รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

อ่านเข็มทิศไม่เป็นค่ะ คงหลงตายละ
ต้องให้คุณลุงภาวิโตช่วยแกะปูมเดินทาง
ม่ายงั้นก็ต้องตามแงซายให้เจอ

งวดนี้คงต้องซื้อ GPS แน่นอน

 

ไฮเทค ไปก็ไม่ค่อยดีนะครับ ผมไม่แน่ว่า ถ้าฟ้ามืด เต็มไปด้วย เมฆ จะจับสัญญาณจากดาวเทียมได้หรือไม่ครับ สำหรับเครื่อง GPS ครับ

เข็มทิศ ก็ดีครับ ถ้าสนามแม่เหล็กไม่เปลี่ยน ยังไงก็ดีกว่าครับ

 

GPS ถ้าจะหาซื้อ ก็ดูรุ่น ด้วยนะครับ

 

ลองแบบมือถือซัมซุง ที่คุณเล็กเพิ่งซื้อมานะครับ

 

จับได้ครับ
แต่ต้องดูชิบ ของจีพีเอสด้วย

 

สิ่งของและอุปกรณ์ที่ผมเตรียมไว้ครับ

ผมแบ่งเป็น 2 ชุด ณ ขณะนี้ คือ
1. ชุดรับมือน้ำท่วมไต้ฝุ่น
2. ชุดรับมือแผ่นดินไหว

บอกไว้ก่อนครับ สิ่งที่ผมเตรียมนั้น อาจจะน้อยไป หรือ เยอะไปสำหรับบางคน เนื่องจาก ผมพักอาศัยในอพาร์ตเมนท์(กทม.) บ้านผมอยู่ต่างจังหวัด ฉะนั้น การจัดการ ฉุกเฉิน เรื่องนี้ ผมค่อนข้าง จะจำกัด มีเท่าที่ได้ครับ

ชุดแรก ชุดรับมือน้ำท่วม ไต้ฝุ่น

จากเท่าที่จินตนาการ คงพักอาศัย แต่อยู่ในห้องเท่านั้น สิ่งที่จำเป็นมากที่สุด คือ อาหารและน้ำ ครับ อาจจะเป็นอะไรก็ได้ อาหารสำเร็จรูปโดยไม่ต้องใช้ไฟ หรือ ต้องใช้ไฟ ก็เตรียมเถอะครับ ขอให้มีเตาแก๊ส ก็พอแล้ว และสิ่งที่คิดไว้ คือ ไฟดับแน่นอน น้ำไม่ไหล ร้านค้าปิด เอทีเอ็มไม่ติด อีกอย่างก็เตรียมเงินสดไว้บ้างครับ

ชุดอาหาร ที่ผมเตรียมไว้ตอนนี้ เตรียมไว้สัก 3 วัน ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไม่ใช้ไฟก่อน เช่น ข้าวกระป๋อง และกับข้าวกระป๋อง ส่วนที่ใช้ไฟ ก็ทานหลังจากนั้นอีก 3 วันอีกที เพื่อเป็นการประหยัดแก็สกระป๋อง ครับ

ชุดอาหารที่ set ไว้ตอนนี้คือ

1.ข้าวกระป๋อง
2.กับข้าวกระป๋อง
3.บะหมี่สำเร็จรูป
4.ผลไม้กระป๋อง แก้ท้องผูกได้
5.ข้าวสาร อยู่ในถุงสุญญากาศ เก็บได้เป็นปี ใหม่สด เสมอ
6.เวเฟอร์ช็อกโกแล็ต ให้พลังงานสูง

เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับยังชีพ ในห้องพักได้ครับ ส่วนปริมาณในรูปอาจดูน้อย เพราะบางทีผมเอาทานเล่นบ้าง ก็ต้องซื้อมาตุน มาเติมตลอดครับ

สำหรับเรื่องกับข้าวกระป๋อง อันนี้ส่วนตัว ว่าเราชอบแบบไหน เวลาซื้อมาก็ต้องลองนะครับ อย่างผมเคยซื้อทูน่ากระเพรากระป๋องมา คิดว่าตัวเองกินได้ สุดท้ายมาลองกิน กินไม่ลง ครับ สุดท้าย จัดไปจัดมา ก็ลงตัวกับเราแล้วครับ

 

น้ำครับ ใช้บริโภค อย่างเดียว เท่านั้น ตอนนี้มีทั้งหมด 48 ลิตร ครับ

ส่วน การอุปโภค อาบน้ำ ทำธุระ นั้น ผมจะใช้ ทิชชู่น้ำ หรือ ผ้าเช็ดก้นเด็ก หรือ ผ้าเปียก ครับ

 

ชุด 2 ชุดรับมือแผ่นดินไหว

ใส่อยู่ในถุงกันน้ำ มีสิ่งของดังนี้

1.น้ำขวดเล็ก 6 ขวด
2.แก็สกระป๋อง
3.ไม้ขีดไฟ
4.ขี้ไต้
5.เสื้อกันฝนอย่างดี และเสื้อกันฝนแบบ 19 บาท
6.ถุงนอน
7.หม้อชุด
8.ฟลายชีต 4x7 เมตร พร้อมเชือก 100 เมตร
9.กระเป๋ายา
10.กล่องอาหาร มี ชุดอาหารกระป๋อง 6 ชุด (ข้าว+กับข้าว) มาม่า 8 ห่อ เผื่อมีคนแย่งกิน (หมายถึงเพื่อนน่ะครับ)
11.ทิชชู่น้ำ หรือ ทิชชู่เปียก ไว้เช็ดตัว
12.เทียนไข
13. ไฟฉายคาดหัว และ ไฟฉายแบบถือ พร้อมถ่าน ทุกชนิด เยอะๆ
14. มีดวิกตอรินอกซ์
15. หัวพ่นไฟ Kovea


ตอนนี้ของที่เตรียมไว้ ผมยังมีเท่านี้อยู่ อนาคต ที่คาดว่าจะซื้อมาเพิ่ม คือ
เตาแก็สปิกนิค , วิทยุธานินทร์ พร้อมถ่าน ,

ส่วนเสื้อผ้ายังไม่ได้จัด คาดว่า จะจัดเร็วๆนี้ครับ

 

เคยคิดไว้ว่า จะเลือกเต๊นท์ หรือ ฟลายชีตขนาดใหญ่ดี

คิดไปคิดมา เลือกฟลายชีตดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ช่วยเหลือ ผู้คนบ้าง

แถวที่ผมอยู่ คงไม่มีใครมานั่งเตรียมเหมือนผม ถ้ากางเต๊นท์แถวนั้น มันอาจจะดูเตะตาเกินไปและ อาจจะเป็นอันตรายกับเราได้เหมือนกันครับ

 

ข้อควรปฎิบัติ เมื่อมีงูหนีน้ำท่วมเข้ามากัดคนและสัตว์เลี้ยงในบ้าน
โดยคุณ ทัชชกร เจนมธกร​

​

ขอเพิ่มเกร็ดความรู้ให้หน่อยตามที่ได้เคยหาข้อมูลมาครับ

1. เมื่อถูกงูกัด ถ้าเป็นไปได้ ต้องจำลักษณะรูปร่าง ขนาด สีสัน ให้ได้ เพราะ เซรุ่ม ใช้เฉพาะกับงูแต่ละชนิดเท่านั้น ไม่มี เซรุ่มรวม ดังนั้น ถ้าบอกว่าเป็นงูพันธุ์ไหนไม่ได้ หมอต้องรอดูอาการอย่างเดียว ซึ่งก็เท่ากับว่าต้อง รอ รอ รอ อีก

2. ถ้าเป็นคนถูกงูกัด ให้ตรงไปที่ รพ. ขนาดใหญ่ของรัฐ จึงจะมั่นใจว่าไปไม่เสียเที่ยว รพ.เอกชน ต้องเป็นขนาดใหญ่ จึงจะมี เซรุ่มที่ใช้บ่อยๆ เช่น ผมเช็คที่ ศิครินทร์ ก็มีแค่ งูเขียวหางไหม้ และ งูเห่า เท่านั้น งูแบบอื่น ไม่มีนะคับ ผมแนะนำว่า ใครที่อยู่ในเขตอันตราย โทรถามไว้ก่อนเลย เพราะเมื่อส่ง รพ. จะได้ไม่ต้องไปเก้อ เสียเวลา ผมเอง ต้องเช็คไว้รอบๆ และ ทำแผนที่ทางไปที่สั้นที่สุด เก็บในที่ที่หาได้ง่านด้วย

3. ผมเอง ซื้อ siren สีน้ำเงิน ฉุกเฉิน ติดไว้ในรถเลย บางรุ่นมีเสียงด้วย

4. ถ้าเป็นสุนัขถูกงูกัด ลืม รพ.สัตว์ใกล้บ้านหรือคลีนิคไปเลย ผมเคยเช็คแถวบ้านทั้งหมดแล้ว ให้ทุ่มไปที่ รพ.รัฐ ทั้งหมด ซึ่ง กทม. ก็คงเหลือ จุฬา กับ เกษตร เท่านั้น แต่ผมไม่มั่นใจว่า จุฬาจะมีหมอทำงานกลางคืน หรือไม่ครับ แต่ เกษตรมีแน่นอน

5. ลองติดต่อ ร่วมด้วยช่วยกัน เขามี หน่วยจับงูด้วย แต่ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ กรณีของผมก็ไม่มีคนมาช่วยเหมือนกัน แต่อย่างไร ก็ลอง โทรดู 1677 เท่าที่รู้ มีหน่วยประจำแถวนนทบุรีครับ

ผมเคยเอาลูกงูเห่าไปส่งให้ที่ เสาวภา เขาบอกว่าช่วงฝนตก แต่ละวันมีคนเอางูมาให้ หลายสิบตัว เขามีสอน ให้เอา ท่อ PVC พร้อมเชือก ทำที่จับงู (ในกรณีจำเป็น) เป็นเชือกสอดจากปลายท่อด้านหนึ่ง ไปโผล่อีกด้านหนึ่ง และปล่อยปลายด้านที่จะใกล้งูเป็นห่วงกลมๆ เพื่อคล้องสวมคอ งู เมื่อ คล้องได้ก็ดึงจากปลายเชือกด้านที่เราถือเลยแล้วดึงรัดมันไว้

​

​

ขอให้ปลอดภัยทุกๆคน กันไว้ดีกว่านะครับ เกิดอะไรขึ้นจะคิดไม่ทันและเวลาอาจไม่เหลือให้คิดเลยครับ

โดย ทัชชกร เจนมธุกร - วันที่ 12 มิถุนายน 2008, 11:37AM

ที่มา http://www.bangkaew.com/elearning2/m...uss.php?d=3860

พิชิตปัญหาสัตว์ - รู้ทัน "งู"
โดย - ปานเทพ รัตนากร​

รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร​

ข่าวเรื่องงูที่มีอยู่เสมอคืองูเข้าบ้าน พบงูในบ้านทั้งงูมีพิษและไม่มีพิษ ตลอดจนงูลักษณะพิเศษ เช่น งูสองหัว งูสองหาง ที่กลับเป็นงูให้คุณมีแต่คนเข้าหากราบกรานเพื่อขอเลขเด็ด ฯลฯ แม้แต่งูบนหัวคนแก่ ก็ดังไม่แพ้กันแม้ไม่ใช่งูจริงเป็นเพียงเฒ่าหัวงูก็เถอะ อันตรายกว่าอสรพิษตามธรรมชาติเสียอีก ​

ฉะนั้นจึงมีปัญหาตามเข้ามาเรื่อยๆ ว่าทำอย่างไรจะป้องกันงูเข้าบ้าน? จะไล่งูอย่างไร? วิธีจับงูทำอย่างไร? งูเข้าบ้านแล้วจะทำไงดี? สารพัดปัญหาจึงขอนำมาเฉลยไว้ ณ โอกาสนี้​

ทำไมงูจึงเข้ามาหรืออยู่ในบ้านของคุณ? :​

เหตุที่งูเลื้อยเข้าบ้าน หรืออาศัยอยู่ในบ้านเนื่องจาก​

1.บ้านหรือสถานที่นั้นเป็นแหล่ง "อาหาร" ที่อุดมสมบูรณ์ เช่น บ้านที่มีหนูชุกชุมเพราะรกรุงรัง หรือมีบ่อน้ำ สระน้ำที่มีปลาเยอะ หรือมีการเลี้ยงนกเลี้ยงไก่ไว้ ฯลฯ สุดแต่ว่าบ้านคุณจะมีเหยื่ออันโอชะประเภทใด ทั้งนี้เพราะงูทุกชนิดเป็นสัตว์นักล่า กินเหยื่อเป็นสัตว์ด้วยกัน​

2.บ้านนั้นมีความ "ปลอดภัย" สำหรับงู ไม่มีศัตรูก่อความรำคาญ หรือทำร้ายจนถึงชีวิต เช่น ไม่มีหมาคอยไล่เห่า ไม่มีห่านไล่งับ หรือไม่มีสัตว์คู่อริ เช่น พังพอน หรือน้ำท่วมไม่ถึง ฯลฯ​

3.บ้านมี "ที่อยู่" เหมาะสม เพียงพอ ได้แก่ มีที่หลบซ่อนตัว หลับนอน หลบภัย วางไข่ เช่น ใต้ถุนบ้าน บ้านที่มีฝ้าเพดาน ฯลฯ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับงู นับแต่อุณหภูมิอบอุ่นจากดินหรือแสงแดด พื้นผิวที่ไม่ระคายเคือง ไม่มีกลิ่นและเสียงรบกวน (ซึ่งมากับความสั่นสะเทือน) ฯลฯ​

วิธีป้องกันงูเข้าบ้านทำอย่างไร?​

การป้องกันงูเข้าบ้านนั้นสามารถป้องกันได้โดยแก้จากเหตุจูงใจให้งูอยากเข้าบ้านโดย​

1.อย่าให้บ้านเราเป็นภัตตาคารของงู เช่น กำจัดหนูโดยการดัก เบื่อ และจัดบ้านให้สะอาด ทำกรงนกกรงไก่ให้แข็งแรงไม่มีช่องหรือรูให้งูเข้าไปกินได้ ฯลฯ​

2.ทำให้บ้านเราเป็นสถานที่อันตราย ไม่สบายสำหรับงู ได้แก่ หาอริไว้ไล่งู เช่น เลี้ยงหมาไว้รบกวน หรือบางท่านอาจเลี้ยงห่านไว้ไล่งูตามความเชื่อเดิมๆ ฯลฯ​

3.จัดสภาพแวดล้อมให้ยากและไม่เหมาะสมแก่งูที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ หรือทำรังวางไข่ เช่น การอุดรู ใส่ตะแกรงท่อระบายน้ำ หรือทุกเส้นทางที่จะเข้าไปในตัวบ้าน กลบหลุมหรือโพรงที่มีตามสนามหรือขอบรั้ว กำแพง ตัดกิ่งไม้ที่พาดหรือใกล้ชายคาตัวบ้านหรือรั้ว กำแพง ฯลฯ​

นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญให้ใช้สารเคมีหรือน้ำมันเบนซินไปราดไว้เพื่อกันงู แต่ก็ต้องระวังนะครับแทนที่งูจะไปกลับเป็นไฟมาเยือนแทน อีกทั้งน้ำมันสามารถระเหยอย่างรวดเร็วเดี๋ยวเดียวหายหมดแล้ว แม้แต่ความเชื่อดั้งเดิมที่ให้ใช้ลูกมะนาวมาวางไว้จะไล่งูไปได้ ก็ไม่แน่และไม่รู้ว่าต้องใช้มะนาวกี่ร้อยลูกจึงจะล้อมบ้านไว้ได้ตลอดไป เพราะไม่นานก็เน่าเสียแล้ว ฯลฯ​

คราวนี้เมื่องูเข้าบ้านแล้วคุณควรทำอย่างไร?​

1.ถ้าคุณเป็นคนรู้จักงูบ้างก็จะช่วยแยกแยะงูอันตรายซึ่งบ้านเรามีอยู่ชัดๆ เจอบ่อยๆ 2 พวกคือ งูเหลือมงูหลาม กับงูเห่า ซึ่งแยกค่อนข้างชัด โดยที่งูเหลือมงูหลามเป็นงูไม่มีพิษแต่มีอันตรายโดยการรัดเหยื่อ ส่วนงูเห่ามีแม่เบี้ยแผ่ให้เห็นชัดเจน ทำร้ายโดยการกัดและปล่อยพิษ ฉะนั้นการหลบหลีก หรือจับก็จะแตกต่างกัน​

2.งูจะพุ่งฉก หรือกัดเหยื่อที่เคลื่อนไหว ฉะนั้นหากเผชิญกับงูให้อยู่นิ่งๆ แล้วเคลื่อนไหว หรือถอยฉากหนีอย่างช้าๆ โดยจับตาดูการเคลื่อนไหวของงูไว้เพื่อหลบหลีก หากทำได้สามารถใช้กระสอบหรือผ้าเช็ดเท้าขนาดใหญ่ โยนไปคลุมงูไว้เพื่อไม่ให้สามารถมองเห็นและสงบมันลง​

3.ส่วนใหญ่มักพบงูในห้องน้ำ ฉะนั้นต้องปิดประตูขังงูไว้ในห้องก่อนจะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไป รวมถึงปิดช่องทางหลบหนีด้วย​

4.ถ้างูอยู่บนที่สูง เช่น บนขื่อ หรือฝ้า ให้หลีกเลี่ยงอย่าเข้าไปข้างใต้ หรือระยะที่งูจะทิ้งตัวถึง เพราะมันอาจฉกหรือโรยตัวลงมาได้​

5.กันสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหมาเอาไว้ให้ห่างเพราะอาจโดนฉกหรือทำร้ายได้ อย่าเชื่อนักนะครับว่าหมาที่มีปานดำบนลิ้นนั้นถูกงูพิษกันไม่ตาย พบว่าตัวแข็งไปก็ไม่น้อย​

6.กันไทยมุงออกไปโดยเฉพาะสมาชิกเด็กๆ ในบ้าน​

7.โทรศัพท์แจ้งหน่วยงานที่มาช่วยบริการจับงู ได้แก่ ตำรวจ 191 หรือมูลนิธิและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ฯลฯ​

ผมไม่แนะนำให้พยายามจับงูเองนะครับ เนื่องจากเป็นความสามารถที่ต้องฝึกฝนมาอย่างชำนาญเฉพาะตัว ไม่ควรลอกเลียนแบบครับ!​

ที่มา http://www.ranthong.com/smf/index.php?topic=6254.0;wap2​

 

ใส่กล่องแบบเดียวกันเลยอ่ะ

ของผมกล่องหนึ่งอาหารแห้ง กล่องหนึ่งเครื่องใช้ต่างๆ (มีด เชือก เครื่องแปลงไฟ เครื่องมือ ไฟฉาย ฯลฯ) สำหรับยกขึ้นรถได้ทันที ตั้งใจจะเดินทางตอนได้สัญญาณอพยพครับ บ้านอยู่ใกล้วงแหวนรอบนอก สะดวก รวดเร็ว

ออกตัวช้า คงแบกไปไม่ไหวแน่ ถ้าเกิดคนแย่งออกพร้อมๆกัน

 

คุณจุดประกายความคิดให้คนอื่นได้ดีมาก โดยเฉพาะมีภาพถ่ายไว้ให้ดูเป็นภาพประกอบ
ทำให้คนอื่น ๆ เห็นและเกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

เชื่อแน่ ๆ ว่า มีคนอีกจำนวนมากอยากจะเตรียมพร้อมเช่นนี้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นนับ 1 อย่างไร กระทู้ของคุณเป็นประโยชน์แน่ ๆ ชัวร์.....

ขอชมเชยด้วยใจจริง

 

ขอบคุณครับ

 

ดังที่กล่าวมาแล้วว่า การจัดการเรื่องอุปกรณ์ฉุกเฉิน สำหรับผม ค่อนข้างจำกัด ผมอยู่ในห้องพัก ของอพาร์ตเม้นท์

ต่อไปจะเป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่าง

ผมเชื่อว่า ทุกคนเคยแบบผม เวลากลางคืน เมื่อเปิดไฟ และปิดไฟทันที การมองจะมืด เพราะสายตายังปรับไม่ทัน แต่ไปสักพักหนึ่งแล้ว เราจะมองเห็นได้บ้าง ในเวลามืด หรือ เวลากลางคืน

เพราะฉะนั้นแล้ว อุปกรณ์ให้แสงสว่าง นี้ ผมคิดว่า ควรใช้ในกรณี ยามจำเป็นเท่านั้น เช่น ส่องไฟหาของ ส่องหาผู้บาดเจ็บ หรือ ใช้เป็นไฟฉุกเฉิน เป็นต้น การกินข้าว ผมคิดว่า ก็กินแบบมืดๆ ได้เหมือนกัน

การที่จะรับมือภัยพิบัตินั้น ต้องตั้ง "สติ" และ ต้องสามารถปรับตัวในสภาวะแวดล้อมนั้นได้ทันที ไม่ใช่ว่า เราเตรียมอุปกรณ์ อาหารการกินไว้มากมาย เราจะต้องใช้ชีวิต อย่างสิ้นเปลือง อยู่อย่างสบาย แต่นั่นเป็นสิ่งที่ผิด ควรมีการวางแผนล่วงหน้า ถ้าไม่หิว ก็อย่ากิน เราไม่ทราบว่า ระยะเวลา ที่ต้องเจอภัยพิบัตินั้น กี่วัน กี่เดือน ถ้าเจอภัยพิบัติแรกๆ อย่างไร ประหยัด อุปกรณ์ หรือ อาหารเหล่านั้นไว้ให้ดีครับ เพื่อในวันข้างหน้า ที่เราไม่สามารถรับรู้ได้

อุปกรณ์แสงสว่าง ที่ผมจะเสนอ นี้ เป็นส่วนหนึ่ง เท่านั้นครับ ส่วนที่ใครอยากได้มากกว่า นี้ คงต้องไปจัดหากันเองครับ

1. ทุกวันนี้ ขาดไม่ได้เลย คือ "ไฟฉายคาดหัว" จะอันกี่ร้อย หรือ เป็นพัน ก็ใช้ได้ แต่ก็ต้องเลือกซื้อเลือกหากันเสียหน่อย ทำไมต้องคาดหัว เวลาคุณไปเที่ยวป่า เจอบ้างไหมครับ ถึงแค้มป์กลางคืน จะกางเต๊นท์ ก็ต้องกางแบบมืดๆ เพราะฉะนั้น ไฟฉายแบบถือ จะกางเต๊นท์ค่อนข้างลำบากมาก ในขณะที่ สมมติ แผ่นดินไหว กลางคืน หรือ เหตุอะไรก็แล้วแต่ ในเวลากลางคืน ถ้าเรารอด การใช้ไฟฉายคาดหัว จะส่งผลดี ตรงที่ คุณ ไม่ต้องถือไฟฉายให้ลำบาก ในขณะที่ คุณต้องถือเป้ สัมภาระฉุกเฉินด้วย และ อาจจะต้องมีการยกสิ่งของ อิฐ หิน ที่ขวางทางเดิน เราด้วย

2. ไฟฉายแบบถือ มีไว้สำรอง เผื่อใช้ในกรณีอื่นๆ มีติดไว้ครับ

3. ไฟฉาย แบบ จานบิน (ตามในรูปสีขาว มีหลอด LED 24 ดวง) ใช้ในห้อง ได้ คุณอาจจะเอาไว้อ่านหนังสือ ดูแผนที่ก็ได้ครับ เป็นต้น ถ้าถามผมว่า ทำไมไม่เอาตะเกียงไปเลย ผมอยู่ห้องพัก ครับ ถ้าจุดแล้ว ไฟไม่มี พัดลมไม่ติด บอกอย่างเดียว ว่า ร้อนมากมาย มีสิทธิ์เปลืองน้ำ อีกต่างหาก เพื่อบรรเทาความร้อน ถ้าเป็นตะเกียงแก็ส ผมว่าเก็บแก็ส ไว้หุงหาอาหาร ดีกว่าครับ

4. เทียน จะไซด์ ไหน ก็ได้ครับ ผมไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ กรณี แบตหมดแล้ว กลับคืนสู่สามัญครับ

5. แบตเตอรี่ไฟฉาย ต้องมีติดไว้ครับ ยิ่งเยอะยิ่งดี ทุกไซด์ทุกขนาด ตามสเปกของไฟฉายครับ เวลาไม่ใช้ ให้เอาถ่านออก เพื่อรักษาไฟฉาย กันถ่านละลาย ครับ

6. ไฟฉายไม่ต้องใช้ถ่าน ใช้หมุนเอาครับ มีติดไว้ก็ดี (พอดีผมยังไม่มี)

7. อีกอย่าง ที่ผมคิดไว้ น่าจะมีกระบองไฟ อีกสักอัน ใช้ยามฉุกเฉินได้เหมือนกัน

พอมีอุปกรณ์ ครบแล้ว กรุณา เทส สภาพการใช้งานทุกๆ 1 อาทิตย์ ก็ดีครับ อันนี้แล้วแต่ว่าจะทำหรือไม่ทำครับ ไม่ใช่เวลาพอใช้ แล้วเจ๊งครับ

 

ไฟฉายพยายามหาที่ใช้ถ่านชนิดเดียวกันและหาง่ายๆครับ

พวก เอเอ เป็นต้น

 

ทั้งไฟฉายและถ่าน ถ้ายังไม่ใช้ นอกจากเอาถ่านออกแล้ว เอาใส่ถุงพลาสติกรัดยางกันน้ำไว้ เผื่อจะต้องลุยน้ำ/ลอยคอหนีน้ำท่วม แยกใส่ทุกเป้ เผื่อสูญหายไปบ้างเป้ ๆ ที่เหลือก็ยังมีของเหล่านั้นไว้ใช้บ้าง

 

จัดจุดอพยพรับสตรอมเสิร์ช บางนา "งานเข้า" เตรียม 5 จุด-50 เขตสำรวจจุดเสี่ยง [18 ส.ค. 51 - 04:34]
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพเรือยกพลขึ<WBR>้นบก ถ.ทางรถไฟสายเก่า บางนา นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุ<WBR>มเชิงปฏิบัติการเพื่อซักซ้<WBR>อมแผนปฏิบัติการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุ<WBR>งเทพฯ ในระดับวิกฤติและกรณีเกิดคลื่<WBR>นพายุซัดฝั˜ง หรือสตรอมเสิร์ช ที่มีผู้บริหาร กทม. ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เข้าร่วมประชุม ว่า ตนได้สั่งการไปยัง ผอ.เขตที่อยู่
ในพื้นที่เสี่ยง อาทิ เขตบางนา เขตยานนาวา เขตราษฎร์บูรณะ เขตบางขุนเทียน เขตบางบอน เขตจอมทอง เขตทุ่งครุ ให้เร่งแจกคู่มือรับมือคลื่<WBR>นพายุซัดฝั่งเตรียมพร้อมกรณีน้<WBR>ำท่วมกรุงเทพฯฉับพลัน เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัวไว้<WBR>ให้พร้อมหากเกิดเหตุการณ์<WBR>สตรอมเสิร์ชขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าเหตุการณ์สตรอมเสิร์<WBR>ชจะไม่เกิดขึ้นในระดับรุนแรงอย่<WBR>างแน่นอน ทั้งนี้ทาง กทม.และหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ประมาท ซึ่งก็ได้มีการหารือถึงเรื่องที<WBR>่อพยพของประชาชนด้วย โดยให้ ผอ.เขตไปประสานหาสถานที่กั<WBR>บทางเอกชน ภาครัฐ และแจ้งให้กับทางประชาชนได้รั<WBR>บทราบ เบื้องต้นทาง ผอ. เขตบางนาได้แจ้งว่าได้หาสถานที่<WBR>อพยพไว้เรียบร้อยแล้วมีจำนวน 5 จุด ได้แก่ 1. ไบเทค บางนา 2. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางนา 3. อาคารเนชั่น 4. อาคารอินเด็กซ์ และ 5. ห้างบิ๊กซี บางนา นอกจากนั้น เร็วๆนี้ทางสำนักงานเขตที่เป็<WBR>นพื้นที่เสี่ยงจะได้ลงสำรวจพื้<WBR>นที่ว่าในเขตเสี่ยงดังกล่าวมีชุ<WBR>มชนใดบ้างที่จะได้รับผลกระทบ พร้อมกับจัดทำแผนที่เส้นทางหนี<WBR>ภัยเพื่อให้ประชาชนใช้หลบภัยด้<WBR>วย
ด้านนายวัฒนา กันบัว ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาทางทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า การเกิดสตรอมเสิร์ชที่สร้<WBR>างความเสียหายให้กับบ้านเรื<WBR>อนและประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นไปได้ยาก เนื่องจากตัวสร้างคลื่น คือ พายุนั้นจะมีกำลังอ่อนลงเมื่<WBR>อเข้าใกล้พื้นดิน เพราะมีภูเขา และต้นไม้เป็นแรงลดกำลังลมอยู่ ดังนั้น พายุจึงไม่สามารถที่จะสร้างคลื่<WBR>นยักษ์ที่สร้างความเสียหายได้ อย่างไรก็ตาม หากการคาดการณ์เรื่องสตรอมเสิร์<WBR>ชเป็นจริง ก็จะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่<WBR>างน้อย 7 วัน จึงมั่นใจได้ว่<SCRIPT><!--D(["mb","\u003cWBR\u003eาประชาชนจะอพยพออกจากพื้นที่ได้\u003cWBR\u003eทันโดยไม่มีการสูญเสียชีวิตอย่\u003cWBR\u003eางแน่นอน. \u003c/p\u003e\n\n\u003cp style\u003d\"text-align:center\"\u003e\u003cfont color\u003d\"#009900\"\u003e\u003cstrong\u003e\u003cu\u003eนสพ.ไทยรัฐ\u003c/u\u003e\u003c/strong\u003e\u003cbr clear\u003d\"all\"\u003e\u003c/font\u003e\u003cbr\u003e-- \u003cbr\u003e\u0026quot;ยามทะเลาะกันผู้ที่เงียบก่อนคื\u003cWBR\u003eอ ผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนที่\u003cWBR\u003eดี\u0026quot;\u003cbr\u003e\u003c/p\u003e\u003c/div\u003e\u003cbr\u003e\n--~--~---------~--~----~------\u003cWBR\u003e------~-------~--~----~\u003cbr\u003e\n****  รู้จักขอบคุณเมื่อได้รับ   ขออภัยเมื่อผิดพลาด  คือสิ่งที่สมาชิกกลุ่มพึงกระทำ  ****\n \u003cbr\u003e กติกา  ง่ายๆ ในกลุ่ม\n \u003cbr\u003e 1. ห้ามโพสรูปภาพหรือข้อความที่เกี\u003cWBR\u003e่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์\u003cWBR\u003eในทางเสื่อมเสีย\n \u003cbr\u003e 2. ห้ามใช้วาจาหยาบคาย  ห้ามบ่นว่าเมล์ หรือ reply เยอะ  ถ้าเช็คไม่ทัน ลาออกง่ายกว่า  \n \u003cbr\u003e 3. ห้ามโฆษณาที่หวังผลประโยชน์\u003cWBR\u003eทางการค้า  ใครโพสแบนทันทีโดยไม่แจ้งให้\u003cWBR\u003eทราบ\n \u003cbr\u003e 4.  ไม่ได้รับเมล์อีก(กรุณาอ่านด้\u003cWBR\u003eวย) \u003ca href\u003d\"http://www.bloggang.com/viewblog.php?id\u003dnulex\u0026amp;group\u003d1\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\u003ehttp://www.bloggang.com/\u003cWBR\u003eviewblog.php?id\u003dnulex\u0026amp;group\u003d1\u003c/a\u003e\n \u003cbr\u003e 5. กรุณาใช้ถ้อยคำที่สุภาพ \n \u003cbr\u003e 6. ข้อมูลสมาชิก \u003ca href\u003d\"http://www.bloggang.com/viewblog.php?id\u003dnulex\u0026amp;group\u003d1\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\u003ehttp://www.bloggang.com/\u003cWBR\u003eviewblog.php?id\u003dnulex\u0026amp;group\u003d1\u003c/a\u003e\n \u003cbr\u003e \u003cp\u003e - ส่งเมล์เข้ากลุ่มได้ที่   \u003ca href\u003d\"mailto:nulex@googlegroups.com\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\u003enulex@googlegroups.com\u003c/a\u003e  \n \u003cbr\u003e  - สมัครรับเมล์-ส่งเมล์เปล่ามาที่   \u003ca href\u003d\"mailto:nulex-subscribe@googlegroups.com\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\u003enulex-subscribe@googlegroups.\u003cWBR\u003ecom\u003c/a\u003e \n \u003cbr\u003e  - ลาออกจากกลุ่ม-ส่งเมล์เปล่ามาที\u003cWBR\u003e่   \u003ca href\u003d\"mailto:nulex-unsubscribe@googlegroups.com\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\u003enulex-unsubscribe@\u003cWBR\u003egooglegroups.com\u003c/a\u003e \n \u003cbr\u003e  * ทั้งสมัครและลาออก  ต้องยืนยันลิงค์จากระบบทุกครั้\u003cWBR\u003eง  \n \u003cbr\u003e  * ย้ำ ยืนยันลิงค์จากระบบทุกครั้ง  (กรุณาสมัครและลาออกด้วยตั\u003cWBR\u003eวเอง)\n \u003cbr\u003e \u003cp\u003eอย่าลืมนะคะ มีอะไรก็แบ่งปัน \n ",1]);//--></SCRIPT> <WBR>าประชาชนจะอพยพออกจากพื้นที่ได้<WBR>ทันโดยไม่มีการสูญเสียชีวิตอย่<WBR>างแน่นอน

 

hello6 ไฟฉายนี่เอาแบบกันน้ำได้บ้างก็จะดี น่ะ ครับ หรือมีตังค์ก็เอาแบบดำน้ำได้เลย ปกติแล้วก็คงไม่ได้ใช้เท่าไหร ตามความจำเป็นเป็นครั้งคราว เดินเข้าห้องน้ำ ส่องหาของเล็ก ๆ น้อย แต่ถ้าเดินทางในเวลากลางคืนก็ต้องใช้ส่องเป็นเวลายาวนาน ส่องหนึ่งกระบอกก็คุมไปได้สามสี่คน ถ้ารู้จักใช้ก็ไม่เปลืองเท่าไหร่ เดินทางกลางคืนก็เลือกเดินเวลาเดือนขึ้นไม่ต้องใช้ไฟฉาย ถ้านอนกลางแจ้งก็สบายมาก เห็นหน้าค่าตานับขนคิ้วได้เลย แต่เวลาเดินกลางคืนก็ต้องศึกษาเวลาเดือนขึ้นเดือนตกข้างขึ้นข้างแรมให้ดี เพราะบางทีเดือนตกแล้วมันมืดสนิท ถ้ายังไม่หาที่นอนก็จะโกลาหล มีไฟฉายเล็ก ๆ ติดตัวหนีบแขวนพระเครื่องเหน็บกระเป๋าเสื้อกระเป๋ากางเกง ปลอดภัยไม่สูญหาย นั่งนอนตรงไหนติดตัวตลอด ตื่นนอนไม่ต้องคลำหาไฟฉายข้างตัว เพราะนอนไปแล้วอาจดิ้นไปมาเปลี่ยนทิศทางนอนโดยไม่รู้ตัว ตัวส่องไกลราคาแพงก็เก็บในเป้ใช้เมือยามจำเป็นจริง ๆ อย่างนี้จะช่วยประหยัดพลังงานลดโลกร้อนได้พร้อมปัจจัยในกระเป๋าก็ไม่พร่องมาก

;26 เป้และการบรรจุเป้ในฤดูฝนก็ต้องมีทักษะหน่อย เป้เป็นวัสดุไนล่อนที่ไม่อมน้ำ และกันน้ำได้ด้วย อันนี้สบายอยู่แล้ว แต่ถ้าเอาเป้บรรจุของในเป้แล้วลงแช่น้ำทิ้งไว้สักพัก น้ำจะเข้าไหม อันนี้น่าคิด ต้องถาม Kitcamp ของที่บรรจุในเป้ไม่ควรใช้ของที่เมื่อโดนน้ำแล้วอมน้ำและจะเพิ่มน้ำหนักในการบรรทุก โดนน้ำแล้วเละ โดนน้ำแล้วละลาย ถ้าเป็นถุงที่ปิดสนิทกันน้ำได้บรรจุภายในอีกครั้งอันนี้ก็เหมาะ เป้ชนิดที่มีหูเกี่ยว มีที่ให้ร้อยรัดอุปกรณ์เพิ่มเติมก็เหมาะสมกับการเดินทางแบบผจญภัย

;26 เสื้อผ้าในฤดูฝนหรือ หนีน้ำท่วม เสื้อผ้าที่ไม่หนาจนเกินไป เพราะโดนน้ำแล้วจะหนัก ตัวเราจะเดินไม่ไหว เสื้อผ้าที่ใหญ่เกินตัวเมื่อโดนน้ำแล้วจะทำให้เดินลำบาก กางเกงที่หลวมโพกเพก เป้ากางเกงยานเมื่อเดินระยะไกล ไอ้ที่ยาน ๆ นั้นแหละจะสีที่ขาหนีบ ทำให้เราไม่อยากจะมองหน้าผู้ร่วมทาง ต้องดึงขอบกางเกงขึ้นแล้วม้วนให้เป้ากางเกงมันพอดี เป็นการเดินท่างที่แสนทุลักทุเล แล้วเราจะไม่ลืมวันนั้นเลยทีเดียว

;26 ถ้าเรามีไม้ง่ามหรือไม้ด้ามจอบที่เป็นไม้ไผ่ แข็ง ๆ สักคนละอันก็จะเหมาะมาก เอาไว้ช่วยพยุงตัว เวลาเดินขึ้นที่สูง หรือลงที่ลาดชัน หรือเอาไว้ขู่หมาดุ ถ้าเดินลุยน้ำก็เอาไว้หยั่งพื้นน้ำข้างหน้าลดอันตรายได้ระดับหนึ่ง หรือถ้าเดินผ่านทางน้ำไหลแรงก็เอาไว้ต่อแนวในการเดินได้ ใช้แทนเชือกได้ในระดับหนึ่ง ในขณะเดินผ่านทางน้ำไหลอาจเสียหลักก็จะได้ใช้ไม้ค้ำยันไม่ให้ล้มคมำได้ อีกวิธีถ้าใช้เดินต่อแนวโดยใช้มือประสานกันเป็นแนวแล้วเดินข้ามลำน้ำ แต่ถ้าน้ำแรงมากก็ไม่ไหวเหมือนกัน ถ้าใช้เชือกขึงลำน้ำแล้วเดินเกาะเชือกก็ให้เดินด้านเหนือการไหลของน้ำ ไง ๆ ก็มีเชือกกั้น ที่เขียนมานี่ก็เสียท่ามันมาแล้วทั้งนั้น น่ะ ครับ เลือกวิธีการที่ง่าย ปลอดภัย และถนอมกำลัง เป็นดีที่สุด

;26 คงเป็นประโยชน์บ้าง น่ะ ครับ

 

อนุโมทนากับทุกข้อความค่ะ พักนี้กดอนุโมทนา ปุ่มหายแต่ชื่อไม่ขึ้นค่ะ