เรื่องเด่น อยากรู้ว่าถ้าศาสนาพุทธเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว ใครเอาโบราณสถานไปสร้างไว้อินเดีย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Deejang, 26 กันยายน 2010.

  1. santacros

    santacros สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +22
    ผมขอเป็นกำลังใจให้คุณเอก อิสโร นะคับ ขอให้อดทนกับอุปสรรคต่างๆ .... การที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมโลก จะอยู่อีกไม่ไกลจากนี้แล้ว ถึงวันนั้นคนจะให้หันหน้าศึกษาพระธรรม คำสอนของพระพุทธองค์อีกมากเลยคับ :)
     
  2. crimsonn

    crimsonn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +455
    อยากรู้ว่าถ้าศาสนาพุทธเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว ใครเอาโบราณสถานไปสร้างไว้อินเดีย<!-- google_ad_section_end -->
    ตอบ คน
     
  3. Aonkub

    Aonkub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +194
    ที่เคยเรียนมาเมืองหลวงของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาลคือแคว้นมคธ แล้วภาษาที่ใช้ก็คือภาษามคธี พอเข้ามาเมืองไทยก็เพี้ยนไปเป็นภาษาบาลี อันนี้ไม่รู้จริงเท็จประการใดนะครับ เคยเรียนมานานแล้ว ผู้รู้ช่วยอธิบายอีกทางด้วยครับ
     
  4. ypexit

    ypexit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +40
    เอ้า ค้นหากันใหญ่

    รู้แล้วก็ แก่ เจ็บ ตาย คือเก่า
     
  5. Aonkub

    Aonkub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +194
    ฮาดีครับ งงด้วย 5555
     
  6. din555

    din555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2010
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +544
    อย่าส่งจิตออกนอก

    จงส่งจิตเข้าในพิจารณา

    อยากรู้เรื่องราวทั้งหมด

    ให้พากันปฏิบัติ อย่าทิ้งการปฏิบัติ

    ยิ่งค้นหายิ่งไม่เจอออออออออออออออ

    ขอบอกไว้ก่อน

    โอปนยิโก แล้วจะเจอ

    ท่านเอกยิ่งหา ยิ่งไม่เจอ

    โอปนยิโก แล้วจะเจอ

    ยิ่งหายิ่งห่างไกล ออกไป

    โอปนยิโก แล้วจะเห็นแจ้ง

    แล้วจะรู้ว่ากฏไตรลักษณ์เป็นอย่างไร

    เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วเห็นความจริง

    ท่านอาจจะไม่อยากพูดเรื่องแบบนี้ก็เป็นได้

    อยากอยู่อย่างสงบไม่ฟุ้งซ๋าน

    ซำบายดี
     
  7. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +3,290
    คื้อ..กั๋น..

    อยากรู้ว่าถ้าศาสนาพุทธเกิดขึ้นในอินเดียแล้ว ใครเอาโบราณสถาน(วัด วา อาราม)ไปสร้างไว้ในย่านประเทศไทย
     
  8. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    มีคำกล่าวที่ว่าเกิดที่นี่ได้ดีที่อื่น ไม่รู้ว่าเคยได้ยินหรือเปล่า
    พระพุทธเจ้าเกิดที่เนปาลประกาศศาสนาที่อินเดีย แต่พุทธศาสนาไม่อาจจะอยู่ได้ทั้ง 2 ประเทศ
    พระเยซูเกิดที่ปาเลสไตน์ ประกาศศาสนาที่ดินแดนของชาวยิว(อิสราเอล) แต่คริสต์ศาสนาไม่อาจจะอยู่ได้ทั้ง 2 ประเทศ

    หากพุทธศาสนาเกิดที่ประเทศไทยจริง หลักฐานที่เนินเขาเจ้าชายสิ้นชีพที่เชื่อกันว่าเป็นที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า ภายในอุโมงค์ยังคงพบเศษเถ้าถ่าน จากการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ก็เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าเศษเถ้าถ่านมีอายุอยู่ในช่วงที่พระพุทธเจ้าเข้านิพพาน

    (บางส่วนจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
    บันทึกของพระถังซำจั๋ง (Hiuen-Tsang) ​ซึ่งได้จาริกมาเมืองกุสินาราราวปี พ.ศ. 1300 ได้พรรณาไว้ในจดหมายเหตุของท่านว่า

    [​IMG]

    จุนทสถูป บนที่ตั้งของบ้านนายจุนทะ อันเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าเสวยพระกระยาหารมื้อสุดท้ายก่อนปรินิพพาน


    "...เมืองกุสินาราเต็มไปด้วยป้อมปราการ หอสูง และสังฆาราม อยู่ห่างจากเมืองเวสาลี 19 โยชน์ กุสินาราเป็นเมืองหลวงของมัลละกษัตริย์ อยู่ในสภาพปรักหักพัง มองเห็นตัวเมืองและหมู่บ้านเป็นสถานที่รกร้าง หาคนอยู่อาศัยมิได้ กำแพงเมืองเก่าที่ก่อไว้โดยอิฐ มองดูโดยรอบยาวประมาณ 1 ลี้ มีคนอาศัยอยู่ในกำแพงเมืองเก่าเพียงเล็กน้อย ตามถนนสายเล็ก ๆ ของเมืองเป็นที่ร้าง... ประตูทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง มีสถูปแห่งหนึ่งเหลือแต่ซาก มีหลักฐานว่าผู้สร้างคือพระเจ้าอโศกมหาราช สถานที่แห่งนี้เป็นซากบ้านของนายจุนทะบุตรของนายช่างทอง (จุนทะกัมมารบุตร) คนที่ได้ถวายภัตตาหารครั้งสุดท้ายแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กลางหมู่บ้าน มีบ่อแห่งหนึ่ง เป็นบ่อที่ขุดฝังอาหารที่เหลือจากเศษเสวยของพระพุทธองค์ และพระพุทธองค์รับสั่งให้ฝังเสีย ไม่ทรงยอมให้ภิกษุอื่นบริโภค น้ำในบ่อนั้นล่วงเลยมานานเพียงใดก็ดี ก็ยังมีน้ำสะอาดใสอยู่เสมอ... ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมือง ห่างไป 3-4 ลี้ เราข้ามแม่น้ำอชิตวดีไปทางตะวันตกของแม่น้ำนั้น ไม่ไกลนักเป็นสาลวโนทยาน มีไม้สาละขึ้นเป็นหมู่ใหญ่ ลักษณะของไม้เป็นเปลือกสีขาว ส่วนใบสะอาดเป็นเงาไม่มีขรุขระ ในป่าไม้สาละนั้น มีสาละใหญ่อยู่ 4 ต้น ที่มีลักษณะใหญ่กว่าไม้อื่น ๆ ... ในสาลวโนทยาน มีสถูปแห่งหนึ่งเหลือแต่ซาก มีหลักฐานว่าสร้างโดยพระเจ้าอโศก ทางตะวันออกเฉียงเหนือมีแม่น้ำหิรัญญวดี (ในบันทึกบอกว่าอชิตวดี) มีน้ำเปี่มอยู่ มีไม้สาละขึ้นอยู่เต็มทั้งป่า วิหารใหญ่ก่ออิฐถือปูน มีพระพุทธรูปไสยาสน์ปางปรินิพพานหันเศียรไปทางทิศเหนือ มีลักษณะเหมือนบรรทมหลับ ข้าง ๆ มีสถูปใหญ่ มีจารึกว่าพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นผู้สร้าง แม้จะทรุดโทรม แต่ก็ยังเหลือความสูงถึง 200 ฟุต ข้างสถูปมีศิลาจารึกว่า ที่นี่ เป็นที่เสด็จดับขันธปรินิพพานของพระตถาคต... ทางทิศเหนือของเมืองกุสินารา (ในมหาปรินิพพานสูตรว่าทางทิศตะวันออก) เราเดินข้ามแม่น้ำสายหนึ่ง เดินไปประมาณ 300 ก้าว ได้พบพระสถูปองค์หนึ่ง สถานที่นี้เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ พื้นดินตรงที่ถวายพระเพลิง บางแห่งเป็นสีเหลืองปนดำ บางแห่งร่วนเหมือนกับถ่านไฟ ใครก็ตามเมื่อจาริกแสวงบุญ มาถึงสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแห่งนี้ ถ้าตั้งจิตให้เป็นสมาธิ สาธยายมนต์ บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้านั้นก็จะเสด็จมาสู่ตน..."
    จนในพุทธศตวรรษที่ 14-15 ราชวงศ์สกลจุรีได้เข้ามาสร้างวัดขึ้นในบริเวณสาลวโนทยานจำนวนมาก จนพระพุทธศาสนาได้หมดจากอินเดียไปใน พ.ศ. 1743 ทำให้สถานะของพระพุทธศาสนาในกุสินาราถูกปล่อยทิ้งร้างและกลายเป็นป่ารกทึบ จนใน พ.ศ. 2433 ภิกษุมหาวีระ สวามี และท่านเทวจันทรมณี ชาวศรีลังกา เดินทางมายังกุสินาราและเริ่มอุทิศตัวในการฟื้นฟูพุทธสถานแห่งนี้ร่วมกับเน ซารี ชาวพุทธพม่า จนได้สร้างวัดขึ้นใหม่ชื่อว่า "มหาปรินิวานะ ธรรมะศาลา"

    [​IMG]

    สถานที่ประดิษฐานพระพุทธสรีระพระพุทธเจ้าเป็นเวลา 7 วันก่อนอัญเชิญไปถวายพระเพลิงพระบรมศพ


    ในปี พ.ศ. 2397 นายวิลสัน นักโบราณคดีอังกฤษ ได้ทำการพิสูจน์ขั้นต้นว่าหมู่บ้านกาเซียคือกุสินารา จนในปี พ.ศ. 2404-2420 เซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม ได้เริ่มทำการขุดค้นเนินดินในสาลวโนทยาน จนในปี พ.ศ. 2418-2420 นายคาร์ลลีเล่ หนึ่งในผู้ช่วยในทีมขุดค้นของท่านเซอร์ อเล็กซานเดอร์ ได้ทำการขุดค้นต่อจนได้พบพระพุทธรูปปางปรินิพพาน วิหารปรินิพพาน และสถูปจำนวนมากที่ผู้ศรัทธาได้สร้างไว้ในอดีตเมื่อครั้งพระพุทธศาสนายัง รุ่งเรือง โดยนายคาร์ลลีเล่ เป็นท่านแรกที่เอาใจใส่ในงานบูรณะและรักษาคุ้มครองพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ ขุดพบ
    จากนั้น นับแต่ พ.ศ. 2443 เป็นต้นมา กุสินาราได้เริ่มมีผู้อุปถัมภ์ช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์ เข้ามาสร้างวัดและสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้จาริกแสวงบุญที่เริ่มเข้ามา สักการะมหาสังเวชนียสถานแห่งนี้จนในปี พ.ศ. 2498 รัฐบาลอินเดียได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพัฒนาปูชนัยสถานแห่งนี้เพื่อเตรียม เฉลิมฉลอง 25 พุทธชยันตี โดยได้รื้อโครงสร้างวิหารปรินิพพานเก่า (ที่ได้รับการบูรณะสร้างใหม่) ออกเพื่อสร้างมหาปรินิพพานวิหารใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างและสามารถรองรับพุทธศานิกชนได้ ในปี พ.ศ. 2499 จนในปี พ.ศ. 2507 วิหารได้พังลงมา ทางการอินเดียจึงบูรณะสร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2518 และทางการอินเดียและพุทธศาสนิกชนก็ได้มีส่วนร่วมในการบูรณะกุสินาราจนมีสภาพสวยงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

    [​IMG]

    มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2010
  9. bosssky

    bosssky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +679
    คำสอนของพระพุทธเจ้าสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวท่านเอง อะไรที่ท่านรู้เห็นบางอย่างยากจะอธิบายให้คนที่ไม่เห็นได้ทราบ มีหลักฐานอย่างหนึ่งที่หลวงพ่อฤาษีฯเคยกล่าวไว้ในหนังสือว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทยไม่ใช่แขก แต่จำไม่ได้ท่านพูดไว้ในหนังสือเล่มไหน....อตีตังสญาณฝึกให้ได้ใช้ให้คล่องแล้วท่านจะรู้เองเห็นเอง
    ....ผมก็อยากรู้ความเป็นจริงเหมือนกันครับ
     
  10. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    เอาไว้ให้คนอินเดีย เขาบอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทยเมื่อไหร่
    แล้วจะหันมาสนใจ..

    แต่ถ้าใครอยากรู้ว่าทำไมพระพุทธเจ้าต้องประสูติที่เนปาล
    ดูเหมือนท่านเสถียรโพธินันทะเคยพูดถึง
    แต่จำไม่ได้ว่าพูดอย่างไร ..

    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99

    6
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2010
  11. มีบ้านแต่ไร้กุญแจ

    มีบ้านแต่ไร้กุญแจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +59
    ประชดประชันเกินไปหรือเปล่าครับ กึ่งลบหลู่นะครับ
     
  12. darkkiller66

    darkkiller66 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +6
    โบราณสถานที่คุณหมายถึงโบราณสถานอะไรครับ ถ้าเกี่ยวกับพุทธศาสนาน่าจะอยู่ที่ประเทศไทยครับ ถ้าคุณหมายถึงโบราณสถานทั่วๆไปก็มีกันทุกชาติครับ
    โดยเฉพาะที่อินเดียเป็นโบราณสถานที่ได้รับอิทธิพลฮินดูแท้ๆ แบบเทวนิยมครับ แล้วถ้าจะถามว่าแล้วของไทยหายไปไหนหมด เอางี้ดีกว่าเราเทียบกันง่ายๆ แบบ basic เลยละกันนะ คุณเห็นวังเก่าที่เมืองเก่าสุโขทัยหรือเปล่าครับ
    ปัจจุบันเหลือแต่เสา หรือไม่ก็ดูที่อยุธยาก็ไอ้เห็นแต่เสาเหมือนกันครับ แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น พวกคุณก็คงทราบ ๆ กันดีจากประวัติศาสตร์นะครับ นี่แค่ 400 ปี เองนะ แล้ว สองพันกว่าปีพวกคุณก็ลองไปอนุมานกันเองละกัน อ้อ! แม้แต่
    ชาติไทยเราเนี่ย เพิ่งจะมาเปลี่ยนชื่อเมื่อ60กว่าปีมานี้เอง อะไรมันก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัยหล่ะครับ
     
  13. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    ธมเตโช<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3845783", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    ประชดประชันเกินไปหรือเปล่าครับ กึ่งลบหลู่นะครับ<!-- google_ad_section_end -->

    เป็นคำถาม หรือ เป็นคำตัดสิน
    หรือว่าต้องแยกออกจากกันก่อนจะได้ชัดขึ้น

    ประชดประชันเกินไปหรือเปล่าครับ
    ประโยคนี้ คงเป็นคำถาม...
    ตอบว่า ไม่เกินไป ไม่ได้ประชด เพราะไม่รู้จะประชดให้ได้อารมณ์สร้างสรรค์หรือสะใจอะไรขึ้นมา

    แค่ลองสร้างอีกประเด็นให้ดูไง ว่าจะรู้สึกกันยังไงบ้าง

    เห็นพล่ามเรื่อง "โคตมะสิทธัตถะ" เป็นคนที่นั่นที่นี่ ทำเรื่องเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่โน่นที่นี่บนแผ่นดิน "สยาม" สารพัด
    ช่วงหลังพิสูจน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ ก็เริ่มเสียดสี "คันนิ่งแฮม" เสียดสีคนที่เห็นพ้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่"คันนิ่งแฮม" ได้ค้นพบและบันทึกไว้

    เราก็ลองเพ้อเจ้อให้ดูบ้างไง...


    กึ่งลบหลู่นะครับ<!-- google_ad_section_end -->
    ประโยคนี้คงเป็นคำตัดสิน...

    อืมมม์ นานาจิตตัง... ก็แล้วแต่สติปัญญาของแต่ละคนว่าจะมองและเข้าใจสาระได้มากน้อยแค่ไหนน่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2010
  14. chaiwat13

    chaiwat13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +638
    ประวัติศาสตร์บันทึกเรื่องราวในอดีตไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรื่องจริงเสมอไปไม่ไช่เหรอครับ เพราะเราเกิดไม่ทัน ก็ฟังจากเขามาทั้งนั้น เรามาสนใจในสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนไม่ดีกว่าเหรอครับ
     
  15. hearsay

    hearsay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +186











    ขอแสดงความเห็นนะครับ
    เนื่องจากกระผมก็ได้อ่านประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาพอสมควรจึงคิดว่าสาเหตุที่หลักฐานต่างไม่ตรงกันอาจจะเกิดจากการทำลายของคนนอกศาสนารวมไปถึงการทำลายล้างตามคำสั่งของกษัตริย์นอกพระพุทธศาสนานะครับ

    ขออนุญาตเริ่มเลยนะครับ

    จากหน้าประวัติพระพุทธศาสนาต้องเจอการทำลายล้างของพระเจ้าปุษยมิตรโดย ได้มรการออกกฎหมายว่า จะให้รางวัล 100 ดินาร์ แก่ผู้ตัดศีรษะ พระภิกษุรูปหนึ่งมาให้ จนทำให้พระภิกษุ กลัวภัย

    ต่อมาก็เป็นการทำลายล้างของพระเจ้ามิหิรกุลซึ่งเป็นกษัตริย์พวกหูณะ ด้วยความที่เป็นคนมีมิจฉาทิฐิ จึงได้ทำลายล้าง พระพุทธศาสนาทุกรูปแบบ สั่งให้รื้อสถูป และทำลาย สังฆารามสั่งให้ฆ่าชาวพุทธ ในแคว้นนั้นเสีย เป็นจำนวนมาก ที่ร้ายแรงคือปลงพระชนม์สมเด็จ พระสังฆราชองค์ที่ 23 คือท่านสถวีรสิงหะ
    ในคัมภีร์ราชตรังคิณี กล่าวว่า “พระเจ้ามิหิรกุล ทรงฆ่ามนุษย์ถึง 3 โกฏ ไม่มีความปรานี แม้แต่คนของพระองค์เอง. และแล้วในที่สุด ก็ได้ปลงพระชนม์ชีพ ของพระองค์เอง โดยการกระโดด เข้าในกองไฟ”
    และจากบันทึกของพระถังซัมจั๋ง พระเจ้าศศางกะ เป็นกษัตริย์แห่ง เกาทะ ซึ่งจดหมายเหตุ ของพระถังซัมจั๋งบันทึกว่า
    “พระเจ้าศศางกะ ได้กำจัดพระภิกษุสงฆ์ ในอาณาบริเวณ เมืองกุสินารา อันเป็นผลให้ สังฆมณฑล ในกุสินารา ได้ถูกทำลายจนหมดสิ้น”
    แล้วยังได้ โยนรอยพระพุทธบาท ซึ่งทำด้วยศิลา ที่เมืองปาฏลีบุตร ลงทิ้งในแม่น้ำคงคา.
    นอกจากนั้น ยังได้โค่นต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธคยา จนเหลือแต่ราก แล้วเอาไฟสุม โดยหวังทำลายล้าง ให้สิ้นซาก.
    จากนั้นจึงทำลาย พระพุทธรูปทิ้ง แล้วเอาศิวลึงค์ เข้าไปตั้งไว้ในวิหารแทน ทำความปวดร้าว ให้กับชาวพุทธ ผู้เดินทางไปแสวงบุญ เป็นอย่างยิ่ง ต่อมา ศศางกะก็ได้กระอักเลือดตาย
    และปลายพุทธศตวรรษที่ 12 พวกนอกศาสนาได้ยกทัพโจมตีแคว้นสินธุ และแคว้นมลตาน ตั้งราชวงศ์มุสลิมขึ้น.

    ในขณะนั้นได้มีมหาวิทยาลัย พระพุทธศาสนา ในมคธ และเบงกอล หลายแห่ง คือ นาลันทา วิกรมศิลา โสมบุรี และอุทันตบุรี.
    ครั้นต่อมาเมื่อพวกนอกศาสนาเข้ารุกรานจนได้ยึดครองอินเดียแล้ว ก็จะพยายามทำลายล้างศาสนาอื่นๆ จนย่อยยับ ดังกรณีของการบุกเข้าทำลายมหาวิทยาลัยนาลันทาที่ใหญ่ที่สุด เก่าแก่ที่สุด มีชื่อเสียงมากที่สุด รวมไปถึงการได้ฆ่าฟันทำลาย ชีวิตพระภิกษุสงฆ์ ในมหาวิทยาลัยไปเป็นจำนวนมากพร้อมได้เผาตำราทั้งหมดทิ้ง ส่วนพระสงฆ์ ที่รอดตาย ได้หนีเข้าในเนปาล และธิเบต หลังจากนั้นได้ปล้นสดมภ์ ขนเอาทรัพย์ อันสมบัติอันมหาศาล ของชาวพุทธไป นอกจากนี้ยังได้ยกทัพทำลายมหาวิทยาลัย วิกรมศิลา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่ง แม่น้ำคงคา เป็นที่รวมของวัด 108 วัด
    ตลอดระยะเวลา อันยาวนานกว่าหลายศตวรรษ ที่พระพุทธศาสนา ที่อยู่ในบริเวณนี้ ถูกพวกมุสลิม ทำลายลงจนสิ้น ซึ่งในบริเวณนี้ มีวัดวาอาราม ในพระพุทธศาสนา เป็นเรือนหมื่น ได้ถูกเผาผลาญ อย่างย่อยยับ แล้วท่านคิดว่าหลักฐานต่างๆจะคงเหลืออยู่อย่างครบถ้วนไหมครับ เอาง่ายๆ นะครับ แค่ประวัติอโยธยาของสยามประเทศยังไม่สามารถระบุตำแหน่งเจดีย์ยุทธหัตถีได้อย่างแน่ชัดเลย รวมไปถึงวันสวรรคตของพระนเรศวรผู้เป็นที่รักของทวยเทพได้
    ส่วนเรื่องอื่นผมไม่มีความเห็นนะครับ เอาเฉพาะเรื่องสิ่งก่อสร้างเท่านั้น

    ขออภัยหากพิมพ์ผิดในบางข้อความ
     
  16. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    ผมว่าเอาเวลามาปฏิบัติธรรมดีกว่าไหม พิสูจน์ไปเลยว่าพระพุทธเจ้าท่านพูดจริง ธรรมเป็นของจริง และพระพุทธเจ้ามีจริง พุทธะ อยู่ในจิตของเรานี่เอง
     
  17. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เป็นความรู้ที่น่าสนใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

    ผู้ที่เกี่ยวข้องคงหูผึ่งทันที

    แต่ผู้ที่ไม่เกี่ยวเนื่องอะไรใดๆ ก็จะไม่เข้าใจและไม่สนใจ.....
     
  18. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    สมมุติว่าจุดกำเนิดอยู่ที่ประเทศไทยจริง

    ก็แสดงว่าที่อื่นๆ อาจจะจริงปนไม่จริง น่าสนๆๆ อุอุ
     
  19. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ผู้ที่สัมผัสถึงกระแสพลังงานได้แล้ว

    ลองไป ณ สถานที่นั้น แล้วลองสังเกตกระแสพลังงานดูนะ


    สถานที่ที่คุณเอกอิสโรได้ว่าไว้ แล้วลองสอบถามกับครูบาอาจารย์ดูอีกทีว่าใช่หรือไม่
    พลังงานบริสุทธิ์ของพระพุทธองค์นั้นไม่หายไปไหน
    คนที่ปฏิบัติได้ จะทราบดี....
     
  20. dewvader

    dewvader Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +88
    เห้อ แล้วแต่ความสนใจที่จะเลือกทำในด้านไหน ความคิดใครความคิดมัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...