ไม่ใช่นะครับที่มักกล่าวว่า “สมถะเหมือนการหลบภัย วิปัสสนาเหมือนการผจญภัย”

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 26 พฤษภาคม 2009.

  1. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ปัจจัตตัง อะพี่จินนี่ เด๋วพูดมากเขาจะว่า อวดอุตริ

    อีกอย่างท่านแนะนำเฉพาะตัวด้วยอะคะ ว่าต้องต่ออย่างไงอ่า ถ้าบอกไปอาจจะไม่เหมือนกัน

    พี่ทางทีมงานเวป แนะนำมาอะคะ โทรคุยกับท่านอะคะ ท่านเป๊ะ ๆ และเมตตามากด้วย พี่ทางเวป บอกว่า พระเกศาท่านรวมตัวแล้วอะคะ โชคดีมากที่ได้คุยกับท่าน ทำให้ไปต่อได้อะคะ เพราะแว๊ด ก็แป๊ก อยู่ ^^
     
  2. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    ...เรากำลังพูดถึง พุทโธ ในชีวิตประจำวันหรือเปล่าครับ..

    ...หรือพุทโธ ในการทำสมาธิ ในรูปแบบ..
     
  3. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่านก็เมตตาผมเสียจริง
    ผมเห็นว่าท่านชี้ไปที่ทัสนะในการแหวกอวิชชาชั่วคราว เพื่อความรู้แจ้งในระดับหนึ่ง ซึ่งวิธีการตามรู้ให้ไวไวนั้น นำไปสู่ปัญญาญาณตรงนั้นได้
    และผมก็ยังเห็นว่า มันยังเป็นเพียงทางผ่านที่ยังไม่ถึงแม้แต่ทางตรง เนื่องจากมองไม่เห็นว่าปัญญาจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
    ในทางกลับกัน การทวน พิจารณา ไต่ตรอง ใคร่ครวญในธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ธาตุ ขันธ์ อายตนะ จิต เจตสิก สามารถนำไปสู่ปัญญาที่ยิ่งขึ้นไปได้ ความรู้มันเกิดขึ้นได้ อีกทั้งยังนำไปสู่การไถ่ถอนกิเลสได้อีกด้วย
    ขอแสดงจุดยืนอีกครั้งว่า ผมไม่ได้ปฏิเสธแนวทางดูจิตแบบที่ท่านหรือพระอาจารย์ปราโมทย์แนะนำ เพราะผมก็ปฏิบัติอยู่ ควบคู่ไปกับการตรึกธรรมในบางโอกาส โดยเฉพาะในขณะที่จิตตั้งมั่นดีแล้ว...ส่วนแรกเป็นการทำความเพียรสม่ำเสมอ ส่วนหลังเป็นการเร่งความเพียรอย่างระมัดระวังไม่ให้เป็นไปตามอำนาจของตัณหา...
     
  4. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ตราบใดที่ยังไม่เข้าใจความจริงเรื่องการหลงความคิด เราหลงไปได้อย่างไร ก็จะว่าตนนั้นไม่หลง แต่เมื่อเข้าใจแล้ว จึงรู้ว่าที่ผ่านมานั้นตนหลงมาตลอด และรู้ว่าตนออกมาจากความหลงนั้นได้อย่างไร มองเห็นหนทางข้างหน้าชัดเจนทะลุปรุโปร่ง ถึงตอนนั้นไม่ต้องกล่าวอะไรให้มากความ ถ้าไม่ลดละความเพียรพยายามต้องถึงฝั่งแห่งพระนิพพานอย่างแน่นอน

    ผู้ที่ยังไม่เห็นภาวะหลง ยังแยกจิต สติ ความคิดไม่ออก จิตเข้าไปร่วมไปหลงกับความคิดได้อย่างไรก็ยังไม่รู้เลย แม้จะประกาศตนว่า ตนนั้นเป็นผู้ไม่หลง เป็นผู้มีปัญญาแล้ว ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้หลง (รวมทั้งหลงในความรู้เพียงนั้น) อยู่ร่ำไป...

    พึงศึกษาให้ดีเถิด
     
  5. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    จิตไม่มีมารยา ใช่ปะคะ ได้คำนี้มา เมื่อวาน^^
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ดีแล้ว คุณ ลีลาวดี คุณคลำเป้าได้ถูกแล้ว
    ทำอย่างไีรจะให้มัน ประจักษ์ ลงในไตรลักษณญาณ ก็คือ คุณต้อง พิจารณาทบทวนไปมา
    ว่า กายนี้ แขนขาดไป ใจเราอยู่ที่แขนนั้นไหม อายตนะจะอยู่ที่แขนนั้นไหม

    ขาขาดไป อายตนะอยู่ที่ขานั่นไหม หัวขาดไปอายตนะอยู่ที่ไหน ทำให้บ่อยๆ ในการพิจารณา จะพิจารณาอะไรก็ได้ แต่ต้องทำให้บ่อย ให้ธรรมลงสู่ใจจนเห็นจริงตามนั้น
    และที่สำคัญ คือ การมองตามความจริง มองให้เห็นธรรม แล้วกายกับธรรมจะแยกกัน

    ควรทำอย่างไร ต่อ ก็คือ ทำแบบเดิม สังเกตุผลของสมาธิให้ได้ สังเกตุปัญญาที่ยอมรับธรรมให้ได้ หมั่นพิจารณาความตาย พิจารณาให้ใจมันถอนออกจากความยึดมั่นถือมั่น

    ทั้งนี้ ต้องไม่ทิ้ง การทำกุศล การทำคุณธรรม แล้วพิจารณา จะทำให้เกิดการเห็นธรรมตัดออกจากกองทุกข์ได้
     
  7. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    คำว่า "พุทโธ" เขียน ก็ เขียน เหมือนกัน
    ออกเสียงก็ออกเสียงเหมือนกัน
    ความหมายก็ความหมายเดียวกัน

    แล้วแยกเป็น 2 อย่างนี้มันต่างกันตรงไหนล่ะครับ

    อย่างกรณีการนั่งขับรถในชีวิตประจำวัน
    การขับรถจะทำสมาธิไปด้วยไม่ได้เหรอครับ
    การเดินไปรับประทานอาหารจะทำสมาธิไปด้วยไม่ได้เหรอครับ

    ทีนั่งขัดสมาธิ ทำไมทำสามาธิได้
    ทีเดินไปเดินมา กลับไปกลับมา ที่เรียกว่าเดินจงกรม ทำไมทำสมาธิได้

    นั่งก็นั่งเหมือนกัน
    เดินก็เดินเหมือนกัน

    ทำไมจะทำสมาธิไม่ได้

    แล้วอย่างนี้มีตรงไหนที่ไม่เรียกว่าชีวิตประจำวันล่ะครับ
     
  8. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ขอบคุณครับคุณขันธ์
    เห็นแต่ไฟที่กำลังเผาไหม้มันพุ่งออกมาจากหัวกระโหลก และเบ้าตา [​IMG]

    จะเพียรพิจารณาต่อไปครับ
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    (คุณกว้านนั้นเขามีอาชีพผ่าตัดคอมฯ)<!-- google_ad_section_end -->

    ขออนุญาติ ท่านประทาน ชี้แจงเพิ่มเติม
    ไม่ได้ผ่าคอมฯ ที่เป็นเครื่อง มีรูปเป็นกล่อง แบบนั้น
    มีอาชีพ วิเคราะห์ปัญหา แก้ไขปัญหา ดูแลรักษา ระบบงานซอฟท์แวร์สำเร็จรูปซื้อจาก
    ฝรั่งมา ซื้อทั้งซอร์สโค้ด แล้วเอามาโมดิฟาย แก้ไขให้เข้ารูปเข้ารอยกับงานของบริษัท
    เป็นระบบงานเกี่ยวกับการประกันชีวิต เป็นงานที่มาได้ 10 ปีแล้ว ผ่านงานมาหลายระบบ
    แต่งานนี้ หินที่สุดในชีวิต ตอนที่เริ่มระบบงานใหม่ๆ มีปัญหาต้องแก้ไขทุกวัน บางทีต้อง
    แก้ไขข้ามวันข้ามคืน บางทีไล่แก้ซอร์สโค้ด ต่อเนื่อง 8 โมงเช้ายันเที่ยงคืน บางทีก็แก้
    ตอน ตี2 จนกว่าปัญหาจะแก้ได้ แก้ไม่ได้ก็ยังเลิกไม่ได้ ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีเดินต่อ
    ให้ได้ สารพัดจะตีลังกาคิด เป็นหัวหน้าระบบงานต้องหาทางออกให้ได้ทุกสถานการณ์
    ตัวเราเองนะ เวลาเข้าสู่สถานการณ์ที่มีปัญหาต้องแก้ไข มันจะฮึดขึ้นมา แล้วเหมือนสว่าน
    เจาะ ไม่รู้แรงมันมาจากไหน เหมือนกันนะ แล้วเวลาจะผ่านไปเร็วมาก ลืมหิว ลืมกินลืมนอน
    พอเสร็จงาน ก็เป็นลม นอนหลับยาวแบบว่าหมดแรง เราโชคดีอย่างหนึ่งนะ เวลาทำงาน
    ยากๆ เหมือนมีโชคช่วย จะเห็นทางที่เดิน จะรู้ว่าต้องไปเจาะที่ส่วนไหน โปรแกรมมีเป็นพัน
    ไม่ได้รู้คีย์เวิร์ดทุกเรื่อง รู้แต่กว้างๆเป็นโมดุล เป็นชุดๆ ก็เจาะเข้าไปงมๆ มันก็ไปเจอตอได้
    พอเจอ ตอ ก็รู้ชัดว่าเรื่องนี้ต้องแก้แบบนี้ ก็จดไว้ที่เด๊ดโน๊ด สมุดส่วนตัว เป็นคีย์ส่วนตัว
    กันลืม เวลาเจอปัญหาเดิมจะได้ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ พอจดๆไป 10 ปีมานี่ก็เจาะทะลุ
    เกือบหมดแล้ว ก็ถึงคราวเสวยสุข ระบบมันนิ่งแล้ว ก็ไม่ค่อยมีปัญหาให้ต้องหัวหกก้นขวิด
    ทุกวัน ทุกคืน ตอนนี้ถ้าต้องไปเริ่มงานหนักแบบเดิมใหม่อีกรอบ ก็ไม่รู้จะทำได้เหมือนเดิม
    ไหมนะ มันเอียนงานหนัก แล้ว อ้อ ตอนนี้มีงานเข้าอีกแล้ว ก็หนักหนาอยู่เหมือนกัน
    งานเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี เกิดเป็นคนนี่ มีแต่งาน ทุกลมหายใจ เลย นะ ก็เล่าสู่กันฟัง
    ว่าพื้นฐานเราเป็นอย่างนี้

    การทำงานก็คือการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง งานของเราก็ต้อง ใช้สมาธิ ตั้งมั่นจดจ่อ
    กับการแก้ไขปัญหามาตลอด ก็เลยเป็นคนช่างคิด วิเคราะห์ปัญหา มองหาช่องลอด
    ต้องเลือกทางแก้และตัดสินใจตลอดเวลา เพื่อคลี่คลายปัญหา ก็เลยหัวโตไปโดยปริยาย
    บางปัญหามันอยู่ในสมองตลอดเวลา บทมันนึกออกมันก็ออกมาเอง บางทีไปคิดได้
    ตอนเข้าห้องน้ำบ้าง ตอนอาบน้ำบ้าง ตอนที่ลืมปัญหาไปซักพัก มักจะมีคำตอบดีดี
    โผล่มาให้เราแบบไม่รู้ตัว ก็มี ไม่รู้คนอื่นเป็นแบบเราไหม ยิ่งมาได้ปฏิบัติธรรม ก็เสริม
    การทำงานของเราให้ดีขึ้น ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น รู้ทันอารมณ์ตนเอง เข้าใจคนอื่น
    ทำให้ปัญหาที่มีกับเพื่อนร่วมงานลดลง
     
  10. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ไปวัดป่าทีไร ได้รับความอัศจรรย์ใจต่อท่านทุกครั้งในหลายสิ่งๆ เฉพาะตน

    ดีที่ไม่ได้เขียน "รวมเรื่องเล่า...สิ่งที่เห็น"
     
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เหมือนกันสิ มันต่างตรงที่ตามรูปแบบ มันต้องเริ่มด้วยการนมสิการแรงหน่อย

    แต่กรณีในชีวิตประจำวัน จะเหมือนไม่ได้นมสิการ เหมือนมันเกิดเอง แต่ต้อง
    ดูให้ดีๆ มันยังมีการ นมสิการ อยู่นิดหน่อย บางมาก สังเกตตอนที่ชำเลือง
    ไปเจอว่าจิตภาวนาอยู่ ( สายอานาปานสติ ก็จะชำเลืองลงไปเห็นมันรู้ลมอยู่)
    ถ้าถอยออกมาทันทีก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าชำเลืองไปแล้วเกิดการรู้ต่อเนื่อง
    ชำเลืองต่อเนื่อง ตรงนี้ระลึกดูความยินดีพอใจ มีอยู่ไหม ถ้ามีอยู่นั่นแหละ
    ผลพวงของการที่ยังมีเจตนานมสิการอยู่

    -- ความเหมือนที่คงเดิม คือ ความเป็นจิตสังขาร -- แต่ต่างความแรงในการ
    นมสิการ

    และผลพวงของความพอใจนั้นจะสร้าง ภพนิ่งๆ ว่างๆ คล้ายสุญญตาแบบ
    มหายานแต่ไม่ใช่ เพราะตรงนี้จะไม่เห็นจิตเคลื่อน หากคุณกลับใจ จำ
    ปริศนาธรรมดูธงได้ จะเห็นว่า เขาเห็นจิตเคลื่อน คุณก็ลองระลึกดูดีๆว่า
    คุณเห็นจิตเคลื่อน หรือ เห็นความเที่ยง ถ้าเห็นความเที่ยง ก็จะไม่ถูก ก็
    ต้องระลึกดูความพอใจ หรือ ความไม่พอใจ ทีมันเกิดขึ้นอยู่ ตรงนี้ก็ต้องดู
    เป็นรายกรณี สถานที่ และเวลา

    เมื่อกำจัด อภิชญา โทมนัส เสียได้ จึงจะเห็นสภาวะ สมาธิที่อยู่ที่ฐานของ
    สติได้ถูกต้อง เมื่อเห็นฐานสติถูดต้อง จึงเริ่มนับ 0 1 2 3 ในการเจริญสติ

    คำว่าเจริญสติที่ใช้มาก่อนหน้า เป็นการใช้โดยอนุโลมเรียก เพื่อกำลังใจ

    การเจริญสตินั้น แท้จริงแล้วไม่มีหยุด ....ทั้งนี้เพื่อความไม่กำเริบกลับ แต่
    ไม่ใช่เพื่อการรู้ถ้วนในรูปนามอะไรอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2009
  12. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96


    ...สมาธิในชีวิตประจำวันของผมพุทโธมันจะเป็นแบบเนืองๆ..เผลอบ่อย..

    ...ไม่ถึงกับแนบติด..สบายๆ..

    ...ทำแค่พุทโธช้ารู้..ไวรู้..สิ่งมากระทบรู้..รู้แล้วมันก็พุทโธต่อ..แค่นี้..



    ...ในการทำสมาธิในรูปแบบ..(ทำก่อนนอน)..

    ...สติมันจะแนบติดไปกับพุทโธเลย..

    ...จนพุทโธนั้นหายไป...พอมีสิ่งมากระทบ..

    ...ก็ถึงจะเริ่มพิจารณาอย่างละเอียด..

    ...ผมเลยมีสองมาตราฐาน..ในพุทโธ..

    ...ถูกผิดอย่างไรโปรดชี้แจง..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2009
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็ ถ้ามันเห็นแบบนั้น ให้เป็นนิมิต สิ่งที่สำคัญในการพิจารณานิมิต คือ พิจารณาอย่างไรก็ได้ให้มันลงสู่ธรรม ให้ใจเกิดสลดสังเวชให้ได้ แล้วนิมิตนั้นจะดีหมด จะเป็นตัวไถ่ถอนทั้งหมด

    ประการสำคัญ คือ อย่าคิดว่า กายนี้ถาวร เมื่อกายไม่ถาวรแล้ว มันต้องตาย เมื่อตายแล้วจิตจะเป็นอย่างไร มันจะติดอยู่กับกายเนื้อหรือ

    ดิน น้ำ ลม ไฟ ทั้งนั้น เมื่อเราพิจารณาแบบนี้ เราจะเห็นว่า จิตนี้แยกจากกาย เมื่อจิตแยกจากกาย แล้ว สิ่งทั้งหลายที่ปรากฎขึ้นกับใจ ไม่ว่าจะเป็น ความรู้สึกต่างๆ ความคิดต่างๆ เราจะมองว่าไม่ใช่ตัวเรา ทั้งหมด ก็จะเห็นลักษณะของมันเอง เมื่อเห็นลักษณะของมัน ก็จะทำให้ใจยอมรับ ธรรมทั้งหลายทั้งปวงได้ รู้ซึ้งตามธรรม อันเป็นเหตุให้ เข้าใจรุ้เห็นตามความจริงทั้งปวง

    คราวนี้ พอใจไม่หลงไปตามอุปาทาน ก็จะมองสภาพความจริงยิ่งๆ ขึ้นไป จิตเห็นจิต เห็นธรรม เห็นทาง นั่นแหละ จะไปถึงมรรคผลได้เอง เป็น ปัจจัตตัง เป็น อัตตาหิอัตโนนาโถ
     
  14. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196
    สาธุ...ขอตัวไปทำงานก่อนครับ
    เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับทุกท่าน
     
  15. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ท่านผู้เจริญ ปัจจุบันผมนั่งไม่นาน ลมหายใจละเอียดจนเป็นอัปปนาสมาธิอยู่แล้ว

    นั่งแป๊บเดียวก็ลงถึงฐานสมาธิอันแน่นแฟ้นท่านผู้เจริญ
     
  16. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เดี๋ยวจะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวย คุณกลับใจก็ทำได้ดีอยู่แล้วในการเห็น

    ชื่อ user ยังบ่งบอกเลยว่ามีความละอายในบาป ตรงนี้สำคัญนะ คนเราถ้ามันสุดทางเลวแล้ว เห็นชั่วว่าไม่ใช่ทาง มันก็เจริญ ^-^
     
  17. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif>สมาชิก 1 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ sriaraya5 ที่เขียนไว้ทางด้านบน</TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>visutto (วันนี้)

    ขอบคุณนะครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    นอกเรื่องนิด สงสัย
    sriaraya5<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2151067", true);</script>วันที่สมัคร: Mar 2006
    สถานที่: ไม่แน่นอน อยากไปอยู่ยุโรป อยากไปอยู่ยุโรปเหรอคะ อยากไปประเทศอะไรเหรอคะ คุณศรี ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ถามดูเฉยๆ นะคะ
     
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    สมมติฐาน ของเวทนาค้นได้ที่ไหน ถ้าไม่ใช่จิต???
    เวทนาเกิดขึ้นที่ไหน???
    ทำลายสมมติฐานของเวทนาด้วยอะไร มีวิธีอย่างไร???

    ขอเถอะนะครับท่าน อย่าใช้วิธีเดิมๆตอบโดยไม่ตรงประเด็น
    แล้วแถมยังชอบแถออกนอกเรื่อง เมื่อตอบไม่ได้ ไม่เพิ่มพูนปัญญาครับ

    ปัญญาโลกียะมิจฉาทิฏฐิ ก็เข้าใจแบบเข้าข้างกิเลสตัวเอง เมื่อท่านไม่เห็นตรง

    กับคู่แห่งบุรุษสี่ บุรุษบุคคลแปด ท่านจะไปเอาปัญญาเพิ่มพูนมาแต่ไหน

    ก็ท่านลบหลู่คุณท่าน

    สมมติฐาน ของเวทนาค้นได้ที่กาย ยาววา หนาคืบ กว้างศอกนี้เท่านั้น

    ทำลายสมมติฐานของเวทนาได้ด้วยความเพียร

    บุคคลจะล่วงพ้นทุกข์ได้ก็เพราะความเพียร

    ถึงแม้จะได้เสวยทุกขเวทนาที่กล้าเผ็ดร้อน อันเกิด

    เพราะความเพียรก็ดี ถึงจะไม่ได้เสวยทุกขเวทนาที่

    กล้าเผ็ดร้อน อันเกิดเพราะความเพียรก็ดี

    ขนาดได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า ก็สามารถบรรลุ

    ธรรมได้
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านวิมุตติครับ ผมรู้สึกเป็นห่วงนะครับ
    ทุกอย่างในโลกนี้ทีมีความเป็นมาเป็นไปนั้น
    ล้วนเกิดแต่เหตุทั้งสิ้น อันนี้เป็นลายเซ็นของท่าน

    เหตุที่จะทำให้การดูจิตเป็นหนึ่ง(หลวงปู่ดูลย์)นั้น
    ท่านต้องฝึกฝนอบรมสมาธิภาวนากรรมฐาน
    ให้รู้จักสภาวะจิตเป็นหนึ่งเสียก่อน(ให้รู้จักจิตที่แท้จริง)

    เมื่อรู้จักดีแล้ว
    ท่านจะไปดูอะไรไม่ว่า กาย เวทนา จิต ธรรม ย่อมได้ผลเท่ากันหมด

    เพราะรู้จักจิตเป็นหนึ่ง ทำให้รู้เห็นตามความจริงว่า
    จิตกับจิตสังขารเป็นคนละอย่างกันครับ

    ทุกวันนี้เท่าที่ผมสังเกตุดู เป็นการดูจิตติดสังขาร
    จนจิตคุ้นชินกระด้างต่ออารมณ์ เข้าใจผิดคิดว่ามีปัญญา
    ทั้งๆที่เป็นการติดสัญญามัดแน่นหนาอีกหลายชั้น

    ไม่ใช่จิตวางเฉยต่ออารมณ์ที่แท้จริง
    เป็นเพียงจิตปรุงอารมณ์เฉย ต่างกันโดยสิ้นเชิงนะครับ

    พิจารณาด้วยความรอบคอบนะครับ
    จะได้ไม่ต้องเสียใจที่ต้องเสียเวลาเดินผิดโดยไม่ปูพื้นฐานให้ดีเสียก่อน

    ผมเองกล้ายืนยันว่า
    ผมสมาทานมานานกว่าคนที่คิดว่ารู้จักการดูจิตเสียอีก

    ถ้าใช่ผมรับไปนานแล้ว ไม่ใช่คือไม่ใช่ครับ
    ถ้าดีจริง ครูบาอาจารย์สายปฏิบัติ ต้องยอมรับกันไปแล้วครับ
    แม้แต่หลวงพ่อสนอง ยังอุทานเลยว่า อะไรมันจะง่ายขนาดนี้

    หลวงพ่อสนองเอง ท่านฝึกปฏิบัติสมาธิภาวนา ในป่าช้ามาไม่น้อยกว่า ๓ ปี
    ชีวิตส่วนใหญ่เดินธุดงค์ในป่าเพื่อปลีกวิเวกหาความสงบสงัด
    เพื่อเรื่องเดียวคือ รู้จักจิตเป็นหนึ่ง ตามความเป็นจริง

    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...