เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เยี่ยมครับคุณกุณแจฯ หากได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบก็เป็นความสุขที่สุดแล้วครับ
    แต่ละคนก็ย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เคยซ้ำกันในจักรวาลครับ
    เลือกมาทำหน้าที่หรือมาขยายประสบการณ์ในรูปแบบต่างๆกันไป
    โลกใบนี้จะได้มีสีสันอันหลายหลายให้เราได้เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ
    โดยที่เราก็จะไม่ติดแหง็กนะครับ เพราะชีวิตจะเคลื่อนไหวอยู่เสมอๆ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2009
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    มาแล้วเหยี่อคนแรก อ้อ ไม่ใช่สิ...
    นี่ไม่ใช่คำถามล้วงตับนะครับคุณหงบ อิอิ
    ไม่มีใครจะเข้าใจความปรารถนาของเราได้ดีไปกว่าตัวเองนะครับ
    ในมุมมองของผู้อื่นก็จะสะท้อนภาพเราไปตามความเชื่อต่างๆกันไป
    เรื่อง "ความปรารถนาที่ไม่ปรารถนา"หรือ"อิสระแห่งความปราถนา" นี้จะเป็นอย่างไร?
    เชิญมาตอบกันต่อครับ ใครว่างเชิญก่อนอย่าแซงคิวกันนะครับ ..*-*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2009
  3. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    มาแล้วเหยี่อคนแรก อ้อ ไม่ใช่สิ...
    นี่ไม่ใช่คำถามล้วงตับนะครับคุณหงบ อิอิ

    ไม่มีใครจะเข้าใจความปรารถนาของเราได้ดีไปกว่าตัวเองนะครับ
    ในมุมมองของผู้อื่นก็จะสะท้อนภาพเราไปตามความเชื่อต่างๆกันไป
    เรื่อง "ความปรารถนาที่ไม่ปรารถนา"หรือ"อิสระแห่งความปราถนา" นี้จะเป็นอย่างไร?
    เชิญมาตอบกันต่อครับ ใครว่างเชิญก่อนอย่าแซงคิวกันนะครับ ..*-*<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แหม...หัวหน้า แล้วบอกไม่ล้วงตับกันน๊า .....
    555 เห็นๆ รออ่าน "ความปรารถนาที่ไม่ปรารถนา"ของคุณเดรดคนสวย และคุณเซลล์ มีอีกท่านมาแอบอ่านบ่อยๆ "คุณFalkman"และท่านอื่นๆด้วยค่ะ
     
  4. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ขอบคุณ คุณโมกลา และคุณสงบครับ ที่แชร์ประสบการณ์ให้ฟัง
    เราต่างเป็นหนึ่งเดียวกัน และเชื่อมโยงกันตลอดเวลา
    อ่านประสบการณ์ของเพื่อนๆ ก็เหมือนกับอ่านให้ตัวเองฟังครับ

    คำว่า กิเลส ความปราถนา ความอยากมีประสบการณ์ ความมุ่งมั่น หรือจะใช้คำไหนๆ ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่า สื่อถึงความหมายเดียวกัน

    ตามความเชื่อ มักมองว่า กิเลส ความปราถนา ความอยากได้อยากมี ความมุ่งมั่นที่จะได้ ที่จะมี ล้วนเป็นแง่ลบ เพราะจะทำให้พอกพูนความทุกข์ให้เพิ่มมากขึ้น ยึดติดมากขึ้น (ตรงนี้เป็นอุปสรรค โดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะเราไม่เชื่ออย่างจริงใจว่าจะเป็นไปได้ตามนั้น หรือหากได้รับมา ก็ต้องมีทุกข์ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้)

    ผมมองว่า ความเชื่อดังกล่าว เหมือนเรือ ที่จะนำไปสู่จุดหมาย แค่เรามีสติรู้อย่างเต็มเปี่ยมว่า เราเป็นผู้พายเรือ และใช้เรืออยู่

    จนภาพพิมพ์เขียวแห่งจุดหมายนั้น เป็นหนึ่งเดียวกับความทรงจำที่มี สิ่งที่ต้องการนั้น ก็จะกลายมาเป็นประสบการณ์จริงๆให้ประสบพบเจอ

    คำตอบไม่ต่างกับคุณหงบครับ ขอยืมมาใช้เลย อิอิ...


    ยินดีต้อนรับคุณ AVATAR_BOY กลับบ้านครับ hello11
     
  5. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Welcomeback
    Khun Avatar_boy
    Glad to see you again
    Ma boii boii na ka..
    Ru ka.. wa Khun ruk puak rao
    ...ei ei;aa28
    ..........................................
    โจทย์...

    จำเลย...
    เอ้ย!!.... ไม่ใช่ เป็นคำตอบ

    ตามนั้นเลยค่ะ คุณหงบ คุณเซลล์

    อะ อะ อะ...ล้อเล่ง เดี๋ยวจะว่าม่ะมี ความคิดเป็นของตนเอง
    ความปรารถนา ส่วนใหญ่ มันก็เป็นแค่ want ไม่ใช่ need

    เมื่อปรารถนา ก็จะเกิด สองสิ่ง นั่นคือ
    สิ่งที่ถูกปรารถนา เป็น passive
    และตัวการปรารถนา เป็น active (อูยย!!...เวบ ฝรั่งลง)

    เกิดการแบ่งแยกเป็นสองสิ่งไม่เป็นหนึ่ง เกิดช่องว่าง เกิดระยะทาง เกิดแรงต้าน
    ยิ่งปรารถนามาก ก็จะยิ่งเกิดช่องว่าง ....จึงมัก แห้ว
    เมื่อใด สิ่งที่ถูกปรารถนา และผู้ปรารถนา รวมเป็นหนึ่งเดียว
    ภาวะของ อิสระแห่งความปรารถนาก็จะเกิดขึ้น(ความปรารถนาที่ไม่ปรารถนา)
    นั่นก็คือ ....การเป็นความปรารถนานั้นๆ นั่นเอง

    งง มะ???...งง เหมือนกัน แต่จะพยายาม ต่อ ปาย

    การที่จะเป็นได้ มีได้ ก็ตามนี้เลยค่ะ
    v
    v

    ยกตัวอย่างหน่อย ก็ได้ ตามความเข้าใจส่วนตัวนะคะ
    เช่น ปรารถนาที่จะมีสุขภาพดี เราก็ต้องเป็นแบบนั้น ทำตัวแบบนั้น
    คือ เชื่อว่าแข็งแรง เชื่อในศักยภาพที่วิเศษของร่างกาย
    เพราะความเชื่อ
    จะก่อให้เกิดจินตนาการ---ดึงดูด สิ่งต่างๆที่เราเชื่อมาสู่โลกที่เราเป็นไป
    และดำเนินไป

    ขอบพระคุณ คุณ avatar_boy มากค่ะ ที่นำความรักมาแบ่งปัน
     
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Promotion จัดให้ สองเพลง สองภาษา
    โปรดเลือกฟังตามอัธยาศัย

    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #cccccc 1px solid; PADDING-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: #cccccc 1px solid; PADDING-LEFT: 0px; FONT-SIZE: 11px; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #cccccc 1px solid; COLOR: #ccffff; PADDING-TOP: 0px; BORDER-BOTTOM: #cccccc 1px solid; FONT-FAMILY: Arial, Helvetica, sans-serif; BACKGROUND-COLOR: #99ff00" cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><EMBED pluginspage=http://www.macromedia.com/go/getflashplayer src=http://www.esnips.com//escentral/images/widgets/flash/dj1.swf width=132 height=138 type=application/x-shockwave-flash quality="high" bgcolor="#99FF00" flashvars="autoPlay=no&theFile=http://www.esnips.com//nsdoc/0e123590-c233-48d9-881d-3be18828de98&theName=อย่ายอมแพ้&thePlayerURL=http://www.esnips.com//escentral/images/widgets/flash/mp3WidgetPlayer.swf"></EMBED></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 11px" vAlign=bottom align=middle>อย่ายอมแพ้.mp3</TD></TR></TBODY></TABLE>​


    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/G0et-zyoKLw&hl=en&fs=1& width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always">​
     
  7. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ขอบคุณสำหรับคำจำกัดความ"ความปรารถนาที่ไม่ปรารถนา"ที่อยู่ในหัวใจของคุณเซลล์ค่ะ
    "เราต่างเป็นหนึ่งเดียวกัน และเชื่อมโยงกันตลอดเวลา"
    อืม..นั่นซิค่ะจนบางครั้งสงบรู้สึกเหมือนกับว่า เราที่คุยๆกันอยู่นี่ต่างนั่งอยู่บนยานลำเดียวกัน มีจุดหมายปลายทางเดียวกันอยู่ในหัวใจลึกๆ
    เพียงแต่ว่า "เราไม่ได้ล้วงตับ หรือโดนล้วงตับ"พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
    "ความปรารถนาที่ไม่ปรารถนา"ของสงบไม่ได้เป็นกิเลส หรือความมุ่งมั่นในสิ่งใด ที่เป็นแง่ลบ ความปรารถนาของสงบเป็นความว่างเปล่า ว่างจากกิเลสทั้งปวง ......
    สงบวิ่งมาจนเลยความเหนื่อยไปแล้ว ดีนะที่เหนื่อยคราวนั้นไม่ทำให้สงบทรุดตัวลงไปนั่งหอบแฮ่กๆๆ ตอนนี้ก็วิ่งไปเรื่อยๆเป้าหมายแห่งความปรารถนารออยู่

    อืม...ไม่เหนื่อยเลยจริงๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราทำให้มันเป็นความว่างเปล่าตลอดเวลา ในขณะที่เรายังดำรงชีวิตอยู่กับมนุษย์ เราพึงดำรงชีวิตอย่างมนุษย์ ไม่ให้มันผิดปรกติไปจากนี้ ;aa19

    แต่ในหัวใจของเรา เราต้องรู้ว่าความปรารถนาของเราคือสิ่งใด ถ้าเราหามันพบแล้วเราก็ต้องอยู่กับมันทุกลมหายใจเข้าออก อยู่เหมือนไม่อยู่บางเบาแต่สม่ำเสมอนึกถึงครั้งใดก็ยังคงอยู่ 555 อืม....เวลาเหลือไม่มากแล้วจริงๆ
    เห็นด้วยหรือเปล่าค่ะคุณเดรด..................:VO
     
  8. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ถ้าสิ่งนั้นทำให้ใจไม่ไขว้เขว
    ไม่ลังเลจะก้าวเดินเผชิญโลก
    จงยึดไว้น้อมนำมาคราเมื่อโศก
    เอาไว้โบกพัดสบัดขจัดภัย


    คนเราต่างรากฐานแห่งความเชื่อ
    ที่คอยเอื้อหนุนเนื่องไปในชีวิต
    ดำเนินไปตามครรลองของลิขิต
    ผู้มีสิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่คือใจตน


    ถึงต่างคนต่างมุ่งมาดปรารถนา
    ถึงต่างคนกำเนิดมาเพื่อเป้าหมาย
    ถึงต่างคนต่างยึดมั่นต่างกันไป
    แต่..ทั้งหลายนั้นไซร้...ใช่อื่นเลย
    B_with_U​
     
  9. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    โจทย์...:VO


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ mead [​IMG]

    ที่นี้ในส่วนของ "ความปรารถนาที่ไม่ปรารถนา"ล่ะครับเป็นอย่างไร?..
    จึงอยากจะชวนพวกเราช่วยกันแสดงความคิดเห็นตรงนี้ซะเลยครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    จำเลย...:z5
    เอ้ย!!.... ไม่ใช่ เป็นคำตอบ
    เมื่อปรารถนา ก็จะเกิด สองสิ่ง นั่นคือ
    สิ่งที่ถูกปรารถนา เป็น passive
    และตัวการปรารถนา เป็น active (อูยย!!...เวบ ฝรั่งลง)

    เกิดการแบ่งแยกเป็นสองสิ่งไม่เป็นหนึ่ง เกิดช่องว่าง เกิดระยะทาง เกิดแรงต้าน
    ยิ่งปรารถนามาก ก็จะยิ่งเกิดช่องว่าง ....จึงมัก แห้ว

    "เมื่อใด สิ่งที่ถูกปรารถนา และผู้ปรารถนา รวมเป็นหนึ่งเดียว
    ภาวะของ อิสระแห่งความปรารถนาก็จะเกิดขึ้น(ความปรารถนาที่ไม่ปรารถนา)
    นั่นก็คือ ....การเป็นความปรารถนานั้นๆ นั่นเอง "
    อ้างอิง:ข้อความคุณเดรด

    อืม...อ่านข้อความ# 8168 อีกรอบ ช่องว่าง ระยะทาง และนาแห้วกว่า200 ไร่ก็จะหายไป รักคุณเดรดจังค่ะ จุ๊บๆ นอนหลับฝันดีนะค่ะคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ อิอิ sleeping_rb
     
  10. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    <TABLE class=tborder id=post2393138 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:44 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #8167 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kindred<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2393138", true); </SCRIPT>
    ผู้สนับสนุนบริจาค
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE class=tborder id=post2393141 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 12:45 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #8168 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สงบระงับ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2393141", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ป่ะ!..... ไปนอนหลับผักผ่อนกันคุณเดรด นี่ก็ดึกมากแล้ว เอ้ย...จะเช้าแล้ว เดี๋ยวเป็นหมีแพนด้า เขาว่าน่ารัก 555</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ทำการบ้านเก่งกันจริงๆเลยนะเนี่ยพวกเรา
    ต้องขอบคุณและยกนิ้วให้อีกหลายๆครั้ง อิอิ
    คำตอบของจำเลยทุกคน..(อุ๋ย..ไม่ไช่..)
    คำตอบของเพื่อนๆทุกคน ล้วนมาช่วยกันขยายมุมมองให้กว้างขึ้นได้อีกเยอะเลยครับ

    คำตอบนี้โดนเลยนะครับคุณเดรด...ถ้งยังมีสภาพเป็นสองสิ่งอยู่ก็จะ แห้ว เพราะไม่เป็นหนึ่งเดียวกันนะครับ ทางที่ดีเราต้องย้ายสิ่งกีดขวางระหว่างทางที่อยู่ในใจออกไปด้วย เพื่อลดแรงแรงต้านต่างๆและปรับทิศทางให้อยู่ในแนวเดียวกับพลังงานต้นกำเนิดให้ได้มากที่สุด..เหมือนเราขับมอเตอร์ไซด์เราก็ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกับรถทั้งคันให้ได้จริงมั๊ยครับ ลดแรงต้านด้วยการลดตัวต่ำลงให้ลาดและลู่ลมแบบ aerodynamic หรือผสานกันจนเป็นหนึ่งเดียวกับกระแสลมได้ก็ยิ่งดีครับ (ทำให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้นด้วย)

    เราทุกคนก็เคยถูกสอนมา ว่ามันไม่เหมาะที่จะมีความปรารถนาใดๆ ต้องลด ละ เลิก ความอยากหรือความไม่อยากใดๆ เพราะความปรารถนาจะกีดกั้นเส้นทางในการบรรลุธรรม (ทางศาสนา) ต้องปลดปล่อยมันออกไปให้หมด และเราจะรู้สึกดีกว่า..ถูกมั๊ยครับ
    แต่ในความเป็นจริง สภาวะแห่งความสงบสุข และความมุ่งมั่นใดๆบนเส้นทางของศาสนา ก็เป็นความปราถนาสูงสุดของเราเช่นกันกันนะครับ

    การปลดปล่อยแรงปรารถนาใดๆออกไป ก็เท่ากับว่าเราปลดปลอ่ยแรงต้านทานในใจออกไปเช่นกันครับ เราจะรู้สึกว่าโล่งขึ้น (เหมือนที่คุณสงบบอกว่า วิ่งมาตั้งนานเพิ่งจะได้พักเหนี่อย) เมื่อเราหยุดหรือพอแล้ว วางมันแล้ว โดยที่เราไม่จำเป็นต้องวิ่งเข้าหาหรือออกห่างมันก็ได้ เพียงแต่เราต้อง "เข้าใจมัน"จากประสบการณ์และสภาพแวดล้อม และสิ่งนั้นจะบังเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ทุกอย่างที่ว่ามานั้นสามารถก็ทำได้ในใจเราทั้งหมดเลยครับ


    ***อันนี้ลองคิดให้ง่ายๆครับ ***
    - การสั่นสะเทือนความปรารถนาใดๆอย่างบริสุทธิ์จะสัมฤทธิ์ผลง่ายขึ้น
    - แต่หากไม่อยู่ในจุดที่บริสุทธิ์มันก็ไม่อาจจะเอื้อมถึง


    ความปรารถนาที่ดีต้องเป็นความรู้สึกที่อิสระและสดใส เป็นการแผ่ขยายชีวิตให้ลื่นไหล ไม่ใช่ความกระหายอยาก อย่างที่คุณเซลล์บอกว่า ความอยากได้อยากมี ความมุ่งมั่นที่จะได้ ที่จะมี ล้วนเป็นแง่ลบเพราะจะทำให้พอกพูนความทุกข์ให้เพิ่มมากขึ้น ยึดติดมากขึ้น (ตรงนี้เป็นอุปสรรค โดยที่เราไม่รู้ตัว)

    ถ้าปรารถนาสิ่งใดก็สั่นสะเทือนให้เป็นการ"มี" ไม่ใช่การไม่มีนะครับ อย่างที่คุณโมกลากำลังสอนลูกชายอยู่ ในความปราถนาที่บริสุทธิ์นั้นไม่มีความรู้สึกของการไม่มีนะครับ..ทุกๆความคิดและทุกแรงปรารถนาก็ล้วนเป็นแรงดึงดูดมาสู่ประสบการณ์ของเรานะครับ และหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยกันเสริมมุมมองของพวกเราออกไปอีกนิด หากมีใครจะมาตอบเพิ่มเติมอีกก็เชิญได้นะครับ

    พวกเรานี่พอดึกๆจะสมองปลอดโปร่งกันดีนะ
    กลอนคุณเดรดบทข้างบนนั่นก็แต่งได้น่าทึ่งอีกแล้ว
    มีพรสวรรค์ที่ยากจะเลียนแบบจริงๆครับ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2009
  12. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    ข้อมูลกล่าวถึงระดับของการจดจ่อของสติสัมปชัญญะระดับสูงว่าถึงการเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งจดจ่อนั้น ข้อมูลนี้มีปรากฏรายละเอียดในเล่มของ"โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ" น่าจะเป็นเล่มสองถ้าจินตวดีจำไม่ผิด คนที่ทำเช่นนี้ได้ต้องมีสติสัมปชัญญะระดับสูง ผ่านการฝึกจิต เพราะการจดจ่อระดับนี้จะทำให้เกิดความเข้าใจถึงในระดับเซลล์ของสิ่งที่เราจดจ่อทีเดียว

    ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งด้วยความรักและคิดถึงเสมอ

    เว็บมีปัญหา ชื่อเราล้อคอินมีปัญหา หนีมาใช้โน๊ตบุ๊คเริ่มปรากฏปัญหาอีกแล้ว เข้าดูไม่ได้ ต้องหนีมาเครื่องใหม่ดูได้แต่ห้ามล้อคอิน อยากจะลองฝึกใช้สติสัมปชัญญะระดับข้างบนดูบ้าง สงสัยจะไม่ไหว ช่วงนี้มันจะหลับอย่างเดียวเลย
     
  13. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    อ่านโพส อ่านกลอน ฟังเพลงไปด้วย เกิดแรงบันดาลใจที่จะเขียนเพิ่มครับ

    ขอบ่นหน่อยนะครับ

    สมัยก่อนทั้งเรื่องการสอบในชั้นเรียน การสอบเอนทรานซ์ได้คณะ ได้มหาวิทยาลัยที่ต้องการ การชิงรางวัล และอื่นๆ แต่ก่อนทำไป ไม่เคยรู้เรื่องกฎแรงดึงดูด หรืออะไรเลย
    แต่สามารถทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    ทั้งโดยการแปะกระดาษที่โต๊ะอ่านหนังสือ บอกตนเองถึงจุดประสงค์ทุกเมื่อเชื่อวัน การพูดย้ำๆกับตนเองถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ การไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เกื้อหนุนต่อจุดมุ่งหมายของเรา ในตอนนั้นมันต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด จนทั้งเหนื่อย ทั้งล้า ทั้งท้อ

    จนกระทั่งมันถึงจุดที่บอกตนเองว่า ช่างมัน ไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะออกมาแล้ว

    สิ่งที่ต้องการ จึงปรากฎผลเป็นรูปธรรม ได้มี ได้เป็นอย่างที่หวัง ที่มุ่งมั่น
    แต่ได้มาแล้ว ก็แลกมาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย และความเครียดด้วยเช่นกัน
    เพราะในขณะนั้นมีความรู้สึกว่าต้องได้ ต้องชนะเท่านั้น แนวคิดที่มี ทำเพื่อตนเองอย่างเดียว สนองตอบตนเองอย่างเดียว โดยที่ไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย

    ถ้าได้มารู้ อย่างที่เพื่อนๆนำมาแชร์กันตอนนี้ สบายไป 108 แล้ว อิอิ..

    เมื่อความเชื่อที่ผ่านมาเปลี่ยน เลยเห็นว่า เราวางคำถามกับชีวิตผิดไป
    การจะมีความมั่งคั่งสมบูรณ์ที่แท้จริง ก็คือ ต้องวางคำถามว่า
    สิ่งที่เราต้องการ สิ่งที่เราปราถนานั้น
    เราจะนำมาช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างไร ไม่ใช่เพื่อตัวข้าเพียงอย่างเดียว

    ถ้าอยากมีเงินทอง ก็ต้องเชื่ออย่างหมดใจว่า เราต้องการมีเพื่อเป็นที่พึ่ง ที่พักพิง ให้แก่คนอื่นได้

    ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องเชื่ออย่างหมดใจว่า เราต้องการนำความสำเร็จที่ได้ มาแบ่งปัน มาช่วยเหลือผู้อื่น จากความรู้ความสามารถของเรา

    ถ้าอยากมีคนรักที่จริงใจ ก็ต้องเชื่ออย่างหมดใจว่า เราต้องการที่จะได้รัก ได้ดูแล เสมือนรัก และดูแลตัวเราเอง

    ฯลฯ
     
  14. โมกลา

    โมกลา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +24
    สำหรับโมกลาปรารถนาความสูข พยายามมีสติอยู่กับทุกลมหายใจเข้ารู้สึกเป็นสุขใจ แล้วก็เป็นได้เช่นนั้นจริงๆ แต่เมื่อไหร่ขาดสติกำกับความสุขก็หายไปด้วย

    มันก็เป็นเช่นนี้แล
     
  15. โมกลา

    โมกลา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +24
    สำหรับโมกลาปรารถนาความสูข พยายามมีสติอยู่กับทุกลมหายใจเข้ารู้สึกเป็นสุขใจ แล้วก็เป็นได้เช่นนั้นจริงๆ แต่เมื่อไหร่ขาดสติกำกับความสุขก็หายไปด้วย

    มันก็เป็นเช่นนี้แล
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เห็นวันนี้ตู้เย็นนำโด่งเลย >>>>>>>> 559 vote หายห่วงครับ
    speed ยังไม่มีทีท่าว่าจะตก..เป็นว่าวที่ติดลมบนไปแล้ว
    เราอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุขแบบนี้นะครับคุณโมลลา

    พอดีไปเจอเงาเสียงคุณเดรดเข้าเพลงนึง เสียงเหมือนมากๆ
    เป็นจิตวิญญาณต่างร่างของคุณเดรดรึเปล่านะ อิอิ
    ฟังเพลงเย็นๆระหว่างพักเที่ยงครับ

    <EMBED src=http://media.imeem.com/m/JjA8MDy0Fv/aus=false/ width=300 height=110 type=application/x-shockwave-flash wmode="transparent"></EMBED>[​IMG]
    <FORM style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-TOP: 0px" action=http://www.imeem.com/embedsearch/ method=post><INPUT name=EmbedSearchBox><INPUT style="FONT-SIZE: 12px" type=submit value=Search>[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    </FORM>


    Moon river - Bossa Nova
    MOON RIVER

    Moon River, wider than a mile,
    I'm crossing you in style some day.
    Oh, dream maker, you heart breaker,
    wherever you're going I'm going your way.
    Two drifters off to see the world.
    There's such a lot of world to see.
    We're after the same rainbow's end--
    waiting 'round the bend,
    my huckleberry friend,
    Moon River and me.

    * อยู่แสนไกลเหมือนคนละขอบฟ้า
    และเหมือนดังมีแผ่นน้ำกั้นกลาง
    เราต่างต้องไกล เราต่างต้องไป
    ตามเส้นทางที่หัวใจเราสองคนใฝ่ฝัน

    ** เมื่อรุ้งงามฉายลงบนแผ่นฟ้า
    เมื่อนั้นใจเราจะมาเจอกัน
    ขอฝากใจไปยังรุ้งพาดผ่าน
    และขอจงเป็นสะพาน
    เชื่อมหัวใจเธอและฉัน ข้ามฟ้ามา .. พบกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2009
  17. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    * อยู่แสนไกลเหมือนคนละขอบฟ้า
    และเหมือนดังมีแผ่นน้ำกั้นกลาง
    เราต่างต้องไกล เราต่างต้องไป
    ตามเส้นทางที่หัวใจเราสองคนใฝ่ฝัน

    ** เมื่อรุ้งงามฉายลงบนแผ่นฟ้า
    เมื่อนั้นใจเราจะมาเจอกัน
    ขอฝากใจไปยังรุ้งพาดผ่าน
    และขอจงเป็นสะพาน
    เชื่อมหัวใจเธอและฉัน ข้ามฟ้ามา .. พบกัน
    อิอิ.... ระวังน๊า!...... หัวหน้า ช่วงนี้ฝนตกทุกวันอย่าลืมกางร่มด้วย

    ข้ามไปข้ามมาบ่อยๆ เดี๋ยวหัวจายมานจาเปียกปอน จาม่ายซาบายเน้อ

    เป็นห่วงๆ catt4

    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
  18. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ความฝันของสาวน้อย.(อายุ 7 ขวบ)
    <O:p</O:pหนูฝันว่า( เรื่องนี้เกี่ยวกับปืนค่ะ )หนูเก็บปืนมาได้หนึ่งกระบอก เป็นปืนประดิษฐ์และมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งประดิษฐ์ขึ้นมา 2 กระบอก
    แล้วหนูก็ไป เจอเด็กหญิงคนหนึ่งอยู่กลางหอประชุมในรร. ของหนูเองค่ะ เด็กผู้หญิงคนนั้น......
    หนูคิดว่า อาจจะเป็นคนประดิษฐ์ปืนเก่ง มีคนยิงกันบาดเจ็บเล็กน้อย ในบ่อน้ำที่รร. น้ำน่าจะแห้ง เพราะโจรเข้าไปแอบในบ่อน้ำนั้นได้
    เห็นมีเด็กเยอะด้วยค่ะ
    ครูบาดเจ็บเล็กน้อย สักสองหรือสามคนมีปืนของผู้ร้ายหล่นอยู่ หนูจึงรีบหยิบปืนเข้ามา กลัวคนร้ายจะยิง หนูใช้ปืนที่เก็บมาได้ ยิงต้านคนร้าย ไม่ให้มีคนบาดเจ็บกันมาก มันจึงตัดตอนไป (ตัดภาพไป)
    เด็ก ผู้หญิงคนนั้นประดิษฐ์ ปืนมาให้สองกระบอกค่ะ:cool:
    เป็นปืนที่กระสุนทำจากน้ำผึ้ง ด้วยค่ะ หนูจึงลองยิงดูบ้าง ปรากฏว่า กระสุนที่ออกจากกระบอกปืนเป็นน้ำผึ้ง ปืนกระบอกนี้ น่าจะใช้งานไม่ได้ rabbit_
    หนูเลยสงสัยว่า ปืนเป็นอาวุธแต่กระสุนกลายเป็นน้ำผึ้ง แล้วจะทำร้ายกันได้ อย่างไร ยิงออกไปก็มีแต่ความหวาน
    แต่หนูแปลกใจทำไมคนที่โดนยิงด้วยกระสุนน้ำผึ้งจึงตาย หนูงงมาก ๆจบแล้วค่ะ ;k06<O:p></O:p>
    ความคิดเห็นของเด็ก.........แต่ถ้ายิงกันตายก็ไม่ดีหรอกค่ะ ถึงจะไม่รู้ว่ากระสุนนั้นจะเป็นอะไร pig_cryy2
    ฝากความฝันแบบเด็กให้พี่ป้าน้าอาช่วยแปลความฝันให้หนูด้วยค่ะ
    <O:p</O:p
     
  19. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    เข้ามาขอบคุณ avatar_boy ครับ

    วันก่อนนอนวาดฝันว่ามีบ้านพักแบบหรูๆ เข้ามาอ่านแร้น อึ้ง นิดๆ จิตวิญญาณเป็นเครือข่ายๆจริงๆ
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    หน้าที่ของจิตวิญญาณ (โดยพี่นักเขียนฯ)<!-- google_ad_section_end -->
    ...........................................................
    คุณขจรวรรณนำมาฝากให้อ่านกันครับ--- Mead

    เรามักจะไม่ได้ตระหนักว่า ภาวะจิตของเราเป็นอย่างไรในประสบการณ์หนึ่งๆทั้งยามตื่นและยามฝัน แต่สิ่งที่เราทำได้ง่ายกว่าการจดจำภาวะจิต คือการจดจำและระลึกถึงเหตุการณ์ เช่น วันที่เรารับปริญญานั้นเรารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่ง หรือเพียงครั้งเดียวในชีวิตของหลายๆคน

    หากเราเริ่มต้นด้วยการระลึกถึงประสบการณ์วันนั้นและพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ต่างๆ ในที่สุดเราจะเผชิญกับภาวะจิต หรืออารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้ไม่มากก็น้อยการกลับไปสู่ภาวะจิต ของความฝันที่เราเคยไปมาแล้ว ทำได้ในลักษณะเดียวกันคือเริ่มต้นด้วยการระลึกถึงเหตุการณ์ในความฝัน

    แต่บ่อยครั้งเราก็ไปเผชิญกับภาวะจิตหรือประสบการณ์ในความฝันที่เรียกได้ว่า เคยไปมาแล้วโดยไม่ได้ตั้งจิตเช่นเดียวกับการที่เราอาจเผชิญกับโอกาสที่ได้ถวายดอกไม้ให้กับสมเด็จพระราชินีซึ่งทำให้เราระลึกถึงความรู้สึกที่เราเคยได้รับเมื่อครั้งรับปริญญาบัตร เป็นต้นทั้งหมดนี้หากกล่าวตามธรรมชาติความเป็นจริงที่ท่านอาจารย์อนาลัยอธิบายให้เราฟังจะต้องกล่าวว่า ภาวะจิตของเราเหนี่ยวนำให้เราได้มีโอกาสรับปริญญาบัตรครั้งหนึ่งและภาวะจิตคล้ายคลึงกันนั้นเหนี่ยวนำให้เราได้มีโอกาสถวายดอกไม้อีกครั้งหนึ่ง

    แต่เราทั้งหลายก็มักจะเข้าใจในมุมกลับว่าเรารู้สึกปลาบปลื้มและภาคภูมิใจในตนเอง เพราะเราได้รับปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ และเราก็รู้สึกปลาบปลื้มและภาคภูมิใจในตนเอง เพราะเราได้ถวายดอกไม้ถึงพระหัตถ์เราตระหนักไม่ได้ว่า ความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจในตนเองต้องเกิดขึ้นก่อนอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดปลาบปลื้มและภาคภูมิใจในตนเองจึงเหนี่ยวนำประสบการณ์อันน่าปลาบปลื้มและภาคภูมิใจในตนเองมาสู่ชีวิตของเราไม่ใช่ในทางกลับกัน<V:p</V:p
    ____________________________
    เราทุกคนมีหน้าที่ในยามฝันไม่ต่างไปจากที่เรามีหน้าที่ในยามตื่นแต่หน้าที่ในยามฝันเป็นหน้าที่ของจิตวิญญาณที่ไม่ได้ใช้ร่างกายเนื้ื้อหนังในการทำให้เป็นผลสำเร็จชีวิตและความตายปราศจากรอยต่อ ปราศจากจุดเริ่มต้นและปราศจากจุดจบเพราะอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน

    เรากำลังทำหน้าที่ของจิตวิญญาณที่เป็นร่างกายเนื้อหนังอยู่-เดี๋ยวนี้
    เรากำลังทำหน้าที่ของจิตวิญญาณที่ปราศจากร่างกายตัวตนอยู่-เดี๋ยวนี้แต่เราก็รู้เห็นมันได้เพียงเฉพาะในยามฝัน
    เรากำลังเผชิญกับภาวะหลังความตายและภาวะก่อนมาถือกำเนิดเพื่อศึกษาหาความรู้และแก้ไขตนเองอยู่-เดี๋ยวนี้แต่เราก็รู้เห็นมันได้เพียงเฉพาะในยามฝัน
    แต่ทั้งหมดก็เป็นไปพร้อมกันหมด-เดี๋ยวนี้เป็นปัจจุบัน

    ดังนั้นการเลือกของเราปราศจากคำว่าก่อน-หลัง
    เราทุกคนมีจิตวิญญาณที่กำลังทำหน้าที่อยู่โดยปราศจากร่างกายตัวตนอยู่ณ ปัจจุบันนี้ พร้อมกันกับที่เรากำลังทำหน้าที่ด้วยร่างกายเนื้อหนัง

    โลกแห่งความเป็นจริงที่เรารู้จักยามตื่นคือโลกทางภายภาพที่ฉายออกมาจากโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติของจิตวิญญาณอันเป็นโลกทางจินตภาพ หน้าที่ของเราทั้งหลายยามตื่นจึงเป็นเสมือนภาพสะท้อนของหน้าที่ของจิตวิญญาณโดยตรงแต่คนจำนวนมากมักจะไม่ได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ของหน้าที่และแบ่งแยกหน้าที่ของร่างกายเนื้อหนังออกจากหน้าที่ของจิตวิญญาณโดดสิ้นเชิง

    บุคคลที่ทำหน้าที่โดยแบ่งแยกมักถึงจุดหนึ่งของชีวิตที่ต้องถามตนเองว่า " นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่? และทำไปเพื่ออะไร?" ไม่ว่าเขาจะประสพความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีทั้งลาภ ยศ ชื่อเสียง และทรัพย์สินมากมายเพียงใดหากหน้าที่ทางโลกของเขาเบี่ยงเบนไปในทิศทางที่ตัดขาดจากหน้าที่ทางจิตวิญญาณเขาจะเผชิญกับความรู้สึกหลงทางในที่สุด

    แต่คนจำนวนมากก็ไม่ได้หลงทางตลอดชีวิตเราพบเห็นผู้ที่นำความรู้ความสามารถ ทักษะ หรือผลผลิตจากความสำเร็จของเขา เช่นทรัพย์สิน ไปใช้ในทิศทางที่เกิดประโยชน์สุขต่อคนหมู่มากเสมอๆเพราะหน้าที่หลักของจิตวิญญาณทั้งหลายคือการสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

    พี่นักเขียนมีพื้นฐานการศึกษาและหน้าที่การงานที่น่าจะเหนี่ยวนำให้ไปทำหน้าที่อื่นๆได้แก่ งานออกแบบสถาปัตยกรรม และ งานผลิต software และระบบการศึกษา on-line ซึ่งเป็นหน้าที่ที่สร้างผลผลิตสำเร็จรูปให้ผู้อื่นใช้งานแต่พี่นักเขียนก็มีเจตนาและเป้าหมายส่วนตน คือมีเป้าหมายที่จะถ่ายทอดข้อมูลความรู้และวิธีการสร้างผลผลิตนั้นๆไม่ใช่สร้างและหยิบยื่นผลิตสำเร็จรูปให้ผู้อื่น

    เมื่อทำอาชีพสถาปนิกแม้จะมีงานออกแบบก่อสร้างส่วนตัวแต่ก็เป็นอาจารย์สอนหนังสือ เมื่อทำงานด้านออกแบบ software และระบบการศึกษา on-line แม้จะ design และ develop software แต่ก็ทำหน้าที่วิทยากรจัด workshop สอนให้คนอื่นๆ design และ develop software และระบบการศึกษา on-line แทนที่จะทำหน้าที่ออกแบบและผลิตผลงานสำเร็จรูปให้เขาเอาไปใช้กันในโลกของความฝันพี่นักเขียนก็ทำหน้าที่เดียวกันคือถ่ายทอดข้อมูลความรู้และวิธีการให้ผู้อื่นเสมือนมัคคุเทศก์ที่แนะนำให้ผู้อื่นเดินทางได้ด้วยขาของเขาเองไม่ใช่ขับรถพาเขาไปโดยไม่ต้องรู้ทาง

    พี่นักเขียนเชื่อว่าการเลือกทำหน้าที่ของพี่นักเขียน เป็นไปพร้อมๆกันกับการเลือกของผู้อื่นเช่่นเดียวกับการที่ีพี่นักเขียนเลือกทำหน้าที่อาจารย์สอนหนังสือ หรือทำหน้าที่วิทยากร workshop พี่นักเขียนเลือกทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดข้อมูลความรู้และวิธีการส่วนผู้เข้าเรียนหรือเข้ารับการอบรมก็เลือกที่จะมารับถ่ายทอดข้อมูลความรู้และวิธีการเหล่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการเลือกของทั้งสองฝ่ายที่คล้องจองกัน ตามกฏแห่งการดึงดูดของจักรวาลที่ย่อมดึงดูดสิ่งที่คล้องจองและสนับสนุนกันและกันมาสู่ประสบการณ์หนึ่งๆและก่อเกิดให้เป็นความเป็นจริงขึ้นได้

    ทุกสิ่งล้วนเป็นไปด้วยการสนับสนุนซึ่งกันและกันเสมอหากมีแต่ผู้ให้-ไม่มีผู้รับ การให้นั้นก็บรรลุผลสำเร็จไม่ได้ และในทางกลับกันหากมีแต่ผู้รับ-แต่ปราศจากผู้ให้ การรับนั้นก็บรรลุผลสำเร็จไม่ได้กล่าวได้ว่าทั้งการให้และการรับเกิดขึ้นพร้อมกันเป็นปัจจุบันเสมอ เพียงแต่ว่า ณจุดที่เรารู้เห็นเราจะเห็นการให้หรือการรอรับเกิดขึ้นก่อนกันเท่านั้น

    หน้าที่ทั้งหลายของเราทุกคนทั้งในโลกทางกายภาพและในโลกทางจินตภาพของจิตวิญญาณล้วนเป็นหน้าที่ที่เกิดจากการเลือก ตามบุคลิกภาพอันเป็นแก่นแท้ของเราแต่ละคนบุคลิกภาพเป็นสิ่งที่ปรากฏในโลกทางกายภาพ เมื่อเราเป็นเราและเมื่อเราเป็นบุคคลตัวตนอื่นๆ ในโลกอื่น มิติอื่น ชาติภพอื่นและปรากฏในโลกทางจินตภาพที่เป็นจิตวิญญาณอีกด้วยเพราะบุคลิกภาพเป็นคุณสมบัติที่สถิตย์อยู่ในจิตวิญญาณ ไม่มีวันสูญสลาย

    บ่อยครั้งเราเผชิญกับรูปกายตัวตนที่เราไม่ได้รู้จักจริงๆในโลกยามตื่นแต่ตัวตนในความฝันก็รับเอาบุคคลตัวตนที่แปลกหน้าเหล่านั้นว่า เขาคือพี่ของเราพ่อแม่ของเรา เพื่อนของเรา หรือเขาคือเรา สิ่งที่ระบุุให้เรารู้ถึงการเป็นใครไม่ใช่รูปกาย แต่เป็นบุคลิกภาพที่ไม่มีวันสูญสลายไม่ว่าจะบุคลิกภาพนั้นจะปรากฏด้วยรูปกายใด บุคลิกภาพนั้นก็ยังคงเดิมเป็นส่วนของตัวตนที่ถาวรไม่ว่าจะมีรูปกายใดๆหรือปราศจากรูปกายก็ตาม

    หน้าที่ทั้งหลายทั้งยามตื่นและยามฝันล้วนเป็นหน้าที่ที่เราทั้งหลายเลือก ตามความปรารถนา ตามบุคลิกภาพตามอารมณ์อันลุ่มลึกของการเป็นบุคคลตัวตนรวม หรือจิตวิญญาณรวมของเราไม่มีผู้ใดรับหน้าที่ที่ถูกบีบบังคับให้ทำโดยไม่มีทางเลือกนอกเสียจากเราจะเชื่อว่า-เราไม่มีทางเลือกบางคนที่ทำหน้าที่การงานที่ตนไม่ชอบหลายปี และรู้สึกเสมือนว่าไม่มีทางเลือกเมื่อใดที่เขาตระหนักได้ว่า เขามีสิทธิ์เลือกเขาจะพบกับอิสระแห่งความปรารถนาของตนเอง

    เราสามารถค้นหาหน้าที่ในความฝันของตนเองได้จากการสำรวจความฝันเราแต่ละคนจะมึความฝันที่ซ้ำแล้ว-ซ้ำเล่าตลอดชีวิตอยู่อย่างน้อยหนึ่งเรื่องเราจะต้องหาความหมายของมันให้พบเพราะความฝันอาจเป็นเพียงสัญญลักษณ์และไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเรากำลังทำหน้าที่อะไรอยู่อย่างชัดเจนบางคนฝันซ้ำแล้ว-ซ้ำเล่าตลอดชีวิตว่าไปโรงเรียน ทั้งที่เรียนจบไปนานแล้วแต่หน้าที่และความปรารถนาของจิตวิญญาณของเขาก็คือการเรียนหรือการหาความรู้ต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด นอกจากฝันว่าไปโรงเรียนเราควรจะค้นให้พบว่าอะไรคือความท้าทายของการเข้าโรงเรียนในความฝันนั้นๆ เช่นการสอบให้ผ่าน? การทำงานบางอย่างให้สำเร็จ? หรือการทำบางสิ่งบางอย่างให้ทันเวลา?

    ประสบการณ์ที่ปรากฏในความฝันจะสะท้อนให้เราเห็นความท้าทายเหล่านั้นในยามตื่น การสอบให้ผ่านอาจเป็นสัญญลักษณ์ของการเอาชนะใจตนเอง เอาชนะความโลภ ความเห็นแก่ตน และความใจแคบเราจะพบว่าประสบการณ์ชีวิตมากมายที่เรามีโอกาสที่จะเอาชนะใจตนเองได้ผ่านพ้นไปครั้งแล้วครั้งเล่า และเราก็ยังเอาชนะใจตนเองไม่ได้ความฝันจึงสะท้อนให้เห็นความท้าทายที่ยังไม่บรรลุผลสำเร็จ

    หน้าที่ของเราแต่ละคนแตกต่างกันไปตามทางเลือก หลายคนอาจเข้าใจว่าหน้าที่ของจิตวิญญาณ หมายถึงการทำหน้าที่บางอย่างเพื่อคนหมู่มากเสมอไปแต่หากจิตวิญญาณของเราไม่ได้เลือก-มันก็ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นเราค้นหาได้ไม่ยากว่ามันเป็นเช่นนั้นหรือไม่จากการพิจารณาหน้าที่การงานในโลกยามตื่นของตนเองหากเราพบว่า เรากำลังทำหน้าที่ที่จดจ่อกับการเอาชนะตนเอง การพัฒนาตนเองและช่วยเหลือเกื้อกูลบุคคลรอบตัวเราจำนวนหนึ่ง ไม่มากมายนักแต่ก็ทำให้เรารู้สึกว่าเรามีคุณค่า และพอใจกับการทำหน้าที่นั้นๆจิตวิญญาณของเราก็เลือกที่จะทำหน้าที่ใน scale นั้นๆ

    คำว่าเล็กหรือใหญ่ แคบหรือกว้างสูงหรือต่ำต้อยปราศจากความหมายสำหรับจิตวิญญาณ ทุกหน้าที่มีความหมาย มีค่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
    บุคคลที่ทำหน้าที่ใน scale ทางโลกที่เรียกว่าแคบหรือเล็ก หรือทำหน้าที่ที่มนุษย์เรียกว่าต่ำต้อยกำลังทำหน้าที่ใน scale และในจุดยืนและมุมมองที่จิตวิญญาณที่ไปถือกำเนิด ณ จุดอื่นๆไม่มีโอกาสจะทำได้ หน้าที่ของบุคคลนั้นๆ ใน scale นั้น ณจุดที่ดูเสมือนจะต่ำต้อยหรือเล็กจิบจ้อยมีค่ายิ่งเพราะเป็นจุดที่เติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ของจิตวิญญาณได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ที่สุด

    สมัยที่พี่นักเขียนกลับไปทำงานเมืองไทย 20 กว่าปีมาแล้วพี่นักเขียนได้รู้จักวิศวกรท่านหนึ่งซึ่งใกล้เกษียณเช้าวันหนึ่งท่านเล่าให้พี่นักเขียนฟังว่า เช้านั้นท่านนั่งรถเมล์แอร์มาทำงานได้นั่งหลังคนขับซึ่งอัธยาศัยไม่ดี ใจร้อนปิดประตูและออกรถตั้งแต่ผู้โดยสารยังก้าวขาขึ้นไปบนรถไม่เรียบร้อยทำให้สตรีคนหนึ่งหกล้มและบาดเจ็บอย่างไม่น่าจะต้องเกิดขึ้นเลยวิศวกรท่านนี้บอกกับพี่นักเขียนว่า "ผมมีความตั้งใจซึ่งไม่เคยมีมาก่อนว่าหากผมเกษียณแล้ว ผมจะไปขับรถเมล์แอร์เพราะมันเป็นอาชีพที่ผมสามารถสร้างความสะดวกสบายให้คนจำนวนมากได้อย่างมหาศาลไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร หากทำให้ดีที่สุดก็น่าจะรับพรได้รายวันผมเชื่อว่าผมจะมีความสุขมากๆ"

    จุดที่วิศวกรท่านนี้เลือกที่จะทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับคนจำนวนมากย่อมมีคนจำนวนมากที่เผชิญกับเหตุการณ์วันนั้นและเหตุการณ์อื่นๆซึ่งเรียกร้องหรือเลือกที่จะได้นั่งรถเมล์คันที่คนขับทำหน้าที่ของเขาในทิศทางที่วิศวกรท่านนั้นเลือกความคิดของทั้งสองฝ่ายย่อยเหนี่ยวนำให้เขาได้ก้าวไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ร่วมกันตามกฏแห่งการดึงดูดของจักรวาล ณ วันนี้ หากใครนั่งรถเมล์แอร์ไปทำงานพบคนขับชราผู้มีอัธยาศัยดี เขาอาจจะเป็นวิศวกรที่เลือกทำหน้าที่นั้นก็เป็นได้ไม่ใช่ชายแก่ที่จำต้องไปขับรถเมล์เพราะไม่มีทางเลือก

    ไม่ว่าเราแต่ละคนจะมีอาชีพและหน้าที่การงานทางโลกอย่างไรเรากำลังทำหน้าที่ที่สะท้อนหน้าที่ของจิตวิญญาณของเราเสมอ
    เราควรหาให้พบว่าหน้าที่ของเรานั้นจะก่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อผู้อื่นและสนับสนุนเกื้อกูลผู้อื่นได้อย่างดีที่สุดได้อย่างไร

    หากเราค้นพบและลงมือทำเราจะพบว่า แม้ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถเมล์ รับส่งผู้โดยาสารในแต่ละวันที่ดูเสมือนจะเป็นหน้าที่ที่ไม่ได้ทรงเกียรติในสังคมหากนำไปเปรียบกับผู้ที่นั่งเก้าอี้นวมที่อยู่หลังโต๊ะทำงานแสนหรูและเซ็นต์เช็ควันละหลายสิบล้านพลิกผันชีิวิตคนจำนวนมากมายในแต่ละวันได้ด้วยการตัดสินใจอันเต็มไปด้วยอำนาจของเขาหน้าที่ของบุคคลทั้งสองเป็นหน้าที่ที่ไม่ได้ดี หรือเลวไปกว่ากันจะดีหรือเลวไปกว่ากันอยู่ที่ทัศนคติของผู้ที่ทำหน้าที่นั้นๆว่าในแต่ละวันเขาได้สร้างประโยชน์สุขให้แก่ผู้อื่นได้มากเพียงใด คิดถึงแต่ตนเอง หรือใช้อำนาจหน้าที่การงานของตนสร้างความสะดวกสบาย หรือสร้างความเดือนร้อนให้ผู้อื่น

    ผู้ที่หาหน้าที่ของจิตวิญญาณไม่พบมักจะหาหน้าที่ในโลกยามตื่นไม่พบไปด้วย บางคนทำอาชีพหนึ่งอยู่เมื่อเห็นผู้อื่นทำอีกอาชีพหนึ่งประสพความสำเร็จอย่างสูง ได้ลาภ ยศ ชื่อเสียงเงินทอง ก็อยากจะทำเช่นนั้นบ้าง แต่จิตวิญญาณทั้งหลายมีความเป็นเอกลักษณ์การที่บุคคลตัวตนหนึ่งๆจะประสพความสำเร็จเสมอเหมือนอีกบุคคลตัวตนหนึ่งๆจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเรานำความสำเร็จของบุคคลหนึ่งมาใช้เป็นแรงบันดาลใจของเราไม่ได้ ในทางตรงกันข้ามเราควรนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจและควรจะตระหนักด้วยว่าเราจะบรรลุความสำเร็จในทิศทางอันเป็นเอกลักษณ์ของเรา ด้วยหน้าที่ ณจุดยืนของเราได้อย่างไร?

    หากเราค้นพบหน้าที่ทางโลกที่ตรงกับหน้าที่ของจิตวิญญาณเมื่อใดเราจะมีความสุขกับสิ่งที่ทำและพบว่าเราทำหน้าที่นั้นๆได้ดีโดยปราศจากความคาดหวังในผลตอบแทนเพราะสิ่งที่เราได้รับคือความสุขที่หาสิ่งใดมาเปรียบเทียบไม่ได้ แม้เงินทอง ลาภยศชื่อเสียง ก็ปราศจากความหมาย
    denceedenceedencee<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...