แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พอเป็นแนวทาง แบบอย่างที่ผมทำนะครับ ที่จริงมีหลายวิธีแล้วแต่ใครถนัดอะไร

    การเพ่งจิต ทำเพื่อให้จิตรวมตัวเป็นหนึ่ง คือการบังคับใจของเราให้อยู่กับกายมีจิตเป็นของตน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่นึกคิดทําให้จิตล่องลอยออกนอกตัว เราสามารถใช้วิธีการเพ่งจิตเพื่อให้จิตเป็นของตนรวมตัวเป็นหนึ่งและมีอำนาจ

    การเพ่งจิตให้รวมตัว ต้องนั่งตั้งตัวให้ตรงตั้งสติไว้ที่ใจของเรา ตาเพ่งมองให้นิ่งที่จุดใดจุดหนึ่ง เอาความรู้สึกไว้ที่ทรวงอกกลางร่างกายใต้ลิ้นปี่ตามจังหวะการหายใจ จิตเราก็จะรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว
    <O:p</O:p
    ในตอนแรกขณะที่เริ่มเพ่งจิตถ้าหากจิตยังไม่รวมตัวเป็นหนึ่งเดียว จะมีอาการวูบวาบหรือเกิดการหายใจเป็นจังหวะติดขัด

    ให้หายใจเข้าให้เต็มปอด แล้วตั้งสติให้มากขึ้นอาการก็จะหายไป เพราะที่บริเวณทรวงอกของเรานั้นเป็นที่ตั้งของจิต เมื่อเราหายใจเข้าจนเต็มอกจะทําให้รู้สึกตัวอยู่บริเวณกลางทรวงอก เมื่อตั้งสติเพ่งอยู่ที่กลางทรวงอกจึงทําให้จิตรวมตัวเป็นหนึ่งอย่างรวดเร็ว

    เมื่อเพ่งจิตจนนิ่งอยู่ที่เดียวแล้ว ให้ปล่อยกระแสจิตนั้นไห้ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย เมื่อกระแสจิตไหลเวียนไปในกายจนเต็ม กายกับจิตก็จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็ย้ายความรู้สึกทั้งหมด นําไปตั้งไว้ที่พระเครื่องหรือถังน้ำมนต์อย่างต้องการ สมาธิจิตก็จะอยู่ตรงนั้น และอธิษฐานเอาตามใจ ฟังดูอาจยากแต่หากทำแล้วไม่มีอะไรมาก พระคุณเจ้าที่เก่งๆ แค่กระพริบตาครั้งเดียวก็เข้าภวังค์จิตได้แล้ว ต้องฝึกปฏิบัติสักหลายๆครั้ง แล้วจะชำนาญมากขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2010
  2. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    เอาแบบตรงๆไม่เกรงใจใครนะครับ
    -เหรียญแม่น้ำคู้ไม่ทันหลวงปู่ทิมเสกครับ แต่มีการปลุกเสกแน่นอนจาก ลป.แก้ว
    และพระอาจารย์อื่นๆ มีประสบการณ์ครับ นิยายเหรียญนี้ยังมีอีกมาก
    -เหรียญทำน้ำมนต์ ท่านน่าจะกำหนดอาโปกสินนะครับ เพื่อทำน้ำมนต์ แต่น่าจะ
    ใช้บูชาด้านอื่นๆได้แน่นอน
    -พระผงพรายคู่หลวงปู่ทิม ดีกว่าขุนแผนแสนน่ากลัวมากครับ ผงแยะมาก แรง
    พุทธคุณดีมาก ไม่มีปัญหาเรื่องปั้นเรื่อง ยกเว้นมีของปลอม
    -พระหลวงปู่ทิมดีทุกทางครับ หากเราอัญเชิญกระแสจิตท่านเป็น

    มีพรายคู่ของท่านแล้ว ไม่ต้องไปหาพระอื่นๆของท่านแล้วครับ ดีมากๆจนถึง
    มากที่สุดแล้วครับองค์นี้ หากเป็นของแท้
     
  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    เหรียญที่มีรอยจารเก่าบนเหรียญ อย่าไว้ใจมากครับ
    หากคนแกะลายมือเก่งๆสามารถเขียนได้ วิธีทำให้เก่าไม่ยากแล้ว
    เอาน้ำประปาธรรมดาลูบที่รอยจารแล้วตากแดด ทำสักสามแดด
    ครั้งสุดท้ายเอาผงกำมะถัน ละลายน้ำ ลูบแล้วตากแดดอีกหน
    จะได้รอยจารเก่าสมใจ ส่องจนกล้องแตกก็ยังเก่าเดิมๆ เซียนเขาทำกันเพื่อขายให้ได้ราคาเพิ่มอีกเท่าตัว

    รมดำก็รับทำกัน ที่หลังท่าพระจันทร์ เก่าแห้งและด้าน น้ำยาจากเยอรมัน
    ค่าทำองค์ละ 2000. up พระพุทธชินราชอินโดจีนแต่งแทบทั้งนั้นที่ได้รางวัล
    เหรียญที่รมดำเต็มๆ และสวยๆเขาทำแบบนี้ เซียนก็ดูไม่ออก เขาแบ่งทางกันมานานแล้ว
     
  4. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    เหรียญศัลย์กรรมจมูก รับได้ที่ร้านริมน้ำ ท่าพระจันทร์ อักษรย่อ ย.
    ตอนนี้มีสามร้านรับทำ ค่าทำแพงหน่อย แต่ขายได้มากขึ้นอีกหลายเท่า
    เหมือนนางงาม ข้างในเน่า แต่พอแต่ง เสริมจมูกเข้าไป ประกวดก็ชนะทุกที
    ก็เขาประกวดของสวยใช่ไหม เอาตามที่เห็นตรงหน้า

    พระผง เขามีคนรับเขี่ยหน้าตาให้มีจมูกปาก ใช้เข็มเล่มเดียว
    คนไทยเก่งมากครับ หมอมือหนึ่งใน รพ.ยังอายเลย
    คนพวกนี้เขาไม่ได้ทำของปลอม เขาตกแต่งให้มีราคา เป็นพรสวรรค์ของเขา
    รายได้เขาดีมากๆ เป็นแสนต่อเดือน แต่เขาเก็บตัว เพราะกลัวถูกเก็บครับ

    ท่าพระจันทร์ ตักศิลาแห่งพระเครื่องเมืองไทย
     
  5. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    การสร้างพระให้วัด เขาลงโฆษณาใหญ่โต และวัดอนุญาติ รับรู้จริงๆ
    จัดพิธียิ่งใหญ่ยิ่งดี คนใหญ่ๆโตมาให้มากๆ นักข่าวมากๆ แจกในงานด้วยเพื่อให้กระจายตัว

    เอามาเข้าพิธีปลุกเสกจริงๆ พระเก่งๆ ดังๆทั้งนั้น
    แต่ที่ปั๊มไว้ที่โรงงาน ยังมีอีกสิบเท่าของที่เราเห็นและรับรู้
    ลงทุนกันครั้งหนึ่งๆ เขาอยู่ได้เป็นสิบปี เขาแบ่งทางกันทำกินบนศรัทธาของคน
     
  6. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    หากฟังมาก เห็นมาก อ่านมาก แล้วบรรลุโสดาบัน ป่านนี้ผมเองก็คงเหาะไปสวรรค์ได้แล้ว<O:p</O:p
    หลายคนคิดว่าการพูดจ๊ะจ๋า ท่านอย่างนั้นอย่างนี้จะทำให้แสดงนิสัยของผู้บรรลุธรรม<O:p</O:p
    มันคงเป็นแค่จริตของแต่ละคนเท่านั้น วิสัยการอยากดี อยากได้ ยังมีในทุกตัวคนหากยังเป็นคนธรรมดาสามัญ เพียงแต่จะเสแสร้งแกล้งทำหรือไม่ ที่อยู่ข้างในใจซิสำคัญกว่า
    <O:p</O:p
    มีหลายคนยังนอนกับแฟนทุกคืน ยังกินสามมื้อ ยังแต่งตัวอยู่ ยังอยากมีอยากรวย อยากเก่ง<O:p</O:p
    แต่มาคุยและบอกได้เต็มปากว่า เขาหวังพุทธภูมิ มนุษย์นี้หนอ
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ผมคิดว่าคนที่ศรัทธาพระเครื่อง อย่างไรเสียก็มีพระในใจและยังละอายชั่ว กลัวบาป<O:p</O:p
    ส่วนใหญ่ชอบทำบุญทำทาน มีจิตคิดในกุศล ในเวปนี้ก็มีมากที่แบ่งเอาพระเครื่องมาให้บูชา และเอาเงินไปทำบุญสร้างกุศลต่างๆ ก็ขออนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลยิ่ง ขอให้ก้าวหน้าเจริญยิ่งๆขึ้นไป อาจได้บุญมากกว่าการนั่งฟังธรรมเป็นแรมเดือนก็ได้
    <O:p</O:p
    ไม่ทุกคนที่ชอบพระหรือให้บูชาพระแล้วจะต้องจิตละโมบ เอาเปรียบผู้อื่น บางคนเท่านั้นที่เป็น<O:p</O:p
    อย่าไห้คนไทยเราต้องคิดถึงพระ เฉพาะเมื่อจะใกล้ตายเท่านั้น
    ดีชั่ว แท้จริงอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ปากบอกว่าเราดี คนอื่นเลว คนดีต้องดีจนถึงกระดูก ไม่ได้ดีแค่ริมฝีปาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2010
  8. chumsakchee

    chumsakchee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    488
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ขอบคุณครับคุณหนุ่มเมืองแกลง ผมเลิกเก็บพระหลักๆมา2ถึง3ปีแล้ว4ถึง6เดือนที่ผ่านมาผมเช่าวัตถุมงคลประเภทค้าขายให้เพื่อนเท่านั้นตอนนี้แทบจะไม่เช่าแล้วมีบ้างเล็กน้อยนอกเหนือจากการร่วมทำบุญและศรัธาเป็นครูบาอาจารณ์ เมื่อก่อนผมเก็บพระกรุลพบุรีไว้พอสมควรครับ ขอบคุณครับสำหรับมนุษย์เงินเดือนแบบผมไปเรื่อยๆไม่เป็นขี้ค่ารับใช้ใคร
     
  9. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,352
    ค่าพลัง:
    +19,459
    ลินขออนุญาติ คุณ หนุ่ม และ เพื่อนๆในกระทู้ ก๊อป บทความดีๆ มาให้อ่านค่ะ เนื่องจากลินได้ไปตั้งกระทู้แจกฟรี ปฐวีธาตุ สันฐานขุ่น มา แล้วมีเพื่อนในพลังจิตได้นำบทความนี้มาลงให้อ่านเห็นมีความรู้ดีจึงนำมาให้อ่านกันค่ะ
    ว่าด้วยเรื่องปฐวีธาตุ(วิธีบูชาและคาถาบูชา)....ต่อกระทู้ให้คุณลินครับ<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ปฐวีธาตุ (ธาตุกายสิทธิ์) แห่งลุ่มแม่นำโขง
    กายสิทธิ์คือคำที่ใช้เรียก จิตของผู้ทรงอภิญญาที่ฝึกฝนจิตจนกระทั่งได้ฌาณสมาบัติเมื่อสิ้นอายุขัย แต่ยังต้องการบำเพ็ญเพียรทางจิตต่อไปในโลกมนุษย์ (หรือเพราะต้องทำหน้าที่บางประการ) จึงต้องละจากสังขารเดิมแล้วเข้าอาศัยในบางสิ่ง เช่น รัตนชาติ (กายสิทธิ์ จึงไม่ใช่เทวดา แต่เป็นผู้ทรงอภิญญา)

    ธาตุกายสิทธิ์เป็นธาตุที่มีพลังและอิทธิฤทธิ์ในตัวเองโดยธรรมชาติแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามธาตุทั้ง 4 คือธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลมและธาตุไฟ ธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ เหล็กไหลซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุดิน มีกายสิทธิ์เข้าไปถือครองส่วนใหญ่จะเป็นกายสิทธิ์ภาคดำ (มิจฉาทิฐิ) จึงมักจะดุร้ายมักจะให้โทษแก้ผู้ถือครองเป็นส่วนใหญ่ นอกจากเหล็กไหลแล้ว กายสิทธิ์อาจถือครองในหินหรือรัตนชาติ (หินที่มีค่า เช่น หินเขี้ยวหนุมาน เพชร เป็นต้น)
    ธาตุกายสิทธิ์จะปรากฏต่อเมื่อมีผู้ทรงคุณวิเศษปฏิบัติได้ถึงขั้นกายสิทธิ์ ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต แห่งวัดเทพศิรินทราวาส คือก้อนกรวดใต้น้ำที่ท่านเจ้าคุณนรฯ บอกให้คุณปลัดโกศล หลานชายท่านฯ นำมาจาก อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ห้ามเก็บจากที่อื่นเนื่องจากที่นั่นได้มีพญานาคราชได้ถวายกายสิทธิ์ให้แก่ท่าน และได้อธิษฐานจิตให้พร้อมทั่งได้อธิบายให้คุณปลัดโกศลฟังว่า "ก้อนกรวดนี้ขลังมาก สามารถที่จะคุ้มครองป้องกันนิวเคลียร์ และป้องกันไฟได้" เป็นของสิ่งแรกที่ท่านได้อธิษฐานจิตโดยการนั่งหันหน้าเข้าหาสิ่งของนั้น เมื่อท่านเจ้าคุณนรรัตน์ท่านจะละสังขารท่านได้เคยบอกกับลูกศิษย์ของท่านไว้ว่า"ช้างเผือกเกิดขึ้นทางฝั่งโขง สามารถเสกปฐวีธาตุได้เหมือนเฉกเช่นเดียวกับท่าน"
    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ แห่งวัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม คือหินที่อยู่ในน้ำที่ผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยเป็นพันปี จนใสแสงผ่านได้ เมื่อเอามือไปบังที่ก้อนปฐวีธาตุจะแลเห็นและต้องเป็นหินจากใต้แม่น้ำโขง ณ ตำแหน่งบริเวณที่ท่านได้กำหนดบอกให้ไปเก็บเท่านั้น เนื่องจากพญานาคราชได้ถวายให้ท่านดุจเดียวกัน หินที่ได้รับการถวายจากพญานาคราชนี้ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลมมีกายสิทธิ์ฝ่ายสัมมาทิฐิเข้าครองซึ่งส่วนใหญ่กายสิทธิ์เหล่านี้จะบรรลุธรรมขั้นสูงอีกทั้งได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระเจ้าที่ทรงคุณวิเศษจึงกล่าวได้ว่ามีอิทธิปาฎิหาริย์ และพุทธานุภาพ เหนือชั้นกว่าเหล็กไหลและให้คุณแก่ผู้ครอบครอง ล้วนแล้วแต่สร้างอภินิหารและประสบการณ์ให้กับผู้บูชานับจำนวนไม่ถ้วนทั้งเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน ปลอดภัย โชคลาภ และเมตตามหานิยม นำไปแช่น้ำทำน้ำมนต์แก้คุณไสยได้ ถ้าจะให้ได้ผลดีควรให้ได้สัมผัสไอตัวผู้ใช้ให้มากที่สุด
    สำหรับการบูชาปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์นั้น ท่านว่าถ้าท่านไม่ได้นำติดตัวไปไหนมาไหน หลวงปู่ท่านสั่งว่าให้นำปฐวีฐาตุแช่ลงในน้ำสะอาดซึ่งภาชนะนั้นต้องสะอาดด้วย จากนั้นก็ให้ตั้งบูชาไว้ในที่สูงหรือที่อันควร เพื่อที่จะได้น้ำนั้นเป็นน้ำมนต์ เพื่อจะนำน้ำนั้นมาดื่มกินหรือประพรหมบ้านเรือนก็เป็นมงคลยิ่ง และในวันพระหลวงปู่ท่านให้เอาน้ำอบ น้ำหอมและดอกมะลินำมาใส่บูชา และท่านให้น้อมรำลึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ แล้วตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า " หิตะหิรา มันทะโล กะสิลา กะละลาสะติโสจะถิโห คะนะตะเน " ท่านให้ว่า 3 จบ แล้วให้น้อมรำลึกถึงหลวงปู่คำพันธ์ หมู่เทพยาดาและพระยานาคที่รักษาปฐวีธาตุอยู่แล้วอธิษฐานเอาในสิ่งที่ปรารถนา ด้วยจิตที่มุ่งมั่นต่อพระรัตนตรัยและเดชานุภาพของปฐวีธาตุจักบันดาลให้เกิดความสำเร็จในไม่ช้า
    “ปฐวีธาตุ” หรือ “พระเพชร”แห่งลุ่มแม่นำโขง
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม
    ย้อนไปเมื่อสมัยท่านเจ้าคุณนรฯ ยังทรงสังขารอยู่ ท่านเคยปรารภว่า พระรูปเหมือนนั่งใบโพธิ์ของท่านประสบความสำเร็จ (คือมีคนนิยมมาก) ต่อไปจะมีผู้ร้างพระใบโพธิ์อีกมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จดังเช่นของท่าน หากจะมีพระทางภาคอีสานรูปหนึ่ง ประสบความสำเร็จในพระรูปเหมือนใบโพธิ์เช่นของท่าน แต่พระรูปนั้นจะต้องอธิษฐานจิตปฐวีธาตุได้ด้วย จึงได้เกิดการตามหาพระรูปนั้นหลังจากที่สิ้นท่านเจ้าคุณนรฯ ไปแล้ว
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม คือพระรูปนั้น ท่านได้ทำปฐวีธาตุแจกศิษย์มาแต่ปี พ.ศ. 2495 ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ เสียอีก ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ท่านได้รับตำราการอธิษฐานจิต“ ปฐวีธาตุ” มาตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่มโดยได้มีชายผู้หนึ่งได้นำมาถวายให้ท่านตามคำสั่งเสียของบิดาก่อนตาย โดยบิดาของชายผู้นั้นได้สั่งกำชับบุตรชายไว้ว่า เมื่อพ่อตายแล้วจงเอาคัมภีร์เล่มนี้ไปมอบให้กับหลวงพ่อคำพันธ์แต่เพียงรูปเดียวเท่านั้น ซึ่งตำราเล่มนั้นเขียนด้วย “ตัวธัมใหญ่” ทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นอักขระที่มีความศักดิ์สิทธ์สูงสุด ใช้จารเฉพาะตำราชั้นสูงเท่านั้น เป็นตำราที่ว่าด้วยการ “อธิษฐานปฐวีธาต” สามารถทำธาตุธรรมชาติธรรมดาให้มีอานุภาพ มีพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจึงศึกษาวิธีการจนแตกฉาน จดจำได้ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาขอตำรานั้นไป ท่านก็กรุณามอบให้ ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใคร

    หลวงปู่คำพันธ์ได้เมตตาอธิบายถึงคุณลักษณะของปฐวีธาตุที่ถูกต้องตามตำราทุกประการว่า ต้องเป็นกรวดที่แช่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น จะอยู่บนบกไม่ได้ ตัวกรวดเมื่อเก็บขึ้นมาต้องมีลักษณะเดิมตามธรรมชาติของเขา จะบิ่น จะแตกหักหรือร้าวไม่ได้เลย ที่สำคัญสุดยอด คือต้อง “โปร่งแสง” เท่านั้น และด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันเป็นของหายากที่สุด แม้ว่าทางวัดจะพำยายามแก้ไขด้วยการนำกรวดจากแม่น้ำโขงชนิดขุ่นมาถวายท่านอธิษฐานแทนก็ตาม แต่ก็หาถูกต้องตามตำราบังคับไม่ หากท่านก็อนุโลมให้เป็นปฐวีธาตุได้เช่นกัน ผิดกับครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆเช่น ท่านเจ้าคุณนรฯ “ปฐวีธาตุ” ของท่านจะต้องได้มาจากอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น จะใสหรือขุ่น ใหญ่หรือเล็กไม่สำคัญ นอกจากนี้ในตำรายังได้ระบุไว้ว่า ผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้นต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือ คาถาอาคมไม่ได้เลย

    มูลเหตุของการอธิษฐานจิตปฐวีธาตุ
    สืบเนื่องจากในช่วงก่อนปี 2500 บ้านเมืองยังเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้าย ทำให้เหล่าทหาร ตำรวจและข้าราชการต่างๆ มาขอของดีจากท่านเอาไว้คุ้มตัว ท่านจึงได้ให้เหล่าทหารและชาวบ้านไปเก็บหินในแม่น้ำโขงมาให้ท่านอธิษฐานจิต ท่านบอกว่า ท่านเสกด้วยพระคาถาชินบัญชรเช่นเดียวกับปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรฯ แล้วเสกหนุนธาตุต่างๆตั้งให้เป็นองค์พระและธาตุปฐวีคือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกปฐวีธาตุของท่านว่า “ พระเพชร “
    ลป.คำพันธ์ ท่านเก่งในการคุมธาตุสี่ น้ำ ดิน ลม ไฟ จนเป็นที่ยอมรับโดยทั่ว ลป.โต๊ะฯ ก็อีกรูปหนึ่ง เมื่อท่านนำ”ปฐวีธาตุ”มาเสกก็จะเรียกธาตุ 4 ทีละธาตุแล้วรวมธาตุเป็นหนึ่ง เสกบรรจุลงในก้อนปฐวีธาตุนั้น เมื่อนำมาใช้ธาตุสี่ในตัวเราก็จะผสานกับปฐวีธาตุนั้น สรรพคุณสุดแท้จะอธิษฐานเอา ในเวลาอธิษฐานปฐวีธาตุหลวงปู่ท่านจะอธิษฐานว่า ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต ท่านเรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป” การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ ”
    หลวงปู่คำพันธ์ท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของปฐวีธาตุของท่านว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุเย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชร สามารถป้องกันภัยอันเกิดจากรังสีความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้
    การบูชาปฐวีธาตุ
    หลวงปู่สั่งว่า เมื่อได้มาแล้วถ้าจะบูชาติดตัวก็พยายามเลี่ยมแบบเปิดหน้า เปิดหลังให้ปฐวีธาตุได้สัมผัสกับไอของร่างกาย ธาตุจะดึงดูดซึ่งกันและกันปรารถนาสิ่งใดก็ให้ตั้งจิตเอา ปฐวีธาตุช่วยได้ แต่ถ้าบูชาอยู่กับบ้าน ให้เอาปฐวีธาตุแช่น้ำสะอาดตั้งบูชาไว้บนที่สูง ใส่น้ำอบ น้ำหอมผสมลงในน้ำเป็นการบูชา ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมอื่นก็ได้ จุดธูปบูชา 7 ดอก สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วต่อด้วยพระคาถานี้
    “ หิตะหิรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนตะเน ” ( 3จบ )
    แล้วตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณมารดา บิดาคุณครูบาอาจารย์ พระคุณของหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ เหล่าพญานาคผู้รักษาองค์พระธาตุพนมและพระธาตุมหาชัย และทั้งที่สถิตอยู่ในลำน้ำโขงปรารถนาสิ่งใดก็อธิษฐานเอา หลวงปู่บอกว่า ปฐวีธาตุมีคุณวิเศษครอบจักรวาลมีทุกข์ร้อนสิ่งใดก็ให้บอกกล่าว สามารถช่วยเหลือได้จริง
    การลอยดอกไม้ในน้ำให้ทำเฉพาะวันพระ เมื่อหมดวันพระแล้วให้ช้อนดอกไม้ออกอย่าให้เน่าเสียคาภาชนะเด็ดขาด น้ำหล่อปฐวีธาตุถ้าจะเปลี่ยนให้นำไปประพรมบ้านเรือนหรือสาดขึ้นหลังคาบ้านเป็นสิริมงคลนัก กันภัยนานาชนิด
    หมายเหตุ การที่หลวงปู่ท่านให้แขวนแบบเปิด ไม่ได้หมายความว่ากลัวพุทธคุณจะออกมาไม่ได้ แต่เป็นวิธีการ "ใช้งาน" ในแบบเฉพาะของวัตถุมงคลประเภทนี้ ที่ทำแบบนั้นก็เพราะต้องการให้กระแสธาตุในร่างกายเราได้สัมผัสกระแสธาตุในองค์ปฐวีธาตุพลังงานในปฐวีธาตุน่ะออกมาหาเราได้ แต่พลังงานในกายเราเข้าไปหาเขาไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้อง "เลี่ยมเปิด" เพื่อสงเคราะห์ตัวเราเอง ไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือท่าน
    ปฐวีธาตุต่างกับพระเครื่องอย่างไร
    ปฐวีธาตุต่างจากพระเครื่องตรงที่กรวดจากแม่น้ำโขงซึ่งหลวงปู่นำมาอธิษฐานเหล่านั้น พวกนาคเขาถือว่าเป็นสมบัติอย่างหนึ่งของเขา กรวดเหล่านั้นจึงมีพลังงานของพวกเขาติดมาด้วย และเมื่อได้รับการอธิษฐานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนอย่างยากที่เราจะเข้าใจ ก็จะทำให้กรวดเหล่านั้นเกิดพลังงานมหาศาลชนิดที่เราก็ไม่เข้าใจอีกอยู่ดีว่าเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร
    พลังงานมหาศาลที่ว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์รับรองว่า กันนิวเคลียร์ได้
    เมื่อปฐวีธาตุซึ่งมีพลังงานแฝงอยู่แล้ว ได้รับการอธิษฐานจากจิตที่มีพลังงานมหาศาลเพราะได้รับการฝึกฝนมาดีเยี่ยม พุ่งกระแสลงไปสู่หินเป็นจุดเดียว กระแสจิตที่แรงกล้าเกิดกระทบกับพลังงานที่อยู่ในหินแล้วกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง เป็นคลื่นรังสีที่มีพลัง งานแรงสูง พอที่จะให้ความคุ้มครองผู้บูชาตามที่ผู้อธิษฐานได้ "ตั้งโปรแกรม” ไว้
    นอกเหนือไปจากหมู่นาคทั้งหลายที่จะขึ้นมาพิทักษ์รักษาผู้ครอบครองปฐวีธาตุเมื่อยามเกิดภัยพิบัติตามคำทำนาย ชนิดปฐวีธาตุ 1 องค์ ต่อพญานาค 1 ตน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวไม่อาจมีในพระเครื่องที่ถูก "สร้าง" ขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ ผิดกับ "ปฐวีธาตุ" ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากผลงานของธรรมชาติ จึงเก็บประจุพลังงานจากธาตุทั้งสี่และรังสีจากจักรวาลมาเนิ่นนานนับได้เป็นล้าน ๆ ปี
    ครูบาอาจารย์ผู้มีจิตอัศจรรย์เข้าถึงหลักธรรมชาติอย่างถ่องแท้จึงมักทำปฐวีธาตุให้ศิษย์ อาทิ ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมวาส
    ซึ่งก็ตรงตามที่หลวงปู่คำพันเคยบอกว่า "ผู้ที่จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้น ต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้ที่มาทางสายวิชาอาคมไม่ได้เลย"
    และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไม "ปฐวีธาตุ" จึงมีความแตกต่างจากพระเครื่องมากมายนัก
    ขอขอบคุณพระเครื่อง amulet เอื้อเฟื้อข้อมูล<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. natta_pea

    natta_pea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,515
    ขอบคุณสำหรับกระทู้ของพี่หนุ่มเมืองแกลง
    ทุกวันนี้ ผมก็ยังหลงใหลในการเสาะหาพระเครื่องที่เค้าว่าดี เราศรัทธา
    ตามที่กำลังทรัพย์ของเราพอจะเอื้ออำนวย ทั้งเก็บ+กู้ 555
    แบบคาดหวังว่ามี แล้วชีวิตมันจะดีขึ้น คุณพระช่วยครับ
    ที่บูชาหลักๆ ก็หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ที่พี่แนะนำในหน้าแรก
    และได้ลองนั่งปฏิบัติตามคำสอนท่าน แต่ยังสู้กิเลส ฯลฯ ไม่ได้
    เลยแต่ได้สวดมนต์บทจักรพรรดิ์ของท่าน+หมั่นทำบุญพอเป็นเชื้อ
    รอแก่ตัว (คิดว่ากิเลส ฯลฯ เบาบางลง) จะนั่งปฎิบัติได้ฯ
    ขอขอบคุณอีกครั้งครับ จะเฝ้าติดตามอ่านกระทู้ของพี่ต่อไป :love:
     
  11. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    เอารูปพระของพ่อมาให้ชมครับ พึ่งได้มาไม่นานต้องอ้อนวอนขอญาติมาครับ พอดีเขามี 2องค์ พ่อทำไว้นานแล้วแต่ผมไม่รู้ ทำประมาณ10-20 องค์แจกชาวบ้านตอนบวช และญาติ
    หวงกันมากๆๆ เคยมีคนใส่ไปแล้วโดนหมาหลั่งฟัด กัดไม่เข้า เหยีบตะปูไม่เข้าบ้าง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 16.jpg
      16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.4 KB
      เปิดดู:
      190
    • 18.jpg
      18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.7 KB
      เปิดดู:
      179
  12. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ของแบบนี้ดีเกินแค่คำว่าพระเครื่องครับ
    ขอให้เก็บบูชาไว้ไห้ดีนะ
     
  13. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    หากมีเวลา จะมาบอกให้ระวังกันไว้สำหรับ

    โครตเหรียญคอมพิวเตอร์ ที่ทำได้ 99% โดยเครื่องแกะที่ว่านี้มีไม่เกิน4 เครื่อง อยู่ในประเทศไทย ไม่ใช่ฮ่องกงอย่างที่พูดกัน

    การออกหนังสือสร้างตำหนิปลอม
    เช่นหนังสือเฉพาะกิจของหลวงพ่อ.....ในนครปฐม อยุธยา อ่างทองและจังหวัดอื่นๆ


    การชุบตัวของพระปลอม โดยงานประกวด และการเอามาลงชี้ตำหนิและลูกคู่ผสมโรงในเวปต่างๆ ตีฆ้องร้องเป่าขายกันเป็นทีม

    ขอบคุณครับ
     
  14. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    แบบนี้ก็แย่เลยครับ

    แบบนี้ก็แย่เลยครับ วงการนี้น่ากลัวกว่าที่คิด ไม่น่าทำกันเลยนะครับ
    บาบหนากันจริงๆ กรรมตามทั้นแล้วจะใช้เขาอย่างไรหมด ทำกันลง
    เพื่อแลกกับกระดาษเป็นใบๆ
     
  15. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    สอบถาม การอัญเชิญพลังพุทธคุณและกำลังจิตจากเจ้าของผู้สร้าง

    การอัญเชิญพลังพุทธคุณและกำลังจิตจากเจ้าของผู้สร้าง กับเครื่องรางของขลัง แบบในรูปต้องทำอย่างไรครับ (ของพ่อให้มา)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 08.JPG
      08.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.3 KB
      เปิดดู:
      128
  16. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,075
    ค่าพลัง:
    +22,243
    แต่คิดอยู่เสมอว่าพระอยู่ที่ใจ ถ้าเราคิดดีทำดี จะกลัวอะไร

    แต่ก่อนแฟนผมก็คิดอย่างนี้ ทำอะไรก็ติดๆขัดๆ ที่พอได้ก็ไม่ได้

    บางทีทำดีได้รับคำตำหนิ พูดหน่อยคนก็ไม่ชอบ

    เลยเลี่ยมพระให้แขวนองค์หนึ่ง สิ่งต่างๆก็ดีขึ้นจากเก่ามาก เห็นชัดเจน
     
  17. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    เครื่องรางพวกนี้ ส่วนใหญ่มีคาถากำกับเฉพาะครับ
    หากไม่ทราบก็ตั้งจิตถึงท่านผู้สร้างและบอกกล่าวเอาได้ครับ
     
  18. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พระถูกโฉลก<O:p</O:p
    หลายคนมีคำถามว่า จะหาพระอะไรมาแขวนบูชาดีให้ถูกโฉลกกับชีวิตตัวเอง<O:p</O:p
    เพราะหามากี่องค์ๆก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงสักที ยังจนเหมือนเดิม ยังลำบากเช่นเดิม<O:p</O:p
    ผมให้ข้อคิดเล็กน้อยเท่าที่เคย วิ่งไล่ล่าคว้าฝันแบบนี้เช่นกัน
    <O:p</O:p
    การที่จะประสบความสำเร็จและมีชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากพระเครื่องมาช่วยเราโดยตรง
    (ยกเว้นกรณีเดียวคือ ท่านเป็นพ่อค้าพระ) แต่เพียงเป็นกำลังใจ เป็นตัวหนุนนำหรือเกื้อหนุนให้ชะตาชีวิตดีขึ้น <O:p</O:p
    ข้อเขียนที่ให้หาพระดีต่างๆมาแขวนล้วนดีทั้งนั้น แต่หากลองดูในรายละเอียดจะพบว่า ทุกสำนักจะมีข้อสรุปไม่เหมือนกัน และคนเดียวกันสำนักเดียวกันก็มีข้อสรุปต่างๆกันไป<O:p</O:p
    หากนับตามวันเกิด นับตามเดือนเกิด และนับตามราศีเกิด สามอย่างนี้ก็จะได้พระถูกโฉลกที่ต่างกันไปสำหรับคนๆเดียวกัน แต่ต้องไม่ลืมว่า คนเราเกิดมามีกรรมเป็นตัวกำหนด
    <O:p</O:p
    ทำไมเราไม่หาพระที่ถูกจริตของเราเอง เพราะบางทีวันเดือนปีเกิดของเราอาจไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ถูกต้อง และเราไม่รู้ว่าพระดีๆที่เขาแนะนำนั้นจะดีสำหรับเราจริงหรือไม่<O:p</O:p
    ลองหาเอาแบบที่เราสัมผัสได้ด้วยตัวเองจะดีที่สุด ของสิ่งเดียวกันยังต่างประโยชน์ในแต่ละคน<O:p</O:p
    ค้นหาให้พบเอง จะดีมากกว่า เชื่อตามคำบอกของคนอื่น<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2010
  19. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    สามอิทธิฤทธิ์ ยุคหลังกึ่งพุทธกาล
    <O:p</O:p
    ตั้งแต่หลัง พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา เรามีพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบหลายองค์ด้วยกัน แต่ผมจะขอลองยกเอามาเพื่อให้พิจารณากันสำหรับพระอริยะเจ้า 3 องค์ที่เก่งกล้าและเป็นที่ยอมรับกันว่า ท่านเป็นของจริงแท้แน่นอน และพลังงานแฝงในพระเครื่องของท่านสูงส่ง ได้ช่วยเหลือศิษย์ยามทุกข์ยากมามากรายแล้ว

    แต่ไม่ได้หมายความว่าองค์อื่นๆไม่เก่งหรือไม่ดีแต่อย่างใด เพียงแต่ได้พบว่า พระเครื่องที่ยกตัวอย่างมานี้ ได้ให้ประสบการณ์ต่อผมเอง ต่อผู้รู้จักมักคุ้น และเกิดมากมายหลายครั้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2010
  20. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พลังความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องบางองค์มีลักษณะเช่นน้ำจากท่อน้ำ ที่ไหลต่อเนื่องเรื่อยๆไม่ขาดตอน แต่ไม่รุนแรงมาก เมื่อใดที่ต้นกำเนิดของน้ำหมดสิ้นก็จะหยุดไหล<O:p</O:p
    แต่พลังความศักดิ์สิทธิ์ที่แฝงไว้ในพระเครื่องของพระคุณเจ้าเหล่านี้คือ
    <O:p</O:p
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง<O:p</O:p
    ของหลวงปู่กวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท<O:p</O:p
    ของหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ศรีสะเกษ
    <O:p</O:p
    พระเครื่องของพระคุณท่านทั้งสามองค์นี้ มีลักษณะคล้ายกระแสน้ำจากน้ำตกในป่าใหญ่ ไหลแรง เร็ว มีพลังสูง มีความต่อเนื่องไม่ขาดสาย ไม่มีท่าทีว่าจะหมดพลังจากต้นกำเนิด จากการที่ได้รับคำแนะนำจากผู้คงแก่เรียนและแก่กล้ากสิณ พบว่า เป็นเพราะว่าท่านทั้งปลุกเสกและอธิษฐานจิตลงไปในพระเครื่องของท่าน ด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ ด้วยอำนาจจิตที่แข็งแกร่ง และเป็นอมตะ
    <O:p</O:p
    หากลองมาทบทวนดูจากคำพูดของพระคุณเจ้าท่านเอง ก็จะทราบว่าตัวของท่านเองก็บอกใบ้มาแต่ต้นในอำนาจจิตและของดีที่ท่านทำไว้ ว่าดีมากขนาดไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...