ความเข้าใจผิดๆ เรื่องจิต จิตไมใช่วิญญาณขันธ์ และวิญญาณขันธ์ก็ไม่ใช่จิต

กรรมลบล้างได้ด้วยนิพพาน
กรรมหลีกหนีได้ด้วยสติ

 

กรรมบางประเภทไม่สามารถลบล้างได้ ต้องได้รับการชดใช้เท่านั้น
อย่างเช่นกรรมฆ่าบิดา มารดา

 

คุณเป็นคนแรกที่ผมจะกล่าวว่า คุณไม่รู้อะไรเลย มีความด้อยทั้งในอรรถในธรรมมากกว่าทุกคนที่ผมเจอเลย อนันตริยกรรม เป็นกรรมที่ปิดประตูมรรคผลนิพพาน แต่การเปรียบเทียบของคุณเหมือนคนอวดรู้มากเลย กลัวว่าเขาจะไม่รู้ว่าเรานี่เก่งที่เข้าใจ เขาเตือนกันฉันมิตรเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขจรรโลงใจ คุณละกล่าวอะไรออกมา เวลากล่าว คิดอะไร ถ้าคุณเก่งนักก้เอาความเก่งกาจของคุณไว้ใช้กับคุณเถอะ เรื่องอรรถเรื่องธรรม เรื่องกิเลสในสันดาน ไม่ใช่ผมจะมีอัสมิมานะ นะครับ แต่ผมรู้มากกว่าคุณเยอะมาก จริงๆ
อนุโมทนา

 

การเปิดใจ ยอมรับความคิด ความเห็นของคนอื่น
ถึงแม้เราจะชอบหรือไม่ชอบ ก็แสดงถึงความไม่เป็นกลางในใจของเรา
และขาดสติเกิดประกอบในจิต ที่เกิดในใจได้
การพูดจากความเข้าใจของตนคือการแสดงปัญญาในตน
แต่การพูดโดยการอ้างความรู้ในตำรา คือการพูดจากสัญญาที่เป็นความคิด ไม่ใช่ปัญญา
(ซึ่งบางทีก็พูดถึงสิ่งเดียวกัน ความหมายเหมือนกัน แต่ใช้คำพูดไม่เหมือน ก็ยอมรับกันไม่ได้แล้ว)

สติ คือเจตสิกประเภทหนึ่ง เป็นปรมัติถธรรม เป็นเครื่องปรุงแต่งจิตฝ่ายกุศล เกิดเป็น กุศลจิต

ถ้าจิตเกิดโดยขาดสติ แสดงว่าไม่มีสติเจตสิกเกิดประกอบจิตเกิดในขณะนั้น ถือเป็นอกุศลจิต

 

คุณเป็นคนแรกที่ผมจะกล่าวว่า คุณไม่รู้อะไรเลย มีความด้อยทั้งในอรรถในธรรมมากกว่าทุกคนที่ผมเจอเลย อนันตริยกรรม เป็นกรรมที่ปิดประตูมรรคผลนิพพาน แต่การเปรียบเทียบของคุณเหมือนคนอวดรู้มากเลย กลัวว่าเขาจะไม่รู้ว่าเรานี่เก่งที่เข้าใจ เขาเตือนกันฉันมิตรเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขจรรโลงใจ คุณละกล่าวอะไรออกมา เวลากล่าว คิดอะไร ถ้าคุณเก่งนักก้เอาความเก่งกาจของคุณไว้ใช้กับคุณเถอะ เรื่องอรรถเรื่องธรรม เรื่องกิเลสในสันดาน ไม่ใช่ผมจะมีอัสมิมานะ นะครับ แต่ผมรู้มากกว่าคุณเยอะมาก จริงๆ

 

ชำเรืองดูใจไปเรื่อยๆนะ ชอบสังเกตุไปไม่ชอบก็สังเกตุไป

 

ok

 

ท่านbirdblackrose เราเข้ามาในบอร์ดนี้ถกธรรมกันเพื่อค้นหาความจริงใช่มั้ย??
ฉะนั้นสิ่งที่ท่านพูดด้วยการท่องจำหรืออวิชชาครอบงำให้พูดก็ตาม
เมื่อผมถามโดยมารยาทท่านแล้ว ท่านควรตอบคำถามผมสิครับ
แต่ท่านกลับอธิบายในสิ่งที่อยากพูดออกมาเพิ่มเติมเท่านั้น
ผมก็ย่อมมีคำถามเพิ่มเติมอยู่ดี ตกลงเข้ามาเพื่อพูดหรือค้นหาความจริงกันแน่

จิตเป็นธรรมชาติที่รู้รับอารมณ์ แล้วจิตรู้โดยไม่รับอารมณ์ได้มั้ย?
เราพูดถึงพุทธศาสนาเรื่องจิตก็สุดยอดอยู่แล้ว จะพูดถึงท่านอื่นเพื่ออะไร?
จุดที่สติสัมผัสนั้น เพียงแค่มีสัมมาสติจริงๆเพียงจุดแรกจิตก็ปล่อยวาง
ไม่ต้องมีจุด๒-๓-๔ แสดง ให้รู้เฉพาะสัมผ้สแล้วไม่รับได้มั้ย?

กำหมดสติดูจิต แล้วสติตั้งอยู่ที่ไหน?
สัมมาสมาธิในอริยมรรค๘ ควรศึกษาให้ถ่องแท้มั้ย?
ดูจิตให้ดูที่ไหน? รู้จักจิตแล้วหรือยัง?

พุทธศาสนาไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกครับ ตรงไปตรงมามีเหตุมีผล
ยากหรือง่าย ขึ้นอยู่กับความเพียรพยายามเพ่งรู้ เพื่อรู้จักที่จะละอารมณ์เหล่านั้น

เพียงศึกษาอริยสัจจ์๔ อริยมรรคมีองค์๘ สติปัฏฐาน๔
ด้วยการลงมือปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาอย่างยิ่งจริงจังก็เพียงพอ
มัวแต่ศึกษาจากตำราจนละเอียดยิบ
ผลที่ออกมาตรงตามตำราที่คิดเองเออเองเลยใช่มั้ย?


;aa24

 

ยิ่งรู้มาก ยิ่งเข้าใจน้อยลง
พวกรู้น้อย ชอบอ้างว่าตัวเองเข้าใจมาก
นี่หละ "อัสมิมานะ" ยังไม่รู้ตัวอีก

;aa24

 

นั้นนะซินะ

 

สำคัญว่ากำลังของอัปนาสมาธิ เป็นนิพพานหรือเปล่า เลยเข้าใจไปว่าข้ามฐานะ ท่านพี่ธรรมภูต

 

บางที กลับมาอ่านโพส อีกที จากเครียด มาเป็นขำก็มี
สภาวะมันเปลี่ยนได้ ไม่คงที่ ....
หากเล่นตามบทบาทที่สมมุติ เขาเรียกว่า ว่าหอบฟาง

 

สติหาใช่เจตสิกไม่ สติเป็นมรรคที่จิตต้องสร้างให้มีขึ้นที่จิต สติเป็นภเวตัพพธรรม
ก็มัวแต่เอาแต่ความเชื่อศรัทธาเท่านั้น ไม่เคยเทียบเคียงว่าลงกับพุทธวจนะหรือไม่

;aa24

 

ท่านจินที่รัก ผมขอตอบเท่าที่พอสัมผัสได้ ต้องใช้วิจารณาญาณเอาเองนะครับ
กำลังของอัปปนาสมาธิ ยังไม่ใช่พระนิพพานหรอกครับ
ผลจากความคล่องแคล่วชำนิชำนาญจนเป็นวสีในอัปปนาสมาธินั้น
จึงมีผลให้เข้าใกล้พระนิพพาน

มีพระบาลีซึ่งพระพุทธโฆษาจารย์รจนาไว้ว่า:

“นตฺถิ ฌานํ อปญฺญสฺส นตฺถิ ปญฺญา อฌายิโน, ยมฺหิ
ฌานญฺจ ปญฺญาจ นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก แปลว่า

ฌานย่อมไม่มีในผู้ที่ไม่มีปัญญา ปัญญาย่อมไม่มีในผู้ที่ไม่มีฌาน
ผู้ที่มีทั้งฌานและปัญญาจึงจะอยู่ใกล้นิพพาน”.

;aa24

 

กำลังสมาธิพี่คงกล้าแข็งรุดหน้าจนนำปัญญาไปไกลโขแล้วมั่ง ผมเดาว่านะ ก็ขออย่าถือโทษโกรธเคืองกันนะ ผมก็ทักไปตามประสา เด็กน้อยพูดมาก

เจริญธรรม ^-^

 

พี่จินนี่ ขอนานารวมกลุ่มด้วยนะ เด็กน้่อยพูดมาก ขอเป็นสมาชิกด้วย ^__^

 

ปัญญาที่ผมว่าไม่ได้อยู่ที่การรู้สูตร รู้ธรรมบรรยาย ทั้งของศาสดา และครูบา แต่เป็นปัญญาในการทำความเข้าใจกับสิ่งที่ดำรงประชุมเป็นตัวเป็นตนของพี่ธรรมภูต

ผมก็ไม่ได้รู้มากนะ ก็ยังมีสิ่งที่ติดขัด ละไม่ได้ไม่ออกอยู่ แต่ไม่เคยเห็นพี่ติดขัดตรงไหนเลย รู้สาธยายได้หมดเกือบทุกเรื่อง เกือบทุกคน และตอบได้เกือบทุกคำถาม

ถามหน่อยนะ มีเรื่องที่ไม่รู้บ้างไหมครับ ^-^

 

ความจริงก็คล้ายๆกับที่ท่านธรรมภูตกล่าวละครับ แต่ความรู้สึกจริงๆคือไม่ใช่ และไม่น่าจะใช่ความรู้สึกระดับผู้เข้าถึงกระแสด้วยครับ ไม่ว่าใครก็ตามบอกว่ามีฌาณแล้วละกิเลสได้ผมก็เถียงเหมือนกัน แต่มีฌาณแล้วมีปัญญาขอคิดอีกทีว่าที่ใช้นั่นมันปัญญาไหม แต่ที่แน่ๆต้องมีสติมากแน่นอนครับ เพราะขณะพิจารณามักมีเหตุการณ์ไม่ขาดฝันจรมาเป็นประจำ ถ้าสติไม่ดี ก็ไม่ได้คำตอบในความเป็นจริงของพระศาสนานี้ครับ

 

ใช่เด็กน้อยพูดมาก พูดตรง ๆ ไร้เลห์กล แบบเด็ก ๆ นี่ พูดอะไรไปก็ ไม่มีใครโกรธได้ลง เด็ก ๆ ก็ย่อมอยากรู้ ^-^

 

ขอโทษทุกท่านที่กระผมล่วงเกินด้วยความรู้อันน้อยนิดครับ
และขอบพระคุณทุกท่านสำหรับข้อวิจารณ์
ผมจะนำมาปรับปรุงความรู้ที่มีอยู่เดิมให้พัฒนาเพิ่มขึ้นอีก
ถ้าบางสิ่งบางอย่างเข้าใจไม่ตรงกัน เพราะตีความแตกต่างกัน
ท่านมีแนวทางแก้ไขอย่างไร เพื่อให้ทุกคนในศาสนาเราเข้าใจ
ในปรารถนาของพระพุทธองค์ โดยไม่ยึดติดกับความยึดมั่นถือมั่นในตนเอง
คำสอนของพระพุทธเจ้ายิ่งใหญ่ระดับจักรวาล กับความรู้ที่ผมมีนั้นแค่ควาร์ก
*เมื่อหมุนรอบตัวเองจะรู้ว่า รอบตัวเรามี 360 องศา
แต่เมือ่เราหยุดหมุนจะเห็นโลกแค่เพียง 90 องศา
ฉันใดก็ฉันนั้น เหมือนที่พระพุทธเจ้าทรงสัพพัญญู
ลองมองใจกระผมหน่อย มิได้ต้องการล่วงเกิน แต่ด้วยความเข้าใจของผม
ผมจึงสื่อด้วยความเข้าใจนั้น แล้วท่านเข้าใจอย่างไรหรือ