เราไม่มีในกาย กายไม่มีในเรา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 26 ธันวาคม 2008.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็ ท่านหลงอยู่ ท่านก็ว่า ท่านรู้ตัว เรื่องนี้ไม่แปลก

    ก็ตัวอย่างที่ท่านหลงคือ

    นี่ผมไปยกข้อธรรมว่า คุณปฏิภาณ เป็นพระอริยะเจ้าตรงไหน ถึงแม้ว่า คุณจะยกหรือไม่ยกก็ตาม แต่ผมไม่ได้กล่าวคำเช่นนั้นเลย
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    หากท่าน ขันธ์ มีความเป็นธรรม สามารถเห็นธรรม

    กรุณาไปอ่าน คำว่า ธรรมลามก นั้นใครเป็นคนยกมากล่าวอีกครั้งหนึ่ง

    ครั้งทีผมกล่าว จบ ไปแล้วใช่หรือไม่ ลบไปแล้วใช่หรือไม่

    เมื่อลบไปแล้ว อยู่ดีๆ คำว่า ธรรมลามก กลับมาปรากฏ ข้อนี้ คือผม
    เป็นคนสร้างกรรมนั้นหรือไม่ หรือ ว่าเป็นคนอื่นๆ

    แล้วกรุณาอ่านข้อความบ่งชี้ที่ผมตอบคุณคนที่ยก สงสัย ติดใจ คำว่า ธรรมลามก
    เป็นคำที่แปลกประหลาด

    ผมก็เพียงแต่ชี้ว่า คำนี้ไม่ใช่คำประหลาด แต่เป็นคำที่ปรากฏในพระไตรปิฏก

    ซึ่งเป็นการชี้ข้อเท็จจริงในการสืบค้นหาความหมายเพิ่มเติมเท่านั้น

    มีปรากฏไหมว่า ผมยก คำนี้มาเพื่อบริภาษผู้หนึ่งผู้ใด อันเป็นการสร้างกรรมใหม่

    หากท่านมีความเป็นธรรมพอ ก็ขอให้กลับไปอ่านกระทู้ถัดมาของตน ให้ทราบ
    ที่ไปที่มาของการกล่าวหา เรา เพราะคุณประสงค์จะทำอะไร จะสอนเราอีกกระ
    นั้นใช่หรือไม่ และถ้าคุณขึ้นวิถีการสอนเราแล้ว คนกิเลสหนาอย่างผมจะทำ
    อย่างไร ก็ต้องชี้แจงใช่หรือไม่

    การชี้แจ้งโต้แย้งของผมนี่ เริ่มจากกรรมใด ช่วยวิเคราะห์ให้ที

    การชี้แจ้งตอบกลับคนตั้งประเด็นนั้น จะดับไปได้อย่างไร ช่วยวิเคราะห์ให้ที
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    กรุณาอ่าน....

    <TABLE class=tborder id=post1790509 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1790509 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาสมุทรไม่ร่วมกับซากศพที่ ตายแล้ว ซาก
    ศพที่ตายแล้วใดมีอยู่ในมหาสมุทร มหาสมุทรย่อมนำซากศพที่ตาย แล้วนั้นไปสู่ฝั่ง ซัดขึ้นบกโดย
    พลัน บุคคลนั้นใดเป็นผู้ทุศีล มีธรรมลามก มี ความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการ
    กระทำ มิใช่สมณะปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายใน
    โชกชุ่มด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมอง ก็เหมือนกัน สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น ย่อมประชุมกัน
    ยกเธอเสียโดยพลัน ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอ ชื่อว่าไกลจาก
    สงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ ข้อที่บุคคลนั้นใด เป็นผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติไม่
    สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการกระทำ มิใช่สมณะ ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณ
    ว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายใน โชกชุ่ม ด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมอง สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น
    ย่อมประชุมกันยกเธอเสีย โดยพลัน ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอ
    ชื่อว่าไกล จากสงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ แม้นี้ก็เป็นความอัศจรรย์ไม่เคยมีในธรรมวินัยนี้ เป็น
    ข้อที่ ๓ ที่ภิกษุทั้งหลายพบเห็นแล้วพากันชื่นชมในธรรมวินัยนี้ ฯ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ก็เห็นจะจริงว่า ธรรมลามก นั้นมีต่อผู้ใด อันนี้ก็เป็นกรรมอีกข้อหนึ่งที่นิวรณ์ต้องรับ ไป เพราะกล่าวหาว่า ผมมีธรรมลามก
    <!-- / message -->
    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1790509")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    คุณขันธ์ครับ สีแดงๆ นั่นหมายถึงผมหรือเปล่า

    แล้วคำว่า เป็นกรรมอีกข้อหนึ่งที่นิวรณ์ต้องรับ ไป อันนี้ใครเป็นคนโพส
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    อย่าเบนประเด็นไป อีกสิครับ


    การชี้แจง ของคุณ มาจากการปรุงของคุณ ที่ย้ายประเด็นไปเรื่อยๆ

    ส่วนผม ผมก็พูดตามปรกติ นี่จะให้หยุด คุณควรจะหยุดกิเลสของคุณ ไม่ใช่ให้คนหยุดพูด
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ใช่สิ ก็หมายถึงคุณนั่นแหละ แล้วมันไปเกี่ยวกับพระอริยะเจ้าตรงไหน ผมไปยัดเยียดความเป็นอริยะเจ้าอย่างไร

    มันหมายถึงคนที่ทุศีล อ่านไม่รู้เรื่องหรือ
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอาเถอะ คุณนิวรณ์

    คุณจะเป็น ธรรมภูติ2 ก็ตามใจแล้วกัน

    ประเด็นทั้งหมด ตอนนี้ ย้่ายมาสู่ ความสับสน และ เป็นคนจับแพะชนแกะ ของคุณนั้นแหละ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    กลุ้ม เอาแบบนี้ก็ได้

    แล้วไงครับ ผมเป็นคนทุศีลครับ เห็นอยู่
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ผมอโหสิกรรม ให้คุณทั้งหมด ไม่โกรธเคืองใดๆ
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ยังไม่ได้ขอครับ หรือ ว่าจะสิ้นสุด ให้มันจบตรงนี้

    ถ้าอย่างนั้นก็อนุโมทนา

    เช่นนั้นผมก็จะปฏิบัติในทางของผมต่อไป สมาธิก็ทำหลายแบบ ส่วนวิปัสสนา
    ก็ยึดตามปฏิปทาที่พระท่านสอนผมมาโดยตรง ปากต่อปาก ธรรมต่อธรรม ว่า
    ให้ ดูเฉยๆ อันเป็นคำสอนที่พระท่านให้มาเพื่อค้นคว้าและปฏิบัติ คนกำลัง
    ปฏิบัติตามคำสอนของพระ กรุณาอย่าก้าวก่าย เพราะผู้ปฏิบัติอย่างผมจะสับสน

    ผมจะปฏิบัติได้ผิด ถูก อย่างไรจากโทย์ที่ว่า ดูเฉยๆ ก็ขอให้เป็นสิทธิขาดของ
    ผู้ยกคำสอน

    ท่านก็หลีกไปทางที่ควรก่อนเถอะครับ
     
  10. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    อนุโมทนาสาธุ






    ..................................

    ขอเชิญชวน ลงนะเงินล้านครูบาคำเป็ง1 กพ. 52
    http://palungjit.org/showthread.php?t=166617
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    จะปฏิบัติอย่างไร ก็เอาเถอะ เอาสักทางหนึ่ง ตามแต่จะเห็น แล้วก็ศึกษาไปเรื่อยๆ แล้วกัน
     
  12. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    เมื่อกี้เข้าไปอ่านข้อธรรมของหลวงปู่เณรคำแล้วพบข้อธรรมนี้

    "ความโง่ในโลก ที่เราโดนหลอกเอย คนนั้นหลอก คนนี้หลอก มันไม่ใช่ความโง่ที่เรียกว่าหนักหนาอะไร แต่ที่หนักคือ เราโง่ให้กิเลสมาสับรางจิตใจของเรา ให้ไปผิดทาง"

    ตรงเผงกับตัวเองยิ่งกว่าตรงอีก ท่านเลือกใช้คำว่า "สับราง" ได้เห็นภาพจริงๆ กิเลสมันยอดนักสับราง หากเราไม่สังเกตให้ดี เราจะไปซ้าย มันสับรางหลอกเราออกนอกทางไปทางขวาได้โดยเราไม่รู้สึกตัว รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นรถไฟเด็กเล่นวิ่งวนไปวนมาอยู่หลายรอบ :)
     
  13. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    คุณนิวรณ์

    เยี่ยม
     
  14. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    อนุโมทนา สาธุคับ ..^^
     
  15. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    ..สวัสดี..ทุกท่าน
    ห่างหาย ไปหายวัน..เหตุเพราะเจ้าลูกชายเล่นคอมซะต้องลงโปรแกรมไหม่...
    และ ญาติ ก็เอาโน๊ตบุคมาให้ลงวินโดว์...แต่ไม่มีไดร์เวอร์...เฮ้อ.ก่าจะเสร็จ ^^
    ..บ่นให้ฟังพอเป็นสังเขป...อิอิ<label for="rb_iconid_15">[​IMG]</label>

    ขอคุยกับคุณบุคคลทั่วไป 1 คน ด้วยคนสิคับผมอ่านข้อความของคุณว่าจะตอบ..แต่ก็เลยมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าความเข้าใจของคุณ ในการปฏิบัติของตนเองไปถึงไหนแล้วอ่ะคับ
    ..แยกจิต กับ สติ ออกหรือยังอ่ะคับ...
    จิต ในความหมายของผม คือ กิเลสต่างๆที่จรเข้ามา..รวมความถึงเจตสิก ทั้งหมด..จิตนี้มีลักษณะ บังคับไม่ได้ มันมีหน้าที่แค่รับรู้ สิ่งต่างๆที่ ไหลเข้ามาในความคิดเรา...
    แต่...ผมไม่ได้ศึกษา อภิธรรม มาจึงเลี่ยงที่จะไม่ใช่คำว่า "เจตสิก" เลยเรียกว่า จิตเฉยๆ ซึ่งหมายรวมว่าคือสิ่งเดียวกัน อ่ะคับ.. (ผมชอบใช้ ภาษาชาวบ้านมากก่าอ่ะ อิอิ)

    สติ ก็คือ จิตที่ทำหน้าทิ่ "ระลึกรู้" สิ่งที่ไหลเข้ามาในความคิดเราอีกที่..ภาษาพระป่า ท่านเรียกว่า "ตัวรู้" และสตินี่แหละที่เราต้อง "ทำให้เจริญ" คือทำให้มาก ให้ชำนาญ สติเองเช่นกัน ที่เป็นเหตุให้เกิดสมาธิ เมื่อมีสมาธิ ก็นำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งทางโลก และ ทางธรรม

    <label for="rb_iconid_15">[​IMG] เหตุที่ผมมาแจกแจงเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่า คุณสับสน ยังไม่รู้ว่า สิ่งที่คุณได้สัมผัส ได้เห็นในจิตคุณ มันคืออะไร? อะไรเป็นกิเลส อะไรต้องละ อะไรต้องทำให้เจริญ...จึงเกริ่นๆให้ พอเป็นแนวทาง..
    ...แต่ถ้าผมเข้าใจผิดพลาดประการใด ต้อง ขออภัย ไว้นะที่นี้ด้วยนะคับ สาธุ
    </label>
    <label for="rb_iconid_31">[​IMG]สาธุ...</label>
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ยังไม่นอนหรอกครับ ดูอะไรไปเรื่อยๆ อีกสักพักก็จะนอนแล้ว

    อ่านครบ แล้ว ได้อะไร ไปบ้างหละครับ
     
  17. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    กะลัง เขียนความเห็นที่แตกต่าง เรื่องสติที่เข้าไปรู้ทันจิต ตรง วิญญาณ อ่ะคับ คุณขันธ์
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เมื่อเห็นขันธ์ 5 แล้วไม่มีอะไรที่แตกต่างหรอก ถ้าจะมีก็เพียงแต่สมมติ ที่แตกต่าง
     
  19. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    ...
    ใช่คับ เห็นด้วย แตกแต่ง ที่สมมุติทางภาษา..บัญญัติ อ่ะคับ... ผมจึง นำมาเขียนโดย ละเอียด เพื่อประโยค น้องๆ ที่เริ่มปฏิบัติ อ่ะคับ

    <label for="rb_iconid_33">[​IMG]</label><label for="rb_iconid_33">[​IMG]</label>
     
  20. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    ขอแสดงความเห็นที่แต่งต่าง..เรื่อง ลำดับ ของสติที่เข้าไป รู้ทันในจิตหน่อยนะคับ
    ...
    การทำงาน ของ จิต.. เอาหยาบๆ 5 ขั้นตอน คือ สัญญา..สังขาร ..วิญญาณ..ตัญหา+อุปทาน...เวทนา.. แล้วก็เกิดสัญญา สังขาร วิญญาณ ตัญหา+อุปทานเวทนาอีก วนไปเรื่อยๆ(ผมเรียง ตามการเกิดของ จิตแต่ละดวงอ่ะนะคับ)


    ผมเคย เสนอความเห็นไปครั้งหนึ่งนานแล้วว่า..
    ลำดับ ของสติ ที่รู้สึกตัวขึ้นมาเท่าทันกิเลส นั้น..
    ..บุคคลทั่วไป ที่ไม่ได้ฝึกปฏิบัติธรรม ..จะรู้ตัวขึ้นมา ก็เมื่อ เวทนาดับ(ทุกข์) หรือ ขณะที่กำลังทุกข์
    ..คนที่เริ่มฝึกปฏิบัติธรรม ก็จะมี สติทันกิเลสตัวเอง ตอน เวทนาเกิดหรือตัญหาเกิด..
    ..เมื่อท่านผู้ฝึกสติ จนมีความไว เท่าทันกับกิเลส ก็จะ รู้ทันจิต ในขณะ สังขารกำลังเกิด หรือตัญหาเกิด
    ...สติที่ฝึกดีแล้ว...ก็จะเห็น กิเลสที่ละเอียดขึ้นเรื่อย ตั้งแต่ โกรธหรือโทสะ(หยาบสุด) โลภหรือโลภะ(หยาบลองลงมา)..หลงหรือโมหะ(ละเอียดสุด)

    (แต่ถ้าฝึกตามหลวงพ่อปราโมทย์.เราจะมีสติ ทันกิเลส ตั้งแต่สัญญาเกิดเลย อ่ะคับ)
    ... ผมว่าที่คุณขันธ์ พูดถึง การสังเกตุดู วิญญาณ..น่าจะเป็น "อาการของผู้รู้" ในคำสอนหลวงพ่อปราโมทย์ ...หรือปรมัติถธรรม ในคำสอนของหลวงพ่อ สุรศักดิ์วัด มเหยงค์...
    ซึ่งมัน คือ...เมื่อเราเห็น จิต(ที่รับรู้ อารมณ์) โดยมี สติ เป็นผู้รู้..ถ้าเห็นได้สองอย่างนี้ ท่านสอนให้ ถอยออกมาดู อาการของผู้รู้..คือ ใจเรามีอาการอย่างไร..เช่น เห็นสิ่งชอบใจ จิตจะมีอาการ พองฟู ใจเต้นแรง มีอาการยินดี.. หรือ เวลาโกรธ จิตก็จะมี อาการใจเต้นแรง ใจสัน.. น่าจะเป็นตรงนี้... อ่ะนะคับ และนี่คือเห็นธรรม ตามจริง...

    ตรงนี้ มีรับลองใน พระไตรปิฏก..(เคยฟังเทศน์ ของหลวงพ่อ สุรศักดิ์ ท่านยกมา)ว่าเมื่อเห็นได้อย่างนี้ เปรียบ เหมือนเรือที่ ผูกเชือกไว้กับเสาท่าน้ำ..เชือกนั้นย่อม กัดเสาให้สึกกร่อน..โดยแน่นอน
    คือ กิเลส ที่สะสมมา ตั้งแต่เกิด จะได้รับการ ขูดลอกออกไปที่ละเล็กที่ละน้อย...อย่างแน่นอน...
     

แชร์หน้านี้

Loading...