การนั่งสมาธิ วิปัสนา กรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พันตา, 4 มิถุนายน 2009.

  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ชื่อผมก็เป็นอากาศ นามสกุลผมก็เป็นอากาศ

    ร่างกายนี้มันไม่มีสภาพเป็น<WBR>แท่งทึบ

    ผมถอนความพอใจในรูปร่างกายนี้แล้ว จิตผมไม่ได้เป็นของโลกนี้ และ โลกหน้า ท่านผู้คงแก่เรียนทั้งหลาย
     
  2. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ขอเรียนอย่างนี้นะคะ คงจะไม่อาจกล่าวเยี่ยงนั้น

    ที่นำมาเสนอ จุดประสงค์เพื่อเปิดธรรมทัศน์ของนักศึกษาธรรมะในยุคปัจจุบัน
    ให้รู้ว่าครูบาอาจารย์แต่ก่อน ท่านมีการถกอะไรกันมาบ้าง

    เนื่องจากลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่เปรม ล้วนแต่เข้าวัยชราทั้งนั้น
    ไม่มีใครเล่นเนท หนังสือของท่านที่ตกทอดมาถึงมีหลายเล่ม
    เมื่อมีเวลา ก็ค่อยๆทยอยพิมพ์มาให้อ่านกันน่ะค่ะ

    เรื่องโกหกพกลม ที่พิมพ์มาให้อ่านนั้น
    จากหนังสือ ซึ่งลูกศิษย์คนหนึ่งของท่าน
    ถอดเทปการสนทนากับหลวงปู่ มาให้ได้อ่านกัน
    และเรื่องต่อไป เรื่องธรรมะวิจารณ์
    อันนี้ก็จะมีวิจารณ์ถึงพระอภิธรรม เรื่องจิตไม่ใช่วิญญาณ
    เรื่องที่หลวงปู่เปรม ปะทะคารมกับแม่อภิธรรม (แม่แนบ)
    ต่อหน้าสมเด็จพระมหาวีรวงศ์...และ ฯลฯ...

    และในหนังสืออีกเล่ม ซึ่งหลวงปู่รจนาเอง
    จะมีเรื่องวิจารณ์พระอภิธรรมปิฎก ซึ่งหลวงปู่เปรมรับคำสั่งจาก
    สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (เจ้าคุณอ้วน ติสโส) เจ้าคณะฝ่ายธรรมยุติ
    ในยุคนั้น ให้เขียนถวายท่าน ซึ่งท่านก็ลงนามรับรอง

    เนื่องจากยังไม่มีเวลาพิมพ์มาให้อ่าน...(กำลังพิมพ์อยู่)
    ถ้ายังไงก็ ค่อยติดตามอ่านเพื่อเป็นธรรมทัศน์ค่ะ


    (smile) ขอบคุณค่ะ
     
  3. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    อนุโมทนาค่ะ >_<

    เอามาฝากจากหนังสือ หลวงปู่ฝากไว้ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)


    เรื่อง ปรารภธรรมะให้ฟัง

    คำสอนทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์นั้น
    เป็นเพียงอุบายให้คนทั้งหลายหันมาดูจิตนั่นเอง
    คำสอนของพระพุทธองค์มีมากมาย ก็เพราะกิเลสมีมากมาย
    แต่ทางที่ดับทุกข์ได้มีทางเดียว คือ พระนิพพาน

    การที่เรามีโอกาสปฏิบัติธรรมที่ถูกทางเช่นนี้มีน้อยนัก
    หากปล่อยโอกาสให้ผ่านไป เราจะหมดโอกาสพ้นทุกข์ได้ทันในชาตินี้
    แล้วจะต้องหลงอยู่ในความเห็นผิดอีกนานแสนนาน เพื่อจะพบธรรมอันเดียวกันนี้

    ดังนั้น เมื่อเราเกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้ว รีบปฏิบัติให้หลุดพ้นเสีย
    มิฉะนั้นจะเสียโอกาสอันดีนี้ไป เพราะว่า เมื่อสัจจธรรมถูกลืม
    ความมืดมนย่อมครอบงำปวงสัตว์ให้อยู่ในกองทุกข์สิ้นกาลนาน

    (smile)
     
  4. พันตา

    พันตา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +60
    หลังจากตั้งกระทู้มาหลายวัน มีประโยคนึงใน reply นึงที่อ้างถึงธรรมะของพระปราโมทย์ และผมถามกลับไปว่าใช่พระปราโมทย์เดียวกันกับหนังสือที่ผมพึ่งได้มาหรือไม่ (เหมือนบังเอิญๆได้มาทันทีหลังจากที่ผมเริ่มศึกษาเรื่องนี้ โดยมีคนให้มาเองเลย) ซึ่งท่านผู้นั้นก็ตอบว่าให้คอยดูต่อไปเอาเอง วันนี้ได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับ "ทางสายกลาง" "สัมมาสมาธิ" และเรื่อง "การไม่สุดโต่ง" ผมว่า ท่านสรุปเนื้อหาได้ตรงกับใจผมคิดไว้เลยนะครับ ผมว่า ธรรมะในความคิดของผมนี่คือแบบนี้เลย เพียงแต่ผมน่าจะรู้แค่เศษเสี้ยวธุลีของท่านเท่านั้น ซึ่งหลังจากอ่านมาแล้ว ผมรู้สึกว่าท่านน่าจะเป็นครูบาอาจารย์ที่ดีเลยทีเดียว ไม่เข้าใจว่าที่ บางท่านว่าไว้ว่า พระอาจารย์ท่านเดินคนละทางกับพระอรหันต์(รวมถึงคำสอนเดิมของพระพุทธเจ้า)ทั้งหลายนั้นคืออะไรครับ ผมยังไม่เห็นพระอาจารย์ท่านจะสอนอะไรแปลกๆเพี้ยนๆเหมือนเกจิบางท่านด้วยซ้ำ ใครช่วยอธิบายทีว่า ที่ว่า
    เดินสาย A สาย B ของท่านนั้น อยู่ที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไรครับ ช่วยลองให้ปัญญากับผมเพิ่มหน่อยนะครับ ขอบพระคุณครับ
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    คำสอนพระศาสดาที่ไว้เทียบเคียงได้ ไม่ว่าผู้ใด กล่าวสอนเนื้อความหมายตรงตามนี้แล้วก็ใช้ได้แล้วครับ
    ..

    1.ธรรมใดเป็นเหตุให้คลายราคะ
    2.ธรรมใดเป็นเหตุให้ไม่เกาะเกี่ยว
    3.ธรรมใดเป็นเหตุให้ไม่สะสม
    4.ธรรมใดเป็นเหตุให้มักน้อย
    5.ธรรมใดเป็นเหตุให้สันโดษ
    6.ธรรมใดเป็นเหตุให้สงัด
    7.ธรรมใดเป็นเหตุให้มีความเพียร
    8.ธรรมใดเป็นเหตุให้เลี้ยงง่าย
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ วิษณุ ธรรมที่เป็นเครื่องบอกว่า ถูกต้อง ตามพระศาสดา คือ
    ทำกุศลให้ถึงพร้อม
    การละอกุศลและบาปทั้งปวง
    ทำจิตของตนให้ผ่องใส นั้นคือคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

    ทำตามนี้ แล้วไม่ตกต่ำ ต้องเข้าใจว่า การเดินไปตามวิถีนี้ หากว่าไม่ตัดภพตัดชาติในชาตินี้ได้ ก็ย่อมเข้าสู่สุคติภูมิอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งยังเป็นปัจจัยนำไปสู่พระนิพพาน ไม่ขาดสาย

    ดังนั้น เดินไปตามเส้นทาง นี้แหละดีแล้วครับ
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    บางท่าน เขาไม่มีวาสนาต่อกัน ต่อให้ธรรมนั้นวิเศษอย่างไร ก็น้อมเข้าสู่ใจเขาไม่ได้
    บางที่ก็เป็นเรื่องของวิบากกรรม นานาจิตตัง

    พระอาจารย์ท่านเขียนหนังสือ และเทศน์ไว้หลายที่ หลายกาละ หลายเทศะ กันบุคคลหลาย
    ประเภท และหลายสมัย หลายวาระ ตั้งแต่สมัยฆราวาส มีที่เว็บลานธรรม ก็มี ทีนี้บางครั้ง
    เรื่องท่านสอนต่อบุคคลพวกหนึ่ง แต่ไปกระทบความคิดของคนอีกพวกหนึ่ง เขาก็ไม่ชอบใจ
    ไม่ได้เนื้อหาที่เป็นความจริงของท่าน จับมาส่วนที่ไม่ชอบไว้ ส่วนอื่นๆเขาไม่สนใจ

    ตย.คือ มีบางช่วงที่ท่านสอน คนที่ติดฌาณแล้วไม่ออกพิจารณาทุกข์ ท่านก็สอนในแบบที่
    ท่านทำผ่านมา แต่อาจไม่ตรงจริตของบางคน เขาก็โจมตีหาว่าท่านห้ามทำฌาณ แต่ถ้า
    ลองพิจารณาให้ดี ท่านห้ามเฉพาะบางคนที่ติด ส่วนบางคนที่ต่อได้ท่านก็เสริมให้ เพราะตัว
    พระท่านเอง ก็ทำฌาณมาตั้ง20ปี ได้มั้ง ก่อนจะเริ่มเรียนวิปัสนากรรมฐาน จากหลวงปู่ดุลย์
    และพระท่านสอนให้ดูสภาวะธรรมตรงๆ ด้วยสมาธิเล็กน้อย ก็เริ่มดูไปได้เลย แต่บางคนเขา
    ก็แย้งว่า ต้องได้ฌาณก่อน ถึงจะเริ่มดูสภาวะ เริ่มวิปัสสนา ก็นานาจิตตัง อีก แล้วแต่คน
    มอง เราเองก็มองแบบนี้ บางทีก็ไม่ตรงกับคนอื่น อธิบายไปยังไงก็ไม่เข้าใจกันอีก สุดท้าย
    เราก็ไม่คิดอะไร ใครจะชอบ หรือไม่ชอบ ก็นานาจิตตัง อยู่ที่วาสนาที่มีต่อพระท่าน
    แต่ขอไว้อย่างเดียว อย่าปรามาสพระ ให้เป็นบาปกรรม ก็พอแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2009
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านพันตาครับ ท่านเองก็ยังใหม่อยู่
    อาจจะงงเล็กน้อยว่า พวกรุ่นเดอะเค้าเล่นอะไรกันอยู่

    ท่านอาจารย์ปราโมทย์นั้นท่านก็จัดว่าเป็นพระนักเผยแผ่เช่นกัน
    ที่มีความมุ่งมั่นที่จะกระจายศาสนาให้กว้างไกลออกไป
    แต่ความไม่เข้าใจกันและกันอยู่ที่ว่า
    ความหวังดีของท่านต่อพระศาสนานั้น
    ไปกระทบกระทั่งครูบาอาจารย์สายปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา

    โดยเริ่มจากท่านชี้ลงไปว่า
    การหลับตานั่งสมาธิเหมือนหินทับหญ้า ชุ่มแช่
    หรือท่านชอบใช้คำว่าสมถะยานิก และเน้นย้ำซ้ำๆว่าไม่จำเป็น ทำให้เนิ่นช้า
    นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่ง

    จากนั้นเน้นย้ำอีกว่าจิตบังคับบัญชาไม่ได้
    เมื่อใกล้เกิดขึ้นสติย่อมเกิดเอง อย่าแทรกแซง ให้ดูเฉยๆก็พอ
    ปล่อยให้จิตไหลไปตามธรรมที่เกิดขึ้น นี่ก็อีกปัญหาเช่นกัน

    ยังครับยังไม่หมดยังมีอีกเยอะ
    เช่น จิตรู้รับอารมณ์ สติจึงเกิดขึ้นเอง
    เพียงแค่ปล่อยจิตไหลตามธรรม
    เมื่อรู้ทันก็ข้ามโคตรแล้ว(ความเห็นส่วนตนจริงนะครับ)

    คำว่า “รู้ทัน”ก็เท่ากับเป็นแทรกแซงอารมณ์อยู่แล้ว
    แต่กลับบอกว่ามันเป็นของมันเอง
    มีเหตุผลเชื่อได้มั้ย?
    เราต้องมีเจตนาจึงรู้ทันใช่มั้ยครับ

    เรามาต่อประเด็นความขัดแย้ง
    โลกนี้ไม่มีอะไรมีแต่สภาวะเท่านั้น สิ่งรองรับสภาวะไม่มี มีแต่สมมติทั้งนั้น
    เช่นผู้ตายไม่มี มีแต่การตายเท่านั้น
    พูดง่ายๆคือ ทุกวันนี้เราอยู่กับเรื่องโกหกพกลมทั้งนั้น
    ไปทำไมก็ไม่รู้งานศพ เมื่อไม่มีคนตาย
    แล้วนิมนต์พระมาสวดทำไมกัน หลอกคนที่ไปงานนี่หว่า
    สมมติบัญญัตินั้นจะบัญญัติขึ้นมาได้นั้นต้องมีสิ่งรองรับ
    พ่อ แม่ เราบัญญัติเพื่อเรียกขานผู้ที่ให้กำเนิด
    ยังมีบัญญัติซ้อนบัญญัติลงไปอีก เช่นพ่อ แม่ของนายแดง

    เรามีสมมติบัญญัติเพื่ออะไร???
    ถ้าไม่ใช่เอามาเพื่อใช้สอย ไม่ใช่มีไว้ให้ยึดมั่นถือมั่น
    แต่ที่วุ่นวายทุกวันนี้ก็เพราะเราเข้าไปยึดถือเอาเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
    แบบยอมตายถวายหัวกันเลย
    ถ้าเพียงเพื่อมีไว้ใช้สอยเรียกหาให้ถูกต้องเท่านั้น
    โลกนี้ก็จะสงบสันติสุข(ไม่ใช่สันติธรรม)

    ท่านพันตาลองไปสอนเด็กเล็กดูสิครับว่า
    มีแต่การกระทำ ผู้กระทำไม่มี
    เช่นเอาไม้เรียวไปตีเด็กซัก๓-๔ที แล้วบอกว่าผู้ตีไม่มี มีแต่การตี
    เด็กไม่ด่ากลับก็บุญถมแล้ว

    ยังอีกเยอะเอาแค่น้ำจิ้มไปก่อนก็แล้ว ถ้ายังไม่หายข้องใจถามได้ครับ.....

    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...