11111111111111* 11111111111111* แบ่งให้บูชาพระเครื่องหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พรแม่ศรี, 13 พฤษภาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ lektantan [​IMG]
    2,555 ครับเฮีย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ไม่สวย ไม่สวย ต้อง 2999 สวยกว่า ก้ากๆ ๆๆ ๆ ๆ ๆ
     
  2. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    แฮ่ ๆๆ ๆๆ ปิดรายการวันนี้นะครับ เลยพิเศษ
     
  3. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    หลังเที่ยงคืนนี่ถือเป็นวันใหม่หรือยังเจ้าคะ อิอิ
     
  4. lektantan

    lektantan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,624
    ค่าพลัง:
    +22,640
    พี่ทศฝากรูป Air Card ให้คุณน๊อตทีครับ

    ส่วนโปรก็ดูตาม Link นี้นะครับ

    +++ MBI +++

    [​IMG]

    ปล..หูฟังกับกล่องไม่อยู่นะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2010
  5. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    อืมส์....นั่นแน่ ถือศีลอดมานานใช่ไหมล่ะ รู้น่า
     
  6. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    ยินดีครับป๋ม:cool:
     
  7. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    แฮ่ๆๆ พี่ทศรู้ทัน....ก็พี่ทศๆๆๆอ่ะ เล่นลงพระหางหมากรุ่นพิเศษตอนกลางวัน พัณณ์จองไม่ทันเลย เพราะเล่นมือถือและจองไม่ทันคุณพงศ์อยู่ดี

    พี่ทศมาลงช่วงรอบดึกบ้างนะเจ้าคะ เผื่อมีปิ๊งๆๆๆถูกใจพัณณ์ จะได้รีบจอง ตอนจำศีลน่ะ อดกลั้นอดใจแทบแย่ ^-^
     
  8. Pjmmc22

    Pjmmc22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2009
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +1,645
    สวัสดีครับท่านพี่ทศสำบายดีนะครับ
     
  9. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    ฮิๆๆ ๆ ๆๆๆ รายการพระหางหมากพิเศษ พี่ล็อคไว้ให้น้องแล้วนะครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ พี่เก็บไว้ให้นะอย่างดี รับรองไม่นำมาจำหน่ายหรอกครับ ถ้าไม่ลืมเสียก่อนนะครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ ก้าก ๆ ๆๆ ๆ ๆๆ ๆๆๆๆๆ ล้อเล่นนะครับ สงสัยวันนี้พี่คงไม่ได้ลงแล้วนะครับ วันนี้ตาลายนะครับ
     
  10. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    นอนหลับฝันดีนะครับ ขอให้ธาตุทั้ง 4 จงสมดุลและหายเร็ว ๆ นะครับผม:cool:
     
  11. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    ว้าว...คุณปรีชา คิดถึง (ตังค์ของคุณ) จังเลย มา มา มา แหม...หายไปเลย ก้ากๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
     
  12. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    สาธุ ขอบพระคุณมากค่ะ นึกว่าพี่ทศลืมซะแล้ว..แต่ก็อาจจะลืมได้ในอนาคตอีก 555

    ขอโมทนา สาธุ กับกุศลกรรมที่พี่ได้บำเพ็ญมาตลอดเลยนะเจ้าคะ _/\_

    ฝันดีนะคะ พี่ทศ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ :)
     
  13. Pjmmc22

    Pjmmc22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2009
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +1,645
    5555555+++ คิดถึงครับคิดถึง แต่ไอ้เจ้าตัวดำใน()มันไม่เป็นใจเอาซะเลย
     
  14. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    ขออารธนาบารมีหลวงพ่อช่วยสงเคราะห์ให้คุณปรีชาและครอบครัวมีความคล่องตัวทุกประการนะครับ
     
  15. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111

    bye.
     
  16. GROLY

    GROLY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    2,019
    ค่าพลัง:
    +8,001
    หวัดดีครับพี่ทศ คริคริ พระคำข้าวรุ่นหนึ่งที่ส่งมาให้สวยครับมีเกศาด้วย ขอบคุณครับ จุ๊บจุ๊บ

    ปล ถ้ากระทู้ครบพันหน้าน่าจะมีฉลองแจกพระให้แฟนจะครับ :cool:
     
  17. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174

    โอ้โห...พี่พงศ์ สุดยอดเลยครับ รายการนี้กราบสมเด็จองค์ปฐมท่านครับ สาธุจ้า....
     
  18. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    ขออนุญาติแทรกธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ พี่ทศพล
    ขออนุโมทนากับทุกท่านในการอ่านธรรมะครับ
    (ขออภัยหากเป็นการรบกวน)
    ขอบพระคุณครับ...baimin


    [​IMG]


    อารมณ์เป็นสุขเพราะกำลังสมาธิ


    ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย สำหรับตอนนี้เป็นตอนที่ ๑๐ ก็อยากจะจบเรื่องพุทธานุสสติกรรมฐานในตอนที่ ๑๐ นี้ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะเกรงว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายจะเบื่อ แต่ก่อนที่จะจบพุทธานุสสติ คือความจริงเรื่องไม่จบแต่ขอหยุดพุทธานุสสตินี่พูดเท่าไรก็ไม่จบ เพราะความดีของพระพุทธเจ้ามหาศาลมากยากที่จะพรรนาให้จบได้ แต่ก่อนที่จะพูดถึงท้องเรื่องจริง ๆ ก็ขอเตือนบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายไว้ก่อน ว่าจงอย่าลืมคิดว่าชีวิตนี้มันมีความตายไปในที่สุด และก็จงอย่าคิดว่าความตายนี้จะมีมาถึงเราในเมื่อเราแก่หรือว่าแก่มาก โปรดอย่าคิดอย่างนั้น จงคิดว่าความตายอาจจะถึงเราในวันนี้ก็ได้ไว้เสมอ จะได้ไม่ประมาทในการทำความดี

    และประการที่ ๒ จงคิดว่า ก่อนจะตายขอยึดพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ยอมรับนับถือ ไม่สงสันในความดีของท่าน

    และข้อที่ ๓ ตั้งใจว่าเราจะรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ตั้งแต่บัดนี้ไปจนกว่าจะเข้าถึงความตายมาถึง เพราะว่าศีลห้าจะเป็นแดนกั้นอบายภูมิ คือไม่ให้เราตกนรกไม่เป็นเปรต ไม่เป็นอสุรกาย ไม่เป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าเป็นคนก็เป็นคนดี แต่รายละเอียดเรื่องนี้เอาไว้พูดกันตอนถึงศีลห้า ถ้าตั้งใจไว้แบบนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัท รายการนี้เป็นรายการหนีบาป ท่านจะหนีบาปอกุศลได้แน่นอน หนีนรกได้แน่นอน ถ้าหนีบาปได้ก็หนีนรกได้ คือคนจะตกนรกก็ต้องเป็นคนมีบาป

    ต่อนี้ไปก็ขอเข้าเรื่อง พุทธานุสสติกรรมฐาน
    สำหรับพุทธานุสสติกรรมฐาน วิธีการปฏิบัติบรรดาท่านพุทธบริษัท ก็พูดมาแล้วรู้สึกว่ามากพอสมควร ถ้าจะพูดไปอีกญาติโยมพุทธบริษัทจะเบื่อ เพราะว่าการตัดสังโยชน์ ๓ ประการ ขั้นต้น คือสังโยชน์ ๓ ประการมี ๓ ขั้น ขั้นหยาบ ขั้นกลาง ขั้นละเอียดแต่ว่าการตัดจริง ๆ ของสังโยชน์ ๓ ประการนี่ พระพุทธเจ้าตรัสว่ามีสมาธิไม่มากใช้สมาธิไม่สูง แค่ปฐมฌานก็ได้ ท่านบอกว่ามีสมาธิเล็กน้อย มีปัญญาเล็กน้อย แต่มีศีลบริสุทธิ์ ฉะนั้นกำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทก็ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดเรื่องสมาธิมากเกินไป ทำกำลังใจให้สบาย ๆ นี่เป็นสุขแล้ว ใช้ได้แล้ว

    ต่อนี้ไปก็จะขอคุยกับบรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว คือว่ามีคนมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี มาบอกว่ามีท่านเจ้าคุณองค์หนึ่ง ขอประทานอภัย อย่าออกชื่อท่านเลย ชื่อของพระราชาคณะนี่ไม่แน่นัก ชื่อน่ะชื่อเดียวกันแต่การแต่งตั้ง ถ้าองค์นั้นเลื่อนไปองค์ใหม่มาใช้ชื่อนั้น ถ้าไปใช้ชื่อตรงกันเข้าแต่คนละองค์มันจะบาป

    เขาบอกว่าได้ยินท่านเทศน์ ท่านจะเทศน์ทางสถานีวิทยุ หรือว่าเทศน์ตามศาลาก็ไม่ทราบ แต่ขอบอกก่อนว่าท่านเจ้าคุณองค์นี้ไม่ได้อยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี อันนี้ไม่ได้กลบเกลื่อน ท่านเจ้าคุณองค์นี้อยู่ที่จังหวัดอื่น อันนี้ไม่ได้กบลนะโยมนะเป็นความจริงเขาบอกว่าท่านมาเทศน์ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ท่านบอกว่าการเจริญสมาธิต้องระมัดระวังให้มาก ถ้าพลาดพลั้งไปแล้วจะกลายเป็นคนบ้า ทางที่ดีจงอย่าทำเลย หรือว่าทำก็ทำแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้อย่างหนึ่ง

    และอีกอย่างหนึ่งก็มีท่านครูบาอาจารย์ชั้นสูง พระเหมือนกับ อาตมาได้รับบัตรของท่าน ท่านส่งบัตรมาให้ นามบัตรชื่อของท่านเป็นครูสอนหลายแห่ง และสอนในมหาวิทยาลัยเสียด้วย เวลานั้นหลายปีมาแล้วไปเทศน์ด้วยกัน ในสำนักที่ไปเทศน์นั้นเป็นสำนักเจริญพระกรรมฐาน ท่านเป็นคนสรุปพระธรรมเทศนา ท่านบอกว่า ญาติโยมพุทธบริษัทเรื่องกรรมฐาน อย่าไปเจริญกันเลย ไม่จำเป็น เราช่วยกันสำรอกกิเลสให้หมดไปน่ะพอแล้ว

    พอฟังเท่านี้อาตมาก็ตกใจ การเจริญพระกรรมฐานเป็นปัจจัยให้คนเป็นบ้านี่ก็แปลกใจเหมือนกัน และการสำรอกกิเลสให้หมดไปแล้ว จึงเจริญพระกรรมฐานนี่ก็แปลกมาก เพราะการเจริญพระกรรมฐานนั่นแหละบรรดาท่านพุทธบริษัทเป็นการคลายหรือสำรอกกิเลสให้หมดไป ค่อย ๆ เคาะ กิเลสไม่ใช่น้ำในขวด หรือกิเลสไม่ใช่น้ำในกระบอก จับแล้วก็เทพรวดให้หมดไป กิเลสมันเกาะใจเกาะแน่นเกาะนาน เกาะลึกแกะมันยากแสนยาก จึงค่อย ๆ แกะค่อย ๆ ทำ
    อันดับแรกต้องมีศีลบริสุทธิ์
    ประการที่ ๒ ต้องมีจิตตั่งมั่น มั่นคงแน่นอน ค่อย ๆ ทำ
    ประการที่ ๓ มีปัญญาเฉลียวฉลาด สามารถค่อย ๆ ตัดกิเลสออกไปได้ทีละเล็กละน้อยในที่สุดมันก็จะหมดไปเอง
    แล้วมาการเจริญกรรมฐานทำให้เป็นคนบ้า และการมีศีลบริสุทธิ์ การมีจิตตั่งมั่นในสมาธิ สามารถระงับนิวรณ์ได้ และการที่มี
    ปัญญาสามารถตัดกิเลสให้เป็นสมุจเฉทปหานได้ ถ้า ๓ ประการนี้เป็นปัจจัยให้เป็นคนบ้า ก็ขอประทานอภัย อาตมาไม่ก้าวร้าวพระผู้สูงมาก นั่นคือพระพุทธเจ้า ถ้าเขาหาว่า การทำอย่างนี้บ้า เขาก็ต้องหาว่าพระพุทธเจ้าบ้าไปด้วย อาตมาขอพูดตามที่เขาคิดนะ อาตมาไม่คิดว่าพระพุทธเจ้าบ้าแน่ เพราะอาตมาอยู่ได้เพราะอาศัยพระพุทธเจ้า ก็พระพุทธเจ้าท่านเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีสมาธิตั้งมั่นมีปัญญาเฉลียวฉลาดมาก สามารถตัดกิเลสให้สิ้นไป ถ้าคิดว่าคนเจริญพระกรรมฐานต้องบ้าทุกคน ก็ต้องถือว่า บ้าตามพระพุทธเจ้า และอาตมาไม่ได้คิดว่าพระพุทธเจ้าบ้าท่านผู้เทศน์คงจะคิดว่าพระพุทธเจ้าบ้า กระมัง หรือใครบ้ากันแน่
    ถ้าคนที่เจริญสมาธิบ้าจริง ๆ เวลานี้ก็บ้ากันนับล้านแล้ว เวลานี้คนนิยมเจริญสมาธิกันมาก ขอประทานอภัยเถอะ คนที่ห่มผ้าเหมือนศากยบุตรพุทธชิโนรส ไม่น่าจะคิดอย่างนั้นและก็ไม่น่าจะพูดอย่างนั้น ถ้าเป็นความจริง อาตมาก็สงสัยเหมือนกันว่าพระท่านเทศน์จริงหรือว่าญาติโยมชายหญิงที่มาบอกฟังผิดไปก็อาจจะเป็นได้

    ตอนนี้ก็มาคุยกันถึงว่าสมาธิที่เราทำ ถ้าพลาดเป็นบ้าได้ไหม ก็ต้องตอบว่าได้ ต้องพลาดนะ ไม่ใช่ทำดี การทำสมาธิดีเขารักษาโรคให้หายบ้า คนที่มีสติฟั่นเฟือนบ้างพอสมควร พอทำสมาธิเข้าพักเดียวอารมณ์จะกลายเป็นความเยือกเย็น เอาแค่คนที่มีความเร่าร้อนของจิต โมโหโทโสร้ายนี่แหละ ไม่ต้องมากนัก เจริญสมาธิจริง ๆ ไม่ช้าประมาณเดือนเศษ ๆ จะเห็นผลทันทีว่ากำลังใจของเราเยือกเย็นไปมาก ความโกรธยังมีอยู่แต่มันน้อยลงไป และก็ช้าลงไป ถ้าเจริญสมาธินาน ๆ เข้า ความโกรธอาจจะไม่หมดไปแต่เหลือน้อยมีกำลังเบา อย่างนี้กำลังใจของเรามีอารมณ์เป็นสุข เพราะกำลังสมาธิ

    ความสำคัญในการเจริญกรรมฐานมีตอนหนึ่งบรรดาท่านพุทธบริษัทต้องระมัดระวังเหมือนกัน แต่อาการแบบนี้จะมีขึ้นเมื่อกำลังใจของเราดีแล้ว เมื่อคราวมั่นคงในศีลปรากฏชัดมั่นคงแน่แล้ว การมั่นคงในสมาธิก็ดี การมีปัญญารู้เท่าทันกิเลสก็มากขึ้นมีความยึดมั่นในพระพุทธเจ้าในพระธรรมในพระอริยสงฆ์จริง อย่างนี้ถือว่าคนนั้นมีอารมณ์ใจดิ่ง จะเข้าเขตเป็นพระอริยเจ้าเบื้องต้น พระอริยเจ้าเบื้องต้นคือพระโสดาบันกับพระสกิทาคามี ถ้ามีความมั่นคงในการเคารพพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระอริยสงฆ์ด้วยความจริงใจ และก็สามารถทรงศีลบริสุทธิ์จริง มีปีติ่ความอิ่มใจในการเจริญสมาธิและวิปัสสนาญาณใจรักพระนิพพานเป็นที่สุด อย่างนี้ถือว่าจะถึงหรืออาจจะถึงแล้วก็ได้ซึ่งพระโสดาบัน อาตมาไม่ขอยืนยัน เพราะว่าอารมณ์แน่นบางทีก็เป็นกำลังฌานกำลังฌานโลกีย์มีอารมณ์แน่นมากหรือมีอารมณ์หนักหนักแล้วก็แน่นที่เรียวกว่าหนักแน่น ๆ การเคลื่อนไหวจะมีได้น้อย แต่กำลังใจเพราะอาศัยกำลังฌานโลกีย์โดยเฉพาะมีอารมณ์หนัก ๆ อย่างนี้มั่นใจว่า ชีวิตนี้ต้องตายแน่ แต่ว่าไม่ฆ่าตัวตาย มีความหนักแน่นในการเคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ หนักแน่นในการทรงศีล มีปิติเป็นปกติความรู้สึกประเภทนี้เป็นความรู้สึกของผู้ทรงฌานโลกีย์ ยังไว้ใจอะไรไม่ได้ ถ้าพลาดหน่อยเดียว สมาธิไหลจ๊วก หล่นไปหมด ศีลก็จะไหลไปง่าย ปัญญาก็ไหลง่าย

    ทีนี้ถ้าหากอารมณ์ที่ทรงจริง ๆ แต่เป็นอารมณ์เบา ๆ อารมณ์ใจเยือกเย็นสบาย ๆ ความหนักน้อยแต่ทรงตัว ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเชื่องช้า ในด้านความชั่วเกิดขึ้นเหมือนกัน ช้ามาก ความรักในระหว่างเพศจะเกิดก็เกิดแบบช้า ๆ เบา ๆ ไม่รุนแรง โมโหโทโสจะเกิดขึ้นบ้างก็เกิดเบา ๆ ไม่รุนแรง หายง่าย อารมณ์ฟุ้งซ่าน มีเหมือนกันแต่ก็ซ่านไม่นานหันเข้ามาจับด้านของความดี การสงสัยในคุณความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ สงสัยในผลของศีล สงสัยในทางไปนิพพานไม่มีอีกแล้วอย่างนี้ถือว่าเป็นอารมณ์ที่ข้ามจากโลกียวิสัย เข้าไปใกล้ความเป็นพระอริยเจ้า หรืออาจจะเป็นพระอริยเจ้าเบื้องต้น คือพระโสดาบัน หรือพระสกิทาคามีแล้วก็ได้ อาตมาก็มีความรู้เล็กน้อยไม่กล้าพยากรณ์ กำลังใจตอนนี้แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท ตอนหลังนี่ไม่สำคัญ สำคัญตอนต้น ตอนที่มีความหนักแน่น ในความรู้สึกว่าชีวิตนี้จะต้องตายหนักแน่นมาก ๆ ในการเคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ หนักแน่นในการทรงตัว หนักแน่นในการคิดว่าจะไปนิพพาน ตอนนี้เป็นฌานโลกีย์ ตอนนี้ถ้าเต็มอัตราแล้วก็จะก้าวเข้าสู่โลกุตตระ คือจะเป็นพระอริยเจ้า ตอนนี้ระวังบรรดาท่านพุทธบริษัท ปิติมีอาการเกิดมาก ความปลื้มใจเกิดมาก ความชุ่มชื่นเกิดมาก บางคนก็เจริญกรรมฐานไม่หยุดไม่หย่อน กลางคืนไม่ละ กลางวันไม่เว้น ทำหามรุ่งหามค่ำไม่มีการพักผ่อนแน่นอนไม่ช้าโรคประสาทก็เข้ามารบกวน ในที่สุดโรคประสาทก็เกิดและก็ต้องไปโรงพยาบาลรักษาคนบ้า อย่างนี้ไม่ใช่ถือว่าสมาธิทำให้บ้า การปฏิบัติเครียดเกินไปทำให้บ้า พระพุทธเจ้าทรงแนะนำแล้ว ขอให้ทุกคนจงจำ ว่าการจะปฏิบัติให้ได้ผลในฌานโลกีย์ก็ดี โลกุตตระก็ดี จะต้องละส่วนสุด ๒ อย่าง คือ
    ประการที่ ๑ อัตตกิลมถานุโยค การปฏิบัติเครียดเกินไป ไม่พักไม่ผ่อน ไม่หลับ ไม่นอน ตึงเกินไป อย่างนี้จะเป็นโรคประสาท ไม่มีผลในการปฏิบัติในด้านความดี คือจะไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า
    ประการที่ ๒ กามสุขัลลิกานุโยค ย่อหย่อนเกินไป หรืออยากได้เกินไป อย่างนี้ก็ไม่มีโอกาสได้เป็น เพราะจิตฟุ้งซ่าน ต้องใช้ มัชฌิมาปฏิปทา คืออารมณ์กลาง ๆ

    ในเมื่อเข้าถึงจุดอารมณ์เครียด ตอนนี้ก็ต้องถูกพิสูจน์ แต่การถูกพิสูจน์นี่มีน้อยคนไม่ใช่ทุกคน ท่านที่จะถูกพิสูจน์อย่างหนักแน่นจริง ๆ หนักมาก ก็ต้องเป็นพวกที่มากจากพระโพธิสัตว์ ก็หมายความว่า อดีตเคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน อยากจะเป็นพระพุทธเจ้า การที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ก็ถือว่าเป็นจอมทัพ ท่านที่จะเป็นจอมทัพปราบฆ่าศึก คือกิเลส ต้องมีความเข้มแข็งมาก ท่านพวกนี้จะถูกพิสูจน์ด้วยเทวดาชั้นจาตุมหาราช เทวดาชั้นจาตุมหาราช เป็นเทวดาผู้ทรงฌาน ในสมัยที่เป็นมนุษย์ท่านได้ฌาน ๑, ๒ หรือ ๓ ใน ๓ ณานนี้ ณานใดณานหนึ่งก็ได้ ทรงณาน อย่างแล้ว ถ้าเวลาจะตายเข้าณานตาย การเข้าณานไม่ได้หมายความว่าต้องนั่ง อาจจะนอน หรือยืน หรือยืน หรือเดิน นอนตะแคงซ้าย ตะแคงขวา ทำอะไรอยู่ก็ได้ พอตายปุ๊บปั๊บ แต่ว่าก่อนที่จะตายจิตเข้าน้อมนึกพระไตรสรณคมน์ มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น หรือว่านึกถึงกรรมฐานกองใดกองหนึ่งที่เขาทำ อารมณ์ทรงตัว อารมณ์ทรงตัวนี่ไม่ใช่นั่งนิ่ง ต้องนั่งหลับตาปี๋ ไม่ใช่อย่างนั่น อาการทรงของสมาธิพูดกันอย่างนี้ก็ทรงตัวได้ ฌานก็ตั้งอยู่ได้ ฌาน ๑ กับ ฌาน ๒ ยังคุยกันสบาย ไม่จำเป็นต้องไปนั่งหลับตาปี๋ ถ้าจิตเข้าถึงฌาณ ๔ พูดมีแต่เหตุและผลพูดไร้เหตุไร้ผลไม่มี เพราะจิตสะอาดมาก จิตที่ทรงฌานอยู่พูดได้ คุยกันก็ได้ อยากจะรู้อะไร ในขณะที่คุยกับเพื่อน ปากก็คุยอยู่กับเพื่อน แต่จิตส่วนหนึ่งสามารถไปรู้เรื่องต่าง ๆ ที่ต้องการได้ อย่างนั่งคุยกันอยู่ ๒ คน เพื่อนก็คุยว่าบ้านของฉันดีอย่างนั้น มีไอ้นั่น มีไอ้นี่ หรือประวัติความเป็นมาของฉันเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ถ้าเราอยากจะรู้จริง ๆ ก็เอาจิตตามเสียปากก็พูดกับเขาตามกิจที่จะต้องพูด ใจเราก็อยากจะรู้ความจริงไปค้นคว้าหาอดีตจากความจริงที่เขาเล่ามา เราจะพบว่าจริงหรือไม่จริง จะพบได้ทันทีว่าท่านผู้นี้จริงหรือโกหก อย่างนี้มันหลอกกันไม่ได้

    ทีนี้สำหรับการถูกล้อ ถูกทดลองจากเทวดาชั้นจาตุมหาราชนี่ ระหว่างที่พูด วันนี้ เป็นวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๒๘ เมื่อ ๒-๓ วันที่ผ่านมา พระที่วัดท่าซุงชื่อ พระสามารถ เป็นช่าง เคยทำงานกรมศิลปากรมาก่อน และก็มาบวชอยู่ สละบ้านสละเรือนมีลูกมีเต้าแล้ว มีภรรยา ภรรยารูปร่างหน้าตาก็ดี ลูกทั้งสองคนหรือ ๓ คนก็ไม่ทราบเห็น ๒ คน ทั้งหมดทั้งบ้านทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งลูก ทรงทิพจักขุณาณได้ดีมาก สามารถพูดกับผี เทวดาคุยกันได้สบาย ๆ ฌานโลกีย์บรรดาท่านพุทธบริษัท อาจจะพลาดได้นะต้องระมัดระวัง ท่านเกิดมีความเต็มกำลังใจว่างานทางนี้ขอละ ภรรยาสามารถเลี้ยงลูกได้ ก็มาบวช กำลังใจท่านเข้มแข็ง ก็ถูกพิสูจน์ตลอดมา พิสูจน์ด้วยกำลังของเทวดาเทวดาเขาจะพิสูจน์เราต่อเมื่อเราไม่กลัว

    พอพูดอย่างนี้แล้วขอบรรดาญาติโยมพพุทธบริษัที่ยังมีความกลัวอยู่ ถ้ายังมีความกลัวอยู่เขาไม่มาหรอก เขาเสียเวลาเขา ต้องคนที่มีความรู้สึกว่าไม่กลัวจริง ๆ และท่านพวกนี้ต้องมาจากสายพุทธภูมิ สายสาวกภูมิเขาไม่ลองมาก ถ้าขืนลองมากเดี๋ยวเป็นบ้าไปเลย ดีไม่ดีเดี๋ยวก็เลิก เพราะมีกำลังใจอ่อน ถ้าเดิมมาจากพุทธภูมิพวกนี้มีความเข้มแข็งมากเขาก็ต้องลองหนัก เมื่อลองหนัก ลองแล้วไม่มีอะไร อาจจะมีการหวั่นไหวบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ มีอย่างเดียวใครจะชนะใคร ไอ้การทดลองของเขาไม่มีการซ้ำแบบ ถ้าเราคิดว่าเขาจะมาไม้นี้เขาไม่มาหรอก เขาก็มาไม้โน้น เราคิดว่าจะมาท่านั้นเขาไม่มาเขาจะมาอีกท่าหนึ่งเป็นอย่างนี้ ถ้าบังเอิญเรากลัว เขาก็เลิก ถ้ารู้สึกว่ากลัวมีความหวาดหวั่นมากขึ้น เขาก็เลิก ไม่รบกวนต่อไป ถ้าบังเอิญเราไม่รู่จักกลัวไม่กลัวเสียจริง ๆ เขาก็เลิกเหมือนกัน ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะเขาไม่กล้าเล่นกับคนที่เรียวว่าเลยบาทเลยสลึง คนที่ไม่กลัวไม่ใช่ไม่เต็มบาทนะ ญาติโยมพุทธบริษัท คนที่เต็มบาทก็ยังหวาดหวั่นอยู่ ถ้าไม่กลัวจริง ๆ นี่เลยบาท อาจจะถึงหกสลึงก็ได้ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่ากำลังใจของคน ทุกคนอาจจะสู้กันไปสู้กันมา สู้ให้พ้นจากความตายเหมือนกับสู้กับข้าศึก ไม่มีใครสู้กับข้าศึก สู้เพื่อให้ตัวตายอย่างนี้ไม่มี มีแต่เพียงคิดว่าการสู้กันคราวนี้เราจะต้องฆ่าข้าศึกหรือศัตรูให้ได้ ศัตรูจะต้องตาย เราจะต้องไม่ตายเขาคิดกันอย่างนี้ อันนี้เรียกว่าคนเต็มบาท ถ้าคนเลยบาทคิดสู้เอาชีวิตเป็นเดิมพันว่า ร่างกายนี่จะตายก็ช่างมัน แต่ความดีส่วนหนึ่งต้องเอาให้ได้ ถ้าความดีส่วนนี้เอาไม่ได้เพียงใดเราจะไม่ยอมเลิกเด็ดขาด มันจะตายก็ตาย ยอมพลี เรียกว่า "รักธรรมะยิ่งกว่ารักชีวิต" อย่างนี้เขาเรียกว่า "คนเกินบาท" แต่ความจริงจะคิดว่าหกสลึงก็ไม่ถูก อาจจะถึง ๘ สลึง หรือ ๒ บาทเลยก็ได้ เพราะอะไร เพราะมีกำลังใจเข้มข้นมาก

    ฉะนั้นก็ขอเตือนบรรดาท่านพุทธบริษัทว่าการพิสูจน์ของเทวดา เขาจะพิสูจน์ต่อเมื่อเราไม่มีความกลัว และมีความเข้มข้นและโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พิสูจน์หนัก จะเป็นเฉพาะพวกพุทธภูมิเท่านั้น หรือว่าเวลานี้ปฏิบัติ คือปรารถนาสาวกภูมิ แต่ว่าเดิมมาจากพุทธภูมิด้วยกำลังเข้มข้น อย่างนี้เขาจึงจะพิสูจน์ ถ้าเราไม่กลัวก็ต้องพิสูจน์กันหนักจนกว่าจะรู้สึกว่ากลัว แต่ในที่สุดเราไม่กลัวจริง ๆ เทวดาก็กลัว เทวดาก็เลิก หรือว่าถ้าพิสูจน์แล้วเราเกิดมีความกลัวขึ้นมีความหวาดหวั่นเขาก็เลิกเหมือนกัน

    รวมความว่า ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกท่านทราบตามความเป็นจริงว่าขอบรรดาพุทธบริษัทชายหญิงอย่าหวาดหวั่นในการพิสูจน์การทดลอง คือว่าการพิสูจน์ของเขาเพื่อให้ทราบกำลังใจของเรา ทุกอย่างน่ะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทต้องมีการพิสูจน์ความจริงจึงจะรู้

    อย่างที่เราตัดราคะ คือความรัก เราไปนั่งตัดในป่ามันก็ได้จะเป็นไรไป มันไม่มีอะไร ในป่าไม่มีราคะให้เราคิด ไม่มีราคะให้เราเห็น สมมุติว่าท่านเป็นชาย ท่านจะไปนั่งวาดภาพว่า ผู้หญิงแบบนั้นผู้หญิงแบบนี้สวยแบบนั้นแบบนี้ ที่ว่าต้องการ มันก็ไม่มีอะไรเกิดประโยชน์ มันนั่งแต่คิดทั้งนั้น ได้แต่คิด แต่การสัมผัสจริง ๆ ไม่มี ถ้าเป็นผู้หญิงนั่งอยู่คนเดียวในป่า คิดถึงผู้ชายแบบนั้น ท่าทางแบบนี้ มีความดีแบบนั้นมันก็ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์ เราจะชนะหรือเราจะแพ้มีนก็ไม่แน่นัก มีความดีแบบนั้นมันก็ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์ เราจะชนะหรือเราจะแพ้มันก็ไม่แน่นัก เราคิดว่าถ้าคนแบบนั้นมาเราจะตัดด้วยอารมณ์แบบนี้ การจะตัดราคะก็ต้องอาศัย อสุภกรรมฐาน ๑๐ อย่าง กับกายคตานุสสติ ๑ อย่าง ตัดโทสะด้วยพรหมวิหาร ๔ หรือกสิณ ๔ มีกสิณ สีเหลือง สีเขียว สีขาว สีแดง ตัดโมหะกับวิตกจริงด้วย อานาปานุสสติ สนับสนุนกำลังใจในด้านศรัทธา ด้วย ด้วยอนุสสติ ๖ ประการ คือ พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ เทวตานุสสติ สนับสนุนความฉลาดด้วย อาหาเรปฏิกูลสัญญา จตุธาตุววัฏฐาน ๔ มรณานุสสติ กับ อุปสมานุสสติ ที่พูดมาไม่แปล เพราะอะไร เพราะว่าเวลามันจะหมด ถ้าเราไปนั่งฝึกจะตัดแบบนั้นแบบนี้ ใช้กรรมฐานแบบนั้นแบบนี้ โดยไม่มีการพิสูจน์ มันก็นึกได้ นึกไปนึกมาเดี๋ยวก็แพ้โครม ดีไม่ดีแพ้โดยไม่รู้สึกตัว มันต้องพิสูจน์กัน

    ฉะนั้นถ้าจะตัดราคจริต ความรักในระหว่างเพศ หน้ามันจะต้องชนกับหน้าเพื่อนระหว่างเพศ คือเพศตรงกันข้าม คนที่เราเห็นว่าสวยว่างามที่เราชอบมาปรากฏ ในเมื่อคุยกันไปคุยกันมาอารมณ์ราคะไม่เกิด อย่างนี้ใช้ได้ เราคิดว่าเราจะตัดโทสะ จะต้องไปสัมผัสกับวาจาที่เราไม่ชอบใจ เมื่อสัมผัสกับอารมณ์นั้นได้จริง ๆ แล้วจิตใจสบายอย่างนี้ใช้ได้ เราชนะ
    ทีนี้การเจริญพระกรรมฐานของบรรดาท่านพุทธบริษัทก็เหมือนกัน บางท่านก็คิดว่าเราเป็นผู้ชนะแล้ว เราต้องการนิพพานแล้ว เราเป็นผู้เลิศแล้ว เวลานี้เราตายเมื่อไรไปนิพพานเมื่อนั่น เขาก็ต้องลอง ก็ต้องสอบ ก็ต้องพิสูจน์ แต่การลอง การพิสูจน์จะบอกล่วงหน้ากันไม่ได้ อย่างข้อสอบจะออกให้นักเรียนสอบ หรือท่านผู้สอบเลื่อนชั้นก็ตาม ถ้าจะสอบก็บอกว่า ข้อสอบฉันจะออกแบบนั้นแบบนี้นะ จะเขียนมาว่าอย่างนั้นอย่างนี้จากตำราเล่นไหนบ้าง และก็วิธีตอบต้องตอบแบบนั้น แบบนี้จะจะสอบได้ อย่างนี้ใครก็สอบไม่ตก แล้วก็สอบได้หมด ทีนี้การสอบจิตใจของนักเจริญกรรมฐานเทวดาก็เหมือนกัน เทวดาจะต้องไม่มาตามแนวที่เราคิด เราคิดว่าอาการอาจจะเกิดอย่างนี้เขาจะไม่มาแบบนั้น ต้องหลบกันไปเพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริง
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง บทพิสูจน์ของเทวดาไม่เฉพาะพุทธานุสสติอย่างเดียว จะเจริญกรรมฐานอย่างใดอย่างหนึ่งก็เหมือนกัน ถ้าอารมณ์เข้าถึงขั้นใกล้จะเป็นพระอริยเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิงท่านนั้นเคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อนจึงจะมี ถ้าไม่ปรารถนาพุทธภูมิมาอย่าไปนั่งนึกเรียกก็ไม่มีมา เทวดาไม่พิสูจน์ เพราะเด็กเดินป้อแป้ ชกเขาผิด ฟ อาจจะหลบหลงไปตายก็ได้ ก็ต้องพิสูจน์กับคนที่มีความเข้มแข็งจริง ๆ

    เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง เรื่องนี้เล่าสูกันฟัง เป็นการตัดท้ายพุทธานุสสติกรรมฐาน เพื่อเป็นการป้องกันไว้ วิธีป้องกันก็คือว่า เราไม่กลัว ก่อนภาวนาหรือพิจารณาคิดว่า "มันจะตายเวลานี้ก็เชิญ ถ้าตายเวลานี้อย่างเลวเราไปสวรรค์ อย่างกลางไปพรหมโลก อย่างสูงสุดเราไปนิพพาน อะไรจะเกิดขึ้นอย่างไรก็ตมเราไม่ยอมหวั่นไหว ไม่ยอมแพ้" เท่านี้ก็พอแล้ว

    จาก หนังสือ แนะวิธีหนีนรกแบบง่ายๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2010
  19. Pjmmc22

    Pjmmc22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2009
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ขอบพระคุณมักๆคร้าบท่านพี่
     
  20. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    ขอโมทนา สาธุ กับธรรทานของคุณ baimin ด้วยค่ะ


    "ท่านจะถูกพิสูจน์อย่างหนักแน่นจริง ๆ หนักมาก ก็ต้องเป็นพวกที่มาจากพระโพธิสัตว์...
    จะถูกพิสูจน์ด้วยเทวดาชั้นจาตุมหาราช เป็นเทวดาผู้ทรงฌาน..เทวดาเขาจะพิสูจน์เราต่อเมื่อเราไม่กลัว "



    "ร่างกายนี่จะตายก็ช่างมัน แต่ความดีส่วนหนึ่งต้องเอาให้ได้ ถ้าความดีส่วนนี้เอาไม่ได้เพียงใดเราจะไม่ยอมเลิกเด็ดขาด
    มันจะตายก็ตาย ยอมพลี เรียกว่า "รักธรรมะยิ่งกว่ารักชีวิต" อย่างนี้เขาเรียกว่า คนเกินบาท "



    "อย่าหวาดหวั่นในการพิสูจน์การทดลอง คือว่าการพิสูจน์ของเขาเพื่อให้ทราบกำลังใจของเรา
    ทุกอย่างน่ะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทต้องมีการพิสูจน์ความจริงจึงจะรู้...และจะบอกล่วงหน้ากันไม่ได้ "



    "...อะไรจะเกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม เราไม่ยอมหวั่นไหว ไม่ยอมแพ้ "
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...