เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ครับ

ชุดนี้เป็นของศูนย์น่ะครับ ต้องถามผู้ชำนาญสายศูนย์ครับ ผมไม่มีเลยซักตัวครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
รูปเหมือน 5 นิ้ว จารสังฆาฏิของลุงพีก็เหมือนของผมครับ
แต่ต่างกันที่รายละเอียดของใต้ฐาน ของผมไม่มีตะกรุดครับ
มีแต่พระผง รูปเหมือน พระสิวลี สงสัยหลวงพ่อเน้นโชคลาภครับ
ทุกวันนี้เลยไม่มีตะกรุดโทนของหลวงพ่อเลย

 

เกรงใจเจ้าของกระทู้ครับ แต่ถ้าไฟเขียวแล้ว ก็จะลองดู..

เอาที่ผมแปะมาจาก นสพ. ก่อน

นสพ.อะไรจำไม่ได้ ความว่า..

ทั้งนี้พระสมนึกพร้อมด้วยญาติโยม ได้พาผู้สื่อข่าวไปที่มณฑปหลวงพ่อทองใบ ฐิตต จิตโต อดีตเจ้าอาวาส
จากการตรวจสอบภายในโลงแก้วมีศพพระครูทองใบ ที่สังเกตจากภายนอกพบว่าสภาพศพไม่เน่าเปื่อย ผิวหนังมีลักษณะแข็งคล้ายหิน และมีสีเหลืองเหมือนกับเนื้อสัมฤทธิ์ ส่วนที่ใบหน้าถูกปิดด้วยทองคำเปลวจนเหลืองอร่าม เส้นผมบางส่วนงอกยาวกว่า 1 นิ้ว และเล็บมือยาว กว่า 1 นิ้วเช่นกัน ซึ่งเป็นที่ผิดแปลกกว่าผู้เสียชีวิตทั่วไป และสร้างความแปลกประหลาดให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมากจน จนถึงขั้นที่ว่าเป็นบารมีและปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อทองใบที่มรณภาพไปแล้ว
โดยพระสมนึก ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เล่าให้ฟังว่า พระครูทองใบเดิมทีเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดนี้ แต่ได้มรณภาพไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 38 จนกระทั่งถึงปัจจุบันก็เป็นเวลาราว 10 ปีแล้ว หลังจากนั้นคณะกรรมการวัดได้นำศพมาใส่ไว้ในโลงแก้วเพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เคารพนับถือพระครูทองใบได้มากราบไหว้บูชา โดยพระครูทองใบเกิดเมื่อปี 2454 รวมอายุถึงวันมรณภาพ 84 ปี แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการของวัดได้ประชุมกันถึงเรื่องที่พระครูทองใบได้ไปเข้าฝันชาวบ้าน ขอให้ช่วยปลงผมและตัดเล็บให้นั้น ที่ประชุมได้มีมติจะนิมนต์ศพของพระครูทองใบออกจากโลงแก้วเพื่อนำมาสรงน้ำและปลงผมตัดเล็บให้ในวันคล้ายวันมรณภาพของพระครูทองใบในวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้

จบข่าว..(เดี๋ยวมาเพิ่มทีหลัง)

 

อย่างที่ลุง (พี่พี เสาวภา/ผมเรียกได้คนเดียว) แกบอก
เบี้ยสายอ่างทอง มักจะเปลือย(ไม่โป๊) แต่ดุ

น้อยคนนักจะรู้ว่า หลวงพ่อทองใบ ท่านทำเบี้ยด้วย
ท่านได้วิชามาจากหลวงพ่อซำ

หลวงพ่อซำ รูปนี้ เป็นสหมิกธรรมกับหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์
ผ้ายันต์ของหลวงพ่อซำขึ้นชื่อมาก ท่านมักจะจารผ้ายันต์ปิดไว้ที่ต้นไม้ในวัดเสมอ
นกที่วัดท่านไม่หาย ใครมาก็ยิงไม่ออก แต่ผ้ายันต์หายประจำ!

ศิยษ์ที่ได้วิชาทำเบี้ยจากหลวงพ่อซำไป เท่าที่ทราบมีสองรูป คือหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ กับหลวงพ่อทองใบ วัดอบทม (เบี้ยหลวงพ่อคำ ลุงก็น่าจะมีนะ ลองขอแกดู)

เดี๋ยวมาต่อ..

 

เบี้ยทำยาก เพราะต้องฆ่าปรอท พระที่ทำเบี้ยได้จึงต้องเก่งมากๆ แล้วสมัยก่อนจะหาเบี้ยก็ไม่ใช้ง่ายเหมือนกัน

อย่างหลวงพ่อทองหยิบ ที่เสกเบี้ยให้พระอาจารย์พิจารย์ท่านยังเอ่ยปากเองเลยว่า "ฉันไม่เก่งนะ ฆ่ามันไม่ตาย แค่ซัดให้สลบ.."

เชื่อว่าเบี้ย แก้พิษได้ เพราะปรอทเป็นสุดยอดของพิษ ฆ่าได้แม้แต่มะเร็ง
แต่เบี้ยแก้ ทำขึ้นเพื่อแก้ยาเบื่อ ยาสั่ง ยาเมา คุณผีคุณคน อย่างสายอ่างทอง เชื่อว่ากันปืน และเป็นเมตตาได้ด้วย

 

รูปหล่อ หลวงพ่อทรง ( ต่อ )<O</O
ตามรูปอันนี้ เอามาตั้งเปรียบเทียบกัน ระหว่างรูปหล่อ ๕ นิ้ว ปี ๒๕๔๒ และ ๒๕๔๙ จะเห็นว่าเป็นพิมพ์เดียวกัน ช่างเดียวกัน องค์ซ้ายเป็นรูปหล่อ ปี ๒๕๔๒ ส่วนองค์ขวา เป็นรูปหล่อ ปี ๒๕๔๙ จะเห็นว่ากระแสโลหะแตกต่างกัน อย่างมาก
<O</O
ส่วนองค์ล่างที่วางข้างหน้า ก็เป็นรูปหล่อ ที่หล่อด้วยในปีเดียวกัน ที่บอกว่าปีเดียวกันเพราะ ใน ปี ๒๕๔๒ มีการหล่อแบบ ๕ นิ้ว มีการหล่อ แบบรูปห้อยคอด้วยแต่ไม่สวย เป็นการหล่อที่โรงงานช่าง ไม่ไกลจากวัด ช่างนี้เป็นช่างแถววัดไผ่แหลม พ่อ แม่ และ ลูก เป็นช่างเดียวกับที่ผมจ้างมาหล่อ พระของผม ในวันวิสาขา ปี ๒๕๔๙
<O</O
เหล่าช่างกลุ่มนี้บอกตามตรง ฝีมือ พอใช้ได้ คงจะเก่งรูปหล่อ หรือ พระขนาดใหญ่มากกว่า พอมาหล่อองค์เล็ก ทองจะเดินไม่ดี แขนเป็นรู ขาเป็นรูบ้าง ขาด้วน แขนด้วน ที่ร้ายหน้าเป็นรู ขึ้นไม่เต็ม มีปัญหาในความชำนาญในการเคี่ยวทองให้ได้ อุณหภูมิตามที่ต้องการ ทองไม่ได้ที การเดินของทองไม่ดี ไม่ต่อเนื่อง และเหตุการณ์คงจะเป็นแบบเดียวกัน ทำให้พระในปี ๒๕๔๒ เสียมาก และรูปหล่อขนาดเล็ก ก็ไม่สวย แต่มีส่วนที่มาทดแทนคือ ตามที่ได้รับคำบอกมา ว่าช่างกลุ่มนี้พึ่งไปทำพิธีเททอง ที่วัด หลวงพ่อโสธรมา การเททองที่วัดหลวงพ่อโสธร ที่ผมติดตามมาจะเป็นพิธีใหญ่แทบทุกครั้งเพราะหลวงพ่อโสธรมีบารมีสูงมากแบบของจริงไม่ต้องอ้างนิยาย การเททองบางทีเทกันหลายช่างในพิธีเดียวกัน

พิธีเทก็จะเป็นพิธีใหญ่ มีการบวงสรวงใหญ่โตตรงตามเลขผานาที บอกกล่าวต่อองค์หลวงพ่อโสธรอย่างถูกต้อง เพราะฉนั้น ของที่อยู่ในพิธี โดยเฉพาะทองที่เท ก็จัดว่าปลุกเสกมาแล้วเป็นอย่างดี ในพิธีใหญ่ มีพระคณาจารย์เก่งๆหลายรูปอธิษฐานจิต บวกกับบารมีของหลวงพ่อโสธรเข้าไปอีก จัดว่าดีหลายชั้น

<O</O
เมื่อช่างชุดเดิมมารับงานของโรงเรียน เพื่อประหยัดเงินทุน ก็ใช้ทองที่เหลือจากพิธี ของหลวงพ่อโสธรมา ใช้ในการหล่อรูปหลวงพ่อทรงนี้ จัดว่าดีในแล้ว มาได้พระอย่างหลวงพ่อมาเทซ้ำ และปลุกเสกซ้ำ การปลุกเสกฟังจากคนที่ทันหลวงพ่อ เขาจะบอกว่า ทุกวันเวลาประมาณ หกโมงเย็น หลวงพ่อจะลงโบถส์ แล้วปลุกเสกพระชุดนี้ ท่านปลุกเสกจะนั่งนิ่งตัวตรงเป็นเวลานานมาก ไม่สนใจแก่สิ่งรอบข้าง แม้ว่ารถจะวิ่งผ่านข้างโบถส์มา


<O</O
คนที่เห็นจำไม่ได้ว่าปลุกเสกนานเท่าไหร่ เพียงแต่จำได้ว่านานมากเป็นเวลาเป็นเดือนๆ ไม่แน่ใจว่าตลอดพรรษาหรือปล่าว เพราะพระชุดนี้คงเอามาแจก ประธานกฐิน ประธานสายกฐิน สายผ้าป่านี่แหละครับ เพราะฉนั้นอาจจะถึงหนึ่งไตรมาสได้ พระชุดนี้ รวมทั้งขนาดห้อยคอ องค์จึงจัดเป็นพระรูปหล่อ ๕ นิ้วรุ่นแรกของท่านตัวจริง แต่ขนาดห้อยคอ จะเป็นรุ่นสอง ต่อจากรูปหล่อปี ๒๕๒๑ หรือ อาจจะเรียกได้ว่าหล่อโบราณรุ่นแรกของท่านจริงๆ
<O</O
พระชุดนี้จึงเป็นพระชั้นยอด ขนาดว่า รูปหล่อโบราณเล็ก หลวงพ่อยังพกติดอังสะ จนแปดวันสุดท้ายก่อนมรณะภาพ จึงควักส่งให้ ท่านพระครูอุปฯ ไปด้วยความรัก พระรูปหล่อและมีดหมอด้ามงาอีกเล่มก็แสดงอภินิหารมาแล้วตอนหลวงพ่อเข้าโรงพยาบาล ที่วิชัยยุทธ แล้ว พยาบาลไม่สามารถฉีดยาท่านได้ จนต้องปลดอังสะ เอาพระเครื่องรางออกจากองค์ท่านจึงฉีดยาได้ จึงจัดว่ารุ่นนี้ จัดว่ามีสรรพคุณเยี่ยมยอด จนหลวงพ่อยังติดตัวไว้เองด้วยองค์หนึ่ง

<O</O
เนื้อโลหะ จะออกหม่นๆ เริ่มกลับดำ ไม่ใช่ทองเหลืองอย่างเดียวแต่มีทั้ง โลหะอย่างอื่นผสมลงไป จะออกแนวสัมฤทธิ์ แล้วครับ

<O</O
ส่วนพระขนาดเล็กผมจะบรรยายต่อไป ในตอนหน้า เพราะยังมี ความลึกลับ เรื่องราวซ่อนอยู่ครับ เอามาเปิดเผย พวกท่านจะได้ของดีราคาไม่แพงของพระผู้เฒ่าแห่งวิเศษชัยชาญไว้ใช้บูชาครับ<O</O

 

ท่านพญาราชสีห์ผู้ห่มคลุมด้วยหนังแกะ
ข้าน้อยนับถือท่านยิ่งนัก ขอคาราวะ
บารมีของท่านยังเป็นที่พึ่งแก่เราชาวมนุษย์

 

องค์ตัวอย่าง



เปรียบเทียบกับองค์ที่หลวงพ่อพกติดอังสะ จนแปดวันสุดท้ายของชีวิตท่าน

รูปหล่อ หลวงพ่อทรง โบราณ ๔๒ ( ต่อ )
ทีนี้มาคุยกันที่พิมพ์พระเอก อีกพิมพ์หนึ่งของวัดมอญน่ะครับ ที่ว่าพิมพ์พระเอกเหมือนกันเพราะหลวงพ่อยังติดตัวเองหนึ่งองค์เหมือนกับเหรียญบิน พิมพ์นี้คือพิมพ์หล่อโบราณน่ะครับ ( แต่เบ้าปูนน่ะครับ เพราะยังมีคราบปูนอยู่ ไม่ใช่ดินไทย ผมเลยไม่แน่ใจว่าทำไมเขาเรียกกันว่าหล่อโบราณ ) พิมพ์นี้อย่างที่เล่า หลวงพ่อเททองเอง หล่อกันที่โรงหล่อแถววัดไผ่แหลม พร้อมกับรูปเหมือน ๕ นิ้ว เป็นการตัดฐานสูง ส่วนสูงวัดจากฐานจะประมาณ ๓.๒ ซ.ม. ประมาณน่ะครับ เพราะ คงจะตัดไม่เท่ากันทุกองค์ หน้าตักกว้างประมาณ ๑.๗ ซ.ม. ขนาดเขื่องพอประมาณ
<O</O
เนื่องจากเป็นพิมพ์หล่อโบราณ และอย่างที่ว่าช่างเจ้านี้หล่อทองอ่อนไฟ แถมโลหะผสมอีก ผสมกันยาก ทำให้ติดไม่เต็ม เนื้อไม่กลืนกัน พิมพ์ติดไม่เต็ม หัวหู ไม่ชัด แต่ถึงกระนั้นก็ตาม พิมพ์โบราณนี้ ดูคลาสสิกมาก พิมพ์มีประกายทอง สีเริ่มกลับ ส่องมันมาก ถ้าท่านไปเจอผ่านตามาแล้วไม่เก็บไว้ ท่านจะเสียใจภายหลังครับ.....แหะๆ
<O</O
พระพิมพ์นี้ก็ปลุกเสกพร้อม รูปหล่อ ๕ นิ้ว เขาเล่ากันว่า อันนี้ผมว่าตามเขาน่ะครับ พระก็ทิ้งไว้ในโบถส์ ทยอยปลุกเสกมาเรื่อยๆ หลายปีจนพระหมด ส่วนที่กันมาเป็นของวัดนี่ อาจจะให้วัดช่วยจำหน่ายด้วย ( อาจจะเป็นว่าหลวงพ่อ ไปตัดช่วยโรงเรียนมา??? แล้วมาออกที่วัด ) จนเหลือมาประมาณ ๗

 

ขอต่อยอดข้อมูลเรื่องหลวงพ่อทองใบหน่อย
เรื่องเบี้ย ผมสอบทานดูกับเพื่อนกับพี่แล้ว ยังไม่เคยมีใครยืนยันได้ว่าหลวงพ่อทำเบี้ยด้วย แล้วเรื่องครูอาจารย์ของหลวงพ่อทองใบนั้นจะใช่หลวงพ่อซำหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่แจ้ง
เท่าที่ได้ข้อมูลมาจากคนพื้นที่คือ หลวงพ่อทองใบ ท่านเป็นพระจากราชบุรี ของที่ท่านทำเอง จะเป็นผ้ายันต์เสียมาก เป็นผ้ายันต์มหาลาภ
แต่เท่าที่เห็น ชาวบ้านเค้าเชื่อกันนักเรื่องอยู่คง
ตำรวจวิเศษยุคนั้นขึ้นกันมาก

พอสอบถามเรื่องหลวงพ่อทรง เพื่อนก็แซวเรื่องหลวงพ่อผาด สมัยที่ผมบวชเป็นพระนวกะ พอเจอหลวงพ่อผาดจับสอนอภิธรรม ผมก็เผ่น ว่าแล้วยังอายอยู่เลย

เรื่องเบี้ยหลวงพ่อทรง เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่าได้เบี้ยจากพระมหานพพรไปจำนวนหนึ่ง พระมหานพพรนี้ อยู่วัดโพธิ์ศรี(วัดหลวงพ่อกร่าย) องค์นี้ผมรู้จักตั้งแต่เป็นเณร เห็นตอนนี้หุงปรอทเองอยู่ (ได้วิชาจากอุปฌาย์ผมไปไม่น้อย) ถ้าใครอยู่ใกล้ อยากรู้เรื่องหลวงพ่อทรง ก็ลองเข้าไปนมัสการท่านดู ผมจำนิสัยท่านได้ อีกหน่อยจะเป็นที่พึ่งของคนแถวนั้น

ก็ให้รู้ข้อมูลอีกด้านครับ

 

แล้วท่านมหานพพรนี่ท่าน เกี่ยวข้องอย่างไรกับหลวงพ่อทรงครับ

 

ท่านมหาฯ น่าจะไปฝากตัวกับหลวงพ่อทรง นะครับ (เมื่อปี 35-36 ท่านยังเป็นเณรอยู่เลย แต่ใฝ่ศึกษามาก่อนหน้านั้นแล้วครับ)
วัดโพธิ์ศรีก็อยู่ไม่ไกลจากวัดศาลาดินเท่าไหร่เลย
แล้วเท่าที่รู้ ท่านไปฝากตัวเรียนวิชาถึงภาคใต้ด้วย

เฉพาะวิชาจากหลวงพ่อกร่าย ก็คงได้ไปไม่น้อย เป็นพระหนุ่มที่น่าจะพึ่งได้ในอนาคตครับ นี่ผมก็ว่าจะไปเยี่ยมท่านซักหน่อย

 

ครับ

เมื่อคุณหนุ่มทิพย์ไปเยี่ยมท่านท่านมหาฯ กรุณาช่วยกราบเรียนถามท่านเรื่องหลวงพ่อทรงด้วยน่ะครับ ไม่ว่าด้านไหน ผมอยากบันทึกไว้ ในที่เดียวกัน

เอาเรื่องจริงๆของท่าน ไม่ใช่ด้านขายของ โดยเฉพาะด้านวิชา ด้านกรรมฐานของท่าน ผมมีข้อสรุปว่า หลวงพ่อทรง ท่านเป็นพระ ลูกหม้อของวิเศษชัยชาญขนานแท้ดั้งเดิม พูดเหน่อๆ ไม่ได้ ธุดงค์ไปไหนไกลๆ แต่ร่ำเรียนวิชาอยู่แถวนี้นี่เอง สมัยนั้นก็เงียบสงบอยู่แล้ว สามารถ อยู่ได้แบบสันโดษเคร่งศีลแบบพระป่าได้และเป็นที่สัปปายะ ท่านสามารถอบรมทำจิตได้

ที่อยากจะทราบว่า ถ้าหลวงพ่อทรง ท่านช่วยอนุเคราะห์ท่านมหาแล้ว มีการสอนวิชา แนะนำเคล็ด และมีการสอบอารมณ์ให้หรือไม่ เพราะจะเป็นแนวทางที่จะทราบ ถึงแนวทางจิตใจของหลวงพ่อทรงได้ครับ

อยากจะได้ความเห็นที่แตกต่าง จากผู้ที่รู้จริง ปฏิบัติจริง ไม่อยากได้จากพวกที่มาขอหลวงพ่อทำของขาย ไม่ว่าค่ายไหน เพราะเรื่องราวจะเป็นไปในแนวอภินิหารส่วนมากเพียงอย่างเดียว เพื่อส่งเสริมการขายของตัวเอง บางเรื่องฟังแล้วเหนื่อยแทนหลวงพ่อ.....แหะๆ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง
ขอหลวงพ่อเมตตาครับ

 

รูปหล่อฉีด ๒๕๔๒ ( ต่อ )

อันดับต่อไปนี้ ผมต้องเล่าตามที่เขาเล่า และได้แค่ยินมา แต่ลองเอามาประมวลเหตุการณ์กับหลวงพี่วิโรจน์แล้ว ฟังดูน่าเชื่อถือ เพราะมีพยานบุคคล และพยานหลักฐาน หลวงพี่วิโรจน์เองก็มาไม่ทัน ไม่มีของเหมือนกัน ฟังเขาเล่ามาเหมือนกับผม เลยลองมาปรัปเรื่องกัน
<O</O
เมื่อพระหล่อโบราณขนาดห้อยคอ เสร็จมาแล้ว ก็มีคนติว่าไม่สวย ( ก็อาจจะจริงอย่างเขาว่าสำหรับพวกชอบของสวยๆ ) พวกคณะผู้ทำจึงไปว่าจ้างช่างที่ กทม ทำรูปหล่อ ห้อยคอ นั่งจับเข่ามาเพิ่มอีก ( ท่าชราธรรม ) ปริมาณคนเล่าก็จำไม่ได้ คงประมาณหลักร้อย ตามกำลังทุน เพราะตอนนั้นยุคนั้น ตลาดพระหลวงพ่อทรงคงยังไม่ใหญ่ เผอิญผมไม่มีพระรุ่นนี้เลย มีแต่กล่อง ท่านคงแปลกใจทำไมผมมีกล่องได้ สาเหตุเพราะกล่องมันเหลือจากรุ่นนี้ครับ ทางวัดเลยเอาไปใส่พระรูปหล่อห้อยคอ ปี ๒๕๔๙ ซึ่งองค์จะเล็ก และหลวมกว่าหน่อย ผมจะค่อยๆแง้มโชว์ไปเรื่อยๆน่ะครับ
<O</O

อย่างที่บอก ผมก็ไม่มีพระ มีแต่รูป เป็นรูปหล่อเนื้อเงินซ่ะด้วย ขออนุญาติเขาถ่ายมา รูปพรรณสันฐาน เหมือนกับ รูปหล่อ โบราณ แต่ สวยคมชัดกว่ามาก น่ะครับ เลยเอามาให้ชม ยืนยันว่ารุ่นนี้มีจริงครับ เป็นของ ปี ๒๕๔๒ เหมือนกัน <O</O

 

รูปหล่อฉีด ๒๕๔๙<O</O
มาคุยถึงรูปหล่อฉีด รุ่นต่อมาครับ หลังจากทิ้งระยะมาหลายปี รูปหล่อ ๕ นิ้ว , หล่อ โบราณห้อยคอ และหล่อฉีด ห้อยคอ? หมดไปจากวัด อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าใครริเริ่ม จะเป็นโรงเรียนเจ้าเก่า หรือ หลวงพ่อ ที่จะหล่อ รูปหล่อ ๕ นิ้วใหม่
<O</O
ขอย้อนเล่าเรื่องรูปหล่อ ๕ นิ้วที่โชว์รูปไปแล้วก่อนน่ะครับ ยุคนี้ผมอยู่ในเหตุการณ์พอดี ซึ่งผมเห็นสวยดี จึงบูชามาหนึ่งองค์ ที่โชว์ไปแล้วเป็นแบบเทอร์โบ หลวงพ่อจารให้ด้วย รุ่นเทอร์โบนี้ผมเห็นหลวงพี่วิโรจน์ทำให้ ลูกศิษย์ผู้หญิงสาวคนหนึ่ง ท่านนี้สั่งไว้ เพราะเงินไม่พอ เมื่อเงินพอจึงมารับกับมือหลวงพ่อที่วัด ผมอยู่ในเหตุการณ์พอดี หลวงพี่วิโรจน์ ใส่เส้นเกศา พระผง ตะกรุดเพียบ ผมเห็นแล้ว ต่อมหมวกไตทำงานอย่างหนัก เลยสั่งบ้าง เพราะความอิจฉาเขา ...อิอิ
<O</O
ผมเคยเห็นพระรูปหล่อ ๕ นิ้วชุดนี้ วางอยู่เป็นกองๆ ที่บ้านหลานท่าน ก่อนจะยกมาที่วัด คงเป็นเมื่อช่าง ทำเสร็จแล้วเอามาส่ง ให้หลวงพ่อ น่าจะหลายร้อยองค์ ได้ยินหลวงพ่อ และหลานท่านบ่นๆ ว่าช่างเขาทำเกิน ( ช่างจะมีนิสัยแบบนี้ ชอบทำเกินกันเสีย แต่ช่างชุดนี้เจตนาทำเกินมามากหลายองค์จะได้มาเก็บเงินหลวงพ่อเพิ่ม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับผมเหมือนกัน แต่การทำเกินนี้น่าจะมีผลดี เพราะทำให้มีพระมากขึ้น ในตอนหลัง....แหะๆ ) มีคนบอกผมว่าที่หลวงพ่อ มีสามร้อยองค์ อันนี้ผมไม่แน่ใจ จึงไม่ยืนยัน แต่เป็นร้อยๆองค์แน่ ส่วนของโรงเรียนจะเป็นเท่าไหร่ อันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่คงหลายร้อยองค์ และ มาหมดที่หลังวัดเป็นปี ตกลง รุ่นนี้ ปี ๒๕๔๙ หล่อก่อนเจ้าฟ้าเสด็จแน่นอน หลวงพ่อปลุกเสกตอนยังแข็งแรงดี
<O</O
ส่วนรูปหล่อฉีดขนาดห้อยคอ ( เรียกตามเขาก็แล้วกัน แต่จริงๆน่ะ คงจะหล่อกระบอกปูนธรรมดา ที่มีการเหวี่ยง ช่าง กทม ฝีมือดีหน่อย เลยออกมาสวย ) อันนี้คงมีประสบการณ์มาแล้วจากช่างพื้นที่ โรงเรียนเลยไป หล่อมาต่างหาก ตามรูป จำนวนก็คงหลักร้อย ผมได้หลักฐานยืนยันแน่นอน จะกลับมาแก้เรื่องจำนวนก็แล้วกันน่ะครับ การหล่อครั้งนี้ น่าจะถอดพิมพ์เดิม จึงทำให้รุ่นนี้มีขนาดเล็กลง มีการหล่อเนื้อทองเหลืองและเงิน ส่วนทองคำ นาค จะมีหรือไม่ผมไม่ทราบน่ะครับ ที่บอกว่ามีการหล่อเนื้อเงิน เพราะมีการบอกบุญเรี่ยไรกัน ว่าใครอยากได้เนื้อเงิน หลวงพี่วิโรจน์และ หลวงน้าสมชาย เลยจองกันคนล่ะ ๕ องค์ในราคาองค์ล่ะ ๓๕๐ บาท ถ้าผมผ่านไปที่วัดอีกผมจะขอถ่ายรูปมาดูให้ครับ เพราะผมก็ไม่มีเหมือนกัน ส่วนเนื้อทองเหลืองก็คงมีการแบ่งมาออกที่วัดตามแบบเดิม หลวงพ่ออาจจะไปตัดยอดมาช่วยโรงเรียนก็ได้ครับ?
<O</O
<O </O
อย่างที่ผมเล่าเรื่องกล่อง เพราะผมก็เช่ารุ่นนี้มาพร้อมกล่อง ตามรูป องค์พระเล็กกว่าเบ้ามาก ถามดูจึงทราบว่า เป็นกล่องเก่าที่เหลือมาตั้งแต่ รุ่นปี ๔๒ บนฝากล่องเขียนว่า <O</O
ที่ระลึก งานฉลองอาคารเรียน เฉลิมพระเกียรติ ครบ ๖ รอบพระชนมพรรษา โรงเรียนวัดศาลาดิน ( วิศิษฐ์ราษฎร์รังสรรค์ ) สปอ. วิเศษชัยชาญ สปจ.อ่างทอง ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๒ <O</O
อันนี้หลักฐานชัดเจนว่า ออกปี ๔๒ และเพื่อช่วยโรงเรียน ความดีทั้งหลายในการสร้างโรงเรียนก็ขอประกาศเกียรติคุณให้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อทรง ที่มากเมตตาและน้ำใจ และให้คุณครูโรงเรียนวัดศาลาดินที่ช่วยกันสร้างโรงเรียนมาจนเป็นปึกแผ่นทุกท่านน่ะครับ

<O </O
ตามรูปนำมาเทียบกับหล่อโบราณรุ่น ๔๒ ให้ดูจะเห็นว่ารุ่นปี ๔๙ เล็กกว่ามาก แต่มีรูปพรรณสันฐานแบบเดียวกัน เพราะฉนั้น คงจะสับสนได้ง่ายมากว่ารุ่นไหนคือ รุ่นไหน แต่ก็อย่าไปคิดมากเลยน่ะครับ ยืนยัน และนั่งยันจากหลายปาก ว่าหลวงพ่อเสกให้แน่นอน และคงเป็นการเสกแบบทิ้งทวนอีกรุ่นหนึ่ง เพราะเป็นดำริห์ของหลวงพ่อเอง เพื่อช่วยโรงเรียนเจ้าเก่า และในปีรุ่งขึ้นคือ ๒๕๕๐ หลวงพ่อก็ป่วยหนัก และล่ะสังขาร จึงเป็นรูปหล่อที่วัด/โรงเรียนสร้างรุ่นสุดท้ายจริงๆครับ และไม่มีเสริมขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน เล่นหาได้แบบไร้กังวล ว่าเป็นของพระผู้เฒ่าวัดมอญ แห่งวิเศษชัยชาญแน่นอน<O</O
<O</O
<O
</O
รูปหล่อนี้ มีทั้งเนื้อเหลืองและรมดำ ขนาดประมาณ ๑.๕ ซ.ม. และสูงประมาณ ๒.๗ ซ.ม. ตัดฐานเตี้ย ข้างหน้าเขียนชัดเจนว่า หลวงพ่อทรง ส่วนข้างหลัง วัดศาลาดิน อ.วิเศษฯ ผมชอบพระของหลวงพ่อที่มีคำว่าวิเศษ เพราะชื่อดี พระนี้คงวิเศษตามชื่อแน่นอนครับ

มาถึงจุดนี้ ผมขออกตัวนิดนึง เนื้อหาจากเรื่องราวทั้งหมด ผ่านมาจากประสบการณ์ที่ผมเห็นเองบ้าง และลงพื้นที่ซ้ำอีกหลายครั้ง ไปคุยกับคนที่น่าจะเกี่ยวข้อง โทรคุยบ้าง( น่าจะน่ะครับเพราะบางที มีคนพูดหลายคน ) บางอย่างผมลงทุนไปซื้อมาให้พวกท่านชม จำนวนมากหรือน้อยแล้วแต่เหตุการณ์ และจังหวะ และชอบสะสมเป็นการส่วนตัว ดีกว่าเอาเงินไปเที่ยวหรือซื้อไม้กอล์ฟ ชอบซื้อเพราะเงินส่วนใหญ่เขาเอาไปทำบุญ ผมไม่ขายใคร อาจจะแจก ถ้ามีคนรู้ค่า นับถือ หลวงพ่ออย่างจริงใจ


ส่วนการซื้อข้างนอก ซื้อมาจากเซียนพระบ้างก็ต้องยอม เพราะเป็นอาชีพเขา เขาก็เลี้ยงครอบครัวเขาเหมือนกับผม และของมันมีทุน เขาไปหามา ผมไม่มีเวลาไปหาแบบเขา ขอแต่อย่าฉวยโอกาศ ขูดเลือดเนื้อ หรือ เอาของสะรู้ตู้มาอัดกัน ก็คบกันเป็นมิตรได้ บางชิ้นก็ซื้อจากชาวบ้าน การซื้อจากชาวบ้านนี่ บอกตามตรงหนักหน่อย เพราะตั้งราคาเว่อร์ แบบชาวบ้านๆ กลัวจะเผลอขายถูก บางทีแพงกว่าที่ควรจะเป็น หลายๆเท่า ฟังแล้ว อกอีแป้นจะแตก ซื้อไม่ลงจริงๆ ท่านที่เคยซื้อพระจากชาวบ้านที่อยากเอาพระมาขายน่ะ คิดว่าตัวเองเป็นเซียนน่ะ จะเจอปัญหาแบบเดียวกัน บางทีผมเจอน่ะ ผมถามกลับเลยลุงรับซื้อไหมครับ ราคาเท่านี้ ผมจะขายให้...แหะๆ แต่พูดเบาๆน่ะครับ เดี๋ยวแกจะโดดเตะปากเอาให้

ของบางอย่างมีน้อย ชิ้นเดียวหรือแค่ไม่กี่ชิ้น เจ้าของเขาไม่ขาย ก็ได้แค่ดูหรือถ่ายรูปมา ผมจะพยายามให้ข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงที่สุดจากหลายต้นตอ แต่อย่างไรก็ตาม ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องมานั่งเขียนเรื่องหลวงพ่อ และผมไม่ใช่นักเขียน หรือ นักข่าว ไม่ได้มีอาชีพทางเขียนหนังสือขาย อาจจะมีข้อมูลจากการคาดเดา คาดคะเน ถ้ามีการผิดพลาดขึ้น เรื่องที่ผมบันทึกไว้ ไม่เกี่ยวข้องกับตัวหลวงพ่อ หรือ ผู้ให้ข้อมูลแต่อย่างใด เป็นความผิดและผมขอรับผิดชอบแต่เพียงคนเดียว ว่าอาจจะไม่ตรวจสอบให้ดีมาก่อน แต่ถ้ามีความดีอยู่บ้างในการเผยแพร่เรื่องราวของหลวงพ่อให้คนอื่นทราบตามความเป็นจริง ไม่ใช่เรื่องที่เขียนแบบนวนิยาย เขียนตามบทมา ของยกกุศลเหล่านั้น ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อทรง ที่ผมรักให้ท่านมีความสุขในแดนเกษมตลอดไป<O</O

 

เปรียบเทียบรูปหล่อ ๕ นิ้ว
<O</O
ผมขอคั่นรายการ ด้วยการโชว์ของสองสิ่งที่อย่างในความครอบครองของผม สิ่งแรกคือ รูปหล่อ ๕ นิ้ว ของพระเดชพระคุณ หลวงปู่พระครูบุญศรี และ อีกองค์คือ รูปหล่อ ๕ นิ้ว รุ่นแรก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทรง
<O</O
การหล่อนี่ ต่างกรรมต่างวาระ ต่างสถานที่ ต่างช่าง ไม่มีความเกี่ยวข้อง ไม่รู้จักกัน ไม่มีอะไรสักอย่างที่ชี้ว่าช่างสองกลุ่มนี้จะพบกันมาก่อน แต่.....รูปหล่อเหมือนกัน คล้ายกันราวกับ นัดกันปั้น แม้จะมีรายละเอียดต่างกันไปบ้างแต่เล็กน้อย ตามต้นแบบและจินตนาการของช่าง แต่พอผมเห็นแล้วอึ้ง และยิ่งอึ้งมากเมื่อเอามาวางคู่กัน

<O </O
รูปหล่อ ๕ นิ้วของหลวงปู่พระครูบุญศรี หล่อเมื่อประมาณ ปี ๒๕๔๕ ถ้าผมจำไม่ผิด เป็นการหล่อที่สำนักคุณยายแม่ชีประทุม โดยป้าอิ้ด มีการหล่อทั้งรูปเล็กและรูปใหญ่เท่าองค์จริง โดยผมร่วมเป็นเจ้าภาพ โดยเฉพาะองค์เท่าองค์จริงที่ปิดทอง เอาไปไว้ที่วัดใหม่ศรีสุทธาวาส ผมเป็นเจ้าภาพออกค่าทองและค่าปิดเอง ช่างเป็นผู้หญิงมีอายุ ไม่เคยเห็นหลวงปู่บุญศรีมาก่อน ปั้นและหล่อได้คล้ายๆ ไม่เหมือนทีเดียว แต่ไม่ว่ากัน เพราะดูที่เจตนา ตอนหล่อ เกิดอภินิหารหลายอย่างเกี่ยวกับคุณยายแม่ชีและหลวงปู่ เพราะช่างหลังจากงานหล่อให้ป้าอิ้ด ช่างก็ไปจำศีลอยู่ที่สำนักแม่ชีเหมือนกัน ผมไปเจอคุณป้าช่างท่านพอดี ผมถามท่าน ท่านก็เงียบๆไม่ว่าอะไร เลยไม่ทราบว่าเรื่องอะไรกันแน่ แต่บอกตามตรงเรื่องอภินิหารนี่ หลวงปู่บุญศรีถนัดมาก จัดว่าของขนมๆ สำหรับท่าน ยิ่งมีคุณยายแม่ชีมาร่วมแจมแล้ว คงไม่น่าแปลกใจเลย ....สาธุ
<O</O
การปลุกเสก ป้าอิ้ดนิมนต์ หลวงพ่อหวลวัดพุทไธสววรค์ มาปลุกเสกเดี่ยว ผมอยู่ในพิธีด้วย ยังจำได้ว่า หลังจากการนั่งเดี่ยว หลวงพ่อหวล พอจะกลับ หันมามองจ้องที่รูปหล่อใหญ่เท่าองค์จริงและกองรูปหล่อหลายครั้ง และท่านก็หันมากราบที่รูปหล่อของหลวงปู่พระครูบุญศรี ก่อนกลับ ผมไม่ทราบจริงๆว่าท่านรู้จักกันหรือปล่าว แต่สำหรับผม ไม่ต้องเสกก็ได้ เพราะหลวงปู่อยู่ในใจผมตลอดเวลา พอผมได้รูปหล่อมา ผมเอาของที่หลวงปู่ให้ผมบรรจุที่ฐาน ก็พอแล้ว
<O</O
รูปหล่อหลวงปู่บุญศรี ขนาดใหญ่ ไม่ใช่ห้อยคอ จัดว่าเป็นของแปลก เพราะท่านไม่อนุญาติให้หล่อรูปท่านขนาดบูชาโดยเด็ดขาด เป็นองค์เล็กๆได้ หรือรูปถ่ายได้ แต่รูปหล่อห้าม ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม ท่านไม่บอก ลูกศิษย์ เลยไม่มีใครกล้าหล่อมา กลัวท่านจะไม่พอใจ เดี๋ยวโดนดุเอาด้วยจะซวยไปกันใหญ่ แต่มีการฝ่าฝืนอยู่ครั้งหนึ่ง จากลูกศิษย์ดั้งเดิม ชาวบ้านแถววัด แบบท่านไม่เต็มใจ ปริมาณไม่มาก ผมเลยไม่สนใจอยากได้ของที่ท่านไม่ปราถนา และไม่เล่าดีกว่า
<O</O
ตกลงรูปหล่อหลวงปู่บุญศรีนี้มาหล่อหลังท่านล่ะสังขาร และถ้าจำไม่ผิด สมเด็จเกี่ยว มาเททองให้เอง อันนี้ เป็นรูปใหญ่ เท่าองค์จริง ส่วนรูป ๕ นิ้ว ผมไม่แน่ใจ เพราะจำไม่ได้ครับ
<O</O
ส่วนรูปหล่อ ๕ นิ้วรุ่นแรกของหลวงพ่อทรง ผมเล่าไปแล้ว ว่าเป็นรุ่นแรกที่ท่านเททองเอง เสกเอง ไม่ได้ไปนิมนต์ใครมาช่วยเสก
<O</O
<O </O
ด้านหลัง ต่างกันนิดหน่อย เพราะช่างปั้นเป็นหลวงปู่บุญศรีนั่งพับเพียบ ส่วนของหลวงพ่อทรง นั่งแบบสมาธิ นอกนั้นจะคล้ายกันมาก ทั้งท่านั่ง การวางมือ รูปหน้า แววตาการมอง ฐานที่นั่ง ผ้าปูรอง โอ้โฮ เหมือนกันแบบบังเอิญมาก จนผมไม่คิดว่าบังเอิญสำหรับตัวผม ช่วงเวลาก็น่าจะ ต่างกันแค่สามสี่ปี ของหลวงพ่อทรงหล่อตอน พลวงพ่อทรง และหลวงปู่ บุญศรียังมีสังขาร ส่วนของหลวงปู่บุญศรีหล่อโดยลูกศิษย์ หลวงปู่ท่านล่ะสังขารไปแล้ว
<O</O
พวกท่านลองชมและพิจารณาเอาเองน่ะครับ เรียกว่าเอากันมาโชว์เล่นๆ เอามันส์

 

สวัสดีครับพี่พี

ไปราชการมาหลายวันครับ เข้ามาแล้วเห็นลูกศิษย์หลวงพ่อเข้ามาช่วยกันคนละไม้คนละมือแบบนี้ ดีใจจริงๆครับ ได้ความรู้ที่เกี่ยวกับองค์หลวงพ่อเพิ่มขึ้นในหลายๆด้าน สามัคคีกันเข้ามาแบบนี้ น่าทำกฐินไปวัดศาลาดินนะครับพี่พี หรือพี่ๆเพื่อนๆ ว่าไงบ้างครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง
ขออนุโมทนากับคุณผาแดงกับความคิดทำบุญกับวัดหลวงพ่อครับ สาธุ