ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

vanco <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1538233", true); </script>
ทีมงานเว็บพลังจิต (เต้)



วันที่สมัคร: Feb 2007
ข้อความ: 12,651
ได้ให้อนุโมทนา: 61,447
ได้รับอนุโมทนา 102,290 ครั้ง ใน 12,545 โพส
พลังการให้คะแนน: 5600


<!-- message --> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="headline" valign="baseline" align="left">เวียดนามพบแล้ว 32 ศพ 'ฮาจูปี๊ต' ถล่มลาวต่อ </td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td bgcolor="#cccccc" height="1"></td></tr></tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="baseline" align="left">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td><td class="date" valign="baseline" align="left">28 กันยายน 2551 18:57 น.</td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="center" align="middle"></td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="top" align="middle"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="baseline" align="left"><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top" align="middle"><table width="600" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top" width="600" align="middle"> </td></tr><tr><td class="Image" valign="baseline" align="left"><center>สาหัส อีกรอบ--- บ้านเรือนราษฎรนับพันๆ หลังคาในเขตเมืองลางเซิน (Lang Son) จมน้ำหลังฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน พายุโซนร้อนฮาจูปี๊ตทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 32 คน อีกอย่างน้อย 5 คนยังสูญหาย ขณะที่เคลื่อนเข้าสู่ลาวในสุดสัปดาห์นี้ (ภาพ: AFP). </center></td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td valign="top" align="middle" height="5"></td></tr></tbody></table>
ผู้จัดการออนไลน์-- พายุโซนร้อนฮาจูปี๊ต (Hagupit) ได้อ่อนกำลังลงอย่างช้าๆ ขณะบ่ายหน้าไปทางตะวันตกเข้าสู่ภาคเหนือของลาวในวันอาทิตย์ (28 ก.ย.) ที่ผ่านมา หลังจากทำให้ชาวเวียดนามเสียชีวิตจำนวนมากกับอีกหลายคนยังคงสูญหายอันเนื่อง จากเกิดน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลันในภาคเหนือของประเทศ

ตามรายงานของทางการพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 32 คนเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่ยังมีอีก 4 คนสูญหาย หลังจากเกิดน้ำท่วมฉับพลันในท้องที่หลายจังหวัดในภาคเหนือ รวมทั้งทำให้เกิดดินเลื่อน ดินถล่มในหลายท้องที่ ถนนหลายสายถูกดินและหินกลบใช้การไม่ได้ กระแสน้ำป่าไหลหลากทำให้เส้นทางคมนาคมต่างๆ ถูกตัดขาดจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ทางกานท้องถิ่น 5 จังหวัดได้รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายจำนวนดังกล่าว ขณะที่บ้านเรือนราษฎรนับพันๆ หลังถูกทำลายโดยอุทกภัย อีกจำนวนมากได้รับความเสียหาย

นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้สั่งการเมื่อวันเสาร์ ให้กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องระดมความช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ถูกอุทกภัยตัดขาดจากโลกภายนอกใน ท้องถิ่นต่างๆ ในขณะที่ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนและในลำน้ำลำธารต่างๆ เพิ่มขึ้นสูง

ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยนับพันๆ คนถูกส่งเข้าไปยังพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ โดยทางเรือ นำบะหมี่แห้ง น้ำสะอาดสำหรับดื่มและยาออกจกจ่าย

ในช่วงเดือน ส.ค.-พ.ย.ไต้ฝุ่นและพายุโซนร้อนจากทะเลจีนใต้คร่าชีวิตชาวเวียดนามนับร้อยๆ คนเป็นประจำทุกปี

ตามตัวเลขของคณะกรรมการกู้ภัยกลางในกรุงฮานอย จ.เซินลา (Son La) ทางตอนเหนือสุดได้รับความเสียหายหนักที่สุด ในจังหวัดนี้เพียงแห่งเดียวมีผู้เสียชีวิตกว่า 10 คน เกิดอุทกภัยเป็นวงกว้าง บ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลังคาเรือนถูกน้ำซัดพังพินาศ ทางหลวงถูกตัดขาด เช่นเดียวกับใน จ.ลางเซิน (Lang Son)

ใน จ.บั๊กซยาง (Bac Giang) เขตอู่ข้าวใกล้กับกรุงฮานอยมีราษฎรเสียชีวิต 4 คนจากน้ำท่วมฉับพลัน และเกิดน้ำท่วมกินอาณาบริเวณกว้างในเขต 2 อำเภอ ส่วน จ.กว๋างนิง (Quang Ninh) ที่ตั้งของแหล่งมรดกโลกอ่าวฮาลอง ทางตะวันออกสุดของประเทศมีผู้เสียชีวิต 1 คน

ทางการเวียดนามได้ประกาศเตรียมพร้อมมือพายลูกนี้แต่เนิ่นๆ

</td></tr><tr><td class="body" valign="baseline" align="left"><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top" align="middle"><table width="500" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top" width="500" align="middle"> </td></tr><tr><td class="Image" valign="baseline" align="left"><center>ราษฎร ในเขตเมืองลางเซิน เมืองเอกของจังหวัดชื่อเดียวกันในภาคเหนือตอนบน ขนข้าวของที่พอจะเก็บได้อพยพหนีน้ำท่วมของ ภาพถ่ายวันที่ 25 ก.ย.2551 โดยสำนักข่าวเอเอฟพี. </center></td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td valign="top" align="middle" height="5"></td></tr></tbody></table> สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางได้ออกเตือนเมื่อวันเสาร์ให้จังหวัด ต่างๆ ระวังระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายที่จะท่วมขึ้นสูง รวมทั้งแม่น้ำฮว่าบิ่ง (Hoa Binh) ซึ่งเป็นที่ตั้งเขื่อนไฟฟ้าขนาดใหญ่ กับแม่น้ำซงห่ง (Song Hong) หรือ แม่น้ำแดงที่ไหลผ่านกรุงฮานอยด้วย

พายุฮาจูปี๊ตกำลังเคลื่อนผ่านเวียดนามไปในทิศตะวันตกเข้าสู่ภาคเหนือลาวใน สุดสัปดาห์นี้ แอละอาจจะสร้างความเสียหายอย่างหนัก เช่น พายุพายุกัมมูริ (Kammuri) ที่พัดมาตามเส้นทางเดียวกันนี้ในเดือน ส.ค.

พายุกัมมูริได้ทำให้เกิดฝนตกหนักในเวียดนาม มีผู้เสียชีวิตราว 130 คน อีก30 คนยังคงหายสาบสูญมาจนถึงบัดนี้ พายุยังทำให้เกิดอุทกภัยเป็นวงกว้างในลาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ และยังแผ่อิทธิพลทำให้เกิดฝนตกหนักในภาคเหนือของพม่าอีกด้วย

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนจากเหตุอุทกภัยในลาวเมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนั้นยังทำความเสียหายแก่นาข้าวนับล้านไร่โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบๆ นครหลวงเวียงจันทน์ อู่ข้าวสำคัญของประเทศ.

</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
<!-- / message --> <!-- sig --> __________________

 

<table width="600" bgcolor="white" border="1" bordercolor="blue" cellpadding="5" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="blue">ฮากุปิตยังไม่สลายอีกเหรอ </td></tr> <tr><td>
<table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td> ผู้ จัดการออนไลน์-- พายุโซนร้อนฮาจูปี๊ต (Hagupit) ได้อ่อนกำลังลงอย่างช้าๆ ขณะบ่ายหน้าไปทางตะวันตกเข้าสู่ภาคเหนือของลาวในวันอาทิตย์ (28 ก.ย.) ที่ผ่านมา หลังจากทำให้ชาวเวียดนามเสียชีวิตจำนวนมากกับอีกหลายคนยังคงสูญหายอันเนื่อง จากเกิดน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลันในภาคเหนือของประเทศ


http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000114994

เราเข้าใจว่าฮากุปิตสลายไปแล้วซะอีก

ที่ถล่มลาวอยู่ตอนนี้เป็นหย่อม 98W ที่ตอนนี้ทวีกำลังเป็นดีเปรสชั่นใช่ไหมอะ

TC ช่วยหน่อยดิ ขอบพระคุณล่วงหน้าอะ </td></tr> </tbody></table>
</td></tr> <tr><td> <table width="100%" align="center" border="0"> <tbody><tr><td align="left">
</td> <td align="right"> โดยคุณ เด็กดอยตุง (124.120.117.114) [29-09-2008 08:59] </td></tr> </tbody></table> </td></tr> </tbody></table>

<hr width="600" color="#ff1493">
<table width="600" bgcolor="#e0ffff" border="1" bordercolor="#1e90ff" cellpadding="2" cellspacing="0"> <tbody><tr><td> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td align="left"> ความเห็นที่ 1 โดยคุณ ไหม (61.19.239.49) [29-09-2008 15:44] #19068 </td> <td align="right">
</td> </tr></tbody></table> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td>
ข่าวเพิ่งมามั้งครับ อัพเดทช้างี้แหละ </td></tr> </tbody></table> </td></tr> </tbody></table>
<hr width="600" color="#ff1493">
<table width="600" bgcolor="#e0ffff" border="1" bordercolor="#1e90ff" cellpadding="2" cellspacing="0"> <tbody><tr><td> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td align="left"> ความเห็นที่ 2 โดยคุณ TC-21W (125.24.123.101) [29-09-2008 19:51] #19089 </td> <td align="right">
</td> </tr></tbody></table> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td>
หย่อม 98W คือพายุโซนร้อน เมขลา ปัจจุบัน

่สวนฮากุปิตสลายไปเมื่อ 25 ก.ย.51 ที่ผ่านมา </td></tr> </tbody></table> </td></tr> </tbody></table>
<hr width="600" color="#ff1493">

 

<hr width="600" color="#ff1493">
<table width="600" bgcolor="#e0ffff" border="1" bordercolor="#1e90ff" cellpadding="2" cellspacing="0"> <tbody><tr><td> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td align="left"> ความเห็นที่ 1 โดยคุณ TC-19W (202.47.227.17) [29-09-2008 08:50] #19062 </td> <td align="right">
</td> </tr></tbody></table> <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td>
ไต้ฝุ่น "ชังมี" นับเป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกที่ 4 ที่ถล่มเกาะไต้หวัน นับตั้งเเต่ ไต้ฝุ่น KALMAEGI(คัลเมจิ) ไต้ฝุ่น FUNG-WONG(ฟองวอง) SINLAKU(ซินลากอ) เเละ ล่าสุด JANGMI(ชังมี) โดยพายุลูกนี้มีความรุนเเรงสูงสุดอันดับ 1 ของโลก ในปีนี้

โดยความรุนเเรงของพายุสูงสุดที่ 135นอต(250กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ต่อเนื่องเเละคงเส้นคงวา กันเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ติดต่อกัน

อย่างไรก็ตามพายุลูกนี้ ได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายอย่างหนักเลยทีเดียว
</td></tr> </tbody></table> </td></tr> </tbody></table>
<hr width="600" color="#ff1493">

 

<table style="" width="98%" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="c1" width="4" height="4">
</td> <td style="border-top: 1px solid gray;" width="97%"> <table width="100%"><tbody><tr><td height="1">
</td></tr></tbody></table> </td> <td class="c2" width="4">
</td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="border-left: 1px solid gray; border-right: 1px solid gray;" width="100%" align="center"> [SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย
"พายุโซนร้อน “ เมขลา ”" [/SIZE]
ฉบับที่ 2 (353/2551) ลงวันที่ 29 กันยายน 2551
</td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="border-left: 1px solid gray; border-right: 1px solid gray; padding: 10px;" width="100%" align="center"> พายุโซนร้อน“ เมขลา ”บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจากเมือง ดานัง ประเทศเวียดนามห่างประมาณ 180 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 กม./ ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ ชม.
คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำประมาณวันที่ 30 ก.ย. และจะเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยและประเทศเวียดนามตอนบน ในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่
ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหล โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ หนองคาย สกลนคร อุดรธานี นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด กระบี่ ตรังและสตูล ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นได้อีกในระยะ 1-3 วัน ข้างหน้า ( 29 ก.ย. - 2 ต.ค. 51)นี้
สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อน ข้างแรง ทำให้ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 29 ก.ย. – 2 ต.ค.51 นี้ไว้ด้วย
</td> </tr> <tr> <td class="c3" width="4" height="4">
</td> <td style="border-bottom: 1px solid gray;" width="97%"> <table width="100%"><tbody><tr><td height="1">
</td></tr></tbody></table> </td> <td class="c4" width="4">
</td> </tr> </tbody></table>

 

น้ำยังมากไม่พอเหร๋อ

 

<table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr><th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </th> <th align="center">LAT
deg </th> <th align="center">LON
deg </th> <th align="center">DEPTH
km </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap"> 7.3 </td><td align="center" nowrap="nowrap">2008/09/29 15:19:33 </td><td align="right" nowrap="nowrap"> -29.897 </td><td align="right" nowrap="nowrap"> -177.780 </td><td align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td> KERMADEC ISLANDS, NEW ZEALAND</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap"> 6.9 </td><td align="center" nowrap="nowrap">2008/09/29 15:19:31 </td><td align="right" nowrap="nowrap"> -30.200 </td><td align="right" nowrap="nowrap"> -176.800 </td><td align="right" nowrap="nowrap"> 36.0 </td><td> KERMADEC ISLANDS REGION</td></tr></tbody></table>

10-degree Map Centered at 30°S,180°E

Skip to earthquake lists

 

Tropical Storm HIGOS (21W) : พายุดีเปรสชัน 21W ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ฮิโกส” บริเวณด้านตะวั
Tropical Storm HIGOS (21W) : พายุดีเปรสชัน 21W ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ฮิโกส” บริเวณด้านตะวันออกเฉียงใต้ของฟิลิปปินส์
ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 19.00น.
ประจำวันที่ 29 กันยายน 2551 ออกประกาศเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 29 กันยายน 2551 /19.30 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 3 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 1 ลูก
1) Tropical Storm HIGOS (21W,9.2N 129.0E,35kts) : เมื่อเวลา 19.00น. วันนี้ (29 ก.ย.51) พายุดีเปรสชันเขตร้อน 21W ได้ทวีกำลังขึ้นเป็น พายุโซนร้อน HIGOS(ฮิโกส/21W) แล้ว กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ศูนย์กลางปกคลุมบริเวณทะเลแปซิฟิคด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ ที่ละติจูด 9.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 129.0 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ห่ างประมาณ 1,200 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกด้วยความเร็ว 15 นอต(28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา. ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 35นอต(65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 996 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 3 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาด พายุโซนร้อน HIGOS(ฮิโกส/21W) จะเริ่มมีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าศูนย์กลางพายุจะเคลื่อนตัวเข้าสู่เกาะซามาร์ ตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า หรือช่วงประมาณ 19.00น.(30ต.ค.51) เป็นต้นไป จากนั้นพายุจะเคลื่อนตัวผ่านตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ไปทางตะวันตกเฉียง เหนือ ส่วนในช่วง 72-120 ชั่วโมงข้างหน้า หรือประมาณ 02-04ต.ค.51 พายุจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลาง และจะมีทิศทางการเคลื่อนตัวไปเบี่ยงไปทางเหนือมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่พายุจะทวีกำลังขึ้นไปเรื่อยๆ : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
2)Tropical Storm MEKKHALA (20W,17.3N 108.9E,45kts): เมื่อเวลา 19.00น. วันนี้ (29 ก.ย.51) พายุโซนร้อน “เมขลา” ยังคงทวีกำลังแรงไปอย่างช้าๆ ปกคลุมบริเวณใกล้ชายฝั่งประเทศเวียตนามตอนกลาง ทะเลจีนใต้ตอนบน ที่ละติจูด 17.3 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.9 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศเหนือจากเมืองดานัง ประเทศเวียดนามห่ างประมาณ 180 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 10 นอต(19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา. ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 45นอต(83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 989 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 3 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาด พายุโซนร้อน MEKKHALA(เมขลา/20W) จะมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าศูนย์กลางพายุจะมีทิศทางเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งประเทศเวียตนาม ตอนกลาง ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า หรือช่วงประมาณ 19.00น.พรุ่งนี้(30ก.ย.51) ก่อนที่จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับเมื่อเข้าสู่แผ่นดินใหญ่เวียตนามและเลย เข้าสู่ประเทศลาวในอีกประมาณ 48-72 ชั่วโมงข้างหน้า หรือช่วงประมาณ 1-2ต.ค.51 : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
3) Tropical Storm JANGMI(19W,27.4N 122.5E,55kts) : เมื่อเวลา 19.00น. วันนี้ (29 ก.ย.51) พายุโซนร้อน JANGMI(ชังมี/19W) กำลังเคลื่อนตัวออก***งจาก เกาะไต้หวัน ปกคลุมบริเวณทะเลใกล้ชายฝั่งเมืองเหวินโจว ประเทศจีน ที่ละติจูด 27.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 122.5 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันตกจากเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่นห่ างประมาณ 565 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 9 นอต(17 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา. ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55นอต(102 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 982 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 7 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาด พายุโซนร้อน JANGMI(ชังมี/19W) จะมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ในอีก 24-72 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าศูนย์กลางพายุจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เมือง SASEBO ในช่วง 36 ชั่วโมงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 1ต.ค.51 ซึ่งในช่วง 48 ชั่วโมงข้างหน้าหรือ1 ต.ค.51จะอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน และพายุนอกเขตร้อนในระยะต่อไป : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC)
4) Tropical Disturbance 90W (7.1N 154.1E,5-10kts) : เมื่อเวลา 19.00น. วันนี้ (29 ก.ย.51) หย่อมความกดอากาศต่ำ 90W ปกคลุมบริเวณกลางทะเลแปซิฟิคตะวันตก ที่ละติจูด 7.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 154.1 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเกาะกวม ห่ างประมาณ 1,019 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศใต้ด้วยความเร็ว 5 นอต(9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา. ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดที่ผ่านมาบ่งบอกว่ามีการก่อตัวขึ้นของพายุฝนเข้าสู่ใจ กลางความกดอากาศต่ำอย่างอ่อนๆ ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 5-10นอต(9-19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 1010 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาด หย่อมความกดอากาศต่ำ 90W จะเริ่มมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า และจะมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางเหนือมากขึ้นในอีก 48-96 ชั่วโมงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 2-4 ต.ค.51 อย่างไรก็ตามพายุลูกนี้อยู่ในช่วงกระแสลมในแนวดิ่งที่มีกำลังอ่อนประกอบกับ การพัดขึ้นไปของกระแสลมออกไป คาดว่าจะเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอีก 48-72 ชั่วโมงข้างหน้า หรือช่วงประมาณ 1-2 ต.ค.51 เป็นต้นไป : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC)
<เพิ่มเติม> พายุโซนร้อน MEKKHALA (เมขลา/20W) ที่ปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบนนั้น ในช่วง 28ก.ย.-03ต.ค.51 อยู่ในช่วงร่องความกดอากาศต่ำที่มีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้มีกำลังปานกลาง ถึงค่อนข้างแรง อีกทั้งยังได้รับอิทธิพลความร้อนจากทะเลจีนที่สูงด้วยจะทำให้พายุทวีความ รุนแรงต่อไปอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า. ในช่วง29-30ก.ย.51. ลมค้าตะวันออกที่มีกำลังปานกลางทำให้การเคลื่อนตัวพายุไปทางตะวันตกเฉียง เหนือในระยะแรก อย่างไรก็ตามแนวปะทะอากาศเย็นที่มีกำลังเพิ่มขึ้นจะทำให้การเคลื่อนตัวไปทาง ตะวันตกมากขึ้น ใน 24-72 ชั่วโมงข้างหน้า หรือช่วงประมาณ 1-3ต.ค.51 ทำให้มีแนวโน้มเพิม่สูงขึ้น 85% ที่ศูนย์กลางพายุจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศไทยตอนบน ภาคเหนือ และหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทย ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายแห่ง ประกอบกับมีลมกระโชกแรงได้ ในช่วง 29ก.ย.-03ต.ค.51 เนื่องจากพายุจะทวีความรุนแรงเพิม่ขึ้นเรื่อยๆ / สำหรับ พายุโซนร้อน HIGOS (ฮิโกส/21W) กำลังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทิศทางพายุคาดว่าจะมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือไปยังเกาะลูซอน มีความเป็นไปได้ 80% ที่จะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ แต่ยังไม่มีเนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ส่วนในช่วง 03-08ต.ค.51 ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากแผ่นดินใหญ่จีนยังคงแผ่ลิ่ม ลงมาเป็นช่วงๆ ประกอบกับกระแสลมตะวันตก คาดว่าจะทำให้พายุมีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางเหนือมากขึ้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่เกาะกลางประเทศฟิลิปปินส์ เข้าสู่เกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า หรือช่วงประมาณ 19.00น.(1ต.ค.51) คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวลงออกจากเกาะลูซอนตอนเหนือมุ่งหน้าไปยังประเทศ ไต้หวันอีกครั้ง และพายุลูกนี้มีความเป็ไปได้ที่จะทวีขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 เป็นอย่างน้อยที่สุด / สำหรับแนวฝนฟ้าคะนองเป็นบริเวณกว้างอันเกิดจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่มี กำลังค่อนข้างแรง ปกคลุมบริเวณ กลางมหาสมุทรแปซิฟิคตะวันตก ที่ละติจูด 6.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 156.0 องศาตะวันออก วานนี้(28ก.ย.51) ได้เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ 90W แล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะทวีขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกใหม่อีกลูก ในช่วงวันที่ 4-6 ต.ค.51 เนื่องจากอิทธิพลของลิ่มความกดอากาศสูง ที่แผ่มาทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของพายุประกอบกับล้มค้าตะวันออกอ่อนลง คาดว่าจะทำให้พายุมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางเหนือกลางมหาสมุทรแปซิฟิคมุ่งหน้า เข้าสู่ตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และประเทศไทย แต่อย่างใด


ภาพถ่ายดาวเทียม INFRARED ทุกๆ 1 ชม.
ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ (ช่วง ลองจิจูดที่ 100-150 องศาตะวันออก)

ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ (ช่วง ลองจิจูดที่ 140-180 องศาตะวันออก)

ภาพถ่ายแบบเต็ม ทุกๆ 1 ชั่วโมง

http://agora.ex.nii.ac.jp/digital-typhoon/latest/globe/2048x2048/ir.jpgCLICK เพื่อดูภาพขนาดใหญ่
http://agora.ex.nii.ac.jp/digital-typhoon/latest/animation/MPEG-2/last-120h.mpgCLICK เพื่อดูภาพถ่ายดาวเทียมเคลื่อนไหว 120 ชั่วโมงที่ผ่านมา หรือ เมื่อ 5 วันที่ผ่านมา UPDATE ทุกๆ 1 ชั่วโมง

*******

ภาพการคาดหมายเส้นทางการเดินพายุ ล่วงหน้า 5 วัน ทุกๆ 6 ชม.
บริเวณพื้นที่ตาข่ายสีดำ รูปกรวย(โคน) แสดงถึง ความไม่แน่นอน/ความเป็นไปได้ที่จะได้รับผลกระทบหรือศูนย์กลางพายุอาจจะพัดผ่าน
***เครื่องของท่านอาจไม่ปรากฏภาพดังกล่าว ให้ CLICK ขวา > Show Picture***
ที่มา Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC *ต้นฉบับ*




http://cimss.ssec.wisc.edu/tropic/real-time/westpac/storm/storm21W.html
http://www.solar.ifa.hawaii.edu/Tropical/Gif/nwp.latest.gif

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำมันระหว่างซื้อขายทรุดฮวบ 4 ดอลลาร์สหรัฐฯ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 กันยายน 2551 00:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> น้ำมันทรุดฮวบลงมากกว่า 4 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์ (29) เพราะเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากมีสัญญาณว่าวิกฤตการเงินลุกลามจากสหรัฐฯไปยังประเทศอื่น ๆในยุโรปแล้ว โดยเฉพาะในวันอาทิตย์(28)รัฐบาลของกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ต้องเข้ากู้สถานการณ์ของ "ฟอร์ติส" ธนาคารลูกครึ่งเบลเยียมกับเนเธอร์แลนด์ ส่วนอังกฤษก็ต้องควบรวม "แบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์"เข้ามาเป็นของรัฐ

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ เพื่อการส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 3.55 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 103.34 ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 11.02 น.จีเอ็มที (ตรงกับ 18.02 น.เวลาเมืองไทย) โดยที่มีช่วงหนึ่งก่อนหน้านี้ถอยลงไปจนถึง 102.56 ดอลลาร์ด้วย หลังจากที่วันศุกร์ราคาก็ลดลงไปแล้ว 1.13 เหรียญ ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ของตลาดลอนดอนก็ลงไป 3.36 ดอลลาร์ ไปปิดที่ 100.18 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งขึ้นเมื่อเทียบเงินยูโร หลังรัฐสภาสหรัฐฯประกาศว่าสามารถตกลงกันในรายละเอียดแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจกับทางรัฐบาลได้แล้ว ส่วนค่าเงินยูโรก็ตกลงเพราะธนาคารยุโรปหลายแห่งได้รับผลจากวิกฤตการเงินที่ลุกลามออกไป
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"เมขลาล่อแก้ว" เร็วและแรงเวียดลาว-อีสานส่อเละ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 กันยายน 2551 00:43 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพจำลองของ TSR ในบ่ายวันจันทน์ แสดงตำแหน่งของเมขลาในทะเลจีนใต้ และทิศทางการเคลื่อนตัวในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ผู้จัดการออนไลน์-- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศหลายแห่งได้ออกคำเตือนในตอนค่ำวันจันทร์ (29 ก.ย.) ให้จับตาการก่อตัวของพายุโซนร้อนเมขลาในช่วงไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และกำลังเคลื่อนตัวช้าๆ ในทะเลจีนใต้ ทางตอนใต้เกาะไหหลำ

คาดว่าเมขลาจะขึ้นฝั่งในภาคกลางตอนบนของเวียดนามในวันอังคาร (30 ก.ย.) นี้ ด้วยความเร็วลงศูนย์กลางกว่า 100 กม./ชม.

ต่างไปจากพายุหลายลูกที่ผ่านมาซึ่งมีจุดก่อตัวอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ "เมขลา" (Mekhala) ซึ่งตั้งชื่อตามนางในนิยายปรัมปราของไทย ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ใกล้ฝั่งเวียดนาม

ภาพอินฟราเรดถ่ายจากดาวเทียมของหลายสำนักพยากรณ์แสดงให้เห็นตรงกันว่า เมขลากำลังหมุนตัวอยู่ในทะเลห่างจากจากชายฝั่งเวียดนามเพียงประมาณ 200 กม.เศษ และกำลังมุ่งสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในแนวตรงกับท้องที่ จ.เหงะอาน (Nghe An) ผ่านภาคอีสานตอนบนของไทย เขตนครเวียงจันทน์ของลาว ตรงไปยังเมืองหลวงพระบาง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพจากอินฟราเรดดาวเทียมจากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยในบ่ายวันจันทร์ก็แสดงให้เห็นเมขลากำลังอาละวาดอยู่เขตใกล้ชายฝั่งเวียดนามเช่นเดียวกัน </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพของ Reuters/VNA วันที่ 27 ก.ย.2551 น้ำท่วมสูงในเมืองลางเซิน (Lang Son) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยขึ้นไปทางเหนือราว 180 กม. ติดชายแดนจีนหน่วยงานต่างๆ กำลังระดมความช่ยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยขณะที่พายุอีกลูกหนึ่งก่อตัวขึ้นในแถบชายฝั่งภาคกลางของประเทศ </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ยังไมมีรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของพายุลูกนี้ในสื่อต่างๆ ของทางการเวียดนามในวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ทั่วประเทศกำลังสนใจการระดมความช่วยเหลือไปให้แก่ผู้ประสบเคราะห์จากพายุโซนร้อนฮาจูปี๊ต (Hagupit) ที่อาละวาดเขตหลายจังหวัดทางภาคเหนือสัปดาห์ที่แล้ว

จนถึงวันจันทร์นี้พบผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 50 ศพ ขณะที่นับสิบคนยังสูญหาย

พายุลูกนี้ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณภาคเหนือลาวและตอนใต้ของมณฑลหยุนหนันตั้งแต่วันอาทิตย์ หลังจากสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน รวมทำลายนาข้าวหลายแสนไร่ สัตว์เลี้ยงอีกนับแสนๆ ตัว.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำมันดิ่งกว่า$10 หลังแผนกู้แก้วิกฤตศก.ไม่ผ่านสภาสหรัฐฯ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 กันยายน 2551 05:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์หรือกว่า 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์(29) หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ปฏิเสธแผนกอบกู้ภาคเงิน 700 ล้านดอลลาร์ที่เสนอโดยรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ดิ่งลง 10.52 ดอลลาร์ปิดที่ 96.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังร่วงลงไปต่ำสุดระหว่างวันที่ 95.04 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสถิติร่วงแรงที่สุดในรอบวันเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนปี 2003

ทั้งนี้น้ำมันชนิดไลต์สวีตครูด ตกลงมา 11.8 เปอร์เซนต์จากวันอังคารที่แล้ว(16) ซึ่งมันทะยานขึ้นไปในช่วงของการสิ้นสุดสัญญาซื้อขายเดือนตุลาคม ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ของตลาดลอนดอนวันจันทร์(29) งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ดิ่งลง 9.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>