หลวงปู่ ครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง ความประทับใจ และ วัตถุมงคล

หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว คันธสีโล วัดศรีสว่าง หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ ที่มีพรรษาแก่กล้าและวัตร ปฏิบัติอันงดงาม เรียบง่าย ตามแบบอย่าง ครูบาอาจารย์ และพระสุปฎิบันโน ใน อดีตกาลผ่านมา โดยหลวงปู่จันทร์แก้ว หรือครูบาจันทร์แก้ว ชาติภูมิเดิม ท่านเป็น คนบ้านกวน โดยกำเนิด สถานที่กำเนิดหรือบ้านเดิมของท่าน ก็อยู่ บริเวณฝั่งตรงข้ามวัดบ้านกวน และห่างจากวัดไม่ไกลเท่าใดนัก หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว คันธสีโล ท่านถือกำเนิด ในสกุล ดอกศรีเมือง เมื่อ วันจันทร์ ที่ ๕ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๙ ปีมะโรง โยมบิดาชื่อ พ่อหนานนิล โยมมารดาชื่อ แม่ บัว ดอกศรีเมือง มีพี่น้องรวมกันทั้งหมด ๗ คน โดยท่านเป็นลูกคนที่ ๒ และด้วยเหตุ ที่ท่าน อยู่ใกล้ กับวัดนี้เอง ทำให้ท่านมีความผูกพัน กับวัดมาตั้งแต่เยาว์วัย จนกระทั่งท่านอายุ ๙ ขวบ โยม บิดา ได้นำท่านไปฝากเป็นเด็กวัดหรือ ทางเหนือจะเรียก เด็กวัดว่า (ขะโยม) กับท่านเจ้าอาวาส วัดบ้านกวน ในช่วงนี้ท่านได้มีโอกาสได้เล่าเรียน ตัวอักษรลานนา (ตั๋วเมือง) โดยมี พ่อชื่น หรือ สามเณรชื่นในขณะนั้นซึ่งเป็น รุ่นพี่คอย สอนหนังสือให้ท่าน และก็นับเป็น ครูคนแรกของท่านด้วย จวบจนอายุได้ ๑๒ ปี ท่านก็ได้บวชเป็นสามเณรที่ วัดบ้านกวนนี้เอง ช่วงนี้ท่านก็มีโอกาสได้เล่าเรียน นักธรรม บาลี เรียนหนังสือ ที่วัดทรายมูล ซึ่งก็ไม่ไกลจากวัดที่ท่านอยู่เท่าใดนัก และอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ อุโบสถวัดขันแก้ว โดยมีพระครูวัดทรายมูลเป็นพระอุปัชฌาย์หลังจากนั้นไม่นาน หลวงพ่อแก้วเจ้าอาวาสองค์เดิมท่านได้ลาสิกขาบท ออกไปเป็น ฆาราวาส ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดบ้านกวนว่างลง พระจันทร์แก้ว พระหนุ่มในเวลานั้น จึงต้องรับหน้าที่การเป็นเจ้าอาวาสแทน หลวงพ่อแก้ว ตั้งแต่เวลานั้นมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ในด้านการ พัฒนา หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้วท่านได้ ขยาย อาณาเขตบริเวณวัดออกไปให้กว้าง กว่าเดิม ซึ่งวัดบ้านกวนเดิมเป็นวัดเก่าแก่ มีเจดีย์ทรงลังกา ของเดิมเริ่มทรุดโทรม หลวงปู่ท่านเลยทำการบูรณะโดยการสร้างพระเจดีย์ครอบองค์เดิม และสร้างวิหาร สร้างกำแพงใหม่ ศาลาการเปรียญ ท่านได้จัดตั้งมูลนิธิวัดศรีสวาง ขึ้น เพื่อใช้ในกิจการสาธารณะประโยชน์ และค่าใช้จ่ายในวัด โดยมีคณะกรรมการดูแล
ในด้านวัตรปฏิบัติท่านยึดถือปฏิบัติแบบ “คัณทาธุระปฏิบัติ” มาโดยตลอด และเน้นหนักไปทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน ส่วน คถาอาคมนั้นท่านเล่าว่า “ก็พอมีเหมือนกันแต่ส่วนใหญ่จะเน้นการภาวนา”

ปัจจุบัน พ่อลูนซึ่งเป็นน้องแท้ๆของท่านเป็นคนอุปฐากและคอยดูแลท่าน เรื่องที่น่าแปลกอีกประการหนึ่งซึ่งพ่อลูนได้กรุณาเล่าให้ฝัง คือมีอยู่คนหนึ่งอยู่ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นคนที่มีสัมผัสพิเศษในการนิมิตไปในที่ต่างๆ ชื่อคุณไพศาล แสนไชย ในนิมิติได้เห็นพระภิกษุรูปหนึ่งกำลังเจริญภาวนาเกิดมีแสงสีน้ำเงินใสอยู่รอบตัวพระภิกษุรูปนั้น พอรุ่งเช้าก็ได้ออกตามหาตามที่อยู่ในนิมิตินั้น โดยที่คุณไพศาลกับหลวงปู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจนมาเจอกับหลวงปู่จันทร์แก้ว ซึ่งก็ตรงกันกับพระภิกษุที่เห็นในนิมิตินั้น และต่อมาคุณไพศาลได้ไปมาหาสู่กับหลวงปู่หลายครั้ง และเรื่องที่น่าแปลกอีกประการหนึ่งก็คือในวันที่มีการพุทธาพิเศกพระเครื่องนั้นในรูปถ่ายมีรูปกลมๆสีขาวลอยอยู่มากมาย มีอยู่หลายมุมและหลายๆภาพด้วยกันซึ่งก็คงไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่นอน

วัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาจันทร์แก้วนั้นมีพระผงทรงสี่เหลี่ยม สร้างปี๒๕๕๐ คราวที่ท่านอายุ ๙๐ปี ที่ท่านเป็นประธานการสร้างเองเพื่อนำรายได้เข้ามูลนิธิ สร้างจากว่าน๑๐๘ ผสมเส้นเกศา จำนวน ๕๐๐๐ องค์ เหรียญรุ่นแรกน่าจะ 3000 องค์ และเหรียญกลมรุ่นแรกสร้างขึ้น ๕๐๐ เหรียญ โดยคุณเล็ก กรุงเทพ สร้างถวาย และ ล็อกเก็ต สร้าง ๓๐๐ องค์ โดยผู้พันเป้ นายทหาร กองบิน ๔๑ สร้างถวาย และพระผงสีขาวทรงสามเหลียม ทรงสี่เหลี่ยม ผสมเกศาสร้างแจกยุคแรกๆ และหยุดสร้างเพราะเห็นว่าพิมพ์ไม่ค่อยสวยงาม เลยทำให้พระมีจำนวนน้อย หายาก วัตถุมงคลทั้งหมดได้เข้าพิธีใหญ่พร้อมกัน วัตถุมงคลของท่านจากประสบการณ์นั้นเด่นในด้านเมตามหานิยม

 

ศิษย์พี่เรานี้อาจารย์เยอะแฮะ นับถือครับนับถือ..วันหลังอย่าลืมชวนกันไปกราบบ้างนะ

 

ไม่ได้กราบท่านเป็นอาจารย์ แต่ศรัทธราในปฎิปทาของท่าน อยากเย็นเหมือนท่าน ตอนนี้ยังทําไม่ได้ เลยทําบุญกับท่านฝากกระแสไปก่อน หุ หุ _Hi__

 

ตอนที่ไปกราบท่านครั้งแรกท่านให้พระผงน่าจะเป็นรุ่นแรกท่านบอกว่าเป็นเกสาตุ๊ลุงได้มาหลายองค์เหมือนกันไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะยังเหลืออยู่ที่วัดหรือไม่ก็ไม่รู้ ใครมีโอกาสไปที่วัดลองสอบถามดูนะครับเผื่อจะได้สิ่งที่เป็นมงคลมาบูชา

 

ถ้าเป็นผงสี่เหลี่ยมยังเหลือครับ เรื่องวัตถุมงคลหลวงปู่ไม่เน้น ต้องถามท่านครับ ถ้าไม่ถามท่านก็ไม่พูด piggi

 

ใช่ครับเป็นพระผงสี่เหลี่ยมด้านหน้าเป็นรูปเหมือนของท่านด้านหลังเรียบมวลสารหลักเป็นเกศาของท่านแล้วก็ดอกไม้บูชาเสาอินทขินที่วัดเจดีย์หลวงและก็ผงธูปเป็นหลักครับเท่าที่จำได้นะครับท่านบอกให้ตอนที่ท่านแจกให้นะครับ

 

ข้างบนเป็นเหรียญรุ่น 1 ครับ เหรียญด้านขวามือของเรา ถ้าสังเกตจะมีรอยกระดํากระด่าง แต่จริงๆเป็นรอยไฟใหม้ เรื่องมีประมาณว่าเค้าได้เก็บเหรียญจํานวนนึงไว้ในถุงในห้อง ( ผมจําไม่ได้ว่าห้องอะไร หรือจะเป็นหอระฆังไม่แน่ใจ ) และได้เกิดไฟไหม้สิ่งของที่อยู่ในห้องเสียหายหมดรวมทั้งระฆังด้วยแต่ปรากฏว่าเหลือเหรียญชุดนี้ที่ไม่เป็นอะไร จะเป็นแค่รมดํานั้นหลุดนิดหน่อย คนพื้นที่จะทราบดี...อีกอย่างเหรียญรุ่นนี้หลวงปู่ดวงดี วัดบ้านฟ่อน ร่วมเสกด้วยนะครับ

 

เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์เหรียญหนึ่งของเชียงใหม่ครับ โชคดีมากเลยครับพี่

 

ครับพระผงเกศา จะมีสี 2 โทน สีเข้มกับอ่อนๆ

 

แต่พระผงเกศาที่ท่านให้มาเป็นรุ่นแรกครับด้านหน้ารูปเหมือนท่านเขียนว่าครูบาจันทร์แก้วด้านหลังเรียบสีเทาครับมีสีเดียวครับ

 

ส่วนที่ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนท่านเมองค์เป็นรุ่นหลังครับที่ด้านหลังเป็นยันต์ทำการพุทธาภิเษกที่วัดด้วยครูบาสายเหนือหลายองค์ครับ

 

ใช่แบบรูปใข่หรือเปล่าครับ

 

ไม่ใช่ครับเป็นรูปสี่เหลี่มครับ

 

​

พระผงเกศา ล็อกเก็ตและพระผงที่สร้าง

 

ผ้ายันต์เป็นรุ่นใหม่ครับ
ตอนที่ไปกราบท่านท่านบอกว่าหมดแล้วเป็นแบบที่ติดอยู่ในกุฎิที่ท่านจำพรรษาครับ

 

ครับมีคนสร้างถวายมีหลายสี นอกจากนี้จะมีผ้ายันต์นกคุ้ม ยักษ์ แบบหลวงปู่ชุ่มแต่หลวงปู่จันทร์แก้วเสก ยังมีฤาษี วัวลายออกปี 18 ด้วย

 

ผ้ายันต์ก็เยี่ยม กรอบก็งาม แล้วเลขสามตัวนี้ระวังนะครับบ่ายสามโมงครึ่งวันนี้อาจมาก็ได้...555

 

เหอ เหอ บอกช้าๆไปพี่ท่าน

 

พี่ครับ

ผมอยู่ที่เชียงใหม่อยากจะไปกราบหลวงปู่ครับ
ช่วยบอกเส้นทางหน่อย
ขอแผนที่เส้นที่เรียบทางคันคลองนะครับ

ขอบคุณไว้ก่อนเลยนะ

 

อืม เดินทางไปหางดงนะครับ จากหางดงให้หาซอยเข้ามหาลัยนอร์ท เชียงใหม่ ให้เข้าซอยตรงตามทางไปผ่านหน้ามหาลัยไปจนเจอแยกให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 2 โล วัดอยู่ขวามือครับ