หลังจากดับขันต์ไปแล้วพุทธเจ้ายังมีอยู่จริงหรือที่แดนนิพพาน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ตาแก่, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196
    มึนตึบ..
     
  2. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    พระพุทธเจ้าที่อยู่แต่ในอุดมคติ มักเข้ากับความจริงบนโลกได้ยาก
    เพราะโลกใบนี้นอกจากจะเอียงแล้ว มันยังมีความไม่สมบูรณ์แบบมากมาย


    พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น จะยังไม่ทันได้สร้างศาสนา ท่านก็ละจากโลกไป
    หนีโลกไปเพราะเห็นความไม่สมใจของโลก แล้วขนเอาบุญบารมีมากมาย
    ไปสร้างสวรรค์ที่ท่านประสงค์และปรารถนาทำให้โลกเป็นอย่างอุดมคติท่าน


    พระพุทธเจ้าแบบนั้น ท่านเรียกว่า "พระยูไล" คือ พระพุทธเจ้าแห่งสรวงสวรรค์
    แต่พระเมตตรัยที่จะเดินบนดินตรัสรู้โปรดสัตว์ได้นั้น


    แม้เป็นพระราชา ท่านอาจแปลงพระองค์มานั่งทำครัว ถอดเสื้ออย่างสบายอารมณ์อยู่ก็ได้นะ
     
  3. siarayamarata

    siarayamarata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +511
    *********
    อุปสรรคของการเรียนรู้คือ ความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งหนึ่งสิ่งใด
    กระทั่งมิยอมเปิดใจให้กว้างเพื่อรับรู้สิ่งใหม่ ปิดหูปิดตาตนเอง
    หากคำสอนของพระพุทธเจ้าถึงที่สุดแล้ว
    เหตุใดจึงต้องอุบัติพระศรีอารยะเมตไตรยขึ้นมาอีก
    หากทางเลือกของสรรพจิต สรรพสัตว์ มีเพียงหนทางเดียว
    คือการหลุดพ้นไปจากสังสารวัฏ
    เหตุใดพระพุทธเจ้ามิส่งเสริมสตรีเพศให้บวชครองเพศบรรพชิตเฉกเช่นบุรุษเพศ หากสามารถกระทำได้ เหตุใดสรรพสัตว์ทั้งปวงมิอาจบวชแล้วหลุดพ้นได้
    ทางเลือกของสรรพจิต สรรพสัตว์มิได้มีหนทางเดียว
    แนวทางการสอนของพระพุทธเจ้ากับแนวทางการสอนของพระศรีอารยะเมตไตรยพุทธเจ้า จึงเสริมกัน สอนคนละเรื่องเดียวกัน
    เพื่อเป็นทางเลือกของสรรพจิต สรรพสัตว์ทั้งปวง
    มิได้หมายถึงเฉพาะบุรุษเพศเท่านั้นที่สามารถหลุดพ้นได้
    แล้วเหตุใดปัจจุบันโลกมนุษย์จึงมีคนนับถือพุทธศาสนาเพียงน้อยนิด
    เมื่อเปรียบกับศาสนาอื่น แล้วบุคคลเหล่านั้นที่นับถือศาสนาอื่นเล่า
    สามารถหลุดพ้นได้จริงหรือ
    หนทางแห่งการดับทุกข์มีหนทางเดียวจริงหรือ
    เปิดใจให้กว้างเพื่อรับรู้สิ่งใหม่ ธรรมใหม่ เรียนรู้ใหม่ ความรู้เดิมๆ นำมาเปรียบเทียบเพื่อเป็นพื้นฐานจักสามารถเรียนรู้ได้ไวขึ้น เราแสดงธรรมไว้มากมายบนเว็บบล็อก เพียงแต่มิได้แสดงธรรมบนเว็บบอร์ดพลังจิต.คอมเพียงเท่านั้น เพราะอุปสรรคจากจิตมารที่คอยขัดขวางการแสดงธรรมของเรา
    คนสามารถอยู่รวมกันเป็นสังคมอย่างเป็นสุขได้ แต่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็กระดับครอบครัว โรงเรียน ชุมชน ประเทศชาติ แผ่ขยายออกไปทั่วโลกจากนั้นรักษาไว้ตราบชั่วนิรันดร สามารถสร้างศานติสุขในหมู่มนุษย์ชาติและมวลหมู่สรรพสัตว์ทั้งปวงได้
     
  4. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    พระราชาองค์นั้น เกิดเพื่อโปรดสัตว์หลายประเทศ
    มักทรงชอบปลอมพระองค์เป็นสามัญชนออกไปนอกพระราชวังเสมอ


    ...
     
  5. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    หากจิตธาตุเดิม เกิดจากความว่างเปล่า ฉะนั้น มนุษย์เกิดมาแล้ว ถูกสั่งสอนอบรมใสครอบครัวที่รู้ว่า ควรจะชำระล้างกิเลศ และอัตตาออก และเข้าใจสิ่งสมมุติทุกอย่างตั้งแต่ต้น ก็คือตอนเด็ก ๆ มันมีโอกาสเป็นไปได้ว่า ทุกคนจะอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข ถ้าทุกคนเข้าใจตามนี้ แต่ปัจจุบันสภาวะแวดล้อมแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะมนุษย์มีความคิดไม่เหมือนกัน ปัญญาแต่ละคนต่างกัน อยู่ที่ว่า ปัญญาตัวเองจะรู้แจ้งได้แค่ไหน หากมองมุมแคบ ก็จะไม่ได้เดินทางสายกลาง จะสุดโต่งอยู่แค่ข้างเดียว และทำให้ชีวิตครอบครัวมีปัญหาและเป็นทุกข์ แล้วจะเป็นสุขได้อย่างไรล่ะคะ ขอบคุณค่ะ
     
  6. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    รวงข้าวชูช่อขึ้นฟ้า แต่เมื่อสุกพร้อมกิน ก็น้อมยอดลงดิน




    พระพุทธเจ้าเมื่อบุญบารมีเต็ม ไม่ปรารถนาความสูงส่ง
    ยอมเป็นคนธรรมดาเช่นคนยุคนั้นๆ ละจากที่สูงลงสู่สามัญ



    ปัญญาสูงมาก มากเกินไป คนไม่เข้าใจ
    บุญมีมาก มากเกินไป คนเข้าไม่ถึง


    ....ไป ไป ให้ถึงฝั่ง แล้วจงหันหลังกลับมาฉุดช่วยเวไนย์...
     
  7. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
  8. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ถามว่า หากสุดโต่งแต่ข้างเดียวไม่เดินทางสายกลาง แต่ละคนเคยเจอปัญหานี้ คิดว่าคงจะมีเหมือนกัน เคยคิดมั้ยว่าทำไม ปัญหาครอบครัว จึงมี ครอบครัวไม่เข้าใจ ทั้งที่เราทำดีแล้ว ทุกคนเห็นเราเป็นคนแปลกหน้า เหมือนเราเป็นตัวปะหลาด เพราะอะไร เพราะความสุดโต่งนั้นหรือเปล่า เพราะมนุษย์ไม่รู้ เพราะอวิชชา และอัตตาของมนุษย์ ทำให้ไม่เข้าใจทางสายกลางที่พระพุทธเจ้า ท่านบัญญัติไว้ ทางสายกลางที่แท้จริง ต้องอยู่ด้วยความเข้าใจในโลกสมมุติ สิ่งสมมุติทุกอย่าง และจะอยู่ด้วยการมีความสุข และไม่เบียดเบียนผู้อื่นเพราะรู้ว่า สิ่งใดเป็นกิเลศ ถ้ามนุษย์ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองมาเพื่อชำระล้างกิเลศ และเดินทางสายกลาง เพียงอย่างเดียว ไม่อิงข้างใดมากเกินไป จะทำให้ไม่มีปัญหาอะไรเลย และเราจะอยู่ในสังคม โดยที่ไม่เป็นคนแปลกหน้า ไม่มีปัญหาครอบครัว ถามว่าหลงมั้ย ไม่หลงหรอก เพราะมนุษย์รู้แล้วว่ากิเลศนั้นมีอะไรบ้าง มีกี่ตัวเองกิเลศ กุศล กับอกุศล น่ะก็มี ความละเอียดมีมาก ยิ่งจิตละเอียด กิเลศย่อมละเอียดมาก เมื่อรู้ว่ามาเพื่อละกิเลศ แล้วไม่ต้องหวังถึงจุดหมายว่ามันจะถึงไหน เพราะเมื่อหวังก็เป็นอัตตา ไปยึด ไปขวางกั้นด้วยสิ่งนั้นเพราะอวิชชา เมื่อรู้ว่ายึดไว้ ขวางกั้นไว้ เป็นขั้น ๆ แล้วถามว่า จะไปขวางกั้นไว้ทำไม ปล่อยไปสิ อย่าไปยึดสิ ปล่อยออกไปเลย ก็อนัตตา อนัตตา ก็วิมุตติ ยังไม่จบ วิมุตติ ก็ต้องกลับมาใช้ชีวิตดังเดิม เพราะเราเข้าใจแล้วว่าโลกที่เกิดขึ้น แวดล้อมที่เกิดขึ้น เกิดจากสิ่งสมมุติทั้งปวง เราอยู่ด้วยความเข้าใจ และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ชีวิตก็เป็นสุข กิเลศก็ถูกชำระไปเรื่อย ๆ ด้วยความไม่ประมาท ไม่ประมาท ก็ชำระกิเลศงัย ก็จบ เท่านั้นเอง
     
  9. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    อตีตากาเล นานมาแล้วครั้งหนึ่ง...



    พี่น้องกำพร้า 5 คน ผู้ยากจนช่วยกันทำไร่ไถนา
    ผู้พี่ถามผู้น้องทั้ง 4 ว่า "สูน้องเจ้า เราจนยากอย่างนี้
    เมื่อเติบใหญ่ขึ้นไป เจ้าอยากเป็นอะไรกันบ้าง"


    น้องสุดท้องตอบว่า "เป็นพระพุทธเจ้า เพราะแม้แต่พระราชาก็ไม่มีความสงบสุข"
    น้องคนที่สี่ ตอบว่า "เออดีแล้ว พี่จะเอาขี้บูชา"
    น้องคนที่สาม ตอบว่า "เออดี พี่จะเอาขนที่ก้นบูชา"
    น้องคนที่สอง ตอบว่า "เออ งั้นข้าจะเอาหญ้าบูชา"


    พี่คนโตด่าว่า "สูเจ้าโง่จริงๆ พระพุทธเจ้าเป็นของสูง
    จะเอาของแบบนั้นบูชาได้อย่างไร" แล้วเงียบไปพร้อมครุ่นคิด
    อย่างแยบคาย


    .................................................................


    ก็พี่คนโตคือพระศรีอาร์ฯ เมื่อตายไปด้วยผลกรรมที่ด่าน้องไว้
    จึงกลายเป็นคนโง่ซื่อ บำเพ็ญบารมีด้วยวิริยธิกะ

    น้องคนสุดท้องคือพระสมณโคดม บำเพ็ญ บารมีแบบปัญญาธิกะ
    น้องคนที่สี่ ไปเกิดเป็นพญาผึ้ง คนก็เอาขี้ผึ้งมาทำเทียนบูชาพระพุทธเจ้ากัน
    น้องคนที่สาม ไปเกิดเป็นนกยูง คนก็เอาขนที่หางมาทำพัดบูชาพระพุทธเจ้ากัน
    น้องคนที่สอง ไปเกิดเป็นคนจน เอาหญ้ามาถวายบูชาพระพุทธเจ้า


    ด้วยกรรมของพระศรีอาร์ฯ ทำไว้อย่างนี้ จึงต้องบำเพ็ญบารมีแบบวิริยะธิกะถึง 16 อสงไขย
     
  10. siarayamarata

    siarayamarata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +511
    *********
    สิ่งแรกที่ต้องกระทำคือสอนกฎแห่งกรรมที่แท้จริง
    สอนให้คนเชื่อในกฎแห่งกรรมที่แท้จริง
    มิใช่รู้ว่ากฎแห่งกรรมมีอยู่จริง แต่มิรู้ว่ากฎแห่งกรรมบัญญัติไว้ว่าอย่างไร
    กระบวนการคือเริ่มต้นจากประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองโดยธรรม
    จากนั้นคนจากศาสนาใดๆย่อมเข้ามานับถือ เข้ามาเรียนรู้
    แผ่ขยายไปทั่วโลกทั้งจักรวาล เป็นศาสนาของมหาสากลจักรวาล
    หลักสำคัญคือทำเมืองพุทธให้ร่มเย็นเป็นสุข อยู่รวมกันอย่างเป็นสุข
    เป็นตัวอย่างแก่ประเทศที่นับถือศาสนาอื่น
    ให้เห็นข้อแตกต่างของการอยู่แบบเต๋า คือมองภาพรวมทั้งระบบ
    กับการอยู่แบบเห็นแก่ตัวเร่งใช้ทรัพยากร
    อย่างไหนจักสามารถสร้างความสุขได้ยั่งยืนกว่ากัน
    บริหารทรัพยากรในประเทศ บริหารจิตใจคนในประเทศให้ดีงาม ให้สมบูรณ์ตามหลักธรรมทั้งปวงที่เรานำไปแสดงไว้บนเว็บบล็อกแสดงธรรม
    สร้างสังคมประชาธิปไตยแบบเต็มใบ ขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม โลกจักศานติสุขได้
     
  11. ขุนพล.

    ขุนพล. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +162
    พูดยาวไปแล้ว สั้นๆคือ" พูดดี ทำดี คิดดี " ส่วนผลนั้นเป็นไงช่างมันเถิด
     
  12. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 8 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>to2504, เฮ้งตงเอี๊ยง, รักก็บอกไม่รักก็บอก+, khajonsak9999, siarayamarata, spider man, ขุนพล.+ </TD></TR></TBODY></TABLE>


    หวัดดีครับ แฮ่ ๆ
     
  13. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    ผู้ชายคนหนึ่ง


    ยอมโง่ให้คนรักหักอก .....
    ยอมโง่ให้เพื่อนรักหักหลัง...
    ยอมโง่ให้ลูกศิษย์ทรยศ.....
    เพื่อให้ได้ปัญญา



    เพราะกรรมที่ปรามาสพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ไว้แล...
     
  14. siarayamarata

    siarayamarata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +511
    ********
    หลักสำคัญคือการเรียนรู้ เพื่อรู้ทันกิเลสตัณหา
    กิเลสตัณหาคือสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขจากการมีกายสังขาร
    แต่จักต้องรู้ทัน หากมิรู้ทันคนจะเสพสุขจากกิเลสตัณหาโดยมิแยแสว่า
    คนอื่นเดือดร้อน นั่นคือเหตุผลว่าเหตุใดต้องเรียนรู้กฎแห่งกรรมให้รู้จริง
    เพื่อจะมิต้องเบียดเบียนคนอื่น และป้องกันคนอื่นมาเบียดเบียนตนเอง
    กิเลสตัณหามีได้เพื่อเสพสุขจากการเกิดมาเป็นสรรพสัตว์บนโลกมนุษย์
    แต่ต้องเบาบางเสพในสิ่งที่มิทำให้คนอื่นเดือดร้อน
    นั่นคือสันโดษแบบกลายๆ สังคมแบบมิวุ่นวาย คือแบบสไตล์ของเต๋า
     
  15. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196


    ปุ่มอนุโมทนาหายไป
     
  16. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    การกำเนิดขึ้นของพระพุทธเจ้าภาคมาร


    ท่านนี้แท้จริงแล้วเป็น "พญามาร" แต่ด้วยบุญบารมีเก่าที่ทำไว้
    ประกอบกับความยึดติดในความเป็นพระพุทธเจ้า ด้วยจิตมิจฉานั้น


    ท่านจึงเป็นพระพุทธเจ้าภาคมาร (พญามารที่มีกายเป็นพระพุทธเจ้า)
    ท่านเคยปรากฏกายแสดงอภินิหารให้คนเห็นใต้ต้นโพธิ์ ลักษณะของ
    ท่านจะมีจีวรดำห่มกาย ริมฝีปากสีดำ


    ซึ่งพระพุทธเจ้าจริงๆ ไม่มีลักษณะออกดำๆ อย่างนั้นเลย


    ถามว่า เหตุใดจึงเกิดเป็นมารที่มีกายเป็นพระพุทธเจ้า?
    คำว่า ก็ดูเอาเถิด ความจริงนั้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้แล...
     
  17. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    เมื่อพญามาร (กายพระพุทธเจ้า) หมดวาระ จะถ่ายทอดญาณยังไง?


    เมื่อวาระกึ่งพุทธกาลมาถึง มารและอสูรจะตายมาก เพราะผู้มีบุญมากมาเกิด
    สามภพจะเกิดโกลาหล (ในไตรปิฏกกล่าวไว้สามแบบ คือ พระพุทธเจ้าเกิด
    พระพุทะเจ้าละสังขาร และพระเจ้าจักรพรรดิ์เกิด จะมีโกลาหล)


    ณ เวลานั้น มารและอสูรจะรู้ตัวว่าจะตาย จะดิ้นรนหาทางพ้นความตาย
    จะเข้าครอบงำผู้คนมากมาย บ้างถอดกายทิพย์มาครอบขันธ์ห้าของคนไว้
    บ้างใช้พลังจิตดลจิตดลใจ บ้างเข้ามาแทรกในแก้วธรรมกาย (แทรกใน
    ต้นธาตุต้นธรรม) บ้างเข้ามาแต่พลังจิต บ้างเข้ามาทั้งกายทิพย์ บ้าง
    เข้ามาทั้งจิตและวิญญาณ


    ทำให้คนหลงผิด คิดว่าตนเองเป็นนั่นเป็นนี่ ผิดจากความเป็นจริงของตนได้


    [​IMG]


    พญามารองค์นี้ ได้รับการโปรดจากพระยูไล พ้นความเป็นมารไปสุขาวดีแล้ว
    แต่ก่อนที่ท่านจะจากไป อาจมีการครอบงำ ถ่ายขันธ์ไว้ในผู้คนบางคน


    ทำให้ผู้ที่เปิดรับความเป็นพระพุทธเจ้า เพราะอยากได้ อยากมี อยากเป็น
    ต้องกลายเป็นพญามารที่มีกายเป็นพระพุทธเจ้า แทนท่านนี้สืบไป...


    ยังมีเวลา ที่จะหลุดพ้น...
     
  18. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    พระพุทธเจ้าองค์ปลอมเป็นอย่างไร?


    1. พระพุทธเจ้าองค์ปลอมที่เป็นพญามาร ซึ่งมีกายเป็นพระพุทธเจ้า
    2. พระพุทธเจ้าองค์ปลอมที่เป็นกายแปลง เช่น จิ้งจอกเก้าหางที่ได้รับพลังพระธาตุ
    จะแปลงกายเป็นพระพุทธเจ้าได้ (ในคนปกติ ถ้ากายทิพย์ข้างในเป็นจิ้งจอกเก้าหาง
    ก็สามารถแปลงกายทิพย์เป็นพระพุทธเจ้าได้ด้วยเหตุเดียวกัน)
    3. พระพุทธเจ้าองค์ปลอมที่เป็นกายแฝง จากวิชชาอสูรและมาร ที่ดึงพลังดึงกายทิพย์
    ที่องค์ยูไลถอดออกมา เอามาครอบกายตนเองไว้ ก็จะเห็นด้วยตาทิพย์เป็นพระพุทธเจ้าได้
    แต่ไม่ใช่ของจริง
    4. พระพุทธเจ้าองค์ปลอมที่เกิดจากนิมิตหลอน เพราะจิตของเราสร้างขึ้นเอง
    ให้บริกรรมด้วยจิตอุเบกขาว่า ภาพจริงจงปรากฎ ซ้ำๆ เมื่อจิตมีพลัง ภาพจะหายไปเอง
     
  19. siarayamarata

    siarayamarata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +511
    *******
    คอยดูต่อไปว่าเราทำได้หรือไม่ หากเรามิแน่จริงเรามิลงมาแสดงธรรมด้วยตนเอง
    สำหรับผู้ที่เข้าถึงหลักคำสอนของเราสามารถติดตามอ่านได้บนเว็บบล็อกแสดงธรรมของเรา

    เว็บบล็อกแสดงธรรม http://www.oknation.net/blog/siaraya
     
  20. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130

    พระศรีอาร์ฯ นอกจากจะโง่ก่อนฉลาดแล้ว
    กรรมที่ปรามาสพระพุทธเจ้าไว้ ยังทำให้
    ต้องได้รับการปรามาสจากผู้อื่นมากมายอีกด้วย


    ใช้คำสบประมาทเป็นแรงขับดันการบำเพ็ญ


    ดีแล้วๆ ภิกษุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...