วิชชา ธรรมกาย ไม่ได้มาจาก วัดพระธรรมกาย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jack5487, 28 มิถุนายน 2008.

  1. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ผมไม่ได้เถียง เพื่อแยกสาย

    คำว่า พยัญชนะ คือ การคลุมครอบ การรองรับ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสาย

    พูดง่ายๆ ถ้าหากปรากฏลักษณะของสติปัฏฐานสูตรในที่ใดๆ นั่นไม่ใช่เพราะ
    มันเป็นอนุพยัญชนะสนับสนุนทางนั้น แต่เป็นเพราะมันเป็นพยัญชนะรองรับ
    อยู่ต่างหาก

    พูดแบบนักคณิตศาสตร์บ้าง สติปัฏฐานสูตรคือ univers ไม่ใช่แค่ super set
    ส่วนวิธีการต่างๆ ก็คือ set หรือ sub set

    เหตุเพราะสติปัฏฐาน 4 เป็น univers set จึงถ่ายถอดลักษณะไปยัง set ลูกๆได้

    และเนื่องด้วยมี sub set หลายๆอย่างอยู่ ล้วนเป็นสมาชิกใน univers set มันจึง
    ไปเข้าคู่ถ่ายไปถ่ายมาด้วยตัว sub set ไปยัง set ต่างๆได้โดยไม่ขัดลักษณะ


    การที่เราชี้ให้ดูสติปัฏฐาน 4 ก็เพื่อให้ดูสิ่งที่ครอบครองอยู่

    ไม่แปลกใจเหรอ เวลาฝึกทางๆนั้นอยู่ เมื่อมองออกมา ก็ย่อมเห็นสติปัฏฐาน 4

    มันไม่ใช่ทางที่แปลกอะไรเลย

    มันแค่.....เมือไหร่จะมอง univers set ทั้งๆที่วันหนึ่งข้างหน้า ก็ต้องมาดูอยู่ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2008
  2. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,169
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ บุคคลทั่วไป 3 คน [​IMG]



    เขาไม่เข้าใจคำว่า พยัญชนะ และ อนุพยัญชนะ

    เพียงเขาเห็นว่า สติปัฏฐานสูตร คือ อะไรที่นอกๆ คนละอัน ก็จบแล้ว แปลว่าไม่เข้าใจ

    พูดยังไง ก็มองเราเป็นคนละสาย ทั้งๆที่เป็นพยัญชนะรองรับอยู่



    ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ
    ooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo




    นั่นสิ ใครหละ ก็น่าจะจบมาตั้งนานแล้ว



     
  3. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,169
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    อันนี้ใช่ ก็เข้าใจอยู่




    การทีเมื่อไหร่จะมองมาที่UNIVERSE ตรงทีเดียว
    นั่นเพราะ สัตว์โลกมีเหตุปัจ่จัย ต่างกันตามกรรม ขอแค่ยังรู้ว่า เรายังเดินอยู่จุดไหนต่างหาก ไม่ใช่ลืมจุดยืนตัวเอง( กำจัดกิเลสตนเองตลอดเวลา เหมือนที่ครูท่านเน้นมา)

    ข้อนี้อธิบายเป็นกลางดี และ ชัดเจนดีครับ



    จุดนี้พระพุทธองค์ทราบ จึงเกิดแนวทางมากมาย ในการนำสัตว์พ้นทุกข์ได้ในรูปแบบต่างกันไง



     
  4. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,169
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO



    ลักษณะแห่งสติปัฏฐาน คือ หมวดใดๆที่สงเคราะห์ลงใน กาย เวทนา จิต

    ธรรม ล้วนเป็นไตรลักษณ์ ที่ต้องกำหนดรู้ จนเห็นธรรมชาตินั้นเต็มรอบ

    จิตก็จะสลัดออกตามลำดับ ด้วยเห็นความจริงแล้ว


    .........บางท่านชำนาญในการกำหนดกายมนุษย์ และ อวัยวะภายใน

    ตอนนี้บวชเป็นพระป่า ยังไม่สึก มุ่งนิพพานแล้ว


    ถาม... ท่านก็ตอบว่า เดิน18 กายเพื่ออาศัยฟอกกาย- จิตให้สะอาด มีกำลัง แล้วมาย้อนดู แยกย่อยอวัยวะ จนมันสลายเป็นอนัตตา


    ถึงฝั่ง เรือก็ต้องทิ้งไว้นะ เกาะเรือตลอดไม่ได้


    ถ้าทุกท่านมีครูคุม เน้นสอน ก็จะทราบว่า ตรงไหนแค่อาศัย ตรงไหน

    ควรเดินไปให้ถึง แล้ววางอย่างไร
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    การเกิดแนวทางมากมาย นั้น ไม่มากมายหรอกครับ มีหนทางเดียว อันเอกคือ มหาสติปัฎฐาน 4 อันเกิดจากกำลัง สมถะ 40 กอง กองใดกองหนึ่ง สมถะ 40 กองนั้น เลือกให้ชำนาญสักกองหนึ่ง เพื่อเป็น หลักให้ใจเวลาแตกออก ก็ให้รู้จักรวมใจให้ได้
    ไม่วิ่งไปตามกระแสกิเลส

    และนำกำลัง ที่ได้จากสมถะนั้น พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม ให้เห็นองค์ แห่งไตรลักษณ์ อันเป็นการถอน ความไม่รู้ ให้สิ้นไป

    วิธีมีเท่านี้

    ทีนี้ วิธี นั้นแตกต่างกัน เพียงแค่ เริ่มต้นแห่งการทำสมถะ เท่านั้น ให้เลือกเอาแต่ สิ่งที่เหมือนกันสิ สิ่งที่ บุคคล ที่รูปทุกนามมีคือ ธรรม

    ธรรมนั้น ได้แก่ ธรรมฝ่าย กุศล และ อกุศล

    แยกให้ออก ให้เห็น ตามธรรม อย่าไป เอาสัญญา ความจำ และ วิธีการ อันไม่ใช่ธรรม มาปิดบัง

    พระพุทธองค์ ก็แยกธรรมให้เราเห็น กิเลส ตัณหา ราคะ โทสะ ก็ให้เราสังเกตุ ตัวพวกนี้ให้ดี
    แล้ว ให้ใช้ วิธี ต่างๆ ทั้งทวน ทั้งฝืน ทั้งละ และ ประหาร

    การประหาร ก็คือ ต้องทราบ สมุทัย คือ เหตุ แห่งตัวพวกนี้ อันเกิดจาก ความหลง ความไม่รู้ ดับที่เหตุ

    ธรรมข้อนี้ พระอัสสชิ กล่าวให้พระสารีบุตรฟังว่า เยธัมมา เหตุปปัภวา คือ ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเกิดขึ้นแต่เหตุ และ ยังมีคาถาอีก คือ ยังกิญจิ สมุทยธัมมง นิโรธธัมมัง คือ ธรรมดาธรรมเกิดขึ้นมาย่อมดับไป คือ ให้พิจารณาตัวนี้ ให้เห็นประจักษ์

    ก็จะเป็นการถอน ความหลงว่า สิ่งนั้นมี สิ่งนี้มี ถอนออกไป ก็จะพบ จิตเดิม คือ ความไม่ได้ปรุงแต่ง

    แต่ถ้ายังยึดติดกับ การสร้างสิ่งนั้นสิ่งนี้เพื่อยึด เพื่อเกาะ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับ ธรรมใดๆ เลย
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นี่ผมกล้าท้าให้ใคร มาล้างธรรมของผมว่า ไม่ตรงกับพระพุทธองค์ ก็เล่นมาตั้งนานแล้ว ก็ไม่เห็นมีใครมาล้าง มีแต่มาเหน็บแนมว่า ให้ผมอย่าโม้ ให้ทำให้ได้ แต่ก็ไม่มีใครมาบอกว่า ธรรมของผมบิดเบือน ทั้งนี้ เพราะ ดำรงไว้ในความถูกต้อง แห่งพระธรรมทุกประการ
    เห็นแล้วรู้แล้ว ไม่มีบิดเบือน ไม่มีจุดผิดเพี้ยนกับพระไตรปิฎก นี่จึงชื่อว่า รักษาพระธรรม

    แล้วทำไม ผมจึงทราบธรรมได้ ไม่ผิดเพี้ยนจากพระไตรปิฎกหละ ก็เพราะว่า ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบ ไม่มีค้านกันกับ พระไตรปิฎก ดังนั้นจึงเกิด ศรัทธา คือ เชื่อได้สนิทใจว่า ที่ปฏิบัติมานี้ เราเห็นผลประจักษ์เอง รู้เอง และ ไม่เพี้ยนกัน ดุจคนเดียวกัน รู้เหมือนกันเห็นเหมือนกัน แบบนี้จึงเรียกว่า ธรรม คือ ปัจจัตตัง เห็นได้เหมือนกัน ไ่ม่มีผิดเพี้ยน แม้พระไตรปิฎก อันเขียนจาก พระอรหันต์ ตั้ง 2500 ปี ผ่านมา แต่ผมก็เห็นเหมือนกับ พระไตรปิฎก ทุกประการ ไม่ต้องตีความให้เมื่อย

    ใครจะว่าโม้ ก็เอาเถอะ ก็ได้แต่ว่าผมโม้ แต่ ธรรมนั้นแย้งผมไม่ได้ เพราะมันตรง

    นี่จึงอยากจะบอกให้ว่า ปฏิบัติตรงแล้วรู้แล้ว ไม่ต้องถามใคร และ จะไม่ผิดเพี้ยนกับพระไตรปิฎกเลย พระพุทธองค์ พูดไว้อย่างไร ไม่มีผิดพลาดสักนิด
     
  7. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    คุณพี่เล่นเลี่ยงไปซ้ายทีขวาที ไม่ตอบซักที
    ว่าตกลงตอนฝึกธรรมกายหนะ ได้กายทิพย์ใช่หรือไม่ใช่
    แล้วจะให้ผมคิดไงครับ
    ก็ไม่เห็นยากเลยครับ ก็บอกเลยว่ายังไง
    จะให้งงกันทำไมเรื่องง่ายๆแค่บอกว่าใช่ หรือไม่ใช่แค่นั้นเองไม่เห็นจะต้องอ้อมไปมาเลยครับพี่
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ผมไม่ได้หนี ซ้ายขวา แต่ผมบอกว่า สิ่งที่คุณถามมันไม่ได้อะไร

    และผมจะตอบว่า ตอนที่ผมฝึกธรรมกายนั้นผมไม่ได้ กายทิพย์ เพราะว่า มันเป็นแค่นิมิต ไม่ใช่กายทิพย์ของจริงนะสิ

    ผมจะบอกให้ว่า ครั้งที่ผมฝึกกายทิพย์จริง นี่ ตัวเราออกมานอกกาย เห็นตัวเราที่ออกมา เหมือน กายมนุษย์ ไม่ผิดกัน แล้วควบคุมได้ ผมยังเดิน รอบตัวผมเลย แบบนี้แหละ กายทิพย์ของจริง มากกว่านี้ก็เคย

    แล้วจะให้ผมไปนั่งมองนิมิตอะไรอยู่ พรหมโลก นรก สวรรค์ นี่เห็นมาหมดแล้ว ขี้เกียจจะคุย
    เดี๋ยวหาว่า โม้ แต่ลักษณะของจิตที่รู้ นี่แตกต่างกัน นะ ไม่ต้องถามเพราะเสียเวลา

    ถามธรรมมาดีกว่า
     
  9. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697

    กรรมฐาน 40 กอง ลองไปค้นดูค่ะ ว่ากองใดเหมาะกับจริตใด กองใดไปถึงฌานใดหรือสมาธิขั้นไหน กองใดเป็นสมถะ กองใดเป็นสมถะวิปัสสนา
    กรรมฐานมากมายก่ายกองของครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น หรือสำนักปฏิบัติต่างๆ ไม่พ้นไปจากกรรมฐาน 40 กองนี้ <O:p</O:p



    อ่า นะ.. แค่เม้นท์ข้างบนนี้ ก็บิดไปถึงไหนแล้ว ไม่รู้เนอะ


    .
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็ว่า มาสิเต้าเจี้ยว อย่ามาพูดว่า บิดไปถึงไหน แค่นี้ไม่มีใครรู้หรอก เวลาจะพูดอะไรอย่ากล่าวหาลอยๆ ผมสอนไปหลายทีแล้วไม่รุ้จักจำ โง่แล้วอวดฉลาดทุกที
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ทั้งหมด 40 กองคือ สมถะ ในคัมภีร์ พระวิสุทธิมรรค พระพุทธโฆษาจารย์ ได้บัญญัติไว้ใน สมาธินิเทศ
    หาได้ เข้าอยู่ใน วิปัสสนาญาณ ไม่ ซึ่งวิปัสสนาญาณ 16 นี้คือ หลักวิปัสสนาอย่างแท้จริง ตั้งอยู่ในหมวดแห่ง ปัญญานิเทศ มีอธิบายวิธีการอย่างแยบคาย
    คือ การกำหนดมองรูปนาม เป็นต้น ไปจนถึง มรรคญาณ ผลญาณ

    สงสัยคราวนี้ เต้าเจี้ยวจะหน้าแตก

    แล้วออกมายอมรับในประเด็นนี้ด้วย ให้รู้จักเป็นคนรับผิดชอบในคำพูดของตนเอง ไม่ใช้วาจาพล่อยๆ กล่าวหาผมอีก

    ถ้าไม่ออกมายอมรับในประเด็นนี้ ผมถือว่า คุณเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบในคำพูด

    อ้างอิง

    ข้อที่ยกเอามานี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ประเด็นที่ผมพูดเลย เป็นคำพูดที่ไม่มีอะไรจะพูด เพราะเนื้อหาสาระของผมนั้นไม่มีการขัดแย้งอะไรเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2008
  12. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,169
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    นิมนต์พระภิกษุ-สามเณร
    เข้าร่วมการอบรมพระวิปัสสนาจารย์
    ระหว่างวันที่ ๑ - ๑๔ กรกฎาคม ประจำปี ๒๕๕๑
    วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของวิปัสสนาธุระ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ภิกษุบริษัท ได้ศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เป็นประโยชน์ทางการปฏิบัติส่วนตัว และเป็นที่ศรัทธานำพาพุทธบริษัทประพฤติปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง [โครงการ]

    [​IMG]
    อบรมพระวิปัสสนาจารย์ (รุ่นกลางปี )
    เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



    ณ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดราชบุรี (แห่งที่ ๑)
    วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
    ๑ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
    โครงการ | หลักสูตร/กิจกรรม | ตารางกิจกรรม | ไฟล์เสียง | รายชื่อผู้เข้าอบรม ​

    [​IMG]
    โครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์

    ระหว่างวันที่ ๑ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
    ๑. ชื่อโครงการ
    โครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    หน่วยงานรับผิดชอบ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ร่วมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
    ลักษณะโครงการ โครงการต่อเนื่อง
    ระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างวันที่ ๑ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
    ๒. หลักการและเหตุผล
    หน้าที่อันสำคัญของพระภิกษุผู้เป็นศาสนทายาท มี ๒ ประการ หนึ่งคือ การศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย เรียกว่า คันถธุระ และสอง คือ การอบรมกาย วาจา ใจ ตามแนวแห่งไตรสิกขา อันได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา วิปัสสนาธุระ ในส่วนของการเล่าเรียนพระธรรมวินัย คณะสงฆ์ได้ดำเนินการส่งเสริมให้เป็นไปโดยความเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี แต่ในทางปฏิบัติวิปัสสนาธุระ ยังขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
    ดังนั้น วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของวิปัสสนาธุระ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ ระหว่างวันที่ ๑ -๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมระยะเวลาดำเนินการ ๑๔ วัน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ภิกษุบริษัท ได้ศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เป็นประโยชน์ทางการปฏิบัติส่วนตัวและเป็นที่ศรัทธานำพาพุทธบริษัทประพฤติปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง สมดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ในทีฆนิกาย มหาวรรค ว่า
     
  13. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,169
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    [MUSIC]http://www.dhammakaya.org/wmp.asx[/MUSIC]
     
  14. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,169
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    [​IMG]
    อบรมพระวิปัสสนาจารย์ (รุ่นกลางปี )
    เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



    ณ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดราชบุรี (แห่งที่ ๑)
    วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี

    ๑ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
    โครงการ | หลักสูตร/กิจกรรม | ตารางกิจกรรม | ไฟล์เสียง | รายชื่อผู้เข้าอบรม ​

    [​IMG]
    โครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์

    ระหว่างวันที่ ๑ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
    ๑. ชื่อโครงการ
    โครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    หน่วยงานรับผิดชอบ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ร่วมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
    ลักษณะโครงการ โครงการต่อเนื่อง
    ระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างวันที่ ๑ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
    ๒. หลักการและเหตุผล
    หน้าที่อันสำคัญของพระภิกษุผู้เป็นศาสนทายาท มี ๒ ประการ หนึ่งคือ การศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย เรียกว่า คันถธุระ และสอง คือ การอบรมกาย วาจา ใจ ตามแนวแห่งไตรสิกขา อันได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา วิปัสสนาธุระ ในส่วนของการเล่าเรียนพระธรรมวินัย คณะสงฆ์ได้ดำเนินการส่งเสริมให้เป็นไปโดยความเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี แต่ในทางปฏิบัติวิปัสสนาธุระ ยังขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
    ดังนั้น วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของวิปัสสนาธุระ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ ระหว่างวันที่ ๑ -๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมระยะเวลาดำเนินการ ๑๔ วัน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ภิกษุบริษัท ได้ศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เป็นประโยชน์ทางการปฏิบัติส่วนตัวและเป็นที่ศรัทธานำพาพุทธบริษัทประพฤติปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง สมดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ในทีฆนิกาย มหาวรรค ว่า
     
  15. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,169
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    เว็บบอร์ด วัดหลวงพ่อสดฯ เปิดให้บริการแล้ว
    ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในชุมชนออนไลน์วัดหลวงพ่อสดฯ สามารถสมัคร-ลงทะเบียนได้ โดยเลือก เว็บบอร์ด เพื่อเข้าใช้
    หรือคลิกที่นี่ www.dhammakaya.org/forum/
     
  16. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,169
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    ที่ตอนนั้นไม่อยากตอบ ก็เพราะมีงานต้องทำ ไม่ใช่มานั่งเถียงหน้าจอได้ตลอดเวลา


    และอีกเหตุผล คือ อยากให้ท่านๆที่ สอนเก่งๆ ไปแสดงความเก่งอย่างแท้จริงกับครูอาจารย์ที่ท่านรู้จริง จะได้พิสูจน์ของจริงกันเลย


    อีกเหตุผล ผมมันโนเนม ใครที่ไหนไม่ทราบ แม้จะอธิบายถูกเพียงใด
    แต่คุณไม่ยอมรับ ก็หาเรื่องหาเหตุผลมาแย้งไม่จบ


    ผมทราบของผมก็แล้วกัน ว่าอันไหนจริงหรือเก๊ เทคนิคอาจต่างกัน


    แต่ประสพการณ์ที่ผ่านมาทั้งตัวเอง และสอนผู้อื่นมากว่าสิบปี เป็นเครื่องยืนยันให้ตัวผมเอง


    ควรเล่าให้คนที่ รับฟังด้วยใจศรัทธาในธรรมที่มีในชีวิตอื่น

    และรู้จักเคารพและให้เกียรติผู้อื่น เท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2008
  17. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,169
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิมุตติ [​IMG]
    ผมจะชี้ให้ดูแบบที่คุณอับปัญญาจี้ผมนะ

    คุณโอมรู้ได้ยังไงว่าของจริง ไม่ใช่ของเก๊

    เห็นไหมว่า มันสรุปไม่ลง

    ดังนั้น เราจึงควรสนทนาไปที่สภาวะธรรมโดยตรง
    ว่าพิจารณาธรรมอย่างไร ละกิเลสอย่างไร มันถึงจะเกิดประโยชน์ได้



    OOOOOOOOOOOOOOOOO

    ก็เล่ามาสิครับ ประสพการณ์การพิจารณาธรรมโดยตรง และ วิธีละ ของท่าน

    จนเข้าถึงสภาวะธรรม โดยตรงๆเลยนะครับ

     
  18. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    นี่มันเบี่ยงประเด็นอีกแล้ว
    เรากำลังพูดถึงธรรมกาย
    คุณโอมก็ควรชี้แจงใช้ชัดเจน
    เฉไฉยแบบนี้ มันก็ไปเรื่อยหน่ะสิครับ
    คุณสมถะดูเหมือนจะมีปัญญาที่สุด
    พยายามชี้แจงออกมา แต่ก็เห็นว่าบางประเด็นผมก็ชี้ได้ว่า ยังไม่ใช่
    นี่คือการถกธรรมด้วยปัญญา
    ถ้าธรรมกายสมเหตุสมผลเพียงพอ ผมก็ยอมรับได้
    หรือผมอาจลองเปลี่ยนไปปฏิบัติแบบธรรมกายก็ได้ ไม่แน่นะ

    มหาสติปัฏฐานสูตร ทุกคนยอมรับว่ามีในพระไตรปิฎก เป็นทางที่พระพุทธเจ้าสอนไว้จริง
    ธรรมกาย ยังคลุมเครือ แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าพ้นทุกข์ได้
    น่าแปลกเนอะ
    :z13หุๆๆๆๆ
     
  19. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035

    เยี่ยมมากครับ
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ โิอม คุณ ยอมรับมาเถอะว่า ธรรมกาย เป็นเพียงกสิณกองหนึ่ง ซึ่งหากว่าคุณบอกว่า ธรรมกายเป็นได้ทั้งสมถะและกสิณแล้ว คุณต้องบอกได้ว่า ธรรมกายอยู่ในกรรมฐานกองใดใน 40 กองนั้น
    และ หากว่า เป็นวิปัสสนา คุณก็ต้องบอกว่า ขั้นตอนใดอยู่ใน ญาณ 16 คือ อันใดเป็นรูป อันใดเป็นนาม
    ขันธ์ 5 ในธรรมกายพิจารณาจากส่วนใดในธรรมกาย

    คุณก็เห็นอยู่ว่า คลุมเครือ อยู่มาก เรียกว่า จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย แล้วจะให้ คนเขายอมรับได้อย่างไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...