เราไม่มีในกาย กายไม่มีในเรา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 26 ธันวาคม 2008.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ ธรรมภูติ คุณอย่ามาให้ผมขำ เวลานี้ มันไม่ใช่เวลา เพราะผมกำลังจริงจัง
     
  3. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    คัดลอกคำสอนหลวงพ่อออกมาได้เป็นชุดเลยนะ ท่านเอกวีร์
    สิ่งนั้นเรียกแบบนั้น สิ่งนี้เรียกแบบนี้
    จำเก่งเนอะ หุๆๆๆๆๆ
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    การรับ รู้ ความเข้าใจอะไรต่างๆ การจำได้หมายมั่น ความคิด อารมณ์ สัญญาอุปาทาน เมื่อเกิด ขันธ์ 5 เช่นนี้ แล้วเราเผลอตามไป
    เป็นเรื่องเป็นราว เป็นอุปาทาน นั่นแหละ หลงไปแล้ว เป็น ทั้งสักกายทิฎฐิ เป็นกิเลสไปแล้ว โดยไม่รู้ตัว

    ทีนี้ พระอริยะผู้ชำนาญมรรคญาณท่านทำอย่างไร ท่านเห็นว่า กระบวนการรับรู้ กระบวนการในขันธ์ 5 เกิดขึ้น ธรรมดาแล้วดับไปธรรมดา แต่เมื่อใดก้ตาม หากว่า หลงไป แสดงว่าเป็นไปด้วยอวิชชา
    แต่หากยังไม่มีภูมิแห่งการละสังโยชน์ ท่านก็ยังหลงไป แต่ก็ทวนกระแสตรงนี้ได้ด้วย สัมมาทิฎฐิตั้ง ไม่ตาม กระบวนการแห่ง อุปาทานขันธ์ 5 ที่ก่อตัวขึ้นมาด้วยอำนาจกิเลส อันเป็นเรื่องเป็นราวไป เห็นแต่ละตัวเป็น ขันธ์ 5 บริสุทธิ์ อย่างแท้จริง นั้นแหละ มรรคญาณเกิดขึ้น

    โทสะ โลภะ โมหะ เป็นเรื่องราวเพราะอวิชชา เพราะหลงไปในขันธ์ 5 นี้ พยายามทำความเข้าใจตรงนี้ให้ แจ้งๆ เถอะ นี่แหละ หนทางตัดภพตัดชาติ

    ดูตรงนี้ให้มาก แยกให้ออกว่า ความโกรธ ความโลภ ความหลง เกิดจากอุปาทาน เพราะเมื่อกระทบแล้ว ไม่ทัน
    วิญญาณการรับรู้ ต่างๆ จะดองเป็นสังขารธรรม เป็นเรื่องเป็นราวในใจ แล้วก็ตามกันไป อย่างไม่ลืมหูลืมตา

    เพราะฉะนั้น ให้ดูตัว วิญญาณกันให้ทัน และฝืน อย่างที่ผม พูดให้ฟัง คือ ลองดูซิว่า เมื่อ อ่านข้อความแล้ว ไม่กระทบไปถึงใจที่หมายรู้ หรือ ลองดูซิว่า เมื่ออ่านแล้วเข้าใจ แต่ไม่ปรุงเป็นอุปาทานแห่งความโกรธ

    ตัวนี้แหละ ทำให้มากๆ เอาให้เข้าใจในคำพูดของผม แล้วจะเข้าถึงเอง
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ทีนี้ สำหรับคนที่ยังมีกำลังแห่งจิตน้อย มันเห็นไม่ได้อย่างที่ผมบอก หรือ เห็นแต่ยังไม่ซึมลึก ประจักษ์ใจ
    มันก็ต้อง พิจารณา บำเพ็ญ ภาวนา ต่อสู้กับกิเลส เจริญ มหาสติ เจริญ สมาธิ เจริญปัญญา ให้รู้เห็นตามความจริง
    ก็ความจริงก็มีแบบที่พูดนั่น แต่ต้องทำ ต้องปฏิบัติ

    ท่าน หัตถ์เทพ ท่านพอเข้าใจ อะไรได้ดีแล้ว ก็ฝึกตน ให้ชำนาญ อย่างที่ท่านเคยพูดว่า อ่านแล้วเข้าใจ ไปแต่ละอย่าง ตรงนี้ เริ่มเห็นตามความจริงแล้ว แต่ให้พิจารณาหาตัวตนความเข้าใจอันนั้น ว่ามันเกิดที่ใด มันตั้งที่ใด นั้นแหละตัววิญญาณ
    ให้ ดู ให้ดี เถอะ แล้วท่านดูดีแล้วก็ช่วย อธิบายให้คนอื่นเขาเข้าใจ จะได้ชื่อว่า เป็นศิษย์พระพุทธองค์
     
  6. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    สัมมาสมาธิ คือ ฌาณ 4 บ่ ทำไมต้องฌาณ 4 ด้วย ?
    ฌาณ 5 6 7 8 หรือ 3 2 1 อุปจาระ ขนิกกะ ไม่ได้ บ่
     
  7. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    จำแต่เขามาพูด
    ไม่ยอมเข้าใจเรื่องการทวนกระแสธรรม
    จะเอาชนะกิเลสมันต้องสู้ ต้องฝืน ไม่ใช่รู้เฉย
    เมื่อคืนเพิ่งได้ฟังหลวงตามหาบัว ท่านว่า ถ้านอนเฉยๆบรรลุธรรมไม่ได้ ถ้าบรรลุได้พระพุทธเจ้าคงสอนไปแล้ว
    แล้วยกตัวอย่างของสาวกที่เพียรจนเท้าแตก จักษุแตก ว่ามันต้องต่อสู้ เพราะเราคือนักรบ
    ขอเน้นว่า ผมไม่ได้บอกว่าท่านสอนให้นอนเฉยๆ ผมต้องการชี้ว่า ต้องสู้ ต้องฝืน ต้องทวน
    ถ้าท่านนิวรณ์ไม่มีเจตนาในการเข้าถึงธรรม
    ผมขอถามว่า ท่านจะปฏิบัติกรรมฐานมากมายทำไม จะตามรู้ทำไม จะเล่นมโนมยิทธิทำไม ถ้าไม่มีเจตนาในการกระทำ
    แบบนี้เรียกว่า ดับเบิลแสตนดาร์ทหรือเปล่า หุๆๆๆๆ
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    สาธุ ท่านฟัง หลวงตามหาบัว นั่นแหละ ประเสริฐที่สุดแล้ว
    พอ ปฏิบัติ ได้แล้ว จะง่ายไปหมด ไม่ต้องพิจารณาอะไรมากมาย
    fm 103.25 นั้นฟังให้มาก จะมี เทปเสียงธรรม ของ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
    เทบเสียงธรรมของ หลวงตามหาบัว เทปเสียงธรรมของหลวงพ่อสังวาลย์
    นั่นแหละ ท่านก็สอนธรรมง่ายๆ แบบที่คนคิดว่า ธรรมพื้นฐานแบบนี้ รู้แล้ว นั่นแหละ อย่าไปคิดแบบนั้น มันโมหะ
    เพราะ ธรรมของพระอริยะเจ้า ลึกซึ้งมาก

    หลวงปู่หล้า เคยเขียนจม มาหาหลวงตามหาบัว ( ลองอ่านใน หนังสือหยดน้ำบนใบบัว ) ท่านกล่าวประมาณว่า เคยคิดว่า หลวงตาพูดธรรมแบบเดิมๆ นั้น ท่านก็ทำได้ แต่ สุดท้าย ยิ่งพิจารณา ยิ่งเห็นว่า ไม่มีทางที่จะก้าวล่วงหน้าหลวงตาไปได้เลย ธรรมของหลวงตามหาบัวครอบหมดแล้ว

    เพราะฉะนั้น คนประมาทเท่านั้น ที่จะเห็นธรรมง่ายๆ ว่า ตนผ่านแล้วดีแล้ว ไม่ต้องอะไรมาก
     
  9. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    เห็นได้ชัดว่า ยังแยกไม่ออก ระหว่าง คิด กับ ทวนธรรม
    คิดเป็นสมมติ ปรุง สร้าง ด้วยกิเลส
    ทวนธรรมเป็นปรมัตถ์ ตามรู้อาการของรูปนามตามความเป็นจริงด้วยการพิจาณาทั้งอนุโลมและปฏิโลมเพื่อให้เห็นต้นสายปลายเหตุจนแจ้งในไตรลักษณะญาณในการไถ่ถอนอุปาทานขันธ์ออกไปจากใจ

    จิตที่นิ่งรู้ดูเฉย จะสละกิเลสได้เอง จิตจะรู้เอง ก็ต่อเมื่อไปนิสัย ต้องหมั่นเพียร อบรม ฝึก จนเกิด

    เรากำลังมองคนละช่วงของการปฏิบัติ
    จิตรู้เอง ต้องเป็นส่วนหลัง หลังจากมหาสติมหาปัญญา
    ตอนเริ่ม จะให้มันรู้เองเห็นเอง คงต้องรออีกแปดชาติหน้ากับอีก10อสงไขยกัปป์ หุๆๆๆๆ
     
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    คุณกลับไปอ่านใหม่ให้ดีๆ ปะ ก่อนที่จะสรุปเอาดื้อว่า ดูเฉยๆ คือ การนอนเฉยๆ

    ไปอ่านให้ดีว่า ผมอธิบายการปฏิบัติอย่างไร ต้องระลึกอย่างไร สติเกิดอย่างไร
    สมาธิเกิดอย่างไร ฌาณเกิดตอนไหน

    ถ้าไม่เข้าใจ หรือ อ่านไปแล้ว สัญญาตัวเองลักลั่นว่า นี่ เหมือนคำหลวงพ่อ
    เป๊ะ แล้วจะหยุดเสพสัญญาอยู่แค่นั้น ไม่มองให้เกินเลยไปกว่าแง่มุมอื่น ก็ตาม
    ใจนักทวนกระแสที่หลงขันธ์ไปเถอะ บอกว่าทวนๆ ตัวเองหลงเต็มเปา

    เอาง่ายๆ ลองดูสักพักสิ ถ้าคุณปฏิบัติได้อย่างคนที่เขาสอนคุณให้ทำหนะ
    แล้วจิตใจคุณจะเป็นอย่างไรเวลากล่าวธรรมะ กล่าวเหมือนที่เขากล่าวไหม

    ผมไม่อยากงัด มุขกระจกส่อง ออกมาเล่นหรอกนะ เพราะเข้าใจดีว่าเวลา
    พูดถึงกิเลสนี่มันจะเหมือนๆกันหมด ต่างคนต่างเป็น ต่างมี และเหมือนๆกัน

    ที่มันเหมือนกัน เพราะเรากำลังพูก ธรรมะ ซึ่งพูดไปแล้ว มันจะเหมือนกัน
    โดยอัตโนมัติ เพราะธรรมะนั้นเป็นของกลาง

    อย่างไรแล้วคุณก็ปฏิบัติของคุณไป หากจะพูดธรรมะแล้วไปเหมือนของครู
    บาอาจารย์ก็ระลึกรู้ไป อ้อ จะทวนก็ได้นะ ว่าเป็นเพราะเหตุใดถึงได้กล่าว
    เหมือนคำครู จำมา หรือ ว่าปฏิบัติมา หรือ ว่าปฏิบัติยังไม่สุดก็ขอพูดคำ
    ครูดีกว่า แล้วก็ทวนดูอีกทีนะว่า คนที่เขายกคำครูมาเป็นสรณะนั้น มันดีหรือ
    ไม่ดีอย่างไร สมควรโดนประนามหรือเปล่า หรือว่า อย่างน้อยมันก็ควรอยู่แล้ว

    ไปทบทวนดูนะ
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เออ สาธุ วางธรรม ดีกว่าผมอีก ถูกต้องแล้วที่ท่านสรุป ง่ายกระชับ ดี
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ นิวรณ์
    คุณ นิวรณ์ คุณอย่าปรุงแต่งอะไรให้มันมาก คุณเอาประเด็น กลับมาที่เดิม ที่ผมกล่าวเอาไว้ก่อน
    เพราะนี่ เป็นเรื่องสำคัญ นี่คุณเล่น ตีความไปทางนั้น ทางนี้ ไปเรื่อย

    คำพูด ที่กล่าวว่า ทวนกระแส หรือ อะไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ประเด็น
    ประเด็นมันอยู่ที่ว่า จิตนั้นต้องอบรม ต้องพิจารณาธรรม ต้องทำสมาธิ ต้องทบทวนว่า อะไรกิเลสอะไรธรรม
    ทีนี้ จะไปเรียกว่า พิจารณาธรรม หรือ ทวนกระแส หรือ ละกิเลส มันก็นัยยะเดียวกัน

    ซึ่งมันตรงข้ามกับ แนวทางของ คุณนิวรณ์ ที่ บอกให้นั่งรู้ดูเฉย อันเป็นเพียงเริ่มต้น ซึ่งมันจะทำให้คนที่ปฏิบัตินั้น ไม่ทำอะไรนอกจาก นั่งรุ้ดูเฉย และ สร้างความสับสน กับ คำสอนของพระพุทธองค์ เพราะคุณ หมายจะเอาวิธีนี้ ครอบหมด
    ก็แสดงว่า ธรรมของคุณ ครอบมากกว่า ธรรมพระพุทธเจ้า ที่กล่าวว่า ให้ทำกุศลให้ถึงพร้อม ละอกุศลทั้งปวง และทำจิตให้ผ่องใส
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เราฟังพระท่านเทศน์ ก็มีนะ คนที่จิตตื่น มารู้ แต่ยังไม่ได้ มรรคผล ก็มีนะ
    ถ้าจิตมีสมาธิตั้งมั่นขึ้นมาได้ ก็มีสติระลึกรู้ตัวได้ ในจิต ระดับขณิกสมาธิ ก็ได้แล้ว
    แต่ถ้ามีระดับมหาสติ ก็น่าจะเป็นอีกระดับหนึ่ง
     
  14. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง
    ก่อนหน้านี้ ธรรมพื้นๆ ผมไม่ค่อยสนใจนัก
    เพราะคิดว่าตัวเองแตกฉานมากพอแล้ว
    ต้องการศึกษาธรรมชั้นละเอียด ขั้นปรมัตถธรรมเลยยิ่งดี
    แต่หลังจากการคลิกในองค์ปัญญา ทัสนะเปลี่ยนไปหมด
    ธรรมพื้นๆนี่แหล่ะ ลึกซึ้งที่สุด
    ไอ้ที่ลึกซึ้งนั่นแหล่ะ สมมติที่สุด

    คนเรามักจะมองเป็นตัวตน มีผู้รู้ มีสิ่งที่ถูกรู้ มีอะไรที่ออกมารู้ทั้งสองสิ่งนั้นได้อีก
    ไม่รู้จะสมมติไปอีกแค่ไหน
    ในความเป็นจริง เราเพียงแค่เห็นในสิ่งที่เกิดแล้วดับในจิตสังขาร มันจะเป็นอะไรก็ช่าง ไม่ว่าจะเป็น จิต เจตสิก สังขาร วิญญาณ สัญญา เวทนา อะไรก็ช่างหัวมันเถอะ
    มันก็สักแต่ว่าเป็นเพียงอาการอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องไปสมมติว่ามันคืออะไร
    เห็นได้เป็นใช้ได้ รูปนามปรมัตถ์ เห็นได้ก็พอ อบรมด้วยกุศลธรรมต่างๆ ให้พร้อมด้วยมรรค เมื่อถึงเวลา มันก็รวมลงสัมปยุตด้วยอัปปนาสมาธิไปเอง หลังจากการบ่มเพาะบำเพ็ญบารมีความเพียร สะสมกุศลธรรม อินทรีย์ต่างๆ จนบริบูรณ์แล้ว
    คิดอะไรกันมากมาย เอาแบบง่ายๆนี่แหล่ะ
    ที่พูดกันมาก แม้นศัพท์ตัวเดียวกัน ก็เข้าใจต่างกันไป เพราะรู้เห็นไม่เหมือนกัน มันก็รวมกันไม่ลง

    ส่วนเอกวีร์นี่ แกว่งหนักมาก เห็นได้ชัดมาก ใครเห็นไม่เห็น ไม่สนใจ แล้วแต่บุคคล
    ผมนี่แหล่ะ เห็นชัดมากๆๆๆๆ
    จนไม่อยากจะเชื่อว่าคือท่านเล่าปัง เอกวีร์
    อยากให้เป็นคนอื่นที่มาใช้ล็อกอินแทนเสียดีกว่า...
     
  15. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    555555 โคตรฮาเลย เอกวีร์
    ผมบอกไปแล้วหนิว่า ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น อุตส่าห์เน้นเป็นตัวหนาไปแล้วว่า
    ขอเน้นว่า ผมไม่ได้บอกว่าท่านสอนให้นอนเฉยๆ ผมต้องการชี้ว่า ต้องสู้ ต้องฝืน ต้องทวน

    คุณคิดว่าผมโง่ถึงขนาดแยกไม่ออกเลยหรือว่า การตามรู้รูปนามเนืองๆ หรือ ดูเฉยๆ กับ นอนเฉยๆ มันต่างกัน 55555
    ท่านมองไม่เห็นหรอกหรือ
    นี่กิเลสมันปิดหูปิดหาท่านอยู่หรือ
    ผมเคยด่าคุณอับปัญญาว่า ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด
    ผมขอให้คำนี้กับคุณได้ไหม เอกวีร์ หุๆๆๆๆ
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอ้าลองดูธรรม ผมเอามาจาก พระอริยเจ้า ให้ทายดู

     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เออ สาธุ แบบนี้ค่อยทำให้ผมดีใจหน่อย ว่า วิมุตติ นี้ผ่านทัศนะไปอีกระดับหนึ่ง
     
  18. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    ผมบอกหรือยังว่า ต้องได้มรรคผล จึงจะเป็นมหาสติ
    งั้นขอนิยามหน่อยว่า มหาสติ คือ สติที่มีกำลังมากในการระลึกรู้รูปนามได้เองโดยอัตโนมัติ เมื่อสิ่งใดเกิดกับจิต จิตก็รู้ เนื่องจากจิตจำสภาวะได้ การที่จิตมันจำได้ เพราะอบรมมาดีแล้ว เป็นมหาสติแล้ว
    ไม่ได้เอ่ยถึงมรรคผลเลยนะครับ...อิอิ
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอาไปอีกสักนิดหนึ่ง

     
  20. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    คุณนี่ประหลาดไปอีกคนแล้ว

    ก็คำว่า ดูเฉยๆ ที่แปลว่า นอนเฉยๆ นี่ คุณยกมากล่าวถึงการปฏิบัติ
    ของคนที่ ดูเฉยๆ ตามคำสอนของหลวงพ่อไม่ใช่เหรอ

    เอาอย่างงี้ดีกว่า

    ง่ายๆ

    คุณไม่ต้องดูว่าผมปฏิบัติได้หรือไม่ได้ ไม่ต้องสืบสาวไปเลยนะ
    ให้มันจบไป

    ต่อไปนี้ ผมคือคนที่ปฏิบัติธรรมไม่เป็นเลย เอาแต่นอนไปวันๆ

    แต่ที่เห็นมาโพสนี่ ก็คือ จำคำพูดของหลวงพ่อมานั้นแหละ เอา
    แบบนั้นไป

    ส่วน ผมทำแบบนั้นทำไม ก็ง่ายๆ ผมต้องการชักชวนให้คนที่เขา
    มีวาสนาดีกว่าผมได้สดับแนวธรรมอีกแบบหนึ่ง ถ้าเขาสนใจก็คง
    ถามหาแหล่งที่มา ที่อ้างอิง แบบคุณหลิน หลังจากไปฟังแล้วเข้า
    ใจหรือไม่เข้าใจนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง ผมหมดหน้าที่ไปแล้ว แต่ถ้าจะ
    มาถามอีก ก็แน่นอน ผมเป็นดั่ง index เปิดหนังสือ หรือ แสดง
    คำพูดของพระท่านได้ อย่างน้อยก็ สุ่มไปสัก 3 ตัวอย่าง อันนี้
    คุณขวัญเป็นพยานได้ หลังจากนั้นเขาก็ปฏิบัติของเขาไป ผมก็
    หมดหน้าทีในการแสดงคำพระ จำมาพูด จบหน้าที่ปราวณา

    เอาเป็นว่า ผมทำได้แค่ไหนในสายตาคุณ ก็ให้เห็นแค่นั้นครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...