เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เซลล์ [​IMG]

    ขอบคุณประโยคดีๆ ที่นำมาย้ำเตือนเสมอนะครับคุณ mead

    ช่วงนี้ฝันหลายๆเรื่อง ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีเนื้อหาในฝันมาฝากเพื่อนๆครับ

    ฝันวันที่ 17/07/09

    เป็นความหมายของ หนังสือโนวาอนาลัย และหนังสือสนทนากับพระเจ้า ที่สื่อความหมายว่า หาตัวตนที่แท้จริงให้พบ

    ฝันว่า ไปสถานที่แห่งนึง เจอผู้คนมากมาย ที่ต่างรู้จักสนิทสนมคุ้นเคยกัน
    แล้วได้ไปเจอเพื่อนเก่าสมัยประถม ความรู้สึกที่สนิทสนม และรักเพื่อนคนนี้ก็ยังอยู่ไม่เสื่อมคลาย
    รู้สึกว่าหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มากมายจนพรั่งพรูออกมา (ความรู้สึกเหมือนตกหลุมรัก)
    รู้สึกว่าเราได้พบกับความรักที่ไร้เงื่อนไข ที่อยู่ภายในตัวตนภายในของเรา
    แล้วสายตาที่มองทุกๆอย่างรอบตัว สิ่งแวดล้อมรอบๆตัว ก็เปลี่ยนไปหมด
    ภาพลักษณ์ที่เห็นภายในแต่ละคนเปลี่ยนไป เป็นตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนอยู่ในทุกๆคน รู้ภายในอย่างเต็มเปี่ยมว่าเราคือคนๆเดียวกัน ที่ไม่เคยแยกจากกัน และก็เป็นเช่นนี้เสมอมา และก็จะเป็นตลอดไป

    รู้สึกถึงความมหัศจรรย์ถึงประสบการณ์ต่างๆมากมาย ที่เกิดจากการได้พูดคุย ได้มีประสบการณ์มากมาย จากตัวเราเองที่ได้แยกออกมาเป็น 1 เป็น 2 และเป็นอีกหลายๆคน

    และการสนทนากับดำเนินต่อไป ในสำนึกภายในอย่างเต็มเปี่ยมว่า เราคือหนึ่งเดียวกัน

    และเหตุการณ์ที่เจอหลังจากตื่นก็คือ ได้ไปเจอเพื่อนใหม่ๆในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ

    แต่ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปก็คือ ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกหน้าแต่อย่างใด

    รู้สึกว่าเรารู้จักกันมานานแล้ว และก็รักกันมาก
    แม้ว่าตัวตนภายนอก จะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา

    เพราะความเชื่อ ความรู้สึกภายใน เชื่อมั่นว่า เราคือหนึ่งเดียวกัน และรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนนั้นคืออะไร

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ่านแล้วก็ซึมซับความชื่นใจไปด้วยครับคุณเซลล์
    การที่เรามีโอกาสได้รู้จักกับความรักอันไร้ขอบเขตนี้ (แม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆที่เราเข้าถึง) ก็สามารถก่อกำเนิดสิ่งใหม่ๆและเปลื่ยนแปลงชีวิตเราได้เลยนะครับ พลังแห่งความรักที่ไหลผ่านเข้ามามักทำให้รู้สึกถึงสิ่งดีดีและประสบการณ์ที่ดีดี บางทีเราได้เห็นหาดทรายกับทะเลที่สงบ หรือได้ยินเสียงใสๆของนกร้องเพลงให้ฟังก็จะระลึกขึ้นได้อยู่เสมอๆ และก็จะยิ้มอย่างมีความสุขในความรักและเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกสรรพสิ่งที่มีคุณค่าและมีพลังอันวิเศษครับ

    มีคำคมๆจากท่านพุทธทาสมาฝากประโยคนึงครับ...

    "สิ่งที่มีความสมบูรณ์พร้อมย่อมมีความบกพร่องอยู่
    และสิ่งที่บกพร่องอยู่ก็ย่อมมีความสมบูรณ์พร้อม"
     
  2. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อุแม่เจ้า!!....แม่นยังกะตาเห็น สัมผัสภายใน คุณ mead ชักน่ากลัวซะแล้ว นา
    ไม่ได้แระ...ต้องเปิดโหมด ลับสุดยอด ซะแล้ว พลางตัวด่วน!!...หุหุหุ

    นั่นแหล่ะค่ะ สิ่งที่ใฝ่ฝันมาตลอด แต่งานที่ทำ มันไม่อำนวยเล้ย
    มีแต่งาน Hard core ไอ้เรารึ.. ออกจา อ่อนหวาน นิ่มนวล เรียบร้อย... ฯลฯ
    (อ๊ะๆๆ..ใจเย็น อย่าเพิ่งรีบ หาถุงก๊อบแก๊บ ค่ะ ...แหม ควานหาใหญ่เชียว อิอิอิ)

    อ้อ..แล้วต้อง ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
    ที่อวยพร ให้ธุรกิจเดรด ไปถึง 100 ล้าน..หุหุ(กีบ อะป่าว ท่าน)

    ภูมิต้านทานใดๆ ไม่อาจแข็งแกร่ง เท่าภูมิต้านทานจากภายในเราเอง
    ถ้าเราเชื่อมั่น ว่าจิตวิญญาณเรานั้นศักดิ์สิทธิ์ และสมบูรณ์ อย่าลืมซิค่ะว่า
    "จิตวิญญาณเราเป็นอมตะ" สิ่งที่ผ่านเข้ามา เป็นแค่บทเรียน และบททดสอบ
    เพื่อให้เราก้าวหน้า และพัฒนาศักยภาพสูงสุด ในตัวเรา...ไปให้ถึง ฝั่งฝัน กันนะคะ;aa6

    เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว เน๊อะท่านเน๊อะ "Home Sweet Home"
    ....กลับบ้านเรา รักรออยู่....ลั้ลล ล้า ลา....:z9
     
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425

    ไม่ว่าฝั่งฝันของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร?
    ถ้าเรา...เลือกที่จะเป็น....คงไม่เท่ากับ..รักที่จะเป็น...
    มุ่งมั่นทำด้วยความรัก ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
    คุณค่าของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ อยู่ที่จิตใจอันเบิกบานพร้อมกับสติปัญญาอันกล้าหาญ..
    แม้เวลาบนโลกอาจนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ
    แต่เวลาของจิตวิญญาณก็ยังคงขยายไปอย่างไม่สิ้นสุดพร้อมกับความฝันอันสุดคาดคะเนครับ

    ชักจะเพ้อไปไกล..555
    ถ้าช่วงไหนหายไปนานๆก็คิดซะว่าออกไปล่าฝันนะครับ

    fishh_


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.368880/[/MUSIC]
     
  4. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    ทันทีทันใดใจเต้นตึ๊ก <O:p</O:p
    ความรู้สึก..สัมผัส..วัดไม่ได้<O:p</O:p
    แค่คุณเดรด..ส่งคำทัก..รักมาให้ <O:p</O:p
    มิอาจเก็บ..ซ่อนไว้..หัวใจพอง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ไม่รู้ซี..ยังคิด..จิตไวนัก <O:p</O:p
    เป็นความรัก..ส่งไป..ใจตามส่อง<O:p</O:p
    ด้วยรัก..ปรารถนา..มาถึงน้อง <O:p</O:p
    ยอดรักของ..ไวด์ฮาร์ท..ขาดได้ไง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อ้อ..รักษาสุขภาพ..ด้วยที่รัก <O:p</O:p
    อย่างานหนัก..มากไป..เจ็บไข้ได้<O:p</O:p
    ก็เป็นห่วง..น่ะจ้ะ..นะยาใจ <O:p</O:p
    ยังคงไว้..ผูกพันนั้น..คือจิต./วิญญาน
    22 กรกฎาคม 2552 wideheart<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
  5. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    วันนี้เอาเรื่องราวของคนๆหนึ่งที่พยายามทำตามฝันของตัวเองให้เป็นจริงมาให้อ่านกัน ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของเค้าคือการว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรอันไกลโพ้น


    [​IMG]
     
  6. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310

    เราล้วนแต่เป็นจิ๊กซอว์ของกันและกัน ที่ช่วยทำให้เห็นภาพต่างๆชัดขึ้นเรื่อยๆนะครับ

    เคยดูหนังฝรั่งเรื่องนึง (จำชื่อไม่ได้แล้ว) เป็นหนังที่ดำเนินเรื่องเป็นร้านขายของเล่น เจ้าของร้านอยู่มา 200 กว่าปี ทำให้ของเล่นทุกอย่างมีชีวิต

    แล้ววันนึง เจ้าของร้านจะอำลาจากโลกนี้ไป ก็เลยยกร้านนี้ให้เด็กสาว ที่เป็นผู้จัดการร้าน และได้ทำงานกับเค้ามานาน

    เด็กสาวคนนี้ เมื่อยังเยาว์วัย เคยเป็นนักเปียโน ฝีมือฉกาจ
    วันนึงเมื่อเริ่มโตขึ้น ก็ได้มาพูดกับเจ้าของร้าน ว่าเค้าแต่งเพลงไม่ได้ เค้าไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย

    เจ้าของร้านของเล่นผู้ใจดี ได้มอบกล่องไม้ให้กล่องนึง และบอกว่า หากเธอมีความรัก และศรัทธา เธอสามารถที่จะแต่งเพลงได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถทำอีกหลายๆอย่างในชีวิตนี้ได้

    เด็กสาวก็ได้แต่รับไป และวางกล่องนั้นไว้เฉยๆที่บ้าน

    เมื่อถึงวันที่เจ้าของร้านจะจากไป ก็ได้ให้สมุห์บัญชี จัดการเรื่องร้าน เพื่อให้เป็นมรดกกับเด็กสาวคนนี้

    เด็กสาวไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับร้านนี้ ไม่มั่นใจว่าตนเองสามารถจะทำให้ของเล่นเหล่านี้มีชีวิตได้เหมือนที่เจ้าของร้านคนเก่าเคยทำ เลยตัดสินใจที่จะขายร้านนี้ แล้วไปรับจ้างเล่นดนตรีตามที่ต่างๆ ด้วยเพลงที่เคยชำนาญเมื่อตอนเด็กๆ

    เด็กผู้ชายรุ่นน้อง ที่หลงใหลกับร้านของเล่นที่มีชีวิตนี้ พยายามทำทุกวิถีทางให้เด็กสาว ไม่ให้ตัดสินใจผิด ก็ได้ขอความร่วมมือจากสมุห์บัญชี (ผู้เป็นตัวแทนของชายที่ติดอยู่กับระเบียบแบบแผนของโลกใบนี้อย่างเคร่งครัด) ให้ช่วยเหลือ

    สมุห์บัญชี ที่เริ่มมีมุมมองที่เปลี่ยนไปแล้ว ได้ไปพูดคุยกับเด็กสาว
    และบอกว่า ถ้าในฐานะสมุห์บัญชี เค้าแนะนำว่า ให้ขายร้านของเล่นนี้ซะ
    แต่ถ้าแนะนำในฐานะเพื่อน เค้าอยากให้เธอ บริหารร้านนี้ต่อไป

    เด็กสาวได้แต่พร่ำบ่นว่า ตนไม่สามารถทำได้ และก็ได้มองกล่องไม้ที่ได้รับมา และบอกว่าให้ช่วยเค้าที แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    สมุห์บัญชี ได้กระตุ้นว่า คุณเห็นว่าของเล่นในร้านนี้ และก็กล่องไม้นี้ เป็นเพียงสิ่งธรรมดาใช่มั๊ย

    เด็กสาว ได้ตอบออกมาจากใจจริงว่า กล่องนี้ไม่ใช่กล่องธรรมดานะ มันมีอะไรมากมายกว่าที่คุณคิด

    ทันใดนั้น กล่องนั้นก็กลายเป็นกล่องที่มีชีวิต

    ทันใดนั้นสมุห์บัญชี ก็ได้เห็นประกายจากข้างใน ฉายออกมาที่ใบหน้าของหญิงสาว
    ในขณะนี้ เธอได้ค้นพบแล้วว่า สิ่งใดที่ทำให้กล่องไม่มีชีวิต กลับกลายเป็นมีชีวิต สิ่งใดที่ทำให้ของเล่นที่ดูไร้ชีวิตชีวา กลับกลายเป็นของเล่น ที่ใครๆก็ต้องการ

    ......................

    เป็นกำลังใจให้เดินทางไปถึงฝั่งฝันด้วยกันทุกๆคนนะครับ

    นักกวีเอก
    นักประดิษฐ์ชั้นเลิศ
    นักฝันตัวยง
    ฯลฯ
     
  7. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    วันนี้ผมจะเล่าเรื่องการสัมผัสกับอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ให้ฟัง เพราะว่าหลังจากที่ลองแล้วได้ผลมาก
    คือว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนะครับผมเดินๆห้างอยู่ก็คิดว่าอยากจะจีบสาวขึ้นมาซึ่งมันก็ไม่แปลกอะไรครับมันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายวัยเท่าๆกับผมอ่ะครับ ตอนแรกก็เดินนึกๆมาก่อนว่าทำไมเรายังจีบสาวไม่ค่อยได้ซะทีว่ะ ผมพยายามคิดให้รอบด้านแล้วจู่ๆก็มานึกถึงบทฝึกฝนเรื่องการสัมผัสกับอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ครับ ตอนที่ผมเดินๆอยู่ก็เลยอธิฐานให้สัมผัสถึงอารมณ์นั้นครับ แล้วความรู้สึกแปลกๆก็เกิดขึ้นมามีอาการเหมือนอะไรสักอย่างในสมองถูกกระตุ้นเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดครับ แล้วอาการเกร็งและกังวลในเรื่องต่างๆก็หายไป กลายเป็นอารมณ์ชนิดใหม่ ซึ่งจากที่ผมเคยดูจิตแล้วก็คิดว่าไม่เคยนึกถึงอารมณ์แบบนี้มาก่อนเลย(หลังๆมาคิดได้ว่า อ๋อ เคยสัมผัสกับมันมาแล้วในช่วงวัยเด็กวัยที่มีความฝันสูงมากและจะเดินจะวิ่งจะเล่นอย่างมีความสุขและไม่กลัวอันตรายใดๆเลยนี่เอง) ตกลงเราอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่ จากนั้นผมก็ทำตามที่ตัวเองคิดไว้ครับคือเข้าไปขอเบอร์สาวในห้างที่ผมคิดว่า อือน่ารักนะ
    แล้วผลก็ดีเกินคาดเหลือเกิน ผมขอไปสามคนคนแรกได้เบอร์ คนที่สองเกือบได้มาก(ถ้าแฟนมันไม่โผล่มาตอนนั้นก็ได้ไปแล้วล่ะ) คนที่สามก็ได้เบอร์อีก ซึ่งผู้หญิงที่ผมคุยตอบสนองมาในทางที่ดีมากๆเหมือนเค้าอยากรู้จักเราจริงๆอ่ะซึ่งถือเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยด้วยซ้ำที่ผมขอเบอร์สาวสวยได้มากกว่าหนึ่งเบอร์ในวันเดียวกัน มันคือเวทมนตร์ในส่วนลึกที่สุดแห่งความปรารถนาที่รอให้ใช้มาแสนนานแล้วหรืออะไรกันเนี่ย!<O:p</O:p
    แล้วพอสัมผัสถึงอารมณ์นั้นนะครับวันนั้นหลังจากเข้าไปขอเบอร์คนสวยเสร็จผมก็มีความสุขอย่างมาก ผมเลยคิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึกแล้วเราจะรู้สึกปลดปล่อยจากความกลัวและกังวลทั้งปวงซึ่งต่อให้มีความคิดในแง่ลบตอนนั้นยังไงเราก็ไม่สามารถกลัวได้ เป็นอารมณ์ที่รู้สึกว่ามันปลอดภัยและอบอุ่น ซึ่งไม่ใช่แค่การคิดในเชิงบวกหรือเชิงลบ แต่เป็นอีกอารมณ์นึง
    แล้วหลังจากนั้นอาทิตย์นึงเมื่อผมประหม่าผมก็สัมผัสกับอารมณ์นั้นอีกครั้งก็มีเหตุการณ์อันแปลกๆเกิดขึ้นกับผมอีก ก็เลยมาแนะนำให้พี่ๆเพื่อนๆในห้องวิทย์ฟังน่ะครับว่าอย่าลืมฝึกฝนบทฝึกฝนในเล่มอิสระแห่งคาวมปรารถนาด้วยเพราะได้ผลมากๆจริงๆ ช่วงนี้เลยทุกครั้งที่ประหม่าผมจะใช้บทฝึกฝนนี้ตลอด ควบคู่กับการดูจิตของตัวเองมาหลายปีไปในตัวด้วย ซึ่งเมื่อฝึกแล้วก็จะทำให้เกิดอารมณ์ที่มีความหวัง มั่นคงและอบอุ่นขึ้นมา ซึ่งเมื่อเข้าถึงอารมณ์นั้นความกลัวใดๆจะไม่สามารถเข้าแทรกได้เลยดังนั้นก็คงเหมือนที่คุณเฉลยเคยบอกในบอร์ดนี้ว่าอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึกก็คือพรสวรรค์ ใครที่อยากมีเงินใช้ สุขภาพแข็งแรงหรือทำความฝันในด้านต่างๆให้โดดเด่นออกมาก็ลองสัมผัสกับอารมณ์นี้ดูนะครับ อารมณ์นี้ไม่ใช่แค่การคิดบวกคิดลบ(มัวแต่สงสัยเรื่องการคิดบวกลบมาหลายปี ที่แท้การจะเข้าถึงพรสสวรค์ได้ก็คือการสัมผัสถึงอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึกนี่เอง รู้งี้ฝึกบทฝึกฝนนี้ตั้งนานแล้ว) แต่เป็นอารมณ์อันเป็นเอกลักษณ์และความสามารถอันลึกที่สุดที่ทุกคนมีได้ ขอเอาข้อความของอาจารย์โนวาอนาลัยที่ผมประสบกับอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดอันลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ผมประสบมา ให้คนอื่นๆได้อ่านกันนะครับจากหนังสืออิสระแห่งความปรารถนา<O:p</O:p
    อีกนัยหนึ่งกล่าวได้ว่า อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ คือตัวแทนของพลังงานบริสุทธ์ ซึ่งตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ของเธออุบัติขึ้นอย่างไม่ซ้ำแบบใคร
    แม้ว่าอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดจะเป็นสิ่งที่ผันแปรไปในแต่ละวัน อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดบางอย่างเกิดขึ้นและดับไป แต่ภายใต้อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของเธอจะมีเอกลักษณ์คงที่-ที่เป็นคุณสมบัติจำเพาะของเธอ เสมือนเสียงดนตรีอันล้ำลึกที่เป็นของเธอแต่ผู้เดียว
    เมื่อเธอเรียนรู้ที่จะสัมผัสกับอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ เธอจะรู้ถึงพลังอำนาจ-ความแกร่งและความทนทานของมัน
    ในชีวิตนี้นอกจากว่าผมอยากมีแฟนแล้วผมก็อยากจะเป็นเขียนที่มีชื่อเสียง อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง อยากเป็นแพทย์ที่สามารถรักษาโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้ (HIV) ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผมด้วยแล้วกันนะครับ ส่วนทุกๆคนก็พยายามเป็นในสิ่งที่อยากเป็นเข้าไว้ละกัน เพราะผมก็จะพยายามครับ <O:p</O:p
     
  8. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอบคุณมากเลยค่ะ Mr.The Key
    เดรดกำลัง หาแหล่งอ้างอิงอยู่พอดี ในเรื่องพลังอำนาจที่บริสุทธิ์ของตัวตนภายใน

    เมื่อเราตั้งความปรารถนา มันมักจะเกิดความรู้สึก ประหม่าและกลัวขึ้นมาก่อน
    กลัวว่าจะทำได้มั๊ย? สำเร็จมั๊ย?
    สิ่งนี้ทำให้เราสูญเสียความมั่นใจใหญ่หลวง ทำให้เราไม่สามารถปลดปล่อยพลังงาน(เจตนารมณ์) ออกไปอย่างเต็มที่
    เจตนารมณ์-จินตนาการ(ความคิด)-การกระทำ
    มันเลยกระท่อน กระแท่น แต่ถ้าทุกขั้นตอน ปราศจากความกลัว ทำด้วยความเชื่อมั่น
    พลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมา ก็จะไหลลื่น โดยไม่ได้ถูกอะไรมากักไว้

    ความปรารถนา เป็นแค่จุดเริ่มต้น เพื่อก่อให้เกิดเจตนารมณ์ แต่การตั้งความปรารถนาอย่างเดียว
    โดยไม่สานต่อ ให้เป็นรูปธรรม ความสำเร็จย่อมไม่เกิด
    และก่อนที่มันจะกลายเป็นรูปธรรม เราต้องระลึกเสมอว่า เราเป็นไปแล้ว ไม่ได้อยากจะเป็น

    เพราะ อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ดำเนินไปพร้อมกัน

    ......เขียนเอง งงเอง...ไปดีกว่า
    ขอกำลังเสริม ด้วยจ้า
     
  9. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เห็น อาคุงเซลล์ พูดเรื่องหนัง ขอคุยมั่ง
    เมื่อคืนนั่งดูนั่งเรื่อง The Number 23
    (ไม่แน่ใจว่า จำชื่อเรื่องถูกมั๊ย...แบ่บ เดี๊ยนความจำสั้น[​IMG])

    เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ คนที่โดนตัวเลข 23 ครอบงำ จนแทบทำลายชีวิตตัวเอง
    เค้าพยายามหาปริศนา ของเลขนี้ อะไรต่ออะไร ก็เอามาโยงให้เป็นเรื่อง ให้เกี่ยวกัน

    "จิตวิญญาณจดจ่ออยู่กับภาวะใด
    จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปในภาวะนั้น"

    สรุปแล้ว สิ่งที่เดรดได้จากหนังเรื่องนี้ ก็คือ การจดจ่อในสิ่งใด เราก็จะได้อย่างนั้น
    สังเกตุดูก็ได้ค่ะ จากความสัมพันธ์ จากคนรอบข้าง แล้วเราจะรู้เองว่า
    ตอนนี้เราเป็นอย่างไร เพราะเจตนารมณ์ที่เราส่งออกไป จะสะท้อนกลับมาที่เรา
    ผ่านฉากของความสัมพันธ์ ต่างๆที่แวดล้อมตัวเราอยู่ตลอดเวลา

    เวลา เรามีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับใคร หรืออะไร เมื่อใดที่เกิดความรู้สึกขัดแย้ง
    แทนที่เราจะไปงัดข้อ เถียงเอาเป็นเอาตาย สรุปแค่ให้เราถูก
    ...จากนั้น ไม่เห็นมีอะไรเลย ถ้ายอมกันได้ก็จบ ถ้าไม่ยอม ก็งอลล กันไป อิอิ
    แต่ถ้าเรา หันไปอีกด้าน เพื่อสนับสนุน ความเห็นที่มันส่งเสริม เพิ่มพูน เจตนารมณ์
    เดรดว่า มันมีแต่จะได้ กับได้นะ...

    เพราะพลังงานอย่างเดียวกัน มันก็จะดึงดูดกัน เสริมกัน
    แต่พลังงานที่ขัดแย้งกัน รังแต่จะล้างผลาญ ทำลายกัน

    เมื่อความเชื่อเปลี่ยน โลกก็เปลี่ยนตาม...ไม่เชื่อ ลองดูดิ
    [​IMG]..ต้องขออภัยซักเล็กน้อย วันนี้ เพ้อเจ้อ มากไปนิดส์....ข้อมูลมันไหลมา อะ
     
  10. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    เมื่อคืนฝัน..ชั่วโมงสอนวิชาวิทยาศาสตร์ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น(ของโรงเรียนวัด..แห่งหนึ่งสมัยที่ฉันเคยเรียนอยู่โรงเรียนนี้)คุณครูผู้ชายประจำวิชานี้กอดหนังสือยังไม่ทันก้าวผ่านเข้ามาในห้องแค่ประตูพูดเสียงดังเอ้านักเรียนหยิบหนังสือขึ้นมา เหมือนกับว่าจะไม่ให้เสียเวลาผ่านไปแม้สักนิด เมื่อเข้ามาหยุดในห้องก็เขียนรูปต้นไม้บนกระดาน แล้วอธิบายเกี่ยวกับชีวภาพของใบไม้ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจอะไรเลยคุณครูอธิบายลึกลงแยกย่อยลงเป็นเซลล์ไม่รู้กี่ชั้นพูดแบบไม่หายใจเลย ในขณะที่เพื่อน ๆ นั่งฟังตาแป๋วไม่รู้ว่าเข้าใจหรือไม่ ครูไม่ปล่อยโอกาสให้นักเรียนถามพูดก็เร็วมาก ส่วนฉันยืนอยู่ข้าง ๆ คุณครูถามแทรกขึ้นมาขณะตาก็มองที่กระดานดำเห็นรูปต้นไม้นูนออกเป็นสามมิติซึ่งกระดานดำก็ไม่ได้ตั้งอยู่ที่หน้าห้องเรียนมันตั้งติดอยู่กับข้างฝาห้องเรียน โหยครูคะต่อให้ครูพูดอธิบายเท่าไรหนูก็ไม่เห็นรู้เรื่อง ไมมันอยากจังล่ะ ดูเพื่อน ๆ หนูสินั่งตาบ้องแบ๊วไม่เห็นมีใครถามอะไรเลย ครูคิดว่าพวกเขาเข้าใจหรือ ครูหนุ่มหยุดหันมาที่ฉันเลี่ยงคำตอบกลับว่าฉันเสียอีกว่า ก็เธอมันไม่ใส่ใจเอาแต่เล่นแล้วมันจะไปรู้อะไรมากเล่า แล้วกันมาว่าฉันอีกนี่ครูฉันคิดในใจก็เลยม้วนต้วนทำหัวเอียง ๆ แกว่ง ๆตามประสาของฉัน ภาพต่อมาฉันกับเพื่อนชั้นเรียนสามสี่คนเลิกเรียนแล้วก็เดินกลับบ้านกันพวกเราต้องเดินผ่านทางป่าพงสุมทุมต้นไม้ที่มีหนาม ฉันอยู่หน้าสุดกำลังแหวกพงไม้เสียงเพื่อนชื่อพรทิพย์ตามมาเป็นคนที่สองเตือนแบบหัวเราะว่า ระวังหนามเกี่ยว ๆ ไม่เกี่ยวเปล่ามันยังดูดติดเนื้อเราเจ็บซะไม่มี ฉันถามว่าหนามอะไรเหรอที่ว่า ยังไม่ทันที่เพื่อนจะบอกว่า ฉันโดนเข้าไปซะเต็ม ๆ เจ็บมากจริง ๆ ร้องโอยเลยแหละแหะ ๆ แล้วติดอยู่ที่ก้นไพล่มือไปค่อย ๆ แกะมันออกมาดูข้างหน้ามันแทนที่จะเป็นหนามแหลมกลับเป็นใบไม้รูปหน้าหัววัวที่มีเขาอยู่ด้วยมันแปลกมากท่าทางฉันงงเป็นไก่ตาแตก ถามโดยไมหันไปมองเพื่อนว่า นี่เหรอที่เธอบอกว่าหนามดูดเจ็บ เพื่อนทุกคนที่มาด้วยหัวเราะฮากันใหญ่เลยฉันไม่รู้ว่าโดนหลอกหรือถูกต้มจนเปื่อย เดินกันมาจนถึงทางสุดจากพงป่าก้าวแรกที่ก้าวออกมาฉันเบิ่งตากว้างไม่ถึงกับตกใจมองลงไปที่พื้นดินเป็นหลุมใหญ่ไม่ลึกนักคือรังมดแดง กลุ่มมดแดงตัวเป้ง ๆทั้งนั้นจำนวนเรือนแสนอยู่ทับกันไปทับกันมาลักษณะสีที่ลำตัวสองท่อนต่างกันคือส่วนท้ายเป็นสีปกติที่มันเป็นแต่ส่วนครึ่งบนออกสีคล้ายสีของน้ำนมจาง ๆ สีไม่ใสนักลักษณะเป็นอย่างนั้น ฉันมองมันดูสักพักรู้สึกแหยง ๆ ขึ้นมารีบเดินออกไปไกล ๆ เพื่อน ๆ ยังตามฉันออกมาไม่ทันอยู่ดีต้องให้โดนมันกัดกันมั่งเสียจะดี อิอิ../<O:p</O:p
     
  11. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    ความจริง..กับความฝัน..มันไม่ต่าง<O:p</O:p
    เรื่องบางอย่าง..คล้ายกับฝัน..มันเหมือนใช่<O:p</O:p
    หากเรา..ไม่เอาใจ..ไปผูกไว้<O:p</O:p
    มันก็ไร้..ความทุกข์..สุขก็ไม่มี<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ดังตัวตน..คนเรา..เช้ามาตื่น<O:p</O:p
    ชีวิตรื่น..ไหลไป..ตามวิถี<O:p</O:p
    เรื่องฝันฝัน..เรื่องจริง..ก็ยิ่งดี<O:p</O:p
    ขอเพียงที่..พิจารณาธรรม..ย้ำความว่าง./
    23 กรกฎาคม 2552 wideheart<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    ได้ความคิดพลังแง่บวกจากโพสต์ของเพื่อน ๆ นี่จ้ะ.. ทำให้นึกแต่งกลอนขึ้นมาปุบปับ!!!! <O:p</O:p
     
  12. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    ฝันภาพถัดมา..อยู่ ๆ ภาพใบหน้าของสามีขยายใหญ่มาเฉย ๆไม่มีที่มาที่ไป(ไม่เห็นลักษณะแบบนั่งหรือนอน)จ่อเข้ามาใกล้ ๆ หน้าฉันระยะแค่คืบกว่า ใบหน้านั้นอยู่นิ่ง ๆ และนาน ฉันใช้สติพิจารณาส่วนของใบหน้าที่ลืมตาค้างมีสีน้ำหนองบริเวณขอบตาทั้งสองเบ้าและหนองเริ่มซึมมันเยิ้มขึ้นมาทั่วบริเวณใบหน้าแต่ความรู้สึกฉันกลับไม่มีกลัวหรือตกใจโดยมองให้มันติดตากับภาพที่เห็นอยู่นี้..หน้าเขากำลังขึ้นอืด./<O:p</O:p
     
  13. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    คิดถึงนิยาย “เด็กน้อย 17 คน กับกล่องพานามุ”ของพี่นักเขียนจังเลย
    ถ้าทำเป็นนิยาย อันนี้จินตวดีเขียนให้เป็นปกท้ายเล่ม

    KEY WORD = PASS WORD
    เด็กน้อยทั้ง 17 คนเป็นผู้ถือกุญแจคนละดอก ซึ่งแต่ละดอกจะใช้ในการไขปริศนาของจักรวาลซึ่งเกี่ยวเนื่องกับภัยพิบัติของโลก แต่จะไขโดยใช้ดอกใดดอกหนึ่งมิได้ จำเป็นต้องใช้พร้อมกันหมดทั้ง 17 ดอกในเวลาเดียวกัน ผู้ถือกุญแจบางคนก็รู้ตัว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร บางคนก็ไม่รู้ตัว ทุกอย่างกำลังดำเนินไปและก่อนที่ทุกอย่างจะสิ้นสุดลงปริศนาจำเป็นจะต้องได้รับการตีความความสามัคคีจำเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่เด็กน้อยแต่ละคนต่างก็มีเส้นทางความเป็นไปได้ของตนเองซึ่งแตกต่างกันไป เหล่าฑูตเริ่มกังวลทำอย่างไรจึงจะรวบรวมเด็กน้อยทั้ง 17 คนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ สายลมพัดมาพร้อมเสียงกระซิบแผ่ว ๆ หากไม่ตั้งใจฟังก็จะไม่ได้ยินเสียงนั้นเลย


    “ ทุกคนที่ได้ KEY WORD ท่านคือตัวแทนผู้ถือกุญแจของเรา คนละดอก ท่านคือผู้กำปริศนาของจักรวาล”
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2009
  14. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    ฝันว่า..ไม่รู้ว่าฉันเข้าไปยืนอยู่ในบ้านใครความรู้สึกเหมือนร่างกายฉันมันโหญ่โตเมื่อเทียบกับแมวปกติขนสองสีขาวกับน้ำตาลอ่อนที่พยายามคาบหญิงสาวหุ่นเพรียวยาวเท่าตุ๊กตาตัวเล็กวัดได้แค่หนึ่งคืบมือมนุษยธรรมดานั้น แต่ก็หลุดจากปากแมวด้วยสัญชาติญาณการต่อสู้เอาตัวรอดด้วยความรักตัวกลัวตายถึงแม้ว่าร่างกายของหล่อนดูกระปกกระเปี้ยเต็มทนเนื้อตัวมอมแมมเสื้อผ้าที่สวมใส่หลุดลุ่ยกระโปรงครึ่งท่อนลายเสือถลกขึ้นมาเห็นสโพกขาวในมือกำสายกระเป๋าสตรีสีขาวไว้แน่น ตุ๊กตาตัวเล็กผู้น่าสงสารแต่เป็นคนจริงๆ คงต่อสู้กับเจ้าแมวอำมหิตกันมาตลอดทางถึงตรงหน้าที่เท้าฉัน และแล้วร่างบอบบางของเธอก็อ่อนแรงนอนยาวอยู่กับพื้นอีกครั้งที่มันคาบร่างที่หมดทางดิ้นรนใด ๆให้มันต้องทำงานหนัก แล้วเดินสี่ขาจะเข้าไปใต้ถุนบ้านสกปรกที่มันใช้เป็นที่ซ่อนเหยื่อไว้กิน เหตุการณ์อันน่าพึงสยดต่อชีวิตคน ๆ หนึ่งต่อหน้าต่อตาก็ไม่อาจจะละไปได้ แรกฉันใช้เท้าเขี่ยแรง ๆ ที่แมวขู่ให้มันกลัวเพื่อปล่อยหญิงสาว มันหันควับเงยหน้าจ้องหน้าฉันนัยน์ตาแววโลด ฉันมีสติดีหากกลัวมัน อันตรายไม่ต้องพูดถึงอาจเสร็จมันแน่เพราะพวกมันคือแมวผีปีศาจซึ่งขณะนี้ฉันเผชิญอยู่กับหัวหน้าแมวดำดุร้ายกับสมุนที่รายล้อมเดินวนเวียนรอบ ๆ เตรียมห่ำหั่นฉันให้นายใหญ่ของมันอยู่หลายตัว พลังอำนาจเหล่าแมวดำโดยเฉพาะหัวหน้าตัวร้าย นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องอย่างเอาเรื่องถ้าขืนขัดขวางพวกมัน ฉันยืนกำหนดจิตมองลงไปที่ลูกตามรกตของมันอย่างไม่สะทกและประหวั่น วัดพลังอำนาจเหนือมันอย่างสูงสำรวจจิตใจฉันแกร่งพร้อมลุยกับมัน แต่มันก็ได้แค่จ้อง แล้วก็จ้องฉันอยู่ราวกับว่าฉันคือพลังอำนาจบริสุทธิ์ที่มันไม่อาจประลองแม้แต่จะคิด./<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ตื่นขึ้นมาแล้วคิดทบทวนดูมันเป็นฝันที่ประหลาดมากค่ะ แล้วว่ายิ่งฝันยิ่งมีเรื่องราวมากมายที่อาจคิดได้ว่ามันไม่ใช่ตัวตนของเราจริง ๆ ที่ฝัน แต่มันคือจิตวิญญาณรวมที่ส่งผ่านร่างให้ฝันก็เป็นได้เสมอ<O:p
     
  15. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เล่าสู่กันฟัง

    ช่วงหลังนี้มีความรู้สึกว่า มิติเริ่มเปิด ๆ ชอบกล ไอ้ที่แปลก ๆ เริ่มปรากฏให้เห็นอีก แต่เริ่มถี่ขึ้น หลายวันมานี้พอหลับตา ช่วงจิตก่อนที่จะหลับ ช่วงนั้นถ้าท่านใช้สติจับตามทัน จะเห็นว่าจิตมีลักษณะเหมือนการเข้าสมาธิ จิตช่วงนั้นจึงสามารถรับข้อมูลต่างมิติได้ ช่วงนี้มีการปรากฏของสิ่งแปลก ๆ จากต่างมิติ ที่จักระที่ 6 ตลอดเวลา เดี๋ยวเป็นภาพนู้น ภาพนี้ มันทำให้เราเข้าใจได้ทันทีว่า คำว่า จักรวาลที่แท้อยู่ในตัวเรานั้นเป็นอย่างไร แรก ๆ มักจะกลัวจึงมองไม่เห็นการพัฒนา แต่ตอนนี้พอเห็นก็ถือว่า “เรียน” ก็ตั้งใจดูมัน แต่ไม่ได้ยึดติดมากมาย คือเห็นก็ว่าเห็น พอจะเลิกดู ก็เอาจิตถอยออกมา แต่ตอนแรก ๆ ใช้คำภาวนานะ คำว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิช้าพเจ้าขอยึดพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง” และมันทำให้เรารับรู้ได้ทันทีเลย ว่าคำภาวนี้เป็นที่สุดแล้ว เพราะพระพุทธเจ้าท่านสูงสุดจริง เพราะผ่านมาหลายอย่างที่มาปรากฏ บางอย่างตั้งสติตามไม่ทัน ทำเอาตระหนก ก็ได้คำภาวนานี้น่ะแหละช่วยไว้ เลยสบายใจเวลาอยากจะเรียนอะไรเพราะอาราธนาท่านเอาไว้กับตัวตลอด นีแหละคือส่วนหนึ่งของความเชื่อของเราด้วย
    <O:p></O:p>
    ส่วนเรื่องคำทำนายเมื่อ 22 กรกฏาคมที่ผ่านมา ก็เห็นเข้าเค้า เพราะตั้งแต่วันที่ 22 -24 ลมพัดแรงมาก บ้านเราอยู่ใกล้ชายหาด มาก ก็เห็นได้ว่าน่ากลัวจริง ตกกลางคืนวันที่ 22 ก็เลยสวดมนต์ แล้วลองจินตนาการเป็นพระพุทธรุปสีทองนำท่านไปประดิษฐานที่ฝั่งอ่าวไทย และกลางลมหมุน ใช้กำลังจิตทำให้ลมค่อย ๆ อ่อนลง ไม่รู้ว่าจิตคิดไปเองหรือเปล่า (ก็บอกแล้วว่าจินตนาการ) เห็นพระพุทธรูปสีทองอีกหลายองค์ อยู่ที่ตรงอ่าวไทยเช่นเดียวกัน ก็ได้แต่คิด เฮ้ย เราคิดแค่องค์เดียวนี่หว่า แต่ก็เป็นปรากฏการณ์แปลกๆ ดี พออีกวันเลยไม่ได้ทำอะไรแล้ว เพราะรู้สึกอุ่นใจ อย่างน้อย เห็นพระตั้งหลายองค์แน่ะ คอยปกปักรักษาอยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ตามเล่นเอาเต๊นท์มูลค่าเป็นล้านของพัทยาปาร์คขาดไปเลยล่ะ (เป็นกระโจมติดแอร์ที่เขาทำไว้ให้เช่า) แหมชาตินี้เกิดมาคุ้มค่าจริง ๆ ว่าแต่เมื่อเช้านี้ รู้สึกว่ามีใครล็อคเราไปผ่าสมองอีกรอบนะเนี่ย
     
  16. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ฝันท่านทำให้เราคิดถึงตัวเรานะ เราน่ะบางครั้งต่อสู้กับบางอย่างที่โผล่มาภายใต้จักระที่ 6 บางครั้งเป็นอารมณ์ที่ผุดขึ้นมากระทันหัน จนเราเองยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน บางครั้งเรานี่นอนไม่ได้นะ ต้องท่อง พุทธัง สรณัง คัจฉามิทั้งคืนทีเดียว มีคืนหนึ่ง ท่องจนรู้สึกตัวข้างในยังท่องอยู่เลย ได้เห็นนิมิตกลางหน้าผากเป็นตัวเรากำลังต่อสู้กับปีศาจอยู่ แต่ถ้าท่องนะ หายวับกลับเป็นธุลีเลย เช้านั้นตื่นมาไม่รุ้ตาฝาดหรือเปล่า ทันได้เห็นดวงสีทองลอยอยุ่ แต่เป็นเพียงแว้บเดียวเท่านั้นเอง
    ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    ท่านลองคิดสิ ผุ้หญิงแต่งตัวลายเสือนั้นแทนถึงคนลักษณะอย่างไร และกระเป๋าสีขาว ท่านคิดอย่างไรกับสีขาวนั้น เมื่อท่านนึกถึงสีขาวนั้นท่านนึกถึงอะไร นี่ถ้าเป็นความฝันของจินตวดี นะ ตามความคิดของจินต์เอง กระเป๋าสีขาวในความรู้สึกของจินต์ จินต์นึกถึงความดีงาม คนในฝันเขาพยายามดิ้นรนต่อสู้กับปีศาจ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับหล่อนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่หล่อนไม่เคยทิ้ง คือ กระเป๋าสีขาว หรือคุณงามความดี ที่หล่อนยึดถือมาตลอดชีวิตนั่นเอง พระพุทธเจ้าสำหรับหล่อน สูงสุดแล้ว<O:p></O:p>
     
  17. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    จินตวดีสามารถใช้ประโยชน์จากความฝันได้จริง แล้วมันทำให้ตัวเองเข้าใจได้อย่างดีด้วยว่ากำลังเผชิญกับ อะไร ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    บางครั้งหลุดเข้าไปในที่ ๆ มีเสือสีขาวล้อมรอบ มันจ้องจะทำร้าย แต่ท้ายสุด จะมีเสือเหลือกระโจนมาป้องกันเราเสมอ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    บางครั้งก็ฝันว่ามีคนไล่ทำร้าย แต่ท้ายสุดจะมีเสือเหลือมาปกปักไว้เสมอ ล่าสุด หมีสีดำตัวใหญ่น่ากลัวเข้ามาขบกัดเสือเหลือตัวนั้นที่ปกปักเราไว้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เสือเหลือง เรานึกถึง พระทุกทีสิน่า<O:p></O:p>
     
  18. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    เรื่องความฝันสงสัยจะมาเล่าแข่งกับใครคงมาไหว เพราะมันเกี่ยวกับธรรมะเสียเป็นส่วนใหญ่ ที่แปลกคือว่าเดี๋ยวนี้ ช่วง ก่อนรุ่งสางจะมีใครบางคนมาสอนธรรมะทุกวัน (เหมือนที่พระอาจารย์เคยสั่งไว้) แต่เมื่อวันที่22 เดือนนี้ มันเกิดบางอย่างขึ้น เราก็เลยเข้าข้างตัวเองซะ............ อิอิ อ่านในลิงค์ ดีกว่านะค่ะ ( ขออนุญาตด้วยค่ะ)
    http://palungjit.org/posts/2291058
    ขอบคุณค่ะ ที่กรุณาเปิดอ่าน
     
  19. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    อ่านฝันของคุณจินต์ นึกถึงฝันเมื่อคืน
    เดี๋ยวส่ง pm ไปหาครับ hello10
     
  20. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    ฝันว่า..ฉันนอนกอดหมอนข้างสบาย ๆ อยู่บนรถเมล์ที่กำลังวิ่งสายหนึ่ง เสียงดังของลุงคนขับพูดว่า เอ้าผู้โดยสารที่ต้องการจะลงแยกหน้านี้เตรียมตัว พูดขณะชะลอรถจอดติดสี่แยกไฟแดง(แต่ไม่เห็นสัญญาณไฟ) ฉันผงกศีรษะพร้อมหันไม่มองข้างหลังรถสุดมีผู้โดยสารโหรงเหรงแค่สามคนคือผู้หญิงหนึ่งและผู้ชายสองคนเท่านั้นที่นั่งกันอยู่ แล้วถามลุงว่า ถึงสะพานใหม่แล้วหรือลุง แต่แกกลับพูดเหมือนแปลกใจตัวเองว่า อ้าวมีผู้โดยสารอยู่ข้างหน้าอยู่ตั้งคนทำไมถึงมองไม่เห็นอยู่ใกล้กันแค่นี้ แล้วทำไมมานอนอยู่ ที่นี่ไม่ใช่ที่นอน เดี๋ยวลงทางข้างหน้าไปเขามีร้านบริการให้ที่นอนฟรีอยากจะนอนก็เชิญไปเถอะ (ฉันคิดในใจถามนิดเดียวตอบซะยาว ฉันก็นึกต่อเหมือนรู้อยู่แก่ใจ ฮิฮิ..ลุงจะไปเห็นฉันได้อย่างไรในเมื่อข้างหน้ามันมืดตื๋อส่วนข้างหลังตอนท้ายมันสว่างนะจ้ะลุง!) แล้วฉันก็พูดว่าจริงหรือลุง แกไม่ตอบสตาร์ทเครื่องขับผ่านถึงแยกหน้าภาพต่อฉันมายืนอยู่มองดูร้านที่ลุงขับรถบอกไว้ไม่มีผิดมันอยู่ใกล้กันกับร้านสะดวกซื้อยี่สิบสี่ชั่วโมงและเป็นไอเดียของผู้ตั้งร้านสะดวกซื้อทีคิดขึ้นมาให้ผู้ที่เดินทางแวะผ่านหรือใครก็ได้ต้องการนอนพักผ่อนตามแต่ใจต้องการไม่คิดเงินเลย..แปลกจริง ๆเท่าที่ฉันรู้ได้ตามจิตที่มันบอกขณะที่ตาก็สำรวจอยู่ข้างนอกผ่านกระจกใสตั้งอยู่เป็นรูปตัวยูภายในห้องกระจกกว้างมากเขาจัดที่นอนให้เป็นไปตามรูปตัวยูแล้วมีหมอนหนุน หมอนข้าง ผ้าห่มพวกนั้นเป็นสีขาวสะอาดจัดเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ ฉันรู้สึกทึ่งกับเจ้าของใจกว้างอย่างมากๆเลย แต่ฉันไม่ได้เข้าไปนอนหรอก อิอิ..เพราะฉันจะไปเข้าห้องน้ำ ละจากตรงนี้เดินไม่ไกลผ่านร้านขายเครื่องเฟอร์นิเจอร์ซึ่งสะดุดตาฉันเลยแวะดูก่อนพวกเฟอร์นิเจอร์นั้นต่าง ๆ นั้นใช้กกสานเป็นโซฟาบ้าง เป็นหมอน ที่นั่งรอง เสื่อ และอีกอื่น ๆ ตั้งแต่ชิ้นเล็กจนขนาดใหญ่สุดคือโซฟาล้วนสานด้วยฝีมือประณีตซึ่งเอามือสัมผัสมันดูส่วนราคาเห็นแล้วตกใจทุกอย่างไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ราคาเดียวกันหมดมีป้ายราคาเขียนตัวเลขอารบิคสีแดงชัด ๆ บนกระดาษปักเสียบปลายไม้อิงไว้กับเสื่อจักสานในราคา 252 แต่ยักไม่มีหน่วยกำกับว่าเป็นบาทหรืออะไร ก็คงเดากันเอาเองเอมันยังไงฉันก็อยากได้หมอนน่ะแต่ไม่เห็นมีคนขายเข้ามาถามก็เลยไปเข้าห้องน้ำดีกว่าห้องน้ำอยู่ในร้านนี้เลยไม่ต้องไปที่ไหนเดินหักมุมมานิดหน่อยก็เป็นห้องน้ำประตูสีขาวอยู่ติดกันประมาณสี่ห้องได้แต่ฉันเลือกเข้าห้องแรกเข้าไปแล้วปรากฎว่าเป็นห้องน้ำผู้ชายมีโถปัสสะวะเรียงถัดไปเป็นส้วมนั่งเซรามิคสีขาวจะเรียกยังไงดีเพราะมันฉันไม่เคยเห็นส้วมนั่งปลดทุกข์ที่แสนสะดวกสบายอย่างนี้ที่ไหนเขามี ลักษณะส้วมที่ว่าจะนั่งหรือเอนไปข้างหลังก็ได้แล้วขาของเราก็ไม่ต้องยันอยู่กับพื้นเพราะมันถูกออกแบบมาเหมือนอย่างเตียงผ้าใบให้เข่าเหยียดงอได้เล็กน้อยในท่าสบายนี่คือส้วมไฮเท็คหรือเปล่านะฉันคิด ฉันนั่งอยู่แต่ฉันก็ปลดทุกข์ไม่ออกซักทีไม่รู้เหมือนกันนิ อิอิ../<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...