ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    Tropical Storm HAGUPIT (18W) : ดีเปรสชัน 18W ทวีขึ้นเป็นโซนร้อน “ฮากุปิต” แล้ว
    Tropical Storm HAGUPIT (18W) : ดีเปรสชัน 18W ทวีขึ้นเป็นโซนร้อน “ฮากุปิต” แล้ว
    ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 19.00น.
    ประจำวันที่ 19 กันยายน 2551 ออกประกาศเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

    ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 19 กันยายน 2551 /20.00 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 2 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 0 ลูก
    1) Tropical Storm HAGUPIT(18W,14.0N 132.4E,40kts): เมื่อเวลา 13.00น. วันนี้ (19 ก.ย.51) ดีเปรสชัน 18W ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน HAGUPIT(ฮากุปิต/18W) แล้ว และเมื่อเวลา 19.00น.วันนี้(19ก.ย.51) ศูนย์กลางพายุ ปกคลุมบริเวณทะเลแปซิฟิคด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ที่ละติจูด 14.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 132.4 องศาตะวันออก มีศูนย์กลางอยู่ห่ างประมาณ 1,297 กิโลเมตร ทางตะวันออกของกรุงมะนิลา ,ฟิลิปปินส์ . กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกด้วยความเร็ว 11 นอต(20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา. ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 40นอต(74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 993 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 2 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาด พายุโซนร้อน HAGUPIT(ฮากุปิต/18W) จะมีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกต่อไปในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า และจะเริ่มเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวเฉียงไปทางเหนือมากกขึ้นในอีก 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า หรือตั้งแต่ประมาณ 19.00น.พรุ่งนี้(20ก.ย.51)เป็นต้นไป ก่อนที่จะทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า หรือตั้งแต่ประมาณ 19.00น.(21ก.ย.51) จากนั้นจะทวีเป็นพายุระดับ 2 ในอีก 96 ชั่วโมงข้างหน้า หรือ อีก 4 วันข้างหน้า(23ก.ย.51) และจะทวีเป็นพายุระดับ 3 ในอีก 120 ชั่วโมงข้างหน้า หรืออีก 5 วันข้างหน้า(24ก.ย.51) คาดว่าศูนย์กลางพายุจะมีทิศทางการเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระหว่างตอนเหนือของเกาะ ลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ และตอนใต้ของเกาะไต้หวัน ในอีก 96 ชั่วโมงข้างหน้า หรือ อีก 4 วันข้างหน้า(23ก.ย.51). มีความเป็นไปได้ว่าพายุจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน และมุ่งหน้าเข้าสู่ฮ่องกง หรือตอนใต้ของจีนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ย.51 : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    2) Tropical Storm SINLAKU(15W,34.1N 139.2E,60kts) : เมื่อเวลา 19.00น. วันนี้ (19 ก.ย.51) ไต้ฝุ่น SINLAKU (ซินลากอ15W) ได้ลดกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว ปกคลุมบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่ละติจูด 34.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 139.2 องศาตะวันออก มีศูนย์กลางอยู่ห่ างประมาณ 250 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงใต้ ของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น . กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 19 นอต(35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมาอย่างรวดเร็ว. ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 60นอต(111 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 978 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 4 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาด พายุโซนร้อน SINLAKU (ซินลากอ/15W) ฯ : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    <เพิ่มเติม> พายุโซนร้อน HAGUPIT(ฮากุปิต/18W) มีความเป็นไปได้ที่พายุจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนช่วงวันที่ 24-27 ก.ย.51 แต่ยังไม่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยตอนบน แต่อย่างใด
    [​IMG]

    ภาพถ่ายดาวเทียม ทุกๆ 1 ชัวโมง
    [​IMG]
    http://agora.ex.nii.ac.jp/digital-typhoon/latest/globe/2048x2048/ir.jpgCLICK เพื่อดูภาพขนาดใหญ่
    http://agora.ex.nii.ac.jp/digital-typhoon/latest/animation/MPEG-2/last-120h.mpgCLICK เพื่อดูภาพถ่ายดาวเทียมเคลื่อนไหว 120 ชั่วโมงที่ผ่านมา หรือ เมื่อ 5 วันที่ผ่านมา UPDATE ทุกๆ 1 ชั่วโมง

    *******

    ภาพการคาดหมายเส้นทางการเดินพายุ ล่วงหน้า 5 วัน ทุกๆ 6 ชม.
    บริเวณพื้นที่ตาข่ายสีดำ รูปกรวย(โคน) แสดงถึง ความไม่แน่นอน/ความเป็นไปได้ที่จะได้รับผลกระทบหรือศูนย์กลางพายุอาจจะพัดผ่าน
    ***เครื่องของท่านอาจไม่ปรากฏภาพดังกล่าว ให้ CLICK ขวา > Show Picture***
    ที่มา Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC *ต้นฉบับ*
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    http://cimss.ssec.wisc.edu/tropic/real-time/westpac/storm/storm18W.html
    http://www.solar.ifa.hawaii.edu/Tropical/Gif/nwp.latest.gif
     
  2. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
     
  3. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551 เวลา 19:53:44 น. มติชนออนไลน์ อ่านล่าสุด 401 คน
    <center></center>
    เตือน! กทม.ระวังน้ำทะเลหนุน21,28ก.ย. ชาวบ้านค้านแปลง "บางปะหัน" เป็น "แก้มลิง" บอกตายลูกเดียว

    เตือน! กทม.ระวังน้ำทะเลหนุน21,28ก.ย. ชาวบ้านรุมค้านแปลงพท.บางปะหันเป็น "แก้มลิง" ชาวนา "บ้านกุ่ม" ฆ่าตัวตายประชดแล้ว 1 ศพหลังถูกปล่อยน้ำท่วมนาล่มจม ส.ส.สุพรรณฯ โวย บอกชาวบ้านตายลูกเดียว "ปราจีน" อ่วมน้ำท่วมสูง 80 ซ.ม. "ล่องแก่งหินเพลิง" เจ๊งนักท่องเที่ยว 1.6 พันแห่ยกเลิก อนาถ! "หญิงชรา" เก็บฟืนหนีน้ำไม่รอด จมดับคาใต้ถุนบ้านตัวเอง น้ำป่าทะลักแม่ฮ่องสอนสาว 40 ปีดับพร้อมจยย. หน่วยงานรัฐระดมความช่วยเหลืออย่างหนัก

    ค้านแปลงพื้นที่บางปะหันเป็น "แก้มลิง"
    นายกฤติภพ เฉื่อยฉ่ำ นายกองค์การบิรหารส่วนตำบล(อบต.)ทับน้ำ อ.บางปะหัน กล่าวเมื่อวันที่ 19 กันยายนถึงการแปลงพื้นที่ทุ่งบางบาล และทุ่งทับน้ำ อ.บางปะหัน เป็นพื้นที่รองรับน้ำหรือแก้มลิง เพื่อโอบอุ้มสถานการณ์น้ำท่วมที่ถาโถมพื้นที่ภาคกลาง และหลายจังหวัดในเขตภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉ๊ยงเหนือ ว่า ยังไม่มีการประสานมาจากหน่วยงานใดว่าจะใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รองรับน้ำหรือแก้มลิง แต่ทราบว่ามีการแอบปล่อยน้ำจากเจ้าพระยาผ่านคลองบางกุ้งมาแล้ว เชื่อว่าข้าวและพืชผลทางการเกษตรจะเสียหายอาจมีการเดินขบวนต่อต้านการทำงานของกรมชลประทานจากกลุ่มชาวนาที่ได้รับความเดือนร้อน

    ชาวนา "บ้านกุ่ม" ฆ่าตัวตายประชดแล้ว
    เมื่อน้ำท่วมหนักปี 2549 1 ศพ
    ขณะที่นายบัญชา ปั้นดี ชาวนาต.บ้านกุ่ม กล่าวว่า เมื่อปี 2549 และ ปี 2550 มีการระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาในทุ่งดังกล่าวโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้ข้าวที่ใกล้เก็บเกี่ยวเสียหายทั้งหมด ชาวนาทุ่งบางบาล และทุ่งทับน้ำ อ.บางปะหัน หลายหมื่นไร่ต้องแบกรับน้ำก้อนใหญ่นี้ไว้ เพื่อไม่ให้ท่วมปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ กรมชลประทานต้องเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะซ้ำเติมชาวนา
    "ทุ่งนา ต.บ้านกุ่มเป็นเขตติดต่อเชื่อมโยงทุ่งนาเขต ต.พุทเลา ต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน และ ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ปัจจุบันเป็นแปลงนาข้าวนาปีที่กำลังเติบโตเขียวขจีพื้นที่ดังกล่าวเคยถูกให้เป็นพื้นที่รับน้ำเมื่อปี 2449 ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร และมีชาวนาในพื้นที่นาล่มจนต้องฆ่าตัวตายประชดชีวิตไปแล้ว 1 คนเมื่อน้ำท่วมหนักปี 2549" นายบัญชา กล่าว

    ส.ส.สุพรรณฯ โวย บอกชาวบ้านตายลูกเดียว
    นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย กล่าวว่า หากใช้พื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นที่รับน้ำเหนือ จะส่งผลกระทบถึงจังหวัดที่มีพื้นทึ่ติดต่ออย่างแน่นอน โดยเฉพาะเขต อ.บางปลาม้า,สองพี่น้อง และ อ.เมืองสุพรรณบุรีบางส่วน เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราบลุ่มแอ่งกระทะ และต้องเป็นรับน้ำตามธรรมชาติจากภาคเหนือ และ จ.กาญจนบุรี อุทัยธานี ที่มาตามคลองจระเข้สามพัน และจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ทางประตูน้ำผักไห่ ลงคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน "หากต้องมารับภาระตามแผนของรัฐบาล อาชีพเกษตรกรรมของคนสุพรรณบุรีถิ่นนี้ตายลูกเดียว ตั้งแต่บ่อกุ้ง บ่อปลา นาข้าว พืชไร่ล้มลุก และปีนี้น้ำท่วมมาตั้งแต่พฤษภาคมจนถึงปัจจุบัน มีการเรียกร้องให้รัฐจ่ายค่าชดเชยในความเสียหาย โดยเพิ่มจากนาข้าวที่เคยได้ไร่ละ 416 บาท แม้มีกระแสข่าวจะเพิ่มเป็นไร่ละ 606 บาทเท่านั้น แต่เทียบกันไม่ได้กับการลงทุน หากดันทุรังให้พระนครศรีอยุธยาเป็นสถานที่รับน้ำ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องจับเข่านั่งคุยกันว่า หากเกิดความเสียหายจะชดเชยให้ประชาชนอย่างไร ขอให้ทำเป็นบันทึก” นายณัฐวุฒิ กล่าว

    [​IMG]

    กทม.ระวังน้ำทะเลหนุน 21,28 ก.ย.


    เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเตรียมการรับสถานการณ์น้ำท่วมฉุกเฉิน โดยนายสมศักดิ์ กลั่นพจน์ รองปลัด กทม. เปิดเผยว่า ล่าสุด กรมชลประทานปล่อยน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท 1,700 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) /วินาที และเขื่อนพระราม 6 จ.ลพบุรี 400 ลบ.ม./วินาที รวมแล้วอยู่ที่ 2,100 ลบ.ม./วินาที ยังไม่ถือว่าวิกฤต เพราะระดับวิกฤติที่จะต้องมากกว่า 2,500 ลบ.ม./วินาที แต่กรุงเทพฯอาจต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำฝน เพราะขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงถึง 1.87 เมตร จากกระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ทำให้บ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำเกิดน้ำท่วมขังกว่า 300 หลัง กว่า 2-3 ชั่วโมง ในช่วงเช้าและเย็นที่มีน้ำทะเลหนุนร่วมด้วย ซึ่งสำนักงานเขตทั้ง 17 แห่ง ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานำไม้กระดานเข้าไปช่วยทำทางเดินหนีน้ำ และยกตู้ เตียง และอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นในที่สูงแล้ว ทั้งนี้ คาดว่าระหว่างวันที่ 21 และ 28 กันยายน ระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดอีกครั้ง จะส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่นอกแนวเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2008
  4. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    www.khaosod.co.th <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="1000"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table align="center" bgcolor="#dadada" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td align="left" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="10">[​IMG]</td> <td background="images/corner_dg_top_line.gif">
    </td> <td width="10">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td background="images/corner_line_left.gif">
    </td> <td align="left" bgcolor="#ffffff" valign="top" width="100%"> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"> <tbody><tr> <td align="left" valign="top"> <!--เนื้อหา--> <!--Middle--> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="left" bgcolor="#ffffff" valign="top"> จำนวนคนอ่านล่าสุด 50 คน <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
    </td><td align="left" valign="top">[FONT=Tahoma,]วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6505 ข่าวสดรายวัน


    เมียจมต่อหน้าผัว เซ่นน้ำป่าอีก4ศพ




    <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>[​IMG]
    จมน้ำ - น้ำป่าจากเขาใหญ่ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองปราจีนบุรีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ก.ย. ขณะที่หลายจังหวัดในภาคเหนือ อีสาน และภาคตะวันออกโดนน้ำท่วมรุนแรง ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ศพ ที่จ.พิจิตร จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.หนองบัวลำภู

    </td></tr></tbody></table>"ในหลวง-พระราชินี"พระราชทานถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 2 อำเภอที่สุโขทัย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดเกล้าฯให้ผู้แทนพระองค์นำสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมที่ลพบุรี
    พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโส
    มสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานถุงยังชีพช่วยเหลือชาวอุดรธานี และขอนแก่น


    ชาวปทุมธานีขนของหนีน้ำอลหม่านหลังน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นทะลักท่วม การรถไฟฯสั่งหยุดเดินรถอีกสายเพิ่มอีก 4 ขบวน กระทรวงเกษตรฯสรุปเบื้องต้น ถูกน้ำท่วมเสียหายแล้ว 686 ล้านบาท อุตุฯเตือน 17 จังหวัดระวังฝนตกหนัก

    -พระบรมฯทรงช่วยเหยื่อน้ำท่วม


    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ก.ย. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์ เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โปรดเกล้าฯให้พล.อ.อ.จักรพงศ์ หอมไกรลาส กรมวังผู้ใหญ่วังศุโขทัย เป็นผู้แทนพระองค์ เดินทางมาเปิดครัวสายใยรักแห่งครอบครัว และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระ ราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ที่ศาลาการ เปรียญวัดราชวันทนาราม ต.ถลุงเหล็ก อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย ประกอบด้วยข้าวสารจำนวน 20 ถุง นมอัดเม็ด 10 ลัง นมกล่อง 10 ลัง และบะหมี่สำเร็จรูป 10 หีบ

    พล.อ.อ.จักรพงศ์ กล่าวกับชาวบ้านที่มาให้การต้อนรับว่า ทั้ง 2 พระองค์ทรงห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่ดังกล่าวมีประชาชน ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมจำนวนมาก เพื่อ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จึงพระราชทานให้มีการตั้งครัวสายใยรักแห่งครอบครัว ซึ่งจะประกอบอาหารเลี้ยงประชาชนวันละ 2 มื้อ คือเช้าและเย็น โดยวันหนึ่งสามารถจะประกอบอาหารที่สุกปลอดโรคเลี้ยงประชาชนได้วันละ 1,000 คน นอกจากนี้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราช ทานมาตรวจรักษาโรคเบื้องต้น รวมทั้งแจกจ่ายยารักษาโรคที่มากับน้ำท่วมให้กับประชาชน เพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วมเบื้องต้น จากนั้นลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมขังตามบ้านเรือนประชาชน เพื่อจะนำภาพที่เห็นไปกราบบังคมทูลให้ทั้ง 2 พระองค์ทรงทราบต่อไป

    -"พระองค์โสมฯ"ประทานถุงยังชีพ


    เวลา 11.00 น. มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย โดยศาสตราภิชานนายแพทย์พิชิต สุวรรณประกร เป็นผู้แทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 700 ถุง พร้อมจัดรถประกอบอาหารเคลื่อนที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่หมู่บ้านสระตาแวว ต.พุคา อ.บ้านหมี่ และหมู่บ้านใกล้เคียง

    ส่วนที่อบต.หนองทรายขาว อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมช.คลังนำคณะมอบถุงยังชีพจำนวน 659 ถุงแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต.หนองทรายขาว

    สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจ.ลพบุรีวันนี้ในพื้นที่วิกฤตจำนวน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.โคกสำโรงระดับในหมู่บ้านลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรอยู่ทั่วไป ส่วนที่อ.บ้านหมี่ ในภาพรวมระดับน้ำยังคงที่ ปริมาณน้ำเฉลี่ย 40 ซ.ม. จากพื้นถนน ส่วนในพื้นที่อ.เมืองระดับน้ำโดยเฉลี่ยยังคงทรงตัว ซึ่งทางจ.ลพบุรีระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำในพื้นที่และช่วยเหลือด้านอาหารและเวชภัณฑ์แก่ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
    [/FONT][FONT=Tahoma,]
    -"พระองค์โสมฯ"ทรงช่วยอุดรฯ


    วันเดียวกัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสม สวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้ลำเลียงถุงยังชีพพระราชทานของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย จำนวน 3,750 ชุด โดยนำขึ้นรถบรรทุกของกองทัพเรือจากสนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เมื่อเวลา 12.00 น. เพื่อไปช่วยเหลือราษฎรและพระภิกษุสงฆ์ที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จ.อุดรธานีและขอนแก่น โดยมีนางสมถวิล ยังอยู่ ผู้ช่วยเลขานุการในพระองค์ฯ เป็นผู้ควบคุมการลำเลียงถุงยังชีพขึ้นรถบรรทุกของกองทัพเรือไปช่วยเหลือราษฎรที่จ.อุดรธานี 3,000 ชุด และจ.ขอนแก่น 750 ชุด นอกจากนี้ยังจัดเตรียมบรรจุถุงยังชีพพระราชทานเพิ่มเติมสำหรับประชาชนอีก 3,000 ชุด และพระภิกษุสงฆ์ 200 ชุด

    -"ในหลวง"พระราชทานถุงยังชีพ


    เมื่อเวลา 10.00 น. เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันบริเวณพื้นที่เทือกเขา อ.ด่านซ้าย จ.เลย ทำให้น้ำป่าไหลทะลักลงสู่แม่น้ำป่าสัก ไหลบ่าล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ต.ตาลเดี่ยว ต.วัดป่า และต.ฝายนาแซง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์จำนวนหลายหมู่บ้าน ที่นาหลายพันไร่จมน้ำ และในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ถนนวจี ตั้งแต่หน้าที่ทำการไปรษณีย์ อ.หล่มสัก น้ำท่วมตลอดสาย เทศบาลเมืองหล่มสักระดมเจ้าหน้าที่แจกกระสอบทรายให้แก่บรรดาร้านค้า เพื่อนำไปกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าไปท่วม และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้ 5 จุด เพื่อสูบน้ำระบายออกสู่แม่น้ำป่าสัก เพื่อป้องกันความเสียหาย และนับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่อ.หล่มสักถูกน้ำท่วมเนื่องมาจากฝนตกหนัก แม่น้ำป่าสักล้นตลิ่ง

    นางฐิตินันท์ พั้วช่วย นายกเทศมนตรีเมืองหล่มสัก กล่าวว่า เกิดฝนตกหนักทางตอนเหนือของอำเภอ โดยเฉพาะจากจ.เลย น้ำจะไหลบ่าลงสู่แม่น้ำป่าสัก ตนส่งรถยนต์ติดเครื่องกระจายเสียงประกาศให้ประชาชนทราบเก็บสิ่งของสัตว์เลี้ยงไว้บนที่สูง

    ด้านนายต่อพงษ์ อ่ำพันธ์ ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 20 ก.ย. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานถุงยังชีพจำนวน 1,500 ถุง เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งทางจังหวัดเตรียมแจกถุงยังชีพ ให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยที่วัดสนธิกรประชาราม ต.สะเดียง อ.เมือง ในเวลา 14.00 น.

    [/FONT][FONT=Tahoma,]-พระราชทานถุงยังชีพช่วยสุโขทัย

    เมื่อเวลา 09.30 น. นายดิสธร วัชโรทัย ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักพระราชวัง ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำสิ่งของพระราชทานทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค และถุงยังชีพจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินทางไปมอบให้ชาวบ้านยางซ้าย ต.ยางซ้าย อ.เมือง จ.สุโขทัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนจำนวน 500 ชุด นอกจากนี้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯยังนำถุงยังชีพพระราชทานอีก 500 ชุดไปมอบให้กับผู้ประสบภัยที่ศาลาการเปรียญ วัดกงไกรลาศ อ.กงไกรลาศ

    นายดิสธรกล่าวว่า ให้ประชาชนตระหนักว่าทุกครั้งที่เกิดภัย คนที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินีนาถ เนื่องจากความเดือดร้อนของประชาชนอยู่ในพระเนตร พระกรรณตลอดเวลา
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma,]
    [/FONT][FONT=Tahoma,]-หน่วยแพทย์เคลื่อนที่รักษาชาวบ้าน

    เมื่อเวลา 10.00 น. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช. สาธารณสุข พร้อมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่วัดตะกู ม.4 ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมตรวจโรค และแจกยาสามัญประจำบ้าน ยารักษาโรคน้ำกัดเท้าจำนวน 150 ชุด และรองเท้าบู๊ต 150 คู่ ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม พบว่าผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวเริ่มเจ็บป่วยแล้ว 120 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัด พร้อมสั่งให้สาธารณสุข จ.พระ นครศรีอยุธยา เข้าไปให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องโรคที่เกิดจากน้ำท่วม โดยเฉพาะโรคอุจจาระร่วง ไข้หวัด และปอดบวม ขณะนี้ระดับน้ำแม่น้ำน้อย เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนริมคลองประมาณ 2,000 หลัง ประชาชนเดือดร้อน 8,000 ราย ระดับน้ำสูง 50-100 ซ.ม. ระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น

    นายวิชาญกล่าวว่า ปัญหาที่ต้องเป็นห่วงในช่วงน้ำท่วมนี้อีกคือการดื่มเหล้าแล้วพายเรือ เนื่องจากสถิติการจมน้ำเสียชีวิตพบว่าการดื่มสุรามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ร้อยละ 27 นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เด็กเล็ก ซึ่งญาติจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน จะต้องกินยาควบคุมอาการอย่างต่อเนื่อง และห้ามขาดยาอย่างเด็ดขาด เพราะการเดินทางไปรับบริการหากโรคกำเริบจะมีปัญหาอย่างมาก

    นายวิชาญกล่าวว่า ภาพรวมการช่วยเหลือผู้ประ สบภัยในรอบ 8 วัน ตั้งแต่ 11-18 ก.ย. มีผู้ป่วยทั้ง หมด 30,265 ราย หน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ปฏิบัติงานวันละ 265 ทีม ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัด รองลงมาคือโรคน้ำกัดเท้า ยังไม่มีโรคระบาด กระทรวงสาธารณ สุขจัดส่งยาสามัญประจำบ้านไปแล้วกว่า 30,000 ชุด ใช้งบประมาณไปแล้ว 1,500,000 บาท
    [/FONT]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2008
  5. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    [FONT=Tahoma,]วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6505 ข่าวสดรายวัน

    [/FONT][FONT=Tahoma,]เกษตรฯสรุปเสียหายแล้ว 686 ล.

    วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้พบว่ามีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมรวม 36 จังหวัด แยกเป็นภาคเหนือ 13 จังหวัด ตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด ภาคกลาง 4 จังหวัด ภาคตะวันออก 6 จังหวัด และภาคใต้ 1 จังหวัด ทั้งหมดนี้พบว่าปัจจุบันยังมีสภาพน้ำท่วมอยู่รวม 12 จังหวัด คือขอนแก่น นครราชสีมา ร้อยเอ็ด พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย สระบุรี ลพบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี และตราด มีพื้นที่ภาคการเกษตรได้รับความเสียหายรวม 724,931 ไร่ แยกเป็นภาคปศุสัตว์ 2,702,431 ตัว ประมงพื้นที่เสียหาย 4,013 บ่อ และ 65 กระชัง พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิงประมาณ 121,142 ไร่ แบ่งเป็นข้าว 85,054 ไร่ ส่วนใหญ่กำลังจะออกรวง และพืชไร่ 36,089 ไร่ เป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่อยู่ในระยะกำลังออกผลผลิต สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจ พบว่ามีประมาณ 686 ล้านบาท แยกเป็นข้าว 507 ล้านบาท และพืชไร่ 179 ล้านบาท

    นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พบว่าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีปริมาณน้ำรวม 50,439 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 74%ของความจุอ่าง โดยรวมแล้วขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านกรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่ในเกณฑ์ 2,606 ลบ.ม./วินาที ถือว่ายังต่ำกว่าเกณฑ์ที่เขตกทม.จะรับน้ำได้ประมาณ 3,000 ลบ.ม./วินาที ส่วนเขื่อนที่เก็บน้ำเกิน 80%ของความจุ คือเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ กิ่วลม เขื่อนน้ำอูน เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนประแสร์ และเขื่อนหนองปลาไหล กรมชลประทานประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เพื่อเฝ้าระวังการระบายน้ำ ซึ่งเขื่อนยังสามารถรับน้ำได้อีก
    [/FONT]
     
  6. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    [FONT=Tahoma,]วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6505 ข่าวสดรายวัน
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma,]-เผย"ในหลวง"ทรงห่วงน้ำท่วม

    วันเดียวกัน นายจริย์ ตุลยานนท์ องคมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ บริเวณพื้นที่กทม.และปริมณฑลตามแนวพระราชดำริ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉุกเฉิน บริเวณพื้นที่กทม.และปริมณฑล ที่มีกรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. เข้าร่วมประชุม

    นายจริย์กล่าวว่า จากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงและคอยติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการระบายน้ำ ทำให้หลายฝ่ายเร่งระดมความคิดและแผนรับมือ จากการประชุม กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าขณะนี้ความกดอากาศต่ำกำลังปานกลาง พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง เช่น บริเวณจ.สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครสวรรค์ สระบุรี ลพบุรี นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจึงต้องระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ แต่ฝนในร่องมรสุม ไม่หนักเท่ากับพายุหมุนเขตร้อน สถานการณ์ขณะนี้จึงยังไม่น่าวิตก

    นายจริย์ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านในจ.ลพบุรี เกิดจากเป็นพื้นที่ต่ำเนื่องจากการขุด ประกอบกับป่าไม้ไม่สมบูรณ์ ทำ ให้ไม่สามารถชะลอ และอุ้มน้ำไว้ได้ ส่วนกรณีที่ประชาชนเป็นห่วง เนื่องมาจากมีปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนหลายแห่งเกินร้อยละ 80 นั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะอีกร้อยละ 20 ที่เหลือยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก และการที่ต้องเก็บน้ำในเขื่อนให้มีปริมาณมาก เพื่อใช้ในการปั่นกระแสไฟ ทั้งนี้การหาแนวทางป้องกันในระยะยาวจะมีข้อสรุปอีกครั้งในการประชุมครั้งหน้า ส่วนแนวทางที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วมทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวนั้น ทุกภาคส่วนจะนำกลับไปพิจารณา และจะมีข้อสรุปอีกครั้ง นอกจากนี้ยังแนะแนวทางการป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด คือการคืนป่าไม้กลับสู่ธรรมชาติ เพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศ และต้องเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และเป็นการป้องกันอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นรุนแรงกว่านี้ในอนาคต
    [/FONT]
     
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791

    คุณหล่อ ก็อย่าประโคมข่าวดิ ว่าจะไม่เกิดอะไร จะไม่มีอะไร ประโคมข่าวทู๊กวัน เชื่อคุณหล่อหมอเดาไปถือว่างมงายหรือเปล่าจ๊ะ เป็นหมอเดาเหร๋อที่เดาว่าจะไม่เกิดอะไรอ่ะ

    (smile)(ping)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2008
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ใช่ ลูกนี้เห็นก่อตัวมาแบบว่า ดูแล้วน่ากลัว น่ากลัว อย่าไงไม่รู้นะ
    ต้องคอยระวังแล้วกันนะคุณเอ็ม เดี๋ยวจะช่วยจับตาให้ (ยายคงไม่ว่านะ) อิอิ
    ;aa20
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "ระวัง"เอาไว้อย่าประมาท!!

    [​IMG]


    ผมเป็นห่วงเดือน กันยายน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2008
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง
    เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง
    เหมือนนกยูง มีดี ที่แววขน
    ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน
    ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา

    ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ
    ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา
    เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา
    เปรมปรีดา คืนวัน สุขสันต์จริง

    ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่า
    ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง
    เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง
    แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย

    คิดดูเถิด ถ้าใคร ไม่อยากตก
    จงรีบยก ใจตน รีบขวนขวาย
    ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย
    ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือนเอย

    แต่งโดยพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
    จาก หัวข้อธรรมในคำกลอนใน หนังสือเรียนภาษาไทย ชุดพื้นฐานภาษา
    ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เล่ม ๑ หน้า ๑๔๐
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2008
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]



    <hr width="600" color="#ff1493">
    <table width="600" bgcolor="#e0ffff" border="1" bordercolor="#1e90ff" cellpadding="2" cellspacing="0"> <tbody><tr><td> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td align="left"> ความเห็นที่ 1 โดยคุณ TC-18W (125.24.173.185) [20-09-2008 06:43] #18872 </td> <td align="right">
    </td> </tr></tbody></table> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td>
    01.00น./20ก.ย.51

    ในช่วงวันที่ 22-25 ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านประเทศไทยตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ 94W ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้นอีก อย่างไรก็ตามหย่อมฯ94W นี้ยังไม่มีแนวโน้มที่จะทวีกำลังเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอีก 2-3 วันข้างหน้าแต่อย่างใด สำหรับช่วงปลายเดือนนี้ ประมาณ 28 กันยายนเป็นต้นไปมีความเป็นไปได้ว่า อาจมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง แล้วเคลื่อนตัวเข้าสู่เวียตนาม ลาว แล้วเลยเข้าสู่ภาคอีสาน หรือประเทศไทยตอนบนได้ ในช่วง ต้นเดือนตุลาคม จึงขอให้ติดตามช่วงเวลาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
    </td></tr> </tbody></table> </td></tr> </tbody></table>
    <hr width="600" color="#ff1493">
    <table width="600" bgcolor="#e0ffff" border="1" bordercolor="#1e90ff" cellpadding="2" cellspacing="0"> <tbody><tr><td> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td align="left"> ความเห็นที่ 2 โดยคุณ new (58.9.248.171) [20-09-2008 07:46] #18873 </td> <td align="right">
    </td> </tr></tbody></table> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td>
    ขอบคุณครับแต่ว่าบ้านผมที่อำเภอ ปากช่องน้ำจากเขาใหญ่ไหลมาเยอะมากๆเลยครับผมไม่กล้าไปเลยเห็นเขาบอกว่ารถ ผ่านไม่ได้ทำใมปีนี้น้ำมันเยอะอ่ะไรขนาดนี้ </td></tr> </tbody></table> </td></tr> </tbody></table>
    <hr width="600" color="#ff1493">

     
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เมื่อวานนี้ซื้ออาหารไว้จำนวนมาก แล้วบอกที่บ้านว่า ซื้ออาหารไว้เผื่อน้ำท่วม จะได้มีอาหารกินตอนน้ำท่วม แล้วบอกว่า นี่ถ้าใครจะกินตอนนี้ก็ได้นะ เพราะมีเยอะจะได้ไม่หมดอายุก่อน ทะยอยกินได้ น้องสาวย้อนมาบอกว่า อ้าว น้ำยังไม่ทันท่วม จะกินได้อย่างไร เก็บไว้กินตอนน้ำท่วมไม่ใช่เหร๋อ อิอิ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แปดริ้วน้ำป่าทะลักอีก อ่างแควระบมสียัดยังเร่งพร่องน้ำ

    [​IMG]

    ฉะเชิงเทรา 20 ก.ย.- น้ำป่ายังไหลทะลักไม่หยุด แช่บ้านเรือนชาวบ้านแปดริ้วจมอยู่ใต้น้ำนานนับสัปดาห์ ขณะอ่างเก็บน้ำแควระบมสียัดยังคงเร่งปล่อยระบายพร่องน้ำออก หลังฝนตกหนักนานต่อเนื่องในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จนน้ำล้นขอบอ่าง

    นายบรรจง พลรบ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 ม.7 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านใต้แนวเส้นทางระบายน้ำ จากอ่างเก็บน้ำแควระบมสียัด ริมคลองท่าลาด เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านยังคงทุกข์หนัก หลังบ้านเรือนถูกน้ำท่วมต่อเนื่องมากว่า 1 สัปดาห์ และระดับน้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 1.5
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    บ้านคุณหล่อ น้ำท่วมม๊ะ [​IMG]
     
  15. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,201
    ค่าพลัง:
    +235
    ถ้าบ้านผมน้าท่วม คงจะมองไม่เห็นยอดตึกสูงๆ ใบหยกทาวเวอร์หรอกครับท่าน
    นี่ผมกำลังจะไปร้องเรียนเทศบาลว่า ทำไมน้ำประปา ไหลบ้างไม่ไหลบ้าง เบื่อๆ

    ยิ่งช่วงหน้าแล้ง นี่เคยเจอน้ำไม่มี 10กว่าวัน น้ำท่าไม่ต้องอาบ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว
    ผมเลยต้องการน้ำมาก วิงวอนท่านพิรุณ โปรดมาอีกสัก 2-300ห่า ก็ดีนะครับท่าน
     
  16. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    สาธุ ขอให้พระพิรุณรับทราบ และประทานสิ่งที่คุณหล่อต้องการให้สมปรารถนาทุกประการด้วยจ้า [​IMG]
     
  17. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    เช้านี้ที่โคราชแดดออกแล้ว
    บนท้องฟ้า มีเมฆแผ่นดินดินไหวเป็นลอนๆ เต็มไปหมด
    รอดูว่าจะมีแผ่นดินไหวที่ไหน
     
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เมื่อเช้าไปซื้อเต้าหู้ทอด แม่ค้าบอกว่า ที่บ้านน้ำท่วมหนัก เลยถามว่าบ้านอยู่ไหน แม่ค้าบอกว่า สุรินทร์ พึ่งได้กลับมาขายของต่อเนี่ยะ เลยถามว่าปกติน้ำท่วมทุกปีไหม แม่ค้าบอกว่าแล้วแต่ แต่นานๆ จะมีท่วม แต่ปีนี้ ไม่รู้น้ำมาจากไหนเยอะมากจริงๆ

    เลยเอามาเล่าเล่นๆ อิอิ
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รู้ชีวิต กำหนดชีวิต

    [​IMG]


    <CENTER></CENTER>ปรัชญาที่นำมาเรียบเรียงและบันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ "รู้ชีวิต กำหนดชีวิต" ว่าด้วยเรื่องการทำความเข้าใจชีวิตอย่างแจ่มแจ้ง ใน ทรรศนของคนทั่วไปอาจมองชีวิตโดยเปรียบเทียบความแตกต่างที่วัด จากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นต้นว่ารูปร่าง ฐานะความเป็นอยู่ ความรู้ การศึกษา ตำแหน่งหน้าที่และฐานันดรศักดิ์ฯ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แก่นสาร ของชีวิตโดยแท้ เป็นเพียงบทบาทที่ถูกกำหนดมาแล้วจากฟ้าปางก่อน ชีวิตในชาตินี้จึงต้องรับบทบาทนั้นและเป็นไปตามลิขิตชะตา ชีวิตจึง กลายเป็นปริศนาสำหรับคนที่ไม่รู้ชีวิต ชีวิตจึงไร้คำตอบและหาทาง ออกไม่ได้ว่าทำไมเราเกิดมาเป็นผู้ชายหรือทำไมเป็นผู้หญิง ทำไมบาง คนอายุสั้นทั้งที่ใครๆ ก็อยากมีชีวิตอยู่ไปจนแก่ ทำไมเป็นคนขี้โรคทั้งที่ อาหารก็อุดมสมบูรณ์ ทำไมโง่เขลา ทำไมอัปลักษณ์ ทำไมยากจนฯ เหล่านี้ความรู้ทางโลกอย่างเดียวยังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์และที่มา เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

    เมื่อมีชีวิตแต่ไม่รู้ชีวิตก็เท่ากับชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ย่อมพบกับความหายนะคือความทุกข์อย่างมหันต์ แต่สำหรับบุคคลที่ ปรารถนาและแสวงหาความเข้าใจในชีวิต ชีวิตจึงไม่ใช่ปริศนาอีกต่อไป ปาฏิหารย์จะบังเกิด ชีวิตจะได้รับการช่วยเหลือ เมื่อใดที่ชีวิตพบทาง ออกคือ "รู้ชีวิต" เมื่อนั้นบุคคลจึงสามารถ "กำหนดชีวิต" ให้ไปเป็นได้ ด้วยตัวตนเอง.

    (คัดลอกเฉพาะเรื่องของวจีกรรมมาให้ได้ศึกษากัน เพื่อเป็นคติเตือนใจ ก่อนจะกล่าววาจาใดๆ ออกไปควรไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน)

    อานิสงค์ของรักษากรรมบถ 10 ในด้านวจีกรรมทั้ง 4


    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER>มหาชนทำตาม</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
    "ตถาคตเคยเกิดเป็นมนุษย์ในชาติกาลก่อน ได้ประพฤติละ การพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ พูดแต่ความจริง ดำรงความสัตย์ มีถ้อยคำเป็นหลักฐานอันควรเชื่อถือ ไม่กล่าวคำลวงโลกใด ๆ ​


    ด้วยผลแห่งบุญที่เราได้กระทำสั่งสมไว้นั้น ต่อเมื่อเราได้เป็น พระพุทธเจ้าแล้ว เราจึงได้รับผลบุญนั้นคือ ตถาคตเป็นที่ประพฤติตาม ของมหาชนทั้งหลาย ทั้งที่เป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรมพ์" ​


    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER>บริวารสามัคคี</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
    "ตถาคตเคยเกิดเป็นมนุษย์ในชาติกาลก่อน ได้เว้นขาดจากคำ ส่อเสียด คือฟังความจากข้างนี้แล้ว ไม่ไปบอกข้างโน้น หรือฟังความ จากข้างโน้นแล้ว ก็ไม่มาบอกข้างนี้ เพื่อพวกเขาจะได้ไม่แตกร้าวกัน แต่จะพูดสมานคนที่แตกร้าวกันแล้วบ้าง จะส่งเสริมคนที่สามัคคีกัน แล้วบ้าง ชอบหมู่คนผู้สามัคคีกัน ยินดีในหมู่คนผู้สามัคคีกัน เพลิด เพลินในหมู่คนที่สามัคคีกัน กล่าวแต่คำที่ทำให้หมู่คนสามัคคีกันเท่านั้น​


    ด้วยผลแห่งบุญที่เราได้กระทำสั่งสมไว้นั้น ต่อเมื่อเราได้เป็น พระพุทธเจ้าแล้ว เราจึงได้รับผลบุญนั้นคือ มีบริษัทไม่แตกแยกกัน สามัคคีกัน ไม่ว่าจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์" ​


    <!--pagebreak--><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER>เชื่อถือในวาจา</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
    "ตถาคตเคยเกิดเป็นมนุษย์ในชาติกาลก่อน ในภพนั้น ๆ เราได้ ละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ กล่าวแต่คำที่ไม่มีโทษที่ไพเราะหู ชวนให้รักจับใจ อันเป็นคำของชาวเมือง ซึ่งคนส่วนมากรักใคร่พอใจ ยิ่งนัก​


    ด้วยผลแห่งบุญที่เราได้กระทำสั่งสมไว้นั้น ต่อเมื่อเราได้เป็น พระพุทธเจ้าแล้ว เราจึงได้รับผลบุญนั้นคือ วาจาของตถาคตเป็นที่รัก เป็นที่เชื่อถือของมหาชนทั้งหลาย ทั้งภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรมพ์"​

    โทษของการล่วงละเมิดในกรรมบถ 10 ในด้านวิจีกรรมทั้ง 4

    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>

    ๔. พูดเท็จ พูดไม่ตรงความจริง

    หลายคนคงตั้งข้อสงสัยว่าการพูดไม่ปดนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะบางครั้งดูเหมือนจำเป็นต้องทำ เพราะอยู่ในหน้าที่การทำงานซึ่ง หาทางเลี่ยงไม่ได้ เช่น เมื่อรับโทรศัพท์แล้วมีคนต้องการพูดกับเจ้านาย แต่เจ้านายให้บอกว่าไม่อยู่ เช่นนี้แล้วถือว่าเป็นอกุศลกรรมหรือไม่ ? ถ้าเรามาไตร่ตรองให้รอบคอบ อาจเป็นเพราะเรายังไม่เคยทราบ ว่าเมื่อได้กระทำออกไปแล้วผลที่เราจะต้องได้รับเป็นอย่างไร ถ้าเราได้ ทราบผลที่จะเกิดและกลัวต่อผลนั่น ๆ เราจะต้องหาทางหลีกเลี่ยง ลด ละ เลิก การกระทำนั้นได้ดีที่สุด เพราะการที่เราได้พูดปดออกไปนั้นจะทำให้ เราต้องได้รับผลหรือโทษอย่างเบาที่สุดเมื่อมาเกิดเป็นคนแล้วคือ​

    ๑. พูดไม่ชัด

    เช่น พูดแบบคนลิ้นไก่สั้น หรือพูด ด้วยปลายปาก ปลายลิ้น ฟังไม่ ค่อยรู้เรื่อง ทั้งนี้เพราะคนที่พูดปด นั้นขณะที่พูดย่อมไม่กล้าพูดเสียง ดังหรือชัดเจน กลัวว่าคนอื่นจะได้ ยิน กลัวว่าความจริงจะถูกแพร่ง พราย เมื่อได้พูดโป้ปดมดเท็จอยู่ บ่อย ๆ พฤติกรรมก็อาจเปลี่ยนไป จิตก็เสพลักษณะอารมณ์ที่ได้กระทำ และสร้างกรรมชรูป (รูปที่เกิดตาม ผลกรรมนั้น) ทำให้พูดไม่ชัดนั่นเอง​

    ๒. ฟันไม่เรียบ

    เพราะการพูดแต่ละคำต้องอาศัย ปาก ฟัน และลิ้น ประกอบกัน เมื่อปากได้กระทำวาจา ที่ทุจริตจึงทำให้อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูด นั้นไม่สวยงามน่าดู หรืออาจมีผลทำให้เกิด การผิดปกติภายในปาก เช่น เป็นแผลในปากหรือมีเนื้องอกเป็นเนื้อร้าย ผลที่เป็นนี้เกิดจากมุสาวาททั้งสิ้น แต่ถ้าเป็นเหตุให้ต้องไปหาหมอเพื่อการ รักษาหรือผ่าตัดนั้น เป็นผลจากปาณาติบาตดังที่ได้กล่าวมาแล้ว​

    ๓. มีกลิ่นปากเหม็นรุนแรง

    เพราะวาจาทุจริตที่พูดออกไปนั้น อาจสร้าง ความเสื่อมเสียให้กับผู้อื่น ผลที่เราทำให้ผู้อื่น เสียหาจึงทำให้ในชาติต่อ ๆ ไปนั้น เวลาที่ พูดออกมาจะมีกลิ่นปากเหม็นรุนแรง ไม่มี ใครอยากสนทนาด้วย​

    ๔. ไอตัวร้อนจัด มีกลิ่นตัวแรง

    เพราะผู้ที่โกหกเกือบทุกรายถ้ามีใครมาพูด พาดพิงถึงเรื่องที่ตนเองได้พูดไปนั้น ย่อมมี ความร้อนตัวกลัวภัยที่จะมาถึงตนเอง อำนาจ นี้จะทำให้เกิดมาเป็นคนที่มีไอตัวร้อนจัดหรือ มีกลิ่นตัวแรง ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เหตุเพราะอดีตชาติเป็นคนพูดโกหก เก่ง พูดอะไรหาความจริงได้ยาก จึงไม่มีใครอยากคบคนประเภทนี้​

    ๕. ตาไม่อยู่ในระดับปกติ

    เช่น ตาเข ตาเหล่ เพราะคนพูดไม่ จริง เมื่อจะกล่าวเรื่องอะไรเกี่ยว กับใคร ขณะที่พูด สายตาก็จะ สอดส่ายคอยระวังเพราะกลัวว่า เขาจะมาได้ยินเข้า อำนาจนี้จึง สร้างกรรมชรูปให้เกิดมา สายตา ไม่อยู่ในระดับปกติ ดังนั้น คนที่มีสายตาผิดปกติก็เป็นผลจากการกระทำ ผิดอกุศลกรรมในข้อนี้ เช่น คนที่มีสายตาเอียง สายตาสั้น สายตายาว เป็นต้น แต่อำนาจที่ได้รับเป็นเพียงเศษกรรมเท่านั้น​

    ๖. พูดติดอ่าง พูดไม่สะดวก

    กล่าวคือคนที่ทำผิดในข้อมุสาวาทนี้ ต้องคอยคิดว่าจะต้องพูดอย่างไร เพราะเรื่องที่พูดนั้นไม่เป็นจริงและ เมื่อจะพูดเรื่องนี้ในครั้งต่อไป ต้อง คอยคิดว่าคราวที่แล้วพูดไปอย่างไร อำนาจนี้จึงทำให้เกิดเป็นคนที่พูด ไม่สะดวกหรือพูดติดอ่างนั้นเอง​

    ๗. บุคลิกไม่สง่าผ่าเผย

    กล่าวคือ เป็นคนที่ขาดความเชื่อมั่น ในตนเอง เพราะคอยระแวงว่าจะ มีใครจับได้ว่าตนเองเป็นคนโกหก หรือเป็นคนที่รุกรี้รุกรน เป็นคน ที่ต้องคอยแก้ตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากกลัวคนอื่นจับโกหกได้​

    ๘. จิตจรวนเรคล้ายคนวิกลจริต

    คนที่โกหกนั้นจะมีแต่ความวิตกกังวล ในเรื่องที่ได้พูดออกไปบางครั้งเรื่อง เดียวกันแต่พูดหลายครั้งไม่ตรงกัน เพราะเรื่องนั้นไม่จริง และตนเองจำ ไม่ได้ว่าพูดไปอย่างไรในครั้งแรก จึงทำให้เป็น คนที่รวนเร เมื่อคนอื่นจับได้ก็ไม่มีใครอยากพูดด้วย อำนาจเช่นนี้จึงทำให้ เกิดมามีจิตใจรวนเรคล้ายคนวิกลจริต และคนที่วิกลจริตนั้นพูดไปก็ไม่มี ใครฟัง การทำบาปในข้อนี้น่ากลัวมาก เพราะเป็นการกระทำที่เลิกได้ยาก เมื่อได้กระทำไปครั้งแรก ครั้งต่อไปก็ต้องตามมา เมื่อเราโกหกไป เรื่องหนึ่ง มีใครมาถามเรื่องนั้นอีก เราต้องพยายามพูดให้เหมือนเดิม เท่ากับเป็นการโกหกครั้งที่สอง ฉะนั้น เรื่องเดียวที่พูดออกไปย่อมให้ผล มากมายอย่างไม่มีวันจบสิ้น.​


    <!--pagebreak--><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>

    ๕. พูดส่อเสียด พูดให้แตกแยก

    หมายถึง พูดส่อเสียด พูดให้แตกแยก พูดพาดพิง พูดให้ร้ายฯ เมื่อเราได้กระทำออกไปนั้นจะทำให้เราต้องได้รับผลหรือโทษอย่างเบา ที่สุดเมื่อมาเกิดเป็นคนแล้วคือ​

    ๑. ชอบตำหนิตนเอง

    กล่าวคือ เมื่อได้ทำอะไรผิดมักอุทานออกเป็น คำพูที่ตำหนิตนเอง เช่น "บ้าจัง" หรือ "แย่ จริง" บางคนกลัวเพื่อนฝูงจะหยิบยืมเงิน ทอง มักชอบพูดเป็นทำนองว่าตนเองไม่มี เงินหรือบางคนชอบพูดว่าตนเองไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นเพราะอดีตชาติชอบตำหนิและส่อเสียดผู้อื่นไว้ อำนาจนี้จึงทำให้ ชาติต่อ ๆ ไปกล้าที่จะตำหนิตนเองซึ่งเป็นชีวิตที่เรารักที่สุดได้​

    ๒. มักถูกกล่าวหาโดยไม่เป็นจริง

    หลายท่านอาจเคยประสบพบเห็นมาว่าเมื่อมี เรื่องราวอะไรเกิดขึ้น หรือมีข้าวของอะไร เสียหาย เด็กบางคนมักจะถูกพ่อแม่ดุเป็น ประจำทั้ง ๆ ที่เด็กคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลย หรือขณะที่เด็ก ๆ เล่นกัน เมื่อมีเรื่องราวเกิดขึ้นเด็กบางคนต้องตกเป็นผู้ เสียหาย ถูกฟ้องทั้งที่ตนเองเป็นฝ่ายถูก นั่นคือไม่ว่าจะมีความผิดใด ๆ เกิดขึ้น แม้ไม่ได้เป็นผู้กระทำก็จะถูกมองว่าเป็นคนผิด นักโทษที่ถูกตำรวจ จับและต้องถูกกักขัง บางรายก็ไม่ได้กระทำผิดจริง แต่กลับถูกส่งฟ้อง เพราะสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นหลักฐานสำคัญทำให้ถูกจับ การถูก กักขังก็เป็นผลเนื่องจากอดีตชาติเป็นคนที่ชอบกักขังสัตว์มาก่อนนั่นเอง​

    ๓. ถูกบัณฑิตติเตียน

    กล่าวคือไม่ว่าจะทำการงานอะไร แม้งานที่ คิดว่าเสร็จสมบูรณ์ดีแล้ว ก็ยังมีช่องโหว่ทำ ให้ได้รับคำตำหนิจากหัวหน้างาน หรือเด็ก บางคนที่ถูกพ่อแม่ครูอาจารย์ดุเป็นประจำ​

    ๔. แตกกับมิตรสหาย

    เช่น คนมีพฤติกรรมบางอย่างที่ ใคร ๆ ไม่ชอบหรือเป็นคนที่เข้ากับ ใคร ๆ ไม่ได้ แม้มีเพื่อนก็มีเหตุทำให้ ต้องมีเรื่องแตกแยกในที่สุด ทั้งนี้ เป็นเพราะอดีตชาติได้เคยส่อเสียด คนอื่นเอาไว้มาก อำนาจนี้จึงทำให้ ต้องได้รับผลคือ ไม่มีใครอยากคบหาสมาคมด้วย เป็นการแตกกับมิตร สหายนั่นเอง อกุศลกรรมในข้อนี้ถ้าพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว หลาย ๆ คนยังประพฤติและปฏิบัติกันอยู่ เช่น การกล่าวถึงบุคคลอื่นในทางที่ไม่ดี การกระทำนี้จะสร้างความสันทัดให้ติดตัวไป และในที่สุดจะผลักดันให้มี การกระทำทางวาจา เช่น หลาย ๆ คนเมื่อมีเสียงดังจากภาชนะที่ตกหล่น มักจะส่งเสียงร้องโทษแมว อันนี้เป็นผลของความสันทัดในการส่อเสียด เริ่มต้นจากการว่าแมวแล้วอาจส่อเสียดคนอื่น ๆ ต่อไปได้อีก เมื่อได้กระทำ กรรมเช่นนั้นย่อมได้รับผลดังที่กล่าวมาแล้ว​


    <!--pagebreak--><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>

    ๖. พูดคำหยาบ ด่า สาปแช่ง

    หมายถึง พูดคำหยาบ ด่าด้วยคำหยาบช้า ด่าพ่อล่อแม่ ด่า ประจาน สาปแช่งฯ เมื่อเราได้กระทำออกไปนั้นจะทำให้เราต้องได้รับ ผลหรือโทษอย่างเบาที่สุดเมื่อมาเกิดเป็นคนแล้วคือ​

    ๑. มีกายและวาจาหยาบกระด้าง

    เพราะอำนาจของการพูดคำหยาบที่ติดมา เป็นนิสัยสร้างความสันทัดติดตัว จึงทำให้ ชาติต่อ ๆ ไปเกิดเป็นคนที่มีบุคลิกท่าทาง ตลอดจนคำพูดหยาบกระด้างนั่นเอง​

    ๒. พินาศในทรัพย์

    เพราะการพูดหยาบบางคำ เช่น บางคนติด พูดคำว่า "ฉิบหาย" เมื่อพูดออกไปในแต่ละ ครั้ง จิตนั้นก็จะรับรู้ความหมายและเสพ อารมณ์นั้นเข้าไปเก็บไว้ ทำให้ผลที่ได้รับก็จะ เป็นไปตามนั้น คือ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่เจริญ หรือที่มักพูดกันว่า "ฉิบหาย วายวอด" ประกอบกับอกุศลกรรมในข้ออทินนาทานที่เราเคยได้กระทำ มา จึงเป็นแรงช่วยส่งให้เราต้องได้รับผลเร็วขึ้นหรือมากขึ้น​

    ๓. ได้รับฟังแต่เรื่องไม่สบายใจ

    เพราะอำนาจของการพูดหยาบคายที่เราได้ พูดออกไป ผู้อื่นที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้ ย่อม เกิดความไม่สบายใจ การกระทำเช่นนี้จึง ทำให้เราต้องได้รับผลคือ ได้ฟังแต่เรื่อง ไม่สบายใจ เช่น บางคนเวลาทำงานเจอเพื่อนร่วมงานที่พูดมากหรือเจ้า นายที่เป็นคนจุกจิกหยุมหยิม ชอบคิดเล็กคิดน้อย ถ้าประกอบกับเราเคย กระทำปิสุณวาจาไว้ (กล่าวคำส่อเสียด) ก็ทำให้ต้องได้รับคำติเตียน ผลที่ ตามมาคือความไม่สบายใจ ซึ่งเป็นผลจากการที่ได้พูดคำหยาบ คนบาง คนพอกลับบ้านก็ต้องเจอกับภรรยาที่จู้จี้ขี้บ่น หรือต้องได้ฟังเรื่องราวที่ ไม่ดีของลูกต่าง ๆ นานา ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ผลในข้อนี้บางคนได้ รับร่วมกับกุศลกรรม เช่น บางคนอดีตชอบทำทาน แต่ในขณะเดียวกัน เป็นคนมีนิสัยพูดจาหยาบกระด้าง พูดคำด่าคำ หรือที่เรามักเรียกว่าเป็น คนปากร้ายแต่ใจดี เมื่อเกิดมาคนเช่นนี้จะเป็นที่รักของคนหมู่มาก หรือ มีเพื่อนรักมาก ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เพื่อนฝูงมักชอบมาปรับทุกข์ด้วย เมื่อมีเรื่องเดือดร้อนใจอะไรจะวิ่งมาปรึกษาและระบายทุกข์นั้นให้ฟัง เท่ากับว่ามีผลให้ตนต้องได้รับฟังแต่เรื่องไม่สบายใจนั่นเอง​

    ๔. ตายด้วยอาการหลงใหล

    กล่าวคือ เมื่อมีอายุมากขึ้นทำให้ขาด สติเป็นคนหลงลืม เช่น กินข้าวแล้ว แต่บอกว่ายังไม่ได้กิน คนพวกนี้ เมื่อเวลาตายก็จะตายด้วยอาการที่ ขาดสติ ที่เป็นเช่นนี้เพราะได้พูดจา หยาบคาย ผู้ที่กระทำอกุศลกรรม ในการพูดเช่นนี้แสดงว่าขาดสติที่จะ ควบคุมตนเอง จึงทำให้ต้องได้รับ ผลคือ เป็นคนที่ขาดสตินั่นเอง.​


    <!--pagebreak--><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>

    ๗. พูดเพ้อเจ้อ พูดไร้สาระ

    หมายถึง พูดไม่มีเนื้อหา พูดเหลวไหล พูดเรื่อยเปื่อย พูดไม่ เป็นประโยชน์ฯ เมื่อเราได้กระทำออกไปนั้นจะทำให้เราต้องได้รับผลหรือ โทษอย่างเบาที่สุดเมื่อมาเกิดเป็นคนแล้ว คือ​

    ๑. เป็นอธรรมวาทบุคคล

    กล่าวคือ เป็นคนที่พูดมากและเรื่องราวที่พูด นั้นไร้สาระหาประโยชน์ไม่ได้ บางคนไม่ว่า ใครจะพูดอะไรก็พูดกับเขาได้ทุกเรื่อง มีการ เพลิดเพลินในการพูด โดยไม่สนใจว่าคนอื่น เขาจะรู้สึกอย่างไร บางคนไม่ว่าใครจะทำอะไร หรือซื้ออะไรมาก็ชอบ พูดวุ่นวายทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของตนเอง เช่น เขาซื้อผ้ามาก็ต้องไปถามว่า "ซื้อเท่าไร.. ไปซื้อมาจากที่ไหน..?" และพูดติว่าซื้อแพงเป็นตน คนที่มี พฤติกรรมเช่นนี้เป็นเพราะความสันทัดจากการเป็นคนพูดเพ้อเจ้อปลูกฝัง ตั้งแต่อดีตชาติติดตามมานั่นเอง​

    ๒. ไม่มีผู้เลื่อมใสในคำพูด

    กล่าวคือ แม้ในบางครั้งจะพูดความ จริงแต่ก็ไม่มีใครเชื่อถือ สิ่งเหล่านี้ เป็นผลที่ได้รับเพราะเคยพูดเพ้อเจ้อ มาแต่อดีตชาติ คนที่พูดหาสาระ ไม่ได้ เมื่อดูดจริงคนอื่นก็ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่พูดนั้นเชื่อถือได้หรือไม่ เพราะ สิ่งที่เขาพูดมีมากมาย และข้อความ บางอย่างที่พูดก็ไม่มีประโยชน์เลย​

    ๓. เป็นคนไร้อำนาจ

    กล่าวคือ แม้ว่าจะมีตำแหน่งเป็น หัวหน้า แต่ลูกน้องก็ไม่มีความยำ เกรง เป็นพ่อแม่พูดจาสั่งสอน ลูก ก็ไม่เชื่อฟัง เป็นครูอาจารย์ ลูก ศิษย์ก็ไม่ให้ความเคารพ ทั้งนี้เพราะ อดีตชาติเป็นคนเพ้อเจ้อ ไม่มีใคร ให้ความเชื่อถือมาก่อนนั่นเอง​

    ๔. วิกลจริต

    กล่าวคือ คนวิกลจริตบางครั้งนั่งพูดอยู่คน เดียว ที่เป็นเช่นนี้เพราะอดีตชาติเป็นคนพูด มาก ไร้สาระ ไม่มีใครอยากฟัง จิตจึงเก็บ อำนาจนั้นไว้ ผลที่ตามมาจึงทำให้เป็นคนวิกล จริต กล้าพูดอยู่คนเดียว​

    ทั้ง ๔ ประการที่กล่าวมาข้างต้นจัดเป็นวาจาทุจริต คือการสร้าง กรรมทางปากเป็นอกุศลกรรมหรือวจีกรรม เมื่อได้กระทำออกไปย่อมมี ผลตามมามากมาย ดังนั้น ในศีลห้าข้อที่ ๔ มุสาวาท ซึ่งหมายถึงเว้นขาด จากการพูดจาโป้ปดมดเท็จ เพราะฉะนั้นจะรักษาศีลข้อนี้ให้บริสุทธิ์นั้น ทั้งนี้ต้องรวมถึงการไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ เข้าไป ด้วยนั่นเอง​

    ถ้าผู้อ่านต้องการศึกษาในเรื่องกรรมบท 10 ให้ครบถ้วนขอเชิญเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ
    http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=printpage&artid=253
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2008
  20. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    17 ก.ย. 51
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เกินร้อยเปอร์เซ็นต์
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วันนี้ได้คุยกับอาจารย์ สอนธรรมะ เพื่อถามถึงจำนวนคนไม่ทานเนื้อสัตว์ สายดอนเมือง ที่เกาะกลุ่มกัน ที่ถามเพราะผมอยากทราบยอดจำนวนคน เพื่อที่จะรองรับคนนอกอีก
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ยอดที่ได้คือ ประมาณ 500 คน ผมเอา 3 คูณ เผื่อคนในครอบครัว จะได้ 1,500 คน คนจำนวนนี้ ถ้าไปทั้งหมด พื้นที่ๆผมจะพาไปอยู่ ผมคำนวณด้วยสายตาจะอยู่ได้ประมาณ 1,000 คน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ยอดที่ได้แค่เป็นตัวเลขเท่านั้น รอให้ถึงเวลาจริงจะได้ตัวเลขที่แน่นอน<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...