วิชชา ธรรมกาย ไม่ได้มาจาก วัดพระธรรมกาย

ถ้าจะแสดงวิธี ก็ให้แสดงออกจากตนเอง ถ้าหากว่าตนเองแน่แล้ว ฝึกได้แล้ว เอามาบรรยายเลย
ไม่ต้องไปก๊อบปี้ที่อื่นมาแปะ เอาแบบนี้ผมถามคุณเองว่า

เวลาที่ผมนั่งสมาธิไปแล้ว เห็นลูกแก้วแล้ว ผมจะเห็นลูกแก้ววิ่งผ่านบนหัว หรือ ตรงท้อง นี่ผมจะเห็นมันอยุ่ตรงนั้นได้อย่างไร จริงๆ หรือ ว่าให้ผมจินตนาการ เอาก่อน ตอบด้วย ท่านปริยัตธรรมกาย

 

ขอให้คุณขันธ์ผู้บิดเบือนจงตั้งสติให้ดี ความไม่รู้จริงของคุณเป็นบาปอย่างยิ่ง นี่อะไรลามปามมาถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำแล้ว คุณกำลังแสดงถึงความไม่บริสุทธิ์ใจของคุณแสดงออกมาให้เห็นว่าคุณไม่ยอมใคร จะเพ่งโทษคนอื่นอยู่ร่ำไป อันแสดงถึงพาลชน


หลวงพ่อวัดปากน้ำเทศน์เรื่องสติปัฏฐาน ๔ ทั้ง ๒ กัณฑ์เทศน์ เมื่อใด พิจารณาดู

สติปัฏฐานสูตร (๑) : พระธรรมเทศนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำ
๓ ตุลาคม ๒๔๙๗


มหาสติปัฏฐานสูตร (๒) : พระธรรมเทศนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำ
๑๐ ตุลาคม ๒๔๙๗


และที่หลวงพ่อเขียนให้วัดมหาธาตุฯ เมื่อ ๒๐ เมษายน ๒๔๙๘

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
นั่นเพราะหลวงพ่อสดท่านทราบก่อนแล้วว่าจะต้องถูกเกณฑ์ให้ไปฝึกที่วัดมหาธาตุ ท่านจึงเทศนาเรื่องสติปัฏฐาน ๔ ไว้ล่วงก่อนถึง ๒ กัณฑ์เทศน์เป็นการยืนยันว่าหลวงพ่อสดท่านปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ มาก่อนที่จะถูกเกณฑ์ไปเรียนที่วัดมหาธาตุฯ แล้ว วัดมหาธาตุในตอนนั้นถือว่าไม่รู้วิสาสะ หลวงพ่อสดท่านจึงเขียนรับรองการฝึกไปดังนั้น แต่มิใช่ว่าท่านจะไม่เคยฝึกปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ มาก่อน เมื่อท่านมีความรู้มาก่อนแล้วท่านจึงเขียนรับรองการฝึกที่วัดมหาธาตุได้แปลว่าท่านมีความรู้มากกว่าจึงจะเขียนรับรองได้นั่นเอง ท่านสอนเรื่องสติปัฏฐาน ๔ ก่อนที่วัดมหาธาตุจะบังคับให้ท่านไปเรียนถึง ๖ เดือน นี่เป็นประจักษ์พยานได้เป็นอย่างดี

 

คุณขันธ์ผมไม่ประสงค์จะคุยกับคนที่ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรอย่างคุณเลย คนอย่างคุณเข้าที่ไหนก็วุ่นวายที่นั่น ผมเองเห็นพฤติกรรมอันไม่รู้เดียงสาของคุณในกระทู้นี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้แต่สงสารในความไม่เหมาะสมที่คุณแสดงออกมา กรรมเกิดจากเจตนา คุณได้กระทำปากดังหอกคอยทิ่มแทงคนอื่นด้วยความสะใจมาโดยตลอด โดยมิได้คิดถึงผลแห่งบาปวจีกรรมใด ๆ เลย


อย่าคิดว่าผมสอนเลย ถือเสียว่าผมเตือนสติเถิด ผมเห็นใจและสงสารบางท่านที่มีอคติต่อวิชชาธรรมกาย ท่านพาลไปหมดทุกเรื่องจริงๆ เหมือนดั่งว่าท่านถูกสั่งการมาจากส่วนลึกของจิตใจให้ต้องเบียดเบียนกัน พิจารณาจิตใจของท่านเถิด มันเกิดจากมโนสุจริตหรือไม่ พิจารณาโดยสัมมัปปทาน ๔ อย่าปล่อยให้อกุศลเข้าสิงจิตเลย


ด้วยความปรารถนาดีนะครับ

 

นี่คุณ ผมยกมาให้ดูนี่ไม่ยอมหรือ คำว่ายอมนี่คุณ ต้องให้ผมยอมรับธรรมกาย จากปากคนสี่คน ที่
1 ไม่เคยบรรยายอะไรออกมาจากปากตนเอง
2 ไม่เคยปรากฎเป็นหลักเป็นแหล่งในพระไตรปิฎก
3 มีคนตำหนิมากมาย ทั้งพระเถระผุ้ใหญ่ ต่างๆ
4 ผมมีหลักฐานต่างๆ มาให้ดูในความไม่น่าเชื่อถือของธรรมกาย
5 คนที่ ตามด่าผมไม่เคยลดละ ทั้งๆที่ผมไม่ได้ไปตามด่าใคร

5 เหตุผลนี่ก็เพียงพอแล้ว คุณ สมถะ ที่ผมจะบอกว่า คุณต้องพิจารณาตัวว่า ใครกันที่เป็นฝ่ายไม่ยอม ทั้งๆที่ตนเองไปเอาข้อความจากคนอื่นมาแปะั และไม่ได้มีความรู้จริง มีแต่ศรัทธาอันไม่ประกอบด้วยปัญญา

 

กรุณาอย่าอ้างถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำอย่างมั่วๆ ผมมีกัณฑ์เทศน์ของหลวงพ่อเกือบ ๑๐๐ กัณฑ์ที่เป็นพยานยืนยัน ถ้ายังคิดบิดเบือนให้ร้ายหลวงพ่อสดอีก ผมจะยกพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อมายืนยัน จะเชื่อคนที่พูดออกมาแต่ลมปากหรือจะเชื่อคำกล่าวของหลวงพ่อสดเองก็ตามแต่ท่านผู้อ่านจะเห็นสมควรเถิด เรื่องบางเรื่องต้องมองให้ลึกถึงที่มาที่ไป อย่าให้ผมกล่าวมากกว่านี้เลย เดี๋ยวมันจะเป็นการเอาเรื่องเก่ามารื้อฟื้นกัน ผมทราบที่มาที่ไปของเหตุการณ์ต่างๆ ดี และทราบด้วยว่าใครอยู่เบื้องหลังการบิดเบือนประวัติครั้งเมื่อหลวงพ่อสดถูกบังคับให้ไปฝึกกรรมฐานแบบหนอ ที่วัดมหาธาตุฯ ที่กล่าวมาในที่สาธารณะนั้นถือว่าให้เกียรติมากแล้ว ถ้ากล่าวมากกว่านี้ท่านอาจไม่เชื่อว่าวงการสงฆ์มีเรื่องของการเล่นพรรคเล่นพวกและเบียดเบียนกันมากมายจริงๆ ตามอำนาจวาสนาของยศช้างขุนนางพระแท้ๆ

 

พิจารณาดูให้ดีนะครับ จะเห็นว่าคุณขันธ์ขี้โม้

 

คุณขันธ์ครับ ผมเองไม่ต้องการเอาชนะคุณเลย แต่ผู้ใหญ่อย่างคุณมันไม่น่าคุยด้วยจริงๆ อย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นฝ่ายเดียวซีครับ

ผมจะอธิบายข้อความที่คุณพยายามบิดเบือนเบี่ยงเบนประเด็นตามความถนัดของคุณ ดังนี้

1 ไม่เคยบรรยายอะไรออกมาจากปากตนเอง

ข้อความนี้ถ้าหมายถึงผม อะไรที่คุณคิดว่าผมไม่เคยบรรยายออกมาจากปากตนเองครับ ผมบรรยายแล้วหลายท่านก็ได้อ่านกัน


2 ไม่เคยปรากฎเป็นหลักเป็นแหล่งในพระไตรปิฎก

คำถามนี้บ่งบอกว่าคุณหลับหูหลับตาพูดจริงๆ หลักฐานจากพระไตรปิฎกเรื่องธรรมกายผมยกมาให้อ่านในกระทู้นี้มากมายนะครับ


3 มีคนตำหนิมากมาย ทั้งพระเถระผุ้ใหญ่ ต่างๆ

เรื่องมีความตำหนิ มันมาจากหลายเหตุปัจจัย เช่นคนที่ไม่มีความรู้จริงอย่างคุณไง การตำหนิผมเห็นว่าสำนักปฏิบัติทุกสำนักโดนตำหนิกันทั้งนั้น คงไม่ต้องให้ผมยกตัวอย่าง นั่นมันเรื่องของโลกธรรม ๘ สำนักไหนๆก็โดนตำหนิโดนวิจารณ์ทั้งนั้น อย่ามาเหมารวมเลยครับ ไม่น่ารักเลยที่คิดอย่างนี้


4 ผมมีหลักฐานต่างๆ มาให้ดูในความไม่น่าเชื่อถือของธรรมกาย

ผมก็มีหลักฐานมาให้ดูมากมายถึงความน่าเชื่อถือของการฝึกแนวธรรมกายนี่ไง หลักฐานของผมที่คุณขันธ์พยายามโต้ว่าผมเอามาจากคนอื่นไม่คิดเอง คิดเองอย่างคุณขันธ์อย่างนั้นมันจะน่าเชื่อถือได้หรือครับ


5 คนที่ ตามด่าผมไม่เคยลดละ ทั้งๆที่ผมไม่ได้ไปตามด่าใคร
5 เหตุผลนี่ก็เพียงพอแล้ว คุณ สมถะ ที่ผมจะบอกว่า คุณต้องพิจารณาตัวว่า ใครกันที่เป็นฝ่ายไม่ยอม ทั้งๆที่ตนเองไปเอาข้อความจากคนอื่นมาแปะั และไม่ได้มีความรู้จริง มีแต่ศรัทธาอันไม่ประกอบด้วยปัญญา

ใครตามด่าคุณผมไม่ทราบ แต่คุณเองก็ใช่ย่อยเถียงเขาคำไม่ตกฟาก แล้วก็ฝีปากจัดจ้านในการพูดกระทบกระทั่งคนอื่น ไปดูความจริงซีครับ ผมเองคุยกับคุณดีๆ ในช่วงแรกๆ พอผมหยุด คุณก็มากล่าวว่าผมทีหลังว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คุณขันธ์ครับปัญญาของคุณมีแค่นี้หรือครับ การคิดเองเออเองนี่เรียกว่าปัญญาหรือครับ คุณหลอกคนอื่นได้แต่หลอกผมไม่ได้ดอกครับ ปัญญาแบบคุณเขาเรียกฉลาดแกมโกงนะครับ


คุณขันธ์ครับยอมรับความจริงเถิดครับ คุณนะหยุดก่อกวนความสงบสุขเสียเถิด สำหรับผมแล้วผมเห็นแต่คุณกำลังสร้างบาปกรรมติดตัวไปไม่รู้จบ ผมเห็นใจคุณจึงออกมาเตือนสติ โปรดมองผมเป็นเพื่อนของคุณเถิด ผมยินดีเป็นเพื่อนคุณ ถ้าคุณจะปรับปรุงตัวเองเสียทีนะครับ...

 

ไม่ได้ถามทำ อ่า อะไรหรอกครับ

แต่ถามหา อ่า ที่ทำทีหลอกผมว่าทำได้ แต่จับได้ตอนหลังว่าโม้ตะหาก

ว่าตกลงยังจะหลอกลวงชาวบ้านเขาหา อ่า อะไร

พิมพ์ไปขำไป ครับ ไม่เคยใช้ประโยคแบบนี้
เห็นผู้บรรลุธรรมเขาใช้เลยลองดู

 

เออ... สนทนาธรรมกันอยู่ดีๆ มาต่อว่ากันเองซะงัน

ใครรู้สติแล้วก็เลิกเถอะ

 

บางท่านที่หนีมาจากเว็ปห้องศาสนาพันธุ์ทิพย์เพราะถูกยึดล็อกอินอันเนื่องมาจากมีวาจาว่าร้ายพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วเข้ามาสมัครในเว็ปพลังจิตแห่งนี้ โดยมีอคติต่อวิชชาธรรมกายเป็นทุนจนกระทั่งกระทำวจีกรรมบาปร้ายแรงนั้น ผมเองทราบดีว่าท่านมาหลบอยู่ที่นี่ มิได้หมายถึงคุณขันธ์นะครับ แต่ทราบว่าเป็นคนอื่น ผมทราบดีแต่ขอดูพฤติกรรมไปเรื่อยๆ ความจริงแล้วคนที่อคติต่อวิชชาธรรมกายหลายๆ คนมีสาเหตุมาจากการเกลียดชังวัดพระธรรมกายเป็นมูล ท่านต้องเข้าใจว่า กระทู้นี้เขียนชัดเจนว่า วิชชาธรรมกายไม่ได้มาจากวัดพระธรรมกาย ดังนั้นท่านต้องแยกระหว่างวิชชาธรรมกายจากต้นตำรับเดิมคือวัดปากน้ำ กับที่มาจากวัดพระธรรมกาย ว่าโดยวิธีการแล้วอาจไม่เหมือนกันโดยเฉพาะการเน้นเรื่องวัตถุและบุญของวัดพระธรรมกายซึ่งอาจดูไม่ตรงตามหลักของหลวงพ่อวัดปากน้ำนัก ดังนั้นท่านต้องแยกความรู้สึกให้ดี ถ้าท่านกล่าวแบบเหมารวมท่านจะได้บาปติดเข้าไปในจิตใจตามส่งผลทุกข์ร้อนได้ เพราะผู้ฝึกสมาธิแนวธรรมกายทั้งพระสงฆ์และฆราวาสที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีอยู่ทั่วโลก ขอให้ท่านอย่าประมาทในกรรมนั้นเลย


ก็ในเมื่อไม่มีใครยอมใคร ผมเองก็แสดงข้อมูลโดยมิได้หวังว่าให้ท่านยอมผม หรือให้ท่านมาฝึกแนวธรรมกาย แต่ผมแสดงข้อมูลเพื่อป้องกันบาปอันเกิดจากความไม่รู้จริงของท่านต่างหาก และป้องกันคนที่เข้าใจผิดเพราะความไม่รู้จริงของท่านเป็นเหตุ คิดดูเถิดคนฉลาดจะมาสร้างบาปกรรมให้ตนเองและผู้อื่นอยู่ทำไม อะไรที่เราไม่รู้จริงไม่รู้แท้ท่านผู้ฉลาดย่อมไม่แตะต้อง มุ่งสู่การสำรวจตนเองและเพ่งโทษตนเองอันเป็นเครื่องหมายของบัณฑิต เพื่อดับเหตุแห่งอกุศลจิตและทุกข์ทั้งปวงมิดีกว่าหรือ


ท่านผู้มีปัญญาและมีใจเป็นกุศลควรพิจารณาให้ดีเถิดครับ

 

้ สมถะ ของขึ้น ปล่อยไปก่อน

แค่ไปว่า ก๊อบจากกูเกิ้ลหน่อยเดียว ของขึ้น

 

[MUSIC]http://www.dhammakaya.org/wmp.asx[/MUSIC]

 

คุณ สมถะ คุณ ไม่มีประเด็นอะไรมาหักล้างเลย ก็ผมก็อุตส่าห์ ยกความมาให้ดูตั้งหลายข้อความ
ทั้งเพื่อนพ้อง ก็ยกมาให้ดูตั้งมากมาย

และ คุณก้ไม่ได้ อธิบายด้วยสภาวะธรรมออกมา คุณก็มาบอกว่าผมไม่รู้จริง แต่คุณรุ้จริง แต่ไม่มีธรรมหลุดออกจากปากสักนิด มีแต่ ก๊อบปี้มา

นี่ทุกคนเลย ที่เถียงกับผมอยุ่ ก๊อบปี้มาทั้งนั้น พอบทจะพูดเข้าจริงๆ ก็มีแต่ ด่าว่า ผมไม่รู้จริง ผมอย่างนั้นอย่างนี้

นี่เห็นอะไรกันหรือยังหละ

 

นั่นไง พูดถึง โอมก็เอาอะไรมาแปะ อีก ตัวเองยังไม่มี ปัญญาที่แตกออกมา อธิบายธรรมเอง เอาแต่ ของคนอื่นพูดมาทั้งนั้น จะบอกว่า รุ้ธรรมเห็นธรรม ธรรมกายดีอย่างนั้นอย่างนี้ ได้อย่างไร

 

พิจารณาดูให้ดีครับ ข้อมูลที่ผมนำมาเสนอนั้นคุณไปดูในกูลเกิ้ลดีๆ ผมเองนำมาจากไหน ก็ผมเองเป็นคนทำข้อมูลนำเสนอไว้นานแล้ว คุณขันธ์คงไม่รู้จักผม ผมเองเป็นผู้โพสต์เรื่องวิชชาธรรมกายน่าจะเรียกว่ามากที่สุดคนนึงในโลกไซเบอร์แห่งนี้


อย่านึกว่าผมไปก๊อปมา ผมเองนั่นแหละที่เป็นคนเสนอข้อมูลเหล่านั้นมานานแล้วจนมีอยู่ในคลังกระทู้เก่าของพันธุ์ทิพย์มากกว่า 300 กระทู้


คุณขันธ์อย่าทำตัวน่าขันเลยครับ ผมมีข้อมูลที่คุยกับคุณได้ไม่รู้จบก็แล้วกัน


เชิญท่านผู้สนมจเข้าไปอ่านกระทู้ของผมได้ที่นี่ครับ

http://www.google.com/search?ie=tis-620&oe=tis-620&q=%A4%D8%B3%CA%C1%B6%D0&sitesearch=pantip.com%2Freligious



http://www.google.com/search?hl=en&...ious&oe=ISO-8859-11&q=ปราชญ์ขยะ&start=10&sa=N

 

คุณเต้าเจี้ยวโปรดทำความเข้าใจใหม่นะครับ
ผมจะสละเวลาอธิบายให้ฟังในฐานะที่ท่านเป็นผู้ที่พยายามเดินทางสายเอก

หลวงปู่มั่นกล่าวไว้จริงว่าการตำหนิติเตียนผู้อื่น เป็นสิ่งไม่ดีไม่งาม
เพราะนอกจากผู้ฟังเศร้าหมองแล้ว ผู้พูดก็อาจเศร้าหมองด้วย
แต่นั่นคือ การติเตียนที่ขาดเหตุผลรองรับ เช่น การติฉินนินทากันตามประสาปากตลาด
ซึ่งต่างจากกรณีธรรมกายอย่างสิ้นเชิง

หากท่านเข้าถึงแก่นของหลักวิปัสสนากรรมฐานจนได้วิปัสสนาญาณ รู้เห็นได้ตามความเป็นจริง
ท่านน่าจะมองออกว่า หลักของธรรมกาย ได้มีการพยายามบิดเบือนคำสอนที่สำคัญในพระไตรปิฎกเพื่อให้รวมลงได้กับหลักการของธรรมกายเอง
เช่น คำว่า ธรรมกาย ความหมายในพระไตรปิฎกต่างจาก กายธรรม ที่ธรรมกายพยายามสอน คุณมองไม่ออกจริงๆหรือ?
เช่น การเห็นแจ้ง หรือ รู้แจ้ง คุณลองพิจารณาดูว่า ธรรมกาย เอาอะไรไปเห็น แล้วเห็นอะไร เห็นอย่างไร แล้วนั่นมันรวมลงกับหลักวิปัสสนาสายสติปัฏฐานได้หรือไม่?
ถ้าหากคุณเอาความพยาบาทส่วนตัวมาดิสเครคิตคนให้ธรรม กรรมนั้นหนักหนาขนาดไหน ตระหนักบ้างหรือไม่
หากปล่อยให้นิกายนี้สืบต่อไป ลองคิดดูว่า ในอนาคตกายภายหน้า พุทธศาสนาที่แท้จริง จะยังเหลืออยู่อีกหรือ แล้วคนรุ่นหลังจะเป็นยังไง ไม่ลงอบายกันหมดหรือ
เรื่องสัทธรรมปฏิรูปนี้สำคัญใหญ่หลวงหนัก หากมองในระยะยาว
ผมเองยังรู้สึกผิด ที่ออกมาค้านน้อยเกินไป เพราะเวลาน้อย และผมไม่ชอบทะเลาะกับใคร
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องทำให้ดีที่สุดตามภูมิปัญญาแห่งตน

มีอยู่เหตุการณ์หนึ่ง สมัยที่ไปค่ายกับวัดพระธรรมกาย
หลวงพี่สอนว่า หลักการสร้างกุศลมี ทาน ศีล ภาวนา ตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไร
ทาน คือ ทำบุญให้ทาน ตามที่รู้ๆกัน
ศีล คือ รักษา ศีล5 ศีล8... แล้วแต่
ภาวนา คือ นั่งสมาธิ ตรงนี้เองที่เป็นปัญหา
ผมจึงถามต่อด้วยความสงสัยว่า แล้ววิปัสสนาอยู่ตรงไหน
พอถามจี้ลงไป หลวงพี่ก็ว่า ต้องเข้าถึงกายธรรมก่อน แล้วยกจิตวิปัสสนา
ผมก็งง ว่าทำไมต้องผ่านรูปพรหม อรูปพรหม แล้วถ้าไปถึงจุดนั้น จะเอาปัญญาที่ไหนไปพิจารณา ในเมื่อมีแต่ความนิ่งอย่างที่สุดอยู่ตรงนั้น
นี่มันขัดแย้งเห็นๆ

มองในแง่ กายในกาย แบบธรรมกาย
กายทั้งหลายก็ยังเป็นรูปและอรูป ถามว่า จิตอยู่ตรงไหน เจตสิกอยู่ตรงไหน ขันธ์ห้าอยู่ตรงไหน แล้วที่เป็นดวงโน้นดวงนี้ มันอะไร แล้วถ้ายังมีการสมมติเป็นกายนั่นกายนี่ ท่านเต้าเจี้ยวคิดว่า จะเข้าถึงปรมัตถ์สัจจะได้ไหม เข้าถึงอนัตตาได้ไหม ในเมื่อยังมีกายนั่นกายนี่อยู่

อีกประเด็นหนึ่งที่ชัดเจนคือ เรื่องนิพพาน
ธรรมกายสอนว่า เป็นแดน
ท่านว่ามันเป็นแดนจริงๆ หรือ เรื่องที่สำคัญอย่าง นิพพาน ยังสอนผิด แล้วเรื่องอื่น ไม่เล๊ะเท๊ะเลยหรือ ลองพิจารณาดูด้วยปัญญา ถ้ายังพอมีอยู่บ้าง...

 

นั่นไง เจอแล้ว ไอ้ตัวป่วนตัวจริงเสียงจริง คุณอย่าหลงประเด็นสิครับ ประเด็นมันคือ น้ำท่วมทุ่ง และ คุณไม่รู้จักกระชับ
ในเมื่อคุณ รุ้เรื่องธรรมกายมาก ทำไมคุณ ไม่ออกมาพูดเรื่องธรรมกายด้วยปัญญาคุณเองในที่นี้หละ

ผมถามคำถามไปก่อนหน้าคุณตอบด้วย ที่ว่า จะให้ผมเห็นลูกแก้ว กลางตัวอย่างไร ให้ผมจินตนาการ หรือ ว่าเอาเห็นจริงๆ ไปเลย

 

สาธุ ท่านวิมุตติ ท่านทำให้ผมภูมิใจจริงๆ กับข้อความข้างต้น ไม่เสียแรงที่ เคยสอนสั่งกันมา
ท่าน พูดไปตามอรรถธรรม ดีมาก
แต่ หากไม่ชอบทะเลาะ ก็ให้ชี้ เอา เขาจะเห็นหรือไม่ช่างเขา
แต่ต้องคุมประเด็น ส่วนเรื่องทะเลาะ ให้ผมทะเลาะเอง ให้ท่านรักษาจิตท่านไว้ให้มาก ดีแล้ว สาธุ

 

หูยยย..กระทู้ จริงจัง......สู้ๆ:z2

 

สันโดษ คนกำลังลั่นกลองศึก คุณเอาตุ๊กตามา ความเคร่งขรึมของผม สลายไปทันใด