การนั่งสมาธิ วิปัสนา กรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พันตา, 4 มิถุนายน 2009.

  1. Peace in mind

    Peace in mind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +370
    สาธุ...

    สาธุ ด้วยนะท่าน
    ------------------------------------------------------
    "มหาบัณฑิต ผู้รู้ในทุกเรื่อง เป็นปราชญ์ในทุกด้าน กล่าวแต่เรื่องที่ตนรู้ อวดในเรื่องที่ตนเก่งต่อนายท้ายเรือ ผู้พายเรือให้มหาบัณฑิตนั่ง นายท้ายเรือรู้สึกว่าตนโง่เสียเต็มประดา เพราะไม่รู้เรื่องที่มหาบัณฑิตกล่าวแก่ตนเอาเสียเลย พอเกิดเหตุคลื่นลมทะเลรุนแรงถาโถมจนเรือล่ม มหาบัณฑิตกลับเอาตัวรอดไม่ได้ จมน้ำตาย แต่นายท้ายเรือว่ายน้ำเป็นรอดชีวิต" จำเค้ามาเล่าอีกที
     
  2. Peace in mind

    Peace in mind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +370
    เอ่อ..ท่านพิมพ์ผิดไปรึป่าว

    แย่แล้วท่าน... สติตกใจเตลิดไปไหนแร้ว อ่านทวนก่อนโพสต์นะท่าน วาง วาง ปล่อย ๆ บ้าง... เอาเวลาไปอยู่กับครอบครัวบ้างก็ดีนะท่าน อย่ากังวลไปเลย ว่าใครเค้าจะเดินทางไหน ขอให้ท่านเดินไปให้สุดทางที่เลือกเดินโดยสวัสดิภาพก็แล้วกันนะท่าน สาธุ
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ที่ว่า ..แต่ในส่วน อภิธรรม ผมอ่านมายังไม่มีจุดไหนผิดเพี้ยนนะครับ แต่เผอิญว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นการอธิบายโดย พระอาจารย์ภายหลัง โดยเห็นชัด ดังนั้นในแง่ของ อมตะวาจาที่ครอบไปทั้งหมด ดังพระวินัยและ พระสุตตันตะปิฎก ก็เห็นว่า อาจจะไม่มี
    ......ที่ว่า พระอาจารย์ภายหลัง พระอาจารย์ภายหลังนี่ใช่ พระสาวกไหมครับ.. แล้วเป็นพระที่สำเร็จอรหันต์หรือเปล่า
    ...มีในคัมภีร์ นึง ที่ บอกว่า
    [๓๙๗] บัณฑิต ไม่ควรทำตนให้เป็นมิตรสหายกับคนที่ชอบส่อเสียด มักโกรธ
    ตระหนี่ และผู้ปรารถนาให้ผู้อื่นพินาศ เพราะการสมาคมกับคนชั่ว
    เป็นความลามก แต่บัณฑิตควรทำตนให้เป็นมิตรสหายกับคนผู้มีศรัทธา
    มีศีลน่ารัก มีปัญญา และเป็นคนได้สดับเล่าเรียนมามาก เพราะการ
    สมาคมกับคนดี ย่อมมีแต่ความเจริญอย่างเดียว เชิญดูร่างกายอันมี
    กระดูก ๓๐๐ ท่อน ซึ่งมีเอ็นใหญ่น้อยผูกขึ้นเป็นโครงตั้งไว้ อันบุญกรรม
    ตบแต่งให้วิจิตร มีแผลทั่วทุกแห่ง กระสับกระส่าย คนโง่เขลาพากัน
    ดำริเป็นอันมาก ไม่มีความยั่งยืนตั้งมั่น พระอานนทเถระผู้โคตมโคตร
    เป็นผู้ได้สดับมามาก มีถ้อยคำไพเราะ เป็นผู้อุปฐากพระพุทธเจ้า
    ปลงภาระลงแล้ว บรรลุอรหัต สำเร็จการนอน พระอานนทเถระสิ้นอาสวะ
    แล้ว ปราศจากกิเลสเครื่องเกาะเกี่ยวแล้ว ล่วงธรรมเป็นเครื่องข้อง
    แล้ว ดับสนิท ถึงฝั่งแห่งชาติและชรา ทรงไว้แต่ร่างกายอันมีในที่สุด
    ธรรมทั้งหลายของพระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ตั้งอยู่แล้ว
    ในบุคคลใด บุคคลนั้น คือ พระอานนทเถระผู้โคตมะ ชื่อว่าย่อมตั้งอยู่
    ในมรรคเป็นทางไปสู่นิพพาน พระอานนทเถระได้เรียนธรรมจาก
    พระพุทธเจ้ามา ๘๒,๐๐๐ ธรรมขันธ์ ได้เรียนมาจากสำนักภิกษุมีพระธรรม
    เสนาบดีเป็นต้น ๒,๐๐๐ ธรรมขันธ์ จึงรวมเป็นที่คล่องปากขึ้นใจ
    ๘๔,๐๐๐ ธรรมขันธ์....อ่านต่อได้
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    แหะ แหะ โดนแสงเล็กน้อย พอได้รู้สึกตัว แก้ง่วง
    เห็นเขาปล่อยแสงกัน เลยลองดูมั่ง ก็ได้เพลิน ไปกับเขา นิดหน่อย
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    แนวทางแรกๆ ของผม ฟังครูทำตามไม่ถามไม่เถียงเมื่อเข้าใจ..... เมื่อทำตามได้แล้วก็มาถามต่อ

    ช่วงที่ผมฝึกอย่างจริงจังครูท่าน สอนไม่กี่คำไม่กี่ประโยคเอง กรรมฐานที่ครูบอกผม คำแรก ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ท่านเป็นพระชอบเดินป่า ท่านไม่ใช่นักเทศน์ ท่านชอบสอนสั้น ๆที่เหลือให้เราไปทำตามคำสอนสั่นๆ
     
  6. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ถามสั่น ๆ ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วคุณวิษณุ

    แนวทางการสอนถูกวางแบบจากพุทธะองค์ก่อนนี้

    จนตกมาถึงรุ่นผม กับ รุ่นคุณ

    ปฏิบัติให้ดู แล้วไปปฏิบัติธรรมเอาเอง

    ปฏิปัติควบคู่ไปกับการสอน

    สอนอย่างเดียวไปปฏิบัติเอาเอง

    ยัดเยียดวิชาความรู้ให้ ไม่เอาก็ต้องเอา

    ถ้าถูกเลือกให้เป็นผู้ที่จะหลุดพ้นไปจากโลก

    คือหมู่สัตว์ ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2009
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    32 ครับสั้นๆ
     
  8. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ขออนุญาต นำบทความมาให้อ่านเป็นธรรมทัศน์ค่ะ

    การนับพระธรรมวินัยเป็น 84,000 พระธรรมขันธ์

    กล่าวตามข้อเท็จจริงแล้ว ไม่มีพระพุทธพจน์ที่ได้ตรัสเรื่อง
    การนับพระธรรมวินัยว่า มี 84,000 พระธรรมขันธ์ไว้ ณ ที่ใดเลย

    ไม่เคยตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราได้บัญญัติพระธรรมวินัยไว้ 84,000 พระธรรมขันธ์” ดังนี้เป็นต้น

    แต่เห็นคำบาลีที่เรียบเรียงไว้ในบทสวดมนต์ที่ชื่อ “มงคลจักรวาฬ” ว่า
    จตุราสีติ สหสฺสธมฺมกฺ ขนฺธานุภาเวน แปลว่า ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมขันธ์ 84,000
    เท่านั้น ซึ่งเป็นภาษาบาลีที่แต่งขึ้นภายหลัง เพื่อให้ศีลให้พรชาวบ้าน

    เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้ทรงบัญญัติการนับพระธรรมขันธ์เป็น 84,000 ไว้ ณ ที่ใด
    การนับเช่นนี้จึงเกิดขึ้นภายหลังพุทธกาลอย่างมิต้องสงสัย

    มีหลักฐานปรากฏอยู่ในสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัยและธรรมสมบัติ
    หมวดที่ 2 สังคีติกถาสำนวนเก่า
    ซึ่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรณาณวโรรส ทรงชำระเมื่อ ร.ศ.125 บอกว่า
    พระวินัยปิฎก มี 21,000 พระธรรมขันธ์
    พระสุตตตันตปิฎก มี 21,000 พระธรรมขันธ์
    และพระอภิธรรมปิฎก มี 42,000 พระธรรมขันธ์
    รวมเป็น 84,000 พระธรรมขันธ์

    ส่วนหลักเกณฑ์ที่จะนับพระธรรมขันธ์ว่าเป็นอย่างไรนั้น
    ก็ย่อมว่ากันไปตามความเข้าใจของอนุชนภายหลัง
    แต่หามีผู้ใดขยันลงมือไปนั่งพลิกตำราเพื่อนับพระธรรมขันธ์ไม่

    สำหรับฝ่ายพระสูตรนั้น ว่ากันไว้ว่า ถ้าจบข้อความลงเรื่องหนึ่ง ก็เป็นพระธรรมขันธ์หนึ่ง
    ถ้าเรื่องนั้นมากมีหลายนิทานรวมกันอยู่ หากนับได้เท่าใดก็เป็นพระธรรมขันธ์จำนวนเท่านั้น
    ส่วนคาถาพันนั้น ได้นับข้อถามเป็นพระธรรมขันธ์หนึ่ง และข้อที่ตอบเป็นอีกพระธรรมขันธ์หนึ่ง
    ดังนั้น พระสุตตตันตปิฎก มีอยู่ 17,505 เรื่อง

    ถ้านับเรื่องหนึ่งเป็นหนึ่งพระธรรมขันธ์ ก็ไม่ถึง 21,000 พระธรรมขันธ์
    และถ้านับคำถามคำตอบในคาถาพันแล้วคิดเป็นจำนวนพระธรรมขันธ์เท่ากัน
    ก็เกิน 21,000 พระธรรมขันธ์

    ส่วนพระวินัยนั้น นับนิทานอันหนึ่ง มาติกาอันหนึ่ง บทภาชนีย์อันหนึ่ง แต่ละเรื่องในโกฏฐาส
    ต่างก็เป็นพระธรรมขันธ์อันหนึ่งๆ ก็ไม่ลงตัว 21,000 พระธรรมขันธ์ เช่นที่กล่าวนี้

    และพระอภิธรรมนั้น นับหัวข้อธรรมในติกะและทุกะแต่ละอัน และแจกวาระจิตแต่ละอัน
    เป็นพระธรรมขันธ์หนึ่งๆนับรวมกันแล้วก็ไม่ถึง 42,000 พระธรรมขันธ์

    รวมความแล้ว ยังไม่มีผู้ใดนับให้ชัดได้จริง
    คงเป็นแต่พูดรวมๆว่า 84,000 พระธรรมขันธ์ตามๆกันไปเท่านั้น

    ดังนั้น จึงเป็นการตั้งขึ้นของคนชั้นหลังเท่านั้น
    ซึ่งไม่เป็นสิ่งที่จำเป็นและสลักสำคัญอะไรที่จะมานั่งนับพระธรรมวินัยว่ามีเท่าใด
    เพราะยังมีงานอื่นที่สำคัญยิ่งกว่านี้อีกมากมาย นั่นคือ

    การปฏิบัติสัมมาสมาธิ เพื่อขัดเกลาจิตใจของตัวเองให้หมดกิเลสอย่างแท้จริง
    มิใช่เรียนธรรมะเพียงเพื่อพูดได้เก่ง แต่ไม่สามารถขัดเกลาจิตใจตัวเองแต่ประการใดเลย

    (smile)
     
  9. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    สัมมาสมาธิ เกิดเองโดด ๆ ได้เหรอ ^-^
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เพราะเกิดมี สัมมาสติ จึงมีโอกาสได้ สัมมาสมาธิ

    ถ้าเข้าใจ สัมมาสติ ไม่ถูก ถึงอ่านพระไตรปิฎก ครบ 3 รอบ

    ก็ได้แต่ สมมุติของพระพุทธองค์ ยังห่างไกล สัมมาสมาธิ และ สัมมาปัญญา

    ความเข้าใจของเรานะ ถ้าไม่ตรงกับผู้ใด ก็ไม่เป็นไร

    เพราะมันเป็นความคิดมันเป็นของเรา... อะดิ ใครอยากได้ก็มาเอาไปจากเราไม่ได้

    แต่ก๊อปปี้ อิมพอร์ต เอาไปไว้ที่ตัวคนอื่นได้นะ ...

    เอาไปแล้วก็ไปตีกันเองกับความคิดเดิมของตัวเอง

    แล้วก็ทนอยู่ไม่ได้ ต้องหาทางกำจัดมัน แล้วแทนที่ จะกำจัดความขัดแย้งที่ตนเอง

    โน่น... จะไปแก้ที่คนอื่น จะไปล้างความคิดคนอื่น... มิจฉาทิฏฐิ แท้ๆ

    เอ่อ... คือว่า ขออภัย พอดีมันทนอยู่ไม่ได้ ก็เลย ... ซะหน่อย

    แค่ความเห็นไม่ตรงกัน นะ... ไม่ได้มีเจตนา จะทำร้ายจิตใจผู้ใด เลยจริงๆ นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2009
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    สรุป ผมไปอ่านที่โกหกพกลม อรรถกถาจารย์ นี่หลอกลวงอย่างนั้นหรือ หากเป็นอย่างนั้น แสดงว่า 84000 พระธรรมขันธ์ไม่มีจริงอย่างนั้นเหรอ...
    ...เคยไปอ่านผ่านเวปหลวงปู่สรวงถ้าจำไม่ผิด ท่านว่า พระไตรปิฏกไทยยังสมบูรณ์ แต่ท่านไม่ได้เจาะจงว่า เฉพาะอะไร .... หากเป็นอย่างที่โกหกพกลมพูดอย่างนั้นหลวงปู่สรวงท่านจะมุสาเหรอ ก็กระไรอยู่ ...หรือหากเป็นจริงอย่างโกหกพกลม ... แสดงว่าพระไตรปิฏกไทยไม่สมบูรณ์อย่างนั้นหรอกเหรอครับ
    ....ใครที่รักษาพระไตรปิฏกไทย หรือมีความรู้ออกมาชี้แจงหน่อยได้ไหมครับ
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ข้าพเจ้า เข้าใจว่า เข้าใจเรื่อง "สัมมาสติ" ไม่ตรงกัน พาให้โลกวุ่นวาย หนอ

    อีกอย่าง การแสดงความเห็น ก็คือ การแสดงปัญญา
     
  13. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    สมบูรณ์ ละเอียด ครบถ้วน จะกี่ล้านอสงไขย กี่หมื่นจักรวาล กี่แสนโลกธาตุ กี่พันภพภูมิ ก็ไร้ที่ติ สำหรับไตรปิฎก ^-^
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พระไตรปิฎก พอมาสถิตย์ใน ปุถุชน ก็กลายเป็น พระสัทธรรมปฏิรูป บิดเบือนเข้างทางตน
    เพราะความคิดของตนมันไม่บริสุทธิ ความคิดของปุถุชนเป็นมิจฉาทิฏฐิในทางธรรม

    เราจึงต้องเพียรให้เกิดมี สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เพื่อมีสัมมาปัญญา จะได้มีสัมมาทิฏฐิ
    เอาไปเข้าใจธรรมของพระพุทธองค์ ไปเข้าใจพระไตรปิฎก ให้ถูกต้องตามจริง

    ถ้า ยังไม่เข้าใจตัวเอง จะคิดว่าไปเข้าใจคำสอนในพระไตรปิฎก
    เราก็ว่า เข้าข่ายเป็นมิจฉาทิฏฐินะ เพราะ อ่านแล้วไม่รู้จริง
    ก็เอาความคิดของตนบิดเบือนพระธรรมเข้าทางตนเอง แล้วบอกว่าเป็นความรู้

    เราพูดแรงไปไหม ตัวเราเอง เราก็ยังมิจฉาทิฏฐิ เต็มกบาลอยู่เลย ก็เลยได้แต่หวังว่า
    ผู้มีสัมมาทิฏฐิแล้ว จะอภัยในความคิดความเห็น ของเรา ส่วนคนที่ยังมิจฉาทิฏฐิอยู่ ก็คง
    ไม่อภัยให้ความคิดของเรา อยู่ดี
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พระไตรปิฎกฉบับเดียวกัน
    ถ้าท่าน ถามจากผู้มีสัมมาทิฏฐิ ท่านผู้นั้นก็ กล่าว อย่างหนึ่ง
    ถ้าท่าน ถามจากผู้มีมิจฉาทิฏฐิ ท่านผู้นั้นก็ กล่าว อย่างหนึ่ง

    ท่านจะเชื่อผู้ใดดีล่ะ
    ส่วนข้าพเจ้า พระไตรปิฎก มีไว้เพื่ออ่าน เพื่ออ้างอิงความรู้
    ไม่ได้มีไว้ถือว่าตนเข้าใจถูกคนอื่นที่อ่านแล้วเข้าใจไม่เหมือนตนคือผิด

    ถ้าเรามีปัญญาถึง อ่านแล้วเข้าใจ แล้วรู้ว่าเข้าใจจริงๆ หายสงสัย
    ถึงจะเป็นความรู้ ว่าอ่านแล้วรู้อ่านเพื่อหายสงสัย

    ถ้าอ่านแล้วมีสงสัย ก็เรียกว่า ยังไม่รู้จริง ติดนิวรณ์
    ถ้าอ่านแล้วคิดว่าตนเข้าใจถูก คนอื่นเข้าใจต่างจากตนคือผิด ก็เข้าข่าย
    มิจฉาทิฏฐิอีก เพราะไปยึดว่าตนเข้าใจถูก ยึดว่าที่เข้าใจต่างจากตนคือผิด

    ยากแท้น้อ เหมือนเล่นกล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2009
  16. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    อาการ 32 เต็มไปด้วยของไม่สะอาดมีประการต่าง ๆ ไม่มีอะไรที่น่ารักน่าปรารถนา ไม่มีความสะอาด เป็นบ่อของกิเลสตัญหา

    ร่างกายนี้มันไม่มีสภาพเป็น<WBR>แท่งทึบ แล้วกายเราก็เต็มไปด้วยความสกปรกโสโครก แล้วกายของบุคคลเต็มไปด้วยของไม่

    สะอาดกายของผมเป็นนี้อย่างนี้ จงถอนความพอใจจากรูปร่างกายนี้แล้วท่านจะข้ามจากโอฆะ ได้เอง
     
  17. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิษณุ12 [​IMG]
    สรุป ผมไปอ่านที่โกหกพกลม อรรถกถาจารย์ นี่หลอกลวงอย่างนั้นหรือ หากเป็นอย่างนั้น แสดงว่า 84000 พระธรรมขันธ์ไม่มีจริงอย่างนั้นเหรอ...
    ...เคยไปอ่านผ่านเวปหลวงปู่สรวงถ้าจำไม่ผิด ท่านว่า พระไตรปิฏกไทยยังสมบูรณ์ แต่ท่านไม่ได้เจาะจงว่า เฉพาะอะไร .... หากเป็นอย่างที่โกหกพกลมพูดอย่างนั้นหลวงปู่สรวงท่านจะมุสาเหรอ ก็กระไรอยู่ ...หรือหากเป็นจริงอย่างโกหกพกลม ... แสดงว่าพระไตรปิฏกไทยไม่สมบูรณ์อย่างนั้นหรอกเหรอครับ
    ....ใครที่รักษาพระไตรปิฏกไทย หรือมีความรู้ออกมาชี้แจงหน่อยได้ไหมครับ


    คุณ วิษณุ12 ขอรับอย่ามัวแสวงหาการตรัสรู้จากการเรียบจบแต่พระไตรปิฏกภายนอกอยู่เลยขอรับ

    พระอริยทุกตระกูล ทำให้แจ้งการจบพระไตรปิฏกภายใน
    ก่อน จึงจะเป็นตัวตรัสรู้ธรรมะ ที่มีอยู่แล้ว

    ความรู้ขั้นตรัสรู้แล้วออกมาชี้แจงถือว่าสิ้นสุด
     
  18. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    นึกว่ารู้ความหมายผมเสียอีก...ผมเข้าใจที่ท่านศรีฯกล่าว
     
  19. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    จงถอนความพอใจจากรูปร่างกายนี้แล้วท่านจะข้ามจากโอฆะ ได้เอง.....แล้วท่านศรีฯ ถอนความไม่พอใจในรูปร่างกายนี้หรือยัง



    ก็อายุ 32 มันเท่า อาการ 32เลยตอนนี้...
    พูดถึงเรื่อง โอฆะนี่ ...เมื่อเร็วๆนี้ .. ฝันว่าไปกราบพระรูปนึงท่านนอนอยู่แล้วท่านก็ลุกมานั่ง ลูบกระหม่อมผมแล้วท่านบอกว่า เดือนหน้าผมจะข้ามโอฆะได้...ในฝันนั้นเหมือนจิตบอกว่าเป็นหลวงพ่อ วิริยังค์ แล้วก็ตื่น ...แต่ก็แค่ฝัน
     
  20. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    เป็นเพราะเจตจำนงค์ในการดับความเกิดของจิต ฝืนความเคยชินไม่ให้มันเกิดได้ง่าย ๆ ไม่มี จิตมันก็เลยยังวิ่งเกิดได้ตามความเคยชินนั้น ๆ แต่ทีนี้ที่มันวางได้ ไม่ใช่เพราะจิตมันไม่เกิดแล้ว แต่มันวางได้เพราะมันคุ้นเคยหรือคุ้นชินกับความเกิดแม้เล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นแล้ว ซึ่งก็คือจิตมันยังเกิดอยู่ดี มันละเอียดมาก เป็นเช่นนั้นรึป่าวครับ

    --------------------------------------------------------

    ผมมีความเห็นดังนี้ว่า

    คนที่ ยังพอใจความเคยชิน ก็จะทำตามความเคยชินนั้นต่อไป

    คนที่ ไม่พอใจความเคยชิน ก็จะรังเกียจ และผลักไสความเคยชินเหล่านั้นด้วยการไม่ทำตามความเคยชิน อย่างจิตเกิดฯ

    คนที่ เห็นว่าความเคยชินก็สักว่าความเคยชิน ก็จะเพิกเฉยต่อความเคยชินนั้น เขาอาจวางความเคยชินได้ แต่ความเคยชินนั้นก็ยังคงอยู่ จิตย่อมมีสิทธิวิ่งเกิดได้ตลอดเวลา

    ส่วนคนที่ มองเห็นโทษของการหลงทำตามความเคยชินได้ด้วยปัญญา้แล้ว เขาละความเคยชินได้เด็ดขาดด้วยสติ (มิใช่ด้วยอารมณ์รังเกียจ พอใจ หรือไม่พอใจ) จิตย่อมไม่เกิดเพราะความเคยชินใด ๆ อีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...