เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    เดี่ยวจะลองสังเกตุดาวที่เหนือหลังคาบ้านของสงบบ้าง อืม....ชอบดูท้องฟ้ามากๆแต่ไม่เคยสังเกตุดาวเป็นดวงๆเสียที เอามั่งดีฟ่า ทางที่ดีคุณจิตลองทำความรุ้จักกันแบบจริงจังเสียทีก็น่าจะดีนะค่ะ บางทีเขาอาจแอบมองคุณจินมานานแสนนานแล้วก็เป็นได้ เหอเหอ ........... _ sweet Home _
     
  2. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    ฝันว่า..ภายในบ้านฉันจำได้ว่านี่เป็นบ้านไม้สองชั้นหลังเดี่ยวที่แม่เคยเช่าให้ครอบครัวเราอยู่เมื่อตอนฉันยังเรียนอยู่ชั้นประถมตอนต้นที่ไม่ไกลจากโรงเรียนวัดนาคนิมิตรดาวคะนองสมัยก่อนโน้นซึ่งย้ายครอบครัวจากต่างจังหวัดมาอยู่กับญาติฝ่ายแม่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พ.ศ. 2506 และอีกสองสามปีต่อมาก็แยกย้ายมาอยู่ที่บ้านเช่าหลังดังกล่าวนี้ กำลังถูกโจรปล้นทรัพย์สิน สมุนโจรนั่งอยู่ตรงหัวกะไดบ้านชั้นบนคอยรับกล่องไม้สี่เหลี่ยมขนาดไม่เกินสิบนิ้วที่สายตาฉันได้แต่จับจ้องได้อย่างเดียวขณะขึ้นบันได และก็ไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์สินอะไรบ้างในกล่อง ซึ่งมีฉันกับน้องชายฉันแค่นั้นที่โจรมันเห็นว่าซื่อและไม่มีพิษสง ส่วนคนอื่น ๆ รู้แต่ว่าถูกจับมัดแต่ไม่เห็นคนเท่านั้น และเราสองคนพี่น้องยังถูกสั่งห้ามไม่ให้มองหน้ามันอย่างเด็ดขาด สลับกันเอาขึ้นไปให้ลูกน้องมันเก็บรวบรวมให้หมดจนกล่องสุดท้ายซี่งฉันเป็นคนส่งให้มันหมดแล้ว จากนั้นฉันคอยกำหนดตามความคิดของพวกมันว่าจะทำอะไรต่อไปกับคนในบ้าน หัวหน้าโจรซึ่งฉันก็ยังไม่เห็นหน้ามันสั่งให้ลูกสมุนคนเดิมจัดการฆ่าคนในบ้านทุกคนไม่เว้น ถึงตอนนี้ฉันรู้สึกตระหนกทำอะไรไม่ถูก ยืนนิ่งตัวห่ออยู่ชั้นล่าง แล้วห่วงทุกคนไปหมดด้วย จะทำอย่างไรดี มันจะฆ่าใครก่อน ฉันเกิดอาการตัวสั่นแต่พยายามบังคับความรู้สึกขณะนี้ แล้วก็สะดุ้งผงะเห็นหน้าลูกน้องโจร มันชักมีดดาบยาวเข้ามาใกล้แค่เอื้อม ใบหน้ามันก็เป็นคนหน้าตี๋อ้วนอูมผิวขาวร่างเตี้ยตันเชิ้ตขาว เงื้อมีดดาบขึ้นแล้วจะฟันฉัน สิ่งที่ฉันนึกถึงขณะมีดกำลังจะสัมผัสร่างฉันคือพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้นจริง ๆ ที่ทำให้มันเงื้อฟันค้างสะดุดกึกกดอย่างไรก็กดไม่ลงเหมือนมีดถูกจับไว้ห่างศีรษะแค่นิดเดียว ตัวมันก็งง แต่ฉันไม่งงฉันรู้ในบัดนั้นเองว่าอำนาจบริสุทธิ์ไม่มีอะไรบริสุทธิ์ยิ่งกว่าแล้วเป็นเกราะป้องกันอันตรายให้กับฉันด้วยจิตที่นึกถึงตรงต่อพระพุทธองค์อันเป็นที่พึ่งในยามนี้อย่างมหัศจรรย์ใจเหลือจะกล่าว แต่ก็ไม่วายที่มันบังอาจกระทำซ้ำอีก หัวใจฉันตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ว่ามันจะฟันฉันสักกี่ครั้งกี่ทีมีดดาบมันไม่อาจจะไม่กระทบอวัยวะส่วนใด ๆ ของร่างฉันเลย ความรู้สึกกลัวมลายหายสิ้นกลับขยับตัวจ้องนัยตามันจดจ่ออยู่กับที่พึ่งพระผู้ประเสริฐสูงสุด แล้วยืดอกออกไปข้างหน้าระยะใกล้ตัวโจรถืออีดาบงื้อ ๆ ง้า ๆ ฉันพูดอย่างไม่กลัวสั้น ๆ ห้วน ๆ สั่นประสาท ฟัน! ฟันสิ! ให้ฟัน! มือที่ถือดาบยาวสั่นเหมือนคนเป็นไข้ หน้าตื่นตาเบิกเป็นฝ่ายผงะถอยหลังกรูด แต่เสียงอีกเสียงหนึ่งกลับบันดาลโทสะที่เห็นลูกสมุนสิ้นลายจัดการอะไรกับฉันไม่ได้เลย มันเป็นหัวหน้าโจรยืนชิดติดกับเสาบ้านฉันหันไปมองเสื้อผ้าใส่รัดกุมกับโครงร่างเล็กผอมแต่สูงผมรองทรงปกหน้าผากเบาบางอยู่ในวัยหนุ่มไม่มีเวลาจะมายืนชมความหล่อ มันเดินตรงมาสำรากเสียงอย่างหัวเสียใส่หน้าสมุนง่อยเปลี้ยไปแล้ว เมื่อมึงทำไม่ได้ กูเอง มันพูด ก่อนที่นายมันจะดึงมีดจากมืองื้อค้างนั้น ฉันคว้าไหล่มันได้แล้วเกร็งข้อมือกางนิ้วงุ้มจับใบหน้าเล็กของมันอยู่ติดบีบแรงขึ้น ๆ แล้วผลักหน้าหงายตัวก็กระเด็นหลังลงกระแทกพื้นแล้วข่มมันด้วยจิตตามหมดน้ำยาไปอีกคน ฉันไม่ตามไปกระทืบซ้ำก็ดีถมไปแล้ว แค่นี้ก็เป็นการตักเตือนด้วยเมตตาที่ฉันรับสัมผัสได้ตามยั้งคิดก็เป็นการสมควรแล้ว หากฉันตั้งสติไม่ทันยึดพระพุทธคุณยามหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ก็คงตายกันหมดบ้าน./<O:p</O:p
     
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    แนะนำ
    เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]
    (59 คน กำลังดูอยู่)

    ข้างในยังว่างครับ....หาที่นั่งเหมาะๆกันได้ครับ
    เข้ามาอ่านเยอะเป็นพิเศษเลยนะครับวันนี้
    คงกำลังอ่านบทกลอนรวมทั้งความฝันของคุณไวน์ฮารท์กันอยู่
    คุณเดรดก็แต่งลำนำกลอนได้สุดยอดเลยนะครับ..

    คืนนี้หลังคาบ้านใครก็มองดูดาวกันดีๆครับ..
    เพราะว่าเมื่อคืนเห็นแสงไฟคล้ายเครื่องบินผ่านหลังคาบ้านแวปๆเหมือนกัน
    ทำซะนาฬิกาทั้งข้อมือและในรถยนต์พร้อมใจกันหยุดเดินทั้งคู่เลย
    เห็นตอนเช้าว่ามันหยุดเดินเวลาไล่เลี่ยกันพอดี..แปลกดี ต้องตั้งเวลากันใหม่ทั้งคู่ครับ อิอิ


    เมื่อวานก็มีโอกาสได้สนทนากับพี่นักเขียนมาด้วยครับ
    มีหลายๆเรื่องที่ได้พูดคุยกันด้วย เช่น ประสบการณ์ทางจิตของพี่นักเขียนฯ ความฝันกับความเป็นจริงที่สร้างขึ้น ไปจนถึงการปล่อยวาง...ความชราภาพ...จิตสุดท้ายก่อนความตาย..รวมถึงเรื่องที่พี่เค้ากำลังทำอยู่อย่างขมักเขม้นในตอนนี้ด้วย..จึงยังไม่มีเวลาเข้ามาทักทายด้วยตัวเองครับ

    แต่พี่นักเขียนก็ได้ฝากความระลึกถึงพวกเราทุกๆคนมาด้วย ถ้าใครเคยพบจะรู้เลยว่าน่ารักและอัทยาศัยดีและถ่อมตัวจริงๆ เชื่อว่าหลายๆคนคงอยากปะพบพี่นักเขียนกันอีกสักครั้งนึง
    ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่..แต่ดูแล้วอาจไม่นานหรอกครับ เชื่อว่าทุกคนคงอยากให้มี Meeting กันอีกสักครั้ง..ใช่มั๊ยครับ?...งั๊นยกมือขึ้นเยอะๆเลยครับจะได้ส่งข่าวไปบอก อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2009
  4. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    ฝันว่า..ฉันนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ห้องครัวโดยมีญาติลูกพี่ลูกน้องเป็นหญิงสองคนเป็นลูกของน้าชายญาติข้างแม่อยู่ด้วยแม้จะดึกแล้วก็ยังไม่ไปเข้านอนกัน พอดีน้องสาวคนเล็กเดินเข้ามาฉันถามว่าเออ...ฉันเรียกชื่อน้องปกติแม่เค้าจะไปซื้อของที่ตลาดเดิมตั้งแต่ก่อนเช้ามืดเพื่อพรุ่งนี้เช้าจะเอาไปขายที่ร้านเรา แล้วไปคนเดียวหรือมีใครไปเป็นเพื่อนหรือเปล่า น้องบอกว่าแม่สั่งให้ปลุกแม่ตอนตีสองครึ่งมีญาติผู้น้องขอไปด้วย งั้นดีแล้วฉันติดไปด้วยคนแต่ตอนนี้นึกอยากกินข้าวเหนียวมะม่วง แล้วมีมะม่วงเหลือจากที่แม่ขายบ้างไหม น้องบอกว่าหมดแล้วต้องออกไปซื้อกินเองและตัวเองก็อยากกินอยู่ด้วยกำลังจะออกไปซื้ออยู่พอดี ฉันพูดว่าเงินวางอยู่ตรงนั้นเจ็ดสิบบาทซื้อมาสองลูก(ผล)ละกัน น้องพูดกลับมาว่าเจ๊จ่ายค่ามะม่วงส่วนหนูจะซื้อข้าวเหนียวสามสิบบาทนะ ฉันบอกตามใจให้ไปหยิบเงินเอาเอง ลูกพี่ลูกน้องคนพี่ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนแม่ที่ติดกับห้องครัวกำลังจะเปิดมุ้งแม่ น้องสาวเห็นเข้าไปดึงตัวออกมาและพูดอย่างไม่ชอบใจว่าเข้าไปทำไมทำยุ่มย่ามเสียงดังเดี๋ยวแม่ชั้นตื่นยุ่งจริงท่าทางน่าจะโกรธมาก จากนั้นก็ออกไปซื้อข้าวเหนียวมะม่วงไม่นานก็กลับเข้ามาใหม่บอกลืมหยิบเงิน ออกไปใหม่กลับมาพร้อมกับข้าวเหนียวมะม่วงแล้วน้องกินเป็นคนแรกส่งให้ฉันต่อแต่ฉันกินคำเล็กกับมะม่วงชิ้นนิดเดียวแล้วส่งต่อให้ญาติคนน้องนี้ฉันรู้สึกว่าเป็นคนขี้เกรงใจไม่อยากกินของคนอื่นและรู้ตัวว่าไม่ได้ออกเงินด้วยและไม่สนใจอยากกินจริง ๆ แต่ฉันคิดไม่อย่างนั้น ฉันบอกว่ากินเถอะกินหน่อยน่าไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องเกรงใจเธอรับชามข้าวเหนียวมะม่วงกินอย่างเหนียม ๆ อย่างมีมารยาท ญาติผู้น้องก็ส่งให้ญาติผู้พี่ของตัวเองแต่ฉันรู้สึกว่าน้องสาวฉันไม่ต้องการให้ญาติคนพี่กินเลยแต่เสียไม่ได้ที่น้องเกรงใจฉัน แล้วก็เป็นคนสุดท้ายส่งกลับไปให้น้องสาวกินอีกรอบ จะส่งต่อมาให้ฉัน ๆ บอกว่าพอแล้วหละฉันกินแค่นี้พอ ยังไม่หมดก็แบ่งกันกินดี ๆ หล่ะ./</O:p

    ฝันที่สอง..หญิงสาวสวยนอนคว่ำมีหมอนรองหน้าอกข้อศอกสองข้างยันบนหมอนด้วย ฉันรู้สึกมีความคุ้นเคยกับสาวใบหน้าคมอ่อนหวานจับใจฉันอย่างกับเป็นคู่หมั้นคู่หมายแต่ชาติปางไหนก็ไม่รู้ได้ เธอยิ้มหยาดหยดให้ฉันตลอดเวลา ฉันถามเธอว่าทำไมไม่ลุกขึ้นนอนอยู่อย่างนี้ตั้งนานแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเธอมีความลับอะไรบางอย่างที่ไม่เผยให้ฉันรู้และพยายามปกปิดอย่างเต็มที่แล้วเธอก็แชเชือนไม่ตอบ กลับออดอ้อนจับลูบมือฉันซึ่งนั่งกึ่งนั่งกึ่งนอนข้าง ๆกัน ไอ้ฉันก็ชอบเสน่ห์นิ้วนางเสียจริงขอบอกความรู้สึก เอาใบหน้าชิดกับเธอแต่แม่จอมใจกลับเอาปากเลื่อนมาที่คอฉันคราวนี้ฉันไม่เป็นฉันแล้วกลับเป็นผู้สังเกตุ เห็นเจ้าหล่อนอ้าปากจะงับที่คอกลับมาเป็นฉันอีกรู้สึกเสียวที่คอขึ้นมาอย่างหวาด ๆ ว่าเธอเป็นแดร็กคูล่าดูดเลือดฉันจะลุกขึ้นแต่หล่อนดึงฉันไว้ทำทีว่าไม่รักไม่ห่วงเธอแล้วหรือไงใจร้ายใจอะไรทำนองนี้ฉันรับความรู้สึกน้อยอกน้อยใจของเธอหมดเลยใจอ่อนต้องนั่งอยู่กับสาวคนรักต่อแต่คอยระวังแจแล้วคราวนี้ไม่ไว้ใจก็เห็นอยู่ตำตา จนกระทั่งมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาหาแบบไม่ตั้งเนื้อตั้งตัวพรวดพลาดเข้าถึงสาวเจ้าจุ๊บปากจ๊วบ ๆ สองจ๊วบแล้วถอนปากออกจากกัน ฉันงงมากอยู่ผู้ชายคนนี้เขาชื่อวิรัชนี่ลูกตาก็เขด้วย(เขาเป็นเพื่อนร่วมงานกับไวด์ฮาร์ทสมัยหนึ่งมันนานมากแล้วร่วมสามสิบปีก็ยังจำเขาได้) และยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่เขาจ้องหน้ากันแป๊บเดียวแล้วก็เอาปากประกบปากต่อหน้าฉันนั่งหัวโด่แบบไม่เกรงใจฉันเลย แต่แล้วฉันก็ต้องระทึกอกสั่นหงายหลังออกห่างจ้องมองดูที่ปากประกบแบบอ้ากว้างสิ่งประหลาดหรือตัวอะไรไม่รู้ดำมืดพรุ่งออกมาจากปากสาวจอมประหลาดมัน..มันคือกบพองตัวดำมะเมือกตัวยาวเขื่องน่าขนลุกโจนเข้าปากตาวิรัชตัวหนึ่งแล้วเขาก็กลืนมันยังไม่พอตัวที่สองตามมาอีก ฉันไม่อยู่รอดูต่อไปไม่เอาแล้วกับแม่นางแดร็กคูล่าผีดิบดูดเลือดให้สวยหยาดฟ้าก็ไม่เอาแล้ว สี่ตีนเอ๊ยสองขาโกยแน็บ./<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    โหยเหนื่อยจังฝันนี้หนีแล้วยังไปเจออะไรที่ตื่นเต้นอีกหลายอย่างยังเล่าไม่จบเอาแค่นี้ก่อนค่ะ<O:p</O:p

    <O:p</O:p
     
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    มีเคล็ดลับอย่างหนึ่งของกฎแห่งแรงดึงดูดมาฝากครับ...

    จะช่วยให้สิ่งที่เราปราถนาเข้ามาใกล้ตัวเรายิ่งขึ้นครับ
    หลังจากที่เราจินตนาขึ้นการภายในใจแล้วไม่ว่าเราจะคิดถึงอะไร หรือมุ่งมั่นกับอะไรบางอย่างที่เราปรารถนาตาม
    หากเรารู้สึกว่าสิ่งนั้นสำคัญมากกก..เป็นฝันอันยิ่งใหญ่จริงๆและเราไม่เคยมีสิ่งนั้นมาก่อน
    ด้วยความรู้สึกอยากได้-อยากมี หรือความต้องการอย่างไม่สิ้นสุด..มันจะกลายเป็นฝันอันยิ่งใหญ่จนไม่อาจเอื้อมถึงไปซะจริงๆ

    แต่เมื่อใดที่เราค้นพบเส้นทางแห่งความสมเหตุสมผลและอยู่ในจุดที่มีความคิดบริสุทธิ์จริงๆเมื่อไหร่ (ปล่อยวาง-ไม่นึกอยากได้-อยากมี) จนแรงเสียดทานนั้นลดลงไปถึงจุดหนึ่ง ผลก็คือสิ่งนั้นจะพุ่งเข้ามาจนเราเองก็แทบตั้งรับไม่ทันเลยครับ

    จากการทดลองเมื่อเร็วๆนี้..ทำให้เห็นผลจริงๆครับ
    ทำให้รู้สึกมั่นใจและจดจำความรู้สึกนั้นที่อยู่ในแนวเดียวกับพลังงานอันบริสุทธิ์ได้ครับ ด้วยความปรารถนาที่จะไม่ปรารถนา การปลดปล่อยความต้านทานต่างๆออกไปใฟ้หมด..
    ผลก็คือ...สิ่งนั้นจะเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ..

    และเป็นวิธีการง่ายๆที่ใครก็สามารถทำได้ ถ้าเข้าใจและรู้จักการควบคุมใจของเราเอง
    และเราจะสนุกกับเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆที่เราจดจ่อได้เป็นอย่างดีครับ...นำมาเล่าให้ฟังก่อนเล็กๆ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2009
  6. tamm16

    tamm16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +466
    ผมยังจำได้ไม่หมดเลยที่ว่าพอล้มตัวลงนอน ให้เอาจิตไปเพ่งไว้ตรงตาที่สาม เหอๆ

    ลืมบทท่อง ทุกที -*- แต่บางทีฝันแปลกๆเหมือนฝันไปเรื่อยเสียซะมากกว่า -*- แต่จะว่าอย่างงั้นก็ไม่เชิงเพราะ เราได้บังคับตัวเองตอนแรกๆ แต่หลังๆเราเหมือนผู้ดู -*-
     
  7. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    วิ่งหนีออกมาข้างนอกถึงบริเวณถนนใหญ่จะหารถกลับบ้าน มองหารถอย่างเงอะงะสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก เดินสะเปะสะปะต่อไปจนล่วงมาถึงที่อีกที่หนึ่งเป็นถนนเงียบเชียงอึมครึมความรู้สึกบอกว่าที่ตรงนี้เคยเป็นที่พลุกพล่านแถวพาหุรัดยาวไปถึงเมอรี่คิงส์ แต่บัดนี้ดูวังเวงไม่มีผู้คนไปไหนกันหมดพยายามมองหาใครสักคนเพื่อถามทางกลับบ้านเส้นทางก็เปลี่ยนแปลงไม่เหมือนเดิม เดินวนเวียนติดอยู่ที่ตรงนี้นานจนมีหนุ่มผิวดำหน้าเข้มคนนึงที่ยังบอกไม่ถูกว่าประสงค์ดีหรือร้ายยืนเตร็ดเตร่เหมือนเป็นคนแถวนี้หรือรอคอยอะไรอยู่ ฉันเดินเข้าไปถามว่าถนนที่นี่เปลี่ยนไปเยอะแล้วมีทางให้เลือกกลับบ้านต้องสามทางหัวท้ายและตรงกลางไม่รู้จะไปทางไหน แต่เขากลับชี้ให้ลงไปข้างถนนมีช่องสี่เหลี่ยมเล็กนิดเดียวให้รอดเข้าไปใต้นั้นก็จะทะลุไปอีกถนนหนึ่งก็จะมีรถเมล์สายกลับไปบ้านได้ ฉันมองช่องมันเล็กกว่าตัวฉันตั้งเยอะขนาดหมาตัวเล็กยังมุดเข้าไปไม่ได้แล้วฉันจะดันทุรังเข้าไปได้ยังไง ฉันไม่เชื่อเขาและท่าทางเริ่มเปลี่ยนมีพิรุธ ที่ก็เปลี่ยวมีฉันกับมันเท่านั้น ถ้าขืนเชื่อเท่ากับตกเป็นเหยื่อมันได้ใครจะไปรู้มันชอบกล ฉันปฏิเสธไม่ลงไปแล้วรีบเดินไปเลือกทางตรงกลางเดินต่อไปก็เป็นทางตันเจอผู้หญิงแก่ ๆ สองคนเฝ้าอยู่ถามได้ความว่าตรงนี้หากใครหลงเข้ามาก็จะแนะทางถูกให้ แต่หนึ่งในหญิงแก่อีกคนบอกว่าอยากกลับออกไปให้ถูกทางหล่อนก็จะเป็นคนนำทางให้แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหนึ่งร้อยบาทโหน้ำใจคนหนอฉันรำพึง เงินนะไม่เสียดายแต่คนกำลังหลงทางกลับบ้านจะมีกรุณาช่วยหน่อยโดยไม่ต้องเอาค่าตอบแทนเป็นอามิสสินจ้างก็ไม่ได้เชียวหรือ แต่ก็ช่างไม่อยากคิดอะไรแล้วเมื่ออยากได้ก็ต้องจ่าย ตกลงกันได้จะเดินออกมา อีตาวิรัชตาเขตามมาเมื่อไหร่มาอยู่ตรงหน้าบอกจะพาฉันไปส่งขึ้นรถเอง ดูหญิงแก่พินอบพิเทาเกรงเขาอยู่คร้ามครันก็ต้องให้เป็นตามนั้นถึงแม้จะเจเหตุการณ์นั้นมามาด ๆ หรือสาวเจ้าส่งให้เขามาเดาไม่ถูกเหมือนกัน ฉันเดินตามหลังเขามาเกือบถึงทางหัวถนน พลันฉันก็ระลึกได้ว่านี้เป็นสนามหลวง ฉันรู้สึกดีใจสุด ๆ เขาบอกให้ฉันนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์รับจ้างข้างต้นมะขาม แต่ต้องเอาเข็มขัดรัดตัวฉันกับคนขับพร้อมทั้งรถฯคันนี้ด้วยเพราะตัวฉันมันถูกดึงขึ้นเหมือนไม่มีแรงโน้มถ่วงขืนตัวให้นั่งติดกับรถไม่ได้ยิ่งขืนยิ่งพาทั้งคนทั้งรถลอยเหาะสูงขึ้น ๆสูงมากขึ้นมองลงมาเห็นคนจำนวนมากเหลือตัวนิดเดียวพื้นที่ถูกตัดออกเป็นสองส่วน ๆ หนึ่งคือผู้คนที่กำลังเห็นไม่มีบ้านอยู่อาศัยเป็นพื้นที่แห้ง อีกครึ่งหนึ่งทางที่จะกลับบ้านไปทางบางแคนั้นน้ำท่วมมิด รถมอเตอร์ไซด์ลอยสูงไปเกี่ยวลูกบอลลูนที่เขาติดเชือกลอยไว้บนที่สูงเพื่อบอกป้ายให้รู้อะไรสักอย่างเชือกหลุดลูกบอลลูนลอยขึ้นฟ้า รถมอฯก็ลอยละลิ่วลับมองเห็นแต่อากาศว่าง ๆ เหมือนจะหลุดออกจากชั้นบรรยากาศ ฉันเริ่มหายใจขัดและกลัวหลับตาอย่างเดียวแล้วกำหนดว่าอยู่ในห้อง ๆ ๆ แว็บเดียวฉันก็มาอยู่ในห้องที่บ้านที่ฝั่งธนฯจนได้ ฉันคิดกว่าจะกลับบ้านได้ก็เล่นเอาเหนื่อยจริง ๆ./<O:p</O:p
     
  8. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    จินตวดีรู้สึกดีใจด้วยจริง ๆ ที่คุณมี้ดใช้กุญแจไขประตูได้แล้ว สิ่งที่คุณมี้ดค้นพบมันทำให้จินตวดีรู้สึกถึงเงื่อนงำของคำว่า "รักอันปราศจากเงื่อนไข" ได้ดียิ่งขึ้น เพราะเมื่อเรามีความต้องการสิ่งใดหรืออยากให้สิ่งใดมาปรากฏทางกายภาพ เราแค่เพียงรู้สึกถึงสิ่งนั้นให้ได้ราวกับว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา รักสิ่งนั้นให้ออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ แต่ความรักและความรู้สึกนึกถึงมันมีเพียงแค่รัก รักโดยไม่ได้หวังครอบครอง รักโดยไม่ได้หวังเป็นเจ้าของหรือบงการ (นั่นจะเปรียบได้กับความรู้สึกของคุณมี้ดที่ว่า เมื่อรู้สึกถึงมัน แล้วก็ปล่อยให้ความรู้สึกนั้นร่วงหล่นลงไป หรือละวางมัน) มีเพียงแค่รักและรู้สึกดีมาก ๆ เต็มตื้นมาก ๆ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ไม่ว่าการเป็นเจ้าของ การครอบครอง การอยากได้ มีเพียงแต่ใจที่ระลึกถึงเพียงความสุขที่มีมันเท่านั้น ถ้าความรู้สึกนั้นมีความเข้มข้นพอผสมกับความบริสุทธิ์ (ที่คุณอวตารบอยเคยบอกว่าคล้ายความไร้เดียงสาของเด็กที่มีความอยากจะเล่น อยากจะได้โดยไม่มีกิเลสมาเจือปน คิดแต่ความสุข ความสนุกที่จะได้เล่นเท่านั้นเอง) นั่นแสดงว่าคุณมี้ดค้นพบความรู้สึกนั้นแล้ว ประสบความสำเร็จแล้ว ขอให้คุณจำความรู้สึกนี้ไว้ และขอบคุณมาก ๆ ที่ได้นำความรู้มาถ่ายทอดให้เพื่อน ๆได้เข้าใจและมองเห็นอย่างง่ายดายด้วยค่ะ

    เราทุกคนล้วนมีกุญแจที่สามารถไขกล่องพานามุ ที่เก็บซ่อนปริศนาของจักรวาล กล่องพานามุนี้สถิตอยู่ที่ในใจของทุกท่านรอวันที่เจ้าของจะค้นพบกุญแจแล้วไขเข้าไปค้นพบความจริงข้างในด้วยตนเอง สำหรับบางท่าน ถ้าทำแล้วไม่สำเร็จผล นั่นอาจเป็นเพราะเกี่ยวเนื่องกับเป้าหมายของจิตวิญญาณภายใต้ภาวะทางกายภาพของตัวท่านเอง ถ้าเรานั่งนิ่ง ๆ บางทีเราอาจจะค้นพบมันโดยบังเอิญ

    จินตวดีเข้าใจมันนะ แต่ไม่ลองทำสักที ฮ่า ๆ ไม่ว่าจะเรืองใดก็ตามแม้แต่เรื่องสุขภาพ แต่พอเราลองนั่งนิ่ง ๆ กลับค้นพบว่า ตัวเองในขณะนี้มีความภาคภูมิใจ กับความอดทน กับความเข้มแข็งของตัวเองที่รับทุกสภาวะเการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ในระดับนี้ เพราะรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทนและอึดได้ขนาดนี้ จินตวดีระลึกถึงมัน และมีความสุขกับมันในขณะที่ดำรงชีวิตอยู่ มันทำให้นึกถึงความฝันเมื่อคืนก่อน เราเดินทางไปตามทางที่แสนจะขรุขระ ดูไม่สะดวกสบายเพราะต้องเดินทางไปตามร่องสวนที่เต็มไปด้วยคันนา มูลดิน ไหนจะมีคลอง แต่ในความลำบากนั้น ตัวเรากลับระลึกได้ถึงสภาวะทั้งหลายที่แวดล้อมเรา มันช่างเต็มไปด้วยความงดงามตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ตามคันนา หรือสระบัว เรารู้สึกร่มเย็นเป็นสุขมาก ถึงแม้ในขณะนั้นเราจะประสบกับความลำบากบ้างในการเดินทางก็ตาม ขณะนั้นในความฝันเรารู้สึกถึงสิ่ง ๆ หนึ่งว่ากำลังตามเรามา และกำลังจะถึงตัวเราในไม่ช้า เรารู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจ ขณะที่เรากำลังตัดสินใจจะกระโดดลงไปในสระบัวซ่อนใต้ใบบัว พลันจิตก็ได้ระลึกขึ้นมาว่า แล้วเราจะกลัวมันไปทำไม เรากลัวในสิ่งที่เรายังไม่เห็นตัวมันด้วยซ้ำ ในบัดดลจินตวดีตัดสินใจเดินตามทางตามปกติ สิ่งที่ตามมาทันปรากฏเป็นสิ่งที่ไม่เห็นตัวตนแต่สัมผัสได้ด้วยจิตว่าเป็นเพื่อนรักที่จากกันมานานแสนนาน เราและเขาเป็นเหมือนหนึ่งเดียวกัน แล้วเราก็เริ่มต้นท่องเที่ยวไปด้วยกัน ในที่สุดเราและเขาบรรลุจุดหมายและเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ทั้งคู่

    มันสอนให้เราเห็นว่า ความยากลำบากทั้งหลายที่ปรากฏขึ้นมาในชีวิตของคนเรา บางอย่างมันมาปรากฏเพื่อสอนให้เราได้เรียนรู้ความรู้สึกหนึ่ง ๆที่ปรากฏขึ้นฉับพลันภายใต้สถานการณ์นั้น ๆ และเรียนรู้ที่จะทำให้ปรากฏการณ์นั้น หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขมันให้ปรากฏขึ้นมาในทิศทางที่เป็นบวก เมื่อนั้น ความเชื่อเปลี่ยนเป็นความรู้ ความรู้สึกได้รับการเติมเต็ม ปัญหาที่เคยเกิดในแนวทางเดิม ๆ นั้น ส่วนใหญ่มักจะหยุดไปและไม่ปรากฏขึ้นมาอีก

    จินตวดีรู้สึกถึงข้อความข้างบนนั้นจริง
     
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    คุณหงบคะ ดาวที่จินต์สะดุดตา มันมีสองดวงค่ะ ดวงหนึ่งปรากฏพร้อมดวงนี้เมื่อปีที่แล้วช่วงนี้ค่ะ มันมีแสงเจิดจ้ามากกว่าดวงปัจจุบันนี้เยอะ ตอนนั้นสะดุดตาดวงนั้นมาก แล้วดวงนั้นมันก็ขยับได้เหมือนกัน แต่หลังจากป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลปีที่แล้ว เป็นเรื่องที่แปลกแต่จริง ดาวดวงแรกมันเริ่มหายไปจากชึวิตพร้อมความรู้สึกบางอย่างที่หายไปเหมือนกัน เหลือแต่ดวงปัจจุบันนี้ที่เห็น มีความรู้สึกว่ามันเป็นภาพลวงตาที่อยู่ภายใต้เครื่องพรางอะไรบางอย่าง ความรู้สึกจริง ๆ คือ ไม่ชอบเหมือนอยู่ภายใต้อะไรซักอย่าง จินต์ชอบความเป็นอิสระ และไม่ขึ้นอยู่กับใคร ไม่เป็นของ ๆ ใคร ไม่อยู่ภายใต้การควบคุม ครอบครองของใคร (พูดแล้วคิดถึง อนัตตสูตรขององค์สมเด็ดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย)
     
  10. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    อืมครับ กำลังหาข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พอดีเลยนะครับ คุณจินตวดี และที่ผ่านมาก็รู้สึกว่าใช่จริงๆด้วย ขอบคุณมากๆนะครับที่เอามาลง
    ช่วงนี้กำลังฝึกเรื่องประสาทสัมผัสภายในทั้งเก้าชนิดในความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณอยู่ เพราะรู้สึกว่าจะเป็นข้อมูลที่อาจารย์ได้คุยเอาไว้มากที่สุดว่าเป็นข้อมูลที่ชาญฉลาดอย่างยิ่ง
    และระหว่างฝึกก็ได้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ถ้ายังไงไว้สักพักจะมาเล่าให้ฟังต่อน่ะครับ
    แต่ที่ค้นพบอย่างนึงคือ การตระหนักอยู่เสมอๆว่าเราสร้างโลกแห่งความเป็นจริงจากความเชื่อ จะสามารถทำให้เรามองเห็นความเชื่อต่างๆที่สร้างความเป็นจริงในช่วงนั้นๆ และมองเห็นว่าเราบกพร่องหรือเชื่อสิ่งไหนที่ถูกที่ผิดไป ดังนั้นการเชื่อว่าเราสร้างโลกแห่งความเป็นจริงจากความเชื่อนี้ จะให้ผลดีกับเราเสมอ ซึ่งรู้สึกว่าอาจารย์โนวาอนาลัยก็เคยบอกเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ
     
  11. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อืม เรื่องการจดจ่อและกฏแห่งการดึงดูด ช่วงนี้ถ้าสงบเป็นนาฬิกา ประมาณว่ากำลังเดินถอยหลังเพื่อย้อนเวลากลับไปทำภาระกิจและแก้ไขเรื่องราวบางอย่างให้จบลงอย่างสวยงาม สงบรู้สึกดีกับหลายเรื่องและได้เข้าใจวาระจิตของใครต่อใครอีกหลายคนแม้แต่วาระจิตของตัวเอง คงไม่ต้องพูดอีกแล้วว่า "ถ้าย้อนเวลาได้จะกลับไปแก้ไขให้มันดีขึ้น" เรื่องราวบางเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรานั้นบางเรื่องการนิ่งเงียบในขณะนั้น ไม่ได้นิ่งเงียบเพราะความเข้าใจ แต่เกิดขึ้นเพราะเราช็อค เมื่อจิตที่ได้รับการฝึกจนจิตใจเข้มแข็งดีแล้วเราได้กลับไปแก้ไขมันอีกครั้ง ขอบคุณกาลเวลา และเหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้ เรื่องที่ไม่ใช่ความบังเอิญได้เกิดขึ้น ทำให้รู้ว่าบางอย่างที่ตกตะกอนอยู่ในใจนั้น มันยังคงอยู่ ก่อนหน้านี้เราคิดว่ามันหายไปเสียจริงๆ โชคดีจัง ที่ได้รับรู้ว่ามันยังอยู่ในขณะที่จิตใจยังเข้มแข็ง และมีความเมตตา และอภัย อยู่เต็มล้นหัวใจ เฮ้อ..... โล่งอก
    อิอิ สงบก็พึ่งทราบค่ะว่า นอกจาก คุณ mead กับสงบ แล้ว ยังมีคุณ JINTAWADEE ที่มีตะกอนในใจ แต่ก็ดีใจ ที่เราได้แก้ไขในเวลาไล่เลี่ยกัน มากๆ แปลกจริงหนอ ... (เอ้าลืม!.... หัวหน้า ช่วยหาจำกัดความของคำว่า แปลก ที่ไม่แปลกด้วยค่ะ )และที่สัมผัสได้ คือ เราทั้ง 3 คน มีอภัยและเมตตาอยู่เต็มล้นหัวใจพอๆกันค่ะ ;aa53
     
  12. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    มันเป็นปริศนาทางจิตนะค่ะเนี่ย แต่อ่านแล้ว เข้าใจค่ะ ดีใจกับคุณJINTAWADEE ด้วย ที่ได้ดำเนินไปในทางอิสระเหนือการควบคุม และครอบครองของใคร แต่สำหรับสงบแล้ว อำนาจของความรักความเมตตาแห่งดวงดาว ทำให้สงบยังคงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของดาวดวงหนึ่ง( คงติดตามเรามานาน) ยังคงเปล่งแสงให้เราสัมผัสได้อยู่เสมอ แต่เมื่อถึงเวลา เราก็จะได้หลุดพ้น จากอำนาจทุกชนิด คือความว่างเปล่า
     
  13. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    "จินตวดีรู้สึกดีใจด้วยจริง ๆ ที่คุณมี้ดใช้กุญแจไขประตูได้แล้ว สิ่งที่คุณมี้ดค้นพบมันทำให้จินตวดีรู้สึกถึงเงื่อนงำของคำว่า "รักอันปราศจากเงื่อนไข" ได้ดียิ่งขึ้น เพราะเมื่อเรามีความต้องการสิ่งใดหรืออยากให้สิ่งใดมาปรากฏทางกายภาพ เราแค่เพียงรู้สึกถึงสิ่งนั้นให้ได้ราวกับว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา รักสิ่งนั้นให้ออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ แต่ความรักและความรู้สึกนึกถึงมันมีเพียงแค่รัก รักโดยไม่ได้หวังครอบครอง รักโดยไม่ได้หวังเป็นเจ้าของหรือบงการ (นั่นจะเปรียบได้กับความรู้สึกของคุณมี้ดที่ว่า เมื่อรู้สึกถึงมัน แล้วก็ปล่อยให้ความรู้สึกนั้นร่วงหล่นลงไป หรือละวางมัน) มีเพียงแค่รักและรู้สึกดีมาก ๆ เต็มตื้นมาก ๆ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ไม่ว่าการเป็นเจ้าของ การครอบครอง การอยากได้ มีเพียงแต่ใจที่ระลึกถึงเพียงความสุขที่มีมันเท่านั้น ถ้าความรู้สึกนั้นมีความเข้มข้นพอผสมกับความบริสุทธิ์ (ที่คุณอวตารบอยเคยบอกว่าคล้ายความไร้เดียงสาของเด็กที่มีความอยากจะเล่น อยากจะได้โดยไม่มีกิเลสมาเจือปน คิดแต่ความสุข ความสนุกที่จะได้เล่นเท่านั้นเอง) นั่นแสดงว่าคุณมี้ดค้นพบความรู้สึกนั้นแล้ว ประสบความสำเร็จแล้ว ขอให้คุณจำความรู้สึกนี้ไว้ และขอบคุณมาก ๆ ที่ได้นำความรู้มาถ่ายทอดให้เพื่อน ๆได้เข้าใจและมองเห็นอย่างง่ายดายด้วยค่ะ"
    สงบเองก็รู้สึกและเข้าใจอย่างนี้เช่นกัน ขอบคุณ คุณจินตวดี และ ดีใจกับคุณ mead ด้วยค่ะ คงโล่งอกเหมือนกัน อิอิ " เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน"55
     
  14. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    รออ่านค่ะ อย่าลืมมาเล่าแบ่งปันกันนะค่ะ :cool:
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    จริงครับเรื่องตะกอนในใจเขื่อว่ามีกันทุกคนนะครับคุณหงบ
    บางเรื่องในอดีต..ที่ยังค้างคาใจ มันก็ไม่หายไหน วันนึงมันจะหวนกลับมาให้เราต้องสะสางครับ เหมือนเรานั่งทับต้นหญ้าเจ้าปัญหาเอาไว้-พอลุกขึ้นเดินไปมันก็ยังอยู่ตรงนั้นอยู่ดี จนกว่าเราจะรู้วิธีการจัดการกับมันด้วยพลังแห่งความรักและวินาทีแห่งปัจจุบันครับ อันจะช่วยให้เรื่องราวในอดีตทั้งหลายกลายเป็นโมฆะกรรมได้ไม่ช้าก็เร็ว ด้วยความอดทน-อดกลั้น-และให้อภัยจากใจจริง ที่สำคัญอย่าหลีกเลี่ยงด้วยครับ ด้วยการเอาใส่ใจขึ้นเมื่อพบต้นเหตุ ช่วยกันปรับจูนให้อยู่ทิศทางที่เหมาะสม เราต้องมีใบเรือและเข็มทิศนำทางที่ดีด้วยครับ พากันก้าวเดินไปด้วยการความรักความเมตตาอันบริสุทธิ์แท้จริง อันเป็นทางออกที่ดีของทุกๆฝ่าย ตะกอนขุ่นมัวไหนๆก็ไม่อาจขุ่นมัวได้ต่อไปหากเราเข็มแข็งพอในทุกๆเรื่อง..ความบังเอิญไม่มีในโลก..นะครับ


    ส่วนเจ้าความแปลกที่ไม่แปลกนี่...ก็อยู่ที่ว่าเรารู้สึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติมากกว่านะครับคุงหงบ..มันก็เป็นของมันเช่นนั้นเอง...ไม่มีความแปลก...แต่ความแปลกใหม่มันเป็นเรื่องตื่นเต้นท้าทาย เป็นสัสันของชีวิตดีเหมือนกันนะครับคุณหงบ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2009
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ขอบคุณครับคุณจัมโบ้เอ...ขอให้มีสุขภาพอันใหม่เอื่ยมยอดเยี่ยมปรากฎขึ้นเร็วๆนะครับ ให้เหมือนผีเสื้อบินออกจากรังไหมเป็นตัวตนใหม่อันน่ามหัศจรรย์ เพราะเราต่างก็เป็นนักเดินทางสำรวจในการค้นหาบางสิ่งที่สำคัญมาด้วยกัน จากการแลกเปลื่ยนประสบการณ์ที่ถ่ายทอดสะท้อนแสงเงาและกันไปมาให้เห็นอยู่ทุกขณะ จะเป็นเหมือนแสงสว่างจาก "กล่องพานามุ" ที่กำลังเปิดออกทีละน้อยๆครับ.. :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2009
  17. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เราเดินทางไปตามทางที่แสนจะขรุขระ ดูไม่สะดวกสบายเพราะต้องเดินทางไปตามร่องสวนที่เต็มไปด้วยคันนา มูลดิน ไหนจะมีคลอง แต่ในความลำบากนั้น ตัวเรากลับระลึกได้ถึงสภาวะทั้งหลายที่แวดล้อมเรา มันช่างเต็มไปด้วยความงดงามตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ตามคันนา หรือสระบัว เรารู้สึกร่มเย็นเป็นสุขมาก ถึงแม้ในขณะนั้นเราจะประสบกับความลำบากบ้างในการเดินทางก็ตาม ขณะนั้นในความฝันเรารู้สึกถึงสิ่ง ๆ หนึ่งว่ากำลังตามเรามา และกำลังจะถึงตัวเราในไม่ช้า เรารู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจ ขณะที่เรากำลังตัดสินใจจะกระโดดลงไปในสระบัวซ่อนใต้ใบบัว พลันจิตก็ได้ระลึกขึ้นมาว่า แล้วเราจะกลัวมันไปทำไม เรากลัวในสิ่งที่เรายังไม่เห็นตัวมันด้วยซ้ำ ในบัดดลจินตวดีตัดสินใจเดินตามทางตามปกติ สิ่งที่ตามมาทันปรากฏเป็นสิ่งที่ไม่เห็นตัวตนแต่สัมผัสได้ด้วยจิตว่าเป็นเพื่อนรักที่จากกันมานานแสนนาน เราและเขาเป็นเหมือนหนึ่งเดียวกัน แล้วเราก็เริ่มต้นท่องเที่ยวไปด้วยกัน ในที่สุดเราและเขาบรรลุจุดหมายและเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ทั้งคู่


    มันสอนให้เราเห็นว่า ความยากลำบากทั้งหลายที่ปรากฏขึ้นมาในชีวิตของคนเรา บางอย่างมันมาปรากฏเพื่อสอนให้เราได้เรียนรู้ความรู้สึกหนึ่ง ๆที่ปรากฏขึ้นฉับพลันภายใต้สถานการณ์นั้น ๆ และเรียนรู้ที่จะทำให้ปรากฏการณ์นั้น หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขมันให้ปรากฏขึ้นมาในทิศทางที่เป็นบวก เมื่อนั้น ความเชื่อเปลี่ยนเป็นความรู้ ความรู้สึกได้รับการเติมเต็ม ปัญหาที่เคยเกิดในแนวทางเดิม ๆ นั้น ส่วนใหญ่มักจะหยุดไปและไม่ปรากฏขึ้นมาอีก

    จริงครับเรื่องตะกอนในใจเขื่อว่ามีกันทุกคนนะครับคุณหงบ
    บางเรื่องในอดีต..ที่ยังค้างคาใจ มันก็ไม่หายไหน วันนึงมันจะหวนกลับมาให้เราต้องสะสางครับ เหมือนเรานั่งทับต้นหญ้าเจ้าปัญหาเอาไว้-พอลุกขึ้นเดินไปมันก็ยังอยู่ตรงนั้นอยู่ดี จนกว่าเราจะรู้วิธีการจัดการกับมันด้วยพลังแห่งความรักและวินาทีแห่งปัจจุบันครับ อันจะช่วยให้เรื่องราวในอดีตทั้งหลายกลายเป็นโมฆะกรรมได้ไม่ช้าก็เร็ว ด้วยความอดทน-อดกลั้น-และให้อภัยจากใจจริง ที่สำคัญอย่าหลีกเลี่ยงด้วยครับ ด้วยการเอาใส่ใจขึ้นเมื่อพบต้นเหตุ ช่วยกันปรับจูนให้อยู่ทิศทางที่เหมาะสม



    ก็กำลังจะเอามาโยงกับเรื่องกฏแห่งกรรม พอดีหัวหน้าห้องมาโยงให้เหมือนรู้ใจซะแล้ว นี่แหละ จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบัน
     
  18. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    นอกจากรอฟังแล้ว ยังรอรับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสภายในอีกด้วยค่ะ ไม่ลองสังเกตุดูหรือ ว่าพวกเรากำลังเรียนรู้เรื่องเดียวกัน ไปพร้อม ๆ กัน ประสบการณ์ของคน ๆ หนึ่งกลับเป็นประสบการณ์ในความฝันของอีกคนหนึ่ง หรือเผชิญประสบการณ์ในแง่มุมที่คล้าย ๆ กัน ข้อมูลของแต่ละคนที่ได้มาต่างก็ช่วย สนับสนุนข้อมูลของอีกท่านหนึ่งเสมอ


    เคยเล่าเรื่องน้องคนหนึ่งให้ฟังแล้วชื่อน้อง เอ.เจ. น้องคนนี้ไม่เคยเข้ามาในเว็บพลังจิต แต่ก็มีประสบการณ์ทางจิตวิญญาณอันเข้มข้น เขาเล่าว่าหลังรู้จักกับจินตวดี เขาเริ่มต้นฝัน เขาเล่าว่าเขาฝันเห็นคนจำนวนมากกำลังทำข้องสอบเรื่อง "จิตจักรวาล" เขาเล่าว่าในฝันเขาทำไม่ได้ หลายคนทำเสร็จออกจากห้อง จนถึงเขา เขาส่งกระดาษเปล่า หลังจากนั้นเขาได้เรียนรู้ประสบการณ์หลายอย่างจากชีวิตจริง (ความรู้สึกหลังเจอความผิดหวัง) แล้วเขาก็ฝันอีกครั้ง คราวนี้เขาทำได้บ้างแต่ก็ไม่เสร็จ เขาฝันเห็นผู้คุมสอบมาดึงกระดาษสอบออกไปพร้อมบอกว่าหมดเวลา เอ.เจ ไม่รู้ว่าเขาผ่านหรือเปล่า หลังจากนั้นเขาฝันเห็นคนมาบอกว่า "ภารกิจเขาคือตามหาดอกไม้สีแดงมาท้ดหูให้ได้" หลังจากนั้น น้องคนนั้นเขามีความคิดแง่บวกเกี่ยวกับความผิดหวังมากขึ้น และได้มายืมหนังสือ "เข็มทิศชีวิต"จากจินตวดีไป หลังจากนั้น เขาฝันว่าได้ทำข้อทดสอบอีก ปรากฏว่า คราวนี้เขาทำได้ทุกข้อ คือมีเครื่องหมายถูกปรากฏหมดทุกข้อ เขาบอกว่าสร้างความดีใจให้กับเขาอย่างมาก จนมาเมื่อเช้านี้ได้มาเล่าให้ฟังว่า เขาได้ไปเข้าเรียนมหาลัยจิตวิญญาณ ด้านหน้าชื่อเบลอ ๆ มองไม่ถนัด เมื่อเข้าไป ภายในมหาลัยถูกตกแต่งสวยงามมาก น้องบอกว่าเหมือนไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์ ตึกการเรียนการสอนแบ่งเป็นสามโซน คือ ด้านขวาเป็นภาคภาษาอังกฤษ ตรงกลางเป็นจีน ด้านซ้ายมือเป็นไทย นักเรียนส่วนใหญ่จะอยู่ที่โซนไทยและโซนจีน ส่วนฝั่งภาษาอังกฤษมีน้องเอ.เจ.แต่เพียงคนเดียว ในห้องเรียนไม่มีใครเลยมีกระดานดำปรากฏตัวหนังสือภาษาอังกฤษแบบโบราณปรากฏอยู่ น้องจึงเดินออกไปข้างนอก ข้างนอกโรงเรียนเป็นป่า ปรากฏกลุ่มคนกำลังรุมกินอะไรบางอย่างอยู่ เอ.เจ. เลยกลับไปห้องเรียนอีกครั้ง ในห้องภาคภาษาอังกฤษยังปรากฏเอ.เจ.แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น น้องบอกว่าคนอื่นไปอยู่โซนจีนกับไทยเท่านั้น


    แปลกแต่ไม่แปลกว่าไหมคุณหงบ คุณมี้ด
     
  19. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Hello...เพื่อนๆ
    ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามา เม้าท์เลย ยุ่งเหลือหลาย วันนี้ขอซักหน่อย

    เดรดฝัน เกี่ยวกับรถมาสามคืนแล้ว
    คืนแรกฝันว่า เดรดยืนอยู่หน้าประตูบ้าน แล้วอยู่ๆ ก็มีคนสองคน มายืนอยู่ที่ประตูหลังบ้าน
    ในความรู้สึกตอนนั้น รู้โดยทันที่ว่า เขาไม่ได้มาดีแน่ ก็รู้สึกถึงภัยอันตราย

    พยายามคุมสติ แต่ยอมรับว่ากลัวเอาเรื่อง พยายามไขกุญแจหน้าบ้านเพื่อจะออกไป
    ก็ไม่ทัน เขาสองคนเข้ามายืนประชิดตัวแล้ว ชายหนึ่งคน หญิงหนึ่งคน
    ตัวผู้ชาย เดินออกประตูหน้าไปรอ ส่วนคนผู้หญิงขอกุญแจรถเดรด
    แล้วบอกว่า เราจะเอาของทั้งหมดในรถ พร้อมรถคุณไป

    คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เขาไม่ได้มีอาวุธใด ยืนพูดกันเหมือนคุยกัน
    เขาบอกว่า เราไม่ได้จะมาทำร้ายคุณแค่มาเอาของเท่านั้น แล้วยิ้มหวาน เชียว

    ตอนนั้นความรู้สึกบอกว่า ต้องยอม รู้สึกเสียดายรถเหมือนกัน เพราะรักรถคันนี้มาก
    ของในรถก็เยอะ กระเป๋าถือเอกสารส่วนตัวก็อยู่ โน๊ตบุคอีก สมบัติส่วนตัวสารพัด
    (แบบ บ้าสมบัติ อะไรสำคัญๆ จะอยู่ในรถหมด)

    พยายามคิดว่า มีอะไรสำคัญบ้างไหม เลยมานึกได้ว่ามีกล่องเอกสารงานของลูกค้า
    เลยบอกโจรทั้งสองว่า อยากได้ก็เอาไป แต่ขอให้ยกลังเอกสารของลูกค้าออกให้ด้วย

    พอเขาไปแล้วก็โทรหาน้อง บอกว่าโดนปล้น แล้วก็มีการมาตรวจพื้นที่กันวุ่นวาย
    ต่อจากนี้เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ....ข้ามไปละกัน(ฝันจริงๆยาวมากๆ)...จบตอน

    ฝันที่สอง ไปไหนไม่รู้ แล้วจอดรถไว้ เดินไปเดินมาหลงทางหาทางกลับไปที่จอดไม่ถูก
    เลยต้องจำใจ หาทางกลับบ้านก่อน มาตั้งหลัก
    จากนั้นเดรดก็ พยายามกลับไปหารถต่อ แต่มีคนที่บ้านห้าม กลัวเดรดไม่กลับมา
    คนที่ห้ามในฝัน ดั๊นเป็นแฟนเก่า...อิอิ(มาได้ไงหว่า)

    แต่ข้าพเจ้าไม่ฟังจะไปให้ได้ ตอนนั้นอยู่บนบ้านชั้นสอง อยู่ดีๆ บันไดหาย
    กลายเป็นช่องต้องกระโดดลงมา แล้วมันก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เลยตัดสินใจโดดตุ๊บลงมา
    ความงก ไม่เคยปราณีใครจะกลับไปหารถให้ได้ แบบรักมากอ่ะ...จบ

    คืนที่สาม ก็ฝันว่าต้องกลับไปที่รถที่จอดอยู่ แต่ทางผ่านเป็นเนินและสิ่งก่อสร้างขวางอยู่
    คราวนี้มีคนเป็นกลุ่ม คนแรกเดินนำไป แล้วก็หยุด เราก็สงสัยว่าทำไมไม่เดินต่อ
    ปรากฏทางข้างหน้า เป็นเหว ชันมาก ไม่สามารถลงไปได้

    ตึกนี้มีสามชั้นชั้นบนสุดเหมือนดาดฟ้าเราต้องลงไปที่ชั้นที่สองให้ได้
    จึงจะมีลาน เพื่อเดินทะลุตึก แล้วลงบันได ออกไปที่ชั้นล่าง เพื่อจะไปยังลานจอด
    จากชั้นดาดฟ้า เดรดเลยเดินอ้อมมาด้านข้าง มีทางลงไปชั้นสอง แต่ต้องปีนลง
    แต่มันก็ยังพอไหว ไม่สูงมาก เลยปีนนำไปเป็นคนแรก แล้วทุกคนก็ตามมา...
    กลับไปลานจอดได้แล้ว ได้รถคืนแล้ว...จบบริบูรณ์
     
  20. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ตีความ....

    ทั้งสามตอน ต่อเนื่องกัน จากปัญหาที่เริ่มก่อตัว
    ตอนแรกเราต้องยอมรับ ปล่อยวาง
    (แสดงให้เห็นถึง การโอนอ่อนผ่อนตาม ด้วยสติ ไม่ฝืน แล้วค่อยหาทางแก้)

    ตอนสอง ยังแก้ไม่ได้ ก็กลับมาตั้งหลัก แล้วย้อนกลับไปใหม่
    ตอนสาม เมื่อเผชิญอุปสรรคที่ชัดเจน ค่อยแก้ไปที่ละเปลาะ

    นิทาน เอ๊ย!!...ความฝันอันนี้สอนให้รู้ว่า ทุกปัญหามีทางออก ไม่จำเป็นต้องดึงดัน
    เพียงแต่ยอมรับ ปล่อย และรอ...ทางก็จะเปิดให้เราเอง

    นัยยะ อีกอย่าง รถในความหมายของเดรด คือบุคลิกภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา
    (อย่าเอาไปเป็นมาตรฐานนะคะ ของใครของมัน )
    เพราะเดรดให้ความสำคัญกับรถมากกว่าบ้าน ใช้ชีวิตอยู่ในรถมากกว่า


    ทำให้มาคิดได้อีกอย่างว่า ตัวตนภายในของเรานั้น จะอยู่กับเราตลอด
    บางเวลาที่เค้าหายไป เป็นช่วงเวลาของความกลัว เป็นเวลาแห่งประสบการณ์

    แต่เมื่อเรามีสติและไม่ยอมแพ้ เราก็จะไปตามเค้ากลับมาจนได้

    ปัญหาต่างๆ เป็นปัจจัยภายนอก เราเคยชินกับการมองออกไป เราลืมสิ่งที่อยู่ข้างใน
    เค้าอยู่กับเราเสมอ เรามิได้โดดเดี่ยวแต่อย่างใด ...ค้นหาเข้าไปข้างใน

    เพราะ มีเพียง รัก...และตระหนัก รู้ เท่านั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...