รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

ดีใจ กับคำตอบของคุณก้อง ที่วางกำลังใจได้

การเลือกเป็นไม้ที่ ยิ่งใหญ่ ย่อมโดนลมแรง เป็นธรรมดา

ตัวอย่างมีให้เห็น อยู่เสมอ เสมอ

สังคมเราจะล้มเหลว เพราะคนดี ท้อแท้ นะครับ

 

รวมเว็บไซต์ที่ผมศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์ Emergency และ Survival

รวมเว็บไซต์ที่ผมศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์ Emergency และ Survival

Emergency Kits - Emergency Preparedness - Survival Kits

Camping and Survival

Comet Marine :: All Leisure's Products ::

Emergency and Survival at REI.com

:::::::::: HARIN GROUP ::::::::::

Survival Topics - Your Online Survival Kit

Special Forces, Outdoor Survival Gear and Military Equipment from BCB International, Wales, UK

Food Storage, Emergency Kit, Survival Kit, Emergency Preparedness Products and Kits, Potassium Iodide

Personal / Pocket Size Survival Kit Reviews - EQUIPPED TO SURVIVE (tm)

Welcome to Stansport - We Make Camping Fun

 

การใช้เข็มทิศ (ใต้น้ำ)

ขอนำเสนอเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ครับ อาจจะไม่เกี่ยวสักเท่าไหร่ในบอร์ดนี้ แต่อันนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงที่ผม Leader ใต้น้ำ ครับ

เวลาที่เราดำน้ำอยู่ใต้น้ำ ไม่ว่าจะลึกสักเท่าใด เราจะไม่รู้เลยว่า เราควรดำน้ำไปที่ไหน ถ้าไม่มีเข็มทิศ เปอร์เซ็นต์ในการหลงทาง มีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ข้างล่างใต้พื้นน้ำ ไม่สามารถหาตำแหน่งอ้างอิงได้เลย โดยเฉพาะ ดำน้ำบริเวณชายฝั่ง ใต้น้ำที่มีพื้นทรายเป็นส่วนใหญ่ กับมีปะการัง เป็นหย่อมๆ ครับ ถึงจะมีเครื่องวัดความลึกที่เป็นอุปกรณ์ดำน้ำ ก็ไม่สามารถช่วยได้ เนื่องจาก พื้นใต้น้ำ มีความลึกไม่เท่ากัน

เข็มทิศที่ผมใช้อยู่ประจำ คือยี่ห้อ Suunto รุ่น Clipper Compass เป็นเข็มทิศที่ดีมากเลยครับ เป็นคลิปติดอยู่กับสายนาฬิกา สามารถลงน้ำลึกได้ หลายสิบเมตร ครับ มีความทนทานสูง ไม่เหมือนเข็มทิศที่มาจากจีนแดง ที่ไม่ทันไรน้ำมันข้างในก็รั่วแล้วครับ



ก่อนที่เราจะลงสู่ใต้น้ำ ให้กำหนดจุดอ้างอิงเสียก่อนครับ โดยใช้ชายหาดเป็นเกณฑ์ เป็นจุดอ้างอิง นำลูกศรชี้ไปที่ชายหาดครับ(ลูกศรสีแดง) แล้วหมุนตัวเลข ให้ N รอบนอก ล็อกให้ตรงกับ N ด้านใน ครับ เท่านี้ เราก็สามารถ ล๊อกตำแหน่งอ้างอิง(ชายหาด) และ ล๊อกทิศเหนือได้เรียบร้อยครับ

พอไปใช้ใต้น้ำ หากงงๆ ว่า เราอยู่ทิศไหน ก็ให้ N ใน กับ N นอก ตรงกัน เราก็รู้ว่า จุดอ้างอิงชายหาด (ลูกศรสีแดง) ชี้ไปทางไหนครับ

ง่ายๆ ไม่ยากครับ

 

วันนี้มีแผ่นดินไหวใหญ่หลายที่ มีเตือนสึนามิด้วย

คงต้องมาสำรวจคลังแสง อุปกรณ์กันบ้างแล้วครับ

อย่างน้อยก็เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินไว้บ้างครับ

 

อยากให้อาจารย์คณานันท์ มาแจกแจงอุปกรณ์ที่จัดเตรียมไว้ มาแชร์ข้อมูลบ้างครับ

ผมได้มีโอกาสแชร์ข้อมูลกับพี่คนหนึ่ง มาบ้างครับ พี่เขาก็จัดเตรียมได้เยอะพอควรครับ

ผมยังได้ไอเดียจากพี่เขา มาหลายอย่างครับ โดยเฉพาะ กระเป๋าพกพาทุกที่ และ สเปรย์ไล่ยุง

 

ยินดีครับ จะได้ทะยอยถ่ายรูปและ หากชิ้นไหน เราเลือกเพราะอะไรเราจะได้แชร์ข้อมูล แชร์ความคิดกัน

แต่อย่าลืมว่า สิ่งที่เหมาะกับเราอาจไม่เหมาะกับคนอื่น

และสิ่งที่เหมาะกับคนอื่นอาจไม่เหมาะกับเราก็ได้

แต่เรานำไอเดียเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ได้ครับ

 

คุณวัสสานะ เชิญด้วยนะครับ อิอิ

เห็นเข้ามาอ่านบ่อยๆ เห็นช่วงนี้กำลังสะสมยุทธโธปกรณ์ อยู่

 

ได้ครับ กำลังรอของบางชิ้นอยู่ครับ แล้วจะรีวิวให้ชมครับ

 

นอกจากเตรียมพร้อม ที่จะช่วยเหลือตัวเองแล้ว และช่วยเหลือผู้อื่น

อย่าลืมต้องเตรียมสำหรับ ให้ "ผู้อื่น" ช่วยเรา ด้วยครับ

ผมกำลังหมายถึง "Dog tag" หรือ ป้ายอลูมิเนียม ที่ทหารอเมริกัน ห้อยคอไว้ในสงคราม ครับ

ประวัติ

ร้อยโทบอยด๊อกแท็ก (Dog Tag) หรือป้ายห้อยคอ เป็นป้ายบันทึกข้อมูลจำเพาะเฉพาะบุคคลที่ใช้ในวงการทหาร จัดเป็นอุปกรณ์ทางการทหารประเภทหนึ่งด๊อกแท็กมีแรกกำเนิดมาจากสงครามกลาง เมืองในสหรัฐอเมริกา (พ.ศ.2404-2408 โดยรัฐฝ่ายเหนือ 23 รัฐ รวมเรียก สหรัฐอเมริกา กับรัฐฝ่ายใต้ 11 รัฐ เรียกตัวเองว่า สหพันธรัฐอเมริกา สงครามจบลงโดยชัยชนะของฝ่ายเหนือ) ช่วงเวลานั้น ทหารหน่วยรบ รวมถึงประชาชนสูญหายไปในสงครามจำนวนมาก ความพยายามที่จะสร้างหลักฐานเพื่อระบุตัวผู้สูญหายจึงเกิดขึ้น โดยเหล่าทหารช่วยกันริเริ่มคิดค้นรูปแบบพ.ศ.2403 การรบในภารกิจไมส์รัน รัฐเวอร์จิเนียตอนเหนือ กองพลของนายพลเมดล์ เขียนชื่อตนและสัญลักษณ์ของกองพลลงบนป้ายกระดาษขนาดเล็ก และเย็บติดไว้กับเสื้อผ้าของพวกเขา ขณะที่อีกบางกองพลสร้างสีสันด้วยป้ายจากเศษไม้ สลักชื่อตนเองลงไปแล้วเจาะรูสำหรับร้อยสายคล้องคอป้ายห้อยคอมาเกิดเต็มตัว จริงจังครั้งแรกใน พ.ศ.2442 โดยแชปเลนท์ ชาร์ล ซี เพียซ ได้รับมอบหมายให้ก่อตั้งสำนักงานเกณฑ์ทหารในฟิลิปปินส์ แชปเลนท์แนะนำให้กองทัพใช้แผ่นป้ายระบุชื่อเป็นวงกลมเพื่อใช้สื่อถึงชื่อ หน่วยรบแต่ละนายได้อย่างถูกต้อง ถึง พ.ศ.2456 กองทัพหลายประเทศทั่วโลกก็กำหนดให้ป้ายชื่อเป็นอุปกรณ์จำเป็นต่อทุกหน่วยรบ ต่อมา พ.ศ.2460 ทหารและหน่วยรบต่างๆ ได้สวมแผ่นป้ายอะลูมิเนียมคล้องคอด้วยสายโซ่

กระทั่งในสงครามโลกครั้งที่ 2 ป้ายวงกลมก็ถูกแทนที่ด้วยรูปแบบที่คุ้นเคยกันดีในปัจจุบัน เรียกชื่อ ด๊อกแท็กข้อมูลในด๊อกแท็กระบุ Identify หรือเอกลักษณ์บุคคล ของเจ้าของ หลักๆ ก็มี ชื่อ สกุล สังกัด วันเดือนปีเกิด กรุ๊ปเลือด ศาสนา

ในการทำสงครามต้องมีคนบาดเจ็บล้มตาย โดยที่คนเจ็บคนตายไม่สามารถให้ข้อมูลตนเองได้ กว่าจะมีใครมาเก็บศพหรือนำตัวไปรักษาก็อาจไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นใคร ทำให้ไม่สามารถนำศพนั้นๆ ส่งไปให้ญาติที่อยู่แนวหลังได้ถูกต้อง

สำหรับกรุ๊ปเลือดต้องเขียนเพื่อเมื่อ มีการบาดเจ็บ เจ้าตัวไม่สามารถพูดได้ และต้องการเลือด ก็สามารถดำเนินการการได้ทันที โดยไม่ต้องรอเวลาพิสูจน์กลุ่มเลือด หรือถ้าไม่ได้บาดเจ็บแต่ต้องการบริจาคเลือดให้คนบาดเจ็บ ก็บริจาคได้ทันที

เช่นกันเกี่ยวกับศาสนา ในการทำสงคราม ทหารที่มาร่วมรบถือเป็นผู้มีเกียรติ ดังนั้น เมื่อเสียชีวิตแล้วก็จะได้รับเกียรติจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกัน ฝ่ายข้าศึก หรือฝ่ายเป็นกลาง ดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาแก่ผู้ที่เสียชีวิตตามความเชื่อทางศาสนาของผู้พลีชีพ

-------------------------------------

เมื่อก่อนผมเคยทำไว้ครับ ที่สวนจตุจักร แต่ผมเปลี่ยนชื่อ ย้ายที่อยู่ใหม่ คงต้องทำใหม่ อาจจะทำหลายๆอัน เพื่อไว้กับตัวเอง กระเป๋าฉุกเฉิน ฯลฯ

ผมว่า มันดีทีเดียวครับ เพราะมัน "ทน" ในทุกสภาวะอากาศครับ พกง่าย ได้ทุกหนทุกแห่ง

แต่อาจจะแก้ไข การระบุ ครับ อาจจะให้เป็น ชื่อ สกุล วันเดือนปีเกิด กรุ๊ปเลือด ที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อญาติที่เราต้องการให้ติดต่อได้

 

ผมเคยคุยกับ ไกด์เขมรที่เสียมเรียบ ที่รอดชีวิต มาจากสงครามล้างเผ่าพันธ์
แม่ของไกด์ ท่านนี้
ได้สัก ชื่อ ลูก ชื่อ บิดา มารดา และที่อยู่ (เหมือน แท๊ก ที่คุณก้องเอ่ยมา)
บนแขนลูกทุกคน
ก่อนที่เมืองจะแตก
เพราะพลัดพรากจากกัน หวังที่จะพบกันอีก
ผลสุดท้ายกลับมาเจอกัน ได้ครับ เพราะรอยสักนี้
...
พูดเรื่องสงคราม ฟังแล้วหดหู่ใจ
อยู่ค่ายกักกัน ทุกอย่างเป็นของส่วนกลางไปหมด หยิบเอาไม่ได้
ไม่สบายไปเก็บ ผักหญ้าข้างทาง มาต้มกิน ก็โดนยิงทิ้ง
เพราะขโมยของส่วนกลาง
อยากกินเนื้อสัตว์บ้าง ไปดักนกหนูปลา ก็โดนยิงทิ้ง อีก
วิธีที่ทำได้
ตอนเช้าไปทำนา ก็ลงปลักปล่อยให้ปลิงควายดูดเลือดเอา
และเย็นเย็น ให้ผู้คุมตรวจแล้ว ว่าไม่ได้ลักทรัพย์ของส่วนกลาง
ก็แอบไปแกะทีหลังเอามากินสดสด

 

อะรัยมันจะเกิดก็ต้องเกิดสำคันอย่างเดียวว่าความดีเกิดขึ้นที่ใจเรารึยังเราพร้อมที่จะยืนยันใจเรารึยังว่าคิดดีทำดีพระพุทธ้เจ้าท่านไม่ได้สอนอะรัยท่านสอนแค่ว่าให้ละความชั่วประกอบความดีให้ละบาปบำเพ็ญบุญจากยากูซ่ากลับใจ

 

ขออนุโมทนาสาธุ

สัพพะพุทธานุภาเวนะ.... ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า
สัพพะธัมมานุภาเวนะ.... ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม
สัพพะสังฆานุภาเวนะ.... ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์
สะทา โสตถี ภะวันตุ เต.... ขอความสวัสดีทั้งหลายจง
มีแด่ท่านทุกเมื่อเทอญ....สาธุ

 

วันนี้ผมไปร้าน Kitcamp มาครับ มีอุปกรณ์น่าสนใจ และราคาไม่แพงเลย น่าซื้อเก็บไว้อีกตัวครับ เพราะมันสารพัดประโยชน์จริงๆ เลย

โดยเฉพาะเจ้าเข็มทิศ ตัวนี้ ผมทึ่งมาก เพราะมันมี "แท่งจุดไฟ" ซะด้วยครับ

ฟังก์ชั่นที่มี

<center></center>

1.วัดความชื้น

2.วัดอุณหภูมิ

<center></center>

3.เข็มทิศ

4.วัดระดับ

<center></center>

5.ไม้บรรทัด และแว่นขยาย

<center></center>

6.ตัวจุดไฟ มีขนาดเล็กไปนิด(พอๆ กับไม้จิ้มฟัน) แต่ให้ประกายไฟ ดีครับ

<center></center>

7.กระจก

<center></center>

8.นกหวีด ดังมากเลยครับ ผมทดสอบแล้ว

<center></center>

9.ไฟฉาย สว่างครับ แต่ไม่มากนัก สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็โอเคครับ

ที่สำคัญราคาเพียง 180 บาท เท่านั้นเองครับ กับฟังก์ชั่นขนาดนี้ ถือว่าไม่แพงนัก

 

สนใจเรื่องการใช้เข็มทิศ หนะครับ ใช้ไม่เป็น รู้แต่ตัว N ชี้ ก็ทิศเหนือ แค่นี้แหละ แต่ไม่รู้ว่าจะใช้อ้างอิง ทิศทาง จะไป จุดปลายที่ต้องการอย่างไร คุณก้องช่วยแนะนำวิธีใช้หน่อยสิครับ

ขอบคุณครับ

 

จะพิมพ์ก็ลำบากเหมือนกันครับ ผมก็ใช่ว่าจะถนัดนัก จะก๊อบข้อมูลมาให้อ่าน ก็กระไรอยู่ บางบทความในอินเตอร์เน็ต ผมยังอ่านไม่เข้าใจเลยครับ

เดี๋ยวผมจะเรียบเรียง ให้อ่านเข้าใจง่ายๆ แล้วกันครับ

 

ขอบคุณครับ

 

ผมเห็นความคิดเห็นของท่านผมก็รู้สึกถึงเรื่องที่ผมฝันเมื่อคืนเล็กน้อย ผมทำสมาธิก่อนนอนแล้วภาวนาอยากรู้เรื่องกับปี2012

และในตอนฝันผมฝันเห็นแบบ บุคคลที่1 (ปกติคนเราจะฝันเห็นแบบบุคคลที่3) ทีนี้ในฝันผมจำตอนแรกๆไม่ได้เพราะไม่ได้จด+กับแม่ผมวิ่งมาปลุกตกใจลุกขึ้นไวเลยสมาธิแตกก่อนไม่ได้นิ่งทำสมาธิก่อนลุก จำได้ตอนกลางๆแล้วว่า

เกิดโรคระบาดอย่างรุนแรงคนติดกันทางการหายใจ บางคนอาจอยู่ได้นานหน่อยบางคนติดได้ไม่นานถึงกับตายในไม่นาน ผมก็หนีมาได้2คนกับใครผมก็ไม่รู้จัก และก็มีลักษณะการยิงกันเข่นฆ่ากัน ผมหนีออกมาพ้นแล้วผมกับอีกคนก็เดินไปจนพบกับกลุ่มคนผู้ที่อยู่รอดกลุ่มนึง รวบรวมกลุ่มกันขึ้นมาใหม่อีกครั้งอะครับ

พอเห็นความเห็นเก่า ของท่าน Good_oom แล้วนึกถึงทันทีเลยครับ

 

จริงๆแล้ว การใช้เข็มทิศไม่ยากเลยครับ เพียงแต่ว่า เราต้องทราบว่า ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และ ทิศตะวันตกอยู่ไหน

บางทีผมคิดแบบคุณ kumpeang เหมือนกัน เวลาใช้เข็มทิศ เพราะรู้แค่ มีเข็มใหญ่ๆ ที่บอกทิศเหนืออย่างเดียว แต่เราก็ไม่รู้ว่า ทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก อยู่ทางด้านไหนของทิศเหนือ

ให้นึกถึง "แผนที่ประเทศไทย" ไว้ครับ ที่ทิศเหนืออยู่ด้านบน ทิศใต้อยู่ล่าง ทิศตะวันออกอยู่ขวา และทิศตะวันตกอยู่ซ้าย เพราะแผนที่แบ่งภาค ไว้ชัดเจน

บอกตรงๆครับ อธิบายในนี้มันยากมาก

โดยส่วนตัว การใช้เข็มทิศส่วนใหญ่ ผมจะใช้สัญชาตญาณ หรือ เซ้นท์ เป็นหลักครับ ผมจะมองทุกอย่าง เป็น "สี่เหลี่ยม" ที่ทุกอย่างมันถึงกันหมด เรียกอย่างหนึ่งว่า "เราต้องมั่นใจ ว่าเราจะไม่หลงทาง" เพราะส่วนใหญ่ที่คนใช้เข็มทิศ เพราะกลัวไปก่อน กลัวที่จะหลงทางครับ (สำหรับผู้ไม่ชำนาญ)

หลังจากนั้น ให้กำหนดว่า เราจะไปไหน จุดหมายเป็นที่ใด และใช้อื่นๆ ที่เป็นลักษณะคงที่ เป็นจุดอ้างอิง ด้วย

ผมเคยไปเที่ยวเหนือ กลับมากำลังลงใต้ และผมหลงอยู่ในเมืองๆ หนึ่ง ผมหาถนนกลับไม่ถูก เพราะซอยเยอะมาก หาทางออกไม่ได้ครับ

ผมก็เอาเข็มทิศมาดู ผมกำลังขับรถไปทางตะวันออก

เป้าหมายของผมคือ ทิศใต้ ง่ายๆ ครับ เราจะขับไปทิศไหน ก็ตาม ให้จบที่ทิศใต้เสมอ เพราะเป้าหมายของเรา อยู่ทิศใต้ ไม่ว่าคุณจะเบี่ยงไปตะวันออก หรือตกก็ตาม คุณก็ต้องไปทางทิศใต้ เสมอ

นอกจากใช้เข็มทิศเป็นแล้ว ต้องมีความรู้ มีความช่างสังเกตุ ด้วยครับ เช่น รู้ว่า แม่น้ำไหลลงสู่ทิศใต้ และ ปลายแม่น้ำ มักจะมีชุมชนอยู่ ครับ

 

หลังจากที่คุณวัสสานะ นำมาบอกข่าวเกี่ยวกับ หนังสือ "วิธีรอดตายจากภัยพิบัติ" และผมมาบอกรายละเอียดต่ออีกที

เมื่อวานผมไปร้าน ซีเอ็ด อีกครั้ง ปรากฏว่า เหลือ แค่ 2-3 เล่ม เท่านั้นเองครับ ถือว่าขายดีมากครับ

 

การใช้เข็มทิศ เราใช้ประกอบกับแผนที่ไปด้วย คือเอาแผนที่วางกางลงแล้วเอาเข็มทิศวาง แล้วหัน/หมุนแผนที่ จนทิศเหนือในแผนที่ ตรงกับทิศเหนือของเข็มทิศ จากนั้นพิจารณาสภาพภูมิประเทศว่า ถ้าอยู่ในป่าก็ดูว่าสัญญลักษณ์ภูเขา แม่น้ำ ในแผนที่มีลักษณะอย่างไรและในสภาพภูมิประเทศจริงมีลักษณะเหมือนกัน อยุ่ทิศใดแล้ว เล็งเข็มทิศที่ยอดปลายแหลมของภูเขา นั้น 2-3 จุด นำมาขีดลงในแผนนที่แล้วลากให้ตัดกัน จุดตัดของเส้นก็คือที่อยู่ของตัวเรา หรือถ้ามีแม่น้ำลำธาร ก็เดินไปที่ลำธารน้ำ แล้วเดินตามลำธารไปในทิศทางที่เราต้องการจะไป เช่น ลำธารน้ำไหลลงทางทิศใต้ จากแผนที่ ทางทิศใต้เป็นหมู่บ้าน เราก็เดินเกาะตามลำธารลงทิศใต้ ก็จะไปพบหมู่บ้านตามแผนที่ มันต้องเวลาเรียนประมาณ 12-15 ชม. ผมตอนเรียนเกือบสอบตก เพราะหาเป้าหมายเกือบไม่ทันเวลา หาที่หมาย 3 แห่งให้เวลา 6 ชม.(10.00 - 16.00) แต่ละแห่ง ห่างกัน 2-3 กม. ต้องวิ่งกันเหงื่อท่วมตัว