เราไม่มีในกาย กายไม่มีในเรา

ราคะ ในความหมายของผม คือ ความยินดี ยินร้าย เฉยๆ ในกามคุณ 5 ครับ
งั้น ผมถามท่าน นัท ต่อ เวลานั่งสมาธิ แล้วเกิดนิมิต ที่เป็น รูป นิมิต ที่เป็นเสียง นิมิตที่เป็น รส นิมิตที่เป็นกลิ่น นิมิตที่เป็นสัมผัส หากเกิดอย่างใดอย่างนึง เกิดหรือเปล่าครับ

 

ขอบคุณครับ..ตรงนี้ผมรอ ท่านขันธ์ตอบน่ะครับ

 

ผมนั่งสมาธิ ไม่ค่อยมีนิมิต อ่ะคับ เลยตอบไม่ได้คับ...เรียกว่าไม่มีเลยจะชัดเจนก่า อ่ะคับ อิอิ

 

ถ้าอย่านั้น ผมจะเสนอความคิดเห็นไว้

ราคะ ไม่ได้หาได้ในชีวิตประจำวัน
แต่เกิดได้ทุกที่
เกิดในสมาธิ จาก การ นึกเห็น หรือ ฝึก เจริญ อาการ 32 หรือ กรรมฐานกองใดกองหนึ่ง ที่ต้อง มีรูปนิมิต สำหรับนักวิปัสนา พอรูปนิมิตเกิด จะชำเรืองรู้ที่ใจ ว่าเป็นเช่นใรอาศัยนิมิตอายะตนะ เป็นการฝึก สมถะและวิปัสนาควบ เรียกตามสติปัฏฐาน 4 ว่า จิตตานุปัสนา...

 

คุณ เห็น นายดำโดนแทง หรือ
ผมแปลกใจ ทำไมคุณ ต้องตั้งโจทย์ ยืดยาวหละครับ

สภาวะของนายดำ เราไม่ไปทราบได้หรอก
เราต้องมองที่ตัวเรา

เช่นถ้าคุณจะถามว่า สภาวะทุกข์เป็นอย่างไร คุณก็สังเกตุที่ตัวเองดู

 

ขอบพระคุณคับ..ที่แนะนำ..
แต่ไม่ใช่จริตผมอ่ะคับ ผมนั่งไม่เห็นไรเลยพวกนิมิตนี่อ่ะคับ นั่งมาตั้งแต่ ป7.แล้ว..เน้นเอา ความสงบเพื่อพักจิตมากก่าคับ...

...ราคะ ไม่ได้หาได้ในชีวิตประจำวัน ...
สำหรับผมหาได้ในชีวิตประจำวันคับ.. และเป็นเวลาส่วนใหญ่ ซะด้วยสิคับ..
ตากระทบ รูป...เกิดยินดีในรูป จิตปรุ่งแต่ง นี่ ก็ราคะ
หู กระทบเสียง...เกิด ยินดีในเสียง นี่ก็ราคะ
จมูก กระทบกลิ่น (ยิ่งกลิ่นสาวๆนะ อิอิ)เกิดยินดีในกลิ่น จิตปรุ่งแต่ง นี่ ก็ราคะ
ลิ้น กระทบรส...เกิดยินดีในรสชาตินั้น จิตปรุ่งแต่ง นี่ ก็ราคะ
กาย สัมผัสผิวหนังเนียนๆเนื้อสาว..เกิดยินดีในผัสสะ จิตปรุ่งแต่ง นี่ ก็ราคะ
.....
แล้วจะบอกว่า ราคะหาไม่ได้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรอ่ะคับ...แถม คุณเจอในสมาธิ.. กี่ชม.คับ.. สมมุติ ให้เต็มที่เลย นะ3ชม. ต่อวัน...ที่เหลืออีก 20ก่าชม.ละคับ จะไม่เจอที่ผมว่ามาเลยเหรอคับ... ผมจึงฝึกวันละ 12 กว่าชม. มากกว่านั่งอ่ะคับ... ดูจิตที่กระทบอารมณ์ต่างๆ..ดูมันเกิด-ดับ.. ดูอาการของจิต(ผู้รู้นั้นด้วย)...ว่ามันฟู มันแฟบ มันไหวเอน เมือโดนกระทบ... เมื่อ จิตตัวนึ่งดับ.. ระหว่าง รอยต่อ ก่อนเกิดตัวไหม่เกิด (ช่องว่างเกิด-ดับ)ก็รู้... เท่านั้นแหละคับ

ถือว่าแลกเปลี่ยนการปฏิบัติ กันนะคับ ... อย่าไป คิดไรมากคับ...

....สาธุ...

 

ท่าน ขันธ์ ก็นะ โจทย์มันก็สั้นๆ ผมถามเพียง อยากรู้ ว่าท่านขันธ์ จะตอบอย่างไรเพราะมีคำถามจะถามต่ออีก นายดำนายแดง ก้เป็นคนธรรมดา อย่างนี้ ผมถาม แบบนี้เลย ผมเอามีด แทง ท่านขันธ์ 1 แผล ท่านขันธ์ จะเป็นอย่างไร

 

งั้น อันนี้ผมพิมพลาด ไปแล้วกันนะครับ อย่าลืม คำที่ต่อมาซิครับ ที่ผมบอกว่า แต่เกิดได้ทุกที่ครับ...

 

อย่าได้คิดมากเลยครับ ทุกท่าน ผมถามก้เพียงแลกเปลี่ยนความรู้ ...ไม่ได้จะมาเถียงกับใคร หรือทะเลาะกับใคร...ในสิ่งที่ผมไม่รู้ผมก็จะได้รู้ด้วย...

 

..คับ.. สาธุคับ..ผมอ่านไม่ละเอียดอ่ะคับ... ขอโทษด้วยคับ

ที่เน้นว่าถือว่าแลกเปลี่ยนการปฏิบัติกัน...และบอกว่าอย่าไปคิดมาก...ก็ป้องกันไว้ก่อนอ่ะคับ...เด๋วจะคิดว่าผมไปสอน...มิบังอาจสอนผู้ใด อ่ะคับ..ก็เพื่อความเจริญในธรรมของ ผู้อ่านเท่านั้นเองคับ...

สาธุ

 

ก็ ผมก็ตอบไป ให้คุณคิด แสดงว่าคุณไม่เข้าใจสมมติ กับ จริง

คุณเอามีดแทงผม 1 แผล ผมก็บอกไม่รู้ เพราะไม่ได้โดน จะไปคาดเดาทุกข์อย่างไรเล่า

คราวนี้เข้าใจหรือยัง

 

สภาวะทุกข์ มันก็ต้องเกิดกับตน จริงๆ ให้คุณสังเกตุตรงๆ

ไอ้สิ่งที่ ไม่เคย รู้แต่คาดเดา มันก็ไม่ใช่ทุกข์นะ

ตั้งคำถามมาใหม่ เอาที่เกิดจริงกับตน

 

ผมว่าตอบไม่ตรงประเด็นหรอกครับ คำถามผมผมถามแบบชาวบ้าน ที่ไม่รู้ธรรมอะไร จึงถามไปอย่างนั้นตรงๆ

 

ตรงประเด็นที่สุด เพราะนั่นไม่ใช่ทุกขสัจ คุณยังโดนสมมติบังเอง

ก็ผมก็ตอบตรงที่สุด เพราะไม่ได้โดนแทง แล้วมันจะไปรู้ได้ยังไง ว่ามันรู้สึกอย่างไร

 

งั้น ถามแบบ สมมุติ นี่ล่ะครับ ขอเอาเปลือก ก่อนไปเอาแก่นครับ

 

ตื้นหรือลึก มันก็ออกมาจากใจคุณนั่นแหละ นิวรณ์

ไหนว่า ปัญญามาก ทำไมมองได้ตื้นแค่นั้นหละ ครับ นิวรณ์

 

ผมตอบไม่ได้จริง แต่ ถ้าบอกว่าโทสะ หรือ ความโศกเศร้า

แต่ถ้าถามว่า เมื่อร่างกายเราเจ็บปวด แบบนี้เรียกว่า ทุกข์ในอริยสัจหรือไม่

ตอบว่า ก็อะไรเกิดก็ทุกข์ทั้งหมดนั้นแหละ แต่ มันกระทบทางกาย ซึ่งยังมีทุกข์ที่มากกว่านั้นคือ ทุกขเวทนา ทุกขเวทนานี้ เป็นเรื่องหลอก เพราะว่า บางคนโดนแทง อาจจะชา บางคน
โดนแทงแล้วสลบไป ก็ไม่ทุกข์

 

เดี๋ยวผมมาใหม่นะครับ ออกไปข้างนอกแป๊ป ..ขอบคุณครับ

 

...
คับคุณหลินจิ่นเฉิง...ส่วนตัวผมไม่เน้นอ่ะคับ..
....ยิ่งเห็นนิมิตแล้วมาปรึกษาผมก็จะถามกลับอ่ะคับ...ว่านั่งเพื่ออะไร ...ถ้าจะเอาฤทธิ์เอาเดช.. ผมก็ตอบไม่ได้ไม่มีความรู้ทางนั้น(ได้ยินมาแต่ว่าให้ฝึกบังคับนิมิต อ่ะนะ)<label for="rb_iconid_30"></label>
....แต่ถ้าฝึกเพื่อ ฝึกสติ..เพื่อเดินตามรอยพระพุทธองค์..คือฝึกเพื่อละเพื่อวาง...ผมก็จะแนะนำให้ไม่ต้องไปสนใจอ่ะคับ.. นิมิตอ่ะคับ.. การนั่งสมาธิผมเพื่อพักจิต(พักผ่อน)ก็ได้...แต่ถ้าจะฝึกแบบ เอาสมถะนำวิปัสนาแบบ สายวัดป่าก็ได้อีกเฃ่นกัน... (แต่หลังๆผมไม่แนะนำแล้วการพิจารณา เวทนาจากการนั่งนี้อ่ะคับ..เพราะ เวทนาตัวเดียวกัน แต่ต่างคน..ต่างกรรม ...ต่างวาระ พิจารณาแล้วผลที่ได้ไม่เหมือนกัน.. ครั้นบอกเพื่อเป็นแนวทางมากไป..เวลาไปนั่ง.ก็จะเผลอตั้งจิตคอยดูว่าจะเกิดอย่างนั้นอย่างนี้ไหม?...ก็กลายเป็นวิปัสนึกไปอีก..ผมเลยสรุป..การพิจารณาเวทนาความเจ็บปวดทางกายจากการนั่งนี่..เหมาะก่ะพระป่ามากก่า คับ)...
ผมจะบอกเพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมว่า เราคนทำงาน..การฝึก สติ ในชีวิตปัจจุบันนี้แหละคับ.. สำคัญสุด..เพราะ... สติดีก็มีสมาธิ...ไม่ได้ธรรม ก็ยังได้ สมาธิไว้ทำการทำงานได้...คือ ผมฝึก แบบ อานาปานสติ+การดูจิต อ่ะคับ
และการดูจิต...ถ้าดูถูกวิธี...ก็เป็นการเรียนรู้จิตโดยตรง...เน้นว่าถูกวิธีนะคับ...
ก็จะเข้ากับที่ผมอธิบายไปแล้วว่า... ดูจิตละวางความทุกข์ได้อย่างไรอ่ะคับ...
...วิธีการดู...เอาไว้ ถามค่อยพิมต่อดีก่า 55555 ..เดี๋ยวมันจะ ยาวอีกแล้ว..อิอิ<label for="rb_iconid_30"></label><label for="rb_iconid_30"></label><label for="rb_iconid_30">

สาธุคับ.....
</label>

 

งั้นถามทิ้งไว้ ก่อนไป นายดำ โดนนายแดงใช้มีด บาดที่แขน เกิดเจ็บ ปวด เรียก ว่า ทุกข์ไหมครับ