หมดแล้ว <<ฟ้าสร้าง>> หนุมานเกราะเพชรมากประสบการณ์ หลวงปู่หริ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ฟ้าสร้าง, 24 พฤศจิกายน 2009.

  1. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    อ้าวไม่ใช่ฟาร์มเจ้ฟ้าสร้างเรอะ
     
  2. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    อ้าวไม่ใช่ฟาร์มเจ้ฟ้าสร้างเรอะ
     
  3. pun-pun

    pun-pun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +346
    เอาเเบบเมตตาเต็มๆเลยนะคับพี่ เอาเเบบพี่เลยก็ได้ 55555
     
  4. homo

    homo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +2,594
    ละงั่ง มีมวลสารชนวนอะไรบ้างเหรอครับ แล้วมีอุดด้วยมวลสารอะไรบ้าง
     
  5. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    ครับ เอาหลังมาให้ผมลองลงก่อนนะ หนูไม่เคย
     
  6. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    [​IMG]
     
  7. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    ประวัติหลวงปู่ครูบาสิทธิ อภิวัณโณ เทพเจ้าดอยลาง<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->
    [​IMG]

    ประวัติโดยย่อครูบาสิทธิ
    หลวง ปู่ครูบาสิทธิ อภิวัณโณ ปัจจุบันอายุ ๘๙ ปี(นับตามหลวงปู่ฯบอก) นามเดิมชื่อสิทธิ เมืองใจ เกิด ๑๐ มิย. พศ .๒๔๖๕ ณ. บ้านแม่ฮ่าง ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรคนโตของพ่อบุญมา และแม่ป้อ เมืองใจ ในพี่น้องทั้งหมด ๕ คน หลังจากหลวงปู่ฯเกิดได้ไม่นานพ่อแม่ก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านปางกลาง
    <o>:p</o>
    <o>:p
    อายุ ๑๖ ปีได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดปางกลาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ในวันที่ ๕ เม.ย. ๒๔๘๑ โดยมีครูบาแก้ว กาวิชโย วัดมงคลสถาน อุปัชฌาย์
    <o>:p</o>
    <o>:p
    ต่อ มาได้อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดชัยสถาน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ในวันเสาร์ที่ ๑๓ มิ.ย. ๒๔๘๕ โดยมีครูบาก๋องคำ วัดมาตุการาม เป็นพระอุปปัชฌาย์ ครูบาอุ่นเรือน ธีรปัญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระคำภีร์ ธมฺมวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากที่ได้อุปสมบทแล้วก็ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม กับครูบาสิงห์แก้ว ที่วัดแม่อายหลวง จนจบนักธรรมเอก ขณะเดียวกันก็ได้ศึกษาอักขระและเวทย์มนต์ล้านนากับพระอธิการวงศ์ เจ้าอาวาสวัดจองกล๋าง อีกทั้งยังใช้เวลาว่างศึกษาค้นคว้าพระเวทย์จากปั๊ปสาต่างๆอีกจำนวนมาก
    <o>:p</o>
    หลัง จากนั้นในปี ๒๔๙๓ หลวงปู่ท่านได้ถูกส่งไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดห้วยม่วงจนถึง พ.ศ.๒๔๙๗ ซึ่งอยู่ในป่าลึกเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ พระต้องอยู่ในถ้ำที่มีปู่ฤาษีเจ้าที่แรง เป็นเหตุให้พระที่มีศีลไม่บริสุทธิ์อยู่ไม่ได้ ทำให้ขาดพระจำพรรษามาตลอด ดังนั้นท่านเจ้าคณะอำเภอจึงอาราธณาหลวงปู่ครูบาสิทธิไปช่วยจำพรรษา พอไปถึงหลวงปู่ฯก็ถูกทดสอบอย่างหนัก จนปู่ฤาษีเจ้าที่ยอมรับและดลบันดาลให้การเจริญกรรมฐานของหลวงปู่ฯรุดหน้าไป อย่างรวดเร็ว มีกำลังฌาณสมาบัติสูง ขณะเดียวกันพ่อหนานมูล บ้านร้องธาร ฆาราวาสผู้แก่กล้าอาคมที่โด่งดังสุดๆในยุคนั้นมีบ้านอยู่ใกล้วัดถ้ำตับเต่า ก็ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมและยกตำราให้หลวงปู่จนสิ้น ทำให้หลวงปู่ฯได้ใช้เวลาศึกษาพระเวทย์และปฎิบัติภาวนาอยู่ในถ้ำตับเต่าแห่ง นี้นานถึง ๙ ปี
    <o>:p</o>
    กระทั่ง ปี พศ.๒๕๐๘ พ่อหลวง (ผู้ใหญ่บ้าน) เสา แห่งหมู่บ้านปางต้นเดื่อ ยอดดอยลาง ดินแดนที่อำนาจรัฐของประเทศไทยในขณะนั้นเข้าไปไม่ถึง ในพื้นที่เต็มไปด้วยกองกำลังกลุ่มต่างๆ ของหลายชนเผ่า ได้มาขอพระสงฆ์กับท่านเจ้าคณะอำเภอฝาง(สมัยนั้นยังไม่มีอำเภอแม่อาย) ให้ไปจำพรรษาณ.ที่พักสงฆ์ปางต้นเดื่อเพื่อเป็นที่พึ่งและช่วยสงเคราะห์ชาว บ้านชาวเมืองที่ขึ้นไปบุกเบิกป่าทำไร่ชา เนื่องว่าในขณะนั้นบนดอยลางมีแต่ฤๅษีไม่มีพระ ท่านเจ้าคณะอำเภอทราบเรื่องดังนั้นแล้วก็พิจารณาเห็นว่าคงมีเพียงหลวงปู่ครู บาสิทธิรูปเดียวเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้และสามารถจะพัฒนาที่ พักสงฆ์ให้กลายเป็นวัดสำเร็จ จึงได้ให้พ่อหลวงเสานำคณะศรัทธาไปรับหลวงปู่จากถ้ำตับเต่าขึ้นสู่ยอดดอยลาง มาจนกระทั่งปัจจุบัน
    </o></o>
    ดอยลางในอดีตดินแดนที่อำนาจรัฐเข้าไม่ถึง<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->หลวง ปู่ครูบาสิทธิท่านไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้นะครับแถวนั้น ไม่แน่จริงจะเป็นพระที่เคารพของกองกำลังต่างๆที่ปะทะกันอยู่แถบดอยลางได้ หรือ? ดูรายงานชิ้นนี้ครับ

    ในช่วงทศวรรษ ๒๕๐๐-๒๕๓๐ อาณาบริเวณพื้นที่ชายแดนด้านดอยลาง และพื้นที่ลุ่มน้ำกกตอนบน มีลักษณะทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรมไม่แตกต่างจาก “รัฐอิสระ” เท่าใดนัก อำนาจรัฐส่วนกลาง ทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่า ไม่สามารถแสดงอำนาจเหนือพื้นที่ได้บริเวณพื้นที่ดอยลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มแม่น้ำกกตอนบน และห่างจากหมู่บ้านท่าตอนเหนือขึ้นไปตามลำน้ำกกประมาณ ๕ กิโลเมตร เป็นฐานที่ตั้งของกองบัญชาการของกองทัพปลดปล่อยชนชาติลาหู่ (LNLA.) ส่วนอีกด้านหนึ่งของแม่น้ำกก จะอยู่ในการควบคุมของกองทัพรัฐฉาน (Shan State Army, SSA) หากจะสรุปอย่างตรงไปตรงมาแล้ว กล่าวได้ว่า ในช่วงทศวรรษ ๒๕๐๐-๒๕๓๐ พื้นที่ชายแดนไทย-พม่าเขตลุ่มน้ำกกตอนบน ท้องที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งศูนย์กลางอำนาจย่างกุ้งและกรุงเทพฯ หรือหน่วยงานของรัฐบาลไม่มีอำนาจเหนือดินแดน/ไม่สามารถปฏิบัติการจริงในการ ควบคุมจัดการพื้นที่ได้ อาณาบริเวณดังกล่าวมีกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เป็นจำนวนถึง ๘ กลุ่มย่อย และมีกำลังพลรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า ๑๐,๐๐๐ คน โดยประกอบไปด้วยกองกำลังติดอาวุธกลุ่มต่าง ๆ คือ (๑) กองทัพปลดปล่อยชนชาติลาหู่ ที่มี ๓ กลุ่มย่อย คือ กลุ่มเจ้าฟ้าจะอื่อ หรือพญาจะอื่อ, กลุ่มเจ้าฟ้าแอบิ กลุ่มพันเอกแสงหาญ (๒) กองทัพรัฐฉาน (Shan State Army, SSA) กลุ่มเจ้าหาญสามแสง-ขุนโง๊ะ, กลุ่มขุนส่า (Mong Tai Army, MTA) (๓) กองกำลังติดอาวุธชนชาติว้า (Wa National Organizations, WNO) ซึ่งมีกลุ่มของ พ่อเฒ่าพะโป่ หรือ พะโป่กางเสือ, กลุ่มเจ้ามหาซาง และไอ่เชียวสือ, กลุ่มเจ้ายี่ลาย

    บางประสบการณ์จากเวปล้านนา<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start --><table class="BPramoolDesc" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>ครูบาสิทธิ วัดปางต้นเดื่อ อ.แม่อาย เชียงใหม่
    ประวัติ ท่านผมไม่ทราบมากนัก หนังสือก้อไม่มี หมายความว่าไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในโลกนี้เลย น่าแปลกน่ะครับ ผมเคยได้ยินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับครูบาฯก้อเมื่อพี่เล็ก นำศิลป์พูดคุยกัน สัพเพเหระ จนมาถึงครูบาสิทธิ องค์นี้ (พี่เล็กนี่มีครูบาอาจารย์มากน่ะ ครับ)
    พี่เล็กว่า "ครูบาสิทธินี้เมื่อก่อนเปิ้ลอยู่กับอาจารย์เปิ้ลที่ถ้ำตับเต่า(ดับเถ้า) เมื่อาจารย์ท่านสิ้น ครูบาสิทธิจึงได้ย้ายออกมา"
    ประสบการณ์ มากมายเกี่ยวกับท่าน จากปากคุณอู๊ด แอมเวย์ เคยเล่าให้ผมฟังว่า "มี ทหารลาดตะเวณเดินพลัดตกไหล่เขา หาเท่าไรก้อหาไม่เจอ จนใจแล้ว จึงไปหาครูบาฯ ครูบาฯก้อบอกๆ ว่า "อยู่ฮั่นน่ะ ตกลงไป บ่อได้นอน นั่งกั๊ดอกอยู่ฮั่นน่ะ ถ้าจะตายล่ะ " ทหารร่วมกับชาวบ้านไปหากันก้อเจอตามที่ครูบาฯบอกครับ
    อีกเรื่อง หนึ่ง เค้าว่า(เค้าว่าน่ะครับ ฟังหูไว้หู)ตอนที่เหรียญนี้มันดังเนี้ย มีคนเอาไปหื้อคนทางใต้ แล้วมันสู้กัน ใช้มีดกรีดยางเฉือดไม่เข้า อะไรอะไรอย่างนี้แหล่ะครับ

    เล่ากันบ่อดาย เน้อ</td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2010
  8. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    ประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ครูบาสิทธิ<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->เนื่อง จากหลวงปู่อยู่ในดินแดนสู้รบที่อำนาจรัฐเข้าไม่ถึง ประสบการณ์ส่วนมากจึงได้ยินมาแต่เรื่องคงกระพันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นผ้ายันต์เขียนมือ หรือ ลูกอมชานเมี่ยง แต่แม่ค้าขายอาหารที่อ.แม่อาย ยืนยันว่าเรื่องค้าขายนั้น ผ้ายันต์เขียนมือผืนใหญ่ กับ ผ้ายันต์สมปราถนา เมตตา ค้าขาย อยู่ดีมีสุขผืนสีเหลืองขนาดเท่ากระดาษ A4 นั้นเก่งเรียกลูกค้าจริงๆ
    ด้วยเหตุที่วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมายทำให้เป็นที่ศรัทธาของคน ๕ อำเภอคือ แม่อาย ฝาง เชียงดาว ไชยปราการ เป็นปฐมบทและเลื่องลือไปทั่วจ.เชียงใหม่และหัวเมืองภาคเหนือในที่สุด ทำให้รูปหล่อเล็กรุ่นแรกที่สร้างขึ้นเมื่อ พศ.๒๕๔๗ รวมทุกเนื้อหกพันองค์เศษ หมดลงจากวัดอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันราคาเล่นหาในตลาดพระทิพย์เนตรจ.เชียงใหม่เพิ่มขึ้นไปหลายเท่าตัว

    [​IMG]
     
  9. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    ประวัติหลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด<!--sizec--><!--/sizec--><!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    [​IMG]
    <!--sizeo:4--><!--/sizeo-->ปัจจุบัน อายุ๗๗ปี เกิด ๒๒ มิย. ๒๔๗๕ ที่ บ้านหนองเกิ๊ด อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พออายุ ๑๑ ปี หลวงปู่ครูบาส้อ เกจิชื่อดังองค์หนึ่งของอ.ป่าซางซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดหนองเกิ๊ด ขอท่านมาเป็นขโยมวัด แล้วสอนให้อ่านเขียนตัวเมืองล้านนา หัดสวดมนต์ หัดเทศน์ธรรม จนได้คล่องแคล่วแล้วจึงให้บวชเป็นสามเณร เมื่ออายุ ๑๕ ปี หลังจากเป็นสามเณรแล้วก็ยังได้อยู่อุปฐากรับใช้ ศึกษาวิทยาคมรวมถึงกรรมฐานกับหลวงปู่ครูบาส้อจนเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว กระทั่งอายุ ๒๒ ปีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วย้ายตามหลวงปู่ครูบาส้อไปปกครองวัดท่าตุ้ม จากนั้นอีก ๔ ปีต่อมาหลวงปู่ครูบาบุญทาถูกส่งไปเป็นเจ้าอาวาสวัดหัวข่วงอยู่เกือบสิบพรรษา จนเกิดความเบื่อหน่ายจึงลาออกแล้วเดินทางไปอยู่อ.เชียงดาว ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมแปลกๆในสายพระฤๅษี กระทั่งหลวงปู่ ครูบาส้อ วัดท่าตุ้ม เกิดมรณภาพ จึงรีบกลับมา เมื๋อเสร็จจากงานศพแล้วหลวงปู่ครูบาสม เจ้าอาวาสวัดเจดีย์สามยอดศิษย์ผู้พี่ได้นิมนต์ให้อยู่กับท่านเพื่อช่วยงาน พัฒนาวัดฯ ต่อมาหลวงปู่ครูบาสมมรณภาพ หลวงปู่ครูบาบุญทาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบมากระทั่งปัจจุบัน หลวงปู่ครูบาบุญทาเมื่อเป็นเจ้าอาวาสแล้วก็ได้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านย่าน นั้นมาตลอด ใครๆก็มาให้ท่านสงเคราะห์จนมีสานุศิษย์นับถือมากมาย กระทั่งเรื่องอำนาจจิตและเวทย์วิทยาคมของท่านเริ่มเป็นที่รู้จักขจรขจายไป ทั่ว งานพุทธาภิเษกของวัดต่างๆในพื้นที่ต้องมาอาราธนาขอให้ท่านไปนั่งปลุกเสกทุก ครั้ง แต่ท่านเองกลับไม่เคยจัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเองสักครั้ง จนกระทั่งปัจจุบันคณะศิษย์ได้ดำเนินการขออนุญาติท่านสำเร็จ หลวงปู่จึงปรารภให้สร้างลูกสุนทรีตามวิชาของหลวงปู่ครูบาส้อผู้เป็นพระ อาจารย์ (เหมือนที่ภาคกลางเรียกว่า ปรอทกรอ) ตะกุรดดอกคำ(ตะกรุดดอกทอง) และ สายคาดเอวตะกรุด ๑๐๘ ดอก ขึ้นเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกอย่างเป็นทางการ โดยปลุกเสกเดี่ยวจนเกิดปาฏิหารย์เสียงลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ดังเกรียวกราว

    สำหรับ หลวงปู่ครูบาส้อพระอาจารย์ของหลวงปู่นั้นท่านเก่งในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเมตตามหาเสน่ห์หรือด้านข่ามคง แต่ถึงแม้ท่านจะเก่งขนาดไหน?ท่านก็ยังพกลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ตลอดเวลา และในการปลุกเสกทุกครั้งต้องอัญเชิญกระแสพลังจากลูกสุนทรีนี้ลงประจุในวัตถุ มงคลด้วยตลอด โดยใส่ไว้ในบาตรน้ำมนต์ พอปลุกเสกจนได้ที่น้ำมนต์จะสั่นมีเสียงร้องวิ๊งๆจากปรอทเสร็จแล้วจึงใช้น้ำ พระพุทธมนต์นี้ประพรหม ต่อมาเมื่อหลวงปู่ครูบาส้อมรณภาพลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)นี้ได้ตกทอดสู่หลวงปู่ ครูบาบุญทาและหลวงปู่ครูบาบุญทาก็ได้นำมาใช้ในพิธีกรรมปลุกเสกตามแบบของหลวง ปู่ครูบาส้อผู้เป็นพระอาจารย์กระทั่งปัจจุบัน
    <!--sizec--><!--/sizec--> <!--coloro:#006400--><!--/coloro--><!--sizeo:5--><!--/sizeo-->ลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)หลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด<!--sizec--><!--/sizec--><!--colorc--><!--/colorc-->[​IMG]
    [​IMG]
    ภาพพระสุนทรีวาณี ถือดวงแก้ววิเชียร
    ที่สมเด็จพระวันรัตแดงเกิดนิมิตร
    แล้วให้จิตกรหลวงเขียนไว้

    ประวัติ..พระสุนทรีวาณี
    [​IMG]
    เป็น พระปางพิเศษ เป็นรูปเทพธิดาทรงอาภรณ์อันงดงามวิจิตร หัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก คือ การเรียกเข้ามาหา หัตถ์ซ้ายหงายอยู่บนพระเพลา (หน้าตัก) มีดวงแก้ววิเชียร อยู่ในพระหัตถ์ พระสุนทรีวาณี เป็นพระซึ่งเกิดจากการนิมิต แห่งพระคาถาสุนทรีวาณี ซึ่งเป็นคาถาที่ปรากฎ ในคัมภีร์สัททาวิเสส มี ๓๒ คำพระคาถานี้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดเมื่อเรียนพระไตรปิฎก เรียนพระธรรม เรียนวิชา ภาวนาแล้ว ดับอวิชชา บังเกิดปัญญางาม ปัญญากลายเป็นสัญญา คือ ความทรงจำอันเลิศล้ำ โบราณาจารย์ได้สั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้ท่องทุกครั้ง ที่เรียนพระไตรปิฎกตลอดมา สืบ ได้ความว่า ผู้ที่ท่องคาถานี้เฉพาะในยุครัตนโกสินทร์ ดำรงสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช ๓ พระองค์ เป็นพระสมเด็จ พระราชาคณะ เป็นพระคณาจารย์ผู้มากด้วยเมตตา สมเด็จ พระวันรัต (แดง สีลวัฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ของวัดสุทัศนเทพวราราม ภาวนาแล้วเกิดเป็นนิมิต จึงให้จิตรกรหลวงเขียนภาพนิมิตนั้น แล้วตั้งบูชาที่หัวนอน ครั้นต่อมารัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสยุโรป สมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้ถวายคาถานี้ให้จำเริญ ครั้นเสด็จกลับจึงได้ตรัสว่าคาถานี้ศักดิ์สิทธิ์ และทรงยืมรูปพระสุนทรีวาณีไปบูชา เป็นเวลา ๕ ปี จนเมื่อสมเด็จพระวันรัต (แดง) อาพาธ ก่อนมรณภาพ จึงขอพระราชทานคืนวัด ปัจจุบันประดิษฐานที่ พระตำหนัก (คณะ ๖)
    คาถาพระสุนทรีวาณี
    ตั้ง นะโม (๓ จบ)
    <!--sizeo:4--><!--/sizeo--> <!--sizec--><!--/sizec--> <!--sizeo:4--><!--/sizeo--> <!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro-->มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี
    ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตังมะนัง<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    คำแปล
    นาง ฟ้า คือพระไตรปิฎกอันเกิดจากดอกอุบล คือพระโอษฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ ปฏิบัติตามได้ ในพระไตรปิฏกทั้งโลกียะและโลกุตตระนั้นเทอญ

    หมายเหตุ
    พระ สุนทรีวาณี เป็นพระที่ทรงไว้ด้วยความเมตตาอย่างสูง เป็นพระที่เป็นสิริมงคล มหาลาภต่าง ๆ จึงเหมาะแก่ห้างร้าน บริษัท และร้านค้าทั่วไปจะมีไว้บูชาเพื่อเจริญด้วยลาภ ยศ ความสุข สรรเสริญ ตลอดจนการเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานของตน ผู้บูชาเกิดความผ่องใส เกิดโชคลาภ และความสำเร็จสมหวัง

    ที่มา: เปิดกรุวัดสุทัศน์ ,วัดสุทัศนเทพวราราม

    เมื่อ แรกผู้ เขียนเองก็สงสัยว่าลูกสุนทรีที่หลวงปู่ครูบาบุญทานำมาแช่น้ำพระพุทธมนต์เวลา ปลุกเสกและนำมาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกคืออะไร? จึงได้เริ่มต้นทำการสืบค้นจากสำนักวัดสุทัศน์ฯซึ่งเคยบวชเรียน โดยได้ภาพพระสุนทรีวาณีมาพิจารณา ปรากฎว่าในภาพท่านถือดวงแก้ววิเชียร(วิเชียรแปลว่าเพชร) แต่ทำไมสีไม่เหมือนเพชร กลับเหมือนสีของลูกสุนทรี(ปรอท กรอ)ของหลวงปู่ครูบาบุญทา แสดงว่าดวงแก้ววิเชียรที่สมเด็จพระวันรัตแดงเห็นในนิมิตรนั้นเป็นไปได้ว่า คือลูกสุนทรีนี้นั่นเองซึ่งแปลกมากที่ตรงกับการเรียกของครูบาส้อพระอาจารย์ ของหลวงปู่ครูบาบุญทา แปลว่าถ้าสืบค้นขึ้นไปทางล้านนาในยุคโบราณแล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่ามีการสืบทอดความเชื่ออย่างนี้เช่นกัน เพราะลูกสุนทรีที่ว่านี้มีมาตั้งแต่ยุคสมัยเชียงแสนแล้ว แต่เพิ่งสูญไปในระยะหลังนี่เอง พอผู้เขียนหันกลับมาสืบค้นข้อมูลในภาคกลางปัจจุบันกลับเรียกลูกสุนทรีว่า ปรอทกรอซึ่งก็สัมพันธ์กลับดวงแก้ววิเชียรที่แปลว่าเพชรอีก เพราะปรอทมีสีเงินวาวสว่างคล้ายเพขรและมีที่ไปที่มาตามนี้......
    ปรอท กรอ จริงๆแล้วเป็นของดีที่หายาก มีมาตั้งแต่ยุคเชียงแสนจนถึงลพบุรี และอยุธยา วัดหนึ่งวัดจะมีฝังไว้ที่ใต้อุโบสถอยู่เพียงลูกเดียว ปรอทกรอมีหลายขนาดหลายเนื้อแต่ที่นิยมกันที่สุดก็คือเนื้อสำริด วัตถุประสงค์ก็เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวงรวมทั้งโจรผู้ ร้ายที่เ
    ข้ามา เมื่อเข้ามาปรอทก็จะส่งเสียงดัง

    ปรอท กรอเป็นยุทโธปกรณ์ใช้ในการทำสงครามสมัยโบราณ สร้างไว้ให้สำหรับผู้นำทับระดับนายกอง หรือหัวหมู่ เวลานอนจะเอาปรอทกรอวางไว้บนดินแล้วนอนเอาหูแนบปรอทกรอไว้ ข้าศึกขี่ม้าหรือช้างเข้ามาใกล้ ปรอทกรอจะสั่นได้ยินเสียง จะได้รู้ตัวก่อน ปรอทกรอสำหรับแม่ทัพจะทำด้วยโลหะมีค่าหรือหุ้มด้วยทองคำ ภายในลูกปรอทกรอนั้นว่ากันว่าเป็นของวิเศษกายสิทธิ์จำพวกเหล็ก เหล็กไหล ปรอทแข็งหรือ โลหะใดๆที่ปลุกเสกดีแล้วที่พระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมได้เอามาใส่ไว้ ฉะนั้นเวลาเขย่าจะคล้ายมีกริ่งอยู่ข้างใน ปรอทกรอเดิมเท่าที่พบก็จะฝังอยู่ตามวัดเก่าหรือเป็นของตกทอดมาจากปู่ย่า บรรพบุรุษที่เป็นนักรบ

    ต่อ มาพระเกจิอาจารย์จึงได้นำมาสร้างเป็นเครื่องรางเรียกว่า ปรอทกรอ โดยเชื่อว่าเมื่อมีภัยมาถึงปรอทกรอจะส่งเสียงเตือนให้รู้ล่วงหน้า จึงบันทึกเพื่อสืบสานประวัติเครื่องรางบางอย่าง ก่อนที่อนาคตจะเหลือแค่เรื่องเล่าที่ขาดการประติดประต่อ

    คาถาปลุกลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ของหลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด
    (ตั้งนะโม ๓ จบ)

    <!--sizec--><!--/sizec--> <!--sizeo:4--><!--/sizeo--><!--sizec--><!--/sizec--> <!--sizeo:4--><!--/sizeo--> <!--coloro:#FF8C00--><!--/coloro-->สุนักขัตตั๋ง สุมังคะลัง สุปะภาตั๋ง สุหุฏฐิตั๋ง สุขะโณ สุมุหุตโต สุยิฏฐัง พรัหมะ จารีสุ<!--colorc--><!--/colorc-->
    อธิษฐานใช้ด้านป้องกันสิ่งอัปมงคลทั้งปวง เตือนภัยกันศัตรูนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
    .................................................

    (ตั้งนะโม ๓ จบ)
    โอม จะเร จั๋นเต๋วะรัง พันทะนัง สวาหุมติ๊ด<!--colorc--><!--/colorc-->
    อธิษฐานใช้ด้านเมตตามหาเสน่ห์

    <!--sizec--><!--/sizec--> <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->[​IMG] [​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2010
  10. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    ตะกรุดดอกคำ(ดอกทอง) หลวงปู่ครูบาบุญทา <!--sizec--><!--/sizec--><!--colorc--><!--/colorc-->
    <!--sizeo:4--><!--/sizeo--><!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro-->ว่านดอกทองหรือรากราคะ<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->

    <!--sizeo:4--><!--/sizeo-->"รากราคะ" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ว่านดอกทอง"ซึ่งเป็นว่านโบราณที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ว่านนี้เป็นพืชตระกูลเดียวกับขิงลักษณะ ลำต้นใต้ดินเป็นเหง้ากลม แตกแง่งเป็นไหลเล็กยาว๕-๑๐นิ้วเนื้อในหัวถ้าเป็นตัวผู้จะมีสีเหลือง ส่วนตัวเมียเนื้อสีขาวมีกลิ่นคาวจัดคล้ายกับอสุจิของคนพบมากทางภาคตะวันตก และภาคเหนือแถบจังหวัดกาญจนบุรี ตาก ลำปาง ใบเป็นรูปหอกสีเขียวมีขนาดเล็กเส้นกลางใบสีแดงทั้งต้นสูงประมาณ ๑ฟุต ออกดอกในหน้าฝน คล้ายดอกกระเจียวแต่ไม่มีก้านดอกจะอยู่ติดกับพื้นดิน มีสีขาวอมเหลืองกลิ่นหอมเย็น ดอกจะแทงขึ้นจากเหง้าหลักที่อยู่ใต้ดินก่อนการงอกของใบว่านดังกล่าวปัจจุบันใกล้จะสูญพันธุ์แล้วตามตำราโบราณระบุว่ามีอำนาจทางเพศรุนแรงมากโดยเฉพาะกับผู้หญิง ถ้าเอาหัว ใบหรือต้นใส่โอ่งน้ำหรือบ่อน้ำให้กินหากใครกินเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศรุนแรงและโดยเฉพาะดอก ผู้ที่ได้กลิ่นทั้งหญิงและชายจะพากันมัวเมาในกามโลกีย์ ฉะนั้นจึงต้องเด็ดดอกออกเสียก่อนที่ดอกจะบานหากปลูกในบ้าน

    <!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro-->นอกจากนี้ตามความเชื่อโบราณปลูกไว้ที่บ้าน <!--colorc--><!--/colorc-->ร้านค้ามีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม ทำให้มีลูกค้าอุดหนุนอย่างไม่ขาดสายและพกติดตัวด้วยมีความเชื่อว่าหากสตรีใดต่อคารมด้วยมักใจอ่อนคล้อยตามได้ง่าย

    <!--coloro:#008000--><!--/coloro-->หลวง พ่ออั๊บ วัดท้องไทร<!--colorc--><!--/colorc--> เคยเล่าให้ฟังว่า อาจารย์ฆราวาสชาวเขมรที่สอนวิชานางพิมดำเซนให้ก็พกว่านดอกทองตลอดเวลา อาจารย์ชาวเขมรผู้นี้มาปักหลักอยู่ไม่ไกลจากวัดนัก ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้เมียคนไทย 3-4 คน อยู่บ้านเดียวกันช่วยทำสวนทำไร่จนร่ำรวยที่ เขาหมอน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีว่านดอกทองจริง ๆ และมีมากพอสมควรจะออกดอกในหน้าหนาว สังเกตุได้จาก มีหมู่บ้านหนึ่งช่วงหน้าหนาวนี้จะมีการเล่นชู้กันมากเนื่องจากลมหนาวพัดเอา เกสรของว่านดอกทองผ่านหมู่บ้านพอดี ผมเคยขึ้นไปบนเขาแลเห็นว่ามีว่านชนิดนี้อยู่มากมาย ออกดอกเต็มไปหมด แถวอ.สัตหีบจะรังเกียจว่านชนิดนี้มาก เพราะจะทำให้คนเล่นชู้กันที่ ภาคเหนือ คนพื้นเมืองถือเป็นเรื่องปกติครับแต่ว่าคนแถวนั้นเขาจะเรียกว่า ว่านมหาเสน่ห์มากกว่าจะให้คุณเฉพาะผู้ที่บูชาเท่านั้น แต่มีปัญหาว่า ดูอย่างไรว่าเป็นว่านแท้เพราะว่าลำต้น ใบ เหมือนต้นไม้หลายชนิดมาก ต้องดูกันละเอียดครับ

    หลวงปู่ครูบาบุญทา ได้นำมาปลุกเสกบรรจุลงในหลอดตะกรุด ตามตำราที่ท่านได้ร่ำเรียนมา

    คาถาตะกรุดดอกคำ(ดอกทอง)หลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด
    <!--sizec--><!--/sizec--> <!--sizeo:4--><!--/sizeo--> <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->วิวะ อะวะ สุสะตะ วิวะ สวาหุม<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->
    รูปที่แนบมาด้วย [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2010
  11. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    ไปนอนละน้า พรุ้งนี้ ต้องไปทำงานแล้ว อย่าหยุดถึงวันที่ 10 เลย
     
  12. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ น้ำดี1 [​IMG]
    รู้ ป่าวมีมาถามน้ำตั้ง 5 รายแล้ว ถามว่าวัดไหน น้ำเลยตอบไป 3 ราย อีก 2 รายกั๊กคำตอบไว้ก่อน แถมมีถามอีกว่าแล้วกระทู้พี่เอกกับคุณฟ้าสร้างเชื่อได้หรือป่าว เข็ดแล้วกับการโดนหลอกให้ตอบอะไรดีหว่า
    </td> </tr> </tbody></table>

    พี่ ถึงไม่เคยตอบไปไงว่าใครวัดไหน พูดไปก็เปลื่องน้ำลาย เดี่ยวจะพลานมาหาว่าเราใส่ร้ายอีก ถ้าพี่เอกกับฟ้าสร้างเชื่อถือไม่ได้ ไม่ต้องเข้ามาดูแล้ว เว็บนี้
     
  13. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ละงั่ง มีมวลสารชนวนอะไรบ้างเหรอครับ
    ตามนี้เลยค่ะ ตอบช้าไปนิดมัวดูละคร อิ อิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01370.JPG
      DSC01370.JPG
      ขนาดไฟล์:
      55.4 KB
      เปิดดู:
      68
    • DSC01371.JPG
      DSC01371.JPG
      ขนาดไฟล์:
      68 KB
      เปิดดู:
      60
    • DSC01372.JPG
      DSC01372.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.7 KB
      เปิดดู:
      45
    • DSC01375.JPG
      DSC01375.JPG
      ขนาดไฟล์:
      64.2 KB
      เปิดดู:
      42
    • DSC01378.JPG
      DSC01378.JPG
      ขนาดไฟล์:
      32.3 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSC01377.JPG
      DSC01377.JPG
      ขนาดไฟล์:
      34.3 KB
      เปิดดู:
      39
  14. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ละงั่ง มหาเสน่ห์

    [​IMG]
     
  15. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    มวลสารที่ใช้อุดละงั่งคือ รกแมวและว่านมหาเสน่ห์(ระดับรุนแรงค่ะ)
     
  16. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    โอ้โห... ทิ้งเลยพี่โก๋...
     
  17. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    ขอเสริมนะครับ แผ่นทองเหลืองที่นำมาหลอม มีทั้งยันต์ทางเมตตา ค้าขาย คงกะพัน โชคลาภ เนื่องจากหลวงพี่ ท่านได้เมตตาจารยันต์ให้หลายแบบ เพื่อคนที่จะเอาไปใช้
     
  18. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    <TABLE class=tborder id=post2802779 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 10:41 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1636 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โก๋เอี่ยม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2802779", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Nov 2009
    ข้อความ: 1,092
    Groans: 0
    Groaned at 1 Time in 1 Post
    ได้ให้อนุโมทนา: 9
    ได้รับอนุโมทนา 353 ครั้ง ใน 235 โพส
    พลังการให้คะแนน: 129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2802779 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ น้ำดี1 [​IMG]
    รู้ ป่าวมีมาถามน้ำตั้ง 5 รายแล้ว ถามว่าวัดไหน น้ำเลยตอบไป 3 ราย อีก 2 รายกั๊กคำตอบไว้ก่อน แถมมีถามอีกว่าแล้วกระทู้พี่เอกกับคุณฟ้าสร้างเชื่อได้หรือป่าว เข็ดแล้วกับการโดนหลอกให้ตอบอะไรดีหว่า

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พี่ ถึงไม่เคยตอบไปไงว่าใครวัดไหน พูดไปก็เปลื่องน้ำลาย เดี่ยวจะพลานมาหาว่าเราใส่ร้ายอีก ถ้าพี่เอกกับฟ้าสร้างเชื่อถือไม่ได้ ไม่ต้องเข้ามาดูแล้ว เว็บนี้<!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    กระทู้ไหนไม่รู้แต่กระทู้ฟ้าสร้างเชื่อไม่ได้ค่ะ (จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อ... อิ อิ )
     
  19. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    โอเคจ้า ของที่พี่จองไว้ทั้งหมด ขอผ่อนสัก 2 ปีนะ
     
  20. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    กระทู้นี้พี่ๆจะไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่เข้ามาเยี่ยมพูดคุยกันทุกวันก็พอ... ทุกๆอย่างสามารถพิสูจน์ได้ และฟ้าก็แนะให้พี่ๆพิสูจน์กันเอง ด้วยตัวพี่ๆเอง ตลอดอยู่แล้ว ;aa26
     

แชร์หน้านี้

Loading...