ขอโทษประเทศไทย โฆษณาที่โดนแบน

ดูกันครับมันสมควรแบนตรงไหนกัน

<embed src=http://vdo.palungjit.org/nuevo/player/nvplayer.swf?config=http://vdo.palungjit.org/nuevo/econfig.php?key=7f8bd7e48fa7d574869f width="500" height="400" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" pluginspage=http://www.macromedia.com/go/getflashplayer type="application/x-shockwave-flash" /></embed>

ขอขอบพระคุณผู้ปิดทองหลังพระ(ทีมงานพลังจิต)ที่ได้เข้ามาแก้ไขให้ดูได้
ขอบพระคุณจริงๆ ครับ

ประวัติย่อๆ นะครับ ไปลอกมาจาก http://www.hugmagazine.com

ในชีวิตของ ภาณุ อิงคะวัต เขาบอกว่ามีอยู่ 3 สิ่งเขาโปรดปราน และยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ได้
ทำงานกับทั้ง 3 สิ่งนี้ซึ่งเขาเองก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องโชคดีมาก 3 สิ่งที่ว่าคือ โฆษณา ช้อปปิ้ง
และนั่งร้านกาแฟสำรวจชีวิตผู้คน.

ในวงการโฆษณาเมื่อหลายปีก่อน เขาคนนี้คือผู้สร้างสรรค์งานโฆษณาที่คว้ารางวัลมาแล้ว
นับไม่ถ้วนกับ ลีโอเบอร์เนทท์ บริษัทเอเยนซีโฆษณายักษ์ใหญ่ระดับโลก ภาณุใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
เป็นเวลาถึง 25 ปี เป็นตั้งแต่ผู้ช่วยผู้กำกับศิลป์ และเติบโตจนกระทั่งเป็นอาร์ท ไดเรคเตอร์
และเมื่อถึงจุดอิ่มตัวเขาก็โบกมือลาไปทำธุรกิจแฟชั่นโดยมีแบรนด์เป็นของตัวเองนั่นคือ
เกรฮาวด์ ซึ่งเมื่อนับถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว ปัจจุบันภาณุเป็นผู้บริหารของเกรฮาวด์
ในตำแหน่งครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์

“เราเปิดร้านแรกที่สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นห้องเล็กๆ ประมาณ 50 ตารางเมตร ขายเสื้อผ้า
ผู้ชายอย่างเดียว แล้วก็คอลเลคชั่นแรกก็เป็นเสื้อผ้าแนวสตรีท แคช่วล ชิค คือเรียบง่าย เท่ๆ
แล้วก็ถือว่าเราโชคดีมากๆ เพราะว่าในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตลาดเสื้อผ้าในกรุงเทพฯ เต็มไปด้วย
ช่องว่าง ในห้างมีแบรนด์อยู่ไม่กี่แบรนด์ แล้วก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมมากๆ นอกจาก
เราก็ยังมีโซดาซึ่งเปิดมาไล่เลี่ยกันในตอนนั้น ถือว่าเป็นแบรนด์แรกๆ ที่เข้ามาในแนวเรดดี้ ทู แวร์
ซึ่งเป็นแนวทันสมัย เพราะฉะนั้นก็เลยถูกใจเด็กวัยรุ่นสมัยนั้น เราจึงประสบความสำเร็จมากภายใน
ปีเดียวเราก็คืนทุนหมด ถึงวันนี้ 29 ปีที่เราเปิดมาเราก็มีแบรนด์เสื้อผ้าของเราอยู่ 3 แบรนด์ ก็คือ
เกรฮาวด์ เพลย์ฮาวด์ และฮาวด์แอนด์เฟรนด์ส ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำกับดิสนีย์”

 

ดูไม่ได้เลยละคะ หมายถึงคลิปนะคะมันเปิดไม่ได้นะคะ

 

ดูไม่ได้เหมือนกัน สงสัยจะถูก แบน จริงๆ

 

ดูแล้วต้องขอโทษประเทศไทยจริงๆ

เพราะมีคนบางกลุ่มที่ตัดสินใจเหมารวมแทนคนไทยทั้งหมด
คิดว่าคนไทยว่าไม่ควรดู คิดเองไม่เป็น พวกเขาต้องคิดแทนให้

 

ดูแล้ว เป็นโฆษณาที่ดีนะ..........

สงสัยคงไม่ชอบเรื่องจริงมั้ง....

 

เปิดดูไม่ได้....

เลยเข้าไปที่เวปมติชน ถึงได้ดู

จริงๆเป็นโฆษณาที่ดีมาก ทั้งเนื้อหาและมุมกล้องการถ่ายภาพ
แต่เสียดายผู้คนในประเทศนี้ ใจคับแคบ น่ะ สิ

 

ภาพในโฆษณาไม่ได้รุนแรงอะไรเลยต่างจากภาพตอนที่มีการชุมนุมรุนแรงกว่าอีกมันน่าโดนแบนตรงไหนเหมือนที่ โน้ต อุดม พูดแระรัฐบาลนี้เรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังไม่เป็น

 

โดนแบนเพราะ

ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่า

เปนพระราชกระแส

ทั้งที่ความจริงไม่ใช่

 

พูดตามเนื้อผ้านะครับ

 

คนทำโฆษณาคงจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

ต่างคน ต่างจิตต่างใจ
มองคนละมุม แต่ผมว่าดีนะ ถ้ารู้จักคิดตาม.

 

เข้าไปดูใน youtube มาแล้ว ก็เสนอตามความเป็นจริงอ่ะนะ

ทีดาราตบตี ด่า กันกลางตลาดในละคร ยังรุนแรงกว่าเลย

 

เมื่อเช้าดูข่าวประมาณว่า ถ้าจะให้ออกอากาศ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา ถึง 80 เปอร์เซนต์ ทางผู้จัดทำเลยบอกว่า แบบนั้นคงไม่ต่างอะไรกับการทำใหม่ ซึ่งหากต้องทำใหม่ ก็จะยังคง ยึดประเด็นแบบเดิม ๆ ไว้


คนไม่ดีนี่ไม่ดีจริง ๆ ไม่ยอมรับความจริง

ขอโทษน่ะประเทศไทย ขอโทษจริง ๆ

 

ดีเหมือนกันนะคะ..... คงโดนใจใครหลายๆ คน
ชีวิตจริงก็คือละคร เปลี่ยนบทบาท ไปเรื่อยๆ...
ดูหนังดูละคร....ก็ย้อนดูตัวเรา...

 

ดูตั้งแต่ออกมาแรก ๆ แล้ว.....ความเป็นจริงที่คนส่วนใหญ่มักจะปฏิเสธ
แต่มันเกิดขึ้นแล้ว....เราควรยอมรับ และช่วยกันหันกลับมาพิจารณาตัวเองใหม่ว่า เราควรปฏิบัติต่อประเทศชาติอย่างไรให้เกิดความสงบสุขมากกว่าเดิม
อย่า...เห็นแก่ตัวให้มาก.....มันไม่ดี

 

ดูแล้วชอบมาก แบนทำไมคะ
คำพูดในโฆษณานี้ ลึกซึ้งและ กินใจมาก ทุกอย่างสะท้อนความจริงส่วนหนึ่งในสังคม จริงๆ
ดูแล้วต้องถามตัวเองว่า วันนี้เราทำดีเพื่อชาติหรือยัง

ท่าน สส ทั้งหลายคะ ดูแล้วคิดสิคะ เขาให้คิดค่ะ ไม่ใช่ให้กินปูนร้อนท้อง
ตั๊บแก ตั๊บแก

 

จริง...อย่าง....จัง.....

 

ความจริงทั้งน้านที่เสนอ ทำไมต้องโดนแบนด้วย

 

ความจริง แล้วทำไมต้องหนี และแบนด้วยละ ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่า มันเกิดอะไรขึ้นมามั่ง ที่ผ่านมา และจะได้แยกออกอะไร ดีไม่ดี ด้วย