ไม่ใช่นะครับที่มักกล่าวว่า “สมถะเหมือนการหลบภัย วิปัสสนาเหมือนการผจญภัย”

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 26 พฤษภาคม 2009.

  1. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    กลัว เขารู้ว่าแก่ ละซิ ลุ๊ง หุหุหุ ลุงจินนี่
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ว๊าย... ท่านจอมยุทธหญิงมา
    ข้าน้อย ขออภัย
    ข้าน้อย สมควรตาย
    ท่านจอมยุทธหญิง โปรดอภัยให้ข้าน้อย ด้วย... เต๊อะ

    ด้วยความเคารพ
    :z12
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านจินฯครับ
    ผมคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนปฏิบัติดูจิตอย่างท่านที่เคยคุยอวดว่าตัวเอง
    ได้ถึงแล้วซึ่งอะไรนั้น กลับไม่รู้จักปัจจุบันธรรม

    ผมคุยกับท่านทีฯ มีเรื่องจิตคือนามขันธ์มั๊ย? ...ไม่มี
    ดูอย่างท่านนานา ประไร ท่านถึงมีอคติอยู่บ้าง แต่ไม่ปล่อยให้อคติครอบงำจิตใจ
    เป็นผู้รู้จักตามความเป็นจริง ว่าผมคุยกับท่านทีฯเรื่องอะไร
    ได้แต่เพียงอาฆาตไว้ว่า อย่าให้รู้บ้างก็แล้วกัน ไม่ปล่อยไว้แน่

    แต่ท่านจินฯ ไม่ใช่อย่างนั้น มีอคติเต็มหัวจิตหัวใจ
    ท่านกับผมเคยสนทนากันถึงเรื่อง จิต ว่าเป็นนามขันธ์หรือ?... ไม่เคย
    แต่เหตุผลที่ท่านยกมานั้นฟังไม่ขึ้น ขาดความเป็นผู้รู้เรื่องจิตเป็นหนึ่ง(ดูจิต)

    ธรรมที่ผมคุยกับท่านทีฯนั้นไม่เกี่ยวกับจิตคือนามขันธ์เลย
    ทำไม ธรรมที่ผมถกกับท่านทีฯนั้นถึงจะอธิบายไม่ได้ ท่านอธิบายไม่ได้เองต่างหาก
    แล้วยังใช้วิธีเดิมๆ กล่าวร้ายว่า ผมคิดแต่จะพูดเท่านั้น ไม่พิจารณาที่จะรับฟังเลย
    ท่านผิดแล้วครับ ถ้าผมไม่พิจารณาที่จะรับฟัง
    ผมคงไม่สามารถตั้งคำถามแย้ง ได้ตรงประเด็นหรอกครับ

    ท่านจินฯ ท่านตอบผมหน่อยครับว่า พระบรมครูสอนเรื่องขันธ์ ๖ไว้ในที่ไหนบ้าง
    ถ้าจิตเป็นขันธ์แล้ว ยังสามารถบรรลุมรรคจิต ผลจิตได้ด้วยหรือ?
    ทำไมเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ถึงไม่มีบรรลุมรรคผลบ้างล่ะ

    จิตไม่ใช่วิญญาณขันธ์ครับ
    ถ้าจิตเป็นวิญญาณ ก็ต้องมีพุทธพจน์มารองรับ

    ท่านอย่าเอาอคติส่วนตัวมาทำให้คนในบอร์ดนี้ เสียหายไปกับท่านด้วยเลย
    ไหน ไหน ไหน เห็นสอนกันจริง สอนกันจังว่าให้รู้ปัจจุบันธรรม
    พอถูกถามว่าตั้งอยู่ที่ไหน ไพล่ไม่ตอบ แถมยังแสดงอาการให้รู้อีกด้วยว่า
    ยังไม่รู้จักปัจจุบันธรรมที่แท้จริง

    วันหลังเลิกทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้ได้แล้วนะครับ เป็นตย.ที่ไม่ดีของอนุชนรุ่นหลัง
    ปล.อย่าลืมไปเอาหลักฐานยืนยันด้วยนะครับว่าพุทธพจน์มีสอนเรื่องขันธ์ ๖ ไว้ที่ไหน
    อย่าบอกนะครับว่า พระองค์ทรงแอบสอนแต่พวกท่าน(ดูจิต)เท่านั้น
    ถ้ามีหลักฐานมาเมื่อไหร่ ผมถึงจะยกเลิกการไม่เห็นด้วย

    ;aa24
     
  4. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านอาจานน้องนิฯ ผมไม่เคยทวงถามเรื่องอนุโมทนาหรือไม่อนุโมทนา
    อย่ามั่วนิ่มสิครับ

    ท่านอาจานน้องนิฯ ผมไม่รู้จริงๆว่าทำไมถึงกดไม่เห็นด้วย (ไม่ใช่ไม่โมทนา)
    อาสวะอะไรไปรองรับ...ก็กามาสวะไงครับ รองรับ การไม่โมทนา

    แต่การไม่เห็นด้วย ถ้ากล้ากด ก็ควรแสดงความอาจหาญให้เห็นว่าไม่เห็นด้วยเรื่องอะไร
    ศาสนานะครับ ไม่ใช่เกมที่ต้องชิงไหวชิงพริบกัน
    ผมถามท่านว่า แล้วใครล่ะ ที่ไม่วาง "ใครรู้?" ลงบ้างหละ

    เลิกหลงเชื่อแบบผิดๆได้แล้วว่ามีแต่สภาวะเท่านั้น แต่ไม่มีสิ่งรองรับสภาวะนั้น
    มันขาดเหตุผลที่จะไปอธิบายให้เด็กฟังได้

    มีแต่การปล้นธนาคาร แต่ผู้ปล้นกลับไม่มี แต่ดันปิดธนาคารไม่ให้คนเข้า
    หรือ มีแต่การตาย ผู้ตายไม่มี แล้วนิมนต์พระมาสวดทำไม บาปกรรม

    ถ้าสอนอย่างนี้ไป เด็กจะเชื่อมั๊ยเนี่ย

    มีแต่สิ่งที่ถูกรู้ แต่ผู้รู้กลับไม่มี
    ไปสอนเด็กอนุบาล เด็กอนุบาลยังถามเลยว่า “ใครรู้?”

    มีแต่จิตที่ไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่นในสภาวะนั้นต่างหาก
    เพราะจิตมีสภาพ ยืนตัวรู้ จึงได้ชื่อว่า ผู้รู้

    เลิก งม “งาย” ได้แล้ว
    การงม “เข็ม” ในมหาสมุทรนั้น ว่ายาก แต่ งม “งาย” นั้น ยิ่งยากกว่า

    เลิกเถอะ หัดรู้จักอายเด็กเล็กเค้าบ้าง พูดจาอะไร ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ควรมีเหตุผล

    ;aa24
     
  5. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    ท่านอาจานนิฯ เลิกคิดเองเออเองได้แล้ว ไม่รู้ก็ไม่มีใครว่า<O:p
    ถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าไม่รู้<O:p
    คำว่า ต้องปล่อย(วาง)นั้น หมายถึง <O:p
    ปล่อยวางการที่จิตชอบออกไปรู้รับอุปกิเลสมาเป็นแขกจรเข้ามา<O:p
    <O:p
    ขอทีเถอะ เลิกเปรียบเทียบมั่วๆได้แล้ว<O:p
    มีที่ไหนเปรียบเหมือนการเหวี่ยงงูไปรอบๆ จะบ้าหรือ<O:p
    ถ้าเกิดเหวี่ยงไม่พ้นคอหละ ตายแหงแก๋<O:p
    <O:p
    จะมาย้อนดูการจับยึดอะไรได้หละ ตายไปแล้ว ไม่ต้องดูแล้ว<O:p
    เมื่อรู้ว่าจับยึด เหวี่ยงได้ก็ควรเหวี่ยงออกไปเลย ให้ยิ่งไกลยิ่งดีก็แล้วกัน

    ;aa24

    <O:p></O:p>
     
  6. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านอาจานนิฯครับ
    ผมเตือนด้วยเมตตาจริงๆ ไปหัดปฏิบัติสมาธิภาวนากรรมฐาน
    ให้รู้จักจิตเป็นหนึ่งก่อน เพราะเป็นสภาวะที่ละเอียดจริงๆ
    แม้ลมหายใจก็ละเอียดไปด้วย

    ที่ท่านพูดน่ะ จากสัญญาทั้งนั้น
    มีที่ไหนในโลก ที่ไม่รู้จักลมละเอียดจะมาละหยาบเข้าสู่ละเอียดได้
    ฝันยังไม่เป็นจริงเลยครับ

    เป็นการคิดเหมาเอาเองว่า ละจากหยาบไปสู่ละเอียด
    แต่แท้จริงแล้ว เป็นการละจากหยาบมากไปสู่หยาบที่น้อยกว่า

    ท่านรู้จักปัจจุบันธรรมหรือยัง ถ้ายังก็ไปฝึกฝนซะ จะได้รู้จักจิตเป็นหนึ่ง
    จะได้รู้จักละจากหยาบไปสู่ละเอียดได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่คิดเหมาเอาเอง

    แค่หยาบมาสู่ละเอียดยังไม่ได้เลย อย่าไปพูดถึง เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ เลย

    ;aa24
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อาจานน้องนิฯ ครับ
    พูดได้โดนใจจริงๆ “จิตที่ถูกปรุงแต่งก็คือจิตที่ออกจากฐานของสติ”
    พูดไปได้ว่าออกจากฐาน ขณะนั้นจิตขาดสติไปชั่วขณะออกไปปรุงอารมณ์กุศลอยู่
    “ที่เค้าเรียกว่า ติดดีในดี ยังไงหละ” จำได้มั๊ย ผมเคยพูดไปแล้ว

    พวกดูจิตติดอาการของจิต ชอบกันนักกันหนา
    แต่หาใช่กุศลจิต (ปีติ ที่เกิดจากการละอกุศลทั้งหลายได้)
    แต่เกิดจากความที่จิตกระด้างต่ออกุศลจิตเหล่านั้น
    แล้วคิดวางเฉยต่ออารมณ์เหล่านั้น
    กลับหลงเข้าใจว่า ละได้แล้ว

    โอ้ว พระเจ้าจอร์ช มันมั่วมาก

    ;aa24
     
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ผมตอบไปก่อนที่พี่จะโพสกลับมาแล้วครับ เรื่องรูปนามนี่ มันก็คลอบคลุมไว้ดีแล้วนะครับ



    ลองคลิกเข้าไปดูเองนะครับ �����Ը����͹�Ź�... ^-^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2009
  9. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    to2504

    ขอต้อนรับการกลับคืนสู่สังเวียน คุณ ผึ้ง
     
  10. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    โห เรียกสังเวียร ไปสะแล้ว <label for="rb_iconid_25">[​IMG]

    </label>
     
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านจินฯครับ ตกลงท่านอ้างด้วยปากเปล่า ผมคงรับไม่ได้นะครับ
    เมื่อมีพุทธพจน์รับรองไว้ ท่านกลับไม่เชื่อ
    แสดงว่าท่านไม่เคยเชื่อการตรัสรู้ของพระองค์เลยเหรอครับ

    มีตรงไหนในพระสูตรที่พระองค์ท่านสั่งสอนเรื่องขันธ์๖
    จะมีแต่พุทธบุตรที่ขานนาคเข้ามาเพื่อเข้ามาสืบต่อพุทธศาสนา
    แต่กับกล่าวไม่ตรงกันกับจอมศาสดาแบบนี้ควรเรียกว่า....อะไรดีครับ

    ท่านรู้จักเก็บไปตรองด้วยปัญญาบ้างนะครับ
    ไม่ใช่เชื่อตามๆกันมา โดยไม่ใช้หลักกาลามสูตรเลย
    แล้วยังพระสูตรและพระวินัยที่จะเป็นศาสดาของเธอ
    ผมยังยืนยันหลักฐานอยู่ดีนะครับ การพูดปากเปล่านั้นเป็นสิ่งเลื่อนลอยครับ

    ถ้าวิญญาณกับจิตเป็นสิ่งเดียวกัน จอมศาสดาจะพูดแยกกันเพื่ออะไร
    อย่าคิดเองเออเองตามชอบใจสิครับ แล้วชาติศาสนาจะเหลืออะไร

    ผมเอาพระสูตรมาเพื่อยืนยันว่า
    จอมศาสดากล่าวไว้ว่าวิญญาณ ไม่ใช่สิ่งเดียวกันกับ "จิต"

    ก็จิตไม่ใช่ทั้งรูปขันธ์ทั้งนามขันธ์ จะมาครอบคลุมได้ยังไง

    ;aa24
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อนัตตลักขณสูตร
    [๒๒] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล
    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อย่างใดอย่างหนึ่ง
    ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก
    หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่ารูป
    เธอทั้งหลายพึงเห็นรูปนั้นด้วยปัญญาอันชอบ ตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

    [๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    อริยสาวก ผู้ได้ฟังแล้ว เห็นอยู่ อย่างนี้
    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในรูป
    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา
    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสัญญา
    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสังขารทั้งหลาย
    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในวิญญาณ
    เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมสิ้นกำหนัด เพราะสิ้นกำหนัด จิตก็พ้น
    เมื่อจิตพ้นแล้ว ก็รู้ว่าพ้นแล้ว
    อริยสาวกนั้นทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว
    กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.

    [๒๔] ฯลฯ ก็แลเมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสไวยากรณภาษิตนี้อยู่
    จิตของพระปัญจวัคคีย์ พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น

    ชี้ด้วยนะครับว่าตรงไหนที่มีกล่าวไว้ว่า คำว่าจิตกับวิญญาณใช้แทนกัน
    เลิกทำความเสียหายให้กับพระสูตรเสียทีครับ ผมกล่าวในฐานพุทธบุตรครับ
    ทำไมไม่กล่าวว่าวิญญาณก็พ้นหละครับ ของแบบนี้คิดเองเออเองไม่ได้ครับ

    ;aa24
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ฉวิโสธนสูตร
    ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างไรเล่า
    จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในอุปาทานขันธ์ ๕ นี้ ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว[อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระได้แล้ว
    บรรลุประโยชน์ตนแล้ว โดยลำดับ สิ้นสัญโญชน์ในภพแล้ว พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบ
    จึงนับว่ามีธรรมอันสมควรจะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า

    ดูกรท่านผู้มีอายุ
    ข้าพเจ้ารู้แจ้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แล้วแลว่า
    ไม่มีกำลังปราศจากความน่ารัก มิใช่เป็นที่ตั้งแห่งความชื่นใจ

    จึงทราบชัดว่า จิตของเราหลุดพ้นแล้ว
    เพราะสิ้น สำรอก ดับ สละ และสลัดคืนซึ่งอุปาทานขันธ์
    ที่ยึดมั่นใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    และอนุสัย คือความตั้งใจและความปักใจมั่นใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ได้

    ดูกรท่านผู้มีอายุ
    จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล
    จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในอุปาทานขันธ์ ๕ นี้

    พระสูตรนี้ยิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่ ชาวพุทธต้องเชื่อในการตรัสรู้พระองค์
    สาวกและจอมศาสดาย่อมไม่กล่าวขัดแย้งกัน
    ความจริงยังมีนกุลปิตาสูตร ก็ไว้ชัดเจนเช่นกัน
    "อริยสาวกนั้น เมื่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณปรวนแปรไป
    จิตของท่านหาปรวนแปรตามไปไม่" ยังอีกเยอะครับ

    ;aa24
     
  14. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ถ้าพี่กล่าวเช่นนั้น เห็นเช่นนั้น จะกลายเป็นปฎิบัติไปหาความเที่ยง ซึ่งจะไม่เห็นสภาวะธรรม เอานะ

    ผมบอกให้ตรง ๆ แบบไม่อ้อมคอมแล้ว

    รูป คือสิ่งที่มองเห็น มีรูปลักษณ์ บรรยายลักษณะ ขนาด น้ำหนัก สั้นยาว สีสัน ได้
    แล้ว นาม คือ อะไรที่สิ่งที่ไม่ใช่รูป มิใช่หรือไง ^-^
     
  15. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    โสดา-อรหันตาได้ยัง

    เราถามเฉยๆ ไม่มีใครรู้เกินพระพุทธเจ้า

    รองลงมาก็พระอรหันตาทั้งหลาย
     
  16. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    นาม คือ อะไรที่ไม่ใช่รูปกระนั้นหรือ จินนี่

    แล้วนิพพานไม่ใช่รูป ถือว่าเป็นนามหรือเปล่า???

    สิ่งที่ไม่ใช่รูป ต้องเป็นนามทั้งหมดหรอ???

    โถ่ จินนี่ ตอบมาได้ ไม่ได้เรื่องเลย...ปฏิบัติยังไง โง่เหมือนเดิม...
     
  17. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241

    [​IMG]
     
  18. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ตามภาษาคนรู้น้อย ถ้อยศึกษา55+ขออภัย

    ขออนุญาตร่วมวง โง่
    เพราะถ้าจะว่า โง่ ...ทุกคน...จิตมีอวิชชาครอบงำ...ก็เรียกว่า โง่ หมด
    เพราะจิตไม่รู้จักอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง เพราะไม่ปฏิบัติอริยมรรค ๘

    แต่จะโง่มากโง่น้อย ก็ขึ้นกับว่า โง่ซ้อนโง่เข้าไปอีก...
    มากน้อยก็แล้วแต่กิเลส กรรม วิบาก ของแต่ละคน


    ความจริงที่คุณจินนี่ กล่าวว่า
    รูป คือสิ่งที่มองเห็น มีรูปลักษณ์ บรรยายลักษณะ ขนาด น้ำหนัก สั้นยาว สีสัน ได้
    แล้ว นาม คือ อะไรที่สิ่งที่ไม่ใช่รูป มิใช่หรือไง

    โดยความเห็น คิดว่ากล่าว ไม่ผิด
    แต่เข้าใจความหมายที่พี่ธรรมภูตยกพระสูตรมา อาจไม่ตรงกัน


    พี่ธรรมภูต จะชี้ให้เห็นว่า จิต ไม่ใช่ขันธ์ ๕ คือ ไม่ใช่รูปขันธ์ และนามขันธ์
    หรือง่ายๆ คือ จะชี้ให้เห็นว่า จิต ไม่ใช่ วิญญาณขันธ์


    ส่วนถ้าพูดลอยๆว่า รูป ว่า นาม กว้างๆก็คือ รูปธรรม นามธรรม
    ถ้าอย่างนี้ จิต เป็นนามธรรม เพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง จับต้องไม่ได้

    จิตเป็นนามธรรม แต่ไม่ใช่ นามขันธ์ ...นามธรรม กับนามขันธ์ ต่างกันนะคะ
    นามขันธ์ คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เท่านั้น (ไม่รวมจิต )
    นามธรรม คือ สรรพสิ่งที่ไม่มีรูปร่างให้จับต้องได้ (รวมจิต เข้าไปด้วย)

    จิต มีดวงเดียว เอกจรํ...ไม่ใช่ขันธ์...เพราะขันธ์ เป็นกอง


    เรื่องในโลก ต้องเข้าหลักทวินิยม มีสิ่งที่ตรงกันข้าม
    รูป ตรงข้ามกับ นาม ...

    แต่พระนิพพาน ไม่เข้าหลักทวินิยม เป็นเอกพจน์ มี ๑ เดียว
    พ้นจากโลกแล้ว พ้นจากสมมุติบัญญัติ
    พระนิพพานจึงไม่เป็นทั้งรูป ทั้งนาม

    อันนี้ คุณวิมุตติก็กล่าวถูก ในแง่ว่า

    แล้วนิพพานไม่ใช่รูป ถือว่าเป็นนามหรือเปล่า???


    (smile) ค่ะ ก็ตามอัธยาศัย... โง่รู้ว่าโง่ สักวันจะพ้นได้ 55+ขออภัย
     
  19. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    รูป

    เห็นก็สักแต่ว่าเห็น อย่าไปคิดลึก คิดมาก เสียเวลา ปวดหัวด้วย
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านวิมุตติ ความจริงผมว่าจะกดไม่เห็นด้วยในคคห.ของท่านที่พูดว่าท่านจินฯ
    "ปฏิบัติยังไง โง่เหมือนเดิม" แท้จริงแล้วไม่ใช่ โ..เหมือนเดิม โ..มากขึ้นกว่าเดิม
    แถมยังเก้อ-ยากกว่าเดิมอีกด้วย

    โดยเฉพาะผมกับท่านจินฯถกกันมาก็หลายครั้ง ผมผิดหวังมาก แทนที่จะก้าวหน้า
    แต่ไหงกลับถอยหลัง หนีห่างจากความเป็นจริงยิ่งขึ้นก็ไม่รู้

    คนโง่คนฉลาดต่างกันเพียงเส้นขั้น ส่วนจิตนั้นเหมือนกันทุกท่าน
    ชำระให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้วได้เท่าเทียมกันทุกท่าน

    พระองค์ทรงสอนให้ปฏิบัติอริยมรรค๘เพื่อชำระจิตให้บริสุทธิ์
    ถ้าจิตเป็นเพียงนามขันธ์ ซึ่งเป็นของเหลวไหลพึ่งพาไม่ได้
    พระองค์ท่านจะสอนเรื่องชำระจิตไปเพื่ออะไร ให้เสียเวลาปฏิบัติไปเปล่า

    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...