วิชชา ธรรมกาย ไม่ได้มาจาก วัดพระธรรมกาย

คำว่า กายในกาย เป็นเพียง 1 ในมหาสติปัฎฐานสี่ สามารถแทงถึงโคตรภูญาณได้ก็จริง

แต่ คำว่า กายในกาย ในพระสูตรหาได้มีการ พูดถึง กายพระอรหันต์ กายพระอริยะ หรือ ดวงจำ ดวงคิด อะไรไม่

นี่ คนที่เอาพระสูตรบางตอนมา ค้านนี่เพราะว่า ไม่ได้ศึกษาโดยรอบ หยิบจับมาเพียงบางหมวด แล้วทึกทักเอาว่าใช่

การทึกทักเอาว่าใช่ นี้แหละ คือ เอาตามตรรกะตนเองอย่างแท้จริง

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ

เฉไฉ ตรงไหน

คลุมเครือ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ทำให้เป็นต่างหาก

 

แล้วมาเขียนทำนองนี้ทำไม

 

คุณอับปัญญา คุณนี่เด็กมากๆ ผมพูดไปว่า กายทิพย์ ที่คุณหมายถึงและถามมานั้น ผมได้แน่นอน แต่มันไม่ใช่กายทิพย์ของจริง คุณ เข้าใจหรือไม่ คุณมีคำถามอื่นที่ดีกว่านี้ไหม
หรือว่า ปัญญาคุณตีบตัน ไม่มีคำถามอะไรที่ดีกว่านี้

นี่ แบบนี้ ผมก็จะถามว่า แล้วผมเขียนไปแล้วมันเป็นอย่างไร มันมีอะไรไม่ควรหรือ

 

นี่หนะ เขียนทำไม คนอื่นเขาเข้าใจว่าไงครับ
จงใจหรือเปล่าครับพี่ที่จะให้คนอื่นเข้าใจว่าพี่ฝึกผ่านมาระดับนี้แล้ว
ยังหยุดเลย
แต่จริงๆแล้วพี่เองก็ไม่ได้ทำจริงๆได้จริงๆ
สมกับที่เขาบอกว่า ขี้โม้นะครับ

นี้เป็นธรรมนะครับ เขาเรียกจริยธรรมไงครับ

 

ฯooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo


เอาตัณหาตนเอง มาบังคับคนอื่น เป็นการประพฤติของผู้บรรลุธรรมหรือ

 

คุณโอม ผมยกสมถะ 40 กองมาให้เห็น ยก วิปัสสนาญาณ 16 มาให้เห็น นี่คุณยังจะบอกว่า ผมทึกทักอีกหรือ

คุณควรจะเปิดใจ ให้ตาสว่างได้แล้ว นี่แสดงให้เห็นว่า ใจมันปิด แม้แต่เหตุผลง่ายๆ คุณยังมองไม่ออกเลย

คุณยังจะ ผลักดัน เหตุผลนี้กลับคืนสู่ คนเตือน นี่คุณปฏิบัติธรรม ฝ่ายธรรมกาย มันถึงเป็นแบบนี้ไง ปัญญาไม่เปิดแจ้งโดยรอบ คุณสังเกตุเห็นไหม

 

คุณ อับปัญญา คุณ ไม่ีรู้เรื่องอะไรเลย จริงๆ คุณกำลังเถียงอะไรข้างๆ คู ๆ

คุณพิจารณาก่อน ว่า อะไรเป็นเหตุเป็นผลกัน เหตุผลผมชี้ชัดไปแล้ว คุณไปอ่านให้ดีก่อน

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ขันธ์
ผมไม่ได้หนี ซ้ายขวา แต่ผมบอกว่า สิ่งที่คุณถามมันไม่ได้อะไร

และผมจะตอบว่า ตอนที่ผมฝึกธรรมกายนั้นผมไม่ได้ กายทิพย์ เพราะว่า มันเป็นแค่นิมิต ไม่ใช่กายทิพย์ของจริงนะสิ

ผมจะบอกให้ว่า ครั้งที่ผมฝึกกายทิพย์จริง นี่ ตัวเราออกมานอกกาย เห็นตัวเราที่ออกมา เหมือน กายมนุษย์ ไม่ผิดกัน แล้วควบคุมได้ ผมยังเดิน รอบตัวผมเลย แบบนี้แหละ กายทิพย์ของจริง มากกว่านี้ก็เคย

แล้วจะให้ผมไปนั่งมองนิมิตอะไรอยู่ พรหมโลก นรก สวรรค์ นี่เห็นมาหมดแล้ว ขี้เกียจจะคุย
เดี๋ยวหาว่า โม้ แต่ลักษณะของจิตที่รู้ นี่แตกต่างกัน นะ ไม่ต้องถามเพราะเสียเวลา


OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

จากสีน้ำเงิน

ตอนนั้น ใครเป็นครูสอนวิชชาธรรมกาย ให้ท่านหละ คุณขันธ์

 

คุณ ถามแบบนี้ ไม่ถูกต้องเลย คุณโอม เพราะว่า คุณแย้งเหตุผลผมไม่ได้ คุณไปถามถึงคนสอน แบบนี้เขาเรียกว่า คนพาล และดิ้นไปตามอำนาจกิเลส

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


เวลาประพฤติจริง เข้าสภาวะธรรมจริง แต่ละท่านไม่ได้ผ่าน ลำดับโสฬสญาณ 16 ตามตำรา มานั่งนับ นั่งจำหรอก บางท่านก็ชั่วแวบ บางท่านอาจติดบางระดับช้าเร็วต่างกัน


กรรมฐานนอกตำรา ยังมีอีกมาก สุดท้าย ท่านก็แค่ได้เอาแต่ตำรามาบังคับให้คนอื่นยอมรับตามตัณหาของท่าน ด้วยมานะ ด้วยอัสมิมานะ

ด้วยยึดมั่นถือมั่น ในอัตวาทุปาทาน

 

ผม ก็พูดอยู่ว่า ของจริงนี้ ต้อง หลุดออกจากปล้อง เลย ไม่ใช่ แค่มองเห็น ซึ่งการมองเห็นเฉยๆ คือ นิมิต
หรือคุณจะบอกว่า คุณ หลุดจากปล้องแล้ว คุณโอม

ถ้าเมื่อใดก็ตามที่คุณ บอกว่า หลุดออกจากปล้องแล้ว นั่นเรียกว่า มโนมยิทธิ กำลังสูง ทันที ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องของธรรมกายอีก

คุณ โอม คุณต้องศึกษาอีกมาก ผมเตือนไว้เท่านี้ เพราะว่า คุณยังไม่มีภูมิ ยังไม่มีสติ ที่จะจ่อลงพิจารณาในเหตุผลรอบด้าน คุณยังกำหนดแทงประเด็นไม่ถูก

คุณ ยังต้องฝึกฝนอีกมากๆๆๆ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


คุณอ้างว่า คุณปฏิบัติธรรมกาย แล้วไม่ได้กายทิพย์จริง เป็นแค่นิมิตร

เลยต้องเช็คที่มาของผู้สอนว่าเป็นใคร เพื่อสนับสนุนหาเหตุผลในเรื่องที่คุณเล่า

แต่ ท่านกลับมาว่าผมพาล .........


พิจาณา ด้วยความเป็นผู่เข้าถึงธรรมของท่านดีๆก่อนครับ

 

คุณโอม กับ คุณอับปัญญา พื้นฐานทางธรรมกายไม่ได้เรื่องเลย
พื้นฐานด้านสติปฏิฐานก็ไม่มี
พื้นฐานด้านการปฏิบัติธรรม ด้านวิปัสสนาญาณ เป็นศูนย์
ค้านมาแต่ละครั้ง ยังไม่เห็นสาระอะไรที่จะแย้งธรรมกันได้เลย
มีแต่บอกว่า นั่นไม่ใช่ นี่ไม่ใช่ แต่ไม่มีการชี้แจงเหตุผลใดๆที่หนักแน่นได้เลย
ปัญญาตีบตันกันเหลือเกิน
มีแต่อาฆาตพยาบาท
ตั้งป้อมแต่ว่า กูจะเถียงให้ได้
คนที่ไม่มีเหตุมีผลแบบนี้ เค้าเรียกว่า คนพาล นะ
แย้งที่หลักธรรมไม่ได้ ก็เฉไฉไปทางอื่น
เพ่งย้อนมาที่ตัวผมและคุณขันธ์ ว่าปฏิบัติดีแล้วหรอ เก่งแล้วหรอ
นี่ไม่ใช่ประเด็น เราถกธรรมกัน ก็ควรเน้นไปที่เนื้อธรรม ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
นี่ก็พยายามชี้แจงให้เห็นอยู่นะว่า ธรรมกาย นั้นเป็นเพียงสมถะ ไม่อาจได้ญาณ 16
แต่ก็ยังค้านหัวชนฝา อ่อนใจจริงๆ ไปเล่นกระทู้อื่นดีกว่า...

 

[MUSIC]http://www.dhammakaya.org/wmp.asx[/MUSIC]

 

คุณกำลังดิ้นไปไหน คุณโอม นี่เป็นอำนาจกิเลสของคุณ คุณเห็นไหม คุณ ทึกทักเอาว่า ผมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เพราะกำลังแห่งกิเลส คุณ ไม่ได้เอาสิ่งที่ผมพูดไปพิจารณา ว่าจริงหรือไม่ แต่คุณกลับมองว่า คนเอาเหตุผลมาพูด คือ คนที่มากด้วยตัณหา แต่เจ้าของเองไม่ได้ดูตัวเอง

คุณ โอม คุณเปลีี่ยนทางเถอะ ถ้าหากว่า ธรรมกายที่คุณฝึกมา ตั้งนานแล้ว มันทำให้คุณ เห็นธรรมได้เท่านี้

คุณไปถามคุณวิมุตติสิ ว่า ปัญญาเขามากขึ้นกว้างขวางขึ้นกว่าเดิมแค่ไหน เมื่อครั้นเขาฝึกมหาสติปัฎฐาน

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


จบด้วยการด่าทิ้งท้ายหรือครับ

การตัดสินคนอื่น เพราะเค้าเห็นว่า ไม่คุ้มกับที่จะคุยกับคนที่เล่นวาทะ

ว่าเป็นคนพาล


การที่เค้าถามย้อน เพื่อให้คุณเห็นตัวเอง แต่คุณกลับไม่พอใจ

แล้วด่าทิ้งท้าย สมควรเป็นผู้มีธรรม ทีจะคุยต่อด้วยไหม

 

นี่วิมุตติ ดูไว้ อาจารย์ขันธ์ ให้วิมุตติดูเป็นตัวอย่าง แล้ว ให้ทันในกิเลสให้มากๆ ว่าอำนาจกิเลสเวลามันปิดบัง มันก็ตีความไปได้ร้อยแปด
วันนี้ ตอบได้ยอดเยี่ยม

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ผมกล่าวที่ไหน ว่าท่านมากด้วยตัณหา

อย่ามุสา

แต่อาการที่ด่วนตัดสิน บังคับให้คนอื่นเลิกวิชชาธรรมกาย

เชิญไปร่วมสนทนากับครูอาจารย์ก็ไม่ไป


ว่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ วิชชาธรรมกาย และผู้ปฏิบัติฝ่ายเดียว ที่ไม่เป็น ไม่เห็น

ไม่รู้ ตามแบบตนเอง


นี่ต่างหาก.....



.....ท่านผู้ประกาศต่อสาธารณะว่า บรรลุธรรม ไม่น่ากล่าวเช่นนี้เลย.................