ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. cop1976

    cop1976 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +177
    ตี 4.55 เมื่อคืน ฝันว่า เจ้านายบอกว่าจะขยาย งาน
    อยู่ดีๆ พูดว่า ลาดกระบัง ไม่ใช่ฝั่งหัวตะเข้ ลาดกระบีง ฝั่งมีนบุรี

    ..แล้วก้อเกิดภาพ อาคารแปรงร่างได้ เหมือนดูทีวี อาคาร 4-5 ชั้น มันแปรงร่าง ขยายอาคารใหญ่ ขึ้น เหมือนหนัง tranfromer มันแปรงร่างอยู่ 4-5 ครั้งเป็นอาคารใหญ่ สวยงาม เป็นอาคารสีเขียว สุกท้ายมีตัวเลข 111 ตัวใหญ่ ทับ อาคารที่เราดูอยู่...


    ดูกันต่อไป..........
     
  2. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เตือนภัยทางอากาส

    ฝันเห็นเพื่อนชื่อ หนึ่ง มาเรียกแต่ไม่เข้ามาหา แต่กลับมาริ่งวนรอบตัวเรา สาม รอบแทน แล้วเดินไปขึ้นรถ

    ระวังพายุหมุน (ทำไมต้องแปลอย่างนี้ เดี๋ยวน้องดั๊กจะมาถอดรหัสให้เอง)

    หนึ่ง = a = air
    สาม = c = cycling หรือ circle = วงกลม หรือ หมุนเวียน

    ระวังพายุหมุน หรือ ลมหมุน
    แจ้งเพื่อทราบค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  3. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    <TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">
    [​IMG] 15-09-2008, 01:22 PM <!-- / status icon and date -->


    </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Little Duck<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: May 2008
    ข้อความ: 284
    ได้ให้อนุโมทนา: 1,658
    ได้รับอนุโมทนา 5,793 ครั้ง ใน 286 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 33 [​IMG]





    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->Re: เล่าความฝัน
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ khajornwan
    เห็นคุณ Little Duck เข้ามา post เรื่อง ID เลยไม่ทราบว่าฝันของตัวเองเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ID รึปล่าวน่ะค่ะ..

    ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาฝันถึงพี่สุดใจและคุณนีโม่ทุกวันเลยค่ะ พี่สุดใจมาให้รูปแบบบรรยายธรรมะส่วนคุณนีโม่จะคล้าย ๆ เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ แต่คืนสุดท้ายที่ฝันฝันว่าคุณนีโม่ให้ไปซื้อล๊อตเตอร์รี่เลข 74 และให้ซื้อ 4 ฉบับ แต่พออีกคืนนึงเราฝันต่อกลับฝันว่าไปซื้อล๊อตเตอร์รี่ในใจตั้งใจไปซื้อ 74 แต่กลับซื้ออะไรไม่รู้มา 2 ฉบับ พอหยิบออกมาดูกลับเป็นเลข 55 ก็เลยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรน่ะค่ะ..


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    hello10"" สวัสดีค่ะ คุณ khajornwan

    ต้องขอโทษที่ตอบช้านะคะ ระบบเพิ่งส่งข้อมูลมาน่ะค่ะ
    ขอแยกเป็นสองรายการ

    khajornwan = 11+8+1+10+15+14+23+1+14 = 97 = 16 = 7
    LOTTERY = 12+15+20+20+5+18+25 = 115 = 7

    7+7 = 14 = ID

    เลข 7 = ภาระหน้าที่และการปกป้อง / รหัสปฏิบัติการ พญานาค 07/09

    ผลลัพธ์ของชื่อคุณ = 97 = 16= 7

    74 = GD = GOLDEN DRAGON = มังกรทอง / พญานาคสีทอง
    4 ฉบับ = 4 = ID

    แจ้งมาเพื่อทราบ

    Little Duck .. [​IMG]
    <!-- / message -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>.............................................
    ตั้งใจนำมา post หลังวันที่ 16 เพราะเกรงว่าจะเป็นการให้หวยไปค่ะ..
    แต่ก็แอบมีความหวังไปซื้อล๊อตเตอรี่เลขท้าย 755 มา 2 ฉบับ
    ปรากฏว่าเลขท้าย 2 ตัว ออก 56, 3 ตัว ออก 557 เลยถูกหลอกเรยย..
    กะว่าถ้าถูกจะมาสมทบทุนมูลนิธิซักกะหน่อย เลยไปสมทุบทุนกองสลากแทนอีกแร้ะ.. อิอิ..

    ;welcome2มังกรทองมารายงานตัวแล้วค่ะ..;welcome2
     
  4. ceta64

    ceta64 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +87
    ตั้งใจนำมา post หลังวันที่ 16 เพราะเกรงว่าจะเป็นการให้หวยไปค่ะ..
    แต่ก็แอบมีความหวังไปซื้อล๊อตเตอรี่เลขท้าย 755 มา 2 ฉบับ
    ปรากฏว่าเลขท้าย 2 ตัว ออก 56, 3 ตัว ออก 557 เลยถูกหลอกเรยย..
    กะว่าถ้าถูกจะมาสมทบทุนมูลนิธิซักกะหน่อย เลยไปสมทุบทุนกองสลากแทนอีกแร้ะ.. อิอิ..


    ของผมสมทบทุนกองสลากเป็นประจำ... เพื่อชาติครับ
    ...อิิอิ.. (ขอยืมหน่อย)
     
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <o></o>
    <table class="MsoNormalTable" style="width: 100%;" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0cm;"> สัมภาษณ์พิเศษ: อาจารย์ปริญญา ตันสกุล บุรุษผู้นำสาส์นจาก "จิตจักรวาล" สู่ชาวโลก<o></o>
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0cm;">

    โดย สุมาลี

    <o></o>
    </td> </tr> </tbody></table> <o></o><table class="MsoNormalTable" style="width: 100%;" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr style=""><td style="padding: 0cm;" valign="top"> หากจะเอ่ยชื่อของบุรุษท่านนี้ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล หลาย คนอาจจะนึกถึงหนึ่งในอดีตผู้นำนักศึกษายุค 14 ตุลา แต่วันนี้ อาจารย์เป็นที่รู้จักในนาม นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรม มีความเชี่ยวชาญในการพูดบรรยาย และเขียนหนังสือเกี่ยวกับการแก้ไขพฤติกรรมที่บกพร่องของบุคลากร
    อาจารย์ปริญญาเป็นวิทยากรอำนวยการ ของ สถาบันพัฒนาพฤติกรรมมนุษย์ HMDC รับเชิญจากองค์กร ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศ ไปบรรยาย ฝึกอบรม สัมมนา ฝึกอบรมปฏิบัติการเพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมนุษย์ ผ่านจิตสำนึก ด้วยวิธีที่ท่านคิดค้นขึ้นมาเรียกว่า "ไซโคโชว์"

    แต่แรงจูงใจที่พาเราไปพบ และสัมภาษณ์อาจารย์ปริญญาในครั้งนี้ มิใช่เรื่องที่กล่าวมาข้างต้น หากเป็นเรื่องของการเตือนภัยไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับคลื่นยักษ์สึนามิ โดยการเขียนหนังสือชื่อ "11:11 วันเวลาที่สิบเอ็ด รหัสแห่งหายนะโลก" พิมพ์ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 และในปีเดียวกันนั้น อาจารย์ปริญญาก็ได้จัดคณะทัวร์ลงไปภาคใต้ ทั้งเกาะภูเก็ต พังงา ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า สุราษฎร์ธานี เพื่อบอกข่าวร้ายนี้ให้ชาวใต้ได้ทราบและเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมัน แต่กลับไม่มีใครเชื่อหรือให้ความสนใจ จนสองปีผ่านไป เหตุการณ์นั้นก็ได้เกิดขึ้นจริงตามที่เป็นข่าวไปทั่วโลก
    มีคำถามว่า อาจารย์ปริญญาทราบได้อย่างไรว่าจะเกิดสึนามิในอนาคตข้างหน้า?...
    คำตอบที่อาจารย์ปริญญาสละเวลามานั่งอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอนให้เราทราบ อยู่ในบรรทัดต่อไปนี้... อยากทราบว่าตอนนี้อาจารย์ทำอะไรบ้างคะ

    "สิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้ก็คือ คิดสร้างทฤษฎีขึ้นมา ซึ่งเป็นทฤษฎีทางด้านวิทยาศาสตร์พฤติกรรมขึ้นมา ที่ผมเรียกว่า ทฤษฎีการถ่ายทอดพฤติกรรมผ่านจิตสำนึกของมนุษย์ แล้วก็สร้างกลยุทธ์ขึ้นมารองรับทฤษฎี ซึ่งเป็นความเชื่อของตัวเอง ผมเรียกมันว่า "ไซโคโชว์" ย่อมาจากคำว่า psychology และ show ที่แปลว่า แสดง...
    ผมสร้างตัวนี้ขึ้นมา เพื่อแก้ไขพฤติกรรมขยะของมนุษย์ และสร้างทักษะในการสั่นสะเทือนจากจิตสำนึกให้กับมนุษย์ ผมเชื่อว่า พฤติกรรมมนุษย์นั้น ไม่ได้เกิดมาจากอารมณ์ ความรู้สึก อย่างเดียว แต่มีบ่อเกิดของพฤติกรรมที่เราแสดงออกกันทั้งวัน เราเคยร่ำเรียนจากเมืองนอกกันมา เราเน้นแต่ในเรื่องจูงใจ อยากให้ใครเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็นำสิ่งล่อใจมาจูงใจ จูงด้านบวกบ้าง จูงด้านลบบ้าง ประเทศที่ด้อยพัฒนาทั้งหลายก็นำตัวนี้ไปใช้กัน ซึ่งผมมองเห็นว่าประเทศไทยเราเป็นเมืองพุทธ พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนว่า อย่า-อยู่-อย่าง-อยาก ท่าน ไม่ได้พูดสั้น ๆ อย่างนี้ อันนี้เป็นคำที่ผมนำมาสรุปเอง ท่านทรงสอนให้ละวางกิเลส ปฏิเสธปัญหา แต่ทฤษฎีของฝรั่งที่ว่าด้วยการจูงใจนั้น เป็นการกระตุ้น "ต่อมอยาก" ของมนุษย์ มนุษย์จะไม่ทำความดี ถ้ามองไม่เห็นว่าทำดีแล้วจะได้อะไรตอบแทน มนุษย์จะไม่ยอมเลิกทำชั่ว ถ้าไม่กลัวว่าทำชั่วแล้วจะติดคุก หรือถูกประหารชีวิต ทุกวันนี้ก็ยังมีคนทำชั่ว ยังไม่หยุดทำ เพราะจิตสำนึกบกพร่อง และอีกอย่างหนึ่งก็คือ เพราะเราไปกระตุ้นต่อมอยากของมนุษย์ซะจนเคยตัว มนุษย์จะทำสิ่งใดเพียงเพราะว่าอยากทำ จะไม่ทำสิ่งใดเพียงเพราะแค่ไม่อยากทำ ทั้งที่จริงๆแล้วสิ่งนั้นไม่ควรทำ ก็ดันไปทำ แต่สิ่งที่ควรจะทำกลับไม่ทำ ไม่ว่าจะเป็นทางธรรมะ ที่เราสอนกัน ทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างเบื้องบน ทำบุญหลายหนได้กุศลหลายครั้ง นี่คือคำเชิญชวนของชาวพุทธ ซึ่งนี่คือ ตะแบง พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนอย่างนั้นเลย

    ทุกวันนี้คนทำบุญเพราะอยากไปสวรรค์ ไม่ได้ทำบุญหรือทำความดีงาม เพราะเห็นว่ามันดี อย่างนี้เรียกทำความดีงามแต่ก็งมงาย ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ที่ผมศึกษาถือว่าเป็นโมฆะกรรม เพราะทำดีแต่งมงาย คุณต้องทำดีให้ได้ด้วยจิตสำนึกของตัวคุณเอง นั่นคือสิ่งที่ผมศึกษา..."

    อาจารย์ช่วยให้คำจำกัดความของคำว่า "งมงาย" หน่อยค่ะ
    "งมงาย แปลว่า ทำหรือเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิดก็ตาม เชื่อหรือทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่อาจอธิบายได้ว่า มันดีหรือมีประโยชน์อย่างไร มันคืออะไร...

    คำว่างมงายก็คือ เชื่อทันทีที่ได้ฟัง ปฏิเสธทันทีที่ได้ยิน มันต้องใช้สติปัญญาในการไตร่ตรองพิจารณาก่อน เพราะเราเกิดมาเป็นมนุษย์ มีจิตสำนึกที่สัตว์เดรัจฉานไม่มี ศูนย์กลางของการสั่นสะเทือนทางจิตของมนุษย์ก็คือ สติปัญญาที่ได้จากการใช้สมองให้เป็น และจุดศูนย์กลางของการขับเคลื่อนพฤติกรรมทางความคิด และพฤติกรรมทางกายหยาบก็คือ ความรัก สัตว์มีความรักแน่ เพราะเขามีความไร้เดียงสา ถ้ามนุษย์เรารักกันไม่เป็น รักกันไม่ได้ ก็ต้องอายหมา อายสัตว์เดรัจฉาน ถ้าเราไม่รู้จักรักกัน เหมือนอย่างที่เขาด่ากันว่า ขนาดหมาแมวก็ยังรักลูก แต่มนุษย์บางคนเลวกว่าสัตว์เพราะรักไม่เป็น..."

    กลับมาที่ทฤษฎีที่อาจารย์บอกว่าสร้างขึ้นมานั้น เป็นประโยชน์อะไรบ้างกับมนุษย์
    "ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ทางด้านจิตวิทยาที่ผมค้นพบ คือต้องการให้มนุษย์แสดงอำนาจในตัวเองออกมา โดยการค้นหาอำนาจในตัวเองให้พบ อำนาจที่แท้จริงก็คือ อำนาจที่ต้องได้มาจากการสั่นสะเทือนทางจิตสำนึก ไม่ใช่อำนาจที่ได้จากการถูกจูงใจ เมืองนอกเมืองนาผมก็ไปเรียนมา และค้นพบว่าการจูงใจนั้นทำให้มนุษย์เราสันดานเสีย ถ้าเราสอนลูกหลานว่า กลับถึงบ้านต้องขยันอ่านหนังสือ ถ้าไม่มีอะไรจูงใจ ไม่ขู่ว่าจะตี ไม่คอยจ้ำจี้จ้ำไช ลูกก็อาจจะไม่ทำ มัวแต่ดูการ์ตูน แต่ถ้าบอกลูกว่า ถ้าทำการบ้านเสร็จ แม่จะให้เล่นเกม ลูกจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทันที แต่ในขณะที่ทำการบ้าน ใจก็มุ่งไปที่เกมแล้ว เด็กก็รีบทำให้เสร็จเร็ว ๆ จะได้ไปเล่นต่อ ซึ่งตรงนั้นเป็นพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน เพราะจริง ๆ เด็กยังไม่ได้รักการอ่าน การทำการบ้าน แต่รักการเล่นต่างหาก เด็กทำเพราะเป็นสิ่งที่แม่ต้องการให้ทำ หรือทำเพื่อตัวเองจะได้ไปเล่น แต่ไม่ได้มีจิตสำนึกที่จะทำ"
    แล้วจะสอนอย่างไรให้เด็กมีจิตสำนึกล่ะคะ


    "สิ่งแรกที่ต้องทำคือ แม่ต้องเลิกใช้วิธีนี้ ทุกวันนี้สถาบันครอบครัวในสังคมไทยเราล้มเหลว โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเมือง เพียงแต่ว่าเราเองเห็นภาพไม่ชัดเจน เช่น เด็กที่ยกพวกไปตีกัน ไปสืบประวัติดูก็พบว่า พ่อแม่ก็มีนะ แต่ไม่มีเวลาดูแลลูก หรือเลี้ยงลูกแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ มาตั้งแต่เด็ก หรือเด็กที่มีปัญหาท้อง แท้ง ทิ้ง ก็มาจากโครงสร้างของสังคมล้มเหลว หรือแม้กระทั่ง 5 จังหวัดภาคใต้ อาจารย์ได้รับเชิญจากกระทรวงมหาดไทยให้ไปทำไซโคโชว์ให้ ทำได้แค่ 2-3 รุ่น เพราะมีปัญหาบางอย่างเลยทำให้ทำต่อไม่ได้ ผมทำให้ฟรี เสียสละทุกอย่าง เพราะอยากช่วยประเทศชาติ
    ผมมาทำตรงนี้เพราะผมสำนึกได้ว่ามันเป็นหน้าที่ของผม มนุษย์เรามีหน้าที่สองด้าน คือหน้าที่ทางโลก และหน้าที่ทางจิตวิญญาณ ผมศึกษาวิทยาศาสตร์ทางจิต แล้วก็ค้นพบทฤษฎีอะไรมากมายเกี่ยวกับมนุษย์ และค้นพบแม้กระทั่งสึนามิจะเกิด ผมยังเป็นคนเตือนคนในประเทศไทยเอาไว้ ผมลงทุนพาชาวคณะจากกรุงเทพฯ 2 คันรถบัสไปเตือนคนที่เกาะภูเก็ต ประมาณปี 44 ผมไปถึง 2 ครั้ง แต่เชื่อมั้ย ไม่มีใครสนใจ แม้แต่นายกเทศมนตรีของภูเก็ต ฟังผมพูดไม่ทันถึง 5 นาที ก็ลุกเดินออกจากห้องไปเลย..."


    เราชาวพุทธเคยได้รับการสั่งสอนมาว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อใช้กรรม สำหรับทฤษฎีของอาจารย์นี่มนุษย์เราเกิดมาเพื่ออะไรคะ
    "...มนุษย์เราทุกคนที่มาเกิดในโลกย่อมมีหน้าที่ติดตัวมาด้วยทุกคน คือหน้าที่ทางจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำประเทศ หรือเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำทางศาสนา เพื่อเป็นแม่ทัพนายกอง หรือเพื่อจะมาเป็นแบบนายกรัฐมนตรี หรือจะเป็นใครก็ตามทุกคนมีหน้าที่ทางจิตวิญญาณ แต่ว่าคนบางคนเกิดมาทั้งภพชาติ ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำหน้าที่อะไร เลยต้องเวียนตายเวียนเกิดกันพอสมควร...


    ] บังเอิญผมโชคดีที่ผมศึกษา เรียนรู้ และค้นพบว่าตัวผมเองมีหน้าที่ต้องทำสิ่งใด ซึ่งหน้าที่ของผมก็คือ ต้องเป็นบุรุษไปรษณีย์ ให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในยุคนี้ด้วยกัน เป็นบุรุษไปรษณีย์รับสารจากผู้ที่มีข่าวสารจากคนละมิติกัน ซึ่งผมเรียกว่า จิตจักรวาล ใช้ระบบจิตสื่อจิต เป็นวิธีพิเศษที่เราใช้จิตเราร่วมกับสมองซีกขวาและซีกซ้ายเพื่อให้เกิดปัญญา

    การสื่อกับจิตจักรวาลที่ผมพูดถึงนี้ก็คือ ผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของมนุษย์ทุก ๆ คน และเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง ถ้าเป็นศาสนาคริสต์ เขาเรียกว่า God แต่ผมกลัวคนจะสับสน เพราะผมเป็นพุทธ ผมก็เลยขอพระนามพระองค์ว่า จิตจักรวาล คำว่าจิตแปลว่า แก่นแท้ จักรวาล ก็คือ สนามพลังงานสากลที่กว้างใหญ่ไพศาล เพราะฉะนั้น จิตของจักรวาลก็คือ จุดกึ่งกลาง หรือจุดศูนย์กลาง ของจักรวาลอันไพศาล และจุดศูนย์กลางนั้นก็คือ สิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของทุกสรรพสิ่งในสนามพลังงานสากล

    God หรือจิตจักรวาลนี้มีพระองค์เดียวนะ คำว่า God ก็คือที่เราเรียกว่า พระผู้เป็นเจ้า หรือพระผู้สร้าง ไม่มีอะไรเลยในสนามจักรวาลนี้ที่จะเกิดขึ้นมาเองได้ ไม่มีสิ่งใดบังเอิญ ล้วนมีผู้ให้กำเนิด หรือมีจุดกำเนิดทั้งนั้น เช่น พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากเหตุ เมื่อเหตุดับ ทุกอย่างย่อมดับตามไปด้วย หมายความว่า เมื่อมีผลเกิดขึ้น แสดงว่ามีเหตุแห่งการทำให้เกิดผลนั้น เมื่อมนุษย์และโลกคือผลของการเกิดนั้น ถ้าเราเชื่อตามพระพุทธเจ้า ก็แสดงว่า มีเหตุแห่งการทำให้มนุษย์เกิด มีเหตุแห่งการทำให้โลกเกิด ซึ่งการเป็นผู้ทำให้โลกเกิดก็คือ การเป็นผู้สร้างนั่นเอง เช่น พ่อแม่ของเราเป็นผู้สร้างให้ลูกอย่างเรามาเกิดเป็นมนุษย์ เพราะพ่อกับแม่เราเป็นเหตุแห่งการเกิดของเรา ดังนั้น พ่อแม่ของเราล้วนเป็นผู้สร้าง ทางศาสนาจึงเรียก บิดา-มารดาว่า พ่อพระ แม่พระของลูก เพราะเป็นพระผู้สร้างในโลก แต่พ่อแม่เราก็มีผู้สร้างมาเหมือนกัน และสิ่งที่พ่อแม่เราไม่ได้ให้เรามาก็คือ จิตวิญญาณที่อยู่ในกายเรา จิตวิญญาณที่เป็นแก่นแท้ของความเป็นเรา ซึ่งเวลาตายไปแล้ว จิตวิญญาณของเราจะละออกจากสังขารไป แล้วเราเคยคิดไหมว่า จิตวิญญาณเรามาจากไหน และเมื่อตายแล้ว จิตวิญญาณเราจะไปไหน


    ...จิตวิญญาณเป็นรูปธรรมทางพลังงาน นักวิทยาศาสตร์โลกก็ทราบว่า พลังงานสูญหายไปไหนไม่ได้ พลังงานทั่วๆไปจะเป็นคลื่นความถี่ที่เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ แต่จิตวิญญาณของคนเราไม่ใช่คลื่นความถี่ที่ไปเรื่อยๆเป็นกล่องพลังงาน พลังงานมี 2 รูปแบบ 1. คือพลังงานที่เป็นคลื่นความถี่ที่เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดนิ่ง คือสั่นสะเทือนไปด้วย เป็นคลื่นไปด้วย อย่างคลื่นทะเลที่เป็นระลอก ถึงฝั่งก็ซัดเลย แต่จิตวิญญาณของเราเป็นกล่องพลังงาน เป็นกล่องหรือขวดใบหนึ่ง หรือลูกบอลลูกหนึ่ง ที่มีคลื่นความถี่อยู่ข้างในหลายคลื่นความถี่ ที่ลดเลี้ยวเกี่ยวพันกันอยู่ในกล่องนั้น ไม่แตกกระสานซ่านเซ็นออกมาภายนอก มีภาชนะห่อหุ้มเก็บไว้อย่างดี ภาชนะที่ห่อหุ้มจิตวิญญาณนั้น จิตจักรวาลหรือพระบิดาของเราเรียกว่า เมอร์คขะบาห์ คือพลังงานเวลาสั่นสะเทือน จะมีเสียงด้วยซึ่งหูมนุษย์เราไม่ได้ยิน แต่ชาวโลกวิญญาณเขาได้ยิน ความถี่ของเมอร์คขะบาห์จะเป็นความถี่ชนิดหนึ่งที่มีความเข้มข้น มีความถี่สูงมาก เวลาสั่นสะเทือนแล้วจะเกิดเสียงว่า เมอร์คขะบาห์ สิ่งที่ผมพูดนี้ ลูกศิษย์ผมที่เป็นระดับด็อกเต้อร์ เป็นนายพล เขาพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไปหมดแล้ว..."
    แล้วเราจะทราบได้อย่างไรคะว่า เราแต่ละคนเกิดมาเพื่อทำหน้าที่อะไร


    "การที่เราจะรู้ได้ว่า เราเกิดมาเพื่อทำอะไรมีอยู่ 2 วิธี คือ 1. ต้องศึกษา ต้องเรียนรู้ เพื่อจะเปิดมิติทางวิญญาณให้กับตนเอง ซึ่งภาษาผมเรียกว่า ต้องหาหนทางรู้แจ้งด้วยตนเอง อย่างเช่น เป็นกษัตริย์หรือพระเจ้าแผ่นดินนี่ มีใครอยากเป็นแล้วเป็นได้บ้างมั้ย นั่นคือเป็นหน้าที่พิเศษเฉพาะบุคคล ไม่ใช่ทุกคน คือจะต้องขันอาสาว่า ต้องมาทำหน้าที่เช่นนั้น และได้รับอนุญาตจากจิตจักรวาลให้ทำหน้าที่อย่างนั้น หรือตัวผม หน้าที่ของผมนี้ก็เป็นหน้าที่พิเศษเป็นบุรุษไปรษณีย์ รับสาส์นจากจิตจักรวาลมาบอกกับเพื่อนมนุษย์..."


    จิตจักรวาล ที่อาจารย์เอ่ยนั้นมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรคะ

    "ผมจะยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจว่าจิตจักรวาล หรือ God คือใคร คืออะไร นึกถึงภาพแมงมุมตัวหนึ่ง เป็นแมงมุมยักษ์ เวลาเขาชักใย ใยของเขาก็จะยักษ์ใหญ่ตามไปด้วย และตัวแมงมุมอยู่ตรงกลางของใยแมงมุม แมงมุมตัวนี้ ผมสมมุติว่าเป็น จิตจักรวาล ใยแมงมุมที่แผ่กระจายออกไปกว้างใหญ่ เปรียบเสมือนสนามพลังงานสากล ที่กว้างใหญ่ไพศาลเสมือนหนึ่งไร้ขอบเขต แต่ไม่ไร้ขอบเขตนะ เหมือนแมงมุมกว้างใหญ่ขนาดไหนก็จะมีสุดขอบของมันอยู่ สนามพลังงานก็เช่นกัน และแม่แมงมุมตัวนี้ เขาก็ไข่ออกมาทีเป็นร้อย ๆ พัน ๆ ล้าน ๆ ฟอง ๆ พอไข่ออกมาแล้ว จะไปวางบนใยก็ไม่ได้ เพราะไม่ปลอดภัย ก็เลยชักใยทำเป็นเปลือกไข่ขนาดใหญ่ห่อหุ้มไข่เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตัวเองไข่ไว้อีกทีหนึ่ง โดยเปลือกไข่นี้ก็วางไว้บนใยแมงมุมของตัวเองอีกทีหนึ่ง หมายความว่า ใยแมงมุมนั้น จะมีไข่แมงมุมใบใหญ่อยู่ใบหนึ่ง ซึ่งมีไข่เล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ข้างในเยอะแยะ เปลือกไข่ที่แม่แมงมุมชักใยห่อหุ้มไว้นี้คือสิ่งที่สร้างใหม่ วางอยู่บนสนามพลังงานสากลอย่างที่อาจารย์บอก คือวางอยู่บนใย สิ่งที่สร้างใหม่นี้ นักวิทยาศาสตร์โลกเรียกกันว่า เอกภพ และภายในเอกภพประกอบด้วยไข่แมงมุม ขี้แมงมุม อะไรต่ออะไรเยอะแยะเลย เวียนตายเวียนเกิดกันอยู่อย่างนี้ ก็เหมือนเป็นเปลือกที่สร้างไว้ให้ พอลูกเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาว ก็ผสมพันธุ์กันก็ออกลูกออกหลาน วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ หาทางหลุดออกมาข้างนอกไม่ได้ จิตจักรวาล หรือ God ก็เลยต้องส่งพระพุทธเจ้าบ้าง พระเยซูคริสต์บ้าง พระนะบี มะฮะหมัด บ้าง มาคนละยุคคนละสมัย มาเกิดในเปลือกไข่นี้ เพื่อไปบอกคนที่อยู่ในเปลือกไข่ หรือในเอกภพนี้ว่า มรรคผลสูงสุด ต้องนิพพานนะ ที่นี่ไม่ใช้บ้านนะ ต้องออกไปอยู่ข้างนอก ให้เจาะเกราะที่หุ้มห่อป้องกันภัยเอาไว้ให้ ออกมาข้างนอก มาสู่ใยแมงมุมที่พ่อหรือแม่เกาะอยู่ตรงกลาง รอว่าเมื่อไหร่ลูกโตแล้ว จะเจาะเปลือกไข่ออกมาสักที แต่ลูกก็ไม่ยอมเจาะ ก็สนุกสนานว่ายวนกันอยู่ในนั้น นั่นก็คือคำว่า ไม่หลุดพ้น การหลุดพ้นนี้ คือ หลุดพ้นออกไปจากเปลือกที่ห่อหุ้มไว้สู่สนามพลังงานภายนอกที่เรียกว่า แดนสุญตา มาสู่ใยแมงมุมก็คือ สู่อ้อมอกของพระบิดาก็คือแม่แมงมุม


    เพราะฉะนั้นเราก็ต้องหาว่า แดนนิพพานอยู่ไหน แค่เราเจาะเปลือกไข่ออก แค่นี้ก็พอ แต่ทุกวันนี้ ลูกๆของพ่อคือ เทหวัตถุ ทุกสิ่งที่สร้างก็อยู่ในเปลือกไข่นั้น ทั้งโลก ทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตในเอกภพ พระบิดาเป็นผู้สร้างไว้ทั้งหมด ไม่มีสิ่งใดบังเอิญเกิดเลย ทุกอย่างพ่อสร้างให้มันเป็นทั้งนั้น อย่างเช่น น้ำ พระบิดาหรือจิตจักรวาล ก็เป็นผู้กำหนดก็ไม่ต้องมายืนควบคุมกำกับว่า ถ้าเจอความร้อนต้องระเหยเป็นไอนะ ถ้าเจอความเย็นต้องควบแน่นก่อนนะ เป็นหยดน้ำนะ พระบิดาไม่ต้องคอยยืนกำกับ เช่น สมมุติว่า เราเป็นพ่อเป็นแม่ของลูก ถ้าลูกยังเตาะแตะ ไปเองไม่ได้ เราต้องอุ้มกะเตงๆไป พอลูกโตขึ้นมา ไปไหนเองได้ ใครเห็นลูกเราก็ต้องรู้ว่า เป็นเด็กมีพ่อมีแม่ แต่มนุษย์เราโง่ พอเห็นต้นไม้ใบหญ้า เห็นทุกสิ่งก็นึกว่ามันเกิดของมันเอง ไม่ได้นึกว่า สิ่งเหล่านี้มีพ่อแม่สร้างขึ้นมานะ มีผู้สร้างนะ ลืมแม้กระทั่งตัวเอง ลืมว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน มาเกิดเป็นมนุษย์กันทำไม..."


    หมายความว่า จิตจักรวาล ท่านสร้างมนุษย์ให้เกิดมาเพื่อทำหน้าที่บางอย่างใช่ไหมคะ
    "หลักใหญ่ของจิตจักรวาล ก็คือสอนคนให้รู้สำนึกในหน้าที่ของตัวเอง เรามาเกิดเป็นมนุษย์กันทำไม คำว่าเราคือ จิตวิญญาณ และเราต้องสำนึกไว้ว่า ตัวเรานั้นเป็นคนสองมิติ มิติที่หนึ่งคือ มิติของกาย สังขาร ซึ่งผมเรียกว่า เครื่องยนต์แห่งกรรม อีกมิติหนึ่งคือ มิติของจิตวิญญาณ จิตจักรวาลต้องการให้คนรู้ว่า ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์ที่อาสาพระบิดาขอมาเกิดเป็นมนุษย์ มาเพื่อมาขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรม ที่พระบิดากำหนดสร้างให้เลือดในครรภ์ของแม่ สร้างเป็นกายหยาบขึ้นมาที่เราเรียกว่า เครื่องยนต์แห่งกรรม ที่เรียกว่าเครื่องยนต์แห่งกรรม ก็เพราะว่าจิตวิญญาณต้องมาขับเคลื่อนร่างกายเรา ในการทำหน้าที่บางสิ่งที่อาสาพระบิดามาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกใบนี้ ในการแสดงออกหรือกระทำใด ๆ ก็ตามบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ว่าที่สูงสุดคือ เพื่อมาค้ำจุนความสมดุลของโลกทั้งระบบ แต่ที่ผ่านมา มนุษย์บอกว่าโลกคือโลก กูคือกู โลกเป็นแค่วัตถุ หิน ดิน ทราย ไม่เกี่ยวอะไรกับกู กูมีหน้าที่เหยียบดินอยู่บนโลกใบนี้ โลกก็มีหน้าที่อยู่ของโลกไป กูอยากจะเก็บเกี่ยวอะไรบนโลกนี้ก็ได้ กูนึกอยากจะทำอะไรกูก็ทำ เรียกว่า ไร้สำนึก เพราะเกิดมาหลายภพชาติแล้ว มัวแต่หลงโลกมายา หลงอัตตาที่เป็นมายา ลืมหน้าที่ของแก่นแท้ของตัวเอง ภาษาผมเรียกว่า ขาดสติทางวิญญาณ

    และสิ่งนี้คือสิ่งที่ไปเชื่อมโยงกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ผมถึงต้องแฉให้มนุษย์รู้ว่า มนุษย์มีจิตวิญญาณมาเกิด จิตวิญญาณของเรานั้นต้องมาขับเคลื่อนร่างกายที่พ่อกับแม่ช่วยผสมพันธุ์กัน และสร้างกายหยาบให้ไว้รองรับจิตวิญญาณที่มาขับเคลื่อนกายหยาบเพื่อ 1. ทำให้มันเจริญเติบโต 2. ทำให้ยิ้มได้ พูดได้ คิดได้ แสดงออกได้ ทำอะไรก็ได้ เพราะโลกนี้เป็นโลกเสรี แต่หน้าที่จริง ๆ ก็คือ จิตวิญญาณต้องมาขับเคลื่อนร่างกายนี้ในการสร้างโลก โดยใช้หนึ่งสมองกับสองมือและจิตวิญญาณนี้สร้างโลก สร้างความสมดุลของระบบโลก โลกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงที่เป็นดินอย่างเดียว สรรพสิ่งที่อยู่ในระบบโลกล้วนเรียกว่าเป็นโลกทั้งหมด รวมทั้งตัวเองด้วย นั่นก็แสดงว่า มนุษย์มีหน้าที่สร้างตนเอง และสร้างทุกสิ่งให้สมดุล

    ทุกสรรพสิ่งล้วนต้องเป็นไปตามที่พระบิดาทรงกำหนดไว้ทั้งสิ้น สิ่งใดก็ตามที่พระบิดาทรงกำหนดไว้ พระบิดาเรียกมันว่า ธรรมชาติ แต่ธรรมชาติมันไม่ได้เป็นของมันขึ้นได้เอง ต้องมีผู้กำหนดขึ้นอยู่ดี และผู้ที่ทรงกำหนดธรรมชาติก็คือ พระบิดา หรือจิตจักรวาล นั่นเอง"
    แล้วมนุษย์ต้องทำอย่างไรให้โลกเกิดความสมดุล

    "การทำให้สมดุลก็คือ ค้ำจุน พระผู้เป็นเจ้า สอนมนุษย์ไว้เป็นปริศนาธรรม แต่มนุษย์เราไปมองได้แค่ด้านเดียว พระพุทธเจ้าสอนว่า เราคือโลก โลกคือเรา และอีกประโยคหนึ่งคือ เมตตาธรรมค้ำจุนโลก แต่มนุษย์เข้าใจผิดว่า คำว่า 'เรา' คือพระผู้เป็นเจ้าคนเดียว มนุษย์เลยวางประโยคนั้นไว้ ไม่ใส่ใจอีก แต่มนุษย์มาใส่ใจเพียงประโยคที่ว่า เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก แสดงว่า ถ้ามนุษย์รักกัน จะทำให้เราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข นั่นคือ ถูกต้องแค่ครึ่งเดียว ถ้าจะถูกที่แท้จริงคือ เราไม่ได้ค้ำจุนโลกในทางสังคมอย่างเดียว การสร้างเมตตาธรรมก็คือ ถ้าเราเป็นคนมีจิตใจที่งดงาม เราจะไม่ทำลายโลก เราจะไม่ไประเบิดภูเขา ไม่ตัดโค่นต้นไม้ ทำลายป่า ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สัตว์ก็คือโลก พระพุทธเจ้าจึงเอา ปาณาติปาตา เอาไว้เป็นศีลข้อแรกเลย เพราะสัตว์พวกนั้นเขาต่อสู้ ต่อต้านเราไม่ได้ อย่างคนเราฆ่ากัน เราแลกชีวิตกันได้ แต่สัตว์เขาแลกไม่ได้ เป็นลูกไล่เราอย่างเดียว ท่านเลยห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต นั่นก็คือการรักโลก ถ้าเราไม่ฆ่าเขา แสดงว่าเรารักเขา พระพุทธองค์หมายถึงอย่างนั้น...

    แต่จริง ๆ แล้ว โลกเรามันจะสมดุลทางกายภาพอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องมีสมดุลทางพลังงานด้วย ตรงนี้คือสิ่งที่เป็นความลับมาตลอด ที่มนุษย์ทั้งหลายไม่รู้ และอาจารย์ก็มีหน้าที่มาเปิดเผย ที่จิตจักรวาลมอบหมายให้มาทำหน้าที่เผยแพร่

    ร่างกายของเราเปรียบเสมือนรถยนต์ ซึ่งจะวิ่งได้ก็ต้องมีแบตเตอรี่ และตัวที่เป็นแบตเตอรี่ก็คือ จิตวิญญาณนี่ละ เวลาที่แม่ตั้งครรภ์ ถ้าหากว่าไม่มีจิตวิญญาณมาปฏิสนธิอยู่ในครรภ์เป็นทารก ทารกซึ่งอยู่ในกายหยาบ ก็จะเป็นได้แค่ลูกกรอก จะเติบโตมีหน้ามีตา แสดงพฤติกรรมเป็นมนุษย์ไม่ได้ ต้องมีจิตวิญญาณมาปฏิสนธิ เพราะฉะนั้น ทารกในครรภ์ถ้าเป็นผู้หญิงก็เหมือนรถเก๋ง ถ้าเป็นผู้ชายก็เป็นรถถัง หรือรถสิบล้อ หน้าที่ต่างกัน ผู้หญิงก็มีหน้าที่อย่าง ผู้ชายก็มีหน้าที่อย่าง แต่ทุกคนก็มีหน้าที่มาค้ำจุนโลก และผู้หญิงกับผู้ชายก็ต้องทำหน้าที่ร่วมกันด้วย พระบิดาสร้างขึ้นมาให้รู้ว่า ทุกคนเป็นสัตว์สังคม ผู้หญิงจะอวดเก่งกว่าผู้ชายไม่ได้ จะท้องเองโดยไม่ต้องพึ่งผู้ชายไม่ได้ หรือผู้ชายจะท้องโดยไม่ต้องพึ่งผู้หญิงก็ไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน พระบิดาสอนอย่างนี้ ทุกคนมีความสำคัญทัดเทียมกัน

    เวลารถวิ่ง จิตวิญญาณจะเป็นเหมือนกับคนที่นั่งอยู่หลังรถ เหมือนกับเจ้าของรถ พอมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว จิตวิญญาณก็แบ่งภาคตัวเองออกมาส่วนหนึ่งเพื่อให้มาทำหน้าที่ขับรถแทนตนเอง เหมือนกับจ้างคนขับรถมาขับให้ มนุษย์เราเรียกว่า จิตหยาบ ซึ่งผมไม่ชอบใช้คำนี้ ผมใช้คำว่า จิตปัจจุบันแทน จิตวิญญาณได้รับอนุญาตให้แบ่งภาคตัวเองออกไปอีกส่วนหนึ่งมาเป็นพลังงาน เป็นรูปธรรมทางจิตเหมือนกัน เป็นกล่องพลังงานเหมือนกัน แต่ให้มาทำหน้าที่ขับเคลื่อนกายหยาบ ขับเคลื่อนกลไกทั้งหมด จิตวิญญาณก็ประทับเป็นเหมือนแบตเตอรี่รถเฉย ๆ แต่ดูเหมือนไม่สำคัญได้มั้ย รถยนต์ไม่มีแบตเตอรี่ รถยนต์ก็เดี้ยง ไปไม่ได้ แต่จิตวิญญาณไม่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อนโดยตรง แต่มอบหมายให้คนขับขับให้ คนที่ขับให้นี่ก็คือ จิตปัจจุบัน แต่ไอ้คนขับทุกวันนี้ ขับไปขับมา มันนึกว่าไอ้รถคันนี้เป็นของมัน มันลืมไปว่ามีจิตวิญญาณที่เป็นเจ้าของรถ เป็นนายมันน่ะ นั่งอยู่เบาะหลัง มันนึกจะขับซิ่งมันก็ซิ่ง ไม่ได้แคร์เลยว่าผู้โดยสารจะประสาทเสียหรือเปล่า ทุกวันนี้ที่พาไปตกนรกหมกไหม้ก็คือไอ้คนขับนี่แหละพาไป จิตวิญญาณน่าสงสารที่สุด"


    แล้วมนุษย์ที่เกิดมาพิการ ร่างกายไม่สมประกอบ หรือมีสมองไม่ปกติ ทำอะไรไม่ได้ จะอธิบายได้ไหมคะว่าเขาพวกนั้นเกิดมาทำหน้าที่อะไร

    "อย่าลืมว่า มนุษย์ทุกคนที่เราเห็นไม่ได้มาเกิดภพชาตินี้เป็นภพชาติเดียว ทุกคนเวลามาเกิดภพชาติแรก ทุกคนจะถือพันธะมาสองอย่าง อย่างหนึ่งเราเรียกว่า พันธะสัญญา เป็นพันธะที่รับปากกับพระบิดาว่า ถ้ามาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว จะปฏิบัติอย่างไร พันธะสัญญาข้อหนึ่งก็คือ มาเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก คือมาช่วยโลกทางกายภาพให้สมดุล เช่น หมุนรอบตัวเอง 22 ชั่วโมงต่อรอบ มีความเข้มของสนามแม่เหล็กเท่ากับ 14 เกาส์ มีแกนหมุนที่เอียงทำมุมกับแนวดิ่ง 23 องศา เพราะทุกวันนี้มันเพี้ยนไป โลกหมุนช้าลงเป็น 24 ชั่วโมง ยิ่งโลกหมุนช้าขึ้นเท่าไหร่ มนุษย์จะยิ่งอายุสั้นลงมากเท่านั้น พระบิดาไม่ได้สร้างร่างกายของมนุษย์ให้เกิดมาแล้วต้องตาย มันจะตายได้ยังไง มันเจริญเติบโตได้ใช่มั้ย มันซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ซ่อมแซมตัวเองได้ มีอำนาจอยู่ในตัวเอง ทำไมต้องตายด้วยล่ะ ?..."

    แล้วที่พระพุทธเจ้าสอนว่ามนุษย์ทุกคนต้องมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจธรรมล่ะคะ
    "...พระพุทธเจ้าสอนว่า มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดานั่นคือ สอนในสิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่มันเกิดขึ้น แล้วสอนให้คนรู้จักปลง รู้จักยอมอะไรซะบ้าง จะโลภโมโทสันไปทำไมนัก สุดท้ายก็ต้องตาย ที่พูดเช่นนั้นก็เป็นเพราะว่า จิตวิญญาณรอคิว สับเปลี่ยน หมุนเวียนกันมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อทำหน้าที่ของตนเอง ถ้าหากว่าไม่มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันให้มาเกิด มาเกิดแล้วไม่ยอมตาย พวกที่รอมาเกิดเพื่อจะแก้ไขตัวเอง หรือเพื่อทำหน้าที่ก็มาไม่ได้"

    ...ที่ถามว่ามนุษย์เกิดมาแล้วสมองพิการอะไรต่าง ๆ เพราะเมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ นอกจากเขาจะไม่ทำหน้าที่ที่เป็นพันธะสัญญา ที่อาจารย์บอก เขาก็ยังสอบตกด้วยการทำผิดเกิดขึ้นอีกด้วย เมื่อกี้พูดถึงพันธะสัญญาอย่างที่ 1 ไปแล้ว พันธะสัญญาอย่างที่ 2 ก็คือ ก่อนจะมาเกิด จิตวิญญาณของคุณกับจิตวิญญาณอีกหลาย ๆ ดวงจะมานั่งประชุมเพื่อวางแผนกันว่า เราจะจูงมือกันไปเกิดเป็นมนุษย์บนโลก เราจะไปเล่นบทบาทไหนกันบ้าง เช่น คนหนึ่งจะแสดงบทภรรยา อีกคนหนึ่งแสดงเป็นสามี อีกคนแสดงบทลูกสาว อีกคนแสดงบทลูกชาย จากนั้น ยังจะมีคาแร็คเตอร์กำกับไว้อีกว่า จะเป็นคนดีหรือไม่ดี และจะเป็นคนบกพร่องอย่างไร แต่เวลาที่มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว มิติของการที่ไปนั่งประชุมกันมามันจะถูกปิด คุณจึงไม่รู้ว่า ก่อนที่คุณจะมาเกิด คุณได้วางแผนกันเรียบร้อยแล้วว่าจะมาแสดงบทบาทเหล่านั้น เพราะบทบาทที่คุณจะต้องมาแสดงนี้ เป็นบทบาทที่เมื่อคุณแสดงอย่างสมบทบาทแล้ว มันจะนำคุณและทุกๆคนในครอบครัวของคุณไปสู่การค้ำจุนโลกให้สมดุลได้ ซึ่งเป็นการค้ำจุนโลกทางพลังงาน ไม่ใช่โลกทางกายภาพ ปกติแล้วโลกทางกายภาพของมนุษย์ เราไม่มีบ้าน เรานอนถ้ำ นอนโคนต้นไม้ตามป่าตามเขา เราอยู่กันธรรมชาติ ไม่ใครคิดทำร้ายธรรมชาติ เพราะธรรมชาติคือบ้านของตัวเอง แต่ทีนี้เมื่อเราแยกตัวออกจากป่ามาสร้างบ้านอยู่ในเมือง เราเลยทำลายธรรมชาติในป่าอย่างไร้สำนึก เพราะเราไม่คิดว่ามันคือบ้านของเรา...

    ...หน้าที่ของมนุษย์ก็คือ จะต้องมาสั่นสะเทือนร่างกายและจิตวิญญาณของตัวเองในการที่จะค้ำจุนดาว เคราะห์โลกของเราดวงนี้ให้สมดุล คำว่าสมดุลก็คือต้อง 22 ชั่วโมงต่อรอบ ต้อง 14 เกาส์ อย่างที่พูดมาแล้ว จริง ๆ มันต้องละเอียดกว่านั้น แต่พูดแบบคร่าว ๆ ให้ฟัง อย่างประเทศไทยเราปีหนึ่งต้องมี 3 ฤดู อะไรอย่างนี้เป็นต้น แต่ก่อนเรามีร้อน ฝน หนาว แล้วน้ำก็ไม่ท่วมใหญ่ ร้อนก็ไม่แห้งระแหงจนกระทั่งอดอยากอดตาย หนาวก็ไม่หนาวจนตาย จะพอดี ๆ แต่ต่อไปนี้ อาจารย์ปริญญาบอกไว้ว่า ประเทศไทยเราและโลกเราส่วนใหญ่ หนึ่งปีจะมีฤดูร้อนถึง 2 ฤดู พูดง่าย ๆ คือมีฤดูร้อน 2 หน ก็เพราะโลกวิปริตเนื่องจากจิตสำนึกของมนุษย์วิกฤต อย่างที่ผมเล่ามาถึงชะตาชีวิต หน้าที่ของมนุษย์ก็คือ จะต้องใช้จิตปัจจุบันของตัวเองสั่นสะเทือนร่างกาย และจิตใจของตัวเองให้เกิดเป็นความรักขึ้นมาให้ได้ นั่นคือหน้าที่ที่จิตวิญญาณอาสามาเกิดเป็นมนุษย์ ก็คือเพื่อจะมาใช้จิตปัจจุบันซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือของตัวเอง สั่นสะเทือนจิตใจและร่างกายที่เป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมที่ผมเรียก หรือทางพระเรียก กายหยาบ ให้สั่นสะเทือนเป็นความรักเกิดขึ้นมาให้ได้


    ...พระพุทธเจ้าบอกความรักคือเมตตาธรรมค้ำจุนโลกใช่มั้ย เมื่อมีความรักความเมตตามีเยื่อใยต่อกัน ก็จะสามารถอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้ เป็นครอบครัว อยู่สังคมเดียวกัน อยู่ทีมงานเดียวกัน อยู่บริษัทเดียวกันได้ มนุษย์มองแค่นี้ ว่านี่คือการค้ำจุนโลก โลกของพวกเราจะมั่นคงเพราะเรามีความรักความเมตตา แต่จริง ๆ แล้วมนุษย์มองแค่ตรงนั้นไม่ได้ จริง ๆ แล้วเราค้ำจุนโลกทั้งใบด้วย แต่เราค้ำจุนทางพลังงาน..." (โปรดอ่านต่อฉบับหน้า)<!--[if gte vml 1]><v:shape id="_x0000_i1025" type="#_x0000_t75" alt="" style='width:13.5pt;height:13.5pt; mso-wrap-distance-left:5.25pt;mso-wrap-distance-right:5.25pt'> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\vasharr\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image005.gif" o:href="http://www.yingthai-mag.com/images/bullets/rose.gif"/> </v:shape><![endif]--><!--[if !vml]-->

    <!--[endif]--><!--[if gte vml 1]><v:shape id="_x0000_s1027" type="#_x0000_t75" alt="" style='position:absolute;margin-left:-1in;margin-top:-145.9pt; width:75pt;height:95.25pt;z-index:2;mso-wrap-distance-left:3.75pt; mso-wrap-distance-top:3.75pt;mso-wrap-distance-right:3.75pt; mso-wrap-distance-bottom:3.75pt;mso-position-horizontal-relative:text; mso-position-vertical-relative:line' o:allowoverlap="f"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\vasharr\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image002.jpg" o:title="083"/> <w:wrap type="square"/> </v:shape><![endif]--><!--[if !vml]--><!--[endif]--><!--[if gte vml 1]><v:shape id="_x0000_s1028" type="#_x0000_t75" alt="" style='position:absolute;margin-left:-1in;margin-top:-146.3pt; width:75pt;height:89.25pt;z-index:3;mso-wrap-distance-left:3.75pt; mso-wrap-distance-top:3.75pt;mso-wrap-distance-right:3.75pt; mso-wrap-distance-bottom:3.75pt;mso-position-horizontal-relative:text; mso-position-vertical-relative:line' o:allowoverlap="f"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\vasharr\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image003.jpg" o:title="086"/> <w:wrap type="square"/> </v:shape><![endif]--><!--[if !vml]--><!--[endif]--><!--[if gte vml 1]><v:shape id="_x0000_s1029" type="#_x0000_t75" alt="" style='position:absolute;margin-left:-1in;margin-top:-32.4pt;width:75pt; height:84.75pt;z-index:4;mso-wrap-distance-left:3.75pt; mso-wrap-distance-top:3.75pt;mso-wrap-distance-right:3.75pt; mso-wrap-distance-bottom:3.75pt;mso-position-horizontal-relative:text; mso-position-vertical-relative:line' o:allowoverlap="f"> <v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\vasharr\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image004.jpg" o:title="089"/> <w:wrap type="square"/> </v:shape><![endif]--><!--[if !vml]--><!--[endif]--> </td> </tr> </tbody></table> <o></o>
    สัมภาษณ์พิเศษ: อาจารย์ปริญญา ตันสกุล
    (จากนิตยสารหญิงไทย ฉบับที่ 708 ปีที่ 30 ปักษ์แรก เดือนมีนาคม พ.ศ. <!--[endif]-->

    กลับมาที่เมืองไทย อาจารย์มองเห็นภาพในอนาคตเปลี่ยนไปอย่างไรคะ

    "...อาจารย์บอกว่า ประเทศไทยเรา ด้ามขวานจะหักเป็นสามท่อน ที่ว่าหักคือจมทะเลไปหมดเลย หลายคนก็บอก เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเกิดหรอก เหมือนที่ว่ากรุงเทพเนี่ย ไม่เกิดแผ่นดินไหวหรอก ผมบอกว่าเกิด ! ขนาดเมืองกาญจน์แผ่นดินไหวตั้ง 7 ริกเตอร์ กรุงเทพฯก็เตรียมตัวอันตรายได้แล้ว นี่ผมพูดในฐานะของนักวิทยาศาสตร์ทางจิตนะ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ทางโลก ไม่ได้พูดทางวิทยาศาสตร์ทางกายภาพ (อาจารย์จบปริญญาตรี วทบ . ปริญญาโท MBA) ถ้าถามว่าผมรู้ได้อย่างไร ก็พระบิดาบอกผม
    ผมยืนอยู่ท่ามกลางสังคมคนกว้างใหญ่ ผมสื่ออะไรต่ออะไรออกไปมากมาย ผมต้องทำตัวเองให้ว่างจากการมีตัวตน ผมต้องไม่หลงตัวเอง ผมต้องไม่ลืมตัว ต้องรู้ว่าผมเป็นใคร ผมต้องรู้ว่าผมทำหน้าที่อะไร เมื่อผมรู้ตัวผมตรงนี้แล้ว ตัวตนในทางโลกที่เป็นมายาผมไม่มี เพราะฉะนั้น ใครจะใช้จิตทำร้ายผม เขาก็ทำร้ายผมไม่ได้เพราะผมไม่มีตัวตน ผมก็ปลอดภัย..."


    นอกจากสึนามิแล้ว จะเกิดภัยพิบัติอะไรขึ้นอีกบ้าง

    "...ภาคเหนือจะเกิดแม่น้ำสายใหม่ จังหวัดกาญจนบุรีจะมีทะเล เขื่อนบางเขื่อน น้ำจะเป็นน้ำทะเล ภูเขาจะพังและแยกออก น้ำทะเลก็จะทะลักเข้ามา เป็นต้น แล้วประเทศไทยเราก็จะมีภูเขาไประเบิดขึ้นมาตั้ง 3-4 แห่ง แต่อย่าถามว่าอีกเมื่อไหร่ อย่าถามเรื่องเวลา ถ้าผมบอกไปมันก็จะเลื่อน และถ้าเลื่อน มนุษย์ก็จะเจอเรื่องหนักหนาสาหัสกว่า คือมันจะแรงขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว...
    อาจารย์ก็มีหน้าที่ให้ข่าวสารว่าโลกกำลังวิกฤต เพราะจิตสำนึกของมนุษย์ต่ำทราม ถ้าใครรู้ว่าเป็นหนึ่งในนั้น รีบแก้ไขจิตสำนึกของตัวเอง รีบเป็นคนดีซะ เพราะคนที่จะรอดพ้นจากตรงนี้ได้ก็คือคนดี คือ 1. ถือศีล 2. ปฏิบัติธรรม รู้จักรักให้เป็น รักให้ได้ 3. ใช้สมองซีกขวานำซีกซ้าย คือใช้ปัญญาญาณให้เป็น อย่าใช้ซ้ายนำขวาเหมือนตั้งแต่เกิดจนถึงป่านนี้ ถามหาตัวตน เช่น เวลามีปัญหาเกิดขึ้นมาในการทำงาน ทุกคนจะถามหาว่า ใครเป็นคนทำ ? แบบนี้แหละคือการใช้สมองซีกซ้าย คือถามหาตัวตน ...เดินไปด้วยกันบนถนน เจอขยะวางอยู่หลายก้อน เราก็เดินอ้อม หรือบางทีเตะขยะไป เราไม่เก็บเอาไปใส่ถังขยะ ที่เราไม่เก็บเพราะเราบอกว่า เราไม่เป็นคนทิ้งนี่...นี่แสดงว่า เราคิดว่าไม่ใช่ของเรา หรือประเทศไทยนี่ไม่ใช่ของเรา หรือบางทีคิดว่าเราไม่ใช่พนักงานเก็บขยะ นี่คือคุณคิดหาตัวตน...


    ต่อไปนี้โลกเราจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอีกคะ ถ้าหากมนุษย์ไม่สามารถสร้างความสมดุลบนโลกได้

    "...นี่อาจารย์ก็ทำแผนที่ของอาจารย์ขึ้นเอง เป็นแผนที่โลกใหม่ อย่างเช่น สึนามิที่เกิดขึ้นก็เกิดในพื้นที่ที่อาจารย์เทสีแดงไว้ซึ่งนั่นคือเขต อันตราย และที่มันเกิดมันก็อยู่ในโซนสีแดงที่อาจารย์ทำไว้บนแผนที่นี้ มีสีแดงอีกทั้งโลก ตรงไหนบ้าง เอาไว้คอยดูก็แล้วกัน ถ้าสนใจก็คอยติดตามฟัง อาจารย์จะบรรยายธรรมะให้ฟังตามที่ต่าง ๆ แล้วจะก็สอนเรื่องให้คน modify จิตสำนึกของตนเอง"
    เมื่อปลายปี 44 อาจารย์รู้ว่าสึนามิมันจะเกิด อาจารย์เมตตาเพื่อนมนุษย์ ทนไม่ได้ อาจารย์ก็ไปบอกใบ้คนเขา เพราะสงสารไม่อยากให้เกิด ปรากฏว่าพอไปบอก เหตุการณ์ก็เลื่อน ก็ถือว่าเป็นบททดสอบ ก็มีลูกศิษย์ของอาจารย์หลายคนที่หายไป และไม่เชื่ออาจารย์อีก ว่าอาจารย์เพี้ยน แต่เขาก็เพิ่งกลับมา โทรศัพท์มาและก็มากราบขอโทษอาจารย์ที่ล่วงเกินอาจารย์ เพราะสึนามิมันเกิดเหมือนที่อาจารย์พูดไม่มีผิด..."

    บทสัมภาษณ์ดำเนินมาถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ หากท่านผู้อ่านยังติดใจสงสัย อยากจะทราบความกระจ่างที่นอกเหนือไปจากบทสัมภาษณ์ตรงนี้ ติดต่อไปสอบถามอาจารย์ปริญญา ตันสกุล หรือ สมัครเป็นสมาชิกชมรมจิตจักรวาล ที่สำนักพิมพ์จิตจักรวาล โทร. 0-2512-3176 ได้ค่ะ



    สาส์นจิตจักรวาล เตือนวันชำระโลก

    7 มิถุนายน 2548 กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

    ปริญญา ตันสกุล นักวิชาการสัมผัสพิเศษ ที่อ้างว่าสามารถสื่อกับจิตรจักรวาล เตือนอีกครั้งหลังเคยเตือนแม่นเรื่องสึนามิ ว่าอีกไม่เกิน 40 ปีจะมีการชำระโลกครั้งใหญ่


    ทั่วโลกเกิดภัยพิบัติ น้ำทะเลท่วมแผ่นดิน เกิดไวรัสตัวใหม่ พร้อมโชว์แผนที่โลกที่ทำขึ้นใหม่แสดงประเทศที่เหลืออยู่และที่หายไป โดยประเทศไทยที่เด่นชัดคือบริเวณด้ามขวานจะขาดเป็น 3 ส่วน ย้ำภัยครั้งนี้ถูกกำหนดมาแล้วและแก้ไขไม่ได้

    หลังจากที่ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล วิทยาการอำนวยการ สถาบันพัฒนาบุคลิกภาพมนุษย์ ได้เขียนหนังสือ โดยในหนังสือได้เตือนถึงเรื่องการจะเกิดสึนามิขึ้นในประเทศไทย และเมื่อหนังสือเล่มนี้วางแผงได้เพียง 30 วัน ก็เกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้น ทำให้เป็นที่ฮือฮาและเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปเป็นอย่างมากว่า เหตุใดถึงสามารถรู้ล่วงหน้าได้ และต่อไปจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นอีก

    เรื่องนี้ อ.ปริญญา ตันสกุล ได้เปิดเผยว่า สามารถสื่อสารกับจิตรจักรวาลได้ ซึ่งจิตรจักรวาลก็คือผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง ผู้กำหนดชะตาทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไป โดยค้นพบความสามารถตัวเองเมื่อปี 41 และยืนยันไม่ใช่เจ้าลัทธิ เป็นชาวพุทธ แต่ได้ถูกกำหนดให้เกิดมาเป็นผู้สื่อข่าวสารจากจิตรจักรวาล และที่ได้บอกหรือได้เขียนเป็นหนังสือนั้น ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่นำคำของจิตรจักรวาลมาถ่ายทอด ซึ่งตรงนี้หลายคนอาจมองว่าตนเองบ้า เพ้อและเชื่อไปเองคนเดียว แต่ทุกอย่างที่ผ่านมา สิ่งที่เคยเขียนหรือเคยพูดล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ไม่เคยบังคับใครให้เชื่อ แต่จะเน้นสื่อสารเผยแพร่หลักธรรมให้คนทั่วไปเป็นหลัก โดยจะแทรกสิ่งที่เป็นคำเตือนหรือเหตุการณ์ในอนาคตจากคำบอกเล่าของจิตร จักรวาลลงไปด้วย ซึ่งเมื่อคนทั่วไปมีจิตสำนึกดีแล้ว โลกก็จะเกิดการชำระช้าลง

    "ผมเคยพูดมานานแล้วเรื่องภัยพิบัติ ซึ่งตรงนี้ย้ำอีกทีว่าเป็นสิ่งที่จิตรจักรวาลได้กำหนดไว้แล้ว เนื่องจากถึงเวลาชำระ บวกกับจิตใจคนปัจจุบันต่ำลงมาก จากที่ได้สื่อสารกับจิตรจักรวาล จิตใจดีของคนคือเครื่องหล่อเลี้ยงโลก แต่ทุกวันนี้คนคิดไม่ดีมีมาก จึงตรงกับเวลาแห่งการชำระ และอย่างล่าสุดที่ผมเคยบอกไปในหนังสือ ว่าประเทศไทยให้ระวังสึนามิ พอหนังสือวางได้ 30 วัน ก็เกิดสึนามิขึ้น ตรงนี้ผมก็รู้แล้ว แต่ถ้าถามว่าทำไมไม่เตือนให้คนรู้ ผมอยากบอกว่ามันเป็นกำหนดอยู่แล้ว และถ้าผมบอกไปมันก็จะเลื่อนออกไปอีก ไม่ตรงตามที่บอก รวมทั้งผมไม่อยากให้ใครมามองว่าผมอุตริเป็นนักทำนายด้วย แต่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทุเลาลงได้ด้วยการทำดีต่อกันของคนในโลกมนุษย์ ก็จะผ่อนหนักเป็นเบา แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเกิด การชำระจะต้องเกิด"

    อ.ปริญญากล่าวต่อว่า ที่พูดถึงการชำระบ่อย เนื่องจากเห็นว่ามันใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เหตุการณ์ชำระล้างจริงๆ ควรจะเกิดเมื่อเดือนมกราคมปี 46 แต่เนื่องจากมีสาเหตุที่ผมไม่อยากเปิดเผย จึงทำให้เลื่อนออกมา แต่ไม่น่าจะเกิน 40 ปี การชำระโลกครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นแน่นอน จะเกิดภัยหลายๆ อย่างให้โลกเปลี่ยนไป จะเกิดภัยธรรมชาติทุกอย่าง และร้ายแรงกว่าเดิม ที่ที่เกิดแล้วก็จะเกิดซ้ำอีก จะเกิดภัยจากโรคร้าย โดยเฉพาะโรคใหม่คือ ไวรัสทีเรีย เป็นทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย รักษาไม่ได้ จิตรจักรวาลกำหนดมาให้เป็นสิ่งชำระโลก นอกจากนี้คือภัยจากจิตสำนึกอันไม่สมดุลของผู้นำประเทศ จะเกิดสงครามภายในประเทศ และสุดท้ายภัยเศรษฐกิจ ตรงไหนเสียหายก็จะเสียหายซ้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกชำระหมด


    "นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น้อยคนจะรู้คือ ผมเคยทำแผนที่ประเทศไทย และแผนที่โลกฉบับใหม่เอาไว้ ทำตั้งแต่ปี 46 ตอนนั้น เป็นแผนที่หลังเกิดการชำระโลก ซึ่งเชื่อว่าจะได้ใช้กันแน่ๆ พื้นที่โลกจะถูกน้ำท่วม ทั้งน้ำจืดและน้ำทะเล โดยเฉพาะทะเลจะทำให้หลายประเทศหายไป พื้นผิวโลกจะเปลี่ยน โดยบริเวณที่หายไปจะแสดงด้วยสีแดง โดยประเทศไทยที่ชัดๆ คือ ภาคใต้ตรงบริเวณด้ามขวาน จะเป็นพื้นดินยาวลงมาถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือส่วนที่ 1 ต่อมาส่วนที่ 2 เป็นเกาะใหญ่อยู่ตรงกลาง และส่วนที่ 3 คือที่ติดกับประเทศมาเลเซีย โดยจะมีทะเลกันหมดทั้ง 3 ส่วน เกาะภูเก็ต เกาะสมุย และเกาะน้อยใหญ่จะหายไปหมด แต่ละจังหวัดเหลือพื้นที่เพียงน้อยนิด ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว เวียดนาม กัมพูชา ก็จะจมอยู่ใต้ทะเล ส่วนพม่าตอนล่างหายไป จังหวัดทางภาคตะวันตกของไทยกลายเป็นชายทะเล ภาคเหนือจะมีแม่น้ำสายใหม่เกิดขึ้น พื้นที่ของไทยประมาณ 20% จมทะเล"

    อ.ปริญญากล่าวสรุปว่า นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และขอย้ำว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้น แต่อาจจะช้า เร็ว หนัก เบา คลาดเคลื่อนเล็กน้อย คงไม่เกินในระยะ 40-50 ปีนี้ ซึ่งตรงนี้วิธีแก้ไม่มี เนื่องจากทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว แต่สิ่งที่จะทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ทุเลาลง รวมทั้งเป็นทางช่วยตัวเองจากมหาภัยครั้งนี้คือ ทุกคนจะต้องเร่งทำความดี สร้างความรัก และสร้างจิตสำนึกที่ดี เนื่องจากโลกเราอยู่ได้ด้วยพลังด้านบวกของสิ่งมีชีวิต".
    <o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  6. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    Thepkanya= 20+8+5+16+11+1+14+25+1 = 101 = 2
    EVENING = 5+22+5+14+9+14+7 = 76 = 13 =111= 3
    14/9/2008 = 14+9+2+0+0+8 = 36= 9
    2+3+9 = 14 = ID

    ID = การแสดงตน การบอกชื่อ หรือ การได้รับหมายเรียกตัว เตรียมปฏิบัติงาน

    RAINBOW = 18+1+9+14+2+15+23 = 82 = 10 = 1
    1 = AIR = 1+9+18 = 28 = 10

    รหัสปฏิบัติการภาคพื้นอากาศ 1 = AIR = 1+9+18 = 28 = 10

    เมื่อนำผลลัพธ์มารวมกัน 14+1 = 15 = O = OMEN = นิมิต การบอกเหตุล่วงหน้า

    สงสัยคุณ Thepkanya งานจะเข้านะคะ รับหมายเรียกตัว พร้อมรับรหัสปฏิบัติการ .. ขออนุโมทนา ค่ะ

    แจ้งมาเพื่อทราบ

    Little Duck .. [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  7. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    เช้ามืดวันอังคาร...
    ในฝันมีเสียงบอกว่า ณ.คือจิตแห่งน้ำ
    เสียงบอกต่ออีกว่า มีจิตแห่งน้ำอีกดวงเกิดมาเป็นแหวนในมือของ ณ.
    พยายามมองแต่ไม่เห็นมีอะไร ปกติเป็นคนไม่ใส่แหวน...ฝันนี้บอกอะไร?
     
  8. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    จะไปทำงานตอนเช้า แต่ติดรถพี่ทำงานไป (พี่เค้าจะถึงบ้านเราประมาณ 6 โมงกว่าๆ) เลยตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 05.45 น. ก่อนถึง 06.00 น.

    ปรากฏว่าอยู่ๆ ก็ต้องตื่นเอง เวลา 05.44 น. และก็ต้องนั่งสมาธิ..
     
  9. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    peterandpen = 16+5+20+5+18+1+14+4+16+5+14 = 118 =10
    BLUE = 2+12+21+5 = 40 = 4
    10+4 =14

    HOUSE = 8+15+21+19+5 = 68 = 14
    CAR = 3+1+18 = 22 = 4

    14, 4 = ID


    แจ้งมาเพื่อทราบ

    Little Duck.. [​IMG]
     
  10. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ผู้เข้าเชื่อมระบบ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2551 ณ อาคารฝักข้าวโพด
    1.คุณโท คงสกุล

    .............................................................................

    1.
    เทพรัตน์ คงสกุล 30 ส.ค.51 (ที่ In House) นอกจาก เทพรัตน์ฯ ยังมี
    1.1 วราทิพย์ฉัตรนภานิษฐ์
    1.2 สุนิตา อัตชู (ภรรยา คุณชานนท์ อัตชู)
    1.3 ปริณดาวงษ์เนียม


    .................................

    ผู้เข้าเชื่อมระบบ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2551 ณ อาคารฝักข้าวโพด




    [​IMG]
    คุณธนพล วุฒิจักรกุล


    [​IMG]
    น.ส.พรรวินท์ นรภาร (Da_li)



    [​IMG]
    คุณศรุต แสงไสย (โคมฉาย)


    [​IMG]
    คุณนพดล จิระธาดากร (cop1976)





    [​IMG]
    คุณชานนท์ อัตชู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2008
  11. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    GULF SIAM = 7+21+12+6+19+9+1+13 = 88
    BEAR = 2+5+1+18 = 26 = 8
    8+8+8 = 24 = X
    X = เครื่องหมายกากบาท, ขีดฆ่า, จบ
    888 = สัญลักษณ์เลขมงคล ของประเทศจีน ในการจัดโอลิมปิค 08/08/08

    888 = X = ประเทศจีน
    "..น้ำกำลังจะมาทางฝั่งอ่าวไทยเยอะด้วย แต่ไม่ทราบว่ามาจากทางทะเลหรือมาจากน้ำฝนและไม่ทราบระยะเวลาที่แน่นอน แถมยังมีหมีด้วยค่ะ .."


    แจ้งมาเพื่อทราบ

    Little Duck .. [​IMG]
     
  12. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    คือ 29/08/51 เก้าอี้ตรงหน้าเบอร์ 53
    30/08/51 เก้าอี้ตรงหน้าเบอร์ 55
    31/08/51 เก้าอี้ตรงหน้าเบอร์ 52
    5+3+5+5+5+2 = 25
    2+5 =7

    7 = ภาระหน้าที่และการปกป้อง /รหัสปฏิบัติการพญานาค 07/09

    แจ้งมาเพื่อทราบ

    Little Duck .. [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  13. Thepkanya

    Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    น้อง Little Duck
    อนุโมทนาบุญ เช่นกัน สำหรับการช่วยถอดรหัสให้
    และ....เมื่อคืนฝันถึง พระไภษัชย์ฯ เหตุเหมือนท่านเมตตา ..ต้องการให้แจ้งในความจริงและ คลายความเคลือบแคลงสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับหลายสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งกายและจิต ก็คงเป็นบุญวาสนานะ หากจะได้มีโอกาสทำในสิ่งที่เคยอธิษฐาน นั่นก็คือ การได้มีโอกาสช่วย พระพุทธองค์ รักษาพระศาสนา ที่ทรงสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เมื่อถึงเวลาที่มีความพร้อม (คงใกล้เวลาแล้ว ละมัง) ไม่รู้จะทำได้แค่ไหน แต่..คงสุดความสามารถ เพื่อถวาย เป็น พุทธบูชา เหมือนที่ครั้งหนึ่ง องค์เหนือหัวท่าน พระเจ้าตากสินมหาราช ได้สละทั้งชีวิตจิตใจ เพื่อเอาแผ่นดินไทยกลับคืนมา ถวายแด่.. องค์พระสมนโคดม และที่ได้คุยกับ คุณ Neemo ตอนเช้า ก็มีพลังที่จะสร้างความเพียรมากขึ้น พี่Thep ขออนุโมทนาบุญ ที่เกิดในวันนี้ ให้ คุณ Neemo เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นจ้า /. น้องดั๊ก และเพื่อนทุกท่านด้วย
     
  14. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981

    dalink +1+12+9+14+11 = 51 = 6

    Unicorn = 21+14+9+3+15+18+14 = 94 = 13=111 = 3
    open = 15+16+5+14 = 50 = 5
    6+3+5 = 14 = ID

    ข้อสังเกตุ ""

    Unicorn = 21+14+9+3+15+18+14 = 94
    9 = I = 1
    4 = D
    94 = 14 =ID


    แจ้งมาเพื่อทราบ

    Little Duck ..[​IMG]
     
  15. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ขออนุโมทนากับคณะ "แพทย์แผนอนคต" ทั้งสามท่าน ที่อุทิศขันธ์ห้า ให้เป็นเครื่องมือของระบบใช้ทำงาน เพื่อไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่จังหวัดตราด

    ขออนุโมทนากับทีมงาน ทั้งที่ร่วมเดินทางไปจากกรุงเทพฯ และอีกสองท่านที่รอรับอยู่ที่พัทยา ซึ่งให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

    และขออนุโมทนากับผู้ที่ให้กำลังใจอยู่เบื้องหลังผ่านทางกระทู้นี้ทุกท่าน ที่ได้เข้ามาติดตามอ่านข้อความอย่างต่อเนื่อง และติดตามข่าวคราวทุกระยะ จนทำให้คณะทำงานฯ มีกำลังใจมากขึ้น

    ขอขอบคุณ และอนุโมทนากับทุก ๆ ท่านค่ะ
     
  16. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ขอขอบคุณผู้นำเสนอภาพ คุณเทพบุตรชาวดิน และคุณ ukrin มากนะคะ ที่นำภาพดี ๆ มาให้ชม

    และขอขอบคุณ คุณ juksawat ผู้บรรยายเรื่องราวต่าง ๆ ในการเดินทางครั้งนี้ บรรยายได้สนุกสนานมากเลยค่ะ

    ก่อนออกเดินทางก็มีเรื่องมิติ เข้ามาเกี่ยวข้องหลายเรื่อง ก็เป็นที่สนุกสนานของทีมงาน (ลืมเล่าเรื่องการ์ดกล้องถ่ายรูปหายหรือเปล่าคะ เห็นหากันอยู่ตั้งนาน)

    และก็ยังมีคุณหนุ่ม คงกะพัน แสงสุริยะ พิธีกรรายการ "ย้อนรอย" ได้เคยไปถ่ายทำเรื่อง "สัญญาณจากต่างดาว" ที่เขากะลา มาให้กำลังใจก่อนออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ด้วย

    ดารากับแพทย์อาสา หล่อไม่แพ้กันเลยค่ะ ?


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  17. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ประกาศโดยระบบเพิ่มเติม
    <O:p</O:p


    วันที่ 17 กันยายน 2551
    <O:p</O:p


    ระบบแจ้งว่า ได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณภาพ เสียง และข้อความ ในเวอร์ชั่นใหม่เพิ่มอีก 1 อุปกรณ์
    <O:p</O:p


    ให้กับ
    <O:p</O:p


    คุณบรรพต โรจน์รุ่งสัตย์ (คุณ MOUNTAIN)
    <O:p</O:p


    โดยรับสัญญาณภาพ เสียง และข้อความจากระบบโดยตรง
    <O:p</O:p


    เพื่อทำหน้าที่ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษา แก่บุคคลอื่นเป็นการเฉพาะกิจแต่ละกรณี
    <O:p</O:p


    ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป
    <O:p</O:p


    อนุโมทนา
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  18. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ กับหน้าที่สำคัญ และงานที่เริ่มทะยอยเข้ามามากขึ้น

    เพราะมีการปล่อยวางที่ถูกต้อง ไม่ยึดมั่นในอัตตาตัวตน และมีความเข้าใจในการทำงานของอุปกรณ์ระบบ ไม่เข้าไปยึดถือว่าเป็นของเรา จึงสามารถทำงานชิ้นสำคัญของระบบได้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อุปกรณ์ชิ้นนี้ ทำหน้าที่รับทั้งสัญญาณภาพ เสียง และสัญญาณที่เป็นข้อความผ่านเข้ามาโดยตรง ซึ่งข้อมูลดังกล่าว จะถูกส่งมาจากระบบ ตรงมายังคุณ MOUNTAIN เพื่อถ่ายทอดให้กับบุคคลอื่นในขณะนั้น
    </O:p
    ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวกันกับ ที่ได้เคยติดตั้งให้กับผู้ฝึกที่เขากะลา 1 มาแล้ว รวมทั้งที่ติดตั้งให้กับพี่สุดใจ ที่ใช้ในปัจจุบันนี้ด้วย ซึ่งจะมีความถูกต้อง ... ชัดเจนในทุกข้อความ
    <O:p</O:p

    อาจแตกต่างกันไปบ้าง แล้วแต่ลักษณะงานของแต่ละบุคคล<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เพราะต่อไป คุณMOUNTAIN ต้องทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่บุคคลต่าง ๆ ในกรณีที่ ผู้ที่ได้รับการเชื่อมระบบไปแล้ว มีความสงสัยในอุปกรณ์ รวมทั้งวิธีการใช้อุปกรณ์ควบคู่ไปกับพลังต่าง ๆ ที่แต่ละท่านได้เคยมีอยู่ก่อนแล้ว นำมาผสมผสานกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นไปอีก นั่นคือการใช้อุปกรณ์เพื่อประโยชน์ท่าน หรือประโยชน์ผู้อื่น
    <O:p</O:p
    และให้คำแนะนำ วิธีปฏิบัติเพื่อการปล่อยวาง การไม่ยึดมั่นในอุปกรณ์เหล่านั้น ซึ่งเป็นประโยชน์ตนของแต่ละท่านโดยตรง
    </O:p
    ตอนนี้ คุณ MOUNTAIN อาจจะยังไม่ค่อยมั่นใจ แต่อุปกรณ์ที่ติดตั้งให้ ...... เริ่มใช้งานแล้ว
    <O:p</O:p
    ดังตัวอย่างที่คุณ MOUNTAIN ได้เล่าให้ฟัง ที่ให้คำปรึกษากับท่านอื่นโดยไม่ทราบข้อมูลเหล่านั้นมาก่อน แต่พอพี่สุดใจโทรมาบอกรายละเอียด ก็กลายเป็นเรื่องเดียวกันกับที่พูดไปแล้วนั่นเอง
    <O:p</O:p
    ซึ่งรวมถึงในขณะที่กำลังสนทนากับพี่สุดใจเมื่อบ่ายวันนี้ ก็ปรากฏว่ามีข้อความส่งลงมาให้รู้ก่อน ก่อนพี่สุดใจจะพูดเรื่องนั้น ๆ ด้วยซ้ำ
    <O:p</O:p
    นั่นแสดงว่า อุปกรณ์เริ่มทำงานแล้ว จึงรู้เรื่องก่อนล่วงหน้า ว่าพี่สุดใจกำลังจะพูดเรื่องอะไร
    <O:p</O:p
    นี่ไม่ใช่ว่าอ่านความคิดพี่สุดใจออกนะ แต่เพราะว่า ข้อมูลเดียวกัน ระบบทดลองส่งมาที่คุณ MOUNTAIN ก่อนสัก 2 วินาที แล้วจึงส่งข้อมูลนั้นมาที่พี่สุดใจทีหลัง พอพี่สุดใจพูดขึ้นมา ก็เลยกลายเป็น .... รู้เรื่องนี้ก่อนที่พี่สุดใจจะพูดออกมา
    <O:p</O:p
    ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ระบบให้เทียบเคียงกับเราดูทีวี กับดู UBC สัญญาณจะห่างกัน 2-3 วินาที
    <O:p</O:p
    เมื่อเอาทีวี มาตั้งคู่กัน เปิดช่องเดียวกัน เราก็จะรู้ล่วงหน้าได้ว่า ... เดี๋ยวช่อง UBC จะต้องพูดแบบนี้ ต้องเป็นภาพแบบนี้ นั่นเพราะทีวีช่องปกติพูดไปแล้วนั่นเอง
    <O:p</O:p
    ค่ะ พี่สุดใจต้องขออนุโมทนาด้วย กับงานด้านข้อมูล และให้คำปรึกษาแก่ผู้ร่วมงานท่านอื่น ๆ ซึ่งต่อไป ท่านใดมีข้อสงสัยก็ติดต่อกับคุณ MOUNTAIN ได้โดยตรง
    <O:p</O:p
    ระบบจะเป็นผู้ให้ข้อมูล โดยผ่านอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้กับคุณ MOUNTAINนั่นเอง
    <O:p</O:p
    ขออนุโมทนาค่ะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  19. juksawat

    juksawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    980
    ค่าพลัง:
    +3,507
    อ๋อ.....ไม่ได้ลืมหรอกครับ แต่ที่ไม่ได้เล่าก็เพราะเรียกชื่อการ์ดกล้องถ่ายรูปกับที่ที่เอาการ์ดสอดลงไปแล้วเสียบเข้ากับโน๊ตบุ๊คไม่ถูกครับ รู้สึกว่ามันจะเป็นชื่อภาษาอังกฤษอะไรนี่ ภาษานี้ผมไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ คืนอาจารย์ที่สอนไปเกือบหมดแล้ว ภาษาต่างประเทศที่ใช้อยู่ตอนนี้ที่พอจะรู้เรื่องดีที่สุดก็คือภาษาลาว

    เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าวันนั้น อ.สุดใจ ลงไปทำธุระชั้นล่าง ก่อนไปได้มอบการ์ดกล้งถ่ายรูปให้พวกเรานำรูปลงเว็ป แต่พวกเราลงไม่ได้ก็เพราะที่เสียบการ์ดไม่มี ประกอบกับพวกเรามีความ ลด ละ เลิก และปล่อยวางเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยปล่อยและวางการ์ดนั้นบนกระดาษสีขาวที่อยู่บนโต๊ะ ครั้นพอ อ.สุดใจกลับมา เราก็เลยบอกท่าน ท่านก็เลยหยิบเอาที่เสียบการ์ดให้กับเราเพื่อทำงานต่อ เอาซี...คราวนี้ปัญหาเกิด การ์ดที่วางไว้หายไป พวกเราทุกคนช่วยกันหาทุกตารางนิ้วบนโต๊ะ บนคอมพิวเตอร์ ฯ หาอย่างไรก็ไม่เจอ พวกเราเริ่มสงสัยกันละว่างานนี้ระบบกำลังเล่นกับเราเป็นแน่ เวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่ๆ เราก็เห็นการ์ดนั้นวางอยู่ที่คอมพิวเตอร์(โน๊ตบุ๊ค) ชนิดที่ว่าวางอยู่ตรงหน้าเลยที่เดียว อย่างที่เขาว่ากันนะว่า ถ้าเป็นงูถูกกัดไปแล้ว พวกเราก็เลยขำกลิ้งกันยกใหญ่ งานนี้ระบบเล่นซ่อนมิติกับเรา

    อีกเรื่องนึง เอาสั้นๆนะ คือ อ.สุดใจ จะลงไปทำธุระชั้นล่างอีกเช่นกัน ครั้นพอท่านลงไปแล้ว คุณแดนก็ไปนั่งทำงานที่โต๊ะ แต่ด้วยวัยเอาะๆไม่ลืมที่จะหยิบแว่นตาไปด้วย เอาละซี....แว่นตาหาย หากันยกใหญ่ หาเท่าไรก็ไม่เจอ เจอแต่แว่นของ อ.สุดใจ งานก็เลยไม่ได้ทำ ปล่อยวางนะเพราะคิดว่าระบบเล่นตลกกับเราอีกแล้ว แต่พอ อ.สุดใจกลับมา แกก็บอกว่างานที่ลงไปทำก็ไม่ได้ทำ เราเริ่มอมยิ้ม...สงสัยจะถูกระบบเล่นงานเหมือนเราแน่เลย สุดท้ายพวกเราก็ขำกลิ้งกันยกใหญ่อีกครั้งเมื่อ อ.สุดใจ กล่าวว่า เมื่อกี้หยิบแว่นตาผิดไป

    ส่วนเรื่องรูปที่ถ่ายคู่กับดารานั่นนะ อ.สุดใจท่านพามาเยี่ยม ไหนๆมาแล้วก็เลยขอถ่ายรูปคู่หน่อย ส่วนเรื่องทีมแพทย์อาสาฯหล่อไม่แพ้ดารานะ ผมพิจารณาดูแล้วก็เห็นว่าจริงนะ นี่ถ้าถ่ายคู่กันเมื่อ 30 กว่าปีก่อนนะ คุณหนุ่มคงกระพันนี่ชิดซ้ายตกขอบเวทีแน่เลย ก็ตอนนั้นเรายังหนุ่มอยู่นี่ แต่หนุ่ม คงกระพัน ก็ยังคงเป็นเด็กเล็กกระจองอแงอยู่นะซี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  20. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเยอะเหลือเกิน และตรงกับที่ระบบสื่อสารมาเป็นระยะ จนยากที่จะไม่เชื่อ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้จริงจังอะไรเท่าไหร่แล้วในตอนนี้ เอาเป็นว่าถ้าจะให้ผมมีส่วนร่วมก็บอกแล้วกันครับ แต่ถ้าไม่ใช่ก็บอกครับ จะได้เคลียร์ใจซะที

    ก็ตั้งแต่ผมกลับมาติดตามข่าวสารของเวปพลังจิต และก็ได้มาเจอกลุ่มเขากะลา ผมก็ติดตามมาโดยตลอด ซึ่งครั้งแรกที่มาอ่านพบยังตกใจนิดๆ ว่าเมื่อก่อนตอนนี้เรื่องนี้ยังใหม่ๆ อยู่ ทางกลุ่มเขากะลาเคยเผยแพร่ เรื่องมนุษย์ต่างดาว แล้วก็ส่งวีดีโอมาให้ชมฟรี แต่ขอให้ชมแล้วส่งกลับคืนมาเพื่อจะได้ส่งให้คนอื่นดูต่อ ซึ่งผมเองก็ได้มาม้วนนึง แต่ด้วยความขี้เกียจและช่วงนั้นไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่ ก็เลยเก็บไว้จนแทบจะลืมไปแล้ว มาเห็นอีกที่ก็กลุ่มเขากะลาในกระทู้กลุ่มประสานเพื่อการเตือนภัยนี่แหละครับ
    เข้าเรื่องดีกว่า หลังจากที่ติดตามเรื่องราวมาพอสมควร จนถึงช่วงที่ระบบมีการส่งรหัสให้กับผู้ที่ได้รับเลือก ด้วยความที่สนใจเรื่องราวแบบนี้เป็นทุนเดิมก็ติดตามโดยตลอด เริ่มเอ๊ะใจ หลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องของตัวเลขที่ไม่น่าจะเจอซ้ำกันได้ในเวลาติดๆ กันมากๆ ประมาณโอกาสหนึ่งในแสน หรือดูเวลาแล้วเลขจะออกเบิ้ล ฯลฯ เยอะมาก แทบทุกวัน แต่ก็ทำใจไม่เชื่อว่าจะเป็นรหัสที่ระบบส่งมา เพราะตอนแรกที่เข้ามาอ่านในกระทู้ก็แสดงเจตนาแล้วว่าจะไม่ขอยุ่งด้วย แต่เนื่องจากเคยผ่านประสบการณ์ทางจิตมาบ้าง พอที่จะเข้าใจและเชื่อเรื่องราวต่างๆ ตามประสบการณ์ที่พบมา เลยตั้งจิตอธิษฐานส่งกระแสจิตไปบอกโดยตรงเลยว่าถ้าใช่ก็ขอให้มาบอกให้ชัดเจนไปเลยหรือถ้าไม่ใช่ก็บอกไม่ใช่ให้ชัดเจนไปเลยจะด้วยวิธีใดก็ได้ แต่ขอแบบชัดๆ ไม่ต้องมานั่งตีความอีกเพราะรำคาญ วันรุ่งขึ้นก็โดนจริงๆ เย็นวันนั้นพอดีไปกินหมูกระทะกับน้องชาย หัวหน้าแฟนน้องชายเค้าจะเลี้ยงหมูทุกสิ้นเดือน ในระหว่างที่สนทนากัน คุยหยอกกันไปมานั้น พอดีพี่เขาถามว่าผมทำงานเข้ากะไหน(ผมทำงานโรงงานน่ะครับ) ผมบอกกะดึก พี่เขาก็แซวเลยว่า "พวกมนุษย์ต่างดาวนี่" เล่นซะผมงงไปเลย ก็เลยถามกลับไปว่าปกติแซวใครว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือเป่า ทำไมแซวผมจัง(ไม่ได้พูดครั้งเดียวนะครับพูดประมาณ 4-5 ครั้งได้) เขาก็ไม่ตอบบอกก็ทำงานไม่เหมือนคนปกติเขาทำกันนี่น่า ด้วยความที่ขี้สงสัยก็ยังไม่เชื่ออีก หลังจากนั้นหลายอาทิตย์จนถึงช่วงที่ระบบเริ่มเปิดรับการเชื่อมระบบให้กับบุคคลภายนอก ด้วยความอยากลองอีกก็เลยขออีกครั้ง คราวนี้ขอให้แบบหายข้องใจ แบบจะเอาจานบินมาให้เห็นหรือเป็นมนุษย์ต่างดาวมาคุยตัวเป็นๆ เลยก็จะไม่กลัวไม่หนีด้วย หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้รู้ชัดๆ เลย หลังจากนั้นประมาณสักอาทิตย์ ก็ไม่ได้เข้ามาในเวปหรือติดตามอยู่พักนึง แม้แต่เรื่อง ufo ยังไม่นึกถึงเลยแม้แต่แว๊ปเดียว คืนนั้นฝันเลยครับ ฝันว่ามีจานบินลำใหญ่สีขาวสวยมาก บินมารับกลุ่มคนกลุ่มนึงและผมก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น พอขึ้นไปบนยาน ภายในยานชั่งน่าอยู่เสียจริงๆ ขาวนวลไปหมด ไม่มีเหลี่ยมมุมของเครื่องไม้เครื่องมือเลย จำได้ว่าบนหัวเป็นจอภาพขนาดใหญ่ทั้งเพดาน โดยจะถูกแบ่งออกเป็นช่องๆ เหมือนพวกที่เค้าตัดต่อหนัง อย่างไงงั้นเลย แต่ภาพคมชัดกว่ามาก แล้วก็มีมนุษย์ต่างดาวตัวสีขาว ตอนนั้นรู้สึกอบอุ่นมากๆ เขามาถามเราว่าสงสัยเรื่องของกาลเวลาใช่ไหม เขาจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง จากนั้นเขาก็เริ่มอธิบายพร้อมกับนำยานย้อนไปในอดีตราว 10000 ปีที่แล้ว แล้วก็อธิบายว่าไปได้อย่างไร แล้วก็ไปในอนาคตอีก 1000 ปีข้างหน้า ซึ่งภาพที่เห็นสามารถเห็นได้ทะลุรอบๆ ยานเลย เวลาเปลี่ยนเวลาภาพข้างนอกเหมือนเราเป็นช่องทีวีแค่นั้นเอง เร็วมาก แต่ที่เสียดายคือจำที่เขาอธิบายไม่ได้ เพราะเขาอธิบายเยอะมากละเอียดมาก จำได้ตอนสุดท้ายที่เขาสรุปให้ฟังว่า อดีต อนาคต ไม่มีอยู่จริง ที่มีอยู่จริงมีแค่ปัจจุบันเท่านั้น ประมาณนี้น่ะครับ จากนั้นก็ตื่น ตื่นมานั่งทบทวนดูแล้วดูอีก ก็คิดไม่ออกว่าในช่วงอาทิตย์หรือหลายเดือนที่ผ่านมาเราก็แทบจะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย แต่ทำไมกลับฝันไปอย่างนั้นได้ และที่สำคัญกลับฝันตอบคำถามที่คาใจของตัวเองกว่า 10 ปีเรื่องของกาลเวลา ที่เคยใช้ความคิดหาคำตอบอยู่เป็นปีๆ ก็ยังสรุปให้หายข้องใจไม่ได้ ก็เลยเดาเอาว่าอาจจะเป็นระบบจัดมาหรือเป่า แต่ด้วยความดื้อก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี จนในที่สุดวันนี้มาเห็นมนุษย์ต่างดาวที่เป็น Avatar เป็นรูปมนุษย์ต่างดาวสีขาว แถมมีอะไรบางอย่างด้านหลังดูแล้วคุ้นๆ เหมือนในฝันเลย ก็เลยต้องมาโพสตแล้วล่ะครับ แต่ในส่วนที่ว่าระบบจะเลือกหรือก็สุดแล้วแต่เลย ผมไม่ซีเรียสแล้ว ว่าไงก็ว่าตามกันครับ

    แถมอีกนิดตอนที่เปิดให้เชื่อมระบบยังคุยกับเพื่อนอยู่เลยว่าสนใจจะไปไหม ให้รีบไปนะก่อนสิ้น ก.ย. ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น(ตอนนั้นยังต้นเดือน ก.ย.) ก็มาทราบทีหลังว่าจะหยุดเชื่อมระบบวันที่ 11 ก.ย. ก็เลยถึงบางอ้อ อย่างงี้นี่เอง แต่ก็ไม่เป็นไร ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ชั่งมัน ใช้ความรู้สึกอย่างงี้ประจำเลยไม่ซีเรียสเท่าไหร่
    ยังไงก็ขอขอบคุณพี่ๆ กลุ่มเขากะลาทุกท่าน อย่างน้อยๆ ข้อธรรมที่ได้จากกระทู้นี้ก็มีประโยชน์อย่างมากในการปฏิบัติจริงๆ เหมือนเอาเคล็ดลับมาเฉลยเลย อะไรที่เคยๆ ปฎิบัติติดๆ อยู่ก็หายข้อข้องใจเลย ขอบคุณมากๆ ครับ และขอโมทนามา ณ ที่นี้ด้วย
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...