เป็นความรู้สึก ถ้าสว่างก็รู้สึก
    ถ้ามัวๆ หมองๆ ฟุ้ง ก็บรรยายกันได้

    แบบนี้ ต่อธรรมกันได้สบาย ไม่ใช่การจำอวดอะไร บางคนไม่เข้าใจ เลยคิดว่า
    การต่อธรรมแบบนี้เป็นเรื่องของตำรา

    ตำราที่ไหนละ ก็แสดงความรู้สึกจากตัวตนกันอยู่ เป็นปัจจัตตังโดยสมบูรณ์ จะเป็น
    ตำราได้ไง ปัจจัตตังแบบสมถะสิ ที่เอามาต่อธรรมแบบเรียบง่ายไม่ได้

    ธรรมะของพระพุทธองค์นั้น เรียบง่าย ไม่ได้ยุ่งยาก ถ้าจริงใจ แสดงความรู้สึกออก
    มาอย่างจริงใจ แม้แต่การโต้เถียงออกมา นี่ก็คือ สภาวะจริงใจ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องเสีย
    หายน่าละอายอะไรเลย มันคือ การต่อธรรมของนักภาวนาล้วนๆ

    คนไม่เข้าใจการปฏิบัติแบบสติปัฏฐาน 4 เท่านั้น ที่คิดว่า นี้คือ การก่อกรรมทำเข็ญ

    ทั้งๆที่ เป็นกุศลล้วนๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2008
  11. อิสวาร์ยาไรท์

    อิสวาร์ยาไรท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,608
    ค่าพลัง:
    +1,955
    ถูกต้อง ครับ คุณ บุคคลทั่วไป 3 คน
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ได้สิ แต่ถ้าศิษย์เก่งกว่าอาจารย์ในด้านธรรม คุณธรรมจะต่ำขนาดนี้หรือ จร

    ส่วนเรื่องอื่นที่จรพูดมา ผมว่ามันไร้สาระแล้ว นี่มันพูดมาด้วยอำนาจกิเลสที่ดิ้นแล้ว
     
  13. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    คนเรา เวลาอาย เวลาไม่มั่นใจ มันจะแสดงการกดขี่ออกไป

    เช่น มีหญิงสาวคนหนึ่ง มาทักสำทับให้คนฝ่ายตรงข้าม คนที่
    เถียงอยู่มันก็อาย แต่ดูไม่ทัน เลยแสดงการกดขี่ทางเพศในแบบ
    ที่ตัวเองถนัดเป็นอนุสัย ไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไร

    ก็แสดงออกมาว่า

    จะจับตีก้น

    แบบนี้ คือ คำที่กดขี่ทางเพศ เอาตัวเองขึ้นข่มผู้อ่อนแอกว่า

    สาวที่ถูกวาจาแบบนี้กระทำ ผู้พูดจะมั่นใจว่า สาวคนนั้นจะไม่ต่อ
    ความยาวสาวความยืด จะละอายและหนีไป ทำให้ผู้พูดได้รับ
    ชัยชนะ รักษาหน้าตนไว้ได้
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ จร คุณอย่ามาตั้งคำถามแบบนี้ มันนอกประเด็น คุณ ตอบว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นจริงหรือไม่

    ไม่ใช่มาย้อนถามว่า แล้วคุณขันธ์ดีแล้วหรือ มันคนละประเด็น ถ้าอยากจะรู้ว่าผมดีหรือไม่ เลวอย่างไร ก็ค่อยถามทีหลังมันคนละเรื่อง

    คุณไปดูให้ดี ว่า มีคนมากมายที่ทำผิด เช่น ขจรตอนที่แช่งพ่อแม่คนอื่น วิมุตติกลับไม่ออกมาพูด ในเรื่องขจรในเชิงที่ สอน ให้ธรรม แต่กลับ แว้งมาที่ผม ในขณะที่ผมกำลังแย้งกับจร
    นั่นหมายความว่าอะไร

    แค่นี้คงเป็น คำตอบสำหรับกิเลสในใจ ได้นะ
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เรื่อง แบบนี้ยังมองไม่เห็นกัน แล้วจะเอาอะไรมาบรรลุธรรม

    นี่แหละ ผมถึงว่า มีแต่ตำรา จิตใจไม่ได้พัฒนา มันหยาบขนาดนี้ ทั้ง ขจร ทั้งวิมุตติ แล้วจะไปเห็นธรรมละเอียดได้อย่างไร

    พอพูดเข้าก็โกรธ ผูกโกรธ พอไม่พูดก็โง่อยู่อย่างนั้น พอพูดดี ก็ฟังไปอย่างนั้น
    นี่แหละ สันดาน คน มันหยาบมาก

    ไม่ได้ดูจิตดูใจตัวเอง สกปรกมากแค่ไหน ไม่เคยเห็น เห็นแต่ คนอื่นสกปรก

    ผม บอกตามตรง ผมเฉยๆ ใครจะเกลียดผมก็เกลียดไป เพราะมันไม่มีผล
     
  16. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    มุขเดิมอีกแล้วนะน้าจร

    มุขคนอื่นคิดไปเอง ไหลไปตามตัวอักษรเอง

    แต่ น้าจร ไม่ใช่คนเจตนาจิงจังในคำพูดสักกะหน่อยใช่ไม๊

    แต่จริง น้าจร สนุกกับการได้คิดมุข แล้วพิมพ์ออกมายั่ว เห็นหรือเปล่าน๊อ
     
  17. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    แบบนี้ ไม่มีกิเลสก็จริงอยู่ แต่มันไหล

    จิตไหล เอ...พี่ฐา ก็ทักแล้วทักอีกเนอะ

    แต่น้าจรไม่สนเนอะ พอใจจะไหล เพื่อ
    ดูคนอื่นว่าจะบ้าไปตามเราอะเป่า
     
  18. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    สรุปไปเองแล้วนั่น
    คนมากมายที่ทำผิด ต้องออกมาพูดหมดเลยหรือ
    เอาเวลาไปทำอย่างอื่นบ้างสิ อย่าเอาแต่เฝ้ากระทู้ทั้งวัน
    ตอนที่ท่านจรพูดเรื่องพ่อแม่ ถึงจะแรง แต่ก็ยังมียั้งๆ
    หลายคนเอามาพูดซ้ำให้มันดูแรงยิ่งขึ้น
    และที่สำคัญ มีท่านเทพขันธ์ ท่านเอก และอีกหลายคนก็ออกมาพูดแล้ว
    ยังไม่พออีกหรือ
    ผมต้องออกมาพูดด้วยหรือ
    ข้อความของท่าน ผมไม่เห็นด้วย ก็แค่กดไม่เห็นด้วย
    ท่านก็อดรนทนไม่ได้ต้องออกมาถามว่า เพราะอะไร
    ผมเห็นท่านอึดอัด จึงลบให้ เผื่อจะสบายใจขึ้น
    แล้วท่านก็มาท้าวความหลังกันกับผม
    ทำให้ต่อไปยืดยาว
    ใครต้องการต่อให้ยืดยาวกันแน่
    ถ้าเพียงแค่มองข้ามตรงที่ไม่เห็นด้วยสีม่วงๆ ซะก็จบไป
    จะด่าอะไรท่านจรต่อก็เชิญ
    แต่นี้มาวกมาที่ผมทำไม

    ท่านเพ่งโทษคนอื่นมาโดยตลอด แต่คนอื่นเพ่งโทษท่านไม่ได้เลย
    ศักดิ์ศรีค้ำคออยู่หรือเปล่า...
     
  19. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ปฏิเสธกรรมเนอะ น่าตาเฉยทีเดียว

    นิ่งยังกะพระปูน

    แต่ข้างในสัดส่ายๆ พุ่งพล่าน
     
  20. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    เรื่องสมมติก็จริง แต่มีผลต่อกุศล และ อกุศลของจิตอยู่นะ
    นอกจากเราจะแยกมันออกได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...