บ้านป้าแน๊ต - ธรรมะ..ธรรมชาติ..ธรรมดา

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย pinkdemon, 16 เมษายน 2009.

  1. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,667
    หวัดดีห๊าบป้าแน๊ต
    ผมมาขอต่อให้อีกนิดหน่อยครับ
    ใบบัวจะนำเสนอเรื่องราวของ “พ่อหลวง” อันเป็นที่รักยิ่งของเรา และองค์หลวงตามหาบัว ว่ามหาบรุษผู้ยิ่งใหญ่ ๒ พระองค์ องค์หนึ่งเป็นพระอรหันต์
    องค์หนึ่งเป็นพระมหาโพธิสัตว์(ผู้ซึ่งจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล) พระองค์ท่านเคารพเทิดทูนในธรรมกันเช่นไร
    ......................
    พระเจ้าแผ่นดินเสด็จสนทนาธรรม
    ในตอนเช้าของวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๒ หลวงตาได้กำชับพระเณรในวัดว่า
    “วันนี้ จะมีบุคคลสำคัญเข้ามา พวกท่านทั้งหลายจงพากันทำความสะอาดวัดวาอาวาสให้เรียบร้อย อย่าให้บกพร่อง”
    พระทั้งหลายเมื่อได้ฟังดังนั้น ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ต่างก็ทำข้อวัตรปฏิบัติไปตามปกติ
    เมื่อถามไถ่สนทนากัน ทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมากับพระบรมวงศานุวงศ์ จากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เป็นการส่วนพระองค์
    ไม่ได้บอกแม้กระทั่งทหารใกล้ชิด ทหารทั้งหลายต่างสืบข่าวเป็นการโกลาหลว่าเมื่อเวลาบ่ายโมง
    พระองค์ท่านทรงขับรถออกจากพระตำหนัก ไม่รู้ว่าเสด็จไป ณ ที่ใด ถ้าบอกข่าวการเสด็จมาล่วงหน้า กลัวเป็นการเอิกเกริกรบกวน ต้องการเสด็จมาเป็นการส่วนพระองค์
    หลวงตาจึงให้โอวาทว่า
    “มหาบพิตร! พระองค์เป็นถึงพระเจ้าอยู่หัว เป็นเจ้าชีวิตของชนทั้งชาติ หากพระองค์เสด็จมาโดยลำพัง มีอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น
    จะเป็นความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง ถ้าพระองค์เป็นอะไรขึ้นมา คนทั้งชาติจะไม่เหยียบหลวงตาบัวมิดแผ่นดินหรือ?”
    .........................
    “กลัวจะเป็นการรบกวนองค์หลวงตา” พระองค์กล่าวพร้อมพนมพระหัตถ์ด้วยความศรัทธาเลื่อมใส
    “รบกวน ไม่รบกวนจะเป็นอะไร แผ่นดินนี้เป็นของพระองค์ พระองค์พึงมาได้ทุกเมื่อ”
    ที่องค์หลวงตาเป็นห่วงมากเช่นนั้น เพราะในสมัยนั้นคอมมิวนิสต์มีอยู่ทั่วไป
    หลังจากนั้น อีกไม่นานเสียงรถทหาร ตำรวจที่สืบทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาวัดป่าบ้านตาด จึงติดตามมาอารักขาเป็นทิวแถว ชาวบ้านบางคนไม่รู้เรื่อง
    เห็นรถทหารตำรวจบึ่งมาเป็นทางยาว บางคนวิ่งหนีเข้าบ้าน นึกว่าเกิดศึกสงคราม
    หลวงตาได้บันทึกด้วยลายมือตนเองถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า
    ...............................
    · วันที่ 10 พ.ย.22 เวลา 16.20 น. พระเจ้าอยู่หัว-พระราชินี พร้อมกับเจ้าฟ้าหญิงทั้งสองพระองค์เสด็จมาเยี่ยม ประทับอยู่ 2 ช.ม.กับ 50 นาที
    จึงเสด็จกลับสกลนคร คือ เสด็จมา 16.20 น. เสด็จกลับ 19.10 น. ทรงถวายผ้าห่มและไทยทานอื่นๆ มากมาย
    พร้อมกับปัจจัย 3 หมื่นบาท (ใบละ 1 ร้อยล้วน ๆ 300 ใบ) เราได้ถวายธรรมะพอประมาณ เป็นธรรมะสำคัญหลายประโยค หลายข้อ
    (จากหนังสือ “หลวงตามหาบัว มหัศจรรย์มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่” –กรุงเทพฯ:ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์, ๒๕๔๖)
    ท่านถาม...ท่านหยิบออกมาให้เลยนะ ท่านผู้ว่าฯ ยังรับมือสั่น พระเจ้าอยู่หัวไม่เพียงมากราบหลวงตา
    ท่านมาที่วัด ท่านยังมาทำบุญกับพระด้วยปัจจัยที่เตรียมพร้อมจากพระหัตถ์ของท่านเอง
    จากนั้นพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็เสด็จออกไปเยี่ยมประชาชนแล้วก็ขึ้นรถไป
    นั่นแหละเราได้ฟังมา เรื่องของพุทธภูมิ เรื่องของพระโพธิสัตว์ สาวกภูมิกับพุทธภูมิต่างกันอย่างไร
    เสร็จแล้ว พอตอนจบขอพร หลวงตาท่านก็สรุปและให้พร จึงบอกได้ว่าเป็นบทสนทนาของจอมปราชญ์...”
    (จากนิตยสาร “น่านฟ้า” ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๘ เดือนธันวาคม ๒๕๕๐)
    เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเปิดโครงการช่วยชาติ
    วันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑ เวลา ๑๕.๐๐ น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี
    เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังสวนแสงธรรม เป็นประธานเปิด “โครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว”
    ..................................................................................
    ในวันเปิดโครงการช่วยชาตินั้น สังขารอันชำรุดของหลวงตาฯ อยู่ในสภาพที่เพิ่งทุเลาจากอาพาธด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผอมจนกระดูกและเส้นเอ็นปูดโปน
    แขนขวาที่กระดูกเดาะ ถูกสะพายไว้ด้วยผ้า หัวไหล่ขวาที่บวมเป่งสีดำคล้ำ ท่านได้เริ่มโครงการช่วยชาติฯ ในสภาพของสังขารเช่นนี้
    ต่อมาวันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
    เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไป ณ สวนแสงธรรม เพื่อทรงนมัสการหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    พร้อมกับถวายดอลลาร์และจตุปัจจัยไทยทานเข้าโครงการดอลลาร์ช่วยชาติ “โครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน”
    ยังความปลาบปลื้มปิติแก่เหล่าศิษยานุศิษย์หลวงตาเป็นล้นพ้น
    ..................................................................
    ต่อมาโครงการผ้าป่าช่วยชาตินี้ นอกจากจะรับบริจาคในรูปของเงินดอลลาร์ เงินสกุลต่างประเทศ เงินบาทไทยแล้ว ยังเพิ่มรับบริจาคทองคำด้วย
    เพราะหลวงตาพิจารณาว่า ความมั่นคงของประเทศอยู่ที่ทองคำเป็นหลัก
    หลวงตากล่าวว่า ท่านเป็นผู้ถือบัญชีและรับผิดชอบทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
    ดังนั้น ขอให้วางใจได้ว่าเงินบริจาคเหล่านี้ปลอดภัยทุกบาททุกสตางค์
    หลวงตาได้ให้โอวาทว่า
    ...............................................
    “เรามีพ่อ มีแม่ มีพี่ มีน้อง พี่เบิ้มของเราก็มี ท่านยังอุตส่าห์มาเป็นประธาน เป็นมหามงคลแก่เราทุกๆ ครั้งไป เราอบอุ่นมาก
    เรามีพ่อมีแม่ในการดำเนินงานช่วยชาติของเรา สมบูรณ์พูนผลด้วยผู้นำ พวกเราทั้งหลายไม่ใช่ลูกกำพร้า ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่
    มีแต่ลูกเต้าหยอมแหยมทำกันไปอย่างนั้น เรามีหลักมีเกณฑ์
    กษัตริย์ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย พ่อแม่ของชาติไทยทั้งชาติ
    เราจะต้องปฏิบัติให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย สมกับเรามีพ่อมีแม่ คือวงศ์กษัตริย์ของเราเป็นพ่อเป็นแม่ของเรา ให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ
    แล้วเราจะได้มีแผ่นดินอยู่ต่อไป ถ้าหากว่าไม่มีอะไรเข้าสู่คลังหลวง คลังหลวงล้มตูมลงเท่านั้น ชาติไทยตูมไปพร้อมกันไม่มีเหลือ เงินใครกระเป๋าไหนไปด้วยกันหมด
    ไม่มีกระเป๋าไหนจะตกค้างอยู่ได้ ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข
    เหนือความล่มจมของชาติไทยนี้ไปได้เลยนะ
    ........................................................................
    เพราะฉะนั้น ขอให้ภาคภูมิใจ ในการดำเนินของตน เพื่อสนองคุณของพระพุทธเจ้า
    พระมหากษัตริย์ให้เต็มภูมิของเรานะ ให้กตัญญูต่อชาติบ้านเมือง
    ......................................................
    ผู้มีอุปการะต่อเราแม้น้อย พระพุทธเจ้ายังไม่ให้ลืมบุญคุณ
    นี้ชาติทั้งชาติมีคุณต่อชีวิตเราหาประมาณไม่ได้ พวกเราจะไม่กตัญญูรู้คุณชาติที่ให้เกิดอยู่เชียวหรือ?”
    (จากหนังสือ “หลวงตามหาบัว มหัศจรรย์มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่” –กรุงเทพฯ:ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์, ๒๕๔๖)

    สาธุ สาธุ
     
  2. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,667
    หวัดดีก๊าบ ป้าแน๊ต และกัลยาณมิตรในเรือนพยาหมอนทองทุกๆท่าน
    วันนี้เข้าบอสร์ตันซื้อหมอนทองมาครับ ยังเป็นนํ้าแข็งอยู่เลยครับ รอไม่ไหวหทํ่าซะหนึ่งคูและแถมถูกหนามเล่นงานเกี่ยวซะกระจุยเลย(สมนํ้าหน้าผม เจ็บๆ อิอิ)

    ตอนนี้ก็มาคุยกันเรื่องหวัดหมูกันหน่อยครับ รอบสองมาแล้วครับ(california เป็นรัฐแรกของหวัดหมู) ร.ร เพิ่งจะเปิดเรียนสองสามวัน หวัดหมูระบาดอย่างรวดเร็วครับ บางร.ร ถูกทีเดียวพันๆคนเลยครับ วันนี้ข่าวมาว่าหวัดหมูตอนนี้ก็ดื้อยา ทามาฟรู ด้วย
    เป็นหวัดหมูถ้าถึงคราวก็ตายเร็วมากแค่สามวันก็ม่องเท่งแล้ว หวัดนี้รวดเร็วมากกินถึงปอดในเวลาหนึ่งถืงสองวัน เขารายงานว่าอาจเป็นเพราะว่าเรายังไม่มีภูมย์ต้านทานมัน(หวัดใหม่)ถึงได้เร็วอย่างนี้ แปลกตรงที่ว่าบางคนเป็นแค่สามวันก็หายบางคนก็ตายทั้งๆที่แข็งแรงเหมือนกัน
    University of Maryland ได้ทดรองฉีดรวมหวัดหมูกับหวัดใหญ่ในสัตว์ หวัดทั้งสองจะไม่รวมกัน(กลายพันธิ์) หวัดใหญ่ยังไม่ทันที่จะเริ่มเลย(ไม่มีโอกาส)หวัดหมูก็dominate แล้ว

    ล้างมือๆๆๆๆๆๆๆๆบ่อยๆๆๆๆ ใช้ยาฆ่าเชื้อเช็ด comp.key board ถ้าใช้ร่วมกับคนอื่น
    กลอนประตู ห้องนํ้า โทรศัพย์ ยินห่างกับกลุ่มคน๑เมตร ฯลฯ สิ่งอื่นๆที่ช่วยไม่ได้(ทำงานในห้องแอร์)
    ของที่ต้องเตรียมไว้
    นํ้าดื่มสองอาทิตย์,ยาแก้ปวด,ยาแก้ท้องร่วง,ยาแก้ไอ/หวัด,ไวตามิน, electrolytes สำหรับเก็บนํ้าในร่างกาย ถ้าทานยาหมอสั่งก็ต้องมีสำรองไว้ด้วย
    ปรึกษากับครอบครัวด้วย ถ้าเป็นแล้วต้องทำอะไรกันบ้างจะได้รู้หน้าที่กัน
    สอนเด็กด้วยว่าเวลาไอหรือจามให้ใช้กระดาษปิดปาก/จมูกด้วย

    อาหารที่ควรเตรียมไว้
    กระป๋องเนื้อ,ปลา,ผักและผลไม้ต่างๆ นํ้า ฯลฯ

    ตอนนี้ผมจะเพิ่มไวตามินซีวันละเม็ดจนครบ ๗ เม็ดครับ กันไว้ก่อนครับ
    ธรรมรักษา
     
  3. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    5555
    ด้วยรัก และ คิดถึง

    แล้ว
    ไอ้ 2 คำนี้
    หายไปไหนหมด
    ไม่เห็นเลย
     
  4. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    5555
    ด้วยรัก และ คิดถึง

    แล้ว
    ไอ้ 2 คำนี้
    หายไปไหนหมด
    ไม่เห็นเลย
     
  5. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    เด๋วส่งแมวให้ค๊า มะรู้นี่ค๊าว่าจะปฏิบัติจริงๆ จังๆ หรือเปล่า เพราะมะเหงแมวมาจิกป้านิ ป้ามีเรื่องให้ต้องทำเยอะ ลืมก็บ่อย โดยมากแล้วจะต้องถูกจิกบ่อยๆ ถึงปล่อยให้พิกุลร่วงมา ก๊ากกกก๐๐๐๐

    รักกันจริง มั่นใจกันจริง ก้อมะต้องเกรงใจ
     
  6. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ป้านินเค้าไปเที่ยวต่างประเทศ กลับเร็วๆ นี้

    ป้าแน๊ต โดนลูกถีบสกายคิก ต้องพันตัวเปงแหนมป้าย่น มะเชื่อถามเจ้าปามก้อล่าย มางเหงรูป

    ป๋าเม้ง เคียด เครียด และ.......

    ป๋าชาติ ฟุ้ง กำลังวิ่งหาสติ อิอิอิ

    น้องปาม มางเสนอข้อแลกเปลียนว่า อีกสี่ปีมางจามารับ.....จากป้าแน๊ตด้วยตัวเอง

    น้องพิม กะลังหาวันดีๆ นัดกันคุยเรื่องเทวดาหล่อ คริ คริ

    น้องบอส วุ่นกะกราฟฟิค ปวดหัวกะฟามร๊าก ปวดใจกะป้าแน๊ต ก๊ากกกก

    น้องมิก หัวฟูกับงานกับแควนที่น่ารักมั่กๆๆๆๆ จนลืมปฏิบัติ เหอ เหอ มางมีเพื่อนตามมาส่งถึงหน้าประตูห้องทู๊กคืนนนนนน

    อิน้องเจ๋ง เครียด และวุ่นกับการทำหน้าย่น เหม่อลอยเป็นบางขณะ ใจเย็นหลาน

    ทวดชีวาส วิ่งเสาะแสวงหาเพื่อลูกสาว รักของพ่อ น่าชมเชย วิ่งจนลืมว่า จุดยืนและศรัทธาอยุ่ตรงไหน

    น้องโอเปาะแปะ มะวานโดนป้าแน๊ตเทศน์ไปหนึ่งชั่วโมง น้ำลายย้อยชักคาทอระสับ อิอิอิ

    น้องปิ๋ม กะลังฝึก "คนเหงกาม" ก๊ากกกกกกกๆๆๆๆๆ

    น้องเปิ้ล กะลังทำจายกะเจ้าพ่อประจำบ้าน เหอ เหอ
    น้องไผ่คนงาม กะลังยุ่งกะสามี เลยมะมีเวลา เหอ เหอ

    นอกนั้น เด๋วค่อยว่ากัน:z3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2009
  7. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    รับรองได้ผลแน่นอน ถามโอเปาะแปะก้อล่าย น้องเค้าใช้หนังสือหลวงพ่อจรัญเล้ย ป้าปปปปปป....ตาสว่าง
     
  8. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ขอบใจมาก ได้ทำตามที่แนะนำแล้ว มะได้ผล ตอนดึงมีดออก เลือดพุ่งปรี๊ดดดดดแซงเอเชี่ยนเกมส์ โลหิตยังมะทันหมดตัว เจอไม้พลองล่องหน พลิ้วกายหลบมะทัน เลยต้องพันตัวสามท่อนเปงแหนมป้าย่นไปแล้วเจ็ดราตรี เกร็งลมปราณมะได้ เพราะเจ็บพุงอิ๊บอ๋าย ไขมันปั่นป่วนพร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ เจ้าพ่อกะท่านพี่ได้ประสานใจรักษาด้วยพลังฝ่ามือกำปั้นทุบดิน ทะลวงจุดได้เกือบหมด มะวานจึงได้ออกไปประมือกันอีกครั้ง ยังมะรู้แพ้ชนะ

    มีดบิน มาจากสำนักคนรู้จักกัน
    พลองล่องหน มาจากคนใกล้ตัว

    ยังรออีกสองสามท่าน ยังมะส่งบรรณาการมาให้

    กร๊ากกกก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    มะวาน หลวงปู่นองท่านเมตตาคุ้มครองเฟ้ยยยยย
     
  9. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ได้มาจากอิแมวที่กัลยาณมิตรท่านหนึ่งส่งให้อ่านค๊า

    สรรพคุณของพืขผักแต่ละชนิด มีคุณประโยชน์ต่อการรักษาได้อย่างไร ในหนังสือ ชื่อ ' ยามหัศจรรย์สำหรับคุณ ' เช่น
    1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง
    2. แพ้ละออง (แพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้) ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว
    3.โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด
    4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี
    5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง
    6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า (ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง ) น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง
    7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก และขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป
    8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี (ไม้เมืองหนาว) กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้
    9. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้
    10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้
    11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆ ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี
    12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย
    13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง โดยเฉพาะรำข้าวกะหล่ำปลี ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อสำคัญอย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว ' คลอเลสเตอรอล ' ได้ ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้ พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้นนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกายช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยเป็นภูมิปัญ ญาชาวบ้านในท้องถิ่นอันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน ไทยขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของ เราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า และคิดค้นตามแนวทางที่บรรพบุรุษของเราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้เพื่อนำมาใช้ ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป.
    14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันได้ดี
    15. มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ อยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน
    16 แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหายขาดได้
    17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก
    18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี 'โมโรอันแซตเทอเรต'
    19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่ายพืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี
    20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และถั่วลิสง คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร

    อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
    1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นการตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จ ะรู้ได้
    มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบากหรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้ อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
    2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง
    3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการ ปวดหลัง
    4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง
    5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
    6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด
    7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัส สาว ะ
    8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือการเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
    9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษาหรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน
    10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที
    11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร
    12. มะเร็งทรวงอก
    - ไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1ตำลึง ก้อนเกลือ 3 ก้อน นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม จากนั้นให้ดื่มจนหมดชาม สรรพคุณในการรักษา - หลังจากดื่มยานี้แล้วควรดื่มน้ำตามมาก ๆ นำส่วนที่เหลือมารับประทาน ยานี้จะขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัส สาว ะไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะปกติ อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้ บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่
    13. มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติมีเลือดออกปนมากับอุจจาระ ****ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใ ช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคือ อาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
    14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย
    15. มะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา (Melanoma)คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ด ทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ

    ท่านสามารถนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเพื่อเป็นวิทยาทานได้
     
  10. palm96

    palm96 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +176
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>palm96, pinkdemon+, chanadda1978 </TD></TR></TBODY></TABLE>


    สวัสดีครับป้า คิดถึงจางงงเยยย
     
  11. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    จิงอ๊ะ มะเจื้อ นอนฝันถึง.....สี่ปีข้างหน้าอ่ะจิ ขอกระซิบ ด้ามงานะหลานเอ้ยยยยย:z3
     
  12. palm96

    palm96 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +176

    อุ๊ป!!!! ด้ามงาๆๆๆๆ
     
  13. mongkonchai

    mongkonchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,345
    ค่าพลัง:
    +259
    ถูกๆๆๆๆต้องน่าคับ ทุกข้อเลย....555+
    แต่ก็ไม่ได้ปวดจัยป้าน่าคับ แค่ป้ามาแอ่วหาในบอร์ดบ่อยๆ มาให้สาีระดีๆก็พอและคับ เพราะก็คิดเติงหาป้าอยู่เสมอเ้น้อ

     
  14. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,667
    หมออินเดีย กับการดูแลสุขภาพ
    โดยคุณภควาครับ
    --------------------------------------------------------------------------------
    เมื่อช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเสถียรธรรมสถาน ในวันนั้นแม่ชีศันสนีย์ ได้เชิญคุณหมอ
    Jacob ซึ่งเป็นหมอประเทศอินเดีย ที่รักษาโรคต่างๆ โดยวิธีธรรมชาติบำบัด มาบรรยายให้พวกเราฟัง
    ซึ่งคุณหมอมีเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่อง ทำให้เราอยากมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ฟังบ้าง ( อาจจะจำได้ไม่
    หมดนะค่ะ)
    ประวัติ Dr. Jacob Vadakkanchery N.D.
    Dr. Jacob เป็นคุณหมอในประเทศอินเดีย เป็นเจ้าของโรงพยาบาล ธรรมชาติบำบัด อยู่ 3 แห่ง ซึ่งคุณหมอ จะเน้นการรักษาให้กับคนยากจน ประมาณ 80% คุณหมอเป็นนักต่อต้าน , นักอนุรักษ์ นิยม , นักพูด (อันดับหนึ่งในรัฐคาน (ถ้าจำชื่อรัฐไม่ผิดนะ)) ฯลฯ คุณหมอใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติบำบัดกับตัวเองมา ประมาณ 30 ปี ปัจจุบันคุณหมอแข็งแรงมาก ผู้แนะนำบอกว่า “ คุณหมอสามารถว่ายน้ำข้ามแม่
    น้ำเจ้าพระยา ไป-กลับ ภายใน 15 นาทีได้ ”
    คุณหมอเล่าให้ฟังว่า คนเราส่วนใหญ่ มักนิยมกินยาพิษในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
    1. ยารักษาโรค ( ยาพาราเซตามอล , ยาทิปฟี้ ฯลฯ) , 2. อาหารเสริม และ 3. อาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น McDonald. KFC, Pizza ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักและเป็นบ่อเกิดโรคต่างๆ
    คุณหมอบอกว่าร่างการเราเป็นสิ่งที่วิเศษมาก มันสามารถเปลี่ยนแปลงอาหารที่เรากินเข้าไป ให้กลายเป็นสารอาหารต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป และมีวิธีการกำจัดของเสียในร่างกาย ออกเป็น 5 ทางคือ 1. ทางลมหายใจ 2. ทางเหงื่อ 3. ทางปัสสาวะ 4. ทางอุจจาระ และ 5. ทางประจำเดือน และร่างกายเรายังมีความวิเศษอีกอย่างคือ หากเรามีของเสียมาก ร่างกายจะกำจัดโดยแสดงออกในรูปแบบต่างๆ เช่น การเป็นหวัด คือ ร่างกายเราจะมีน้ำมูกมาชะล้างเชื้อโรคบริเวณเยื่อบุจมูก แต่คนเราส่วนใหญ่เมื่อมีอาการเหล่านี้ ก็มักจะกินยา เพื่อรักษาอาการโรคเหล่านี้ ซึ่งความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ร่างกายเราไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ได้ ทำให้โรคต่างๆ ยังคงอยู่ในร่างกายเราต่อไป
    คุณหมอบอกว่าคนเราส่วนใหญ่ เวลาที่เราปวดหัว เราก็จะกินยาพารา 1 เม็ด แล้วกินน้ำตาม แต่วิธีการของคุณหมอจะแตกต่างจากคนทั่วไป คือคุณหมอจะใช้ยาพารา 2 เม็ด มาบดให้ละเอียดแล้ว คลุกกับข้าว แล้วไปตั้งที่ห้องครัว 2-3 วัน เมื่อกลับมาดูอีกครั้ง คุณหมอจะพบหนูตายประมาณ 10-15 ตัว นี่แสดงว่า ยาพาราเซตามอลเป็นยาฆ่าหนูชนิดหนึ่ง และเมื่อเราเป็นไข้ เรากินยาพาราเซตามอล แสดงว่าเราได้กินยาพิษเข้าไปในร่างกายด้วย ยาพิษอีกตัวหนึ่งที่คุณหมอกำชับหนักหนากับพวกเราที่นั่งฟังอยู่ก็คือ น้ำตาลทรายขาว ที่เราใช้อยู่ ในชีวิตประจำวัน คุณหมอถามพวกเราว่า เคยรู้หรือเปล่าว่าน้ำตาลทรายขาว มาจากไหน ? ทุกคนก็ ตอบว่ามาจาก “ อ้อย ” ซึ่งคุณหมอบอกว่า “ ใช่ ” แต่ก่อนที่มันจะเป็นน้ำตาลทรายขาว ผู้ผลิตได้นำอ้อยที่มีประโยชน์ ไปใช้ในขบวนการผลิตเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์เรียบร้อยแล้ว นำน้ำตาลส่วนที่เหลือซึ่ง
    มีสีดำและไม่มีประโยชน์ ไปผ่านมาฟอกสี จนกลายเป็นน้ำตาลทรายขาวที่เรากินอยู่ทุกวัน น้ำตาลทรายขาวนี้จะเข้าไปทำร้ายร่างกายเรา ตั้งแต่ลำคอ ผ่านไปกระเพาะ ลำไส้ ดังนั้นคุณหมอจึงอยากให้พวกเราทุกคนเลิกกินน้ำตาลทรายขาว และหันมากินน้ำตาลทรายแดง ซึ่งมีประโยชน์มากกว่า
    คุณหมอ ถามพวกเราอีกว่า เราเคยใช้ยาสีฟัน หรือเปล่า พวกเราก็บอกว่า “ เคย ” คุณหมอบอกว่ายาสีฟัน ก็เป็นสารซักฟอก เช่นเดียวกับสบู่ที่เราใช้อาบน้ำนั้นแหละ เพรา ะเมื่อเราแปรงฟัน จะมีเศษของยาสีฟันตกลงไปอยู่ในท้องของเรา อาจทำให้เรามีปัญหาอาจเป็นโรคกระเพาะได้ คุณหมอบอกว่าคุณหมอใช้ใบมะม่วงหรือผงสมุนไพร ในการแปรงฟัน คุณหมอก็ใช้แปรงสีฟันธรรมชาติที่พระเจ้า ประทานให้มาแล้ว ( นั่นก็คือนิ้วชี้ของคุณหมองัย) คุณหมอแปรงฟันด้วยวิธีนี้มานาน 28 ปี แล้ว ฟันของ คุณหมอยังขาวและแข็งแรงอยู่เลยนะ มีผู้ฟังถามคุณหมอว่า “ เราควรจะบริโภคนมวัวหรือปล่าว ” คุณหมอบอกว่า “ แล้วเราเป็นลูก วัวหรือปล่าวล่ะ ที่ต้องกินนมแม่ (แม่วัว) ถ้าไม่ใช่ เราก็ไม่ควรกิน มีนมอยู่อย่างเดียวที่เรากินได้ คือ นมของแม่เราเอง ซึ่งเป็นนมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเราจริงๆ นอกนั้นนมอื่นๆ นั้น ไม่มีประโยชน์ สำหรับร่างกายเราเลย ” คนฟังก็ถามต่อว่า “ แล้วเราจะกินนมอะไรได้บ้าง หรือปล่าว กินนมแพะ ได้ไหมค่ะ ” คุณหมอบอกว่า “ แล้วเราเป็นลูกแพะหรือปล่าวล่ะ ถึงจะไปกินนมแพะนะ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ ควรกิน แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบระหว่างนมวัวและนมแพะ นมแพะจะมีคุณค่าสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเรามากกว่านมวัวนะ ” และมีผู้ฟังถามเรื่องโยเกิร์ต
    (เราจำรายละเอียดไม่ค่อยได้เท่าไร) คุณหมอบอกว่ากินได้บ้าง แต่ไม่ควรจะบ่อยๆ เพราะมันก็ไม่มีประโยชน์และไม่ดีอย่างที่เราคิดไว้นะค่ะ
    การรักษาแบบธรรมชาติบำบัดของคุณหมอ สามารถรักษาโรคได้หลายๆ โรค เช่น โรคผิวหนัง, ภูมิแพ้ต่างๆ, โรคมะเร็งบางชนิด, โรคไมเกรน ฯลฯ มีบางโรคที่รักษาให้หายขาด และมีบางโรคที่ช่วยให้ทุเลาลงได้มาก หากใครสนใจติดต่อ เสถียรธรรมสถาน พี่สมบูรณ์ 08-4115-1114 ได้นะ ค่ะ เค้าจะมีการจัดอบรมการรักษาแบบธรรมชาติบำบัดในเดือนนี้และเดือนหน้าตามจังหวัดต่างๆ หรือขอ คำปรึกษาได้นะค่ะ

    สาธุ สาธุ
     
  15. ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +1,326
    เมื่อเย็นวานนี้ไปปล่อยปลาดุกมาค่ะ ขอให้ทุกท่านได้รับอานิสงส์นี้ด้วยกันนะคะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. poppyo

    poppyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +346
    ไม่ได้เข้ามานานมาก สวัสดีครับป้าแน๊ต และทุกๆคน สบายดีกันทุกคนไหมครับ
     
  17. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    ไปไหนกันหมด ครับ
     
  18. palm96

    palm96 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +176

    มาเช็คชื่อ รายงานตัวครับ
     
  19. mongkonchai

    mongkonchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,345
    ค่าพลัง:
    +259
  20. palm96

    palm96 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +176
    มาเช็คชื่อครับ

    วันนี้มีคนขาด โดดเรียน ไม่เข้าเรียนหลายคนเลยครับ

    รวมทั้งหัวหน้าห้องด้วย

    ปล..ใครไปเที่ยวต่างประเทศแย้วไม่มีของฝาก ระวังโดนเผาครับ อิอิ++

    ฝันดีครับทุกคน
     

แชร์หน้านี้

Loading...