หมดแล้ว <<ฟ้าสร้าง>> หนุมานเกราะเพชรมากประสบการณ์ หลวงปู่หริ

ไปคนเดี่ยว เปลื่่ยวเอกา:''(
ม่ายได้บริหารเสน่ห์มาหลายวัน ไปกระตุ้นสะหน่อย

 

อยากไม่หาเองช่วยไม่ได้ ขอให้ได้เร็ว ๆ นะค่ะ เอาใจช่วย ไม่งั้นก็ต้องเดินคนเดียวแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทำตัวเอง

 

..อิ..อิ.(deejai) เมื่อวาน พี่เอกอุตส่าห์ส่งของขวัญวันเกิดไปให้แล้ว

happy Birthday น้องโก๋เอี่ยม
HBDs ....555....

 

ละงั่งมาแล้วค่ะ

ละงั่ง มหาเสน่ห์

​

 

ปะ น้องน้ำไปเดินเล่น เป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ (deejai)

 

อันนี้เอาไว้ในห้อง ไม่ให้ออกไปไหน อิ อิ (ping-love

 

แหมๆๆๆๆ...

 

ความรู้เกี่ยวกับละงั่งหามาให้อ่านค่ะ

​

รายละเอียดเกี่ยวกับละงั่ง หรือ ไอ้งั่ง ที่ผมรวบรวมมาจากที่ต่างๆให้อ่านโดยตัดทอนส่วนที่เขาเข้าใจผิด เป็นทั้งละงั่งแบบเขมรและล้านช้าง(เหมือนกับล้านนา)ที่สืบมาจากทางพม่า สิบสองปันนา ทั้งหมดเป็นข้อมูลประกอบเพื๋อนำไปสู่การสรุปเป็นบทความเชิงวิชาการ เพื่อเป็นความรู้ให้ไม่หลงงมงาย หาได้มีเจตนาไปทางลามกอนาจารใดๆ อ่านก่อนแล้วผมจะมาสรุปให้อีกครั้ง
----------------------------------------------------------------------

เรื่องเล่าทั่วไปของละงั่ง
----------------------------------------------------------------------

ครับเท่าที่ผมรู้มานะคับน้าที่รู้จักกันเขาเล่าให้ฟัง เขาว่าประงั่นนี่เป็นของเขมรหรืออะไรนี่หล่ะผมไม่แน่ใจ
เวลามีอะไรกับผู้หญิงต้องให้เขาก่อนโดยการเอาหัวของเขาไปปั่นโดยเฉพาะหญิงมีประจำเดือนจะยิ่งชอบ
น้าเขาเล่าว่าตามันจะวาวมาก ๆ เวลาที่ทำสิ่งที่ผมกล่าวมาข้างต้น และถ้าลองวางคว่ำหน้าเอาไว้กับพื้นแล้วมีผู้หญิงเดินผ่าน
เขาจะโดดพลิกตัวออกมาเลย เค้าจะช่วยก็พวกประเภทเล่นการพนันและทางหญิงสาวอ่ะคับ
หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมานะที่นี้?

-----------------------------------------------------------------------


ป๋มก็ได้ยินมาคล้ายๆแบบที่พวกพี่ๆเล่ากันมาน่ะคับ
คือไอ้งั่งหรือพระงั่งนี่ ชอบกินเลือดประจำเดือนของผุ้หญิงมาก
เคยได้ยินคนที่เค้ามีเค้าบอกว่า พกไว้ในเป๋ากางเกง
พอเดินผ่านผุ้หญิงที่มีเมนส์มานจะสั่นได้เองเลย
เหมือนเรดาห์ คับ อิอิ

-----------------------------------------------------------------------

ผมไปเที่ยวประเทศลาวแขวงเมืองจำปาศักคิ์ มาเมื่อ กลางเดือน ม.ค.50 นี้เอง ผมเป็นคนซอกแซกเที่ยวไปตามสถานที่โบราณเพราะเป็นคนชอบเรื่องเหล่านี้ ไปเจอคุณตาแก่ๆ อายุประมาณ 70-80 ปีประมาณนั้น ดูท่านเป็นคนเงียบๆ ขึมๆ ท่านนั่งขอทานอยู่ เสื้อผ้าเก่ามอมแมม อากาศก็หนาวเย็น ผมสงสารเชื่อไหมผมถอดเสื้อกันหนาวที่ผมใส่มาให้ท่าน ท่านกราบแล้วกราบอีกจนผมบอกว่าอย่ากราบเดี๋ยวผมจะมีปาบ ท่านให้ศิลให้พรเป็นการใหญ่ ผมเลยซื้อข้าวให้ท่านกินแล้วให้เงินท่านเป็นเงินไทย ไป 500 บาท บอกท่านว่าเอาไว้ใช้จ่ายนะคุณตา ผมก็จนมีเงินไม่มากคงช่วยคุณตาได้เท่านี้ครับ ท่านก็บอกว่าผมเป็นคนดี ท่านบอกว่าจะให้ของดีติดตัวไว้ ท่านบอกให้ผมหลับตาแล้วตั้งนะโม3จบ ทำใจให้สงบนิ่ง แล้วแบมือมา ท่านให้พระผมองค์เล็กๆ ใส่มือแล้วให้กำไว้ พอลืมตาดูปรากฎว่าเป็น พระงั่ง ครับ แล้วท่านบอกว่าเก็บไว้ให้ดีนะเพราะท่านได้มาจากพ่อของท่านอีกทีซึ่งเปรียบได้คือเป็นมรดกตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษของท่านไม่รู้กี่สมัยแล้ว ปัจจุบันก็ดูอายุท่านสิครับ แล้วท่านบอกว่าเค้ามีบุญที่จะอยู่กับท่านเพียงแค่นี้ คงถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแผ่นดินที่อยู่แล้ว ผมคงมีวาสนาร่วมกับพระงั่งองค์นี้ถึงจะได้อยู่ด้วยกัน และท่านสั่งผมว่าเมื่อกลับถึงประเทศไทย เวลาที่เดินข้ามพรมแดนให้ผมเดินถอยหลังเข้าประเทศไทย คือให้หันหน้ามายังประเทศลาวและหันหลังให้ประเทศไทยครับ เจ้าหน้าที่ไทยที่ประจำอยู่ตรงพรมแดนที่ช่องเม็ก มองดูผมเดินเค้ายังยิ้มๆแล้วถามว่า คงคิดถึงประเทศลาวอยู่หละสิถึงเดินอย่างนั้น ผมตอบว่าใช่ครับ เออลืมบอกไปว่าพอท่านให้พระงั่งผมแล้ว ผมก็ขอตัวเดินเที่ยวชมปราสาทวัดภู เชื่อไหมพอกลับลงมาปรากฎว่าท่านหายไปแล้ว ผมเดินเที่ยวประมาณ 1 ชม. กลับมาพึ่งจะเที่ยงกะว่าจะเลี้ยงข้าวเที่ยงท่านหน่อย แต่ท่านหายไปแล้ว
จากนั้นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรคิดว่าท่านได้เงินก็คงกลับบ้านไปหาครอบครัวท่านก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เชื่อไหมตอนที่ผมรับพระงั่งจากท่านเหมือนมีลมเย็นๆหอมสดชื้นพัดมาปะทะหน้าผมอ่อนๆ แล้วคุณเชื่อไหม พอพระงั่งมาอยู่กับผมดูแปลกๆนะผมมองผู้หญิงคนไหนเด้าก็จะมองตอบแบบมีไมตรียิ้มแย้มแจ่มใส เข้าไปพูดคุยด้วยเค้าพูดกับเราดีมากแบบเป็นกันเอง เหมือนคยรู้จักกันมาเป็นแรมปีเช่นนั้นมาแปลกก็ตอนกลางคืนผมว่าจะนอนพักผ่อน แต่นอนไม่ได้มันร้อนลุ่มวุ่นวายใจอยากแต่จะออกไปนอกบ้าน(ที่พักแรมที่ลาวคืนนั้น) จนต้องออกไปเดินเล่น เชื่อไหมผมพบผู้หญิงลาวคนหนึ่งนั่งเล่นใกล้ที่พักผมนั่นแหละ พอเธอเห็นผมเดินผ่านมาเธอยิ้มให้ ผมเลยเข้าไปนั่งคุยด้วยรู้เรื่องมั้งไม่รู้มั้ง (ไทย-ลาว) ขอรวบรัดเลยนะ สรุปคือ คืนนั้นผมได้เธอเป็นเมีย แต่ที่แปลกใจคือตอนที่ผมจับเธอเปลือยกายผมยังไม่เปลือยนั้นพระงั้งไม่รู้หลุดจากกระเป๋ากางเกงไปอยู่ที่(ขอโทษครับ) ที่จิ๋มเธออย่างไรไม่รู้แล้วตั้งแต่เมือไหร่ก็ไม่รู้ครับ เป็นว่าคืนนั้นผมได้เธอมาง่ายดายมากๆ(ขอโทษครับไม่มีเจตนาที่จะดูถูกเธอนะครับ)

ตอนที่ผมขึ้นรถจะเดินทางกลับพอรถออก ผมหันกลับไปมองประเทศลาวอีกครั้งท่านเชื่อไหมว่าผมเห็นอะไร ผมเห็นคุณตาคนนั้นท่านยืนอยู่ฝั่งประเทศลาวใส่เสื้อกันหนาวที่ผมให้ท่านยืนมองดูผมเหมือนกับว่าท่านจะยิ้มให้ด้วย ผมยกมือไหว้ท่านแล้วมองดูท่านจนรถวิ่งหายไปมองไม่เห็นพรมแดน ไทย-ลาว
ท่านเชื่อหรือว่าตั้งแต่ผมได้พระงั้งมาไว้กับผม ผมเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยในเรื่องผู้หญิงคือมีเข้ามาไม่ซ้ำหน้าเลยครับ
สุดท้ายใครสนใจ ก็ลองเข้ามาคุยกันได้นะครับแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน

---------------------------------------------------------------------------------------------------

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]วิธีแก้การถูกของจากพระงั่ง จะแก้ได้อย่างไร ใครรู้ช่วยบอกทีนะคะ ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์แฟนได้ใช้เกศของพระงั่งเข้าไปในอวัยวะเพศจึงสงสัยว่าอย่าจะถูกของหรือไม่ กรุณาช่วยบอกวิธีแก้หน่อย[/FONT]

---------------------------------------------------------------------------------------------------

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]อย่าเอาแหย่จะร้อนในเรื่องเพศ[/FONT]<!-- google_ad_section_end -->

กลับมาต่อเรื่องละงั่งครับ บางคนก็ว่าเป็นของเขมร บางคนว่าเป็นพระชัยอยุธยา บางคนก็ว่าเป็นของล้านนา ของพม่า ไทยใหญ่ สิบสองปันนา เดี๋ยวลองอ่านบทความอีกชุดแล้วผมค่อยนำเสนอบทวิเคราะห์แล้วจะสรุปทีเดียว


-----------------------------------------------------------------------

ที่มาของละงั่ง
---------------------------------------------------------------

เท่าที่ทราบ จริงๆแล้วเป็นพระชัยวัฒน์ครับ
แถวอยุธยา ใช้เรียกพระเครื่องที่ไม่สวมจีวร อาจจะมีทรงเครื่องบ้างคือ
ไม่ใส่เสื้อแต่อาจมีสร้อยสังวาล จริงๆแล้วคือพระชัยวัฒน์ที่สร้างหลังจากเสร็จศึกสงครามแล้ว
เนื้อเป็นโลหะทองเหลือง หรือ สัมฤทธิ์ ข้างในเป็นดิน สวมชฎา คดเอียงแต่คนมักไปเรียกกันผิดๆ
แถมมีความเชื่อแปลกๆเพิ่มกันเข้าไปอีก บ้างก็ว่าดีทางมหาอุด
บ้างก็ว่าดีทางเหนียว บ้างก็ว่าดีทางเสน่ห์
บางคนถึงขนาดบอกว่าต้องเอาพระไปวางแล้วให้ผู้หญิงข้าม
ถึงจะขลัง อะไรประมาณนั้น จำได้ว่าในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
เคยเอาข้อมูลเรื่องนี้มาเปิดเผย ถึงการเรียกที่สับสน
แต่ลองไปหาข้อมูลดูแล้ว หาไม่เจอครับ
เนื่องจากสิ่งๆนี้เป็นพระชัยวัฒน์อย่างที่บอกมาแล้ว
จึงไม่สมควรเรียกว่า "ไอ้" แต่คนเราไปทำให้เกิดความเชื่อผิดๆขึ้นเองครับ

------------------------------------------------------------------------
คำว่างั่งมีคำแปลหลายอย่าง หนึ่งในความหมายของคำทั้งหมดก็คือ เป็นคำที่ใช้เรียกวัตถุประเภทโลหะ มีสีเงิน บางคนเชื่อว่างั่งเป็นของที่มีคุณวิเศษในตัว มีคนสันนิษฐานว่าพระงั่งคือพระที่ทำจากวัตถุชนิดนี้ หรือมีวัตถุชนิดนี้เป็นส่วนผสม เป็นคำที่ใช้เรียกพระตามชนิดของวัตถุที่ใช้สร้าง เหมือนพระผง พระเงิน พระทอง ประมาณนั้น

แต่ที่พบเห็นมา พระงั่งเป็นคำเรียกพระพิมพ์หนึ่ง ลักษณะเป็นเหมือนพระชัย ลักษณะเฉพาะตัวของพระพิมพ์นี้คือไม่มีเส้นสังฆาฏิ ไม่มีเส้นจีวร ทำให้ดูเหมือนพระไม่สรวมเสื้อ อันที่จริงทางเหนือก็มีพระคล้ายๆแบบนี้ เรียกว่าพระป๋อย แต่ของทางเหนือเป็นพระเนื้อดิน และมีความเชื่อเกี่ยวกับพระป๋อยที่แตกต่างกันออกไปจากความเชื่อเกี่ยวกับพระงั่งในภาคกลาง

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าทำไมถึงเรียกพระงั่ง มีแต่ข้อสันนิษฐาน นอกจากชื่อเรียกที่ฟังดูออกจะไม่เหมาะสมแล้ว ยังมีความเชื่อที่ไม่เหมาะสมด้วยว่า พระงั่งชอบของต่ำ ต้องเอามาแขวนเอว บางคนเอาไปแขวนไว้ต่ำกว่าเอวลงไปอีก เชื่อว่าดีทางเสน่ห์ ทำให้เพศตรงข้ามหลงไหล

สาเหตุที่เชื่อว่าดีทางเสน่ห์อาจจะเป็นเพราะองค์พระท่านดูเหมือนไม่สรวมเสื้อ คำว่าเสน่ห์ในที่นี้หมายถึงเรื่องทางเพศโดยตรง ตรงนี้เชื่อตรงกับพระป๋อยของทางเหนือ แต่คนเหนือเขาไม่ทำอะไรอุบาทว์จัญไรต่อพระป๋อยเหมือนอย่างที่คนภาคกลางบางคนทำกับพระงั่ง

ความเชื่อเรื่องพระงั่งมีมาแต่โบราณ ไม่รู้แน่ว่ามาได้ยังไง แต่ที่แน่ๆก็คือความเชื่อแบบนี้ทำให้คนทำบาปเพราะล่วงเกินรูปพระพุทธอันพึงสักการะมาเยอะแล้ว ปัจจุบันได้มีการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระงั่งเพื่อลบล้างความเชื่อที่ไม่เหมาะสมนี้

-----------------------------------------------------------------------

เผอิญเดินผ่านเส้นทางสายนี้มาบ้าง เลยขอร่วมออกความเห็นครับ
ผมเคยรู้จักพระชัย ที่ตามความเห็นบอกว่าเป็นพระที่สร้างหลังจากเสร็จศึกสงคราม
อันนี้มีจริงครับ เป็นพระไม่ใส่เสื้อ จีวร แต่ทรงมงกุฎ ไม่เข้าใจว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
ตามข้อมูลจากชาวบ้าน ย่านอยุธยา บ้างก็ว่า เป็นพระที่ชาวบ้านทำกันเอง รูปทรงสวยงาม
แต่ไม่ใช่ไอ้งั่งครับ
ผมเคยผ่านมือทั้งแบบแหกตาดินไทยอุดใต้ฐาน แบบตัน ทองแดง ทองเหลือง
ที่ไม่เข้าใจที่สุดคือ แบบมีหูอยู่ข้างหลัง
อันนี้เป็นพระที่คนหลายคนเข้าใจว่าเป็น งั่ง
สำหรับผมแล้ว เป็นพระครับ วางบนหิ้งพระได้
และผมเข้าใจว่าเป็นคนละอย่างกับพระแก้บนครับ เพราะพระแก้บน ผมเคยเห็น เป็นอีกแบบหนึ่งครับ
เคยใช้เป็นแบบในการดูเนื้อทองแดงสนิมไขครับ

อีกประเภทหนึ่ง เป็นงั่งที่มีความเชื่อว่า มาจากพวกเขมรครับ ที่เรียกว่า ไอ้งั่งตาแดง
มีพ่องั่ง แม่งั่ง งั่งก่อนบวช พระงั่ง (โครตงั่ง) ผมว่า มันเหมือนกับด่าคนที่เชื่อว่าโง่ ยังไงไม่รู้
เอาตามนิยายที่ฟังต่อๆกันมานะครับ ว่า งั่งก่อนบวชเป็นพระนี่จะมักมากในกาม จะเห็นเป็นแบบ
มือกำดุ้นอยู่ มีมากมายหลายรูปแบบ ส่วนที่บวชแล้วจะมีท่าทางนั่งสมาธิ เป็นต้น
รูปร่างประหลาดหัวโต ตากลม สีแดง ยิ้มมุมปาก หัวแหลม
วัตถุที่ทำเป็นงั่ง เป็นโลหะผสมครับ ที่เคยเห็นเป็นเหมือนทองเหลือง หรือ สัมฤทธิ์
ผมไม่เข้าใจเหมือนกัน เคยไปดูเขาซื้อ ผมเห็นเค้าแอบเอาแม่เหล็กดูดกับงั่งครับ
ดูเหมือนว่าดูดติด แต่จำไม่ได้ว่า ใช้เพื่อพิจารณาแง่มุมใด
ไอ้งั่งที่ก่อนบวชนั่นแหละครับ ที่เล่นกันว่ามีเสน่ห์ทางเพศ บ้างก็นำไปแช่ในน้ำหอม
ส่วนงั่งที่เป็นรูปทรงว่าบวชแล้ว เล่นทางเหนียวครับ
ผมเคยเห็นงั่งแบบแบนๆนะครับ ไม่มีดินอุดใต้ฐานเหมือนพระชัย
เป็นคนละอย่าง คนละแบบ กับพระชัยที่กล่าวตอนต้นครับ
และพระชัยเป็นพระที่น่าสงสารคนที่เข้าใจผิดจริงๆครับ คนต่างจังหวัดที่สุพรรณแกก็พูดทำนองนี้
ว่าถูกคนนำไปใช้แบบไม่เคารพ

เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว มีชาวเขมร (มาจากทางอรัญ) ขนงั่งเป็นปี๊บเข้ามาที่สวนจตุจักร
เซียนพระรู้ข่าว ไปขอลองยิงครับ ก็ลองง่ายๆ หยิบออกมา ปืนส่อง ตัวที่ยิงไม่ออก
เค้ารับซื้อกันหลายบาทอยู่ ไม่รู้เป็นตรงนี้หรือเปล่า ทำให้มีข่าวว่า งั่งใช้ทางมหาอุด
เมื่อปี 2546 หรือ 47 ที่มีการเลือกตั้งแถวนนท์ มีข่าวจากนักการเมืองท้องถิ่นหาของเหนียว
งั่งก็เป็นรายการหนึ่งที่เสาะหากันครับ<!-- google_ad_section_end -->

-----------------------------------------------------------------------





<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
บทวิเคราะห์และสรุปครับ

จากข้อมูลที่หลากหลายพอจะบอกได้ว่างั่งองค์ใหญ่ๆกับพระชัยอยุธยาคือพระเดียวกันนั่นเองแต่อาจจะมีสกุลช่างปั้นแบบใส่ลายจีวรหรือไม่ได้ใส่แบบพระสมเด็จ ส่วนงั่งตาแดงว่าเป็นของเขมรนั้นยากที่จะหาข้อมูลยืนยันว่าเป็นงั่งอย่างที่เข้าใจหรือเป็นพระบางประเภท แถมยังไม่มีข้อมูลละเอียดเพียงพอกับการหักล้างข้อสงสัยว่ามีการสร้างเรื่องหลอกทำของมาขาย ของคนรุ่นก่อนๆ ก่อนที่จะถึงยุคสื่อสารมวลชนจะเจริญรุ่งเรืองรึปล่าว โดยเฉพาะเรื่องเล่าที่บอกว่างั่งชอบประจำเดือน งั่งสั่นกระโดดเมื่อเห็นผู้หญิง ประกอบกับวิชางั่งจากเขมรนั้นมิอาจค้นพบได้ในปัจจุบัน ซึ่งต่างจากข้อสันนิษฐานที่ว่างั่งเป็นของทางเหนือ(หมายถึงตั้งแต่อาณาจักรล้านนาขึ้นไปจนถึงเชียงตุง) ซึ่งมีข้อมูลจากบทความทั้งสองส่วนดังกล่าวมาข้างต้นที่ละงั่ง ทำจากโลหะสีเงิน และมีขนาดเล็ก ตรงกับของเก่าแก่ที่ครูบาแม้วได้มาจากพม่า(ของชาวไทยใหญ่) อีกทั้งวิชาคาถาอาคมที่ใช้ปลุกเสกละงั่งยังสืบกันมาอยู่อย่างชัดเจน โดยครูบาแม้วท่านสืบวิชานี้มาจากพ่อหนานแก้ว บ้านทา ศิษย์เอกครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ (อดีตพระอุปฐากท่านขณะเดินธุดงค์) ส่วนครูบาธรก็มีวิชานี้แทบจะเหมือนกันเลยทีเดียวแต่ครูบาธรสืบมาจากอีกอาจารย์หนึ่งชื่อแก้ว เหมือนกันแต่อยู่สิบสองปันนา ทั้งหมดนี้ผมจึงสรุปว่า ละงั่งโบราณน่าจะเป็นของทางเหนือ แต่สืบทอดผ่านอาณาจักรล้านช้าง(ลาว)เข้าสู่ก้มพูชา หรือไม่ก็เกิดความต้องการละงั่งโดยรู้แต่สรรพคุณแต่ไม่สามารถหาตัวอย่างดูได้ง่ายๆจึงมีการออกแบบละงั่งแบบที่เราเข้าใจว่าเป็นของเขมรขึ้นตามจินตนาการออกสนองความต้องการพร้อมนวนิยายเกินจริง

ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าละงั่งคืออะไร ขอบอกว่าจาการวิเคราะห์ของผม ละงั่งคือเพชรพญาธร (ทางเหนือเรียกว่า ติ๊บประยาตอน) แบบหนึ่ง เพชรพญาธรนี้ คือผู้สำเร็จอาคมโดยเฉพาะทางเสน่ห์เมตตามหานิยมที่ตายแล้วอยู่ในภพภูมิกึ่งภูติกึ่งเทวดาชั้นผู้น้อย ท่านเหล่านี้ชอบเสพกามตั้งแต่ตอนยังไม่ตายจนกระทั่งตายไปเป็นเพชรพญาธรแล้วก็ยังชอบอยู่ บางครั้งจรอยู่ในทิพยสภาวะผ่านหญิงสาวงามๆนอนหลับอยู่ยังแอบลงเสพ ทำให้หญิงสาวที่หลับอยู่นั้นรู้สึกว่าได้เสพสุขกับชายในฝัน

แม้ว่าละงั่งจะคืออะไรก็ตาม ประสบการณ์การอันยาวนานของชายชาวเหนือที่ใช้เครื่องรางละงั่ง(หายาก)หรือ สักยันต์หัวใจละงั่งมา ย่อมพิสูจน์ได้ว่าละงั่งนั้นถ้าผู้สร้างผู้สักมีวิชาความรู้จริงอย่างครูบาแม้ว ครูบาธร เรื่องมหาเสน่ห์ขั้นเจ้าชู้คงหนีไม่พ้น<!-- google_ad_section_end -->

 

วัตถุมงคลที่เปิดให้บูชาตอนนี้ มีดังนี้ค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ครูบาแม้ว
1. มีดหมอมหาปราบ บูชา 299.- (หน้า1)
2. ตะกรุดรกแมวรุ่น 2 บูชา 299.- (หน้า13,14)
3. ผ้ายันต์พระยาจักรแก้ว บูชา 99.- (หน้า 9)
4. ละงั่งอุดผงมหาเส่นห์ เนื้อโลหะ บูชา 349.-

ครูบาธร
1. กลองสะท้อน บูชา 350.- (หน้า 17)
2. แมงวันคำอุดผงมหาเส่นห์ เนื้อโลหะ บูชา 349.-


ครูบาวัย
1. ประคำมหาวิมุติ บูชา 199.-(หน้า 21)


ครูบาอิ่นคำ
1. พระรอดหลังฤาษี องค์ละ 100.-(หน้า18)

ครูบาสิทธิ (หน้า 32)
1.ผ้ายันต์ผืนใหญ่เขียนมือ แถมลูกอมชานเมี่ยง บูชา 1000.-
2.ผ้ายันต์ผืนเล็กเขียนมือ บูชา 200.-
3.ผ้ายันต์สมปรารถนา บูชา 150.-
4.ผ้ายันต์มหาอิ่น บูชา 300.-<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

ครูบาบุญทา(หน้า53-54)
1. ปรอทกรอ (ลูกสุนทรี)บูชา 349.-
2. ตะกรุดดอกคำ บูชา 349.-


หลวงปู่เจือ (หน้า 71)
รุ่นพยัคฆ์จินดา
1.ตะกรุดหนังเสือพยัคฆ์จินดา บูชา 599.-
2.ลูกสวาทจินดา บูชา 159.-
3.ลูกอมพยัคฆ์ชันโรง บูชา 159.-
4.ตะกรุดรักยมลูกฤาษี บูชา 199.-
รุ่นรักชาติ
1. มีดปราบหงสา บูชา 1999.-
2. ตะกรุดนเรศวรปราบหงสา บูชา 399.-
3. ขุนแผนรักชาติ เนื้อไม้รักแกะ 499.-
4. พระกริ่งนเรศวรชัยมงคล ขนาดบูชา 7999.-
5. พระกริ่งนเรศวรชัยมงคล ขนาดห้อยคอ บูชา 599.-เนื้อนวะ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

10 ม.ค. 2553 ตั้งแต่ 9.00น. เป็นต้นไป

​

ครูบาแม้ว
1. เป่าน้ำตรวจเคราะห์กรรมสำหรับคนที่มีปัญหาติดขัด ทำอะไรไม่ขึ้น พร้อมบอกวิธีแก้ไข
2. สักหรือเจิมเสน่ห์ยาแดง
3. ถอดถอนคุณไสย์
<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->4. รับถวายกรด 3 ฤดูจากผู้ร่วมทำบุญ
5. แจกเทียนลดเคราะห์หนุนดวงรับโชครวม ๓ เล่ม

ครูบาธร
1. สักหมึกผสมว่านยา/น้ำมัน ทางเมตตามหาเสน่ห์ เช่น แมงวันคำ ดอกไม้สวรรค์ ห้าแถว ทางคงกระพันข่ามคง เช่น หัวใจพระรอด
2. ลงคำ(ทอง) 9 แผ่น ตามตำรับล้านนาที่สืบทอดมา จัดทองคำแท้มาเอง10 แผ่น
3. ทำพิธปลุกเสกอิ่นแต่งงานแจกแก่ผู้มากราบ

ครูบาบุญทา
1. ครอบครูในสายของท่านผ่านหัวพระฤๅษี๑๐๘
2. ลงสาริกาลิ้นคำ
3. แจกสาริกายอดรัก

ครูบาสิทธิ
1. ประสิทธิ์ประสาทพร
2. แจกน้ำมนต์หมุน

หลวงปู่หริ
1. เป่ายันต์เกราะเพชร
2. แจกตะกรุดนะหน้าทอง

 

รบกวนพี่ๆช่วยประชาสัมพันธ์หน่อยค่ะ

งานวันที่ 10 ม.ค. 53 มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ​

​

 

ประวัติครูบาสิทธิค่ะ

ขอนำเสนอประวัติครูบาสิทธิค่ะ




​

​

​

​

​

 

๑. ร่วมถวายค่าเดินทาง 1,000 บาท มอบผ้ายันต์ผืนใหญ่ที่ท่านเขียนเองด้วยมือ
เป็นพิเศษไม่มีอีกและลูกอมชานเมี่ยงมากประสบการณ์(หมดจากวัดไป
นานแล้ว)ตอบแทน ให้ 1 ชุด มีเพียง ๔ ชุดเท่านั้น

​

๒.๑ ร่วมถวายค่าเดินทาง 200 บาท มอบผ้ายันต์ที่ท่านเขียนด้วยมือผืนเล็กให้ 1 ผืน มี ๒๐ ผืน

​

๒.๒ ร่วมถวายค่าเดินทาง 150 บาท มอบผ้ายันต์สมปารถนาให้ 1 ผืน มีเพียง ๙ ผืน

​

๒.๓ ร่วมถวายค่าเดินทาง 300 บาท มอบผ้ายันต์มหาอิ่นให้ 1 ผืน มี ๔ ผืน

​

 

สักน้ำมันกับครูบาธรนี่ ค่าครูเท่าไรหรอคับ
เเล้วน้ำมันที่ใช้สักนี่ใช้รวมกานหรือว่าแยกคับ

 

มาช่วยให้ข้อมูล ถ้าอยู่แถวเกษตร ทำอย่างไรก็ได้ให้มาที่ BTS จตุจัดร แล้วนั่งรถประจำทางสาย 138 ฝั่งจตุจักร แล้วบอกเขาว่าลง กิโล 9 (ป้ายแรกหลังจากลงทางด่วน) ค่ารถประมาณ 20 บาท

เส้นทางสีแดงในแผนที่ ก็คือ หลังจากลงแล้ว ข้ามฝั่งที่สะพานลอย บอกวินมอฯ ว่าไปไปรษณีย์หน้าพาณิชย์เชตุพน ค่ารถมอฯ ประมาณ 15-20 บาท ถึงหน้าไปรษณีย์ และมองหารถกระป๊อ (2 เล็ก) ที่เขียนว่าไปทุ่งครุ ค่ารถประมาณ ๕ บาท มั๊ง

เส้นทางสีเขียว ต้องนั่งรถต่อไปอีก

 

น้ำมันที่ใช้สัก คือจะเทใส่ถ้วยใครถ้วยมันค่ะ ไม่รวม ส่วนค่าครูการสัก 299.- ค่ะ

 

(smile) ขอบคุณค่ะพี่

 

หลังจากสักเสร็จ 1 คน หลวงพ่อจะเอาเข็มมาเผาไฟและเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ครับ ส่วนน้ำยาสัก ถ้าเหลือ เททึ้งครับ

 

กลับมาแล้วหรอค่ะ