เราไม่มีในกาย กายไม่มีในเรา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 26 ธันวาคม 2008.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ทำกุศลให้ถึงพร้อม ละอกุศลทั้งปวง และ ทำจิตของตนให้ผ่องใส </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ในความเห็นของดิฉัน การทำดังนี้ คือ การทำสมถะ ทำให้จิตมีความสุข เกิดสมาธิ

    แต่หนทางแห่งการเจริญสติปัญญาระลึกรู้ คือ การรู้กาย รู้ใจ รู้กิเลส รู้อารมณ์ รู้ที่จิต

    ระลึกรู้ที่จิต เพื่อจิตมีสติรู้ตัว คือการทำวิปัสสนา เจริญสติปัฏฐาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2008
  2. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    .....
    คุณธรรมภูต#2 ครับ สติปัฏฐาน 4 มีอะไรบ้างครับ

    1.กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    2.เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    3.จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    4.ธรรมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

    คุณธรรมภูต#2 แยกคำบาลีของคำเหล่านี้ได้ไหมครับ แล้วเห็นคำว่า อนุสติ ไหม

    คุณธรรมภูต#2 กล่าวว่าผมไปพูดถึงกรรมฐาน 40 กอง อันนั้นเป็นความเข้าใจของ
    คุณธรรมภูต#2 ที่ยกมากล่าวหาผมผิดๆเอง ผมเห็นว่าผิดโจ่งแจ้ง เลยไม่เห็นความ
    จำเป็นที่จะต้องโต้แย้ง จึงดูเฉยๆ

    ส่วนผม อนุสติ ที่ผมกล่าวก็คือคำย่อยที่เอามาจาก สติปัฏฐาน 4 ตัวนี้ เสมอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2008
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็จำมาแบบผิดๆไง ครับ จิตเดิมประภัสสร เป็นเพราะกิเลสจรมา เคยได้ยินคำนี้ไหม
    ถ้าไม่เคยได้ยินก็ กรุณาไปศึกษาให้ดีก่อน

    แล้ว จะหมายให้จิตเดิมคือพระธรรม นี่มันก็ผิดแปลกแหวกแนวไปอีก

    จิตอยากจะตอบก็ตอบไปนะครับ ถ้าไม่อายก็ตอบไป ผมก็ยินดีจะให้พิสูจน์ต่อ

    และทิ้งท้ายไว้ให้ทบทวน สำหรับคนเพิ่งศึกษาแบบ นั่งรู้ดูเฉยว่า

    และผมขี้เกียจจะอธิบาย ในทำนองนี้อีกไม่ใช่เรื่องปฏิบัติ
     
  4. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">จิตเดิมไม่มีอวิชชา กิเลสจรมา ก็ครอบงำไม่ได้ ไม่มีเศร้าหมองอีกต่อไป
    เป็นจิตบริสุทธิ์แท้จริง ได้แก่จิตพระผู้หลุดพ้น และจิตพระอรหันต์
    อ่านตรงขีดเส้นใต้ให้ดีว่าแล้วก็ถามตัวเองว่า
    ถ้าจิตเดิมดีแล้ว ก็จะไม่มีใครถูกกิเลสครอบงำกันเลยจริงไหม </TD></TR></TBODY></TABLE>

    คุณธรรมภูติ#2 กำลังชี้อะไรครับ จิต หรือ นิพพาน
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ตายๆ ท่านนิวรณ์ ท่านบุคคล3 ท่านเอกวีร์ ท่านเล่าปัง นี่นะหรือหมัดเด็ด

    นี่เกรงว่า จะเป็นหมัดที่จะทำให้ตัวเองตายคาเวทีกระมัง อย่าลบเชียวนะท่านเอกวีร์

    เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง

    กายานุปัสสนา สติปัฎฐาน คือ กาย + อนุ + ปัสสนา + สติปัฏฐาน คือ พิจารณาเห็นกายอยู่เนืองๆ คือคำว่า อนุนี้ ให้เห็นตามความเป็นจริง เฉพาะอย่างๆ ไป ก็ถือว่า เป็น วิปัสสนาน้อยๆ ก็ได้ แต่ ใช้เฉพาะลงมาในส่วนย่อยๆ เพื่อให้ตั้งสติตื่นรู้ ว่ามีอาการอย่างไร สติตามรู้ในสิ่งที่เป็นจริง อันเป็น การเจริญ มหาสติ เพื่อเป็นฐานให้จิตนั้นเห็นสภาพ แห่งรูปนาม ได้แคล่วคล่อง

    อันจะเป็นทางให้ใช้ปัญญา เห็น ลักษณะไตรลักษณ์แห่งสรรพสิ่ง ซึ่งเรียกว่า เป็นวิปัสสนา
    ทีนี้ เราจะเห็นว่า มหาสตินั้น เจริญ ไป ก็อาจจะควบคู่ไปกับ การเห็นจริงในไตรลักษณ์ อันเป็นดวงปัญญาวิปัสสนาขึ้นมาในขณะเดียวกันก็ไม่ผิด

    แต่เรื่องของเรื่อง อย่าไปเบนประเด็นเลย ผมขี้เกียจจะแตกประเด็นและตามล้างตามเช็ด ความเปรอะเปื้อนของท่าน

    เอาอะไรเป็นอย่างๆ ไป ท่านบุคคล 3
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณไปถาม คุณขวัญว่า ผมถามอะไร
    อ่านให้ดีก่อนตั้งคำถาม เรื่อยเปื่อย
    อย่าตั้งคำถาม เพื่อจับผิด หรือ เปลี่ยนประเด็น

    ไม่เกิดประโยชน์ เพราะว่า ประเด็นที่คุณโต้กับผมคือ นั่งรู้ดูเฉย

    อย่าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แบบนี้ เพราะนั่นคือ ทิฎฐิที่ดิ้นได้
     
  7. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    สวัสดีทุกท่านค่ะ ขอร่วมสนทนาด้วยคนนะคะ

    โสดาบัน ไม่กลัวตาย ไม่กลัวผลกรรม จะไม่มีความกลัว เพราะอะไร เพราะ กาย กับจิต แยกออกจากกัน ผลกรรมส่งผลแต่ร่างกาย แต่จิตจะไม่ส่งผล ที่ส่งผลกับร่างกาย ทำให้จิตใจเราเป็นทุกข์ เพราะเรายังคิดว่า กายและใจเป็นของเรา แต่กายไม่ใช่ของเรา หากรู้ว่ากายไม่ใช่ของเรา ทุกอย่างส่งผลได้แต่เพียงร่างกาย แต่จิตจะไม่ส่งผล เมื่อจิตเราละเอียดและรู้ว่าสิ่งใดควรมิควร จิตละเอียดเพราะกิเลศเบาบาง จิตใจผ่องใส เมื่ออะไรมากระทบ ซึ่งเป็นกิเลศ จะรู้สึกได้ง่าย เพราะกิเลศอย่างหยาบมากระทบก็รู้สึก แม้แต่ละเอียดก็รู้สึก และเราจะมีความสุข ด้วยการอยู่กับกาย และใจ ที่เราไม่ยึดติดแล้ว แม้ร่างกายมันจะเจ็บปวดทุกข์ทรมาน จิตก็จะไม่ทุกข์ตามไปด้วย จิตเดิมแท้คือจิตประภัสสร ซึ่งเกิดมาจากความว่างเปล่า แต่เพราะเราเกิดมา โดยมีกรรม ส่งผลให้มาจุตติ นั่นเริ่มมาเป็นมนุษย์ ซึ่งมี ธาตุ 4 ขันธ์ 5 จิต และเจตสิก การรู้สึกนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผึ้งทุกข์มากับร่างกายที่มันเจ็บปวด พอรู้สึกได้ว่า กายมันไม่ใช่ของเรานี่ กรรมส่งผลแต่เพียงร่างกายนี่ จิตผึ้งผ่องใสและละเอียด เบาเย็น แต่รู้และเฉย ๆ แค่นั้น ไม่ได้ยินดี หรือยินร้ายอะไร
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ก็อาจจะใช้คำว่าจิตดั้งเดิม จิตเดิม ไม่ถูกต้อง แต่ดิฉันตั้งใจหมายถึง
    จิตที่ไม่มีอวิชชา ต่างจากจิตประภัสสร

    จิตที่ไม่มีอวิชชา คือ พระธรรม
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    มีพระสูตรที่กล่าวถึงจิตแท้ จิตดั้งเดิม ไม่รู้จะเกี่ยวกัน รึเปล่า
    แต่เพื่อความเข้าใจที่อาจสับสน ไม่ว่า จิตดั้งเดิม จิตแท้จะหมายถึงอะไรก็ตาม
    การที่เราพูดถึงจิตที่เป็นพระธรรม ก็คือ จิตที่ไม่มีอวิชชา คือจิตพุทธะ คือจิตบริสุทธิ์
    ซึ่งคือจิตพระผู้หลุดพ้น และพระอรหันต์ทั้งหลาย ที่มีจิตรู้แจ้ง อริยสัจจ์
    ถ้าอ.ขันธ์ จะตีความตามพยัญชนะคำว่าจิตดั้งเดิม ให้เป็นไปตามที่ท่านเข้าใจ ก็แล้วแต่ท่าน
    แต่อาจเข้าใจ ต่างจากที่เราต้องการจะสื่อว่า
    จิตดั้งเดิมที่ไม่มีอวิชชา ไม่ใช่จิตเดิมที่ประภัสสร

    [๕๖๓] จิตตคฤหบดีกล่าวว่า ดีละ ท่านผู้เจริญ ดังนี้แล้ว ได้ถามปัญหา
    ยิ่งขึ้นไปอีกว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ก็สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเกิดมีได้อย่างไร ฯ
    กา. ดูกรคฤหบดี ภิกษุเมื่อจะเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ไม่ได้คิด
    อย่างนี้ว่า เราจักเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง เรากำลังเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง
    เราเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธแล้วบ้าง โดยที่ถูกก่อนแต่จะเข้า ท่านได้อบรมจิตที่
    จะน้อมไปเพื่อความเป็นจิตแท้ (จิตดั้งเดิม) ฯ

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=18&A=7456&Z=7524
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2008
  10. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    จิตเดิมแท้ จะไม่มีกิเลศ และอวิชชา มาบดบัง เมื่อแหวกอวิชชาออก และกิเลศ ก็จะรู้สึกถึงจิตเดิมแท้ การที่มีพระธรรมเพื่ออบรมจิตใจ ให้มีจิตดั้งเดิม แต่เมื่อมีมีจิตดังเดิม ที่เป็นจิตบริสุทธิ์ จิตประภัสสรแล้ว ธรรมก็ไม่เอานะ ที่ไม่เอา เพราะอะไร เพราะจิตบริสุทธิ์แล้ว เพียงแต่กิเลศ มาล่อเป้าทุกวัน ก็ให้เพียงแต่รู้สึกในขณะปัจจุบันไว้เท่านั้น เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของจิตไว้ รู้สึก อย่าไปยินดี และยินร้ายกับมัน ก็แค่ให้รู้เท่าทันมัน เท่านั้นเอง
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อนุโมทนา สาธุค่ะ
     
  12. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    ขอร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
    ผิดหรือถูกแล้วแต่ท่านทั้งหลายจะพิจารณา

    จิตเดิมแท้ ที่เรียกว่า
    จิตประภัสสร แปลว่า จิตผ่องใส
    มีอวิชชาเป็นเจ้าครองอำนาจ
    ทำให้ติดเชื้อกิเลสได้

    จิตบริสุทธ์ หรือ จิตพุทธะ
    สิ้นแล้วซึ่งอวิชชา
    ติดเชื้อกิเลสไม่ได้

    จิตเดิมมาจากไหน
    ท่านว่าหาเงื่อนต้นไม่พบ
    แต่เป็นจิตที่ผ่องใส
    แต่เป็นจิตอวิชชา พาให้เกิดตาย

    ถ้าไม่อยากเกิดตาย
    ต้องทำจิตอวิชชา
    กลายเป็นจิตบริสุทธ์(ปราศจากอวิชชา)
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ขอใช้สิทธิในการถูกพาดพิงครับ ท่านประธานคงอนุมัตินะครับ
    ธรรมภูติ ไม่มีสาขาครับ ตรงต่อพระศาสดาเท่านั้นครับ

    *คุณนิวรณ์ครับ ผมในฐานะที่โดนพาดพิงว่า
    มีส่วนรวมในการทำให้คุณถูกคุณขันธ์เกลียดชัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงเลยนะครับ

    เป็นนิสัยถาวรไปแล้ว สำหรับคุณขันธ์เค้าครับ
    ที่ชอบกล่าวหาทุกคนที่พูดไม่เหมือนกับเค้าว่าพูดไม่เป็นธรรม
    แต่ไม่เคยบอกได้เลยว่าไม่เป็นตรงไหน เช่นเดียวกับคุณนั้นแหละ

    ผมก็บอกแล้วว่า การจะเป็นพุทธบุตรที่ดีนั้น
    ควรอย่างยิ่งที่จะต้องตอบคำถามให้กระจ่าง
    ไม่ใช่ใช้วิธีเบี่ยงประเด็นหรือแสดงอาการไม่พอใจเมื่อไม่สามารถตอบปัญหาได้

    คุณนิวรณ์ครับคิดหรือว่าคนในบอร์ดนี้ สอนแล้วยอมฟังเสมอไป
    ฟันธงครับ
     
  14. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    *คุณขันธ์ครับ ยินดีด้วยครับที่มีความสุขในการที่ได้แสดงธรรม
    ให้อนุชนรุ่นหลังได้รู้จักศาสนาพุทธ
    แต่จะให้ดีแล้วคุณขันธ์ควรที่จะแยกให้ชัดเจนไปเลยนะครับว่า
    จิตกับวิญญาณต่างกัน เหมือนกันหรือเป็นสิ่งเดียวกัน.....

    คุณขันธ์ครับ ผมก็เคยพูดไปแล้วนะครับว่า
    อะไรที่ไม่ตรงต่อจอมศาสดา ในฐานะพุทธบุตร ผมควรต้องถามใช่ไหมครับ
    และก็เช่นกันคุณเองก็ในฐานะพุทธบุตรที่ดีก็ควรตอบเช่นกันนะครับ

    เริ่มจากหัวกระทู้เลยนะครับ
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอกวีร์ ต้องมีธรรม และ มีทิฎฐิที่มั่นคงกว่านี้ ไม่ใช่ดิ้นได้แบบนี้
    ก็ไม่รุ้จะพูดอะไรมาก
     
  16. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ไปซะและ
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ส่วนธรรมภูต อ่านอะไร เอาให้เห็นนัยยะที่แฝง ไม่ใช่อ่านตรงๆ
    แต่ผมก็ขี้เกียจจะแก้ต่างอะไรมากมาย เพราะ พูดมากไป มันก็ไม่เข้าใจ
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ใคร เป็นอย่างไร วันนี้แหละธาตุแท้แสดงออกมาหมด
    ใครรักเพราะเกลียด ก็แสดงออกมา
    ใครรักเพราะรักก็แสดงออกมา
    ใครมีทิฎฐิดิ้นได้ก็แสดงออกมา
    ใคร มีโทสะ ใครไม่ตรงต่อธรรมก็แสดงออกมา
    ส่วนผม ใครจะเกลียดผม ผมไม่สนใจ แต่ผมเสียดาย ที่ว่า ธรรมที่ถูกต้อง จะถูกย่ำยีอย่างน่าสงสาร ด้วย น้ำมือคนพุทธเอง เพราะด้วยทิฎฐิมานะ ซึ่ง ไม่น่าจะมี
    แต่ก็ นั่นแหละ เป็นเพียงกลุ่มคนเล็กๆ ที่ มีมานะว่า ใครจะดีกว่าตน ใครจะดีเกินตน นั้นไม่ได้
    ก็ ตามเวรตามกรรม
     
  19. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ครับ คุณขันธ์ ในเมื่อเรารู้เราเห็นว่า ธรรมที่ถูกต้องถูกย่ำยี
    พุทธบุตรที่ดีควรจะต้องชี้แจงให้กระจ่าง ตามฐานานุฐานะของตน
    อย่าไปกลัวว่าพูดไปแล้วมันไม่เข้าใจนะครับ คนที่พอเข้าใจได้ยังมีอยู่

    ถ้าคุณขันธ์คิดแบบนี้ พุทธศาสนายิ่งหมดเร็วเข้าไปใหญ่
    ฉะนั้นอย่าลืมตอบคำถามผมด้วยนะครับ(ได้แต่คาดหวังเท่านั้น)

    ส่วนเรื่องใครชอบใครชังก็ชั่งเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา
    เรามีเพียงหน้าที่ทีต้องอยู่กับโลก โดยทีพยายามอย่าให้โลกครอบงำได้ ก็เท่านั้นเอง

    ในโลกมีแต่เรื่องจิตกับอารมณ์เท่านั้น
    เป็นคำพูดพระเจ้าน้องยาเธอฯ ในสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ


    ;aa24
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    เอาเพลงโปรดในอดีตมาให้ฟังกันครับ

    วันจันทร์, ธันวาคม 29, 2008

    หันหน้ามา...เข้าใจกัน(ใจประสานใจ)

    มองแววตาทุกคนเปี่ยมสุขล้นระคนสุขสันต์
    ยิ้มแย้มเข้าใจกันตาสบประสานไมตรีฉายมา
    ดวงฤทัยทุกดวงถ่วงด้วยรักและแรงศรัทธา ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน

    ความคลางแคลงหายไปโลกสดใสคืนมาอีกครา
    ฟ้าหลังฝนงามตาความมืดโรยรามลายหายพลัน
    มีแต่ความเข้าใจอุ่นไอรักไมตรีต่อกัน ผ่านมานั้นลืมมันลบไป

    ร้องเถิดร้องเพลงกัน ประสานรอยรักในใจ ลบรอยร้าวภายในอุรา
    ร้องเถิดร้องเพลงกันจับมือกันไว้ดีกว่า หันหน้ามาเข้าใจกัน

    อันคนเราทุกคนต่างเกิดมาควรพาพึ่งกัน มีไมตรีสัมพันธ์โลกนั้นสดใส
    จงมารวมพลังร่วมสร้างสรรค์จรรโลงฤทัย จับมือกันเดินก้าวไปมุ่งสู่จุดหมายอนาคตเรา

    มองแววตาทุกคนเปี่ยมสุขล้นระคนสุขสันต์
    ยิ้มแย้มเข้าใจกันตาสบประสานไมตรีฉายมา

    ดวงฤทัยทุกดวงถ่วงด้วยรักและแรงศรัทธา ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน
    ความคลางแคลงหายไปโลกสดใสคืนมาอีกครา
    ฟ้าหลังฝนงามตาความมืดโรยรามลายหายพลัน


    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...