พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เอาเลยครับพี่เพชร
ผมก็อยากเรียนรู้จากสถานที่อันเป็นจุดกำเนิดสิ่งสักการะสูงสุดอยู่ ณ ขณะนี้ ยิ่งมีไกด์กิติมศักดิ์ช่วยแนะนำด้วย ผมไม่พลาดนะครับ แม้จะไกลกันก็ตามที
ที่ผ่านมาไปบ่อยๆตามลำดับก็ วัดพระแก้ว วัดระฆัง วัดอินทร์ ครับ

 

ขออนุญาตเพิ่มเติมเรื่องไม้ครู (วัดอินทร์) ที่พอจะหาข้อมูลได้ใน internet นะครับ

หนึ่งในวัตถุมงคลของพระครูธรรมานุกูล (ภู จนฺทเกสโร) ที่เลื่องชื่อยิ่ง คือ "ไม้ครู" เป็นเครื่องรางของขลังที่พระครูธรรมานุกูล (ภู จนฺทเกสโร) ได้สร้างขึ้น หากแต่ได้สร้างไว้จำนวนน้อยมาก มีชื่อเรียกขานแผกต่างกันไปบ้างว่า ไม้เท้าหลวงปู่ บ้าง ไม้พ่อครู บ้าง ไม้ครู บ้าง นิ้วเพชรพระอิศวร บ้าง ไม้เท้าเวสสุวัณ บ้างกระบวนการสร้าง "ไม้ครู" ของพระครูธรรมานุกูล (ภู จนฺทเกสโร) นับว่าแปลกยิ่ง กระทั่งในปัจจุบันนี้ยังไม่อาจสืบค้นพบว่า มีพระเกจิอาจารย์ใดสร้างเครื่องรางของขลังเช่นนี้บ้างในหนังสือ "อินทรานุสรณ์" ซึ่งพิมพ์แจกเป็นที่ระลึกในงานทำบุญวันเกิดอายุครบ 7 รอบ พระอินทสมาจาร (เงิน อินฺทสโร) มีกล่าวถึงการสร้างไม้ครูนี้อย่างน่าสนใจ ซึ่งได้คัดและจัดเรียงย่อหน้าใหม่เพื่อง่ายต่อการอ่าน"ไม้ครู หรือ พ่อครู ของหลวงปู่ภูศักดิ์สิทธิ์นัก ครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านผู้ใดจะขอไม้ครูของท่าน ก็ต้องไปกราบไหว้ขอล่วงหน้าก่อนวันเสาร์หนึ่งวันเมื่อท่านรับปากว่าได้ วันเสาร์ตอนเช้าท่านผู้นั้นก็จัดเตรียมหัวหมูหนึ่ง บายศรีปากชาม มะพร้าวอ่อน กล้วยขนมต้มแดงต้มขาว ใส่ถาดไปทำพิธี แล้วเอาไม้ตะพดไปถวายท่าน เจาะรูหัวท้ายหรือหัวเดียวแล้วแต่ท่านจะให้แล้วท่านก็ลงมือทำ ท่านเอาไม้ทิ่มผี 7 ศพ จักเป็นเส้นตอกแล้วลงอักขระบรรจุที่หัวไม้ประมาณ 1 นิ้วเศษๆ เสร็จแล้วท่านก็เอายางมะตอยหรือรักปิดทับแล้ววางไว้ตอนนี้ท่านจะฉันอาหาร ลูกศิษย์ตัดลิ้นหมูหั่นใส่ชามแล้วทำน้ำปลา เอาพริกขี้หนูมากๆ ตำละเอียดใส่ลงในน้ำปลา เป็นหัวจิ้มถวายท่านฉัน บางวันเสาร์มีหัวหมูถึง 9 หัว เมื่อท่านฉันเสร็จแล้วท่านจึงจะทำพิธีปลุกเสกแล้วประสิทธิ์ให้การที่ท่านบรรจุให้ทั้งหัวและท้ายอย่างนี้ เรียกว่า นิ้วชี้พระอิศวร หรือชี้ต้นตายปลายเป็น ถ้าท่านบรรจุให้ข้างเดียวก็เรียกว่า ไม้พ่อครู เหมือนกัน
ก่อนที่ท่านจะทำ ท่านต้องรู้จิตใจของผู้รับก่อน ท่านจึงบรรจุให้ข้างเดียวบ้าง สองข้างบ้างอนึ่ง ไม้ไผ่ทิ่มศพ 7 ศพ ซึ่งจักเป็นตอกลงอักขระบรรจุในไม้ตะพดนั้น ท่านเล่าว่า เมื่อท่านออกธุดงค์เดินทางอยู่กลางป่า เห็นกอไม้ไผ่ล้มกอหนึ่ง และช้างโขลงมันเดินข้ามกอไผ่นั้นไป ท่านจึงตัดมา 3 ปล้อง เพื่อเอาไว้บรรจุทำไม้ครู"และเนื่องเพราะขั้นตอนในการทำ "ไม้ครู" นั้น มีตอนหนึ่งที่ต้องนำไม้ไผ่ไปจิ้มศพที่กล้าแข็ง กล่าวคือ ต้องเป็นศพที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ให้ได้ถึง 7 ศพ เหตุนี้เองที่พระครูธรรมานุกูล (ภู จนฺทเกสโร) มาจำพรรษายังวัดสระเกศเป็นวัดแรกที่วัดสระเกศจากประวัติของพระครูธรรมานุกูล (ภู จนฺทเกสโร) กล่าวว่า ท่านนำไม้ไผ่จิ้มศพตามตำราการสร้างได้เพียง 4 ศพ เท่านั้นต่อมาจึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดจักรวรรดิราชาวาส หรือวัดสามปลื้ม ที่วัดแห่งนี้พระครูธรรมานุกูล (ภู จนฺทเกสโร) นำไม้ไผ่ทั้ง 3 ปล้อง จิ้มศพได้เพิ่มอีก 3 ครบจำนวนตามตำราการสร้าง
เครื่องรางในตำนาน ระดับนี้ บรรจุผงพุทธคุณ (เขียนด้วยมือ) ของสมเด็จพุฒาจารย์(โต) อุดที่ท้ายของไม้ครู (คิดดูขนาดสมเด็จองค์นึงเป็นล้านๆ ยังมีผงสมเด็จน้อยกว่าเพราะผสม เปลือกหอย ตังอิ๊ว ข้าวก้นบาตรและกล้วยน้ำว้า แต่อันนี้อุดเต็มๆ แค่ผงก็มีมูลค่ามากๆแล้ว)
เพราะหลวงปู่ภู เป็นศิษย์ใกล้ชิดของสมเด็จได้ผงมาเป็นบาตรๆ
ดอกนี้เป็นแบบต้นชี้ตาย ปลายชี้เป็น พุทธคุณคุ้มครอง ทั้งด้านแคล้วคลาด และเมตตามหานิยม
ด้านในบรรจุของอาทิ พระธาตุ และผงวิเศษ ไม่ไผ่ลงอักขระ ก่อนถักเชือกหุ้ม
ที่มา : ข่าวสด (Link หาย)

สำหรับไม้ครูของวังหน้าที่ผมพึ่งได้อัญเชิญประกอบพิธีเป็นครั้งแรกในชีวิต (เมื่อเดือนก่อน)
เป็นดั่งแก้วสารพัดนึก มีอิทธิฤทธิ์ห้ามฟ้าฝนได้เลย (เป็นความเชื่อและประสบการณ์ส่วนบุคคล)

 

ไม่น่าเชื่อว่า 1 ปีนี้ เพิ่มขึ้น 1 คน สงสัยกว่าจะผ่านการกลั่นกรองหลายชั้นจนซีด

เอาเถอะครับ จะกี่คนก็ช่าง ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ เอาเป็นว่าแนวทางไปกันได้ก็เข้ามาร่วมกัน

ผมเคยแว๊บเข้าไป ๒ ครั้ง กล่องทำบุญในโบสถ์ผมเห็นว่ามีเรื่องของ"ชำระหนี้สงฆ์"เอาไว้ด้วย การชำระหนี้สงฆ์สำหรับผู้ที่มีพระวังหน้า ก็เป็นการสมควรอย่างยิ่ง และตรงประเด็นที่สุด สำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้าไปอาจจะเป็นปัญหาซักหน่อย ตรงที่ ยามหน้าประตูจะสอบถามมาก มากจนคุณๆเข้าไปไม่ได้ ช่วงที่ผมมีโอกาสได้เข้าไป เห็นทางกรมศิลป์มาซ่อมแซมจิตรกรรมฝาผนังบางส่วนที่ผิวสีมีการสึกกร่อนไปเนื่องจากกาลเวลา ในความเห็นของผม ผมคิดว่า ที่อ.จ.ปู่ท่านแนะนำเรื่องการวิเคราะห์พระพิมพ์ปัญจสิริในหนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯนั้น น่าจะเคยผ่านสายตาท่านมาอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่ง ไม่เช่นนั้นท่านจะไม่เอ่ยถึงการพิจารณาด้านหลังองค์พระให้มองปะหนึ่งภาพจิตรกรรมฝาผนัง และก็มีวัดจำนวนน้อยมากที่จะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัด เวลาไปชมก้ต้องเทียบกับสีเดิมก่อนซ่อม จดจำได้อย่างเดียวครับ เขาห้ามถ่ายภาพ

 

post นี้เป็นของคุณเชน ผู้นิยมไม้ครูหลวงปู่ภูเขียนเอาไว้

"...เป็นไม้ครูของหลวงปู่ภู สภาพสวยสมบูรณ์รักเก่าตรงส่วนหัวตระกรุดด้านหนึ่งมีผงที่อุดล้นออกมา สภาพนี้ถือ เก่าและ สมบูรณ์ครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
การสร้างไม้ครูนี้จากคำบอกเล่าจากศิษย์ท่าน ว่าก่อนที่ท่านจะมาจำพรรษาที่วัดสระเกศ ท่านได้เรียนวิชา การสร้างไม้ครู ไม้เท้า ท้าวเวสสุวัณ เป็นวิชาที่ทำได้ยากยิ่ง ต้องมีวาสนาบารมี เพราะจะต้องเป็นสมถะและออกธุดงค์ จนพบด้วยตาตนเองว่า ไม้กอสีสุกใดที่ถูกฟ้าผ่า และทอดยอดไปทางทิศตะวันออก ให้เฝ้าดู จนกว่าจะมีช้างมาข้ามทั้งโขลงถือ ว่าเป็นมหามงคลนิมิต ต้องไปขอพลีมา เมื่อได้มาก็เอามาสามปล้อง เพื่อเก็บไว้เสมือนไม้ยันกายของท้าวเวสสุวัณ<o></o>
ไม้สามปล้องนี้จะต้องมาจิ้มบนศพ ที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคารจนครบเจ็ดศพ ไม้เท้านี้บางคนว่า หลวงปู่ได้บรรจุเทพยดาไว้ในไม้ เพื่อฝ้าบ้านและป้องกันตัวไม้เท้าท่านสั่งไว้ว่าห้ามตีใครเป็นอันขาด ถ้าตีแล้วผู้ถูกตีจะพิการ เป็นบ้า วิกลจริต รักษาไม่หาย ถ้าไม่โดนแกล้งจนน้ำตาไหลเป็นสายเลือด อย่าใช้ท่านแช่งไว้<o></o>
มีลูกศิษย์ของท่านได้ใช้ไม้ครูติดเข้าไปในคุก นักโทษชกกัน พอถือไม้ครูเข้าไปก็หยุด พอออกมานักโทษก็ชกกันอีก จากนั้นหนึ่งในนักโทษได้ชักดิ้นชักงอ และ ล้มลงไปพร้อมทั้งพูดออกมาว่า " ไอ้หนวดโง้งเมื่อตะกี้มันใครชกกูไม่ชอบหน้ามัน มันเก่งกว่ากู มันถืออะไรไว้ในมือขวา แสงแปลบแสบตากู มันคงไม่รู้ว่ากูคือ เจ้าพ่อรักษาคุกนี้ บอกมันถ้าอยากให้คุกสงบให้วางไว้ข้างนอกก่อนเข้ามา มิเช่นนั้น พวกกูจะไม่อยู่แล้ว จะแหกคุกเพราะทนไม่ได้ หลังจากนั้นท่านพัสดีก็ไม่ถือไม้ครูเข้าไปในคุกอีกเลย <o></o>
หลวงปู่ท่านบอกว่า ไม้ครูของท่านติดตัวไปที่ใดย่อมเป็นที่ยำเกรงของปีศาจและเทวดาทั้งหลาย ปีศาจและเทพยดาไม่อาจทำร้ายได้ และเรื่องของท่านพัสดีผู้นี้ยังมีต่อ ท่านได้ถูกของคุณไสย และ ต่อมาหลวงปู่ได้เอาออกให้ และ บอกว่า" เอาล่ะ ที่นี้ให้มันยกมากันทั้งโขลง กูจะทำ พ่อครู ขนาดเล็กให้มึง มึงจะได้พกติดตัวไปไหนมาไหนสะดวก ของกูเรียกว่า นิ้วเพชรพระอินทร์ หรือ จรเข้ขบฟัน ปืนยิง สามที่กระบอกแตกนะมึง ต่อมาจึงเป็นที่มาของไม้ครู หรือตระกรุดไม้ครู หรือ ที่รู้จักกันในนาม “นิ้วเพชรพระอินทร์” ลายถักไม่เป็นข้อยุติ เพราะ มีลูกศิษย์ หรือ ผู้ได้รับมาเอาไปถักกันเองก็มี.."

"ไม้ครูวังหน้า"ต่างกันมากกับ"ตะกรุดไม้ครู"ของหลวงปู่ภูที่มีข้อนิดเดียว ก็ว่ากันตามความนิยมหลายแสนบาทเข้าไปแล้ว เล่าลือกันว่า ไม้ครูวังหน้าน่าจะมีจำนวนไม่เกินกว่า ๒๐๐ อัน

โห..น้องpsombat มีกับเขาด้วยหรือ หุ...หุ...ขอมั่งจิ

 

ทราบมาว่าเหลือน้อยมากๆ เพราะบรรจุกรุเยอะไปหน่อยนิพี่ หุหุ

ผมมีเพียงชิ้น(องค์)เดียวเองครับท่านพี่

พี่หนุ่มเล็งเห็นว่าทางภูมิภาคนี้ น่าจะมีไว้บ้าง ผมก็เลยรับภาระใหญ่ดังกล่าว เผื่อได้สงเคราะห์คนทางนี้ในภายหน้าครับผม หุหุ ...

 

อาถรรพ์ มนต์ดำ ยาสั่ง สิ่งอัปมงคล คุณไสย คุณผี คุณคน ยังมีเยอะ จึงได้เป็น "ปางอธิษฐานฤทธิ์" ครับ
โมทนาสาธุ

 

เพิ่มเติม

ไม้ครู
ครบเครื่อง...เรื่องสรรพมงคล ไม้ครูเป็นเครื่องรางสำหรับคนชนชั้นสูง ผู้มีอำนาจบารมี เป็นสัญลักษณ์แทนครู สิ่งสำคัญ มงคลวัตถุต่าง ๆ ที่ทรงมหิทธิคุณจะถูกนำมาบรรจุไว้ในไม้ครู มีอานุภาพชี้เป็นชี้ตายเลยทีเดียว ห้ามนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือชี้ ตีใครเป็นอันขาด เพราะจะทำให้จิตวิปลาสเสียสติได้
ในยุคปัจจุบัน หาพระเกจิอาจารย์องค์ใดสร้างเครื่องรางชนิดนี้ได้น้อย ผู้สร้าง ผู้เสก จะต้องถึงพร้อมด้วยตบะ เดชะ อำนาจบารมี อย่างเอกอุ รวมถึงวิธีการอันยุ่งยากซับซ้อน ต้องหาฤกษ์ผานาที ไม้มงคล เครื่องสังเวย บายศรีชุดใหญ่ ตั้งราชวัตรฉัตรธงกลางแจ้ง เพื่อเป็นการบวงสรวงบอกกล่าว อัญเชิญบารมีครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพ พรหม ยม ยักษ์ ทั่วทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ๑๔ ชั้นบาดาล ทั่วทุกท้องพระโรง หลังจากนั้นต้องมาทำพิธีปลุกเสก ประจุพุทธาคมอีก ๕ เสาร์ ๕ อังคาร เสกจนนิมิตรเห็นครูบาอาจารย์มาสถิตอยู่ที่ "ไม้ครู"

....


คาถาบูชา นะโม ๓ จบ ตินะระโส ตินะระสัง ตินะระสา ปิยังมะมะ ๙ จบ

 

ผมเองก็ชอบพระพิมพ์นี้เป็นพิเศษครับ

พระพิมพ์เนื้อผงยาวาสนา นั้น เป็นพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นโดยใช้ไม้มงคลและว่านต่างๆ ที่มีสรรคุณทางยา (แต่ผมเองไม่ทราบว่ามีว่านอะไรบ้าง)
โดยปกติก็เหมือนกับพระพิมพ์ของวังหน้า อิทธิคุณขององค์พระเหมือนกัน จะแตกต่างกันที่พระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนานั้น สามารถใช้รักษา
เรื่องโรคภัยไข้เจ็บได้เป็นกรณีพิเศษ เว้นไว้แต่โรคกรรม (เพียงแต่ทุเลาอาการ) หรือโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้เช่น โรคเอดส์ ,โรคมะเร็ง
,โรคหัวใจ ,เบาหวาน โรคในลักษณะนี้ ก็เป็นเพียงทุเลาอาการเท่านั้น แต่โรคอื่นๆ สามารถช่วยรักษาได้ เคยมีผู้ที่ไปหาท่านอาจารย์ประถม
คนนี้เป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาทบริเวณหลัง ท่านอาจารย์ประถม ท่านให้สมเด็จเนื้อผงยาวาสนาไป โดยให้ใช้องค์พระแช่น้ำทำน้ำมนต์ (
และจุดธูปบอกหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร) อาการจากที่เคยเป็นมากๆ ก็คลายลงมากครับ
สรรพคุณของสมเด็จเนื้อผงยาวาสนานั้น ใช้แทนพระพิมพ์เนื้อผงยาจินดามณีของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วได้เลยครับ
หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า และหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ท่านเป็นผู้ที่รอบรู้เรื่องว่าน เรื่องสมุนไพรมาก ในความคิดเห็นส่วนตัวผมนั้น ผมคิดว่า
หลวงพระอุตรเถระเจ้าและหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า คงบอกท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ให้ไปหาว่าน ตามที่หลวงปู่ท่านบอกครับ

Post โดยพี่ sithiphong

 

post นี้น่าจะเป็นของพี่หนุ่มนะครับ ลองเช็คดูอีกครั้ง

 

งั้นขอแก้ไขนะครับ ผม note ไว้แต่ไม่ ref.
ขอบพระคุณครับผม

 

มีพระพิมพ์น้อยชนิดที่หลวงปู่ ๕ องค์จะเสกให้ หนึ่งในนั้น คือพระผงยาวาสนา แต่จะมีซักกี่แสน กี่ล้านองค์กลับไม่ทราบ พี่หนุ่มให้ทำบุญสร้างพระเจดีย์ไปก็มาก ทั้งแจก ทั้งบรรจุกรุไปก็มาก ก็ไม่หมดซักที ลองนำไปแช่น้ำดูก็พบว่าเป็นอย่างนี้ครับ

 

ให้ความรู้สึกเย็น...อัศจรรย์ครับ

 

ร่วมบุญเจดีย์ชัยผาผึ้งครับอาสิทธิพงษ์

 

ผมมี2คำถามครับ คุณพี
1. สนใจจาหาไม้ครูได้ที่ใดครับ
2.แล้ววิธีใช้ ทำไงครับ
ขอบคุณครับ หุ หุ

 

มิกล้าแนะนำหรอกนะครับ หุหุ

 

เอากะพี่ท่านจิ หุหุ


เอาแบบนี้มั้ยน้องให้ฟรีแต่ต้องแขวนทุกวันนะ

 

ขอบคุณครับที่ให้ข้อมูลดีๆ จะอาราธนาทำน้ำมนต์มาดื่ม พอดีได้รับแจกที่ท่านเลขาฯมอบให้ในเวป 1 องค์ซึ่งแขวนติดตัวเกือบทุกวันครับ

 

อืม องค์นี้ท่านได้แต่ใดมา ของวัดไหนท่านสร้างเนี่ย ค่าเลี่ยมคงหลายอยู่นะครับ

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 25 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 22 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, nongnooo+, ปฐม </TD></TR></TBODY></TABLE>

สวัสดีครับท่านรองฯ กะ คุณปฐม สบายดีนะครับ

 

ก๊ากกกกกก สนใจไม้ตะพดม๊ายยยย....