ไม่ใช่นะครับที่มักกล่าวว่า “สมถะเหมือนการหลบภัย วิปัสสนาเหมือนการผจญภัย”

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 26 พฤษภาคม 2009.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    ขอตอบว่าได้ค่ะ
    หรือครับ แต่ผมไม่เคยเห็นคุณแสดงออกมาให้เห็นแม้ส้กนิดว่าได้
    ฐานที่ตั้งอันสมควรแก่การทำงานทางจิตคุณอยู่ที่ไหนครับและตั้งขึ้นได้อย่างไร?
    ผมว่าแม้แต่อาจานขันธ์และคุณวิสุทโธก็คิดเช่นเดียวกับผมครับ

    บอกต่อได้เลยค่ะ สัมมาสมาธิคือสมาธิตั้งมั้น ไม่หลง ไม่ติด ถูกทางใช่ไหมคะ
    สัมมาสมาธิคือจิตตั้งมั่นชอบ ขอย้ำว่าต้องตั้งมั่นชอบครับ
    เมื่อตั้งมั่นชอบ ก็ต้องมีที่ให้จิตตั้งมั่น จิตตั้งมั่นลอยๆไม่ได้ครับ

    คุณแจกแจงแสดงเรื่อง “กรรมฐานก่อนสิครับ” ผมต่อเรื่องให้แน่นอน

    สำหรับท่านภูต คงไปเซเว่น ไปซื้อมาม่า
    และของแถม อีกมาก นานาใช้โทร 1112 หรือ 1145 ค่ะ
    ถ้าทุกวันนี้ยังมีพฤติกรรมแบบ 1112หรือ 1145 โดยไม่ออกกำลัง
    พึงระวัง cholesterol และ triglyceride

    เหมือนกับการฝึกวิปัสสนากรรมฐาน
    โดยไม่มีสมถะกรรมฐานเป็นพื้นฐาน พึงระว้ง วิปัสสนูและวิปัสสนึก

    ;aa24
     
  2. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    สุดยอด...ครับพี่ธรรมภูติ
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อาจานนิฯ ผู้มี ๑๐๐ ชื่อ
    คุณว่าผมชอบควักมาดม มาอม

    ก็ยังดีกว่าคุณนะครับ
    ที่ใช้วิธีคุ้ยแคะแกะเกาด้นเดาเกาหมัด
    โดยใช้วิชามารแบบนี้ไม่เหมาะสมครับ

    ไม่เกี่ยวกับการถกธรรมสักนิด
    ถึงจะถกกันยังไง ความสัมพันธ์ก็ยังต้องมีอยู่

    ;aa24
     
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เกี่ยวสิครับ จะได้รู้ไงว่า กำลังคุยกับคนมีศีล มีสัตย์ แค่ไหน

    จะได้เลือก การเห็นธรรมให้ตรงกับจริตบุคคล
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ นิวรณ์ ต้องไปเรียก วิษณุ มาเพราะเกรงว่า ชม นี้ นิวรณ์ คนเดียวคงไม่ไหวแล้วครับ
     
  6. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    จะปล่อยรู้ แล้วเข้าสภาวะ....ได้ ก็เมื่อที่ตามรูปนามจนไร้การปรุงแต่งแล้ว เมื่อไรการปรุงแต่งจึงจะมีสภาวะ เว้นการเกิดดับอยู่ช่วงสั้น ๆ เมื่อนั้นจึงควรปล่อยรู้ ^-^
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ถ้านานา นิยามคำว่าเราเห็นจิตจะผิดไหมคะ
    โดยใช้หลัการสมถะ ที่ผ่าน ฌาน 4 แล้วแล้วมาสติปฐาน 4 มันจะชัดขึ้นหรือเจริญสติ
    คุณได้ฌาน๔แล้วหรือครับ
    ถ้าคุณได้จริง จะไม่มีคำถามตามมาแบบนี้ครับ

    ใช่ค่ะ เพราะกระด้างเลยติดคิด
    แกะไม่ออก แถมบางทีคิดแทนคนอื่นด้วย ดูเขาทำ
    แค่ทุกข์ตนเอง ยังไม่มีใครกล้ารับรองว่าจะหมดในชาตินี้
    ยังจะช่วยแบกทุกข์ให้คนอื่นอีกหรือ
    ทำไมไม่บอกให้เขาปล่อยของที่แบกลงมาเองหละ

    ใช่ค่ะ ท่านภูตขา เพราะคนเราติดคิดนี่แหล่ะ คิดหน้าคิดหลัง ยอมรับความจริงค่ะ
    ครับเมื่อคนเรายังข้องอยู่กับโลก....
    ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องต่างๆที่เข้ามาได้ทุกทางรอบตนเอง
    ความต่างระหว่างอยู่ที่ว่าเรื่องจบแล้ว เรายังแบกผลของเรื่องเหล่านั้นอยู่หรือเปล่า

    เท่าที่เห็นส่วนใหญ่แล้วหลอกตัวเองว่า ฉันจะไปสนใจทำไม เรื่องจบแล้ว
    แล้วในความเป็นจริงหละเป็นเช่นนั้นมั้ย
    เรื่องเหล่านั้นยังตามมาหลอกมาหลอนเราอยู่พักใหญ่
    จนกระทั่ง มีเรื่องที่ใหม่กว่ามาเบี่ยงออกไปเท่านั้นครับ

    ค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ค่อยลดลง หลังจากมาเจอ เวปพลังจิต(หยอดๆ) อ้าว เขาเพิ่งบอกอย่าสนุกสนานกับความคิด จริงๆ แล้วก็ลดลงเยอะค่ะ
    ดีครับหยุดเป็นก็เย็นได้ หยุดไม่เป็นก็เย็นไม่ได้ หยุดที่ไหนครับ

    อันนี้ไม่แน่ใจนะ อาจจะจริตเป็นคนติดคิดค่ะ เด็กวิทย์ก็แบบนี้แหล่ะค่ะ
    ไม่ว่าวิทย์หรือศิลป์
    ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แล้วย่อมส่งจิตออกนอก(ความคิด)

    พระพุทธองค์จึงสอนให้เราหยุดให้เป็นต่างหาก
    เมื่อคราวต้องคิด ก็จงคิดด้วยเมตตา
    เพราะอวิชชาครอบงำให้มาเกิดก็เพราะความคิด
    จิตหยุดคิด จิตสังขารไม่เกิด แม้ชั่วคราวก็ยังดี

    ;aa24
     
  8. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    ตอนนี้แกออกลูกมวยทะเล..เสียศูนย์
    ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงใหม่..
     
  9. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ไม่หละ เดี๋ยวผมไปตาม วรรณวงษ์ศิริ มาช่วยดีกว่า
     
  10. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    ดีครับ คุณผู้หญิงชื่อขวัญ
    คุณบรรยายได้เห็นภาพของคนทั่วไป แม้ไม่ต้องฝึกดูจิตเลย

    คนส่วนใหญ่แล้วเผลอคิดทั้งวัน ล้วนเป็นเช่นนี้
    ต่างกันแต่คุณพยายามควบคุมความคิด
    ไม่พยายามออกไปในเรื่องที่จะตำหนิตัวเองได้
    เมื่อปล่อยคิดไม่ลงก็ให้คิดจดจ่อที่เรื่องนั้น
    คิดจนได้คำตอบที่พอใจ

    คุณยอมรับมั้ยว่า ที่ว่าพอใจนั้นไม่จริง
    เป็นแค่ยอมรับได้กับผลที่คิดต่างหาก ยังเปลี่ยนได้อีกใช่มั้ย

    คุณพูดว่า “เราก็ภาวนาดูคิดของเรา”
    คุณลองพิจารณาแบบช้าๆมีสติปัญญาดูสิครับว่าเป็นไปได้มั้ย

    การภาวนาก็เป็นอารมณ์หนึ่ง ที่ดูคิดอยู่ก็อีกอารมณ์หนึ่ง
    จิตของตนจะรับได้ทีละอารมณ์ครับ

    ถ้าคุณยังรู้ดูคิดก็แสดงว่าองค์ภาวนาเผลอขาดหายไป อยู่กับเรื่องรู้คิด
    เมื่อระลึกได้ ก็กลับมาที่องค์ภาวนาครับ
    ควรแยกให้ออกนะครับ

    เนื่องจากการปล่อยจิตให้ไหลไปตามรู้คิดอารมณ์ต่างๆทั้งวันทั้งคืน
    ย่อมแบกอารมณ์สุข-ทุกข์ทั้งวันเช่นกัน
    จิตย่อมกระด้างต่ออารมณ์เหล่านั้น
    จนเราคิดว่าเราวางเฉยได้แล้ว ไม่ใช่ครับวางเฉยที่เป็นอุเบกขาจริงๆนั้น
    เป็นการไม่เข้าไปร่วมกับอารมณ์เหล่านั้นครับ

    ;aa24
     
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    จินที่รัก ผมบอกได้เลยครับว่า
    ผมแน่ใจครับ เพราะผ่านคนที่ได้มาแล้วหลายคน
    เป็นเรื่องเดียวกันอย่างเดียวกัน
    ถ้าคนไม่เคยผ่านให้จินตนาการยังไงก็เข้าใจไม่ได้หรอกครับ

    จิตรวมใหญ่นั้นเป็นสภาวะที่จิตสลัดทุกสิ่งทุกอย่าง(ขันธ์๕)ได้ชั่วคราว
    จิตเป็นอิสระจริงๆไม่มีอะไรร้อยรัดอยู่ แต่เพียงชั่วคราว ที่เรียกว่า “วิมุตติจิตครับ”

    เท่าที่ผมเฝ้าสังเกตุพิจารณาดูอย่างละเอียดแล้วผู้ที่จะเกิดปรากฏการณ์นี้นั้น
    ทุกคนในขณะก่อนหน้านั้น(เวลามาก-น้อยแล้วแต่คน)
    จะมีการสำรวมจิตระมัดระวังจิต พูดน้อย
    ปฏิบัติภาวนามากขึ้น(ความเพียรเพ่ง คือตามรู้ตามเห็นอาการของจิต)
    กินน้อย นอนน้อย

    เมื่อถึงคราวที่เหมาะสมประคองจิตได้นิ่งพอ ไม่วอกแวกมั่นคง
    จิตก็จะรวมลงให้เห็นสภาวะของจิตที่แท้จริงว่า
    การที่เป็นจิตอิสระจากความยึดมั่นถือมั่นในกิเลสทั้งหลายมีสภาพเป็นอย่างไร

    ผู้นั้นจะไม่คลอนแคลนจากพุทธศาสนาอีกแล้วครับ

    ถ้าจินที่รักยังไม่หายสงสัย ถามคุณวิสุทโธอีกทีก็ได้ครับ

    ;aa24
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ นิวรณ์ ทิ้งเรื่อง คนอื่นไปเถิด มาสนใจเรื่องธรรมดีกว่า

    คุณ นิวรณ์ ผมมีคำพูดให้คุณพิจารณาอีกอย่าง

    ตั้งแต่ องค์ธรรม อิทธิบาท 4 พละ 5 โพชฌงค์ 7 เรียกว่า ธรรมที่ครอบตั้งแต่ ปุถุชน ไปจนถึงพระอริยเจ้า พระศาสดา ไม่เคยทิ้ง วิริยะ เลยครับ
    วิริยะ นี้คือ องค์ธรรม ที่สำคัญมาก พูดตรงๆ ก็คือ ความเพียร

    แม้ในมหาสติปัฎฐานสูตร อานาปานสติสูตร ก็ไม่พ้นกล่าวเรื่องความเพียรเอาไว้

    แต่ ธรรมของท่าน กลับบอกให้ไม่ต้องทำอะไร นอกจากดูเฉยๆ นั่นแหละครับที่ผม
    คิดว่า คุณควรจะต้องรับผิดชอบ และไม่ควรเคลื่อนไหว ในการยืนหยัดในคำสอนที่ผิดพลาดของคุณ เพราะนั่นแสดงความมีทิฎฐิมานะ

    มีจุดผิดพลาด หลายประการมากๆ และมีข้อสงสัยมากมาย เกี่ยวกับแนวทางของคุณ ซึ่งเมื่อคุณโต้คำกล่าวหาไม่ได้ ก็ควรจะยุติ บทบาทในการแสดงคำสอนที่ผิดพลาด เช่น


    1 บังคับจิตไม่ได้ มันจะทำอะไรก็ปล่อยมันไป ผลผลิตในคำสอนแบบนี้ คือ การแปลงร่างของสันโดษ การคุยเพ้อเจ้อของขวัญ และ คุณ และ ผลผลิตคนฟุ้งซ่านอีกหลายๆคน

    2 ไม่ต้องเพียร ไม่ต้องพิจารณาดูเฉยๆ ปัจจุบันจึงมีผลผลิต กิเลสเต็มบ้านเต็มเมือง ครานี้ มันจะคิดจะทำอะไรดูเฉยๆ เวลาทุกข์ ก็ดูเฉยๆ มันหายไปด้วยการหลอกตัวเอง สุดท้าย คือการพอกพูนกิเลสอย่างไม่รู้ตัว

    ผมขอให้คุณพิจารณา 2 เรื่องนี้
     
  13. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    แค่สองวัน ทำไมหลายหน้าจัง คิกๆๆๆๆ^-^
     
  14. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    แล้วที่เคยสนทนากันเมื่อผ่าน ๆ มาใยจึงกล่าวว่า จิตเป็นตน เราเป็นอะไรไม่ได้นอกจากจิต ประมาณนี้ล่ะครับ

    ถ้าจริงนี่แสดงว่าบุญบารมีบำเพ็ญมามากนะครับ ประคองให้นิ่งแล้วจิตรวม

    อีกคำถามนะครับ จิตรวม แล้วอิสระนี่มันเล็กรวมกัน หรือมันใหญ่ไพศาล ครับ คือไม่ค่อยเข้าใจคำว่าจิตรวมครับ^-^
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุญผู้หญิงชื่อขวัญครับ เมื่อจิตเป็นธาตุรู้ ก็รู้ชัดอยู่ว่าถ่านไฟนั้นร้อน
    จะต้องไปจับเพื่อให้เกิดสะดุ้งเพื่อหาประโยชน์อะไรครับ

    รู้แล้วไม่เข้าไปร่วมไม่ดีกว่าหรือครับ
    จึงได้ชื่อเป็นผู้ปฏิบัติธรรม มีสติปัญญา ภาวนาต่อเนื่องเนืองๆอยู่

    ;aa24
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    จินที่รัก พรุ่งนี้มาตอบให้ครับ

    ;aa24
     
  17. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    การปล่อยรู้ แรกๆควรจะปล่อยรู้เป็นเรื่อง ๆ ไป ฝึกปล่อยง่ายไปยาก อยู่เนือง ๆ ถ้าไปคิดรวมแล้วปล่อยเลย จะทำให้เราหลง
     
  18. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    จินที่รัก ผมบอกได้เลยครับว่า
    ผมแน่ใจครับ เพราะผ่านคนที่ได้มาแล้วหลายคน
    เป็นเรื่องเดียวกันอย่างเดียวกัน
    ถ้าคนไม่เคยผ่านให้จินตนาการยังไงก็เข้าใจไม่ได้หรอกครับ

    จิตรวมใหญ่นั้นเป็นสภาวะที่จิตสลัดทุกสิ่งทุกอย่าง(ขันธ์๕)ได้ชั่วคราว
    จิตเป็นอิสระจริงๆไม่มีอะไรร้อยรัดอยู่ แต่เพียงชั่วคราว ที่เรียกว่า “วิมุตติจิตครับ”

    เท่าที่ผมเฝ้าสังเกตุพิจารณาดูอย่างละเอียดแล้วผู้ที่จะเกิดปรากฏการณ์นี้นั้น
    ทุกคนในขณะก่อนหน้านั้น(เวลามาก-น้อยแล้วแต่คน)
    จะมีการสำรวมจิตระมัดระวังจิต พูดน้อย สำรวมอินทรีย์ทั้ง 6
    ปฏิบัติภาวนามากขึ้น(ความเพียรเพ่ง คือตามรู้ตามเห็นอาการของจิต)
    กินน้อย นอนน้อย มีแต่งานกรรมฐานเจริญสติภาวนา

    เมื่อถึงคราวที่เหมาะสมประคองจิตได้นิ่งพอ ไม่วอกแวกมั่นคง
    จิตก็จะรวมลงให้เห็นสภาวะของจิตที่แท้จริงว่า
    การที่เป็นจิตอิสระจากความยึดมั่นถือมั่นในกิเลสทั้งหลายมีสภาพเป็นอย่างไร

    ผู้นั้นจะไม่คลอนแคลนจากพุทธศาสนาอีกแล้วครับ

    ถ้าจินที่รักยังไม่หายสงสัย ถามคุณวิสุทโธอีกทีก็ได้ครับ
     
  19. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ครูบาอาจารย์ผมท่านกล่าวไว้อย่างนี้ว่า

    -----------------------------------------------------

    ที่เรียกว่า "ฝึกดูจิต" หรือ "จิตดูจิต"

    ที่ถูกคือ..."สติ" นั้นแหละ "รู้" จิต

    "ตัวเกิด" นั่นคือ "ตัวจิต"

    "ตัวรู้" ตัวจิต นั่นคือ "ตัวสติ"

    ไม่ใช่ว่า...ตัวจิต...ดูจิต

    ตัวสติ คือตัวที่ไป "รู้" ว่าจิตของเราเกิด...จิตเกิด เราก็รู้จักดับ

    การดับ การควบคุม นั่นแหละ...เขาเรียก การควบคุมจิตในระดับหนึ่ง

    เป็นการควบคุมจิต แต่ยังแยกรูปแยกนามไม่ได้

    ถ้า "แยกรูปแยกนาม" ได้ เราต้อง "แยกจิตออกจากขันธ์ ๕" ได้

    หรือว่า "แยกตัววิญญาณ" ที่จะเข้ามารวมกับความคิดนั่นแหละ...

    ถึงจะเดินเข้าสู่ "วิปัสสนา" ได้

    ฯลฯ

    -----------------------------------------------------

    ก็ค่อย ๆ สั่งสมปัญญาบารมีไปเรื่อย ๆ ครับ เต็มแล้วจะเข้าใจเอง

    ;aa47
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คนทั่วไป เขาก็เป็นอย่างที่เราเป็น เมื่อก่อนเราก็เป็นอย่างนี้
    แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนเดิม คือ การฝึกมีสติ รู้ อยู่ที่ รู้ รู้ที่ตัวเอง เพิ่มขึ้นมา
    ใส่ใจที่ตัวเอง สนใจความรู้สึกของตัวเอง จากที่เมื่อก่อน ไม่คิดว่าเป็นเรื่อง
    สำคัญ การรู้ตัวเองว่ามียินดี ยินร้าย รู้ตัวว่าคิด รู้ตัวว่าเผลอสติ คือการฝึกตน
    เข้าสู่ความเป็นกลางต่อการปรุงแต่ง

    เป็นความเชื่อส่วนตน เราเพียงแต่บอกสิ่งที่เราทำอยู่ ไม่ได้หวังว่าท่านจะเห็นดี
    เห็นงาม เห็นด้วยไปกับเรา เราชอบที่จะทำแบบธรรมดาๆ ที่คนปกติเขาเป็นอยู่
    นั้นแหละคือทางที่เราเลือกเดิน อาศัยสมบัติของมนุษย์เรียนรู้ความจริงของ
    ตนเอง ด้วยตนเอง เพื่อตนเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...