11111111111111* 11111111111111* แบ่งให้บูชาพระเครื่องหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พรแม่ศรี, 13 พฤษภาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. lektantan

    lektantan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,624
    ค่าพลัง:
    +22,640

    อืม ๆ ๆ
    (ข_จ_._)
     
  2. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    [​IMG] [​IMG]

    งามมากๆค่ะ...เขาทาแลกเกอร์องค์พระกันด้วยหรือคะ..แหะๆ พัณณ์ไม่เคยทราบเลย กันสึกกร่อนหรือเจ้าคะ

    เป็นพัณณ์คงไม่กล้าทา..ชอบแบบเนื้อเดิมๆมากกว่า แฮ่ๆๆ ^-^
     
  3. อ่อนหัดธรรม

    อ่อนหัดธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    488
    ค่าพลัง:
    +968
    ชัดมากเลยครับ[​IMG]
     
  4. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +16,580
    อย่างพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่นแรก และรุ่นสอง เขาทาแลกเกอร์ และแชล็ค กันครับ เนื่องจากพระวัดปากน้ำสมัยก่อนแก่ผงมาก พอโดนน้ำละลายหมด จึงต้องหาวิธีป้องกันครับ ทำให้พระอยู่ได้นาน ปัจจุบันก็ห้าสิบกว่าปีแล้วครับ
    ( ตัวอย่างครับ ยืมภาพมาจากเว็บอื่นครับ )
    [​IMG]
     
  5. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    [​IMG]

    มุมมองเกี่ยวกับความรักนี้มีประเด็นที่น่าพิจารณาอยู่มากมาย
    แต่เฉพาะนิยามแห่งรักได้ปรากฏว่ามีนักปราชญ์กล่าวไว้ดังนี้

    เดส์คาร์ตส์กล่าวว่า


    "ความรักคือความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาจากมิตรภาพระหว่างเพศ"

    กิลเบอร์ดก็พูดไว้ว่า

    "ความรักคือสวนดอกไม้ที่ต้องรดด้วยน้ำตาแทนน้ำ"
    เชคสเปียร์พูดว่า

    "ความรักมักจะทำให้ชายหนุ่มหญิงสาวกระวนกระวายแสวงหาความจริงแท้ว่า ความรักคืออะไร แต่ครั้นรู้ความจริงแล้วก็พลันสำนึกได้ว่าเป็นธรรมดาโลกเรานี้เอง"

    เพลโต้บอกว่า

    "ความรักเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งที่ร้ายแรง"

    เฟิร์ล เอสบัคเน้นย้ำว่า

    "ความรักไม่อาจจะบังคับโลมเล้าหรือยั่วยวนให้เกิดได้ มันเป็นสิ่งที่สวรรค์บันดาลให้โดยมิได้ขอร้องและมิได้แสวงหาแม้แต่น้อย"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010
  6. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    มีบทความดีๆเกี่ยวกับความรัก มาฝากพี่น้องทุกท่าน เป็นของขวัญวันแห่งความรักนี้นะคะ
    ขอให้ทุกคนมีความรักที่สวยงาม มีแต่ความเข้าใจซึ่งกันและกันนะคะ



    ความรักที่แต่ละคนในโลกนี้เข้าใจนั้นก็จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง บางคนอาจจะเข้าใจว่าความรักคือการให้ก็มี ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพราะตั้งแต่เขาผู้นั้นเริ่มมีความรัก เขาก็ได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งกำลังกายกำลังใจให้แก่คนที่เขารัก หรือบางคนอาจจะนิยามว่าความรักคือการเห็นแก่ตัวดีๆ นี่เอง ซึ่งก็อาจจะถูกเหมือนกัน เพราะตั้งแต่เริ่มมีความรัก การคิด การทำ หรือพูดอะไรก็ตาม คนที่มีความรักก็จะมองไปถึงความรู้สึกของตนและของคนที่ตนรักก่อนอย่างอื่น ซึ่งโดยปกติทั่วไป ก่อนมีความรัก เขาผู้นั้นอาจจะไม่ได้คิดอย่างนี้เลยก็ได้ หรือแม้การบอกว่าความรักคือการมอบความเข้าใจระหว่างกันและกัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งนิยามที่เป็นการมองความรักในแง่การสร้างสรรค์ให้ความรัก เป็นตัวสื่อให้เกิดความผูกพันระหว่างคนที่รักกัน หรือแม้การมองว่าความรักคือการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ก็เป็นการมองความรักว่าเป็นตัวแปรให้เกิดการเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกันก็ได้

    เฉพาะมุมมองเรื่องการเกิดความรักนี้ สามารถจำแนกได้เป็น ๒ ประการ คือ

    ๑. เกิดจากรูปกายภายนอก ประเด็นการเกิดความรักจากรูปกายภายนอกนี้สามารถอธิบายได้ง่าย เพราะความรักประเภทนี้ไม่ต้องอาศัยปัจจัยปรุงแต่งอะไรมากมาย เพียงแค่แต่ละฝ่ายหรือต่างฝ่ายต่างพอใจในรูปร่างของอีกฝ่ายหนึ่ง ความรู้สึกกระตุ้นต่อมรักก็จะงอกเงยได้ในทันทีทันใด ความรักประเภทนี้ไม่ต้องการคุณค่าหรือหลักความดีของแต่ละบุคคลมาวัดแต่อย่าง ใด

    ๒. เกิดจากความประทับใจภายใน ประเด็นความรักประเภทนี้ก็คือการเกิดความประทับใจในคุณงามความดีของอีกฝ่าย โดยความดีที่อีกฝ่ายจะประทับใจนั้น สามารถดูได้จากพฤติกรรมที่เรียบร้อยทางกาย วาจา และใจที่อีกฝ่ายแสดงออกมานั่นเอง

    ความรักที่ เกิดขึ้นจากการเกื้อหนุนกันในปัจจุบันชาตินี้ ถ้ามองจากหลักพุทธปรัชญาแล้วก็สามารถพิจารณาการเกิดได้เป็น ๒ แนวทางเหมือนกัน กล่าวคือ

    ๑. มองว่าเกิดจากจินตนาการภายในจิตใจหรือกิเลสภายในใจของเราเอง พูดให้สั้นเข้าก็คือคุณหรือผมเองถ้ารู้สึกว่ามีความยินดีเป็นพิเศษกับใครสัก คนนั้น เราต้องยอมรับเป็นเบื้องต้นก่อนว่าการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันและกันนั้น สามารถทำให้เราสร้างจินตนาการไปต่างๆ ได้ โดยการจินตนาการนั้นจะแรงหรือเบาก็ขึ้นอยู่กับว่าเราประทับใจเขาหรือเธอมาก น้อยเพียงใด ถ้าสนใจหรือจินตนาการถึงเขาหรือเธอในแง่ดีมากๆ ความรักก็จะรุนแรงเอาการอยู่เหมือนกัน

    ๒. มองว่าเกิดจากการได้ร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วยกันในปัจจุบันชาติ ประเด็นนี้ผู้เขียนขอยกน้ำหนักไปที่กรณีร่วมทุกข์ (ในพุทธปรัชญาถือว่าสุขคือนิยามหนึ่งของทุกข์) เป็นความรักที่ยั่งยืนที่สุด เพราะในความเป็นจริงของชีวิตแล้ว เราต้องยอมรับว่าความสุขเป็นอะไรที่ทุกคนต้องการ ส่วนความทุกข์เป็นอะไรบางอย่างที่ทุกคนไม่ต้องการประสบพบเจอ หรือต้องการหลีกหนีเสียให้ไกลถ้าเป็นไปได้ ฉะนั้น ความรักที่ผลิบานอยู่บนการมองเห็นหรือร่วมความทุกข์ระหว่างกันและกัน ผู้เขียนเชื่อว่าจะเป็นความรักที่มั่นคงมากกว่า อนึ่ง เพราะความรักที่เกิดจากการร่วมทุกข์ในปัจจุบันชาตินี้ เป็นอะไรที่มั่นคงกว่าความรักที่เกิดจากความสุขนี้ เราสามารถวัดดูได้จากกรณีความรักที่มีมุมมองดีเกินไป (มองโลกในแง่เดียว) กล่าวคือจริงๆ แล้ว คนเรานั้นมีทั้งดีและชั่ว การที่ใครคนใดคนหนึ่งจะมีความชั่วหรือดีอย่างเดียวนั้นนับว่าเป็นอะไรที่ แปลกเอาการอยู่เหมือนกัน โดยพื้นฐานแล้วความดีและชั่วนี้เป็นอะไรที่ไม่ห่างกันสักเท่าไหร่ เพียงแค่ท่านทำดี ท่านก็จะไม่ชั่ว หรือเพียงแค่ท่านทำชั่ว ท่านก็จะไม่ใช่คนดี (ถ้าท่านไม่กลัว ท่านก็จะไม่กล้า เพราะท่านกลัว ท่านจึงมีความกล้า) ประเด็นนี้ได้มีนักปราชญ์ชื่อเอปิคเคตุสกล่าวเป็นสุนทรพจน์อย่างน่าจับใจไว้ ว่า

    “ถ้าท่านอยากจะเป็นคนดีหละก็ อย่างแรกสุด ท่านต้องเชื่อก่อนว่าท่านยังเลวอยู่”
    (It you would be good, first believe that you are bad.)

    เหมือน ในกรณีการแก้ไขปัญหาสังคมทั่วๆ ไป ถ้าตราบใดเราไม่ยอมรับ เราก็จะไม่ลงมือทำ เช่น ถ้าประเทศไทยเราต้องการแก้ปัญหาโสเภณีหละก็อย่างแรกสุด ประเทศไทยเราต้องยอมรับก่อนว่าโสเภณีคือปัญหาที่เราต้องแก้ไข เพราะถ้าเราไม่ยอมรับว่าโสเภณีเป็นปัญหาเราก็จะไม่แก้ไขอยู่ดี เรื่องความรักนี้ก็เช่นกัน ถ้าอีกฝ่ายมองดูเฉพาะด้านเด่น (บวก) ของอีกฝ่ายเท่านั้น โดยไม่ยอมเรียนรู้ที่จะยอมรับด้านด้อย (ลบ) ของอีกฝ่าย เพียงการมองเท่านี้ ผู้เขียนเชื่อว่าความรักที่เกิดจากการมองเพียงด้านบวกหรือดีด้านเดียวนั้น ยังไม่ใช่การยอมรับอีกฝ่ายหนึ่งอย่างแท้จริง เพราะถ้าในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงบทบาทด้านลบเป็นบทเด่น แล้วหละก็สงสัยว่าความรักคงขาดสะบั้นอย่างมิต้องสงสัยกันต่อไป

    ฉะนั้น ความรักที่เกิดจากการช่วยเหลือหรือประคับประคองกันในปัจจุบันชาตินี้ ถ้าให้ผู้เขียนฟันธงลงไปว่าเป็นอย่างไรกันแน่ สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนอยากจะกล่าวเสริมไว้ในที่นี้ก็คือความรักประเภทนี้หา ความแน่นอนยากมาก เพราะเป็นความรักที่อาศัยการหนุนนำระหว่างกันและกันในปัจจุบัน มันเป็นเหมือนกับการเติมเต็มทางอารมณ์ให้แก่กันและกัน โดยการเติมเต็มนี้ต้องมีศิลปะในการเติมคือไม่เติมอารมณ์รักให้มากเกินไป หรือไม่เติมอารมณ์รักน้อยเกินไป เติมอารมณ์รักให้พอดีๆ กล่าวคือเติมเสน่ห์ทางกาย วาจา และใจให้อยู่ตรงทางสายกลางเสมอ ไม่ใจร้อนเกินไป ไม่ใจเย็นเกินไป ส่วนถ้าถามว่าอย่างไรจึงจะถือว่าทำความรักให้พอดี คำถามนี้ผู้เขียนก็ขอให้เราท่านทั้งหลายที่มีความรักวัด หรือประเมินกันเองดีกว่าว่าจะเติมอารมณ์สักเท่าไหร่ (กี่ร้อยเล่มเกวียน) จึงจะพอดีกับคนที่เรารัก


    เรา ท่านทั้งหลายก็ทราบกันอยู่แล้วว่า เรื่องความรักนี้เป็นอารมณ์อะไรบางอย่างที่หาเหตุผลหรือหาบันทัดฐานในการ ตัดสินไม่ได้เลย กล่าวคือเมื่อมีใครบางคนที่คุณรู้จักเริ่มมีความรักกับใครบางคน เราซึ่งเป็นบุคคลที่สามหรือเป็นคนภายนอกรักจะนำความคิดหรือเหตุผลของเราไป เสนอแนะหรือตัดสินนั้นยากเต็มที เขาและเธอรักกันเพราะทั้งสองมีเหตุผลที่เข้ากันได้ ซึ่งนั่นก็คือเขาทั้งสองมีอุดมการณ์ที่ไปในทิศทางเดียวกัน พูดง่ายๆ ก็คือพูดภาษา (รัก) แบบเดียวกันนั่นเอง เป็นต้นว่าเขาชี้นกเป็นไม้ เธอก็ต้องบอกว่าเป็นไม้ ตรงกันข้าม ถ้าเขาชี้นกบอกว่าเป็นไม้ แต่เธอกลับบอกว่าเป็นนกอยู่ คงไม่ต้องให้ผู้เขียนพูดนะว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมา

    อนึ่ง ในทางพุทธปรัชญามีคำตอบให้สำหรับเรื่องความรักนี้เหมือนกันกับกรณีอื่นๆ เช่นกัน ถึงแม้ว่าพุทธปรัชญาในความเป็นจริงแล้วจะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเรื่องของ คำสอนของท่านผู้ประกอบด้วยเหตุผลที่สุดก็ตาม อันที่จริงเรื่องความรักนี้เป็นเรื่องที่ประกอบด้วยเหตุผลก็ใช่จะว่าเป็น เรื่องไร้เหตุผลก็ได้ ส่วนทางด้านพุทธปรัชญาเมื่อกล่าวถึงที่สุดแล้วก็ยังมีคำตอบให้กับทุกเรื่องเสมอ และเรื่องความรักนี้พุทธปรัชญาก็มีคำตอบให้ไว้ดังนี้

    ๑. ให้มองเห็นถึงความแตกต่างด้านวัตถุสิ่งของ กล่าวคือเราต้องยอมรับว่าเป็นกฎสากลเลยทีเดียวว่า คนเราเกิดมาแล้วการที่จะให้ทุกคนมีฐานะทางสังคม (เฉพาะด้านวัตถุ) เสมอเหมือนกันหมดนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากเต็มที ซึ่งถ้าเราเข้าใจในประเด็นนี้ สถานภาพทางสังคมก็จะมาปิดกั้นความรักมิได้เลย ความรักที่ทุกคนมองว่าเป็นความรักที่สากลก็จะกลายเป็นเรื่องที่สากลจริงๆ มิฉะนั้นแล้ว ความรักก็จะกลายเป็นแค่เครื่องหมายแห่งการแข่งขันทางวรรณะในสังคมได้อีกวิธี หนึ่ง

    ๒. ให้มองเห็นถึงความแตกต่างด้านคุณธรรม กล่าวคือตามหลักพุทธปรัชญามีคำสอนว่าคนเราจะสามารถผูกรักปักสวาทกับเพศตรง ข้ามได้ดี


    เพราะมีความเสมอภาคต่อกันและกันในคุณธรรม ๔ ประการต่อไปนี้

    ๑. มีความเชื่อที่เสมอกัน (สัทธา) ได้แก่ มีศรัทธาในความจริงสูงสุดเหมือนกัน นับถือในบางสิ่งบางอย่างเหมือนกัน มีวัฒนธรรมในการกิน เที่ยว พูด ดื่ม ละเล่น และนอนเหมือนๆ กัน

    ๒. มีความบริสุทธิ์เสมอกัน (สีละ) ได้แก่ มีความสะอาดเหมือนกัน กล่าวคือมีความสะอาดทางกาย อันประกอบด้วยการไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ และไม่ประพฤติผิดในลูกเมียสามีของคนอื่น มีความสะอาดทางวาจา อันประกอบไปด้วยการไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ และมีความสะอาดทางใจ ซึ่งประกอบไปด้วยความไม่ละโมบโลภมาก ไม่พยาบาทปองร้ายคนอื่น และการไม่เห็นผิดแผกไปจากทำนองคลองธรรม พูดให้ง่ายเข้าก็คือมีพฤติกรรมทางกาย วาจา และทางความคิดไม่แตกต่างกัน

    ๓. มีการบริจาคเสมอกัน (จาคะ) ได้แก่ มีการเสียสละในบางสิ่งบางอย่างเสมอเหมือนกัน ไม่ใช่คนหนึ่งตระหนี่ถี่เหนียว ส่วนอีกคนหนึ่งบริจาคแล้วบริจาคเล่า นี่ก็ถือว่ามีความขัดแย้งกันทางการบริจาคแน่นอน

    ๔. มีเหตุผลเสมอกัน (ปัญญา) ได้แก่ มีความรู้หรือมีการศึกษาไม่ห่างกัน อนึ่ง ถ้าพูดให้ทันยุคทันสมัยหน่อยก็คงต้องกล่าวว่ามีวุฒิบัตร เกียรติบัตร หรือปริญญาบัตรรับรองเหมือนกัน เช่น จบปริญญาโทเหมือนกัน เป็นต้น ไม่ใช่คนหนึ่งจบปริญญาเอก แต่อีกคนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ การพูดเช่นนี้ไม่ใช่ว่าผู้เขียนดูถูกดูแคลนผู้จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ แต่ผู้เขียนพยายามแสดงให้เห็นในที่นี้ว่าปัญญา หรือปริญญาก็มีส่วนต่อการตัดสินใจรักใครสักคนก็ได้ ฉะนั้น นับว่าเป็นเรื่องยากเต็มทีที่จะหาคนที่มีคุณธรรมครบทั้ง ๔ ประการเหมือนกัน ในที่นี้ผู้เขียนจึงของเสนอว่าแค่มีความเข้าใจถึงอีกคนว่ามีความแตกต่างกัน ในแง่คุณธรรมก็ถือว่าดีพอสมควรแล้ว



    ตาม ที่กล่าวมาทั้งหมด ก็คงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าความรักก็คือความรู้สึกอะไรบางอย่างที่เขาหรือ เธอมอบให้แก่กันและกัน โดยเหตุผลตามหลักพุทธปรัชญาแล้ว ความรักจะเกิดขึ้นแก่เขาและเธอได้ก็เพราะอาศัยเหตุปัจจัย ๒ ประการ คือ

    ๑. เพราะเคยร่วมสร้างกรรม (ดีหรือชั่ว) ในอดีตชาติ และ
    ๒. เพราะได้ประกอบกิจกรรมดีหรือไม่ดีในปัจจุบันชาติร่วมกัน

    แต่ ผู้เขียนเข้าใจว่ากิจกรรมดีเท่านั้นจึงจะสามารถคงความรักไว้ได้นานที่สุด (ปุพฺเพว สนฺนิวาเสน ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วา เอวนฺต ชายเต เปม อุปฺปลว ยโถทเกติ) ดังนั้น


    โดยภาพรวมแล้ว ความรักไม่ว่าจะเป็นรักแบบมีอดีตชาติหนุนนำหรือรักแบบมีปัจจุบันชาติส่ง เสริม ก็ถือได้ว่าเป็นที่น่ายินดีทั้งนั้น แต่ท้ายสุดแล้ว ความรักที่ประกอบด้วยเหตุผลหรือปัญญาเท่านั้น จึงจะเป็นรักที่สวยงาม เป็นรักที่อ่อนหวานนิ่มนวล ไม่แข็งกระด้าง เป็นรักที่ช่วยส่งเสริมคุณค่าให้กับจิตวิญญาณอย่างแท้จริง เป็นรักที่จริงจังจริงใจ เป็นรักที่มีอุดมการณ์ที่สมบูรณ์แบบ และเป็นรักที่เป็นอมตะที่สุด...
    <!-- m -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010
  7. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,768
    ค่าพลัง:
    +206,050

    รุ่น ๒ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่ผมชอบมากที่สุดครับ

    [​IMG]

    แต่มีรุ่น 1 รวมอยู่ในนี้ด้วยครับ แล้วรู้ไหมองค์ไหนเป็นรุ่น 1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010
  8. lektantan

    lektantan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,624
    ค่าพลัง:
    +22,640

    เรียนคุณอา Pattana
    ผมก็ชอบพิมพ์นี้เหมือนกันเลยงับ.........
    ชอบมากที่สุดดดดดด...คับ
    catt7
     
  9. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    โอ้โห..พี่พัฒฯ...สุดยอดเลย..เพียบๆๆ
     
  10. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    [​IMG]


    เดาว่า..แถวที่ 4 องค์ที่ 7 ค่ะ แหะๆ

    พัณณ์นึกว่าบล็อคด้านหน้านี่ เป็นบล็อคเดียวกับรุ่น 1 เลย

    จึงต้องไปดูด้านหลังด้วย ถ้าอย่างนี้มีจุดสังเกตุตรงไหนคะที่แตกต่างกันด้านหน้า
     
  11. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ถ้าตอบถูกพี่จะให้องค์นั้น เป็นรางวัลใช่ไหมครับพี่ ลัล..ลัล..ล้า(ping-love(ping-love
     
  12. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,768
    ค่าพลัง:
    +206,050
    ไม่ให้ครับ แต่กำลังหาเพิ่มอยู่อีกด้วย มีมั่งมั้ย จัดมาทางหน่อยสิ
     
  13. พงศ์กฤต

    พงศ์กฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    5,699
    ค่าพลัง:
    +33,737
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Pattana [​IMG]
    รุ่น ๒ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่ผมชอบมากที่สุดครับ

    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    แขนจุดบัวหลายจุดเพียบเลยพี่ ขอทำบุญหลังไมค์นะครับพี่ชาย สุดยอดเลยพี่เราหุหุ
     
  14. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,768
    ค่าพลัง:
    +206,050
    กำลังจะหาเพิ่มจากเจ้าของกระทู้อยู่เหมือนกันครับ
     
  15. ลูกคนที่ 62

    ลูกคนที่ 62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +21,538
    โห...พี่พัฒนาสุดหล่อ พี่พัฒนาใจดีปานเทวบุตรเทวดา คนละครึ่งกันเถอะครับ 555
     
  16. lektantan

    lektantan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,624
    ค่าพลัง:
    +22,640
    สงสัยงานนี้ต้องแจกบัตรคิว
    หรือจับสิทธิ์การจองแล้วมั้ง
    เหอะื ๆ ๆ
    catt7
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,768
    ค่าพลัง:
    +206,050
    อ่า....ไม่แบ่งให้ใครครับ แต่กำลังขอรับเพิ่ม เพราะยังขาดอยู่อีก 16 องค์ จึงจะเต็มกล่องพอดี

    [​IMG]
     
  18. Ton_Ton

    Ton_Ton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +4,750
    พี่พัฒครับ รุ่นเดียว พิมพ์เดียวกันหมดเลยหรือเปล่าครับพี่ รู้สึกเหมือนจะใช่

    งั้นผมขอซื้อกล่องใบเล็กๆ แล้วที่ส่วนพระที่ไม่มีที่เก็บ ผมจะช่วยเก็บเองครับ
     
  19. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    15,002
    ค่าพลัง:
    +10,040

    กลับมาแว้วครับ (ไปเที่ยวที่ฟาร์มเพื่อนของแฟนครับ)โอ่งใส่ซองไม่ได้เลยฝากไปกับรถขายโอ่งนะน๊อตนะ เห็นแล้วอย่าลืมโบกด้วย (เก็บเงินปล่อยทาง) อิอิอิ(deejai)
     
  20. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    15,002
    ค่าพลัง:
    +10,040
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>wanta_nop </TD></TR></TBODY></TABLE>

    วันนี้ไปเที่ยวไหนกันหมดน่า! เงียบจังเลยครับ
    ไม่เป็นไรครับเมื่อวานไปเที่ยวมาแล้ว วันนี้ขออยู่เป็น รปภ.ก็แล้วกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...